ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วิธีที่เราสามารถพัฒนาความดีงาม

วิธีที่เราสามารถพัฒนาความดีงาม

วิธี​ที่​เรา​สามารถ​พัฒนา​ความ​ดี​งาม

พจนานุกรม​สมัย​ใหม่​ให้​ความหมาย​ของ​คำ “ความ​ดี​งาม” ว่า “ความ​ดี​เลิศ​ทาง​ด้าน​ศีลธรรม; ความ​ดี; การ​กระทำ​และ​ความ​คิด​ที่​ถูก​ต้อง; ความ​ดี​ที่​มี​อยู่​ใน​อุปนิสัย.” มาร์วิน อาร์. วินเซนต์ ผู้​เรียบเรียง​พจนานุกรม​กล่าว​ว่า ความหมาย​ของ​คำ​กรีก​โบราณ​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “ความ​ดี​งาม” นั้น​หมาย​ถึง “ความ​ดี​เลิศ​ชนิด​ใด ๆ.” ดัง​นั้น​แล้ว ไม่​น่า​แปลก​ใจ คุณลักษณะ​ต่าง ๆ เช่น ความ​สุขุม, ความ​กล้า​หาญ, การ​ใช้​วินัย​กับ​ตัว​เอง, ความ​ยุติธรรม, ความ​เมตตา​สงสาร, ความ​พากเพียร, ความ​ซื่อ​สัตย์, ความ​ถ่อม, และ​ความ​ภักดี​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​ว่า​เป็น​ความ​ดี​งาม​ไม่​คราว​ใด​ก็​คราว​หนึ่ง. ความ​ดี​งาม​ยัง​ได้​รับ​การ​นิยาม​ด้วย​ว่า​เป็น “การ​ปฏิบัติ​ตาม​มาตรฐาน​ของ​ความ​ถูก​ต้อง.”

มาตรฐาน​ของ​ความ​ดี​เลิศ, ความ​ดี, และ​ความ​ถูก​ต้อง​ของ​ผู้​ใด​ที่​เรา​ควร​ปฏิบัติ​ตาม? วารสาร​นิวส์วีก กล่าว​ว่า “ตาม​ที่​พวก​นัก​ปรัชญา​ทาง​ศีลธรรม​ที่​เด่น​ว่า​ไว้​นั้น ความ​สงสัย​ที่​ก่อ​ขึ้น​โดย​ขบวนการ​ซึ่ง​ยึด​ถือ​หลัก​ปรัชญา​ของ​ยุค​สว่าง​นั้น​ได้​ทำ​ให้​แนว​คิด​ทั้ง​สิ้น​เกี่ยว​กับ​ความ​ถูก​ผิด​กลาย​เป็น​เรื่อง​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​รสนิยม​ส่วน​ตัว, ความ​รู้สึก​ชอบ​ไม่​ชอบ​ตาม​แต่​อารมณ์​หรือ​วัฒนธรรม.” แต่​เพียง​แค่​รสนิยม​หรือ​ความ​รู้สึก​ชอบ​ไม่​ชอบ​เท่า​นั้น​เพียง​พอ​ไหม​ใน​การ​กำหนด​ความ​ถูก​ผิด? ไม่. เพื่อ​เรา​จะ​พัฒนา​ความ​ดี​งาม เรา​ต้อง​มี​มาตรฐาน​ที่​เชื่อถือ​ได้​ใน​เรื่อง​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว—มาตรฐาน​ที่​อาจ​ใช้​ตัดสิน​การ​กระทำ, เจตคติ, หรือ​คุณลักษณะ​บาง​อย่าง​ว่า​ถูก​หรือ​ผิด.

แหล่ง​แท้​แห่ง​เดียว​ของ​มาตรฐาน​ด้าน​ศีลธรรม

มี​แหล่ง​แท้​แห่ง​เดียว​เท่า​นั้น​สำหรับ​มาตรฐาน​ด้าน​ศีลธรรม—นั่น​คือ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า พระ​ผู้​สร้าง​ของ​มนุษยชาติ. หลัง​จาก​สร้าง​อาดาม​มนุษย์​คน​แรก​ไม่​นาน พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​ให้​พระ​บัญชา​ข้อ​นี้​แก่​เขา​ที่​ว่า “จาก​ต้น​ไม้​ทุก​ต้น​ใน​สวน​เจ้า​กิน​ได้​จน​เป็น​ที่​พอ​ใจ. ส่วน​ต้น​ไม้​เกี่ยว​กับ​ความ​รู้​เรื่อง​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว​นั้น​เจ้า​อย่า​กิน​จาก​ต้น​นั้น เพราะ​ว่า​ใน​วัน​ซึ่ง​เจ้า​กิน​จาก​ต้น​นั้น​เจ้า​จะ​ตาย​เป็น​แน่.” (เยเนซิศ 2:16, 17, ล.ม.) พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​เรียก​ต้น​ไม้​นี้​ด้วย​ชื่อ​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน​เพื่อ​แสดง​ว่า​เป็น​สิทธิ​ของ​พระองค์​โดยเฉพาะ​ที่​จะ​ตัดสิน​ว่า​อะไร​ดี​และ​อะไร​ชั่ว​สำหรับ​ผู้​ที่​พระองค์​ทรง​สร้าง​นั้น. ดัง​นั้น มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว​จึง​กลาย​เป็น​พื้น​ฐาน​สำหรับ​การ​ตัดสิน, หรือ​การ​ประเมิน​เกี่ยว​กับ​การ​กระทำ, แง่​คิด, และ​บุคลิก​ลักษณะ​ของ​คน​เรา. หาก​ปราศจาก​มาตรฐาน​ดัง​กล่าว​แล้ว เรา​ก็​ไม่​สามารถ​แยกแยะ​อย่าง​ถูก​ต้อง​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด.

พระ​บัญชา​เกี่ยว​กับ​ต้น​ไม้​แห่ง​ความ​รู้​เรื่อง​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว​นั้น​ได้​ตั้ง​ทาง​เลือก​ไว้​ต่อ​หน้า​อาดาม​และ​ฮาวา—จะ​เชื่อ​ฟัง​หรือ​ไม่​เชื่อ​ฟัง. สำหรับ​เขา​ทั้ง​สอง​แล้ว ความ​ดี​งาม​หมาย​ถึง​การ​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญชา​นั้น. ใน​เวลา​ต่อ​มา พระ​ยะโฮวา​ทรง​เปิด​เผย​มาก​ขึ้น​อีก​ถึง​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​พระองค์​พอ​พระทัย​และ​ไม่​พอ​พระทัย และ​พระองค์​ทรง​ให้​มี​การ​บันทึก​เรื่อง​นี้​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​สำหรับ​พวก​เรา. ดัง​นั้น​แล้ว เพื่อ​จะ​พัฒนา​ความ​ดี​งาม​เรา​ต้อง​ปฏิบัติ​ตาม​มาตรฐาน​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ชี้​แจง​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์.

จง​ทำ​ความ​คุ้น​เคย​กับ มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า​อย่าง​เต็ม​ที่

เนื่อง​จาก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ได้​ทรง​กำหนด​มาตรฐาน​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว​และ​เปิด​เผย​เรื่อง​นั้น​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล มิ​ควร​หรือ​ที่​เรา​จะ​ทำ​ความ​คุ้น​เคย​กับ​มาตรฐาน​เหล่า​นั้น​ให้​เต็ม​ที่? อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า​และ​เป็น​ประโยชน์​เพื่อ​การ​สั่ง​สอน, เพื่อ​การ​ว่า​กล่าว, เพื่อ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ให้​เรียบร้อย, เพื่อ​ตี​สอน​ด้วย​ความ​ชอบธรรม, เพื่อ​คน​ของ​พระเจ้า​จะ​เป็น​ผู้​ที่​มี​คุณสมบัติ​ครบ​ถ้วน, เตรียม​พร้อม​สำหรับ​การ​ดี​ทุก​อย่าง.”—2 ติโมเธียว 3:16, 17, ล.ม.

ตัว​อย่าง​เช่น ขอ​พิจารณา​ความ​เข้าใจ​ผิด​ที่​คุนิฮิโตะ​ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ใน​บทความ​ก่อน​ได้​ประสบ​เมื่อ​แสดง​ความ​เจียม​ตัว​ตาม​วัฒนธรรม​ของ​เขา. การ​พิจารณา​มาตรฐาน​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​อย่าง​ละเอียด​มาก​ขึ้น​ใน​ภาย​หลัง​ได้​ช่วย​เขา​ให้​ใช้​วิธี​ที่​สมดุล​มาก​ขึ้น​ใน​การ​เข้า​หา​พูด​จา​กับ​คน​อื่น. แน่นอน คัมภีร์​ไบเบิล​สนับสนุน​ความ​เจียม​ตัว และ​พระ​คัมภีร์​เตือน​ให้​ระวัง​การ​มั่น​ใจ​มาก​เกิน​ไป​และ​การ​ทำ​เกิน​สิทธิ์. (สุภาษิต 11:2, ล.ม.; มีคา 6:8, ล.ม.) ถึง​กระนั้น เมื่อ​สรุป​คุณวุฒิ​สำหรับ “ตำแหน่ง​ผู้​ดู​แล” อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ถึง​การ “เอื้อม​แขน​ออก​ไป” เพื่อ​จะ​ได้​สิทธิ​พิเศษ​นั้น. (1 ติโมเธียว 3:1, ล.ม.) การ “เอื้อม​แขน​ออก​ไป” เช่น​นี้​ไม่​เพียง​แต่​ทำ​ไป​โดย​ปราศจาก​การ​โอ้อวด​หรือ​ถือ​ดี​เท่า​นั้น แต่​ไม่​ลด​ค่า​ตัว​เอง​ลง​โดย​ไม่​จำเป็น​อีก​ด้วย.

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี​งาม​ด้าน​ศีลธรรม​ใน​แวดวง​ธุรกิจ? การ​ใช้​วิธี​ที่​น่า​สงสัย หรือ​การ​ลัด​ขั้น​ตอน​ใน​เรื่อง​กฎ​ข้อ​บังคับ​ของ​รัฐบาล​และ​กฎหมาย​ว่า​ด้วย​ภาษี เป็น​กิจ​ปฏิบัติ​ธรรมดา​ใน​วงการ​ธุรกิจ​ทุก​วัน​นี้. แต่​ไม่​ว่า​คน​อื่น​จะ​ปฏิบัติ​อย่าง​ไร​ก็​ตาม มาตรฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​คือ เรา​ต้อง “ประพฤติ​ตัว​ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุก​สิ่ง.” (เฮ็บราย 13:18, ล.ม.) ฉะนั้น เรา​สำแดง​คุณธรรม​โดย​การ​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​และ​ยุติธรรม​กับ​นาย​จ้าง, ลูกจ้าง, ลูกค้า, และ​รัฐบาล​ฝ่าย​โลก. (พระ​บัญญัติ 25:13-16; โรม 13:1; ติโต 2:9, 10) แน่นอน ความ​ซื่อ​สัตย์​ส่ง​เสริม​ความ​ไว้​วางใจ​และ​ไมตรี​จิต. และ​การ​เขียน​ข้อ​ตก​ลง​เป็น​ลายลักษณ์​อักษร​บ่อย​ครั้ง​ป้องกัน​ความ​เข้าใจ​ผิด​และ​ความ​ยุ่งยาก​ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น​เนื่อง​จาก “เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​ได้​คาด​ล่วง​หน้า.”—ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:11, ล.ม.; ยาโกโบ 4:13, 14.

เรื่อง​เกี่ยว​กับ​เครื่อง​แต่ง​กาย​และ​การ​แต่ง​ตัว​เป็น​อีก​ขอบ​เขต​หนึ่ง​ซึ่ง​เรา​ต้อง​สำแดง​ความ​ดี​งาม. การ​เลือก​เสื้อ​ผ้า​ย่อม​แตกต่าง​กัน​ไป​ตาม​วัฒนธรรม และ​อาจ​มี​ความ​กดดัน​อย่าง​หนัก​ให้​ไล่​ตาม​แฟชั่น​ล่า​สุด. แต่​ทำไม​เรา​จะ​ต้อง​ไป​ติด​ตาม​แฟชั่น​ทุก​อย่าง​ที่​เห่อ​กัน​ชั่ว​ประเดี๋ยวประด๋าว? คัมภีร์​ไบเบิล​ตักเตือน​เรา​ให้ “เลิก​ถูก​นวด​ปั้น​ตาม​ระบบ​นี้.” (โรม 12:2, ล.ม.) แทน​ที่​จะ​ตั้ง​กฎเกณฑ์​ต่าง ๆ อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ภาย​ใต้​การ​ดล​ใจ​ว่า “ข้าพเจ้า​ปรารถนา​ให้​พวก​ผู้​หญิง​ประดับ​ตัว​ด้วย​เสื้อ​ผ้า​ที่​จัด​เรียบร้อย ด้วย​ความ​สงบเสงี่ยม​และ​สุขภาพ​จิต​ดี ไม่​ใช่​ด้วย​แบบ​ถัก​ทรง​ผม​และ​ทองคำ หรือ​ไข่มุก หรือ​เสื้อ​ผ้า​ราคา​แพง​มาก แต่​ด้วย​วิธี​ที่​เหมาะ​สม​กับ​สตรี​ที่​ประกาศ​ตัว​ว่า​นับถือ​พระเจ้า.” (1 ติโมเธียว 2:9, 10, ล.ม.) มาตรฐาน​ที่​เป็น​หลัก​ข้อ​นี้​นำ​มา​ใช้​ได้​กับ​ทั้ง​ชาย​และ​หญิง. แน่นอน มี​การ​เปิด​ช่อง​สำหรับ​รูป​แบบ​ที่​หลาก​หลาย​ซึ่ง​น่า​ชื่นชม​อัน​เป็น​ผล​มา​จาก​ความ​ชอบ​ตาม​วัฒนธรรม​หรือ​รสนิยม​ส่วน​ตัว.

คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​ระบุ​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​ผิด​ศีลธรรม​ซึ่ง​พระเจ้า​ทรง​ตำหนิ​อย่าง​ชัดเจน​ไว้​ด้วย. ที่ 1 โกรินโธ 6:9, 10 (ล.ม.) เรา​อ่าน​คำ​เตือน​ว่า “อะไร​กัน! ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​รู้​หรือ​ว่า​คน​อธรรม​จะ​ไม่​ได้​รับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​มรดก? อย่า​ให้​ใคร​ชัก​นำ​ท่าน​ให้​หลง. คน​ผิด​ประเวณี, หรือ​คน​บูชา​รูป​เคารพ, หรือ​คน​เล่นชู้, หรือ​ชาย​เก็บ​ไว้​เพื่อ​วัตถุ​ประสงค์​ผิด​ธรรมชาติ, หรือ​ชาย​ที่​นอน​กับ​ชาย​ด้วย​กัน, หรือ​ขโมย, หรือ​คน​โลภ, หรือ​นักเลง​สุรา, หรือ​คน​ด่า​ประจาน, หรือ​คน​กรรโชก​จะ​ไม่​ได้รับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​มรดก.” ข้อ​คัมภีร์​นี้​ได้​ช่วย​มาเรีย ที่​กล่าว​ถึง​ใน​บทความ​ก่อน​ให้​เข้าใจ​ว่า ตาม​มาตรฐาน​ความ​ดี​งาม​ด้าน​ศีลธรรม​ที่​พระ​ผู้​สร้าง​ทรง​กำหนด​ไว้​นั้น การ​ที่​เธอ​เข้า​ไป​เกี่ยว​พัน​ทาง​เพศ​กับ​ฮวน​นั้น​เป็น​การ​กระทำ​ที่​ผิด​และ​เธอ​ต้อง​ยุติ​ความ​สัมพันธ์​นั้น​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ความ​พอ​พระทัย​จาก​พระเจ้า. ปรากฏ​ชัด​ว่า ที่​จะ​ปลูกฝัง​ความ​ดี​งาม​ทาง​ศีลธรรม เรา​ต้อง​ทำ​ความ​คุ้น​เคย​อย่าง​ถี่ถ้วน​กับ​มาตรฐาน​ของ​พระ​ยะโฮวา.

เรียน​รู้​ด้วย​หัวใจ

การ​สำแดง​ความ​ดี​งาม​มิ​ใช่​เป็น​เพียง​การ​หลีก​เลี่ยง​สิ่ง​ที่​ชั่ว​เท่า​นั้น. ความ​ดี​งาม​มี​พลัง​ทาง​ศีลธรรม. บุคคล​ที่​มี​ความ​ดี​งาม​ทาง​ศีลธรรม​เป็น​คน​ดี. ศาสตราจารย์​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “ความ​ดี​งาม​เป็น​สิ่ง​ที่​ต้อง​เรียน​รู้​ด้วย​หัวใจ​เช่น​เดียว​กับ​ด้วย​หัว​สมอง.” ดัง​นั้น​แล้ว ที่​จะ​พัฒนา​ความ​ดี​งาม​จำ​ต้อง​มี​ไม่​เพียง​แค่​การ​คุ้น​เคย​กับ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ถี่ถ้วน​เท่า​นั้น แต่​ต้อง​มี​การ​คิด​รำพึง​ถึง​สิ่ง​ที่​เขียน​ไว้​ใน​นั้น​ด้วย​เพื่อ​เรา​จะ​มี​หัวใจ​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​กตัญญู​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​นำ​หลักการ​ของ​พระ​คัมภีร์​มา​ใช้​ใน​ชีวิต​ของ​เรา.

ผู้​ประพันธ์​บทเพลง​สรรเสริญ​ร้อง​ออก​มา​ว่า “ข้าพเจ้า​รัก​ข้อ​กฎหมาย​ของ​พระองค์​มาก​เพียง​ใด! ข้าพเจ้า​คำนึง​ถึง​ตลอด​วัน.” (บทเพลง​สรรเสริญ 119:97, ล.ม.) และ​กษัตริย์​ดาวิด​ได้​เขียน​ว่า “ข้าพเจ้า​จะ​ระลึก​ถึง​เวลา​ที่​ล่วง​ไป​แล้ว; ข้าพเจ้า​ภาวนา​ถึง​พระ​ราชกิจ​ทั้ง​ปวง​ที่​พระองค์ [พระเจ้า] ทรง​กระทำ​นั้น; ข้าพเจ้า​รำพึง​ถึง​พระ​หัตถกิจ​การ​ต่าง ๆ ของ​พระองค์.” (บทเพลง​สรรเสริญ 143:5) เรา​ควร​ทำ​ให้​การ​คิด​รำพึง​ด้วย​การ​อธิษฐาน​เป็น​ส่วน​สำคัญ​ที่​ขาด​ไม่​ได้​ใน​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​สรรพหนังสือ​ที่​อาศัย​พระ​คัมภีร์​ด้วย​เช่น​กัน.

จริง​อยู่ การ​หา​เวลา​สำหรับ​การ​ศึกษา​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง​พร้อม​กับ​การ​คิด​รำพึง​อาจ​เป็น​ข้อ​ท้าทาย. แต่​การ​ติด​ตาม​ความ​ดี​งาม​เรียก​ร้อง​ให้​เรา​ซื้อ​เวลา​จาก​กิจกรรม​อื่น ๆ. (เอเฟโซ 5:15, 16) แอ​รัน​วัย 24 ปี​ซื้อ​เวลา​ดัง​กล่าว​ทุก​วัน​โดย​การ​ตื่น​นอน​เร็ว​กว่า​เดิม 30 นาที. เขา​เล่า​ว่า “ที​แรก ผม​แค่​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ตลอด​ครึ่ง​ชั่วโมง​นั้น. เพิ่ง​จะ​ไม่​นาน​มา​นี้​เอง​ที่​ผม​ได้​ตระหนัก​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​การ​คิด​รำพึง. ดัง​นั้น ตอน​นี้​ผม​ใช้​ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​เวลา​นั้น​ไว้​โดย​เฉพาะ​เพื่อ​ไตร่ตรอง​สิ่ง​ที่​ผม​เพิ่ง​อ่าน. การ​ทำ​เช่น​นั้น​ให้​ผล​ตอบ​แทน​อย่าง​แท้​จริง.” การ​คิด​รำพึง​อาจ​ทำ​ได้​ใน​เวลา​อื่น. ดาวิด​ได้​ร้อง​เพลง​บท​ที่​ใช้​สำหรับ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา​ว่า “ใน​ยาม​กลางคืน​ข้าพเจ้า​คิด​รำพึง​ถึง​พระองค์.” (บทเพลง​สรรเสริญ 63:6, ล.ม.) และ​คัมภีร์​ไบเบิล​พรรณนา​ว่า “เวลา​เย็น​ยิศฮาค​ก็​ออก​ไป​ที่​ทุ่ง​นา​เพื่อ​จะ​ตรึกตรอง​ถึง​เรื่อง​ต่าง ๆ.”—เยเนซิศ 24:63.

การ​คิด​รำพึง​เป็น​สิ่ง​ที่​ประเมิน​ค่า​มิ​ได้​ใน​การ​ปลูกฝัง​ความ​ดี​งาม เพราะ​นั่น​ช่วย​เรา​ให้​รู้สึก​อย่าง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​รู้สึก​และ​ทำ​ให้​เรา​มี​ทัศนะ​เหมือน​พระองค์. ตัว​อย่าง​เช่น มาเรีย​รู้​ดี​ว่า​พระเจ้า​ทรง​ห้าม​การ​ผิด​ประเวณี. แต่​เพื่อ​จะ ‘เกลียด​ชัง​สิ่ง​ที่​ชั่ว และ​ยึด​ถือ​สิ่ง​ที่​ดี​ไว้’ เธอ​ต้อง​คิด​รำพึง​ถึง​ข้อ​คัมภีร์​ที่​สำคัญ​ต่าง ๆ. (โรม 12:9) เธอ​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​เห็น​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​ทำ​การ​เปลี่ยน​แปลง​หลัง​จาก​อ่าน​โกโลซาย 3:5 (ล.ม.) ซึ่ง​กระตุ้น​เรา​ให้ ‘ประหาร​อวัยวะ​แห่ง​ร่าง​กาย​ของ​เรา​ใน​เรื่อง​การ​ล่วง​ประเวณี, การ​โสโครก, ราคะ​ตัณหา, ความ​ปรารถนา​ที่​ก่อ​ความ​เสียหาย, และ​ความ​ละโมบ.’ มาเรีย​ต้อง​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ราคะ​ตัณหา​ชนิด​ใด​ที่​ฉัน​ต้อง​ประหาร? ฉัน​ควร​หลีก​เลี่ยง​อะไร​ซึ่ง​อาจ​ปลุก​เร้า​ความ​ปรารถนา​ที่​ไม่​สะอาด​ทาง​ศีลธรรม? ฉัน​ต้อง​ทำ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ไหม​ใน​วิธี​ที่​ฉัน​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เป็น​เพศ​ตรง​ข้าม?’

การ​คิด​รำพึง​หมาย​รวม​ถึง​การ​พิจารณา​ผล​ของ​การ​กระทำ​ด้วย. เปาโล​กระตุ้น​คริสเตียน​ให้​ละ​เว้น​จาก​การ​ผิด​ประเวณี​และ​ให้​แสดง​การ​รู้​จัก​บังคับ​ตน​เพื่อ​จะ “ไม่​มี​ใคร​ดำเนิน​ไป​ถึง​ขั้น​ที่​เกิด​ความ​เสียหาย​และ​ละเมิด​สิทธิ์​แห่ง​พี่​น้อง​ของ​ตน.” (1 เธซะโลนิเก 4:3-7, ล.ม.) คำ​ถาม​ต่าง ๆ ที่​เหมาะ​สม​ที่​พึง​ใคร่ครวญ​คือ ‘โดย​การ​ประพฤติ​เช่น​นั้น ฉัน​จะ​ก่อ​ความ​เสียหาย​อะไร​แก่​ตัว​เอง, แก่​ครอบครัว​ของ​ฉัน, หรือ​คน​อื่น ๆ? ฉัน​จะ​ได้​รับ​ผล​กระทบ​อย่าง​ไร​ทาง​ด้าน​วิญญาณ, ด้าน​อารมณ์, และ​ด้าน​ร่าง​กาย? ผล​เป็น​อย่าง​ไร​สำหรับ​คน​อื่น ๆ ใน​อดีต​ที่​ได้​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า?’ การ​ไตร่ตรอง​ดัง​กล่าว​ทำ​ให้​หัวใจ​ของ​มาเรีย​เข้มแข็ง​ขึ้น และ​การ​คิด​รำพึง​แบบ​นั้น​สามารถ​ช่วย​เรา​ให้​เข้มแข็ง​ได้​เช่น​กัน.

เรียน​จาก​ตัว​อย่าง​ต่าง 

จะ​สอน​เรื่อง​ความ​ดี​งาม​ใน​ห้อง​เรียน​ได้​ไหม? นี่​เป็น​คำ​ถาม​ที่​ทำ​ให้​คน​ช่าง​คิด​สับสน​มา​เป็น​เวลา​หลาย​พัน​ปี​แล้ว. เพลโต​นัก​ปรัชญา​กรีก​คิด​ว่า​น่า​จะ​ทำ​ได้. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง อาริสโตเติล​ให้​เหตุ​ผล​ว่า ความ​ดี​งาม​เป็น​สิ่ง​ที่​ได้​มา​โดย​การ​ปฏิบัติ. นัก​หนังสือ​พิมพ์​คน​หนึ่ง​ได้​สรุป​การ​โต้​แย้ง​ใน​ประเด็น​นั้น​ไว้​ดัง​นี้: “โดย​สรุป​แล้ว หลัก​จรรยา​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี​งาม​ไม่​ใช่​เรื่อง​ที่​จะ​เพียง​แค่​เรียน​รู้​เท่า​นั้น. อีก​ทั้ง​ไม่​อาจ​สอน​เรื่อง​นี้​จาก​ตำรา​ต่าง ๆ ได้. อุปนิสัย​ที่​ดี​เกิด​จาก​การ​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​ชุมชน . . . ที่​มี​การ​สนับสนุน​และ​ให้​ผล​ตอบ​แทน​แก่​ความ​ดี​งาม​นั้น.” แต่​เรา​จะ​พบ​บุคคล​ที่​มี​ความ​ดี​งาม​อย่าง​แท้​จริง​ได้​ที่​ไหน? ขณะ​ที่​วัฒนธรรม​ส่วน​ใหญ่​เสนอ​ตัว​อย่าง​บาง​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​คน​ที่​ดี​มี​คุณธรรม อย่าง​น้อย​ก็​พวก​วีรบุรุษ​จาก​เทพนิยาย​และ​นิทาน​ต่าง ๆ ของ​พวก​เขา​นั้น คัมภีร์​ไบเบิล​มี​ตัว​อย่าง​จริง​มาก​มาย.

ตัว​อย่าง​เด่น​ที่​สุด​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี​งาม​ก็​คือ​พระ​ยะโฮวา. พระองค์​ทรง​ปฏิบัติ​ใน​วิธี​ที่​ดี​งาม​เสมอ​และ​ทรง​ทำ​สิ่ง​ที่​ดี​และ​ชอบธรรม. เรา​สามารถ​พัฒนา​ความ​ดี​งาม​ได้​โดย​การ​เป็น “ผู้​เลียน​แบบ​พระเจ้า.” (เอเฟโซ 5:1, ล.ม.) และ​พระ​เยซู​คริสต์ พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า ‘ทรง​วาง​แบบ​อย่าง​ไว้​ให้​เรา เพื่อ​เรา​จะ​ได้​ดำเนิน​ตาม​รอย​พระ​บาท​ของ​พระองค์​อย่าง​ใกล้​ชิด.’ (1 เปโตร 2:21, ล.ม.) นอก​จาก​นี้ คัมภีร์​ไบเบิล​มี​เรื่อง​ราว​ของ​บุคคล​ที่​ซื่อ​สัตย์​หลาย​คน เช่น อับราฮาม, ซารา, โยเซฟ, รูธ, โยบ, และ​ดานิเอล​กับ​เพื่อน​ชาว​ฮีบรู​สาม​คน​ของ​ท่าน. ที่​ไม่​ควร​มอง​ข้าม​ก็​คือ​ตัว​อย่าง​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี​งาม​ใน​ท่ามกลาง​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​สมัย​ปัจจุบัน.

เรา​สามารถ​บรรลุ​ผล​สำเร็จ

เรา​สามารถ​บรรลุ​ผล​สำเร็จ​อย่าง​แท้​จริง​ใน​การ​ทำ​สิ่ง​ที่​เป็น​ความ​ดี​งาม​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า​ได้​ไหม? เนื่อง​จาก​ได้​รับ​ความ​ไม่​สมบูรณ์​เป็น​มรดก บาง​ครั้ง​อาจ​มี​การ​ต่อ​สู้​อย่าง​ดุเดือด​ใน​ตัว​เรา​ระหว่าง​จิตใจ​กับ​เนื้อหนัง—ระหว่าง​ความ​ต้องการ​ทำ​สิ่ง​ที่​เป็น​ความ​ดี​งาม​กับ​การ​ทำ​ตาม​แนว​โน้ม​ที่​ผิด​บาป​ของ​เรา. (โรม 5:12; 7:13-23) แต่​จะ​เอา​ชนะ​ใน​การ​ต่อ​สู้​นั้น​ได้​โดย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระเจ้า. (โรม 7:24, 25) พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​เตรียม​พระ​คำ​ของ​พระองค์​และ​สรรพหนังสือ​ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​ไว้. โดย​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง​และ​การ​คิด​รำพึง​ด้วย​การ​อธิษฐาน​ใน​เรื่อง​เหล่า​นั้น เรา​จะ​กลาย​เป็น​คน​มี​หัวใจ​บริสุทธิ์​ได้. จาก​หัวใจ​บริสุทธิ์​นั่น​แหละ​ที่​ความ​คิด, คำ​พูด, และ​การ​กระทำ​ที่​ดี​งาม​จะ​ออก​มา​ได้. (ลูกา 6:45) โดย​อาศัย​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​พระ​เยซู​คริสต์ เรา​สามารถ​สร้าง​บุคลิกภาพ​แบบ​พระเจ้า​ได้. และ​แน่นอน เรา​สามารถ​เรียน​รู้​ได้​มาก​มาย​จาก​บุคคล​ต่าง ๆ ซึ่ง​รับใช้​พระเจ้า​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุก​วัน​นี้.

อัครสาวก​เปาโล​กระตุ้น​เตือน​ผู้​อ่าน​ของ​ท่าน​ให้ ‘ใคร่ครวญ​ต่อ ๆ ไป’ ใน​สิ่ง​ที่​มี​คุณ​ความ​ดี​และ​สิ่ง​ที่​น่า​สรรเสริญ​อื่น ๆ. การ​ทำ​เช่น​นี้​จะ​ก่อ​ผล​ด้วย​พระ​พร​จาก​พระเจ้า​แน่ ๆ. (ฟิลิปปอย 4:8, 9, ล.ม.) โดย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา เรา​สามารถ​บรรลุ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​พัฒนา​ความ​ดี​งาม.

[ภาพ​หน้า 6]

จง​ทำ​ให้​การ​คิด​รำพึง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​แห่ง​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ของ​คุณ

[ภาพ​หน้า 7]

จง​สร้าง​บุคลิกภาพ​แบบ​พระเจ้า​โดย​การ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​คริสต์