ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

รับใช้สิ้นสุดจิตวิญญาณถึงแม้เผชิญความยากลำบาก

รับใช้สิ้นสุดจิตวิญญาณถึงแม้เผชิญความยากลำบาก

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

รับใช้​สิ้น​สุด​จิตวิญญาณ​ถึง​แม้​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำบาก

เล่า​โดย​โรดอล์ฟโฟ โลซาโน

ผม​เกิด​วัน​ที่ 17 กันยายน 1917 ที่​เมือง​โกเมซ ปาลาซิโอ รัฐ​ดูรังโก ประเทศ​เม็กซิโก. การ​ปฏิวัติ​เม็กซิโก​เป็น​ไป​อย่าง​ดุเดือด. แม้​ว่า​การ​ปฏิวัติ​ได้​ยุติ​ลง​ใน​ปี 1920 แต่​ความ​โกลาหล​วุ่นวาย​ใน​พื้น​ที่​ที่​เรา​อยู่​ยัง​คง​มี​ต่อ​เนื่อง​นาน​หลาย​ปี​หลัง​จาก​นั้น อัน​เป็น​เหตุ​ให้​ชีวิต​เดือดร้อน​ลำเค็ญ​มาก.

ครั้ง​หนึ่ง เมื่อ​แม่​รู้​ข่าว​ว่า​จะ​เกิด​การ​ปะทะ​กัน​ระหว่าง​กอง​กำลัง​ฝ่าย​กบฏ​กับ​กอง​ทหาร แม่​กัก​พวก​เรา​ไว้​ใน​บ้าน​หลาย​วัน ซึ่ง​ก็​มี​ผม​กับ​พี่​ชาย​สาม​คน, พี่​สาว​และ​น้อง​สาว. เรา​ไม่​ค่อย​จะ​มี​อาหาร​กิน และ​จำ​ได้​ว่า​ผม​กับ​น้อง​สาว​ซ่อน​ตัว​เงียบ​อยู่​ใต้​เตียง. หลัง​จาก​นั้น แม่​ก็​ตัดสิน​ใจ​พา​พวก​เรา​ลูก ๆ ไป​ประเทศ​สหรัฐ และ​ที​หลัง​พ่อ​ตาม​ไป​สมทบ​กับ​พวก​เรา.

พวก​เรา​ไป​ถึง​แคลิฟอร์เนีย​ใน​ปี 1926 ไม่​นาน​ก่อน​ภาวะ​เศรษฐกิจ​ของ​สหรัฐ​ตก​ต่ำ​ครั้ง​ร้ายแรง. พวก​เรา​ย้าย​ไป​ทั่ว​เพื่อ​จะ​ได้​งาน​ทำ เช่น ไป​ที่​ซานคัวกิน วัลเลย์, ซานตา คลารา, ซาลีนัส, และ​คิงซิตี. เรา​เรียน​รู้​การ​ทำ​งาน​ใน​ทุ่ง​นา​และ​การ​เก็บ​พืช​ผัก​ผลไม้​ทุก​อย่าง. แม้​ว่า​ผม​ต้อง​ทำ​งาน​หนัก​ใน​วัย​หนุ่ม ทว่า มัน​เป็น​ช่วง​ที่​สนุก​เพลิดเพลิน​มาก​ใน​ชีวิต​ของ​ผม.

พบ​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล

เดือน​มีนาคม​ปี 1928 คน​หนึ่ง​จาก​กลุ่ม​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ อัน​เป็น​ชื่อ​เรียก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สมัย​นั้น​ได้​แวะ​เยี่ยม​พวก​เรา. เขา​ชื่อ​เอสเตบาน ริเวรา มี​อายุ​แล้ว​และ​พูด​ภาษา​สเปน. หนังสือ​ชื่อ “คน​ตาย​อยู่​ที่​ไหน?” ซึ่ง​เขา​ให้​เรา​ไว้​อ่าน​นั้น​ดึงดูด​ใจ​ผม​มาก รวม​ทั้ง​เนื้อหา​ใน​หนังสือ​นั้น​ด้วย. แม้​ว่า​ผม​เป็น​เด็ก​หนุ่ม แต่​ก็​มุ่ง​มั่น​จะ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​คบหา​กับ​กลุ่ม​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. ต่อ​มา ทั้ง​แม่​และ​อะโรรา​น้อง​สาว​ของ​ผม​ได้​มา​เป็น​ผู้​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​เช่น​กัน.

ใน​ช่วง​กลาง​ทศวรรษ​ปี 1930 มี​การ​สร้าง​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ใน​เมือง​ซานโฮเซ​สำหรับ​ประชาคม​ที่​ใช้​ภาษา​อังกฤษ. เนื่อง​จาก​มี​ชาว​ลาติน​อเมริกัน​เป็น​จำนวน​มาก​รับจ้าง​ทำ​งาน​ที่​ฟาร์ม​ใน​เขต​นั้น พวก​เรา​จึง​เริ่ม​ออก​ไป​เผยแพร่​แก่​พวก​เขา​และ​จัด​ให้​มี​การ​ศึกษา​หอสังเกตการณ์. เรา​ทำ​เช่น​นี้​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​บรรดา​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เชื้อ​สาย​ลาติน​อเมริกัน​จาก​ซานฟรานซิสโก ซึ่ง​อยู่​ไกล​ออก​ไป​ประมาณ 80 กิโลเมตร. ต่อ​มา มี​ราว ๆ 60 คน​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ภาษา​สเปน ณ หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​แห่ง​นี้​ใน​เมือง​ซานโฮเซ.

ใน​ที่​สุด เมื่อ​วัน​ที่ 28 กุมภาพันธ์ 1940 ผม​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​โดย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ ณ การ​ประชุม​ใหญ่​ใน​เมือง​ซานโฮเซ. ปี​ถัด​มา ผม​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ไพโอเนียร์ ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ครั้น​แล้ว ใน​เดือน​เมษายน 1943 ผม​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ย้าย​ไป​ที่​เมือง​สตอกตัน ห่าง​ออก​ไป​ประมาณ 130 กิโลเมตร​เพื่อ​จัด​ตั้ง​ประชาคม​ภาษา​สเปน. ระหว่าง​นั้น ผม​ยัง​คง​ทำ​งาน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​ผู้​เป็น​ประธาน​ใน​ประชาคม​ที่​ใช้​ภาษา​อังกฤษ​ใน​เมือง​ซานโฮเซ และ​ดู​แล​พยาน​ฯ ที่​พูด​ภาษา​สเปน​ใน​ประชาคม​นั้น​ด้วย. หลัง​จาก​มอบหมาย​คน​อื่น​ให้​ดู​แล​รับผิดชอบ​งาน​เหล่า​นี้​แล้ว ผม​ก็​ได้​ย้าย​ไป​สตอกตัน.

ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ถูก​ทดสอบ

เริ่ม​ต้น​ใน​ปี 1940 ผม​ถูก​หมาย​เรียก​หลาย​ครั้ง​ให้​ไป​รายงาน​ตัว​ที่​กอง​เกณฑ์​ทหาร แต่​ทุก​ครั้ง​พวก​เขา​ให้​ความ​นับถือ​จุด​ยืน​ของ​ผม​ใน​ฐานะ​ผู้​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร​เนื่อง​ด้วย​มโนธรรม. ไม่​นาน​หลัง​จาก​ประเทศ​สหรัฐ​เข้า​ร่วม​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​ใน​เดือน​ธันวาคม 1941 ความ​กดดัน​จาก​กอง​เกณฑ์​ทหาร​ยิ่ง​รุนแรง​มาก​ขึ้น. ใน​ที่​สุด ปี 1944 เขา​ส่ง​ผม​เข้า​คุก. ระหว่าง​รอ​การ​ตัดสิน เขา​ขัง​ผม​ใน​ห้อง​ใต้​ดิน​รวม​กับ​พวก​อาชญากร. เมื่อ​รู้​ว่า​ผม​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา หลาย​คน​ใน​กลุ่ม​นั้น​ถาม​ผม​ว่า​การ​ที่​พวก​เขา​เคย​ได้​ประกอบ​อาชญากรรม​นั้น​จะ​ส่ง​ผล​กระทบ​อย่าง​ไร​บ้าง​ต่อ​ฐานะ​ของ​เขา​จำเพาะ​พระเจ้า.

เพื่อน​พยาน​ฯ ใน​เมือง​ซานโฮเซ​ได้​จ่าย​ค่า​ประกัน​ตัว​ให้​ผม เพื่อ​ผม​จะ​ถูก​ปล่อย​ตัว​ระหว่าง​ที่​ยัง​ไม่​ตัดสิน​คดี. ทนาย​คน​หนึ่ง​ใน​ลอสแอนเจลิส​ซึ่ง​เป็น​ทนาย​ฝ่าย​จำเลย​ใน​คดี​เกี่ยว​ด้วย​สิทธิ​ของ​พลเมือง ยอม​ว่า​ความ​ให้​ผม​โดย​ไม่​เรียก​ค่า​ป่วยการ. ผู้​พิพากษา​ตัดสิน​ปล่อย​ตัว​ผม​โดย​มี​เงื่อนไข​ว่า​ผม​ต้อง​เลิก​งาน​ไพโอเนียร์, ประกอบ​อาชีพ, และ​รายงาน​ตัว​ต่อ​เจ้าหน้าที่​ของ​รัฐบาล​กลาง​ทุก​เดือน. ผม​ไม่​ยอม​รับ​ตาม​การ​ตัดสิน​นั้น ผล​คือ​ผม​ถูก​ตัดสิน​ลง​โทษ​จำ​คุก​สอง​ปี​ใน​เรือน​จำ​แมกนีล ไอ​แลนด์ รัฐ​วอชิงตัน. ที่​นั่น​ผม​ใช้​เวลา​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อย่าง​เอา​จริง​เอา​จัง. นอก​จาก​นั้น ผม​ฝึก​เรียน​พิมพ์ดีด​ด้วย. ไม่​ถึง​สอง​ปี ผม​ก็​ถูก​ปล่อย​ตัว​เป็น​อิสระ​เพราะ​มี​ความ​ประพฤติ​ดี. ผม​เตรียม​การ​ต่าง ๆ ทันที​เพื่อ​ทำ​งาน​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ต่อ​ไป.

กิจกรรม​ที่​ขยาย​ออก​ไป

ฤดู​หนาว​ปี 1947 ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​เพื่อน​ไพโอเนียร์​คน​หนึ่ง​ใน​เขต​โคโลราโด​ซิตี รัฐ​เทกซัส​ที่​มี​ผู้​คน​พูด​ภาษา​สเปน. แต่​หน้า​หนาว​ปี​นั้น​หนาว​เหลือ​เกิน​จน​เรา​ต้อง​ย้าย​ไป​เมือง​ซานแอนโตนิโอ​ซึ่ง​มี​อากาศ​อุ่น​กว่า. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ที่​นั่น​ฝน​ตก​ชุก งาน​ประกาศ​ของ​เรา​ขณะ​ไป​ตาม​บ้าน​เรือน​จึง​ไม่​สู้​จะ​ราบรื่น​นัก. ใน​ไม่​ช้า​เงิน​ที่​เรา​มี​อยู่​ก็​ใช้​หมด​ไป. เรา​ประทัง​ชีวิต​อยู่​หลาย​สัปดาห์​ด้วย​แซนด์วิช​กะหล่ำปลี​สด​และ​ดื่ม​น้ำ​ชา​ที่​ทำ​จาก​หญ้า​แอลแฟลฟา. เพื่อน​ร่วม​งาน​ของ​ผม​กลับ​บ้าน แต่​ผม​อยู่​ต่อ. เมื่อ​เพื่อน​พยาน​ฯ ที่​พูด​ภาษา​อังกฤษ​ทราบ​ถึง​ความ​จำเป็น​ของ​ผม​ด้าน​วัตถุ พวก​เขา​ก็​เริ่ม​ให้​การ​สงเคราะห์​ผม.

ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี​ถัด​มา ผม​กลับ​ไป​เขต​งาน​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​ที่​โคโลราโด​ซิตี​อีก และ​ใน​ที่​สุด​ก็​มี​การ​จัด​ตั้ง​ประชาคม​เล็ก ๆ ที่​ใช้​ภาษา​สเปน. ต่อ​จาก​นั้น ผม​ย้าย​ไป​ยัง​เมือง​สวีตวอเตอร์ รัฐ​เทกซัส และ​ก็​ได้​ช่วย​จัด​ตั้ง​ประชาคม​ภาษา​สเปน​ขึ้น​อีก​แห่ง​หนึ่ง. ระหว่าง​ที่​อยู่​เมือง​สวีตวอเตอร์ ผม​ได้​รับ​จดหมาย​เชิญ​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด รุ่น​ที่ 15 เพื่อ​รับ​การ​ฝึก​อบรม​เป็น​มิชชันนารี​ซึ่ง​เปิด​เรียน​วัน​ที่ 22 กุมภาพันธ์ 1950. หลัง​จาก​รับ​ประกาศนียบัตร​ใน​ฤดู​ร้อน​ปี​นั้น ณ การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ที่​สนาม​กีฬา​แยงกี​ใน​นคร​นิวยอร์ก ผม​ยัง​คง​อยู่​ต่อ​อีก​สาม​เดือน​ที่​สำนักงาน​กลาง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน. ที่​นั่น​ผม​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​เพื่อ​ไป​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​มอบหมาย ณ สำนักงาน​สาขา​ประเทศ​เม็กซิโก.

งาน​ใน​เม็กซิโก

ผม​มา​ถึง​เม็กซิโก​ซิตี​วัน​ที่ 20 ตุลาคม 1950. ประมาณ​สอง​สัปดาห์​ต่อ​จาก​นั้น ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​สาขา ผม​ทำ​หน้า​ที่​มอบหมาย​นี้​นาน​สี่​ปี​ครึ่ง. ปรากฏ​ว่า​ประสบการณ์​ที่​ผม​ได้​จาก​งาน​รับใช้​ประเภท​ไพโอเนียร์, จาก​เรือน​จำ, จาก​กิเลียด, และ​ที่​บรุกลิน​ให้​คุณประโยชน์​มาก​จริง ๆ. ตอน​มา​ถึง​ประเทศ​เม็กซิโก ผม​เห็น​ใน​ทันที​ว่า​จำ​ต้อง​เสริม​สร้าง​สภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​พี่​น้อง​ชาว​เม็กซิกัน​ทั้ง​ชาย​และ​หญิง. โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จำเป็น​ก็​คือ​ต้อง​ช่วย​พวก​เขา​ให้​ยึด​อยู่​กับ​มาตรฐาน​ทาง​ศีลธรรม​อัน​สูง​ส่ง​แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า.

ใน​ประเทศ​แถบ​ลาติน​อเมริกา รวม​ทั้ง​เม็กซิโก​ต่าง​ก็​มี​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ที่​ว่า​ชาย​หญิง​อยู่​กิน​ด้วย​กัน​โดย​ไม่​จด​ทะเบียน​สมรส. นิกาย​ต่าง ๆ ใน​คริสต์​ศาสนจักร โดย​เฉพาะ​คริสตจักร​โรมัน​คาทอลิก​ได้​ยอม​ให้​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​เช่น​นี้​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​แพร่​หลาย​อย่าง​กว้างขวาง. (เฮ็บราย 13:4) ด้วย​เหตุ​นี้ บาง​คน​เข้า​มา​เป็น​สมาชิก​ประชาคม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา โดย​ยัง​ไม่​ได้​สมรส​กัน​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. มา​บัด​นี้ บุคคล​ดัง​กล่าว​มี​เวลา​นาน​หก​เดือน​เพื่อ​ดำเนิน​การ​ให้​การ​สมรส​ของ​ตน​ถูก​ต้อง​เรียบร้อย. มิ​ฉะนั้น​พวก​เขา​จะ​ไม่​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ฐานะ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อีก​ต่อ​ไป.

สำหรับ​หลาย​คน การ​จัด​วิถี​ชีวิต​ให้​ถูก​ต้อง​เช่น​นั้น​ทำ​ได้​ง่าย. พวก​เขา​เพียง​แต่​จด​ทะเบียน​สมรส​กัน​เพื่อ​ทำ​ให้​ความ​สัมพันธ์​ที่​ดำเนิน​อยู่​นั้น​เป็น​เรื่อง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. ส่วน​อีก​หลาย​คน​ตก​อยู่​ใน​สภาพการณ์​ที่​ซับซ้อน​กว่า. ตัว​อย่าง​เช่น บาง​คน​แต่งงาน​ซ้อน​สอง​ครั้ง หรือ​กระทั่ง​สาม​ครั้ง​ด้วย​ซ้ำ โดย​ไม่​เคย​จัด​การ​เรื่อง​การ​หย่า​ให้​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. ใน​ที่​สุด​เมื่อ​สถานะ​การ​สมรส​แห่ง​ไพร่พล​ของ​พระ​ยะโฮวา​สอดคล้อง​กับ​คำ​สอน​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า ประชาคม​ต่าง ๆ ก็​ได้​รับ​พระ​พร​ฝ่าย​วิญญาณ​อัน​เยี่ยมยอด​นานัปการ.—1 โกรินโธ 6:9-11.

สมัย​นั้น การ​ศึกษา​ทาง​โลก​ใน​ประเทศ​เม็กซิโก​โดย​ทั่ว​ไป​อยู่​ใน​ระดับ​ต่ำ. แม้​ก่อน​ผม​มา​ถึง​เมื่อ​ปี 1950 สำนักงาน​สาขา​ได้​เริ่ม​จัด​ชั้น​เรียน​ฝึก​การ​อ่าน​การ​เขียน​ขึ้น​แล้ว​ใน​ประชาคม. เมื่อ​ผม​มา​ถึง จึง​ได้​จัด​ระเบียบ​ชั้น​เรียน​เสีย​ใหม่​และ​ดำเนิน​การ​จด​ทะเบียน​ชั้น​เรียน​เหล่า​นี้​กับ​รัฐบาล. ตั้ง​แต่​เริ่ม​เก็บ​รวบ​รวม​บันทึก​เมื่อ​ปี 1946 มี​มาก​กว่า 143,000 คน​ตาม​ชั้น​ต่าง ๆ ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอน​ให้​อ่าน​ออก​เขียน​ได้​ใน​เม็กซิโก!

ประเทศ​เม็กซิโก​มี​กฎหมาย​ที่​เข้มงวด​มาก​ด้าน​ศาสนา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​ปี​หลัง ๆ นี้​เกิด​การ​เปลี่ยน​แปลง​สำคัญ ๆ หลาย​อย่าง​ใน​ด้าน​นี้. ปี 1992 มี​กฎหมาย​ใหม่​ออก​มา​เกี่ยว​กับ​กิจกรรม​ทาง​ศาสนา ดัง​นั้น ใน​ปี 1993 พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เม็กซิโก​จึง​ได้​จด​ทะเบียน​เป็น​องค์การ​ทาง​ศาสนา.

สำหรับ​ผม​แล้ว การ​เปลี่ยน​แปลง​เหล่า​นี้​เป็น​ที่​มา​ของ​ความ​ชื่นชม​ยินดี​เหลือ​ล้น แต่​ก่อน​ผม​เคย​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่​มีทาง​เป็น​ไป​ได้. ตลอด​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา ผม​ได้​เยี่ยม​ที่​ทำ​การ​ของ​รัฐ​หลาย​ครั้ง​และ​พบ​เห็น​ท่าที​ที่​ค่อนข้าง​ไม่​ไว้​ใจ​เรา. อย่าง​ไร​ก็​ดี นับ​ว่า​เป็น​การ​ดี​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​มอง​เห็น​ว่า​เรื่อง​เหล่า​นี้​ได้​รับ​การ​จัด​การ​ดู​แล​อย่าง​ไร​โดย​แผนก​กฎหมาย​ของ​สำนักงาน​สาขา​ของ​เรา ดัง​นั้น งาน​เผยแพร่​ของ​เรา​ใน​ปัจจุบัน​จึง​ไม่​ค่อย​ถูก​รบกวน​มาก​นัก.

ร่วม​รับใช้​กับ​คู่​ชีวิต​ที่​เป็น​มิชชันนารี

เมื่อ​ผม​มา​ถึง​ประเทศ​เม็กซิโก มี​หลาย​คน​ที่​จบ​หลัก​สูตร​ของ​กิเลียด​รุ่น​ก่อน ๆ มา​อยู่​ใน​ประเทศ​นี้​แล้ว. หนึ่ง​ใน​จำนวน​นี้​คือ​เอสเทอร์ วาร์แทเนียน เธอ​เป็น​พยาน​ฯ ชาว​อาร์เมเนียน เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​ใน​ปี 1942 ที่​เมือง​วาเยโค รัฐ​แคลิฟอร์เนีย. เรา​แต่งงาน​กัน​วัน​ที่ 30 กรกฎาคม 1955 และ​หลัง​จาก​นั้น เรา​ยัง​คง​อยู่​ใน​เขต​มอบหมาย​ที่​เม็กซิโก. เอสเทอร์​ทำ​งาน​ฐานะ​มิชชันนารี​ใน​เม็กซิโก​ซิตี และ​เรา​พัก​อาศัย​ที่​สำนักงาน​สาขา​ซึ่ง​ผม​ยัง​คง​รับใช้​อยู่​ที่​นั่น.

ใน​ปี 1947 เอสเทอร์​ได้​ไป​ถึง​เมือง​มอนเตร์เรย์ นวยโบ เลออง ประเทศ​เม็กซิโก เขต​งาน​มิชชันนารี​แห่ง​แรก​ที่​เธอ​ได้​รับ​มอบหมาย. ใน​เมือง​มอนเตร์เรย์​มี​พยาน​ฯ 40 คน มี​ประชาคม​เพียง​แห่ง​เดียว​เท่า​นั้น แต่​ตอน​ที่​เธอ​ย้าย​มา​เม็กซิโก​ซิตี​ใน​ปี 1950 มี​สี่​ประชาคม. ณ สำนักงาน​สาขา​ของ​เรา​ใกล้​เม็กซิโก​ซิตี เวลา​นี้​มี​ชาย​หนุ่ม​สอง​คน​ทำ​งาน​ที่​นั่น ซึ่ง​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ครอบครัว​ที่​เอสเทอร์​เคย​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​สมัย​ที่​เธอ​รับใช้​ใน​เมือง​มอนเตร์เรย์.

ย้อน​ไป​ใน​ปี 1950 เขต​งาน​ประกาศ​ของ​พวก​มิชชันนารี​ใน​เม็กซิโก​ซิตี​ครอบ​คลุม​เกือบ​ทั้ง​เมือง. มิชชันนารี​เดิน​ซอกแซก​ไป​ทั่ว​เขต​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย หรือ​ไม่​ก็​นั่ง​เบียด​เสียด​กับ​ผู้​คน​บน​รถ​ประจำ​ทาง​เก่า​บุโรทั่ง. เมื่อ​ผม​มา​ถึง​ตอน​ปลาย​ปี 1950 มี​เจ็ด​ประชาคม. เดี๋ยว​นี้​จำนวน​ประชาคม​เพิ่ม​ขึ้น​เป็น 1,600 ประชาคม​โดย​ประมาณ พร้อม​ด้วย​ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร 90,000 กว่า​คน​ใน​เม็กซิโก​ซิตี และ​เมื่อ​ปี​ที่​แล้ว​มี 250,000 กว่า​คน​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​อนุสรณ์​ระลึก​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์​ใน​เมือง​นั้น! ตลอด​เวลา​หลาย​ปี ผม​กับ​เอสเทอร์​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​รับใช้​ใน​ประชาคม​ต่าง ๆ เหล่า​นี้​หลาย​ประชาคม.

เมื่อ​ผม​กับ​เอสเทอร์​เริ่ม​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ เรา​พยายาม​เสมอ​ที่​จะ​กระตุ้น​ความ​สนใจ​ของ​ผู้​เป็น​บิดา เพื่อ​ว่า​ทั้ง​ครอบครัว​จะ​ได้​มี​ส่วน​ร่วม​ด้วย. ดัง​นั้น เรา​จึง​เห็น​ครอบครัว​ใหญ่​หลาย​ครอบครัว​เข้า​มา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. ผม​เชื่อ​ว่า​มูล​เหตุ​แห่ง​ความ​เจริญ​เติบโต​อย่าง​รวด​เร็ว​ของ​การ​นมัสการ​แท้​ใน​ประเทศ​เม็กซิโก​นั้น​เป็น​เพราะ​บ่อย​ครั้ง​สมาชิก​ครอบครัว​สมทบ​กัน​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​ใน​การ​นมัสการ​แท้.

พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​ให้​กิจการ​เจริญ​ขึ้น

ตั้ง​แต่​ปี 1950 งาน​ใน​เม็กซิโก​ได้​เจริญ​ก้าว​หน้า​มาก​เป็น​ที่​น่า​สังเกต ทั้ง​ด้าน​การ​ทวี​จำนวน​และ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ภาย​ใน​องค์การ. นับ​เป็น​ความ​ปลื้ม​ปีติ​อย่าง​แท้​จริง​ที่​มี​ส่วน​สนับสนุน​ให้​เกิด​การ​เพิ่ม​ทวี​ไม่​ทาง​ใด​ก็​ทาง​หนึ่ง เมื่อ​ได้​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​ผู้​คน​ที่​โอบอ้อม​อารี​และ​มี​ความ​สุข.

หลาย​ปี​มา​แล้ว คาร์ล ไคลน์ ซึ่ง​รับใช้​ใน​ฐานะ​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา พร้อม​ด้วย​มาร์กาเรต​ภรรยา​ได้​เยี่ยม​เรา​ขณะ​ที่​มา​พัก​ร้อน. บราเดอร์​ไคลน์​ต้องการ​สัมผัส​ความ​กระตือรือร้น​มี​ชีวิต​ชีวา​ของ​พี่​น้อง​ใน​เขต​งาน​เม็กซิโก ดัง​นั้น​เขา​กับ​มาร์กาเรต​จึง​ได้​ไป​ที่​ประชาคม​ซาน ฮวน เตซอนตลา ใกล้​นคร​เม็กซิโก​ซิตี ซึ่ง​เรา​ร่วม​สมทบ​ใน​ตอน​นั้น. หอ​ประชุม​ของ​เรา​เป็น​หอ​ประชุม​เล็ก ๆ กว้าง​แค่ 4.5 เมตร​และ​ยาว 5.5 เมตร. เมื่อ​ไป​ถึง​ก็​ปรากฏ​ว่า​มี​ประมาณ 70 คน​อยู่​ที่​นั่น​แล้ว และ​แทบ​ไม่​มี​ที่​ว่าง​ให้​ยืน​ด้วย​ซ้ำ. ผู้​สูง​อายุ​นั่ง​บน​เก้าอี้ พวก​หนุ่ม​สาว​นั่ง​บน​ม้า​ยาว และ​เด็ก​เล็ก ๆ นั่ง​บน​กอง​อิฐ​หรือ​ไม่​ก็​นั่ง​ที่​พื้น.

บราเดอร์​ไคลน์​รู้สึก​ประทับใจ​มาก เพราะ​ว่า​เด็ก​ทุก​คน​มี​คัมภีร์​ไบเบิล​อยู่​พร้อม และ​พลิก​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​ตาม​ผู้​บรรยาย. หลัง​จาก​จบ​การ​บรรยาย​สาธารณะ​แล้ว บราเดอร์​ไคลน์​ได้​พูด​ถึง​มัดธาย 13:19-23 และ​บอก​ว่า “ดิน​ดี” อย่าง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​นั้น​มี​มาก​ใน​ประเทศ​เม็กซิโก. เวลา​นี้ มี​เจ็ด​คน​จาก​จำนวน​เด็ก ๆ ที่​นั่ง​ประชุม​วัน​นั้น​กำลัง​ทำ​งาน​ใน​โครงการ​ใหญ่​เพื่อ​ขยาย​อาคาร​ต่าง ๆ ของ​สำนักงาน​สาขา​ของ​เรา​ใกล้ ๆ นคร​เม็กซิโก​ซิตี. อีก​คน​หนึ่ง​ทำ​งาน​ใน​เบเธล และ​บาง​คน​เป็น​ไพโอเนียร์!

เมื่อ​ผม​มา​ถึง​เม็กซิโก​ซิตี สมาชิก​สาขา​ของ​เรา​มี​เพียง 11 คน. เดี๋ยว​นี้ ประมาณ 1,350 คน​ทำ​งาน​ที่​นั่น ใน​จำนวน​ดัง​กล่าว​มี​ราว ๆ 250 คน​กำลัง​ก่อ​สร้าง​อาคาร​สำนักงาน​สาขา​หลัง​ใหม่. เมื่อ​งาน​ทั้ง​หมด​นี้​เสร็จ​สมบูรณ์ อาจ​จะ​ภาย​ใน​ปี 2002 เรา​สามารถ​รอง​รับ​ผู้​คน​เพิ่ม​ขึ้น​อีก​ประมาณ 1,200 คน​ใน​อาคาร​ต่าง ๆ ที่​ได้​ขยับ​ขยาย​เพิ่ม​ขึ้น. คิด​ดู​สิ ใน​ปี 1950 ทั่ว​ทั้ง​ประเทศ​เรา​มี​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ราชอาณาจักร​ไม่​ถึง 7,000 คน แต่​ใน​ปัจจุบัน​เรา​มี​มาก​กว่า 500,000 คน​ที​เดียว! หัวใจ​ผม​จึง​เปี่ยม​ล้น​ด้วย​ความ​ยินดี​เมื่อ​เห็น​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​ความ​บากบั่น​ของ​พี่​น้อง​ชาว​เม็กซิกัน​ผู้​ถ่อม​ใจ​ที่​ขยัน​ทำ​งาน​เพื่อ​สรรเสริญ​พระองค์.

เผชิญ​ข้อ​ท้าทาย​ที่​ใหญ่​หลวง

ข้อ​ท้าทาย​ที่​ใหญ่​หลวง​ประการ​หนึ่ง​สำหรับ​ผม​ตอน​หลัง ๆ นี้​คือ​ความ​เจ็บ​ป่วย. ปกติ​แล้ว​ผม​มี​สุขภาพ​แข็งแรง. แต่​เมื่อ​เดือน​พฤศจิกายน 1988 ผม​เกิด​อาการ​โรค​เส้น​เลือด​สมอง​ซึ่ง​ส่ง​ผล​กระทบ​มาก​ต่อ​สมรรถนะ​ทาง​กาย​ของ​ผม. ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา โดย​การ​ออก​กำลัง​กาย​และ​การ​รักษา​วิธี​อื่น ๆ ผม​ค่อย​ทุเลา​ขึ้น​ใน​ระดับ​หนึ่ง แต่​ร่าง​กาย​บาง​ส่วน​ยัง​ไม่​ตอบ​สนอง​เท่า​ที่​ผม​ต้องการ. ผม​รับ​การ​เยียว​ยา​และ​การ​ดู​แล​ของ​แพทย์​มิ​ได้​ขาด​เพื่อ​หลีก​เลี่ยง​อาการ​ปวด​ศีรษะ​รุนแรง​และ​ผล​สืบ​เนื่อง​อื่น ๆ ซึ่ง​ยัง​ไม่​หาย​ขาด.

แม้​เวลา​นี้​ผม​ไม่​สามารถ​ทำ​ได้​มาก​อย่าง​ที่​ใจ​ปรารถนา แต่​ก็​อิ่ม​ใจ​เพราะ​รู้​อยู่​ว่า​ผม​เคย​ได้​ช่วย​หลาย​คน​เรียน​รู้​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​พวก​เขา​กลาย​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​ที่​ได้​อุทิศ​ตัว​แด่​พระองค์. นอก​จาก​นั้น ผม​รู้สึก​เพลิดเพลิน​ที่​มี​โอกาส​คุย​กับ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ชาย​หญิง​มาก​เท่า​ที่​จะ​ทำ​ได้​เมื่อ​เขา​แวะ​เยี่ยม​สำนักงาน​สาขา ผม​รู้สึก​ว่า​เรา​ต่าง​ก็​หนุน​กำลังใจ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน.

การ​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​หยั่ง​รู้​ค่า​งาน​รับใช้​ที่​เรา​ได้​ทำ​เพื่อ​พระองค์ และ​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​กระทำ​นั้น​ไม่​ไร้​ประโยชน์​นี่​เอง​ทำ​ให้​ผม​มี​กำลังใจ​เข้มแข็ง​ขึ้น​มาก​ที​เดียว. (1 โกรินโธ 15:58) ทั้ง ๆ ที่​ผม​มี​ข้อ​จำกัด​และ​เจ็บ​ป่วย ผม​จำ​ถ้อย​คำ​ใน​โกโลซาย 3:23, 24 (ล.ม.) ใส่​ใจ​เสมอ​ที่​ว่า “สิ่ง​ใด ๆ ก็​ดี​ที่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทำ จง​ทำ​ด้วย​สิ้น​สุด​จิตวิญญาณ​เหมือน​หนึ่ง​ทำ​แด่​พระ​ยะโฮวา​และ​ไม่​ใช่​แก่​มนุษย์ ด้วย​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​แล้ว​ว่า ท่าน​จะ​ได้​รับ​บำเหน็จ​อัน​ควร​เป็น​มรดก​จาก​พระ​ยะโฮวา.” ด้วย​การ​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​ตักเตือน​นี้​อยู่​เสมอ ผม​ได้​เรียน​รู้​ที่​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สิ้น​สุด​จิตวิญญาณ​ถึง​แม้​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำบาก.

[ภาพ​หน้า 24]

ปี 1942 เมื่อ​ผม​เป็น​ไพโอเนียร์

[ภาพ​หน้า 24]

ภรรยา​ของ​ผม​เริ่ม​งาน​มิชชันนารี​ใน​ประเทศ​เม็กซิโก ปี 1947

[ภาพ​หน้า 24]

กับ​เอสเทอร์​ใน​ปัจจุบัน

[ภาพ​หน้า 26]

ภาพ​บน​ซ้าย: ครอบครัว​เบเธล​ของ​เรา​ที่​เม็กซิโก​ใน​ปี 1952 ผม​อยู่​ข้าง​หน้า

ภาพ​บน: การ​ประชุม​ภาค​ปี 1999 ที่​สนาม​กีฬา​เม็กซิโก​ซิตี มี​ผู้​เข้า​ร่วม​มาก​กว่า 109,000 คน

ล่าง​ซ้าย: อาคาร​สาขา​ใหม่​ของ​เรา เวลา​นี้​จวน​จะ​แล้ว​เสร็จ