ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

‘พระพรมีแก่คนชอบธรรม’

‘พระพรมีแก่คนชอบธรรม’

‘พระ​พร​มี​แก่​คน​ชอบธรรม’

เมื่อ​อยู่​ใน​วัย​ชรา​ดาวิด​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ได้​กล่าว​ว่า “ตั้ง​แต่​ข้าพเจ้า​เป็น​คน​หนุ่ม, จน​บัด​นี้​เป็น​คน​ชรา​แล้ว; ข้าพเจ้า​ก็​ยัง​ไม่​เคย​เห็น​คน​สัตย์​ธรรม​ต้อง​ถูก​ละ​ทิ้ง​เสีย, ไม่​เคย​เห็น​พงศ์พันธุ์​ของ​เขา​ขอ​ทาน.” (บทเพลง​สรรเสริญ 37:25) พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​รัก​คน​ชอบธรรม​และ​ใฝ่​พระทัย​ใน​พวก​เขา​อย่าง​ยิ่ง. ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​พระ​คำ​ของ​พระองค์ พระองค์​ทรง​กระตุ้น​เตือน​ผู้​นมัสการ​แท้​ให้​แสวง​หา​ความ​ชอบธรรม.—ซะฟันยา 2:3.

การ​เป็น​คน​ชอบธรรม​หมาย​ถึง​การ​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว. โดย​สนับสนุน​เรา​ให้​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า บท 10 ของ​พระ​ธรรม​สุภาษิต​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ชี้​ถึง​พระ​พร​ฝ่าย​วิญญาณ​อัน​อุดม​ซึ่ง​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ทำ​เช่น​นั้น​ได้​รับ. ใน​บรรดา​พระ​พร​เหล่า​นี้​ก็​มี​อาหาร​ที่​บำรุง​เลี้ยง​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ซึ่ง​จัด​เตรียม​ไว้​อย่าง​บริบูรณ์, งาน​ที่​ให้​ผล​ตอบ​แทน​และ​ทำ​ให้​พอ​ใจ, อีก​ทั้ง​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​พระเจ้า​และ​มนุษย์. ดัง​นั้น​แล้ว ขอ​ให้​เรา​ไตร่ตรอง​ดู​พระ​ธรรม​สุภาษิต 10:1-14.

แรง​กระตุ้น​ที่​ดี​เลิศ

ถ้อย​คำ​เริ่ม​ต้น​ของ​บท​นี้​ไม่​ได้​ปล่อย​ให้​สงสัย​ว่า​ใคร​เป็น​ผู้​เขียน​ส่วน​ต่อ​จาก​นี้​ไป​ของ​พระ​ธรรม​สุภาษิต. ถ้อย​คำ​นั้น​อ่าน​ว่า “สุภาษิต​ของ​ซะโลโม.” โดย​กล่าว​ถึง​แรง​กระตุ้น​ที่​ดี​เลิศ​ใน​การ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง กษัตริย์​ซะโลโม​แห่ง​ยิศราเอล​โบราณ​ตรัส​ว่า “บุตร​ที่​มี​ปัญญา​ย่อม​ทำ​ให้​บิดา​ปลื้ม​ใจ​ยินดี; แต่​บุตร​โง่​เขลา​ย่อม​เป็น​ที่​หนักอก [“ความ​เศร้า​ระทม,” ล.ม.] แก่​มารดา​ตน.”สุภาษิต 10:1.

บิดา​มารดา​ประสบ​ความ​เศร้า​ระทม​เสีย​จริง ๆ เมื่อ​บุตร​คน​หนึ่ง​ของ​เขา​ละ​ทิ้ง​การ​นมัสการ​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้​ผู้​ทรง​พระ​ชนม์​อยู่! กษัตริย์​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ทรง​เลือก​พูด​ถึง​ความ​เศร้า​ระทม​ของ​ผู้​เป็น​มารดา บาง​ที​เพื่อ​บ่ง​บอก​ว่า​ผู้​เป็น​มารดา​ย่อม​เศร้า​ระทม​ยิ่ง​กว่า​ผู้​เป็น​บิดา. นั่น​เป็น​เรื่อง​ที่​เกิด​ขึ้น​จริง​กับ​ดอริส. * เธอ​เล่า​ว่า “เมื่อ​ลูก​ชาย​วัย 21 ปี​ของ​เรา​ทิ้ง​ความ​จริง​ไป ดิฉัน​กับ​แฟรงก์​สามี​ชอก​ช้ำ​ใจ​มาก. ดิฉัน​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​รวดร้าว​ยิ่ง​กว่า​แฟรงก์. เวลา 12 ปี​ที่​ผ่าน​ไป​ก็​ไม่​ได้​เยียว​ยา​ความ​ปวด​ร้าว​นั้น.”

บุตร​อาจ​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​ความ​สุข​ของ​บิดา​และ​อาจ​ทำ​ให้​มารดา​ของ​ตน​ปวด​ร้าว​ใจ​ได้. ขอ​ให้​เรา​แสดง​สติ​ปัญญา​และ​นำ​ความ​ยินดี​มา​สู่​บิดา​มารดา​ของ​เรา. และ​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​นั้น ขอ​เรา​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา พระ​บิดา​ของ​เรา​ทาง​ภาค​สวรรค์​มี​พระทัย​ยินดี.

‘ทำ​ให้​จิตวิญญาณ​ของ​คน​ชอบธรรม​อิ่ม’

กษัตริย์​ตรัส​ว่า “ทรัพย์​สมบัติ​ได้​มา​จาก​การ​ทุจริต​ก็​หา​คุณประโยชน์​มิ​ได้: แต่​ความ​ชอบธรรม​ย่อม​ช่วย​ให้​พ้น​จาก​ความ​ตาย.” (สุภาษิต 10:2) สำหรับ​คริสเตียน​แท้​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​ช่วง​ท้าย​ของ​เวลา​อวสาน ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​นับ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​จริง ๆ. (ดานิเอล 12:4) ความ​พินาศ​ของ​โลก​ที่​ไม่​เลื่อมใส​พระเจ้า​อยู่​ใน​อนาคต​อัน​ใกล้​นี้. ไม่​มี​วิถี​ทาง​แห่ง​ความ​มั่นคง​ปลอด​ภัย​ใด​ที่​มนุษย์​ตั้ง​ขึ้น—ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ทาง​ด้าน​วัตถุ, ด้าน​การ​เงิน, หรือ​การ​ทหาร—จะ​ให้​การ​ปก​ป้อง​ระหว่าง “ความ​ทุกข์​ลำบาก​ครั้ง​ใหญ่” ที่​กำลัง​จะ​มา​ถึง​นี้. (วิวรณ์ 7:9, 10, 13, 14, ล.ม.) เฉพาะ​แต่ “คน​ตรง​จะ​ได้​พำนัก​อยู่​ใน​แผ่นดิน, และ​คน​ดี​รอบคอบ​จะ​ได้​ดำรง​อยู่​บน​แผ่นดิน​นั้น.” (สุภาษิต 2:21) ดัง​นั้น ขอ​ให้​เรา “แสวง​หา​ราชอาณาจักร​และ​ความ​ชอบธรรม [ของ​พระเจ้า]ก่อน” เสมอ​ไป.—มัดธาย 6:33, ล.ม.

ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ต้อง​คอย​จน​กระทั่ง​ถึง​โลก​ใหม่​ที่​ทรง​สัญญา​ไว้​นั้น​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​พระ​พร​จาก​พระเจ้า. “พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ทรง​ปล่อย​ให้​วิญญาณ​ของ​คน​ชอบธรรม​หิว​กระหาย; แต่​พระองค์​ทรง​ขัด​ขวาง​ความ​โลภ​ของ​คน​ชั่ว​ร้าย.” (สุภาษิต 10:3) พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​จัด​เตรียม​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​บริบูรณ์​โดย​ทาง “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” (มัดธาย 24:45, ล.ม.) คน​ชอบธรรม​มี​เหตุ​ผล​อย่าง​แน่นอน​ที่​จะ “โห่​ร้อง​ด้วย​ความ​ดีใจ.” (ยะซายา 65:14) ความ​รู้​เป็น​ที่​น่า​ยินดี​สำหรับ​จิตวิญญาณ​ของ​เขา. การ​เสาะหา​ทรัพย์​สมบัติ​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​ความ​ยินดี​สำหรับ​เขา. คน​ชั่ว​ไม่​รู้​จัก​ความ​ยินดี​ดัง​กล่าว.

‘ความ​ขยัน​ขันแข็ง​กระทำ​ให้​คน​มั่งคั่ง’

คน​ชอบธรรม​ได้​รับ​พระ​พร​ใน​อีก​วิธี​หนึ่ง​ด้วย. “บุคคล​ผู้​ทำ​การ​ด้วย​มือ​เกียจ​คร้าน​ย่อม​ยาก​จน​ลง; แต่​มือ​ซึ่ง​ขยัน​ขันแข็ง​กระทำ​ให้​เกิด​ความ​มั่งคั่ง, บุคคล​ผู้​สะสม​ไว้​ใน​ฤดู​ร้อน​ก็​เป็น​บุตร​ที่​มี​ปัญญา; แต่​บุคคล​ผู้​หลับใหล​ใน​ฤดู​เกี่ยว​เก็บ​ก็​เป็น​บุตร​ที่​เป็น​เหตุ​ให้​ได้​รับ​ความ​อับอาย.”สุภาษิต 10:4, 5.

ถ้อย​คำ​ของ​กษัตริย์​มี​ความหมาย​โดย​เฉพาะ​สำหรับ​คน​ที่​ทำ​งาน​ระหว่าง​การ​เก็บ​เกี่ยว. ฤดู​เก็บ​เกี่ยว​ไม่​ใช่​เวลา​สำหรับ​การ​หลับใหล แต่​เป็น​เวลา​สำหรับ​ความ​ขยัน​ขันแข็ง​และ​การ​ทำ​งาน​นาน​หลาย​ชั่วโมง. ที่​จริง เป็น​เวลา​ของ​ความ​เร่ง​ด่วน.

โดย​คำนึง​ถึง​การ​เก็บ​เกี่ยว ไม่​ใช่​ข้าว แต่​เป็น​ผู้​คน พระ​เยซู​ทรง​แจ้ง​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “การ​เกี่ยว​นั้น​เป็น​การ​ใหญ่​นัก​หนา, แต่​คน​ทำ​การ​ยัง​น้อย​อยู่. เหตุ​ฉะนั้น​จง​อธิษฐาน​ขอ​ต่อ​เจ้าของ​ของ​การ​เกี่ยว​นั้น [พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า], ให้​ใช้​คน​ทำ​การ​หลาย​คน​ไป​ใน​การ​เกี่ยว​ของ​พระองค์.” (มัดธาย 9:35-38) ใน​ปี 2000 มี​มาก​กว่า 14 ล้าน​คน​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​อนุสรณ์​เกี่ยว​กับ​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู—มาก​กว่า​จำนวน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอง​เท่า. ดัง​นั้น ใคร​หรือ​จะ​ปฏิเสธ​ได้​ว่า “ทุ่ง​นา​เหลือง​ถึง​ฤดู​เกี่ยว​แล้ว”? (โยฮัน 4:35) ผู้​นมัสการ​แท้​ทูล​ขอ​เจ้าของ​นา​เพื่อ​ให้​มี​คน​งาน​มาก​ขึ้น ขณะ​ที่​ทุ่มเท​ตัว​เอง​อย่าง​แข็งขัน​ใน​งาน​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก​อย่าง​ที่​สอดคล้อง​กับ​คำ​อธิษฐาน​ของ​พวก​เขา. (มัดธาย 28:19, 20) และ​พระ​ยะโฮวา​ได้​อวย​พระ​พร​ความ​พยายาม​ของ​พวก​เขา​อย่าง​อุดม​สัก​เพียง​ไร! ระหว่าง​ปี​รับใช้ 2000 มี​คน​ใหม่​มาก​กว่า 280,000 คน​ได้​รับ​บัพติสมา. คน​เหล่า​นี้​พยายาม​จะ​เป็น​ผู้​สอน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ด้วย. ขอ​ให้​เรา​ประสบ​ความ​ยินดี​และ​ความ​พอ​ใจ​ใน​ฤดู​เก็บ​เกี่ยว​นี้​โดย​การ​มี​ส่วน​ร่วม​อย่าง​เต็ม​ที่​ใน​งาน​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก.

‘พร​อยู่​เหนือ​ศีรษะ​ของ​เขา’

ซะโลโม​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า “พร​อยู่​เหนือ​ศีรษะ​ของ​คน​ชอบธรรม; แต่​คำ​หยาบ​ช้า​ท่วม​อยู่​ที่​ปาก​ของ​คน​ชั่ว [“ปาก​ของ​คน​ชั่ว​ปก​ปิด​ความ​รุนแรง​ไว้,” ล.ม.].”—สุภาษิต 10:6.

คน​ที่​หัวใจ​บริสุทธิ์​และ​ชอบธรรม​อย่าง​แท้​จริง​นั้น​ให้​หลักฐาน​มาก​มาย​ใน​เรื่อง​ความ​ชอบธรรม​ของ​เขา. คำ​พูด​ของ​เขา​กรุณา​และ​เสริม​สร้าง การ​กระทำ​ของ​เขา​เป็น​ไป​ใน​เชิง​สร้าง​สรรค์​และ​เอื้อเฟื้อ​เผื่อแผ่. คน​อื่น ๆ ยินดี​คบหา​สมาคม​กับ​เขา. บุคคล​ดัง​กล่าว​ได้​รับ​ความ​นับถือ—ความ​พึง​พอ​ใจ​จาก​พวก​เขา—ใน​ประการ​ที่​ว่า​คน​เหล่า​นั้น​พูด​ถึง​เขา​ใน​แง่​ดี.

ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง คน​ชั่ว​จง​เกลียด​จง​ชัง​หรือ​มุ่ง​ร้าย และ​จริง ๆ แล้ว​ตั้งใจ​ทำ​ความ​เสียหาย​แก่​คน​อื่น. คำ​พูด​ของ​เขา​อาจ​หวาน​หู และ​อาจ ‘ปก​ปิด​ความ​รุนแรง’ ซึ่ง​ซ่อน​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​เขา แต่​ใน​ที่​สุด​เขา​ก็​ทำ​ร้าย​ไม่​ทาง​กาย​ก็​ทาง​วาจา. (มัดธาย 12:34, 35) หรือ​พูด​อีก​อย่าง​หนึ่ง “ความ​รุนแรง​จะ​ปก​ปิด [หรือ​ปิด] ปาก​ของ​คน​ชั่ว.” (สุภาษิต 10:6, ล.ม., เชิงอรรถ) ข้อ​นี้​บ่ง​บอก​ว่า​คน​ชั่ว​มัก​จะ​ได้​รับ​จาก​คน​อื่น​ใน​สิ่ง​ที่​ตัว​เขา​แสดง​ออก​นั้น กล่าว​คือ​ความ​เป็น​ปรปักษ์. ประหนึ่ง​ว่า​สิ่ง​นี้​ปก​ปิด​หรือ​ปิด​ปาก​ของ​เขา ทำ​ให้​เขา​เงียบ. คน​เช่น​นั้น​จะ​คาด​หวัง​สิ่ง​ดี ๆ อะไร​จาก​คน​อื่น​ได้​เล่า?

กษัตริย์​ของ​ยิศราเอล​ทรง​เขียน​ว่า “การ​ระลึก​ถึง​ผู้​ชอบธรรม​ย่อม​นำ​มา​ซึ่ง​ความ​สุข; แต่​ชื่อเสียง​ของ​คน​ชั่ว​นั้น​ย่อมเสื่อม​เสีย​ไป.” (สุภาษิต 10:7) ผู้​ชอบธรรม​ย่อม​ได้​รับ​การ​ระลึก​ถึง​ด้วย​ความ​ชื่น​ชอบ​จาก​คน​อื่น สำคัญ​ที่​สุด​จาก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. โดย​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​จน​กระทั่ง​สิ้น​พระ​ชนม์ พระ​เยซู “ได้​ทรง​รับ​พระ​นาม​ที่​เยี่ยม” กว่า​นาม​ของ​พวก​ทูตสวรรค์. (เฮ็บราย 1:3, 4) ชาย​และ​หญิง​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ก่อน​ยุค​คริสเตียน​ได้​รับ​การ​ระลึก​ถึง​จาก​คริสเตียน​แท้​ทุก​วัน​นี้​ใน​ฐานะ​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ควร​แก่​การ​เลียน​แบบ. (เฮ็บราย 12:1, 2) นี่​ช่าง​แตกต่าง​จาก​ชื่อ​ของ​คน​ชั่ว​สัก​เพียง​ไร ซึ่ง​กลาย​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​สะอิดสะเอียน​และ​น่า​รังเกียจ! ถูก​แล้ว “ชื่อเสียง​ดี​เป็น​สิ่ง​ควร​เลือก​ยิ่ง​กว่า​ความ​มั่งคั่ง​มาก​มาย​และ​ซึ่ง​เป็น​ที่​โปรดปราน​ก็​ดี​กว่า​มี​เงิน​หรือ​ทอง.” (สุภาษิต 22:1, ฉบับ​แปล​ใหม่) ขอ​ให้​เรา​สร้าง​ชื่อเสียง​อัน​เป็น​ที่​ชื่น​ชอบ​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​เพื่อน​มนุษย์​ของ​เรา.

‘คน​ซื่อ​ตรง​จะ​เดิน​อย่าง​ไว้​ใจ​ได้’

โดย​เปรียบ​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​คน​มี​ปัญญา​กับ​คน​โง่ ซะโลโม​กล่าว​ว่า “ผู้​ที่​มี​ใจ​ประกอบ​ด้วย​ปัญญา​ย่อม​รับ​เอา​พระ​บัญญัติ; แต่​คน​ปาก​ร้าย [“พูด​โง่ ๆ,” ฉบับ​แปล​ใหม่] ย่อม​ล้ม​คะมำ​ลง.” (สุภาษิต 10:8) บุคคล​ที่​มี​ปัญญา​ทราบ​ดี​ว่า “ไม่​ใช่​ที่​มนุษย์​ซึ่ง​ดำเนิน​นั้น​จะ​ได้​กำหนด​ก้าว​ของ​ตัว​ได้.” (ยิระมะยา 10:23) เขา​ตระหนัก​ถึง​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​แสวง​หา​การ​นำ​ทาง​จาก​พระ​ยะโฮวา​และ​เต็ม​ใจ​ยอม​รับ​พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง คน​ที่​พูด​โง่ ๆ ไม่​สามารถ​เข้าใจ​ข้อ​เท็จ​จริง​พื้น​ฐาน​นี้. การ​พูด​เพ้อเจ้อ​อย่าง​โง่ ๆ นำ​เขา​ไป​สู่​ความ​พินาศ.

บุคคล​ที่​ชอบธรรม​ยัง​ประสบ​ความ​ปลอด​ภัย​ชนิด​ที่​คน​ชั่ว​ไม่​ได้​พาน​พบ. “บุคคล​ผู้​ใด​เดิน​ไป​ตาม​ทาง​ซื่อ​ตรง​ย่อม​เดิน​อย่าง​ไว้​ใจ​ได้; แต่​บุคคล​ผู้​หลง​ไป​นั้น​ทาง​ของ​เขา​จะ​ได้​ประจักษ์​แจ้ง. บุคคล​ผู้​ขยิบ​หู​ขยิบ​ตา​ย่อม​เป็น​เหตุ​ให้​เกิด​ทุกข์; แต่​ผู้​ที่​ปาก​ร้าย​ย่อม​ล้ม​คะมำ​ลง.”สุภาษิต 10:9, 10.

คน​ที่​มี​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​เป็น​คน​ซื่อ​ตรง​ใน​การ​ปฏิบัติ​ของ​เขา. เขา​ได้​รับ​ความ​นับถือ​และ​ความ​ไว้​ใจ​จาก​คน​อื่น. บุคคล​ที่​ซื่อ​ตรง​เป็น​ลูกจ้าง​ที่​มี​คุณค่า​และ​มัก​ได้​รับ​มอบหมาย​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​มาก​ขึ้น. ชื่อเสียง​ของ​เขา​ใน​เรื่อง​ความ​ซื่อ​ตรง​ทำ​ให้​เขา​ได้​รับ​การ​ว่า​จ้าง​ให้​ทำ​งาน​เสมอ แม้​แต่​เมื่อ​งาน​หา​ยาก. นอก​จาก​นี้ ความ​ซื่อ​ตรง​ของ​เขา​ยัง​ส่ง​เสริม​บรรยากาศ​ที่​น่า​ยินดี​และ​สงบ​สุข​ที่​บ้าน. (บทเพลง​สรรเสริญ 34:13, 14) เขา​รู้สึก​ปลอด​ภัย​ใน​สัมพันธภาพ​ของ​เขา​กับ​สมาชิก​ใน​ครอบครัว. ความ​ปลอด​ภัย​เป็น​ผล​ของ​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​อย่าง​แท้​จริง.

สภาพการณ์​ต่าง​กัน​กับ​คน​ที่​ยอม​ให้​กับ​ความ​ไม่​ซื่อ​ตรง​เพื่อ​ผล​ประโยชน์​อัน​เห็น​แก่​ตัว. ผู้​หลอก​ลวง​อาจ​พยายาม​จะ​ปก​ปิด​ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ของ​ตน​ไว้​ด้วย​คำ​พูด​ที่​ลด​เลี้ยว​หรือ​ด้วย​การ​ทำ​ท่า​ทำ​ทาง. (สุภาษิต 6:12-14) การ​ขยิบ​ตา​อย่าง​มุ่ง​ร้าย​ของ​เขา​หรือ​ด้วย​เจตนา​ที่​หลอก​ลวง​อาจ​ทำ​ให้​ผู้​เป็น​เหยื่อ​การ​หลอก​ลวง​ของ​เขา​มี​ความ​เจ็บ​ปวด​รวดร้าว​ทาง​จิตใจ​ยิ่ง​นัก. แต่​ไม่​ช้า​ก็​เร็ว ความ​คด​โกง​ของ​คน​เช่น​นั้น​ก็​เป็น​ที่​รู้​กัน​ทั่ว. อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “การ​ผิด​ของ​บาง​คน​ย่อม​ปรากฏ​เด่น​ขึ้น​ก่อน, แล้ว​ก็​นำ​เขา​ไป​ถึง​ที่​พิพากษา แต่​การ​ผิด​ของ​บาง​คน​นั้น​มัก​จะ​ตาม​หลัง​เขา​ไป. ฝ่าย​การ​ดี​ก็​ปรากฏ​เด่น​ขึ้น​ด้วย​เหมือน​กัน, และ​การ​นอก​นั้น​จะ​ปิด​บัง​ไว้​ที​เดียว​ก็​ไม่​ได้.” (1 ติโมเธียว 5:24, 25) ไม่​ว่า​ผู้​ที่​เกี่ยว​ข้อง​ด้วย​จะ​เป็น​ใคร​ก็​ตาม—บิดา​หรือ​มารดา, เพื่อน, คู่​ชีวิต, หรือ​คน​รู้​จัก​คุ้น​เคย—ใน​ที่​สุด​ความ​ไม่​ซื่อ​ตรง​ก็​ถูก​เปิด​เผย. ใคร​หรือ​จะ​ไว้​ใจ​คน​ที่​มี​ชื่อเสียง​ใน​เรื่อง​ความ​ไม่​ซื่อ​ตรง?

‘ปาก​ของ​เขา​เป็น​น้ำพุ​แห่ง​ชีวิต’

ซะโลโม​กล่าว​ว่า “ปาก​ของ​คน​ชอบธรรม​นั้น​เป็น​น้ำพุ​แห่ง​ชีวิต; แต่​คำ​หยาบ​ช้า​ท่วม​อยู่​ที่​ปากของ​คน​ชั่ว.” (สุภาษิต 10:11) คำ​พูด​จาก​ปาก​อาจ​เยียว​ยา​หรือ​ไม่​ก็​ทำ​ให้​เจ็บ​ปวด​ได้. คำ​พูด​นั้น​อาจ​ทำ​ให้​คน​เรา​สดชื่น​และ​มี​ชีวิต​ชีวา​หรือ​ทำ​ให้​หมด​กำลังใจ​ได้.

โดย​ระบุ​แรง​จูง​ใจ​ที่​อยู่​เบื้อง​หลัง​คำ​พูด กษัตริย์​แห่ง​ยิศราเอล​ตรัส​ว่า “ความ​เกลียด​ชัง​ย่อม​ส่ง​เสริม​การ​ทะเลาะ​วิวาท​ให้​เกิด​ขึ้น; แต่​ความ​รัก​ย่อม​ปก​ปิด​สรรพ​ความ​ผิด.” (สุภาษิต 10:12) ความ​เกลียด​ชัง​ก่อ​ให้​เกิด​การ​ทะเลาะ​วิวาท​ใน​สังคม​มนุษย์ ปลุก​เร้า​การ​ต่อ​สู้. ผู้​รัก​พระ​ยะโฮวา​ต้อง​ถอน​ราก​ความ​เกลียด​ชัง​ออก​ไป​จาก​ชีวิต​ของ​เขา? โดย​วิธี​ใด? โดย​เอา​ความ​รัก​มา​แทน​ที่​ความ​เกลียด​ชัง. “ความ​รัก​ก็​ปก​ปิด​ความ​ผิด​ไว้​มาก​หลาย.” (1 เปโตร 4:8) “ความ​รัก​ทน​รับ​เอา​ทุก​สิ่ง.” (1 โกรินโธ 13:7, ล.ม.) ความ​รัก​แบบ​พระเจ้า​ไม่​คาด​หมายความ​สมบูรณ์​จาก​คน​ที่​ไม่​สมบูรณ์. แทน​ที่​จะ​โฆษณา​ข้อ​ผิด​พลาด​ของ​คน​อื่น ความ​รัก​ดัง​กล่าว​ช่วย​เรา​มอง​ข้าม​ความ​ผิด​พลาด​ของ​เขา นอก​เสีย​จาก​ว่า​จะ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ทำ​ผิด​ร้ายแรง. ความ​รัก​ถึง​กับ​ทน​รับ​การ​ปฏิบัติ​อย่าง​เลว​ร้าย​ใน​งาน​เผยแพร่​ตาม​บ้าน, ณ ที่​ทำ​งาน​ของ​เรา, หรือ​ที่​โรง​เรียน.

กษัตริย์​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ตรัส​ต่อ​ไป​ว่า “ปัญญา​ย่อม​พบ​ได้​ที่​ริมฝีปาก​ของ​บุคคล​ผู้​เห็น​แจ้ง​แล้ว; แต่​แส้​มี​ไว้​สำหรับ​คน​ที่​ไร้​ความ​เข้าใจ.” (สุภาษิต 10:13) สติ​ปัญญา​ของ​บุคคล​ที่​มี​ความ​เข้าใจ​ชี้​นำ​ย่าง​เท้า​ของ​เขา. คำ​พูด​ที่​เสริม​สร้าง​จาก​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ช่วย​คน​อื่น​ให้​ดำเนิน​ใน​ทาง​แห่ง​ความ​ชอบธรรม. ทั้ง​ตัว​เขา​และ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ฟัง​เขา​ไม่​ต้อง​ถูก​นำ​ไป​ใน​ทิศ​ทาง​ที่​ถูก​ต้อง​โดย​การ​บีบ​บังคับ—ไม้เรียว​ที่​ใช้​ใน​การ​ลง​โทษ.

“สะสม​ความ​รู้​ไว้”

อะไร​ช่วย​ให้​คำ​พูด​ของ​เรา​เป็น ‘ธาร​น้ำ​ไหล​แห่ง​ปัญญา’ แทน​ที่​จะ​เป็น​ธาร​น้ำ​ของ​เรื่อง​ที่​ไร้​แก่น​สาร? (สุภาษิต 18:4) ซะโลโม​ตอบ​ว่า “คน​มี​ปัญญา​ย่อม​สะสม​ความ​รู้​ไว้; แต่​ปาก​ของ​คน​โฉด​ย่อม​เกิด​หายนะ​ทันที.”สุภาษิต 10:14.

ข้อ​เรียก​ร้อง​ประการ​แรก​คือ​จิตใจ​ของ​เรา​ควร​เต็ม​ด้วย​ความ​รู้​ที่​เสริม​สร้าง​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า. มี​แหล่ง​เดียว​เท่า​นั้น​ของ​ความ​รู้​ดัง​กล่าว. อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า​และ​เป็น​ประโยชน์​เพื่อ​การ​สั่ง​สอน, เพื่อ​การ​ว่า​กล่าว, เพื่อ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ให้​เรียบร้อย, เพื่อ​ตี​สอน​ด้วย​ความ​ชอบธรรม, เพื่อ​คน​ของ​พระเจ้า​จะ​เป็น​ผู้​ที่​มี​คุณสมบัติ​ครบ​ถ้วน, เตรียม​พร้อม​สำหรับ​การ​ดี​ทุก​อย่าง.” (2 ติโมเธียว 3:16, 17, ล.ม.) เรา​ต้อง​สะสม​ความ​รู้​และ​ขุด​ค้น​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ประหนึ่ง​เสาะ​หา​ทรัพย์​ที่​ซ่อน​อยู่. การ​เสาะ​หา​เช่น​นั้น​ช่าง​น่า​ตื่นเต้น​และ​ให้​ผล​ตอบ​แทน​สัก​เพียง​ไร!

เพื่อ​จะ​พบ​สติ​ปัญญา​จาก​ริมฝีปาก​ของ​เรา ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​คัมภีร์​ต้อง​เข้า​ถึง​หัวใจ​ของ​เรา​ด้วย. พระ​เยซู​ตรัส​กับ​ผู้​ฟัง​ของ​พระองค์​ว่า “คน​ดี​ก็​ย่อม​เอา​ของ​ดี​ออก​จาก​คลัง​ดี​แห่ง​ใจ​ของ​ตน, และ​คน​ชั่ว​ก็​ย่อม​เอา​ของ​ชั่ว​ออก​จาก​คลัง​ชั่ว​แห่ง​ใจ​ของ​ตน เพราะ​ว่า​ใจ​เต็ม​บริบูรณ์​อย่าง​ไร​ปาก​ก็​พูด​ออก​อย่าง​นั้น.” (ลูกา 6:45) เพราะ​ฉะนั้น เรา​ต้อง​คิด​รำพึง​เป็น​ประจำ​ใน​สิ่ง​ที่​เรา​เรียน​รู้. จริง​อยู่ การ​ศึกษา​และ​การ​คิด​รำพึง​ต้อง​ใช้​ความ​พยายาม แต่​การ​ศึกษา​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​เพิ่ม​พูน​ฝ่าย​วิญญาณ​สัก​เพียง​ไร! ไม่​มี​เหตุ​ผล​ที่​ใคร ๆ จะ​ติด​ตาม​แนว​ทาง​ที่​ยัง​ความ​เสียหาย​ของ​การ​เป็น​เพียง​คน​พูด​ฉอด ๆ อย่าง​ไร้​ความ​คิด.

ถูก​แล้ว บุคคล​ที่​มี​ปัญญา​ทำ​สิ่ง​ถูก​ต้อง​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า​และ​มี​ผล​กระทบ​ใน​ทาง​ที่​ดี​ต่อ​คน​อื่น. เขา​มี​คลัง​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อุดม​และ​มี​มาก​มาย​ที่​จะ​ทำ​ใน​งาน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ซึ่ง​ให้​ผล​ตอบ​แทน. (1 โกรินโธ 15:58) เนื่อง​จาก​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง เขา​จึง​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​ปลอด​ภัย​และ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า. พระ​พร​ของ​คน​ชอบธรรม​มี​มาก​มาย​จริง ๆ. ขอ​ให้​เรา​แสวง​หา​ความ​ชอบธรรม​โดย​การ​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เรา​ประสาน​กับ​มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ความ​ดี​และ​ความ​ชั่ว.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 6 นาม​สมมุติ.

[ภาพ​หน้า 25]

ความ​ซื่อ​ตรง​ส่ง​เสริม​ชีวิต​ครอบครัว​ที่​มี​ความ​สุข

[ภาพ​หน้า 26]

‘คน​มี​ปัญญา​สะสม​ความ​รู้’