ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วิธีพบความสุขแท้

วิธีพบความสุขแท้

วิธี​พบ​ความ​สุข​แท้

ดาไลลามะ ผู้​นำ​ศาสนา​พุทธ​คน​หนึ่ง​ได้​กล่าว​ว่า “ข้าพเจ้า​เชื่อ​ว่า​จุด​มุ่ง​หมาย​จริง ๆ ใน​ชีวิต​ของ​เรา​คือ แสวง​หา​ความ​สุข.” ครั้น​แล้ว​ก็​ชี้​แจง​ว่า เขา​เชื่อ​ว่า​จะ​บรรลุ​ความ​สุข​ได้​โดย​การ​ฝึก​หรือ​ใช้​วินัย​กับ​จิตใจ​และ​หัวใจ. เขา​กล่าว​ว่า “จิตใจ​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​พื้น​ฐาน​ที่​เรา​ต้อง​มี​เพื่อ​บรรลุ​ความ​สุข​ครบ​ถ้วน.” เขา​คิด​ว่า​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​เป็น​เรื่อง​ไม่​จำเป็น. *

ตรง​กัน​ข้าม ขอ​พิจารณา​พระ​เยซู​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​ที่​มั่นคง​ใน​พระเจ้า​และ​คำ​สอน​ของ​พระองค์​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ผู้​คน​หลาย​ร้อย​ล้าน​คน​ตลอด​ศตวรรษ​ต่าง ๆ. พระ​เยซู​สน​พระทัย​ใน​ความ​สุข​ของ​มนุษย์. พระองค์​ทรง​เริ่ม​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​อัน​มี​ชื่อเสียง​ด้วย​คำ​อวย​พร​เก้า​ประการ—ถ้อย​คำ​เก้า​ประการ​ที่​เริ่ม​ต้น​ว่า “ความ​สุข​มี​แก่ . . . ” (มัดธาย 5:1-12, ล.ม.) ใน​คำ​เทศน์​เดียว​กัน​นั้น พระองค์​ทรง​สอน​เหล่า​ผู้​ฟัง​ให้​ตรวจ​สอบ​หัวใจ​และ​จิตใจ, ทำ​ให้​บริสุทธิ์, และ​ให้​ใช้​วินัย​กับ​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​เขา—เอา​ความ​คิด​ที่​สงบ​สุข, สะอาด, และ​เต็ม​ด้วย​ความ​รัก​มา​แทน​ความ​คิด​ที่​รุนแรง, ผิด​ศีลธรรม, และ​เห็น​แก่​ตัว. (มัดธาย 5:21, 22, 27, 28; 6:19-21) ดัง​ที่​สาวก​คน​หนึ่ง​ของ​พระองค์​ได้​กระตุ้น​เตือน​ใน​ภาย​หลัง เรา​ควร ‘ใคร่ครวญ​ต่อ ๆ ไป’ ใน​สิ่ง​ที่ ‘จริง, น่า​เอา​ใจ​ใส่​อย่าง​จริงจัง, ชอบธรรม, บริสุทธิ์, น่า​รัก, กล่าว​ถึง​ใน​ทาง​ดี, มี​คุณ​ความ​ดี, และ​น่า​สรรเสริญ.’—ฟิลิปปอย 4:8, ล.ม.

พระ​เยซู​ทรง​ทราบ​ว่า​ความ​สุข​แท้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สัมพันธภาพ​กับ​คน​อื่น. โดย​นิสัย​แล้ว​เรา​ซึ่ง​เป็น​มนุษย์​ชอบ​อยู่​รวม​กัน​เป็น​กลุ่ม ดัง​นั้น เรา​ไม่​สามารถ​มี​ความ​สุข​อย่าง​แท้​จริง​ได้​หาก​เรา​แยก​ตัว​อยู่​โดด​เดี่ยว หรือ​มัก​จะ​ขัด​แย้ง​กับ​คน​รอบ​ข้าง​เรา​อยู่​เสมอ. เรา​จะ​มี​ความ​สุข​ได้​เพียง​แต่​ถ้า​เรา​รู้สึก​ว่า​ได้​รับ​ความ​รัก​และ​ถ้า​เรา​รัก​คน​อื่น. พระ​เยซู​ทรง​สอน​ว่า พื้น​ฐาน​สำหรับ​ความ​รัก​ดัง​กล่าว​คือ สัมพันธภาพ​ของ​เรา​กับ​พระเจ้า. ตรง​นี้​โดย​เฉพาะ​ที่​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู​ต่าง​จาก​คำ​สอน​ของ​ดาไลลามะ เพราะ​พระ​เยซู​ทรง​สอน​ว่า มนุษย์​จะ​มี​ความ​สุข​อย่าง​แท้​จริง​ไม่​ได้​หาก​ไม่​พึ่ง​อาศัย​พระเจ้า. เหตุ​ใด​จึง​เป็น​เช่น​นั้น?—มัดธาย 4:4; 22:37-39.

คิด​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​คุณ

คำ​อวย​พร​ประการ​หนึ่ง​คือ “ความ​สุข​มี​แก่​ผู้​ที่​รู้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน.” (มัดธาย 5:3, ล.ม.) ทำไม​พระ​เยซู​ตรัส​เช่น​นี้? เพราะ ไม่​เหมือน​กับ​สัตว์ เรา​มี​ความ​ต้องการ​ฝ่าย​วิญญาณ. เนื่อง​จาก​ถูก​สร้าง​ตาม​แบบ​พระ​ฉาย​ของ​พระเจ้า เรา​สามารถ​ปลูกฝัง​คุณสมบัติ​ของ​พระเจ้า​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง เช่น ความ​รัก, ความ​ยุติธรรม, ความ​เมตตา, และ​สติ​ปัญญา. (เยเนซิศ 1:27; มีคา 6:8; 1 โยฮัน 4:8) ความ​ต้องการ​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา​รวม​ไป​ถึง​ความ​ต้องการ​ที่​จะ​มี​ชีวิต​ที่​มี​จุด​มุ่ง​หมาย.

เรา​จะ​สนอง​ความ​ต้องการ​ฝ่าย​วิญญาณ​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? ไม่​ใช่​โดย​การ​นั่ง​สมาธิ​ซึ่ง​เป็น​เรื่อง​ที่​นอก​เหนือ​ประสบการณ์​ของ​คน​ธรรมดา หรือ​โดย​เพียง​แค่​การ​ตรวจ​สอบ​ตัว​เอง. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “มนุษย์​จะ​เลี้ยง​ชีพ​ด้วย​อาหาร​แต่​อย่าง​เดียว​ไม่​ได้ แต่​ด้วย​คำ​ตรัส​ทุก​คำ​ที่​ออก​มา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​ยะโฮวา.” (มัดธาย 4:4, ล.ม.) โปรด​สังเกต​ว่า พระ​เยซู​ตรัส​ว่า พระเจ้า​เป็น​แหล่ง​ที่​มา​ของ “คำตรัส​ทุก​คำ” ที่​สำคัญ​ยิ่ง​สำหรับ​ชีวิต​ของ​เรา. มี​คำ​ถาม​บาง​อย่าง​ที่​เฉพาะ​พระเจ้า​เท่า​นั้น​ทรง​ช่วย​เรา​ตอบ​ได้. ความ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​เช่น​นั้น​เหมาะ​กับ​เวลา​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ทุก​วัน​นี้ เมื่อ​คำนึง​ถึง​การ​เพิ่ม​ขึ้น​ของ​ทฤษฎี​ต่าง ๆ เกี่ยว​กับ​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​ชีวิต​และ​หน​ทาง​สู่​ความ​สุข. ร้าน​หนังสือ​จัด​ให้​มี​แผนก​ต่าง ๆ ที่​ทั้ง​แผนก​มี​แต่​หนังสือ​ที่​ให้​คำ​สัญญา​แก่​ผู้​อ่าน​ใน​เรื่อง​สุขภาพ, ความ​มั่งคั่ง, และ​ความ​สุข. มี​การ​ตั้ง​เว็บไซต์​ทาง​อินเทอร์เน็ต​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​ความ​สุข​โดย​เฉพาะ​ไว้.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ความ​คิด​ของ​มนุษย์​ใน​เรื่อง​เหล่า​นี้​มัก​จะ​ถูก​นำ​ไป​ผิด​ทาง. ความ​คิด​ดัง​กล่าว​มัก​จะ​สนอง​ความ​ปรารถนา​อัน​เห็น​แก่​ตัว​หรือ​ทำ​ให้​ถูก​ใจ​ตัว​เอง. ความ​คิด​นั้น​อาศัย​ความ​รู้​และ​ประสบการณ์​ที่​จำกัด และ​บ่อย​ที​เดียว​ตั้ง​อยู่​บน​สมมุติฐาน​ที่​ไม่​จริง. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​ท่ามกลาง​นัก​เขียน​หนังสือ​คู่มือ​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ใช้​ได้​ใน​ทาง​ปฏิบัติ มี​แนว​โน้ม​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ ที่​จะ​ให้​แนว​คิด​ของ​พวก​เขา​อาศัย​ทฤษฎี​เกี่ยว​กับ “จิตวิทยา​เชิง​วิวัฒนาการ” ซึ่ง​สันนิษฐาน​ว่า​อารมณ์​ของ​มนุษย์​มี​ราก​เหง้า​มา​จาก​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ที่​ว่า​กัน​ว่า​เป็น​สัตว์. ความ​เป็น​จริง​คือ​ว่า ความ​พยายาม​ใด ๆ ที่​จะ​ประสบ​ความ​สุข​โดย​อาศัย​ทฤษฎี​ที่​เพิกเฉย​ต่อ​บทบาท​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​ของ​เรา​นั้น​ไร้​ผล​และ​จะ​นำ​ไป​สู่​ความ​ผิด​หวัง​ใน​ที่​สุด. ผู้​พยากรณ์​สมัย​โบราณ​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “คน​มี​ปัญญา​จะ​ได้​รับ​ความ​อาย. . . . นี่​แน่ะ​เขา​ได้​ปฏิเสธ​พระ​วจนะ​ของ​พระเจ้า​และ​ปัญญา​อย่าง​ใด​มี​ใน​ตัว​เขา​เล่า.”—ยิระมะยา 8:9, ฉบับ​แปล​ใหม่.

พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​ทราบ​โครง​สร้าง​ของ​เรา​และ​สิ่ง​ที่​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​อย่าง​แท้​จริง. พระองค์​ทรง​ทราบ​เหตุ​ผล​ที่​ทรง​จัด​ให้​มนุษย์​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​และ​อนาคต​จะ​เป็น​อย่าง​ไร และ​พระองค์​ทรง​ให้​ความ​รู้​นั้น​แก่​เรา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​เปิด​เผย​ไว้​ใน​หนังสือ​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​นั้น​กระตุ้น​ความ​รู้สึก​ตอบ​สนอง​ใน​ตัว​บุคคล​ที่​มี​แนว​โน้ม​ใน​ทาง​ถูก​ต้อง​และ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​สุข. (ลูกา 10:21; โยฮัน 8:32) เป็น​เช่น​นั้น​กับ​สาวก​สอง​คน​ของ​พระ​เยซู. พวก​เขา​เศร้า​ระทม​หลัง​จาก​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์. แต่​ภาย​หลัง​ที่​ทราบ​เกี่ยว​กับ​บทบาท​ของ​พระองค์​ใน​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​เพื่อ​ความ​รอด​ของ​มนุษยชาติ​จาก​พระ​เยซู​ผู้​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์​โดย​ตรง​แล้ว เขา​พูด​ว่า “หัวใจ​เรา​เร่าร้อน​มิ​ใช่​หรือ​ขณะ​ที่​พระองค์​ตรัส​กับ​เรา​ตาม​ทาง ขณะ​ที่​พระองค์​ทรง​เปิด​เผย​พระ​คัมภีร์​แก่​เรา​อย่าง​เต็ม​ที่?”—ลูกา 24:32, ล.ม.

ความ​ยินดี​ดัง​กล่าว​เพิ่ม​มาก​ขึ้น​เมื่อ​เรา​ยอม​ให้​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ชี้​นำ​ชีวิต​ของ​เรา. ใน​เรื่อง​นี้ ความ​สุข​อาจ​เปรียบ​ได้​กับ​รุ้ง​กิน​น้ำ. รุ้ง​ปรากฏ​เมื่อ​บรรยากาศ​เหมาะ​สม แต่​ยิ่ง​มี​สี​สัน​สดใส​มาก​ขึ้น—กระทั่ง​กลาย​เป็น​รุ้ง​สอง​ชั้น​ด้วย​ซ้ำ—เมื่อ​บรรยากาศ​เยี่ยมยอด. ตอน​นี้​ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​ดู​บาง​ตัว​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​การ​นำ​คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ใช้​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​มาก​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร.

ทำ​ให้​ชีวิต​เรียบ​ง่าย​เสมอ

ประการ​แรก ขอ​พิจารณา​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​ใน​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​ทรัพย์​สมบัติ. หลัง​จาก​เตือน​ให้​ระวัง​เพื่อ​จะ​ไม่​ทำ​ให้​การ​แสวง​หา​ทรัพย์​สมบัติ​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​แล้ว พระองค์​ได้​ตรัส​ถ้อย​คำ​ที่​ผิด​ธรรมดา. พระองค์​ตรัส​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น​ถ้า​ตา​ของ​ท่าน​ปกติ, ทั้ง​ตัว​ก็​พลอย​สว่าง​ไป​ด้วย.” (มัดธาย 6:19-22) โดย​พื้น​ฐาน พระองค์​ตรัส​ว่า​หาก​เรา​มัวเมา​แสวง​หา​ทรัพย์​สมบัติ, อำนาจ, หรือ​เป้าหมาย​อื่น​ใด​ที่​ผู้​คน​ตั้ง​ไว้​สำหรับตัว​เอง​แล้ว เรา​จะ​สูญ​เสีย​สิ่ง​ที่​สำคัญ​กว่า. เพราะ​ดัง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ใน​อีก​โอกาส​หนึ่ง​ว่า “ชีวิต​ของ​บุคคล​ใด ๆ มิ​ได้​อยู่​ใน​ของ​บริบูรณ์​ซึ่ง​เขา​มี​อยู่​นั้น.” (ลูกา 12:15) หาก​เรา​จัด​สิ่ง​ที่​สำคัญ​จริง ๆ ไว้​เป็น​อันดับ​แรก เช่น สัมพันธภาพ​ของ​เรา​กับ​พระเจ้า, ความ​ห่วงใย​ต่อ​ครอบครัว, และ​เรื่อง​อื่น ๆ ที่​เกี่ยว​ข้อง​กัน ดัง​นั้น​แล้ว “ตา” ของ​เรา​ก็​จะ “ปกติ” ไม่​มอง​นั่น​มอง​นี่​ยุ่ง​ไป​หมด.

โปรด​สังเกต​ว่า พระ​เยซู​มิ​ได้​สนับสนุน​ลัทธิ​ถือ​สันโดษ​หรือ​การ​หัก​ห้าม​ใจ​ตัว​เอง​อย่าง​เด็ดขาด. ที่​จริง พระ​เยซู​เอง​มิ​ใช่​นัก​พรต. (มัดธาย 11:19; โยฮัน 2:1-11) แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น พระองค์​ทรง​สอน​ว่า​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ถือ​ว่า​ชีวิต​เป็น​เพียง​โอกาส​ที่​จะ​สั่ง​สม​ความ​มั่งคั่ง โดย​พื้น​ฐาน​แล้ว​พลาด​โอกาส​ที่​ดี​ใน​ชีวิต​ไป.

เมื่อ​ออก​ความ​เห็น​เกี่ยว​กับ​บาง​คน​ที่​กลาย​เป็น​คน​ร่ำรวย​ใน​ช่วง​ต้น ๆ ของ​ชีวิต ผู้​เชี่ยวชาญ​ทาง​จิตเวช​คน​หนึ่ง​ใน​ซานฟรานซิสโก สหรัฐ​อเมริกา กล่าว​ว่า สำหรับ​พวก​เขา​แล้ว เงิน​เป็น “ต้น​เหตุ​ของ​ความ​เครียด​และ​ความ​วุ่นวาย.” เขา​กล่าว​เสริม​ว่า​คน​เหล่า​นี้ “ซื้อ​บ้าน​สอง​สาม​หลัง, ซื้อ​รถยนต์, ใช้​จ่าย​เงิน​ซื้อ​สิ่ง​ของ​ต่าง ๆ. และ​เมื่อ​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ไม่​มี​ผล​อะไร​ต่อ​เขา [นั่น​คือ ทำ​ให้​เขา​มี​ความ​สุข] เขา​ก็​กลาย​เป็น​คน​ซึมเศร้า, ไม่​มี​แก่น​สาร, และ​ไม่​แน่​ใจ​ว่า​จะ​ทำ​อะไร​กับ​ชีวิต​ตัว​เอง.” ตรง​กัน​ข้าม คน​เหล่า​นั้น​ที่​เอา​ใจ​ใส่​ฟัง​คำ​ตักเตือน​ของ​พระ​เยซู​ที่​ให้​ดำเนิน​ชีวิต​แบบ​เรียบ​ง่าย​กว่า​ทาง​ด้าน​วัตถุ​และ​เปิด​โอกาส​ให้​กับ​สิ่ง​ฝ่าย​วิญญาณ​มัก​จะ​พบ​ความ​สุข​แท้​มาก​กว่า.

ทอม ช่าง​ก่อ​สร้าง​ที่​อยู่​ใน​ฮาวาย ได้​อาสา​สมัคร​ช่วย​สร้าง​สถาน​ที่​สำหรับ​นมัสการ​ใน​หมู่​เกาะ​แปซิฟิก​ที่​ซึ่ง​ผู้​คน​มี​ไม่​มาก​นัก​ทาง​ด้าน​วัตถุ. ทอม​สังเกต​อะไร​บาง​อย่าง​เกี่ยว​กับ​ผู้​คน​ที่​ถ่อม​ตัว​เหล่า​นี้. เขา​กล่าว​ว่า “พี่​น้อง​ชาย​หญิง​คริสเตียน​ของ​ผม​ใน​หมู่​เกาะ​เหล่า​นี้​มี​ความ​สุข​อย่าง​แท้​จริง. พวก​เขา​ได้​ช่วย​ผม​ให้​มอง​เห็น​ชัด​ยิ่ง​ขึ้น​ว่า​เงิน​ทอง​และ​ทรัพย์​สมบัติ​ไม่​ใช่​เคล็ดลับ​ที่​นำ​ไป​สู่​ความ​สุข.” เขา​ยัง​ได้​สังเกต​อาสา​สมัคร​ซึ่ง​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​เขา​ใน​เกาะ​เหล่า​นั้น​ด้วย และ​ได้​เห็น​ว่า​พวก​เขา​ช่าง​อิ่ม​ใจ​กัน​สัก​เพียง​ไร. ทอม​กล่าว​ว่า “พวก​เขา​สามารถ​ที่​จะ​หา​เงิน​ได้​มาก. แต่​พวก​เขา​ก็​เลือก​ที่​จะ​ให้​สิ่ง​ฝ่าย​วิญญาณ​อยู่​ใน​อันดับ​แรก​เสมอ​และ​คง​ไว้​ซึ่ง​รูป​แบบ​ชีวิต​ที่​เรียบ​ง่าย.” โดย​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​จาก​ตัว​อย่าง​เหล่า​นี้ ทอม​ได้​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​ตน​เอง​เรียบ​ง่าย​ขึ้น​เพื่อ​จะ​สามารถ​อุทิศ​เวลา​มาก​ขึ้น​ให้​แก่​ครอบครัว​และ​การ​มุ่ง​ติด​ตาม​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ—การ​กระทำ​ที่​เขา​ไม่​เคย​รู้สึก​เสียดาย​เลย.

ความ​สุข​และ​ความ​นับถือ​ตัว​เอง

สิ่ง​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​สำหรับ​ความ​สุข​คือ ความ​สำนึก​ถึง​ศักดิ์ศรี​ของ​ตัว​เอง​หรือ​ความ​นับถือ​ตน​เอง. เนื่อง​จาก​สภาพ​ไม่​สมบูรณ์​ของ​มนุษย์​และ​ความ​อ่อนแอ​ที่​เป็น​ผล​จาก​สภาพ​เช่น​นั้น บาง​คน​จึง​มี​ทัศนะ​ใน​แง่​ลบ​เกี่ยว​กับ​ตัว​เอง และ​สำหรับ​หลาย​คน​แล้ว ความ​รู้สึก​ดัง​กล่าว​มี​มา​ตั้ง​แต่​วัย​เด็ก. อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​ที่​ฝัง​ราก​ลึก แต่​ก็​เป็น​สิ่ง​ที่​ทำ​ได้. วิธี​แก้​อยู่​ที่​การ​นำ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​มา​ใช้.

คัมภีร์​ไบเบิล​อธิบาย​ว่า​พระ​ผู้​สร้าง​ทรง​รู้สึก​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ตัว​เรา. ทัศนะ​ของ​พระองค์​สำคัญ​กว่า​ทัศนะ​ของ​มนุษย์​คน​ใด​คน​หนึ่ง—แม้​แต่​ของ​ตัว​เรา​เอง​มิ​ใช่​หรือ? ใน​ฐานะ​แบบ​ฉบับ​ของ​ความ​รัก​อย่าง​แท้​จริง พระเจ้า​ทรง​พิจารณา​ดู​เรา​โดย​ไม่​มี​อคติ​หรือ​เจตนา​ร้าย. พระองค์​ทรง​มอง​เรา​อย่าง​ที่​เรา​เป็น​อยู่ เช่น​เดียว​กับ​ที่​ทรง​เห็น​ว่า​เรา​สามารถ​จะ​เป็น​คน​เช่น​ไร. (1 ซามูเอล 16:7; 1 โยฮัน 4:8) ที่​จริง พระองค์​ทรง​ถือ​ว่า​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ต้องการ​จะ​ทำ​ให้​พระองค์​พอ​พระทัย​นั้น​มี​ค่า​ล้ำ เป็น​ที่​น่า​ปรารถนา ไม่​ว่า​เขา​จะ​ไม่​สมบูรณ์​แค่​ไหน​ก็​ตาม.—ดานิเอล 9:23; ฮาฆี 2:7.

แน่นอน พระเจ้า​ไม่​ทรง​มอง​ข้าม​ความ​อ่อนแอ​และ​บาป​ใด ๆ ที่​เรา​ทำ. พระองค์​ทรง​คาด​หมาย​ให้​เรา​พยายาม​อย่าง​แข็งขัน​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ถูก​ต้อง และ​พระองค์​ทรง​เกื้อ​หนุน​เรา​เมื่อ​เรา​ทำ​เช่น​นั้น. (ลูกา 13:24) กระนั้น คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “บิดา​เมตตา​บุตร​ของ​ตน​มาก​ฉัน​ใด, พระ​ยะโฮวา​ทรง​พระ​เมตตา​คน​ที่​ยำเกรง​พระองค์​มาก​ฉัน​นั้น.” พระ​คัมภีร์​ยัง​กล่าว​ด้วย​ว่า “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, ถ้า​หาก​พระองค์​จะ​ทรง​จด​จำ​การ​อสัตย์​อธรรม​ทั้งหมด​ไว้, ใคร​จะ​ทน​ไหว? แต่​พระองค์​ทรง​มี​การ​อภัยโทษ, ประสงค์​จะ​ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​เกรง​กลัว​พระองค์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 103:13; 130:3, 4.

ดัง​นั้น จง​หัด​มอง​ดู​ตัว​เอง​อย่าง​ที่​พระเจ้า​ทรง​มอง. การ​รู้​ว่า​พระองค์​ทรง​มอง​ดู​คน​เหล่า​นั้น​ที่​รัก​พระองค์​ว่า​เป็น​ที่​น่า​ปรารถนา และ​รู้​ว่า​พระองค์​มี​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​พวก​เขา—ถึง​แม้​เขา​อาจ​ถือ​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​ค่า​ก็​ตาม—สามารถ​เพิ่ม​ความ​สุข​มาก​มาย​ให้​คน​เรา.—1 โยฮัน 3:19, 20.

ความ​หวัง—สำคัญ​ยิ่ง​ต่อ​ความ​สุข

แนว​คิด​ที่​ได้​รับ​การ​ส่ง​เสริม​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​ซึ่ง​เรียก​ว่า​จิตวิทยา​เชิง​สร้าง​สรรค์​ถือ​ว่า การ​มอง​ใน​แง่​ดี​ซึ่ง​พัฒนา​ขึ้น​ได้​โดย​การ​คิด​ใน​แง่​บวก​และ​โดย​เพ่งเล็ง​อยู่​ที่​จุด​ดี​ใน​ตัว​ของ​คน​เรา สามารถ​นำ​ไป​สู่​ความ​สุข​ได้. มี​น้อย​คน​ที่​ไม่​เห็น​ด้วย​ที่​ว่า การ​มอง​ใน​แง่​ดี​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​และ​อนาคต​ย่อม​เพิ่ม​ความ​สุข​ให้​เรา. อย่าง​ไร​ก็​ดี การ​มอง​ใน​แง่​ดี​เช่น​นั้น​ต้อง​อยู่​บน​พื้น​ฐาน​ของ​ความ​เป็น​จริง มิ​ใช่​อาศัย​แค่​ความ​เพ้อ​ฝัน. นอก​จาก​นี้ ไม่​ว่า​จะ​มี​การ​มอง​ใน​แง่​ดี​หรือ​การ​คิด​ใน​แง่​บวก​มาก​แค่​ไหน​ก็​ตาม ก็​จะ​ไม่​กำจัด​สงคราม, ความ​อดอยาก, โรค​ภัย​ไข้​เจ็บ, ภาวะ​มลพิษ, วัย​ชรา, ความ​เจ็บ​ป่วย, หรือ​ความ​ตาย—อัน​เป็น​สิ่ง​ที่​ปล้น​เอา​ความ​สุข​มาก​มาย​ไป​จาก​หลาย​คน. ถึง​อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​มอง​ใน​แง่​ดี​ก็​ยัง​เป็น​ประโยชน์​อยู่​ดี.

น่า​สนใจ คัมภีร์​ไบเบิล​มิ​ได้​ใช้​คำ​ว่า​การ​มอง​ใน​แง่​ดี แต่​ใช้​คำ​ที่​มี​พลัง​มาก​กว่า​นั่น​คือ​คำ​ว่า​ความ​หวัง. พจนานุกรม​อธิบาย​ศัพท์​ครบ​ถ้วน​ของ​ไวน์ (ภาษา​อังกฤษ) ให้​คำ​นิยาม “ความ​หวัง” ดัง​ที่​ใช้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​เป็น “ความ​คาด​หมาย​ที่​น่า​พอ​ใจ​และ​มั่น​ใจ, . . . การ​คาด​ล่วง​หน้า​ถึง​สิ่ง​ดี​อย่าง​เป็น​สุข​เบิกบาน.” ตาม​สำนวน​ที่​ใช้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ความ​หวัง​มิ​ใช่​เป็น​เพียง​การ​มอง​สถานการณ์​ใน​แง่​ดี แต่​ยัง​พาด​พิง​ถึง​สิ่ง​ซึ่ง​เป็น​พื้น​ฐาน​ของ​ความ​หวัง​นั้น​ด้วย. (เอเฟโซ 4:4; 1 เปโตร 1:3) ตัว​อย่าง​เช่น ความ​หวัง​ของ​คริสเตียน​คือ การ​ที่​สิ่ง​อัน​ไม่​พึง​ปรารถนา​ทั้ง​มวล​ซึ่ง​มี​กล่าว​ถึง​ใน​วรรค​ก่อน​นั้น​จะ​ถูก​กำจัด​ออก​ไป​ไน​ไม่​ช้า. (บทเพลง​สรรเสริญ 37:9-11, 29) แต่​ความ​หวัง​ดัง​กล่าว​ยัง​ครอบ​คลุม​มาก​กว่า​นั้น​อีก.

คริสเตียน​ตั้ง​ตา​คอย​สมัย​ที่​มนุษย์​ผู้​ซื่อ​สัตย์​จะ​บรรลุ​ชีวิต​สมบูรณ์​บน​แผ่นดิน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน. (ลูกา 23:42, 43, ล.ม.) วิวรณ์ 21:3, 4 (ล.ม.) ขยาย​ความ​เกี่ยว​กับ​ความ​หวัง​นั้น​โดย​กล่าว​ว่า “นี่​แน่ะ! พลับพลา​ของ​พระเจ้า​อยู่​กับ​มนุษยชาติ และ​พระองค์​จะ​สถิต​กับ​เขา และ​พวก​เขา​จะ​เป็น​ชน​ชาติ​ต่าง ๆ ของ​พระองค์. . . . และ​พระองค์​จะ​ทรง​เช็ด​น้ำตา​ทุก​หยด​จาก​ตา​ของ​พวก​เขา และ​ความ​ตาย​จะ​ไม่​มี​อีก​ต่อ​ไป ทั้ง​ความ​ทุกข์​โศก​หรือ​เสียง​ร้อง​หรือ​ความ​เจ็บ​ปวด​จะ​ไม่​มี​อีก​เลย. สิ่ง​ที่​เคย​มี​อยู่​เดิม​นั้น​ผ่าน​พ้น​ไป​แล้ว.”

ใคร​ก็​ตาม​ที่​คาด​หมาย​จะ​มี​อนาคต​เช่น​นั้น​ย่อม​มี​เหตุ​ผล​ทุก​ประการ​ที่​จะ​มี​ความ​สุข ถึง​แม้​สภาพการณ์​ปัจจุบัน​ของ​เขา​ไม่​ราบรื่น​ดัง​ที่​ปรารถนา. (ยาโกโบ 1:12) ดัง​นั้น ไฉน​ไม่​ตรวจ​สอบ​ดู​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​ค้น​หา​เหตุ​ผล​ที่​คุณ​จะ​เชื่อ​เรื่อง​นี้​ได้. จง​เสริม​ความ​หวัง​ของ​คุณ​ให้​มั่นคง​ขึ้น​โดย​ใช้​เวลา​แต่​ละ​วัน​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล. การ​ทำ​เช่น​นั้น​จะ​ทำ​ให้​คุณ​มั่งคั่ง​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ, ช่วย​คุณ​หลีก​เลี่ยง​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​ปล้น​ความ​สุข​ไป​จาก​ผู้​คน, และ​เสริม​สร้าง​ความ​สำนึก​ของ​คุณ​ใน​เรื่อง​ความ​อิ่ม​ใจ. ถูก​แล้ว เคล็ดลับ​สุด​ท้าย​ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ความ​สุข​แท้​คือ การ​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 12:13) ชีวิต​ที่​สร้าง​ขึ้น​บน​พื้น​ฐาน​ของ​การ​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ชีวิต​ที่​มี​ความ​สุข เพราะ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ความ​สุข​ย่อม​มี​แก่​ผู้​ที่​ได้​ยิน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​ถือ​รักษา​พระ​คำ​นั้น!”—ลูกา 11:28, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 2 ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​เป็น​เรื่อง​ไม่​จำเป็น​สำหรับ​ชาว​พุทธ.

[ภาพ​หน้า 5]

ความ​สุข​ไม่​อาจ​พบ​ได้​โดย​การ สั่ง​สม​ทรัพย์​สมบัติ, แยก​ตัว​อยู่​โดด​เดี่ยว, หรือ​ไว้​วางใจ​ใน​ความ​รู้​อัน​จำกัด​ของ​มนุษย์

[ภาพ​หน้า 6]

ชีวิต​ที่​อยู่​บน​พื้น​ฐาน​ของ​การ​เชื่อ​ฟัง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​ชีวิต​ที่​มี​ความ​สุข

[ภาพ​หน้า 7]

ความ​หวัง​ของ​คริสเตียน​ทำ​ให้​คน​เรา​มี​ความ​สุข