ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณสามารถ “แยกออกว่าอะไรถูกอะไรผิด” ไหม?

คุณสามารถ “แยกออกว่าอะไรถูกอะไรผิด” ไหม?

คุณ​สามารถ “แยก​ออก​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด” ไหม?

“จง​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ต่อ ๆ ไป​ว่า อะไร​เป็น​สิ่ง​ที่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ยอม​รับ.”—เอเฟโซ 5:10, ล.ม.

1. การ​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​ปัจจุบัน​อาจ​เกิด​ความ​สับสน​อย่าง​ไร และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

“โอ้​พระ​ยะโฮวา, ข้าพเจ้า​รู้​อยู่​ว่า​ทาง​ที่​มนุษย์​จะ​ไป​นั้น​ไม่​ได้​อยู่​ใน​ตัว​ของ​ตัว, ไม่​ใช่​ที่​มนุษย์​ซึ่ง​ดำเนิน​นั้น​จะ​ได้​กำหนด​ก้าว​ของ​ตัว​ได้.” (ยิระมะยา 10:23) ข้อ​สังเกต​อัน​เปี่ยม​ด้วย​ความ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​ของ​ยิระมะยา​มี​น้ำหนัก​มาก​ยิ่ง​ขึ้น​ไป​อีก​สำหรับ​เรา​ใน​ปัจจุบัน. เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ใน “วิกฤตกาล​ซึ่ง​ยาก​ที่​จะ​รับมือ​ได้” ดัง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า. (2 ติโมเธียว 3:1, ล.ม.) ทุก​วัน เรา​เผชิญ​กับ​สถานการณ์​ต่าง ๆ ที่​ทำ​ให้​สับสน​ซึ่ง​เรา​จำเป็น​ต้อง​ตัดสิน​ใจ. ไม่​ว่า​จะ​เป็น​การ​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​สำคัญ​หรือ​เรื่อง​เล็ก​น้อย​ก็​อาจ​มี​ผล​กระทบ​อย่าง​มาก​ต่อ​สวัสดิภาพ​ของ​เรา​ทั้ง​ทาง​กาย, ทาง​อารมณ์, และ​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ.

2. การ​เลือก​ใน​เรื่อง​ใด​ที่​อาจ​ถือ​กัน​ว่า​เป็น​เรื่อง​ไม่​สู้​สำคัญ​นัก แต่​คริสเตียน​ที่​อุทิศ​ตัว​มี​ทัศนะ​อย่าง​ไร​ใน​เรื่อง​นี้?

2 หลาย​สิ่ง​ที่​เรา​ตัดสิน​ใจ​เลือก​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​อาจ​ถือ​ว่า​เป็น​กิจวัตร​หรือ​เป็น​เรื่อง​ที่​ไม่​สู้​สำคัญ​นัก. เช่น แต่​ละ​วัน เรา​ต้อง​เลือก​เสื้อ​ผ้า​ที่​จะ​สวม​ใส่, อาหาร​ที่​จะ​รับประทาน, คน​ที่​เรา​จะ​พบ เป็น​ต้น. ใน​เรื่อง​เหล่า​นี้ เรา​เลือก​โดย​อัตโนมัติ​อย่าง​ที่​ไม่​ต้อง​คิด​อะไร​มาก. แต่​เรื่อง​เหล่า​นี้​เป็น​เรื่อง​ไม่​สำคัญ​จริง ๆ ไหม? สำหรับ​คริสเตียน​ที่​อุทิศ​ตัว เรา​สนใจ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​การ​เลือก​เสื้อ​ผ้า​และ​การ​ปรากฏ​ตัว, การ​กิน​ดื่ม, ตลอด​จน​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ของ​เรา เพื่อ​จะ​สะท้อน​ให้​เห็น​เสมอ​ว่า​เรา​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​องค์​ใหญ่​ยิ่ง​สูง​สุด พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. คำ​กล่าว​ของ​อัครสาวก​เปาโล​เตือน​ใจ​เรา​ดัง​นี้: “ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​กิน​จะ​ดื่ม​ก็​ดี, หรือ​จะ​ทำ​ประการ​ใด​ก็​ดี, จง​กระทำ​ทุก​สิ่ง​ให้​เป็น​ที่​ถวาย​เกียรติยศ​แก่​พระเจ้า.”—1 โกรินโธ 10:31; โกโลซาย 4:6; 1 ติโมเธียว 2:9, 10.

3. การ​เลือก​ใน​เรื่อง​ใด​ที่​ต้อง​สนใจ​จริงจัง​อย่าง​แท้​จริง?

3 มี​การ​เลือก​หลาย​อย่าง​ที่​ควร​สนใจ​อย่าง​จริงจัง​ยิ่ง​กว่า​นั้น​ไป​อีก. ตัว​อย่าง​เช่น การ​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​สมรส​หรือ​อยู่​เป็น​โสด​มี​ผล​กระทบ​ที่​ลึกซึ้ง​และ​ถาวร​ต่อ​ชีวิต​ของ​คน​เรา​อย่าง​แน่นอน. แน่​ล่ะ การ​เลือก​คน​ที่​เหมาะ​จะ​สมรส​ด้วย คน​ที่​จะ​เป็น​คู่​ชีวิต​อย่าง​ถาวร ไม่​ใช่​เรื่อง​เล็ก​น้อย​เลย. * (สุภาษิต 18:22) นอก​จาก​นั้น การ​เลือก​ของ​เรา​ใน​เรื่อง​เพื่อน​และ​คน​ที่​จะ​คบหา, การ​ศึกษา​และ​งาน​อาชีพ, รวม​ทั้ง​ความ​บันเทิง​และ​นันทนาการ มี​บทบาท​ที่​ก่อ​ผล​กระทบ​หรือ​แม้​แต่​ตัดสิน​ชี้ขาด​สภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​จึง​มี​ผล​ต่อ​สวัสดิภาพ​ถาวร​ของ​เรา.—โรม 13:13, 14; เอเฟโซ 5:3, 4.

4. (ก) ความ​สามารถ​อะไร​เป็น​ประโยชน์​ที่​สุด? (ข) จำเป็น​ต้อง​พิจารณา​คำ​ถาม​อะไร​บ้าง?

4 เมื่อ​เผชิญ​กับ​การ​เลือก​ที่​กล่าว​มา​ทั้ง​หมด​นี้ ย่อม​เป็น​ประโยชน์​ที่​เรา​จะ​มี​ความ​สามารถ​แยกแยะ​ได้​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด หรือ​แยกแยะ​ได้​ว่า​อะไร​คือ​สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​ถูก​ต้อง​และอะไร​คือ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​จริง ๆ. คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​ดัง​นี้: “มี​ทาง​หนึ่ง​ซึ่ง​ดู​เหมือน​บาง​คน​เห็น​ว่า​เป็น​ทาง​ถูก; แต่​ปลาย​ทาง​นั้น​เป็น​ทาง​แห่ง​ความ​ตาย.” (สุภาษิต 14:12) ด้วย​เหตุ​นั้น เรา​อาจ​ถาม​ว่า ‘เรา​จะ​พัฒนา​ความ​สามารถ​ใน​การ​แยกแยะ​ผิด​ถูก​ชั่ว​ดี​ได้​อย่าง​ไร? เรา​จะ​พบ​การ​ชี้​นำ​ที่​จำเป็น​ใน​การ​ตัดสิน​ใจ​ได้​จาก​ที่​ไหน? ผู้​คน​ทั้ง​ใน​อดีต​และ​ปัจจุบัน​ทำ​กัน​อย่าง​ไร​ใน​เรื่อง​นี้ และ​ผล​เป็น​เช่น​ไร?’

“หลัก​ปรัชญา​และ . . . คำ​ล่อ​ลวง​เหลวไหล” ของ​โลก

5. คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สังคม​แบบ​ไหน?

5 คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สังคม​ที่​ถูก​ครอบ​งำ​โดย​ค่า​นิยม​และ​อุดมคติ​ของ​กรีซ​และ​โรม. ใน​ด้าน​หนึ่ง วิถี​ชีวิต​ของ​ชาว​โรมัน​มี​ความ​สะดวก​สบาย​และ​ฟุ้ง​เฟ้อ ซึ่ง​หลาย​คน​มอง​ว่า​เป็น​ชีวิต​ที่​น่า​อิจฉา. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง เกิด​ความ​ฮือ​ฮา​ขึ้น​ใน​แวดวง​ของ​ปัญญาชน​ใน​สมัย​นั้น​ไม่​เพียง​เพราะ​แนว​คิด​ทาง​ปรัชญา​ของ​เพลโต​และ​อาริสโตเติล​เท่า​นั้น แต่​ยัง​รวม​ถึง​ปรัชญา​ของ​สำนัก​ใหม่ ๆ อย่าง​เช่น​เอพิคิวรัส​และ​สโตอิก. เมื่อ​อัครสาวก​เปาโล​มา​ถึง​เมือง​เอเธนส์ (อะเธนาย) ใน​การ​เดิน​ทาง​เผยแพร่​ใน​ต่าง​แดน​รอบ​ที่​สอง ท่าน​เผชิญ​หน้า​กับ​นัก​ปรัชญา​สำนัก​เอพิคิวรัส​และ​สโตอิก​ซึ่ง​คิด​ว่า​พวก​ตน​เหนือ​กว่า​เปาโล โดย​เรียก​ท่าน​ว่า “คน​ปาก​มาก​คน​นี้.”—กิจการ 17:18, ล.ม.

6. (ก) คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​บาง​คน​ถูก​ล่อ​ใจ​ให้​ทำ​อะไร? (ข) เปาโล​เตือน​เช่น​ไร?

6 ด้วย​เหตุ​นั้น จึง​เข้าใจ​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​ทำไม​บาง​คน​ใน​หมู่​คริสเตียน​ยุค​แรก​ถูก​ดึงดูด​โดย​แนว​ทาง​ที่​อวด​อ้าง​และ​แบบ​ชีวิต​ของ​ผู้​คน​รอบ​ข้าง. (2 ติโมเธียว 4:10) คน​เหล่า​นั้น​ที่​เป็น​คน​สำคัญ​ใน​ระบบ​ของ​โลก​ดู​เหมือน​ได้​ผล​ประโยชน์​และ​มี​ข้อ​ได้​เปรียบ​หลาย​อย่าง และ​การ​เลือก​ของ​พวก​เขา​ก็​ดู​เหมือน​ว่า​ถูก​ต้อง. ดู​เหมือน​ว่า​โลก​มี​บาง​สิ่ง​ที่​มี​ค่า​เสนอ​ให้​อย่าง​ที่​แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​คริสเตียน​ที่​อุทิศ​ตัว​ไม่​มี​ให้. อย่าง​ไร​ก็​ตาม อัครสาวก​เปาโล​เตือน​ว่า “จง​ระวัง​ให้​ดี, เกรง​ว่า​จะ​มี​ผู้​หนึ่ง​ผู้​ใด​นำ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ให้​หลง​ด้วย​หลัก​ปรัชญา​และ​ด้วย​คำ​ล่อ​ลวง​เหลวไหล, ตาม​เรื่อง​ซึ่ง​มนุษย์​สอน​กัน​ต่อ ๆ มา​นั้น, ตาม​โลกธรรม, และ​ไม่​ใช่​ตาม​พระ​คริสต์.” (โกโลซาย 2:8) เหตุ​ใด​เปาโล​จึง​กล่าว​อย่าง​นั้น?

7. สติ​ปัญญา​ของ​โลก​เทียบ​ได้​กับ​อะไร​จริง ๆ?

7 เปาโล​เตือน​อย่าง​นั้น​เพราะ​ท่าน​สำนึก​ว่า​มี​อันตราย​อย่าง​แท้​จริง​ซุ่ม​ซ่อน​อยู่​เบื้อง​หลัง​ความ​คิด​ของ​คน​ที่​ถูก​โลก​ดึงดูด. การ​ที่​ท่าน​ใช้​คำ “หลัก​ปรัชญา​และ . . . คำ​ล่อ​ลวง​เหลวไหล” นั้น​มี​นัย​ความหมาย​พิเศษ. คำ “ปรัชญา” ใน​ภาษา​กรีก​มี​ความหมาย​ตาม​ตัว​อักษร​ว่า “รัก​และ​แสวง​หา​สติ​ปัญญา.” ลำพัง​ความ​รัก​ที่​มี​ต่อ​สติ​ปัญญา​เอง​อาจ​เป็น​ประโยชน์. ที่​จริง คัมภีร์​ไบเบิล โดย​เฉพาะ​พระ​ธรรม​สุภาษิต สนับสนุน​ให้​แสวง​หา​ความ​รู้​และ​สติ​ปัญญา​ที่​ถูก​ต้อง. (สุภาษิต 1:1-7; 3:13-18) อย่าง​ไร​ก็​ตาม เปาโล​พ่วง “คำ​ล่อ​ลวง​เหลวไหล” เข้า​กับ “ปรัชญา.” กล่าว​อีก​อย่าง​คือ เปาโล​ถือ​ว่า​สติ​ปัญญา​ที่​โลก​เสนอ​ให้​นั้น​เป็น​สิ่ง​เหลวไหล​และ​ล่อ​ลวง. เช่น​เดียว​กับ​ลูก​โป่ง​ที่​ถูก​เป่า​ให้​พอง สติ​ปัญญา​ของ​โลก​ดู​ราว​กับ​สิ่ง​ที่​หนักแน่น แต่​จริง ๆ แล้ว​ไร้​แก่น​สาร. การ​ยึด​เอา​สิ่ง​ที่​ไร้​แก่น​สาร​อย่าง “หลัก​ปรัชญา​และ . . . คำ​ล่อ​ลวง​เหลวไหล” ของ​โลก​เป็น​หลัก​ใน​การ​เลือก​ว่า​อะไร​ผิด​อะไร​ถูก​ย่อม​ไร้​ประโยชน์​หรือ​ก่อ​ผล​เสียหาย​ร้ายแรง​ด้วย​ซ้ำ.

พวก​คน​ที่​เรียก “ความ​ชั่ว​ร้าย​ว่า​ความ​ดี และ​ความ​ดี​ว่า​ความ​ชั่ว​ร้าย”

8. (ก) ผู้​คน​หัน​ไป​หา​ใคร​เพื่อ​ขอ​คำ​แนะ​นำ? (ข) มี​การ​ให้​คำ​แนะ​นำ​กัน​แบบ​ไหน?

8 ใน​ปัจจุบัน สิ่ง​ต่าง ๆ เปลี่ยน​ไป​ไม่​มาก​นัก. มี​ผู้​เชี่ยวชาญ​อยู่​มาก​มาย​ใน​กิจกรรม​แทบ​ทุก​อย่าง​ของ​มนุษย์. ผู้​ให้​คำ​ปรึกษา​ชีวิต​สมรส​และ​ครอบครัว, นัก​เขียน​คอลัมน์​ประจำ, คน​ที่​เรียก​ตัว​เอง​เป็น​นัก​บำบัด, นัก​โหราศาสตร์, คน​ทรง, และ​ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​อื่น ๆ ต่าง​ก็​พร้อม​จะ​ให้​คำ​แนะ​นำ—โดย​คิด​ค่า​บริการ. แต่​พวก​เขา​ให้​คำ​แนะ​นำ​แบบ​ใด? บ่อย​ครั้ง มาตรฐาน​ด้าน​ศีลธรรม​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ถูก​แทน​ที่​โดย​สิ่ง​ที่​เรียก​กัน​ว่า​ศีลธรรม​แบบ​ใหม่. ยก​ตัว​อย่าง เมื่อ​กล่าว​ถึง​การ​ที่​รัฐบาล​ไม่​ยอม​ออก​กฎหมาย​รับรอง “การ​สมรส​ของ​คน​เพศ​เดียว​กัน” บท​บรรณาธิการ​ใน​เดอะ โกลบ แอนด์ เมล์ ซึ่ง​เป็น​หนังสือ​พิมพ์​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี​ฉบับ​หนึ่ง​ของ​แคนาดา​แถลง​ว่า “นี่​ก็​ปี 2000 เข้า​ไป​แล้ว เป็น​เรื่อง​ไร้​เหตุ​ผล​สิ้น​ดี​ที่​คู่​รัก​ซึ่ง​ตก​ลง​ปลง​ใจ​จะ​ร่วม​ชีวิต​กัน​กลับ​ถูก​ปฏิเสธ​ไม่​ยอม​ให้​ตาม​ปรารถนา​ที่​น่า​รัก​ที่​สุด เพียง​เพราะ​บังเอิญ​พวก​เขา​เป็น​เพศ​เดียว​กัน.” แนว​โน้ม​ของ​ทัศนะ​ผู้​คน​ใน​ปัจจุบัน​คือ​ควร​ยอม​ให้ และ​ไม่​ควร​วิจารณ์​ใน​ทาง​เสียหาย. ทุก​สิ่ง​ถือ​ว่า​เป็น​เรื่อง​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​แต่​ละ​คน; ไม่​มี​ถูก​ไม่​มี​ผิด​อย่าง​เด็ดขาด​อีก​ต่อ​ไป.—บทเพลง​สรรเสริญ 10:3, 4.

9. บ่อย​ครั้ง ผู้​ที่​ได้​รับ​ความ​นับถือ​ใน​สังคม​ทำ​อะไร?

9 ส่วน​อีก​หลาย​คน​ก็​ยึด​เอา​ผู้​ที่​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ใน​ทาง​สังคม​และ​ทาง​การ​เงิน—คือ​คน​รวย​และ​คน​มี​ชื่อเสียง—เป็น​แบบ​อย่าง​ใน​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ตน. แม้​ว่า​คน​รวย​และ​คน​มี​ชื่อเสียง​เป็น​ที่​นับถือ​ใน​สังคม​ปัจจุบัน แต่​บ่อย​ครั้ง​ที่​พวก​เขา​ดี​แต่​พูด​ใน​เรื่อง​คุณธรรม เช่น ความ​สุจริต​ซื่อ​ตรง​และ​ความ​ไว้​วางใจ. ใน​การ​แสวง​หา​อำนาจ​และ​ผล​กำไร หลาย​คน​ไม่​รู้สึก​ผิด​ที่​จะ​เพิกเฉย​ต่อ​กฎ​หรือ​ข้าม​ขั้น​ตอน​และ​เหยียบ​ย่ำ​หลักการ​ด้าน​ศีลธรรม. เพื่อ​จะ​ได้​ชื่อเสียง​และ​ความ​นิยม​ชม​ชอบ บาง​คน​ละ​ทิ้ง​ค่า​นิยม​และ​มาตรฐาน​ที่​ยึด​ถือ​กัน​มา​ช้า​นาน​อย่าง​ไม่​ไยดี และ​หัน​มา​นิยม​พฤติกรรม​ที่​แปลก​ประหลาด​และ​น่า​ตกใจ. ผล​ที่​ตาม​มา​คือ​สังคม​ที่​ปล่อย​ปละ​ละเลย​และ​สนใจ​แต่​ผล​กำไร​ซึ่ง​ถือ​คติ​ว่า “อะไร​ก็​ได้.” เป็น​เรื่อง​น่า​แปลก​ใจ​ไหม​ที่​ผู้​คน​รู้สึก​สับสน​และ​ไม่​มั่น​ใจ​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด?—ลูกา 6:39.

10. ถ้อย​คำ​ของ​ยะซายา​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี​ความ​ชั่ว​ปรากฏ​ว่า​เป็น​จริง​อย่าง​ไร?

10 ผล​อัน​น่า​เศร้า​ของ​การ​ตัดสิน​ใจ​อย่าง​ไม่​ฉลาด​ซึ่ง​อาศัย​การ​ชี้​นำ​ที่​ผิด​พลาด​มี​ให้​เห็น​รอบ​ตัว​เรา—ชีวิต​สมรส​และ​ครอบครัว​ที่​แตก​แยก, ยา​เสพย์ติด​และ​การ​ใช้​เครื่อง​ดื่ม​ที่​มี​แอลกอฮอล์​อย่าง​ผิด ๆ, แก๊ง​วัยรุ่น​ที่​รุนแรง, ความ​สำส่อน​ทาง​เพศ, โรค​ติด​ต่อ​ทาง​เพศ​สัมพันธ์ ที่​ยก​ขึ้น​มา​กล่าว​นี้​เป็น​เพียง​ไม่​กี่​อย่าง. จริง ๆ แล้ว เรา​จะ​คาด​หมาย​ให้​ผล​เป็น​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ได้​อย่าง​ไร​ใน​เมื่อ​ผู้​คน​ละ​ทิ้ง​มาตรฐาน​หรือ​สิ่ง​ที่​ใช้​อ้างอิง​ใน​เรื่อง​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด​เสีย​หมด​สิ้น? (โรม 1:28-32) เป็น​ดัง​ที่​ผู้​พยากรณ์​ยะซายา​ประกาศ​ไว้​ที​เดียว​ว่า “วิบัติ​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เรียก​ความ​ชั่ว​ร้าย​ว่า​ความ​ดี และ​ความ​ดี​ว่า​ความ​ชั่ว​ร้าย ผู้​ถือ​เอา​ว่า​ความ​มืด​เป็น​ความ​สว่าง และ​ความ​สว่าง​เป็น​ความ​มืด ผู้​ถือ​เอา​ว่า​ความ​ขม​เป็น​ความ​หวาน และ​ความ​หวาน​เป็น​ความ​ขม วิบัติ​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ฉลาด​ใน​สายตา​ของ​ตัว และ​เฉียบ​แหลม​ใน​สายตา​ของ​ตน.”—ยะซายา 5:20, 21, ฉบับ​แปล​ใหม่.

11. เหตุ​ใด​จึง​เป็น​ความ​คิด​ที่​ไม่​สุขุม​ที่​จะ​ไว้​ใจ​ตัว​เอง​เมื่อ​จะ​ตัดสิน​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด?

11 ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​พระเจ้า​ทรง​เรียก​ชาว​ยิว​โบราณ​ที่​เห็น​ว่า​ตัว “ฉลาด​ใน​สายตา​ของ​ตัว” มา​ให้​การ​ต่อ​พระองค์​ทำ​ให้​สำคัญ​ยิ่ง​ขึ้น​ไป​อีก​สำหรับ​เรา​ที่​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ไว้​วางใจ​ตัว​เอง​ใน​การ​ตัดสิน​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด. หลาย​คน​ใน​ปัจจุบัน​เห็น​ด้วย​กับ​ความ​คิด​ที่​ว่า “ขอ​เพียง​แต่​ฟัง​สิ่ง​ที่​หัวใจ​คุณ​เรียก​ร้อง” หรือ “จง​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​รู้สึก ว่า​ถูก​ต้อง.” ความ​คิด​เช่น​นั้น​ถูก​ต้อง​ไหม? ไม่ แนว​คิด​ดัง​กล่าว​ไม่​ถูก​ต้อง​ตาม​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​กล่าว​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า “หัวใจ​ทรยศ​ยิ่ง​กว่า​สิ่ง​อื่น​ใด​และ​สิ้น​คิด. ใคร​จะ​รู้​จัก​หัวใจ​ได้​เล่า?” (ยิระมะยา 17:9, ล.ม.) คุณ​จะ​ไว้​วางใจ​คน​ทรยศ​และ​สิ้น​คิด​ให้​ชี้​นำ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​คุณ​ไหม? คง​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น​แน่. ที่​จริง คุณ​คง​ทำ​ตรง​ข้าม​กับ​สิ่ง​ที่​คน ๆ นั้น​บอก​คุณ. นั่น​เป็น​เหตุ​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​สติ​เรา​ดัง​นี้: “ผู้​ที่​วางใจ​หัวใจ​ของ​ตน​เอง​ก็​เป็น​คน​โฉด​เขลา แต่​ผู้​ซึ่ง​ดำเนิน​ด้วย​ปัญญา​คือ​ผู้​ที่​จะ​หนี​พ้น.”—สุภาษิต 3:5-7; 28:26, ล.ม.

ให้​เรา​เรียน​รู้​ว่า​อะไร เป็น​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​ยอม​รับ

12. เหตุ​ใด​เรา​จำเป็น​ต้อง​พิสูจน์​แก่​ตัว​เอง​ใน​เรื่อง “พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า”?

12 เนื่อง​จาก​เรา​ไม่​ควร​ไว้​วางใจ​ทั้ง​สติ​ปัญญา​ของ​โลก​และ​ตัว​เรา​เอง​ใน​เรื่อง​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด เรา​ควร​ทำ​อย่าง​ไร? โปรด​สังเกต​คำ​แนะ​นำ​ที่​ชัดเจน​และ​ไม่​กำกวม​จาก​อัครสาวก​เปาโล​ดัง​ต่อ​ไป​นี้: “จง​เลิก​ถูก​นวด​ปั้น​ตาม​ระบบ​นี้ แต่​จง​รับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​โดย​เปลี่ยน​ความ​คิด​จิตใจ​ของ​ท่าน​เสีย​ใหม่ เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​พิสูจน์​แก่​ตัว​เอง​ใน​เรื่อง​พระทัย​ประสงค์​อัน​ดี ที่​น่า​รับ​ไว้​และ​สมบูรณ์​พร้อม​ของ​พระเจ้า.” (โรม 12:2, ล.ม.) เหตุ​ใด​เรา​จำเป็น​ต้อง​พิสูจน์​แก่​ตัว​เอง​ใน​เรื่อง​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า? พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​เหตุ​ผล​ที่​ตรง​ไป​ตรง​มา​แต่​ว่า​หนักแน่น​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ดัง​นี้: “ท้องฟ้า​สูง​กว่า​แผ่นดิน​โลก​ฉัน​ใด, ทาง​ของ​เรา​ก็​สูง​กว่า​ทาง​ของ​เจ้า, และ​ความ​คิด​ของ​เรา​ก็​สูง​กว่า​ความ​คิด​ของ​เจ้า​ฉัน​นั้น.” (ยะซายา 55:9) ด้วย​เหตุ​นั้น แทน​ที่​จะ​ไว้​ใจ​สิ่ง​ที่​เรียก​กัน​ว่า​สามัญสำนึก​หรือ​อาศัย​ความ​รู้สึก​ว่า​อะไร​ดี เรา​ได้​รับ​คำ​ตักเตือน​ว่า “จง​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ต่อ ๆ ไป​ว่า อะไร​เป็น​สิ่ง​ที่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ยอม​รับ.”—เอเฟ. 5:10, ล.ม.

13. คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ดัง​บันทึก​ที่​โยฮัน 17:3 เน้น​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ความ​จำเป็น​ต้อง​ทราบ​ว่า​อะไร​คือ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​ยอม​รับ?

13 พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เน้น​ความ​จำเป็น​ดัง​กล่าว​เมื่อ​พระองค์​ตรัส​ว่า “นี่​แหละ​เป็น​ชีวิต​นิรันดร์, คือ​ว่า​ให้​เขา​รู้​จัก​พระองค์​ผู้​เป็น​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​เดียว. และ​รู้​จัก​ผู้​ที่​พระองค์​ทรง​ใช้​มา​คือ​พระ​เยซู​คริสต์.” (โยฮัน 17:3) คำ​ภาษา​กรีก​ใน​ต้น​ฉบับ​ซึ่ง​แปล​ใน​ที่​นี้​ว่า “รู้​จัก” มี​ความหมาย​ลึกซึ้ง​มาก. ตาม​พจนานุกรม​อธิบาย​ศัพท์​ของ​ไวน์ (ภาษา​อังกฤษ) คำ​นี้ “บ่ง​ชี้​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​บุคคล​ที่​รู้​จัก​กับ​สิ่ง​ที่​เขา​รู้​จัก; ใน​แง่​นี้ สิ่ง​ที่​เขา​รู้​จัก​มี​ค่า​หรือ​มี​ความ​สำคัญ​ต่อ​บุคคล​ที่​รู้​จัก และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​ความ​สัมพันธ์​นั้น​จึง​มี​ค่า​และ​มี​ความ​สำคัญ​ด้วย​เช่น​กัน.” การ​มี​สัมพันธภาพ​กับ​ใคร​คน​หนึ่ง​มี​ความหมาย​มาก​กว่า​เพียง​แค่​รู้​จัก​ว่า​เขา​เป็น​ใคร​หรือ​ชื่อ​อะไร. สัมพันธภาพ​เช่น​นี้​หมาย​รวม​ถึง​การ​รู้​ว่า​คน ๆ นั้น​ชอบ​อะไร​ไม่​ชอบ​อะไร รู้​ว่า​เขา​มี​ค่า​นิยม​และ​มาตรฐาน​ชีวิต​อย่าง​ไร และ​ให้​ความ​นับถือ​ค่า​นิยม​และ​มาตรฐาน​เหล่า​นั้น.—1 โยฮัน 2:3; 4:8.

จง​ฝึก​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ

14. เปาโล​กล่าว​เช่น​ไร​เกี่ยว​กับ​ความ​แตกต่าง​ที่​สำคัญ​ระหว่าง​ทารก​ฝ่าย​วิญญาณ​กับ​ผู้​อาวุโส?

14 ถ้า​อย่าง​นั้น เรา​จะ​มี​ความ​สามารถ​แยกแยะ​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด​ได้​อย่าง​ไร? คำ​กล่าว​ของ​เปาโล​ที่​มี​ไป​ถึง​คริสเตียน​ชาว​ฮีบรู​ใน​ศตวรรษ​แรก​ให้​คำ​ตอบ​ใน​เรื่อง​นี้. ท่าน​เขียน​ว่า “ทุก​คน​ที่​กิน​น้ำ​นม​อยู่​ย่อม​ไม่​คุ้น​เคย​กับ​ถ้อย​คำ​แห่ง​ความ​ชอบธรรม เพราะ​เขา​เป็น​ทารก​อยู่. แต่​อาหาร​แข็ง​เป็น​ของ​ผู้​อาวุโส คือ​ผู้​ซึ่ง​ด้วย​การ​ใช้​ได้​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​เพื่อ​แยก​ออก​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด.” ใน​ที่​นี้ เปาโล​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง “น้ำ​นม” ซึ่ง​ท่าน​พรรณนา​ใน​ข้อ​ก่อน​หน้า​นี้​ว่า​เป็น “สิ่ง​พื้น​ฐาน​แห่ง​คำ​แถลง​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระเจ้า” กับ “อาหาร​แข็ง” ซึ่ง​เป็น​ของ “ผู้​อาวุโส” ซึ่ง “ได้​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​เพื่อ​แยก​ออก​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด.”—เฮ็บราย 5:12-14, ล.ม.

15. เหตุ​ใด​จึง​จำเป็น​ต้อง​พยายาม​อย่าง​มาก​เพื่อ​ได้​มา​ซึ่ง​ความ​รู้​ถ่องแท้​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า?

15 แรก​ที​เดียว นี่​หมายความ​ว่า​เรา​ต้อง​พยายาม​อย่าง​มาก​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ความ​เข้าใจ​ถ่องแท้​เกี่ยว​กับ​มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​อยู่​ใน​พระ​คำ​ของ​พระองค์ คือ​คัมภีร์​ไบเบิล. ทั้ง​นี้ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​เรา​ต้อง​หา​กฎ​ระเบียบ​มาก​มาย​ที่​จะ​บอก​เรา​ว่า​อะไร​ควร​ทำ​หรือ​อะไร​ไม่​ควร​ทำ. คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ใช่​หนังสือ​เช่น​นั้น. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น เปาโล​อธิบาย​ว่า “พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า​และ​เป็น​ประโยชน์​เพื่อ​การ​สั่ง​สอน, เพื่อ​การ​ว่า​กล่าว, เพื่อ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ให้​เรียบร้อย, เพื่อ​ตี​สอน​ด้วย​ความ​ชอบธรรม, เพื่อ​คน​ของ​พระเจ้า​จะ​เป็น​ผู้​ที่​มี​คุณสมบัติ​ครบ​ถ้วน, เตรียม​พร้อม​สำหรับ​การ​ดี​ทุก​อย่าง.” (2 ติโมเธียว 3:16, 17, ล.ม.) เพื่อ​จะ​ได้​ประโยชน์​จาก​การ​สอน, การ​ว่า​กล่าว​แก้ไข, และ​การ​ตี​สอน​เช่น​นั้น เรา​ต้อง​เริ่ม​ฝึก​จิตใจ​และ​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด​ของ​เรา. การ​ทำ​อย่าง​นี้​ต้อง​อาศัย​ความ​พยายาม แต่​ผล​ที่​ได้​รับ​อัน​ได้​แก่​การ “มี​คุณสมบัติ​ครบ​ถ้วน, เตรียม​พร้อม​สำหรับ​การ​ดี​ทุก​อย่าง” นับ​ว่า​คุ้มค่า.—สุภาษิต 2:3-6.

16. การ​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​หมายความ​เช่น​ไร?

16 เมื่อ​เป็น​อย่าง​นั้น​แล้ว ดัง​ที่​เปาโล​บ่ง​บอก​ไว้ ผู้​อาวุโส “ได้​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​เพื่อ​แยก​ออก​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด.” เรา​มา​ถึง​จุด​สำคัญ​ของ​เรื่อง. วลี​ที่​ว่า “ได้​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ” ตาม​ตัว​อักษร​หมาย​ถึง “อวัยวะ​รับ​ความ​รู้สึก​ได้​รับ​การ​ฝึกฝน (อย่าง​นัก​ยิมนาสติก).” (ฉบับ​แปล​คิงดอม อินเตอร์ลิเนียร์) นัก​ยิมนาสติก​ที่​ผ่าน​ประสบการณ์​มา​โชกโชน​ซึ่ง​แสดง​บน​อุปกรณ์​ที่​เขา​เลือก เช่น อุปกรณ์​ห่วง​หรือ​คาน​ทรง​ตัว ภาย​ใน​เสี้ยว​วินาที​เขา​สามารถ​แสดง​ท่า​หลาย​อย่าง​ที่​ดู​เหมือน​ว่า​ฝืน​แรง​โน้มถ่วง​หรือ​กฎ​ธรรมชาติ​อื่น ๆ. เขา​ควบคุม​อวัยวะ​ร่าง​กาย​ของ​ตน​อย่าง​เต็ม​ที่​ตลอด​เวลา และ​รู้สึก​ได้​เกือบ​จะ​โดย​สัญชาตญาณ​ว่า​เขา​ต้อง​เคลื่อน​ไหว​เช่น​ไร​บ้าง​เพื่อ​จะ​แสดง​ท่า​ให้​ครบ​สมบูรณ์. ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​ผล​มา​จาก​การ​ฝึกฝน​อย่าง​เข้มงวด​และ​การ​ฝึก​หัด​อย่าง​ไม่​หยุดหย่อน.

17. เรา​ควร​เป็น​เหมือน​นัก​ยิมนาสติก​อย่าง​ไร?

17 ใน​แง่​ฝ่าย​วิญญาณ เรา​เอง​ก็​ต้อง​ได้​รับ​การ​ฝึกฝน​แบบ​เดียว​กับ​นัก​ยิมนาสติก​ด้วย หาก​เรา​ต้องการ​จะ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​การ​ตัดสิน​ใจ​และ​การ​เลือก​ที่​เรา​ทำ​นั้น​ถูก​ต้อง​เสมอ. เรา​ต้อง​ควบคุม​ความ​สามารถ​ใน​การ​รับ​รู้​และ​อวัยวะ​ร่าง​กาย​ของ​เรา​อย่าง​เต็ม​ที่​ตลอด​เวลา. (มัดธาย 5:29, 30; โกโลซาย 3:5-10) ตัว​อย่าง​เช่น คุณ​ใช้​วินัย​กับ​ดวง​ตา​ของ​คุณ​ไหม​เพื่อ​จะ​ไม่​มอง​สิ่ง​ผิด​ศีลธรรม หรือ​คุณ​ใช้​วินัย​กับ​หู​ของ​คุณ​ไหม​เพื่อ​จะ​ไม่​ฟัง​ดนตรี​หรือ​คำ​พูด​ที่​เสื่อม​ทราม? เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า​สิ่ง​ไม่​ดี​งาม​เช่น​นั้น​มี​อยู่​รอบ​ตัว​เรา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เรื่อง​นี้​ยัง​คง​ขึ้น​อยู่​กับ​เรา​ว่า​ได้​ปล่อย​ให้​สิ่ง​ไม่​ดี​งาม​เหล่า​นั้น​ฝัง​ราก​ใน​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​เรา​หรือ​ไม่. เรา​สามารถ​เลียน​แบบ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ที่​กล่าว​ว่า “ข้าพเจ้า​จะ​ไม่​ตั้ง​สิ่ง​เลว​ทราม​ไว้​ต่อ​ตา​ข้าพเจ้า: ข้าพเจ้า​เกลียด​ชัง​กิจการ​ของ​ผู้​ที่​ไม่​ซื่อ​ตรง; กิจการ​นั้น​จะ​ไม่​ติด​อยู่​กับ​ข้าพเจ้า​เลย. . . . ผู้​ใด​ที่​พูด​มุสา​จะ​ดำรง​อยู่​ต่อ​ตา​ข้าพเจ้า​ก็​หา​มิ​ได้.”—บทเพลง​สรรเสริญ 101:3, 7.

จง​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน การ​สังเกต​เข้าใจ​ของ​คุณ​ด้วย​การ​ใช้

18. วลี “ด้วย​การ​ใช้” ที่​อยู่​ใน​คำ​อธิบาย​ของ​เปาโล​เกี่ยว​กับ​การ​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​มี​นัย​ความหมาย​เช่น​ไร?

18 ขอ​ให้​จำ​ไว้​ว่า​เรา​สามารถ​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​เพื่อ​แยกแยะ​ผิด​ถูก “ด้วย​การ​ใช้.” กล่าว​อีก​อย่าง​คือ ทุก​ครั้ง​ที่​เรา​ต้อง​ตัดสิน​ใจ เรา​ควร​เรียน​รู้​ที่​จะ​ใช้​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด​ของ​เรา​เพื่อ​เข้าใจ​ว่า​หลักการ​อะไร​บ้าง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​เกี่ยว​ข้อง​และ​จะ​นำ​มา​ใช้​อย่าง​ไร. จง​พัฒนา​นิสัย​ใน​การ​ค้นคว้า​สรรพหนังสือ​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​พระเจ้า​ทรง​จัด​เตรียม​ไว้​ให้​โดย​ทาง “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” (มัดธาย 24:45, ล.ม.) แน่นอน เรา​สามารถ​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​คริสเตียน​ผู้​อาวุโส. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ความพยายาม​เป็น​ส่วน​ตัว​ที่​เรา​ทำ​ใน​การ​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า ควบ​คู่​กับ​คำ​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​ขอ​การ​ชี้​นำ​และ​พระ​วิญญาณ​ของ​พระองค์ จะ​ให้​ผล​ตอบ​แทน​อย่าง​อุดม​ใน​ที่​สุด.—เอเฟโซ 3:14-19.

19. เรา​จะ​ได้​รับ​พระ​พร​อะไร​หาก​เรา​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​ของ​เรา​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ?

19 ขณะ​ที่​เรา​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​ของ​เรา​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ เป้าหมาย​ก็​คือ​เพื่อ “เรา​จะ​ไม่​เป็น​ทารก​อีก​ต่อ​ไป ถูก​ซัด​ไป​ซัด​มา​เหมือน​โดน​คลื่น​และ​ถูก​พา​ไป​ทาง​โน้น​บ้าง​ทาง​นี้​บ้าง​โดย​ลม​แห่ง​คำ​สอน​ทุก​อย่าง​ที่​อาศัย​เล่ห์​กล​ของ​มนุษย์ โดย​ใช้​ความ​ฉลาด​แกม​โกง​ใน​การ​คิด​หา​เรื่อง​เท็จ.” (เอเฟโซ 4:14, ล.ม.) แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น โดย​อาศัย​ความ​รู้​และ​ความ​เข้าใจ​ของ​เรา​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​ยอม​รับ เรา​สามารถ​ตัดสิน​ใจ​อย่าง​สุขุม ไม่​ว่า​เรื่อง​ใหญ่​หรือ​เรื่อง​เล็ก ใน​แนว​ทาง​ที่​ก่อ​ประโยชน์​แก่​ตัว​เรา, เสริม​สร้าง​เพื่อน​ผู้​นมัสการ, และ​ที่​สำคัญ​กว่า​สิ่ง​อื่น​ใด​คือ​เพื่อ​ทำ​ให้​พระ​บิดา​ฝ่าย​สวรรค์​ของ​เรา​พอ​พระทัย. (สุภาษิต 27:11) นั่น​ช่าง​เป็น​พระ​พร​และ​การ​ปก​ป้อง​สัก​เพียง​ไร​ใน​สมัย​วิกฤติ​นี้!

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 3 ใน​การ​ประมวล​เหตุ​การณ์​ที่​ทำ​ให้​เครียด​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​ของ​ผู้​คน​ซึ่ง​มี​มาก​กว่า 40 รายการ รวบ​รวม​โดย​นาย​แพทย์​โทมัส โฮมส์ และ​ริชาร์ด เรห์ การ​เสีย​ชีวิต​ของ​คู่​สมรส, การ​หย่าร้าง, และ​การ​แยก​กัน​อยู่​ติด​สาม​อันดับ​แรก. การ​สมรส​ติด​อันดับ​ที่​เจ็ด.

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม?

• จำเป็น​ต้อง​ใช้​ความ​สามารถ​อะไร​เพื่อ​จะ​ตัดสิน​ใจ​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง?

• เหตุ​ใด​จึง​ไม่​ฉลาด​สุขุม​ที่​จะ​ยึด​เอา​คน​เด่น​ดัง​หรือ​ความ​รู้สึก​ของ​ตน​เอง​เป็น​หลัก​ใน​การ​ตัดสิน​ว่า​อะไร​ผิด​อะไร​ถูก?

• เหตุ​ใด​เรา​ควร​แน่​ใจ​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​ยอม​รับ​เมื่อ​จะ​ตัดสิน​ใจ และ​เรา​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร?

• การ “ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ” หมายความ​เช่น​ไร?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 9]

การ​หมาย​พึ่ง​การ​ชี้​นำ​จาก​คน​ร่ำรวย​และ​ผู้​มี​ชื่อเสียง​เป็น​สิ่ง​ที่​ไร้​ประโยชน์

[ภาพ​หน้า 10]

เช่น​เดียว​กับ​นัก​ยิมนาสติก เรา​ต้อง​ควบคุม​ความ​สามารถ​ใน​การ​รับ​รู้​และ​อวัยวะ​ร่าง​กาย​ของ​เรา​อย่าง​เต็ม​ที่