ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณมีวิญญาณที่เป็นอมตะไหม?

คุณมีวิญญาณที่เป็นอมตะไหม?

คุณ​มี​วิญญาณ​ที่​เป็น​อมตะ​ไหม?

อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ไว้​ว่า “พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า​และ​เป็น​ประโยชน์​เพื่อ​การ​สั่ง​สอน, เพื่อ​การ​ว่า​กล่าว, เพื่อ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ให้​เรียบร้อย, เพื่อ​ตี​สอน​ด้วย​ความ​ชอบธรรม.” (2 ติโมเธียว 3:16, ล.ม.) ถูก​แล้ว คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หนังสือ​แห่ง​ความ​จริง​ซึ่ง​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้.—บทเพลง​สรรเสริญ 83:18.

เนื่อง​จาก​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระ​ผู้​สร้าง​สรรพสิ่ง รวม​ทั้ง​มนุษย์​ด้วย พระองค์​ทรง​ทราบ​ดี​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​เรา​เมื่อ​เรา​ตาย. (เฮ็บราย 3:4; วิวรณ์ 4:11) และ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระองค์ พระองค์​ทรง​ประทาน​คำ​ตอบ​ที่​เป็น​ความ​จริง​และ​น่า​พอ​ใจ​สำหรับ​คำ​ถาม​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​หลัง​จาก​ตาย.

วิญญาณ​คือ​อะไร?

ใน​คัมภีร์​ไบเบิล คำ​ต่าง ๆ ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “วิญญาณ” นั้น​โดย​พื้น​ฐาน​แล้ว​หมาย​ถึง “ลม​หายใจ.” แต่​คำ​นี้​หมาย​ถึง​ไม่​เพียง​การ​หายใจ. ตัว​อย่าง​เช่น ยาโกโบ ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “ร่าง​กาย​ที่​ปราศจาก​วิญญาณ​ตาย​แล้ว.” (ยาโกโบ 2:26, ล.ม.) ฉะนั้น วิญญาณ​คือ​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​ร่าง​กาย​มี​ชีวิต.

พลัง​ที่​ให้​ชีวิต​ไม่​อาจ​เป็น​เพียง​ลม​หายใจ​หรือ​อากาศ​ซึ่ง​ไหล​ผ่าน​ปอด​เท่า​นั้น. เพราะ​เหตุ​ใด? ก็​เพราะ​หลัง​จาก​หยุด​หายใจ ชีวิต​ยัง​คง​อยู่​ใน​เซลล์​ร่าง​กาย​อีก​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง—“เป็น​เวลา​หลาย​นาที” ตาม​ที่​สารานุกรม เดอะ เวิลด์ บุ๊ก กล่าว. ด้วย​เหตุ​นี้ การ​พยายาม​กู้​ชีพ​จึง​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ได้. แต่​เมื่อ​พลัง​ชีวิต​หมด​ไป​จาก​เซลล์​ร่าง​กาย ความ​พยายาม​ทุก​อย่าง​เพื่อ​กู้​ชีพ​ก็​ไร้​ผล. ลม​หายใจ​ไม่​ว่า​มาก​เท่า​ใด​ก็​ไม่​อาจ​กู้​ชีวิต​ได้​แม้​แต่​เซลล์​เดียว. ฉะนั้น วิญญาณ​คือ​พลัง​ชีวิต​ที่​ไม่​ประจักษ์​แก่​ตา​ซึ่ง​ทำ​ให้​เซลล์​และ​บุคคล​นั้น​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป. พลัง​ชีวิต​นี้​ได้​รับ​การ​ค้ำจุน​จาก​การ​หายใจ.—โยบ 34:14, 15.

วิญญาณ​นี้​ปฏิบัติ​งาน​เฉพาะ​ใน​มนุษย์​เท่า​นั้น​ไหม? คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​เรา​ให้​บรรลุ​ข้อ​สรุป​ที่​ถูก​ต้อง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้. กษัตริย์​ซะโลโม​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ยอม​รับ​ว่า​มนุษย์​และ​สัตว์ “ทั้ง​หมด​มี​วิญญาณ​อย่าง​เดียว​กัน” และ​ท่าน​ถาม​ว่า “มี​ใคร​ที่​รู้​ว่า​วิญญาณ​แห่ง​บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​มนุษย์​ขึ้น​ไป​สู่​เบื้อง​บน​หรือไม่; และ​วิญญาณ​ของ​สัตว์​ลง​ไป​เบื้อง​ล่าง​สู่​แผ่นดิน​โลก​หรือ​ไม่?” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:19-21, ล.ม.) ดัง​นั้น จึง​กล่าว​กัน​ว่า​ทั้ง​คน​และ​สัตว์​ต่าง​ก็​มี​วิญญาณ. เป็น​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร?

อาจ​เปรียบ​วิญญาณ​หรือ​พลัง​ชีวิต​ได้​กับ​กระแส​ไฟฟ้า​ซึ่ง​ไหล​ผ่าน​เครื่องจักร​กล​หรือ​อุปกรณ์​อย่าง​ใด​อย่าง​หนึ่ง. ไฟฟ้า​ที่​เรา​มอง​ไม่​เห็น​อาจ​ปฏิบัติ​งาน​หลาย​อย่าง ซึ่ง​ขึ้น​อยู่​กับ​ชนิด​ของ​อุปกรณ์​ที่​ใช้​พลัง​ไฟฟ้า. ตัว​อย่าง​เช่น เตา​ไฟฟ้า​ที่​ให้​ความ​ร้อน, คอมพิวเตอร์​ที่​ประมวล​ผล​ข้อมูล​และ​คำนวณ, อีก​ทั้ง​โทรทัศน์​ที่​ให้​ภาพ​และ​เสียง. ถึง​กระนั้น กระแส​ไฟฟ้า​ก็​ไม่​เคย​รับ​เอา​ลักษณะ​ของ​อุปกรณ์​ที่​มัน​ทำ​ให้​ปฏิบัติ​งาน​นั้น. กระแส​ไฟฟ้า​ยัง​คง​เป็น​เพียง​พลัง​อย่าง​หนึ่ง. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน พลัง​ชีวิต​ก็​ไม่​ได้​รับ​เอา​ลักษณะ​ใด ๆ ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​มัน​ทำ​ให้​มี​ชีวิต. พลัง​ชีวิต​ไม่​มี​บุคลิก ไม่​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด. ทั้ง​มนุษย์​และ​สัตว์ “มี​วิญญาณ​อย่าง​เดียว​กัน.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:19, ล.ม.) ฉะนั้น เมื่อ​คน​เรา​ตาย วิญญาณ​ของ​เขา​จึง​ไม่​ดำรง​อยู่​ต่อ​ไป​ใน​ฐานะ​บุคคล​วิญญาณ​ใน​ดินแดน​อื่น​ใด​อีก.

ถ้า​เช่น​นั้น สภาพ​ของ​คน​ตาย​เป็น​อย่าง​ไร? และ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​วิญญาณ​เมื่อ​คน​เรา​ตาย?

‘เจ้า​จะ​ต้อง​กลับ​เป็น​ผงคลี​ดิน​อีก’

เมื่อ​อาดาม​มนุษย์​คน​แรก​จงใจ​ฝ่าฝืน​พระ​บัญชา​ของ​พระเจ้า พระองค์​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “เจ้า​จะ​หา​กิน​ด้วย​เหงื่อ​ไหล​โซม​หน้า​กว่า​เจ้า​จะ​กลับ​เป็น​ดิน; เพราะ​เจ้า​บังเกิด​มา​แต่​ดิน​เจ้า​เป็น​แต่​ผงคลี​ดิน, และ​จะ​ต้อง​กลับ​เป็น​ผงคลี​ดิน​อีก.” (เยเนซิศ 3:19) อาดาม​อยู่​ที่​ไหน​ก่อน​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​เขา​จาก​ผงคลี​ดิน? เขา​ไม่​ได้​อยู่​ที่​ไหน​เลย! เขา​ไม่​เคย​เป็น​อยู่. ดัง​นั้น เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ตรัส​ว่า​อาดาม​จะ “กลับ​เป็น​ดิน” พระองค์​หมายความ​ว่า​อาดาม​จะ​ตาย​และ​กลับ​กลาย​เป็น​ธาตุ​ต่าง ๆ ใน​ดิน. อาดาม​จะ​ไม่​ย้าย​ไป​สู่​แดน​วิญญาณ. เมื่อ​ตาย อาดาม​จะ​กลับ​สู่​สภาพ​ที่​ไม่​เป็น​อยู่​อีก​ครั้ง. โทษ​ของ​เขา​คือ​ตาย—สภาพ​ไร้​ชีวิต—ไม่​ใช่​การ​ย้าย​ไป​สู่​ดินแดน​อื่น​ใด.—โรม 6:23.

คน​อื่น ๆ ที่​ตาย​ไป​แล้ว​ล่ะ​เป็น​อย่าง​ไร? ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5, 10 บอก​ไว้​ชัด​แจ้ง​ใน​เรื่อง​สภาพ​ของ​คน​ตาย ซึ่ง​เรา​อ่าน​ว่า “คน​ตาย​ไม่​รู้​อะไร​เลย . . . ไม่​มี​การ​งาน, ไม่​มี​แผนการ, ไม่​มี​ความ​รู้​หรือ​สติ​ปัญญา ใน​หลุม​ฝัง​ศพ.” (ฉบับ​แปล​ของ​มอฟฟัตต์) ดัง​นั้น ความ​ตาย​คือ​สภาพ​ที่​ไม่​มี​ชีวิต. ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​เขียน​ว่า เมื่อ​คน​เรา​ตาย “ลม​หายใจ​เขา​ขาด [“วิญญาณ​เขา​ออก​ไป,” ล.ม.], เขา​ก็​กลับ​คืน​เป็น​ดิน​อีก; และ​ใน​วัน​นั้น​ที​เดียว​ความ​คิด​ของ​เขา​ก็​ศูนย์​หาย​ไป.”—บทเพลง​สรรเสริญ 146:4.

เห็น​ได้​ชัด​ว่า​คน​ตาย​ไม่​ดำรง​อยู่. พวก​เขา​ไม่​สามารถ​รู้​อะไร​เลย. พวก​เขา​ไม่​สามารถ​เห็น​คุณ, ได้​ยิน​คุณ​พูด, และ​คุย​กับ​คุณ. พวก​เขา​ช่วย​คุณ​หรือ​ทำ​อันตราย​คุณ​ก็​ไม่​ได้. คุณ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​กลัว​คน​ตาย​เลย. แต่​ที่​ว่า​วิญญาณ “ออก​ไป” จาก​คน​เรา​ตอน​ที่​เขา​ตาย​นั้น​หมายความ​อย่าง​ไร?

วิญญาณ “กลับ​ไป​ถึง​พระเจ้า”

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า เมื่อ​คน​เรา​ตาย ‘วิญญาณ​จะ​กลับ​ไป​ถึง​พระเจ้า​พระ​ผู้​ทรง​ประทาน​ให้​มา​นั้น.’ (ท่าน​ผู้​ประกาศ 12:7) นี่​หมายความ​ว่า​วิญญาณ​เดิน​ทาง​ผ่าน​อวกาศ​ไป​ยัง​ที่​ประทับ​ของ​พระเจ้า​จริง ๆ หรือ? เปล่า​เลย! วิธี​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​คำ “กลับ” ไม่​จำเป็น​ต้อง​หมาย​ถึง​การ​ย้าย​จาก​ที่​หนึ่งไป​อีก​ที่​หนึ่ง. ตัว​อย่าง​เช่น มี​การ​บอก​แก่​ชาว​ยิศราเอล​ที่​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ว่า “พระ​ยะโฮวา​จอม​พล​โยธา​ตรัส​ต่อ​ไป​ว่า, ‘จง​กลับ​มา​หา​เรา​เสีย​เถอะ, และ​เรา​จะ​กลับ​ไป​หา​เจ้า​ทั้ง​หลาย.’ ” (มาลาคี 3:7) การ​ที่​ชาติ​ยิศราเอล “กลับ” มา​หา​พระ​ยะโฮวา​นั้น​หมาย​ถึง​การ​หัน​กลับ​จาก​แนว​ทาง​ผิด​และ​ปฏิบัติ​ตาม​แนว​ทาง​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระเจ้า​อีก​ครั้ง. และ​ที่​ว่า​พระ​ยะโฮวา “กลับ” ไป​หา​ชาติ​ยิศราเอล​นั้น​หมายความ​ว่า​พระองค์​ทรง​หัน​ไป​เอา​พระทัย​ใส่​ไพร่พล​ของ​พระองค์​ด้วย​ความ​โปรดปราน​อีก​ครั้ง. ใน​ทั้ง​สอง​กรณี การ “กลับ” นั้น​เกี่ยว​พัน​กับ​เจตคติ ไม่​ใช่​การ​ย้าย​จาก​สถาน​ที่​ทาง​ภูมิศาสตร์​แห่ง​หนึ่ง​ไป​ยัง​อีก​แห่ง​หนึ่ง​จริง ๆ.

ทำนอง​เดียว​กัน ไม่​มี​การ​ย้าย​จาก​แผ่นดิน​โลก​ไป​ยัง​แดน​สวรรค์​เกิด​ขึ้น​จริง ๆ เมื่อ​วิญญาณ “กลับ” ไป​ยัง​พระเจ้า​ใน​ขณะ​ที่​มี​การ​ตาย. เมื่อ​พลัง​ชีวิต​ออก​จาก​คน​เรา พระเจ้า​เท่า​นั้น​ทรง​สามารถ​ทำ​ให้​เขา​มี​พลัง​ชีวิต​นั้น​อีก. ดัง​นั้น วิญญาณ “กลับ​ไป​ถึง​พระเจ้า” ใน​แง่​ที่​ว่า ความ​หวัง​ใด ๆ เกี่ยว​กับ​ชีวิต​อนาคต​ของ​บุคคล​นั้น​บัด​นี้​ขึ้น​อยู่​กับ​พระเจ้า​อย่าง​สิ้นเชิง.

ยก​ตัว​อย่าง ขอ​ให้​พิจารณา​ที่​พระ​คัมภีร์​กล่าว​เกี่ยว​กับ​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​คริสต์. ลูกา​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​บอก​ว่า “พระ​เยซู​ทรง​ร้อง​เสียง​ดัง​แล้ว​ตรัส​ว่า ‘พระ​บิดา​เจ้าข้า ข้าพเจ้า​ฝาก​วิญญาณ​ข้าพเจ้า​ไว้​ใน​พระ​หัตถ์​พระองค์.’ เมื่อ​พระองค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว พระองค์​จึง​สิ้น​พระ​ชนม์.” (ลูกา 23:46, ล.ม.) ขณะ​ที่​วิญญาณ​ของ​พระ​เยซู​ออก​จาก​ร่าง พระองค์​มิ​ได้​เสด็จ​สู่​สวรรค์​จริง ๆ. พระ​เยซู​ไม่​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์​จน​กระทั่ง​ใน​วัน​ที่​สาม และ​อีก 40 วัน​ให้​หลัง​พระองค์​จึง​เสด็จ​ขึ้น​สู่​สวรรค์. (กิจการ 1:3, 9) แต่​ใน​ขณะ​สิ้น​พระ​ชนม์ พระ​เยซู​ทรง​ฝาก​วิญญาณ​ของ​พระองค์​ไว้​ใน​พระ​หัตถ์​แห่ง​พระ​บิดา​ด้วย​ความ​มั่น​พระทัย โดย​ทรง​ไว้​วาง​พระทัย​เต็ม​เปี่ยม​ใน​พระ​ปรีชา​สามารถ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​ทำ​ให้​พระองค์​กลับ​มี​พระ​ชนม์​ชีพ​อีก.

ถูก​แล้ว พระเจ้า​สามารถ​ทำ​ให้​คน​เรา​กลับ​มี​ชีวิต​อีก. (บทเพลง​สรรเสริญ 104:30) เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​มี​ความ​หวัง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​จริง ๆ!

ความ​หวัง​ที่​แน่นอน

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “จะ​มี​เวลา​ที่​บรรดา​ผู้​ซึ่ง​อยู่​ใน​อุโมงค์​รำลึก​จะ​ได้​ยิน​พระ​สุรเสียง​ของ [พระ​เยซู] และ​จะ​ออก​มา.” (โยฮัน 5:28, 29, ล.ม.) ใช่ พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​สัญญา​ว่า​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย หรือ​ถูก​ทำ​ให้​มี​ชีวิต​อีก. แน่นอน​ว่า​ท่ามกลาง​พวก​เขา​จะ​มี​ผู้​ที่​มุ่ง​ติด​ตาม​แนว​ทาง​อัน​ชอบธรรม​ใน​ฐานะ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา. แต่​คน​อื่น​อีก​หลาย​ล้าน​คน​ตาย​ไป​โดย​ยัง​ไม่​ได้​แสดง​ว่า​เขา​จะ​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระเจ้า​หรือ​ไม่. ไม่​ว่า​พวก​เขา​ไม่​เคย​ได้​ทราบ​เกี่ยว​กับ​ข้อ​เรียก​ร้อง​ของ​พระ​ยะโฮวา​หรือ​ว่า​ไม่​มี​เวลา​พอ​จะ​ทำ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​จำเป็น. คน​ประเภท​นี้​ก็​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​พระเจ้า​เช่น​กัน​และ​จะ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​มา เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “คน​ทั้ง​ปวง​ทั้ง​คน​ชอบธรรม​และ​คน​ที่​ไม่​ชอบธรรม​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย.”—กิจการ 24:15.

ปัจจุบัน แผ่นดิน​โลก​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เกลียด​ชัง​และ​การ​ชิง​ดี​ชิง​เด่น, ความ​รุนแรง​และ​การ​นอง​เลือด, ภาวะ​มลพิษ​และ​โรค​ภัย. หาก​คน​ที่​ตาย​แล้ว​จะ​ต้อง​กลับ​มา​มี​ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก​แบบ​นั้น ก็​เป็น​ที่​แน่นอน​ว่า​ความ​สุข​ใด ๆ ที่​เกิด​ขึ้น​คง​มี​ไม่​นาน. แต่​พระ​ผู้​สร้าง​ทรง​สัญญา​ไว้​ว่า ใน​ไม่​ช้า​พระองค์​จะ​ทรง​ทำ​ให้​สังคม​โลก​ปัจจุบัน​ซึ่ง​อยู่​ใต้​อำนาจ​ซาตาน​พญา​มาร​ถึง​จุด​จบ. (สุภาษิต 2:21, 22; ดานิเอล 2:44; 1 โยฮัน 5:19) ครั้น​แล้ว สังคม​มนุษย์​ที่​ชอบธรรม คือ “แผ่นดิน​โลก​ใหม่” จะ​เป็น​จริง​ขึ้น​อย่าง​ยอด​เยี่ยม.— 2 เปโตร 3:13.

ใน​เวลา​นั้น “จะ​ไม่​มี​ใคร​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​พูด​ว่า, ‘ข้าพเจ้า​ป่วย​อยู่.’ ” (ยะซายา 33:24) แม้​แต่​ความ​ปวด​ร้าว​ใจ​เนื่อง​จาก​ความ​ตาย​ก็​จะ​หมด​ไป เพราะ​พระเจ้า “จะ​ทรง​เช็ด​น้ำตา​ทุก ๆ หยด​จาก​ตา​ของ​เขา ความ​ตาย​จะ​ไม่​มี​ต่อ​ไป การ​คร่ำ​ครวญ​และ​ร้องไห้​และ​การ​เจ็บ​ปวด​อย่าง​หนึ่ง​อย่าง​ใด​จะ​ไม่​มี​อีก​เลย เพราะ​เหตุ​การณ์​ที่​ได้​มี​อยู่​แต่​ดั้งเดิม​นั้น​ได้​ล่วง​พ้น​ไป​แล้ว.” (วิวรณ์ 21:4) นับ​เป็น​ความ​หวัง​ที่​ดี​จริง ๆ สำหรับ​ผู้​ที่​อยู่ “ใน​อุโมงค์​รำลึก”!

เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ทรง​กวาด​ล้าง​ความ​ชั่ว​ไป​จาก​แผ่นดิน​โลก พระองค์​จะ​ไม่​ทำลาย​คน​ชอบธรรม​ไป​พร้อม​กับ​คน​ชั่ว. (บทเพลง​สรรเสริญ 37:10, 11; 145:20) แท้​จริง “ชน​ฝูง​ใหญ่ . . . จาก​ชาติ​และ​ตระกูล​และ​ชน​ชาติ​และ​ภาษา​ทั้ง​ปวง” จะ​รอด​ชีวิต​จาก “ความ​ทุกข์​ลำบาก​ครั้ง​ใหญ่” ซึ่ง​จะ​ทำลายโลก​ชั่ว​ใน​ปัจจุบัน. (วิวรณ์ 7:9-14, ล.ม.) ฉะนั้น จะ​มี​ผู้​คน​มาก​มาย​คอย​ต้อนรับ​คน​ตาย​ที่​กลับ​เป็น​ขึ้น​มา.

คุณ​ใคร่​จะ​เห็น​คน​ที่​คุณ​รัก​อีก​ครั้ง​ไหม? คุณ​ปรารถนา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก​ไหม? ถ้า​อย่าง​นั้น คุณ​ต้อง​รับ​เอา​ความ​รู้​ถ่องแท้​เกี่ยว​กับ​น้ำ​พระทัย​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า. (โยฮัน 17:3) พระ​ยะโฮวา​ทรง​มี​พระทัย​ประสงค์​ให้ “คน​ทุก​ชนิด​ได้​ความ​รอด​และ​บรรลุ​ความ​รู้​อัน​ถ่องแท้​เรื่อง​ความ​จริง.”—1 ติโมเธียว 2:3, 4, ล.ม.

[ภาพ​หน้า 4]

“เจ้า​เป็น​แต่​ผงคลี​ดิน, และ​จะ​ต้อง​กลับ​เป็น​ผงคลี​ดิน​อีก”

[ภาพ​หน้า 5]

อาจ​เปรียบ​วิญญาณ​ได้​กับ​กระแส​ไฟฟ้า

[ภาพ​หน้า 7]

การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​จะ​ทำ​ให้​มี​ความ​ยินดี​ถาวร