ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

อย่ายอมให้ความสงสัยทำลายความเชื่อของคุณ

อย่ายอมให้ความสงสัยทำลายความเชื่อของคุณ

อย่า​ยอม​ให้​ความ​สงสัย​ทำลาย​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ

วัน​หนึ่ง​คุณ​คิด​ว่า​ตัว​เอง​มี​สุขภาพ​ดี. วัน​ต่อ​มา​คุณ​รู้สึก​ไม่​สบาย. โดย​กะทันหัน​คุณ​ไม่​มี​กำลัง​หรือ​ความ​กระปรี้กระเปร่า. คุณ​ปวด​ศีรษะ​และ​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​ไป​ทั้ง​ตัว. เกิด​อะไร​ขึ้น? เชื้อ​โรค​ที่​เป็น​อันตราย​ได้​ทำลาย​ระบบ​ป้องกัน​ของ​ร่าง​กาย​คุณ​และ​ได้​จู่​โจม​อวัยวะ​สำคัญ. หาก​ปล่อย​ไว้​โดย​ไม่​มี​การ​รักษา จุลินทรีย์​ที่​บุกรุก​เหล่า​นี้​อาจ​ทำลาย​สุขภาพ​ของ​คุณ​อย่าง​ถาวร—ถึง​กับ​ทำ​ให้​คุณ​เสีย​ชีวิต​ด้วย​ซ้ำ.

แน่นอน ถ้า​คุณ​สุขภาพ​ไม่​ดี​เมื่อ​ติด​เชื้อ​โรค คุณ​ก็​ยิ่ง​เจ็บ​ป่วย​ได้​ง่าย​ขึ้น. ตัว​อย่าง​เช่น หาก​ร่าง​กาย​คุณ​อ่อนแอ​ลง​เนื่อง​จาก​การ​ขาด​สาร​อาหาร ความ​ต้านทาน​ของ​คุณ “กลับ​ต่ำ​ลง​จน​กระทั่ง​การ​ติด​เชื้อ​เล็ก​น้อย​ก็​อาจ​ทำ​ให้​ถึง​ตาย​ได้” ปีเตอร์ วินเกต นัก​เขียน​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​การ​แพทย์​ได้​กล่าว​ไว้​เช่น​นั้น.

หาก​เป็น​อย่าง​นั้น ใคร​หรือ​จะ​อยาก​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​อด ๆ อยาก ๆ? อาจ​เป็น​ได้​ที​เดียว​ที่​คุณ​คง​จะ​ทำ​อะไร​ก็​ตาม​เท่า​ที่​ทำ​ได้​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​ที่​เหมาะ​สม​และ​รักษา​สุขภาพ​ดี​ไว้. คุณ​คง​จะ​ทำ​ทุก​อย่าง​เท่า​ที่​ทำ​ได้​ด้วย​เพื่อ​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ติด​เชื้อ​ไวรัส​หรือ​แบคทีเรีย. แต่​คุณ​ใช้​ความ​ระมัดระวัง​อย่าง​เดียว​กัน​ไหม​เมื่อ​มา​ถึง​เรื่อง​การ​รักษา​ความ “เข้มแข็ง​ใน​ความ​เชื่อ” อยู่​ต่อ​ไป? (ติโต 2:2, ล.ม.) ตัว​อย่าง​เช่น คุณ​ตื่น​ตัว​ต่อ​อันตราย​ที่​เกิด​จาก​ความ​สงสัย​ซึ่ง​แฝง​อยู่​นั้น​ไหม? สิ่ง​เหล่า​นี้​อาจ​จู่​โจม​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​คุณ​อย่าง​ง่าย​ดาย​จริง ๆ และ​ทำลาย​ความ​เชื่อ​และ​สัมพันธภาพ​ของ​คุณ​กับ​พระ​ยะโฮวา. บาง​คน​ดู​เหมือน​จะ​ไม่​คำนึง​ถึง​อันตราย​นี้. พวก​เขา​ปล่อย​ตัว​ให้​กลาย​เป็น​เหยื่อ​ของ​ความ​สงสัย​อย่าง​ง่าย​ดาย​โดย​ทำ​ให้​ตัว​เอง​อดอยาก​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​คุณ​อาจ​เป็น​เช่น​นั้น?

ความ​สงสัย—ก่อ​ผล​เสียหาย​เสมอ​ไป​ไหม?

แน่นอน ใช่​ว่า​ความ​สงสัย​ทุก​อย่าง​ก่อ​ผล​เสียหาย? บาง​ครั้ง คุณ​ต้อง​พิจารณา​อย่าง​รอบคอบ​ก่อน​จะ​เชื่อ​อะไร​บาง​อย่าง​จน​กว่า​คุณ​แน่​ใจ​ใน​ข้อ​เท็จ​จริง. การ​ชักชวน​ทาง​ศาสนา​ที่​บอก​ว่า คุณ​ควร​เพียง​แต่​เชื่อ​ก็​พอ​และ​ไม่​ควร​สงสัย​นั้น​นับ​ว่า​เป็น​อันตราย​และ​หลอก​ลวง. จริง​อยู่ คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า ความ​รัก “เชื่อ​ทุก​สิ่ง.” (1 โกรินโธ 13:7, ล.ม.) แน่นอน คริสเตียน​ที่​มี​ความ​รัก​พร้อม​จะ​เชื่อ​คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​เท่า​ที่​ผ่าน​มา​ได้​พิสูจน์​ว่า​ไว้​ใจ​ได้. แต่​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เตือน​เช่น​กัน​ว่า​ให้​ระวัง ‘การ​เชื่อ​คำ​บอก​เล่า​ทุก​คำ.’ (สุภาษิต 14:15) บาง​ครั้ง ประวัติ​ใน​อดีต​ของ​คน​เรา​ทำ​ให้​มี​เหตุ​ผล​อัน​ควร​ที่​จะ​สงสัย. คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​ว่า “แม้ [นัก​พูด​ที่​หลอก​ลวง] จะ​พูด​คำ​ไพเราะ​อย่า​เชื่อ​เขา​เลย.”—สุภาษิต 26:24, 25.

อัครสาวก​โยฮัน​ยัง​เตือน​คริสเตียน​ให้​ระวัง​การ​เชื่อ​โดย​ไม่​สงสัย​ด้วย. ท่าน​เขียน​ว่า “อย่า​เชื่อ​ทุก​ถ้อย​คำ​ที่​กล่าว​โดย​การ​ดล​ใจ.” แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น “จง​ตรวจ​ดู​ว่า​ถ้อย​คำ​เหล่า​นั้น​มา​จาก​พระเจ้า​หรือ​ไม่.” (1 โยฮัน 4:1, ล.ม.) “ถ้อย​คำ” คำ​สอน​หรือ​ความ​คิด​เห็น อาจ​ดู​เหมือน​ว่า​มา​จาก​พระเจ้า. แต่​นั่นมา​จาก​พระองค์​จริง ๆ ไหม? การ​แสดง​ความ​สงสัย​บาง​อย่าง หรือ​ยับยั้ง​ความ​เชื่อ​ไว้​ก่อน อาจ​เป็น​การ​ป้องกัน​อย่าง​แท้​จริง เพราะ​ดัง​ที่​อัครสาวก​โยฮัน​กล่าว​นั้น “ผู้​ล่อ​ลวง​หลาย​คน​ได้​แพร่​หลาย​ไป​ใน​โลก​แล้ว.”—2 โยฮัน 7.

ความ​สงสัย​ที่​ไม่​มี​มูล​ความ​จริง

ถูก​แล้ว บ่อย​ครั้ง​จำเป็น​ต้อง​มี​การ​ตรวจ​สอบ​ข้อ​เท็จ​จริง​ต่าง ๆ อย่าง​ซื่อ​สัตย์​และ​ถ่อม​ใจ​เพื่อ​จะ​พิสูจน์​ความ​จริง. อย่าง​ไร​ก็​ดี การ​ทำ​เช่น​นี้​ไม่​เหมือน​กับ​การ​ปล่อย​ให้​ความ​สงสัย​ที่​ไม่​มี​มูล​ความ​จริง​และ​ยัง​ความ​เสียหาย​เกิด​ขึ้น​ใน​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​เรา—ความ​สงสัย​ที่​อาจ​ทำลาย​ความ​เชื่อ​และ​สัมพันธภาพ​ของ​เรา​ที่​ได้​รับ​การ​สร้าง​ขึ้น​อย่าง​มั่นคง​แล้ว. ความ​สงสัย​เช่น​นี้​ได้​รับ​การ​จำกัดความ​ว่า​เป็น​ความ​ไม่​แน่​ใจ​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​หรือ​ความ​คิด​เห็น​ที่​มัก​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​การ​ตัดสิน​ใจ. คุณ​จำ​ได้​ไหม​ว่า​ซาตาน​ได้​เพาะ​เชื้อ​แห่ง​ความ​สงสัย​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​ขึ้น​ใน​จิตใจ​ของ​ฮาวา​โดย​วิธี​ใด? มัน​ถาม​ว่า “จริง​หรือ​ที่​พระเจ้า​ตรัส​ห้าม​ว่า, ‘เจ้า​อย่า​กิน​ผลไม้​ทุก​อย่าง​ใน​สวน​นี้’?” (เยเนซิศ 3:1) แน่นอน ความ​ไม่​แน่​ใจ​ซึ่ง​คำ​ถาม​ที่​ฟัง​ดู​ไม่​มี​พิษ​มี​ภัย​นี้​ได้​ก่อ​ให้​เกิด​ขึ้น​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​เธอ. นั่น​เป็น​วิธี​การ​ที่​ซาตาน​มัก​จะ​ใช้. เหมือน​กับ​คน​ที่​เขียน​บัตร​สนเท่ห์ มัน​ช่ำชอง​ใน​การ​ใช้​คำ​พูด​เสียดสี, คำ​พูด​ที่​จริง​บ้าง​ไม่​จริง​บ้าง, และ​คำ​โกหก. ซาตาน​ได้​ทำลาย​ความ​สัมพันธ์​ที่​ดี​งาม​ซึ่ง​ไว้​ใจ​ได้​มา​นับ​ไม่​ถ้วน โดย​ความ​สงสัย​ที่​แฝง​อยู่​ซึ่ง​ถูก​เพาะ​ขึ้น​โดย​วิธี​นั้น.—ฆะลาเตีย 5:7-9.

สาวก​ยาโกโบ​เข้าใจ​อย่าง​ชัดเจน​ถึง​ผล​กระทบ​ที่​ยัง​ความ​เสียหาย​ของ​ความ​สงสัย​ชนิด​นี้. ท่าน​เขียน​เกี่ยว​กับ​สิทธิ​พิเศษ​อัน​ยอด​เยี่ยม​ที่​เรา​มี​ใน​การ​เข้า​เฝ้า​พระเจ้า​อย่าง​สะดวก​ใจ​เพื่อ​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​ใน​คราว​ที่​มี​การ​ทดลอง. แต่​เมื่อ​คุณ​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า ยาโกโบ​เตือน​ว่า “จง​ให้​ผู้​นั้น​ขอ​ด้วย​ใจ​เชื่อ. อย่า​ให้​มี​ใจ​สงสัย​เลย.” ความ​สงสัย​ใน​สัมพันธภาพ​ของ​เรา​กับ​พระเจ้า​ทำ​ให้​เรา “เป็น​เหมือน​คลื่น​แห่ง​ทะเล​ซึ่ง​ถูก​ลม​พัด​ซัด​ไป​ซัด​มา.” เรา​กลาย​เป็น​เหมือน “คน​สอง​ใจ​ไม่​ยั่งยืน​ใน​บรรดา​ทาง​ทั้ง​หลาย​ที่​ตน​ประพฤติ​นั้น.” (ยาโกโบ 1:6, 8) เรา​จะ​เกิด​ความ​ไม่​แน่​ใจ​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เรา​เป็น​คน​โลเล. ครั้น​แล้ว ดัง​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น​กับ​ฮาวา เรา​จะ​กลาย​เป็น​คน​เปราะ​บาง​ต่อ​คำ​สอน​และ​ปรัชญา​ต่าง ๆ ซึ่ง​มา​จาก​ซาตาน

การ​รักษา​ไว้​ซึ่ง​สุขภาพ​ที่​ดี​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ

ถ้า​เช่น​นั้น เรา​จะ​ป้องกัน​ตัว​ไว้​จาก​ความ​สงสัย​ที่​ก่อ​ผล​เสียหาย​ได้​อย่าง​ไร? คำ​ตอบ​ง่าย​เหลือ​เกิน: โดย​ปฏิเสธ​การ​โฆษณา​ชวน​เชื่อ​ของ​ซาตาน​อย่าง​เด็ดขาด​และ​รับ​ประโยชน์​เต็ม​ที่​จาก​การ​จัด​เตรียม​ต่าง ๆ ของ​พระเจ้า​ที่​ทำ​ให้​เรา “มั่นคง​ใน​ความ​เชื่อ.”—1 เปโตร 5:8-10.

สิ่ง​ที่​จำเป็น​อย่าง​แท้​จริง​คือ​การ​บำรุง​เลี้ยง​ตัว​เอง​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​ดี. วินเกต นัก​เขียน​ที่​มี​การ​กล่าว​ถึง​ใน​ตอน​ต้น​อธิบาย​ว่า “แม้​แต่​เมื่อ​ร่าง​กาย​พักผ่อน​อยู่ ก็​ยัง​จำเป็น​ต้อง​มี​การ​จัด​ส่ง​พลังงาน​ให้​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​สำหรับ​กระบวนการ​ทาง​เคมี และ​สำหรับ​การ​ทำ​งาน​ของ​อวัยวะ​ที่​สำคัญ​ใน​ร่าง​กาย และ​ส่วน​ประกอบ​ของ​เนื้อ​เยื่อ​มาก​มาย​จำเป็น​ต้อง​มี​การ​ทดแทน​อยู่​เรื่อย ๆ.” สุขภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา​ก็​เป็น​เช่น​เดียว​กัน. ถ้า​ไม่​มี​การ​บำรุง​เลี้ยง​ฝ่าย​วิญญาณ​อยู่​เสมอ​แล้ว ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ก็​จะ​เหมือน​กับ​ร่าง​กาย​ที่​ขาด​อาหาร คือ​ค่อย ๆ ได้​รับ​ความ​เสียหาย​และ​จะ​ตาย​ใน​ที่​สุด. พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​ย้ำ​เรื่อง​นี้​เมื่อ​พระองค์​ตรัส​ว่า “มนุษย์​จะ​เลี้ยง​ชีพ​ด้วย​อาหาร​แต่​อย่าง​เดียว​ไม่​ได้ แต่​ด้วย​คำ​ตรัส​ทุก​คำ​ที่​ออก​มา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​ยะโฮวา.”—มัดธาย 4:4, ล.ม.

ขอ​ให้​คิด​ถึง​เรื่อง​นี้. เรา​ได้​สร้าง​ความ​เชื่อ​ที่​มั่นคง​ใน​ตอน​แรก​โดย​วิธี​ใด? อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “ความ​เชื่อ​เกิด​จาก​สิ่ง​ที่​ได้​ยิน.” (โรม 10:17, ล.ม.) ท่าน​หมายความ​ว่า ที​แรก​เรา​สร้าง​ความ​เชื่อ​และ​ความ​มั่น​ใจ​ของ​เรา​ใน​พระ​ยะโฮวา, คำ​สัญญา, และ​องค์การ​ของ​พระองค์​โดย​การ​บำรุง​เลี้ยง​ตัว​ด้วย​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. แน่นอน เรา​มิ​ใช่​แค่​เชื่อ​ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​ยิน​โดย​ไม่​พินิจ​พิเคราะห์. เรา​ทำ​อย่าง​ที่​ผู้​คน​ซึ่ง​อยู่​ใน​เมือง​เบรอยะ​ได้​ทำ​นั้น. เรา “ตรวจ​ค้น​ดู​พระ​คัมภีร์​อย่าง​รอบคอบ​ทุก ๆ วัน เพื่อ​ดู​ว่า​ข้อ​ความ​นั้น​จะ​จริง​ดัง​กล่าว​หรือ​ไม่.” (กิจการ 17:11, ล.ม.) เรา​ได้ “พิสูจน์​แก่​ตัว​เอง​ใน​เรื่อง​พระทัย​ประสงค์​อัน​ดี ที่​น่า​รับ​ไว้​และ​สมบูรณ์​พร้อม​ของ​พระเจ้า” และ​ตรวจ​สอบ​ให้​แน่ชัด​ว่า​เรื่อง​ที่​เรา​ได้​ยิน​นั้น​เป็น​ความ​จริง. (โรม 12:2, ล.ม.; 1 เธซะโลนิเก 5:21) ตั้ง​แต่​นั้น​มา ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ดู​เหมือน​จะ​ได้​รับ​การ​เสริม​ให้​เข้มแข็ง​ขึ้น​ขณะ​ที่​เรา​เห็น​ชัดเจน​ยิ่ง​ขึ้น​เรื่อย ๆ ว่า พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์​ไม่​มี​วัน​ล้มเหลว​เลย.—ยะโฮซูอะ 23:14; ยะซายา 55:10, 11.

หลีก​เลี่ยง​ความ​อดอยาก​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ

ตอน​นี้​ข้อ​ท้าทาย​คือ การ​รักษา​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ให้​คง​อยู่​ต่อ​ไป​และ​หลีก​เลี่ยง​ความ​ไม่​แน่​ใจ​ใด ๆ เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ซึ่ง​อาจ​ทำ​ให้​ความ​มั่น​ใจ​ที่​เรา​มี​ใน​พระ​ยะโฮวา​และ​องค์การ​ของ​พระองค์​นั้น​ลด​น้อย​ลง. เพื่อ​จะ​ทำ​เช่น​นี้​เรา​ต้อง​ตรวจ​ค้น​ดู​พระ​คัมภีร์​ทุก ๆ วัน​ไม่​ขาด. อัครสาวก​เปาโล​เตือน​ว่า “ภาย​หลัง​บาง​คน [ผู้​ซึ่ง​ที​แรก​อาจ​ดู​เหมือน​ว่า​มี​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง] จะ​ถอย​ห่าง​จาก​ความ​เชื่อ โดย​ใส่​ใจ​กับ​ถ้อย​คำ​โดย​การ​ดล​ใจ​ซึ่ง​ทำ​ให้​หลง​ผิด​และ​คำ​สอน​ของ​ผี​ปิศาจ.” (1 ติโมเธียว 4:1, ล.ม.) ถ้อย​คำ​และ​คำ​สอน​ซึ่ง​ทำ​ให้​หลง​ผิด​ดัง​กล่าว​สร้าง​ความ​สงสัย​ขึ้น​ใน​จิตใจ​ของ​บาง​คน​และ​ทำ​ให้​เขา​เหินห่าง​จาก​พระเจ้า. เรา​จะ​ป้องกัน​ตัว​อย่าง​ไร? ก็​โดย​รับ​การ “บำรุง​เลี้ยง​ด้วย​ถ้อย​คำ​แห่ง​ความ​เชื่อ​และ​ด้วย​คำ​สอน​อัน​ดี​ที่ [เรา] ได้​ประพฤติ​ตาม​อย่าง​ใกล้​ชิด” นั้น​ต่อ ๆ ไป.—1 ติโมเธียว 4:6, ล.ม.

แต่​น่า​เศร้า บาง​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​เลือก​ที่​จะ​ไม่​รับ​การ “บำรุง​เลี้ยง​ด้วย​ถ้อย​คำ​แห่ง​ความ​เชื่อ”—ทั้ง ๆ ที่​การ​บำรุง​เลี้ยง​ดัง​กล่าว​สามารถ​หา​รับ​ได้​โดย​ไม่​ต้อง​เสีย​ค่า. ดัง​ที่​ผู้​เขียน​พระ​ธรรม​สุภาษิต​คน​หนึ่ง​ได้​บ่ง​ชี้​นั้น เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​อยู่​ใน​ที่​ที่​มี​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​มาก​มาย อยู่​ใน​งาน​เลี้ยง​ฝ่าย​วิญญาณ แต่​ก็​ยัง​คง​ไม่​ได้​รับประทาน​และ​ย่อย​อาหาร​นั้น​อย่าง​แท้​จริง.—สุภาษิต 19:24; 26:15.

เรื่อง​นี้​เป็น​อันตราย. วินเกต​กล่าว​ว่า “ทันที​ที่​ร่าง​กาย​เริ่ม​เผา​ผลาญ​โปรตีน​ของ​ตัว​เอง สุขภาพ​ก็​เริ่ม​ได้​รับ​ความ​เสียหาย.” เมื่อ​คุณ​อด​อาหาร ร่าง​กาย​ของ​คุณ​เริ่ม​ใช้​เชื้อเพลิง​ที่​เก็บ​สำรอง​ไว้​ทั่ว​ร่าง​กาย. เมื่อ​แหล่ง​พลังงาน​เหล่า​นี้​ถูก​ใช้​จน​หมด​เกลี้ยง ร่าง​กาย​ก็​เริ่ม​เผา​ผลาญ​โปรตีน​ซึ่ง​จำเป็น​อย่าง​ยิ่ง​สำหรับ​การ​เจริญ​เติบโต​และ​การ​ซ่อมแซม​เนื้อ​เยื่อ. อวัยวะ​ที่​สำคัญ​เริ่ม​หยุด​ทำ​งาน. ครั้น​แล้ว​สุขภาพ​ของ​คุณ​ก็​ทรุดโทรม​ลง​อย่าง​รวด​เร็ว.

นั่น​เป็น​สิ่ง​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น​ใน​ความหมาย​ฝ่าย​วิญญาณ​กับ​บาง​คน​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ยุค​แรก. พวก​เขา​พยายาม​จะ​ยัง​ชีวิต​อยู่​ด้วย​สิ่ง​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​เขา​มี​สำรอง​ไว้​เท่า​นั้น. ดู​เหมือน​ว่า​เขา​ละเลย​การ​ศึกษา​ส่วน​ตัว และ​กลาย​เป็น​คน​อ่อนแอ​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. (เฮ็บราย 5:12) อัครสาวก​เปาโล​ได้​อธิบาย​อันตราย​ใน​การ​ทำ​เช่น​นี้​เมื่อ​ท่าน​เขียน​ถึง​คริสเตียน​ชาว​ฮีบรู​ว่า “จำเป็น​ที่​เรา​จะ​เอา​ใจ​ใส่​ใน​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​เรา​ได้​ยิน​แล้ว​นั้น​ให้​มาก​กว่า​ปกติ เพื่อ​ว่า​เรา​จะ​ไม่​ลอย​ห่าง​ไป.” ท่าน​ทราบ​ว่า​ง่าย​สัก​เพียง​ไร​ที่​จะ​ลอย​ไป​สู่​นิสัย​ที่​ไม่​ดี​หาก​เรา “ไม่​ใส่​ใจความ​รอด​อัน​สำคัญ​ยิ่ง​เช่น​นั้น.”—เฮ็บราย 2:1, 3, ล.ม.

เป็น​ที่​น่า​สนใจ คน​ที่​ได้​รับ​ความ​เสียหาย​จาก​ภาวะ​ทุโภชนาการ​ใช่​ว่า​จะ​ต้อง​ดู​เหมือน​ป่วย​หรือ​ผอม. คล้าย​กัน อาจ​ไม่​ปรากฏ​ชัด​ทันที​ว่า​ใคร​สัก​คน​ได้​รับ​ความ​เสียหาย​จาก​ความ​อดอยาก​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. คุณ​อาจ​ดู​มี​สภาพ​ที่​ดี​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ แม้​เมื่อ​คุณ​ไม่​ได้​รับ​การ​บำรุง​เลี้ยง​อย่าง​เหมาะ​สม—แต่​ก็​ใน​ช่วง​เวลา​สั้น ๆ เท่า​นั้น! คุณ​จะ​กลาย​เป็น​คน​อ่อนแอ​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​เลี่ยง​ไม่​พ้น ได้​รับ​ผล​กระทบ​ง่าย​จาก​ความ​สงสัย​ที่​ไม่​มี​มูล​ความ​จริง และ​ไม่​สามารถ​ต่อ​สู้​อย่าง​ทรหด​เพื่อ​ความ​เชื่อ. (ยูดา 3, ล.ม.) คุณ​ย่อม​รู้​ขอบ​เขต​อัน​แท้​จริง​ของ​การ​บำรุง​เลี้ยง​ฝ่าย​วิญญาณ​ส่วน​ตัว​ของ​คุณ ถึง​แม้​คน​อื่น​ไม่​รู้​ก็​ตาม.

ฉะนั้น จง​ศึกษา​ส่วน​ตัว​ต่อ ๆ ไป. จง​ต่อ​สู้​อย่าง​แข็งขัน​กับ​ความ​สงสัย. การ​มอง​ข้าม​สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​เป็น​การ​ติด​เชื้อ​เล็ก​น้อย ไม่​สนใจ​ไยดี​ต่อ​ความ​สงสัย​ที่​กวน​ใจ​อยู่​เรื่อย ๆ อาจ​เกิด​ผล​เสียหาย​ได้. (2 โกรินโธ 11:3) ‘เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​จริง ๆ ไหม? คุณ​สามารถ​เชื่อ​ทุก​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ไว้​ไหม? นี่​เป็น​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ ไหม?’ ซาตาน​ชอบ​ที่​จะ​เพาะ​ความ​สงสัย​อย่าง​นั้น​ขึ้น​ใน​จิตใจ​ของ​คุณ. อย่า​ปล่อย​ให้​เจตคติ​ที่​ละเลย​ต่อ​การ​บำรุง​เลี้ยง​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ทำ​ให้​คุณ​เป็น​เหยื่อ​คำ​สอน​ที่​หลอก​ลวง​ของ​มัน​อย่าง​ง่าย​ดาย. (โกโลซาย 2:4-7) จง​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ที่​ให้​แก่​ติโมเธียว​นั้น. จง​เป็น​นัก​ศึกษา​ที่​ดี​ใน​การ​เรียน​รู้ “คำ​จารึก​อัน​ศักดิ์สิทธิ์” เพื่อ​คุณ​จะ​สามารถ ‘ดำเนิน​ต่อ​ไป​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​ได้​เรียน​รู้​และ​สิ่ง​ที่​คุณ​ถูก​โน้ม​น้าว​ใจ​ให้​เชื่อ.’—2 ติโมเธียว 3:13-15, ล.ม.

คุณ​อาจ​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​เพื่อ​จะ​ทำ​เช่น​นี้. ผู้​เขียน​ที่​ได้​อ้าง​ถึง​ใน​ตอน​ต้น​ได้​พูด​ต่อ​ไป​ว่า “เนื่อง​ด้วย​การ​ขาด​อาหาร​อย่าง​รุนแรง อวัยวะ​เกี่ยว​กับ​การ​ย่อย​อาจ​ได้​รับ​ความ​เสียหาย​เนื่อง​จาก​ขาด​วิตามิน​และ​สาร​อื่น ๆ ที่​จำเป็น จน​กระทั่ง​ไม่​สามารถ​รับ​อาหาร​ธรรมดา​ได้​อีก​ต่อ​ไป​หาก​มี​การ​เตรียม​ให้. คน​ที่​อยู่​ใน​ภาวะ​เช่น​นี้​อาจ​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​อาหาร​ที่​ย่อย​ง่าย​อยู่​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง.” จำเป็น​ต้อง​ให้​การ​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​เป็น​พิเศษ​เพื่อ​จะ​เยียว​ยา​ผล​กระทบ​จาก​การ​ที่​ร่าง​กาย​ขาด​อาหาร. คล้าย​กัน คน​ที่​ละเลย​อย่าง​สิ้นเชิง​ใน​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ส่วน​ตัว​อาจ​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​และ​การ​การ​กระตุ้น​หนุน​ใจ​อย่าง​มาก​เพื่อ​ทำ​ให้​ความ​อยาก​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เขา​กลับ​คืน​มา. หาก​สภาพการณ์​ของ​คุณ​เป็น​เช่น​นั้น จง​แสวง​หา​ความ​ช่วยเหลือ​และ​ยินดี​ยอม​รับ​การ​ช่วยเหลือ​ใด ๆ ที่​มี​การ​เสนอ​ให้​คุณ​เพื่อ​สร้าง​สุขภาพ​และ​กำลัง​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​คุณ​ขึ้น​มา​ใหม่.—ยาโกโบ 5:14, 15.

อย่า “หวั่นไหว​แคลง​ใจ”

เมื่อ​พิจารณา​สภาพการณ์​ของ​อับราฮาม​ปฐม​บรรพบุรุษ บาง​คน​อาจ​รู้สึก​ว่า​ท่าน​มี​พื้น​ฐาน​ที่​สม​เหตุ​ผล​ที่​จะ​สงสัย. อาจ​ดู​เหมือน​ว่า​มี​เหตุ​ผล​ที​เดียว​ที่​จะ​สรุป​ว่า​ท่าน ‘ไม่​มี​หวัง​ว่า​จะ​ได้​เป็น​บิดา​ของ​หลาย​ประชาชาติ’—ทั้ง ๆ ที่​มี​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​ก็​ตาม. เพราะ​เหตุ​ใด? ก็​จาก​แง่​คิด​ของ​มนุษย์​เพียง​อย่าง​เดียว​สิ่ง​ต่าง ๆ ดู​เหมือน​จะ​ไม่​มี​หวัง. บันทึก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า ‘ท่าน​พิจารณา​ดู​สังขาร​ของ​ท่าน​ซึ่ง​เปรียบ​เหมือน​ตาย​ไป​แล้ว​และ​เมื่อ​คำนึง​ถึง​ครรภ์​ของ​นาง​ซาราห์​ซึ่ง​เป็น​หมัน.’ กระนั้น ท่าน​ไม่​ยอม​อย่าง​เด็ดขาด​ที่​จะ​ปล่อย​ให้​ความ​สงสัย​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​และ​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์​งอก​ราก​ขึ้น​ใน​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​ท่าน. อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​มิ​ได้​ลด​น้อย​ลง​เลย” และ “มิ​ได้​หวั่นไหว​แคลง​ใจ.” อับราฮาม​ยัง​คง “เชื่อ​มั่น​ว่า​พระเจ้า​ทรง​ฤทธิ์​อาจ​กระทำ​ให้​สำเร็จ​ได้​ตาม​ที่​พระองค์​ตรัส​สัญญา​ไว้.” (โรม 4:18-21, ฉบับ​แปล​ใหม่) ตลอด​เวลา​หลาย​ปี​ท่าน​ได้​สร้าง​สัมพันธภาพ​ส่วน​ตัว​กับ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​แน่นแฟ้น​และ​วางใจ​ได้. ท่าน​ได้​ปฏิเสธ​ข้อ​สงสัย​ใด ๆ ที่​อาจ​บั่น​ทอน​สัมพันธภาพ​นั้น.

คุณ​สามารถ​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน​ได้​หาก​คุณ “ยึด​ถือ​แบบ​แผน​แห่ง​ถ้อย​คำ​ที่​มี​ประโยชน์​ต่อ​สุขภาพ”—หาก​คุณ​บำรุง​เลี้ยง​ตัว​อย่าง​เหมาะ​สม​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. (2 ติโมเธียว 1:13, ล.ม.) จง​ถือ​ว่า​ความ​สงสัย​เป็น​อันตราย​ร้ายแรง. ซาตาน​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​อาจ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​สงคราม​เชื้อ​โรค​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. หาก​คุณ​ละเลย​การ​รับ​เอา​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​ดี​จาก​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ส่วน​ตัว​และ​การ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน​แล้ว คุณ​ก็​ทำ​ให้​ตัว​เอง​ถูก​โจมตี​ได้​ง่าย​ใน​การ​สู้​รบ​ดัง​กล่าว. จง​ใช้​ประโยชน์​จาก​เสบียง​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อัน​อุดม​และ​เหมาะ​กับ​เวลา​ที่​จัด​เตรียม​ไว้​โดย “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” (มัดธาย 24:45, ล.ม.) จง “เห็น​ด้วย​กับ​ถ้อย​คำ​ที่​มี​ประโยชน์​ต่อ​สุขภาพ” และ “เข้มแข็ง​ใน​ความ​เชื่อ” ต่อ ๆ ไป. (1 ติโมเธียว 6:3, ล.ม.; ติโต 2:2, ล.ม.) อย่า​ยอม​ให้​ความ​สงสัย​ทำลาย​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ.

[ภาพ​หน้า 21]

คุณ​บำรุง​เลี้ยง​ตัว​เอง​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ดี​เพียง​ไร?