ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

‘จงแสวงหาสันติสุขและติดตามสันติสุขนั้น’

‘จงแสวงหาสันติสุขและติดตามสันติสุขนั้น’

‘จง​แสวง​หา​สันติ​สุข​และ​ติด​ตาม​สันติ​สุข​นั้น’

“หาก​เป็น​ได้ เท่า​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย จง​สร้าง​สันติ​กับ​คน​ทั้ง​ปวง.”—โรม 12:18, ล.ม.

1, 2. อะไร​คือ​เหตุ​ผล​บาง​ประการ​ที่​สันติภาพ​ซึ่ง​มนุษย์​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น​ไม่​ยั่งยืน?

ขอ​ให้​นึก​ภาพ​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ที่​ฐาน​ราก​ไม่​มั่นคง, คาน​ผุ, และ​หลังคา​ยุบ. คุณ​อยาก​ย้าย​เข้า​ไป​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​นี้​ไหม? คง​จะ​ไม่. แม้​แต่​จะ​ทาสี​ใหม่​ก็​คง​ไม่​เปลี่ยน​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​บ้าน​หลัง​นี้​โครง​สร้าง​ไม่​ดี. ไม่​ช้า​ก็​เร็ว มัน​คง​จะ​พัง​ลง​มา​แน่.

2 สันติภาพ​ใด ๆ ก็​ตาม​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​โลก​นี้​เป็น​เหมือน​กับ​บ้าน​หลัง​ดัง​กล่าว. สันติภาพ​ของ​โลก​ถูก​สร้าง​ขึ้น​บน​รากฐาน​ที่​ไม่​มั่นคง คือ​บน​รากฐาน​ของ​คำ​สัญญา​และ​แผนการ​ของ​มนุษย์ “ที่​ช่วย​ให้​รอด​ไม่​ได้.” (บทเพลง​สรรเสริญ 146:3) ประวัติศาสตร์​เผย​ให้​เห็น​กรณี​พิพาท​ระหว่าง​ชาติ, กลุ่ม​ชาติ​พันธุ์, และ​เผ่า​ชน​ที่​เกิด​ขึ้น​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​มาก​มาย. จริง​อยู่ มี​ช่วง​สั้น ๆ บาง​ช่วง​ที่​มี​สันติภาพ แต่​เป็น​สันติภาพ​แบบ​ไหน? หาก​ชาติ​สอง​ชาติ​ทำ​สงคราม​กัน​แล้ว​ก็​ประกาศ​สันติภาพ ถ้า​ไม่​ใช่​เพราะ​ชาติ​หนึ่ง​พ่าย​แพ้​ก็​เพราะ​ทั้ง​สอง​ชาติ​มอง​ไม่​เห็น​ประโยชน์​ที่​จะ​สู้​รบ​กัน​ต่อ​ไป สันติภาพ​ที่​ประกาศ​ออก​มา​นี้​เป็น​สันติภาพ​แบบ​ไหน? ความ​เกลียด​ชัง, ความ​สงสัย​แคลง​ใจ, และ​ความ​อิจฉา​ริษยา​ที่​จุด​ชนวน​ให้​เกิด​สงคราม​ก็​ยัง​มี​อยู่​เหมือน​เดิม. สันติภาพ​แต่​เพียง​เปลือก​นอก ซึ่ง​เป็น​เหมือน​สี​ที่​ทา​ทับ​ความ​เป็น​ปฏิปักษ์​เอา​ไว้ ไม่​ใช่​สันติภาพ​ถาวร.—ยะเอศเคล 13:10.

3. เหตุ​ใด​สันติ​สุข​ของ​ไพร่พล​พระเจ้า​จึง​ต่าง​ไป​จาก​สันติ​สุข​ที่​มนุษย์​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น?

3 อย่าง​ไร​ก็​ตาม สันติ​สุข​แท้​มี​อยู่​ใน​โลก​นี้​ที่​คุ​กรุ่น​ด้วย​ภัย​สงคราม. มี​อยู่​ที่​ไหน? ใน​ท่ามกลาง​คริสเตียน​แท้​ผู้​ติด​ตาม​รอย​พระ​บาท​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ ซึ่ง​เอา​ใจ​ใส่​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​และ​พยายาม​เลียน​แบบ​แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​พระองค์. (1 โกรินโธ 11:1; 1 เปโตร 2:21) สันติ​สุข​ที่​มี​อยู่​ท่ามกลาง​คริสเตียน​แท้​ต่าง​เชื้อชาติ, ต่าง​สัญชาติ, และ​ต่าง​ฐานะ​ทาง​สังคม​เป็น​สันติ​สุข​แท้​เพราะ​มี​ต้น​กำเนิด​มา​จาก​สัมพันธภาพ​อัน​เปี่ยม​ด้วย​สันติ​สุข​ซึ่ง​พวก​เขา​มี​กับ​พระเจ้า—สัมพันธภาพ​ที่​มี​พื้น​ฐาน​อยู่​บน​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​ใน​เครื่อง​บูชา​ไถ่​ของ​พระ​เยซู​คริสต์. สันติ​สุข​ของ​พวก​เขา​เป็น​ของ​ประทาน​จาก​พระเจ้า ไม่​ใช่​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​จาก​ความ​พยายาม​ของ​มนุษย์. (โรม 15:33; เอเฟโซ 6:23, 24) สันติ​สุข​นี้​เป็น​ผล​จาก​การ​ที่​พวก​เขา​อ่อนน้อม​อยู่​ภาย​ใต้ “องค์​สันติ​ราช” คือ​พระ​เยซู​คริสต์ และ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา “พระเจ้า​แห่ง​ความ​รัก​และ​สันติ​สุข.”—ยะซายา 9:6; 2 โกรินโธ 13:11, ฉบับ​แปล​ใหม่.

4. คริสเตียน “ติด​ตาม” สันติ​สุข​โดย​วิธี​ใด?

4 สันติ​สุข​ไม่​เกิด​ขึ้น​กับ​บุคคล​ที่​ไม่​สมบูรณ์​โดย​อัตโนมัติ. ด้วย​เหตุ​นั้น เปโตร​กล่าว​ว่า​คริสเตียน​แต่​ละ​คน​ควร “แสวง​หา​สันติ​สุข​และ​ติด​ตาม​สันติ​สุข​นั้น.” (1 เปโตร 3:11) เรา​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​โดย​วิธี​ใด? คำ​พยากรณ์​โบราณ​ข้อ​หนึ่ง​ชี้​คำ​ตอบ. พระ​ยะโฮวา​ตรัส​โดย​ทาง​ยะซายา​ดัง​นี้: “บุตร​ทั้ง​สิ้น​ของ​เจ้า​จะ​เป็น​บุคคล​ที่​ได้​รับ​การ​สั่ง​สอน​จาก​พระ​ยะโฮวา และ​สันติ​สุข​แห่ง​เหล่า​บุตร​ของ​เจ้า​จะ​มี​บริบูรณ์.” (ยะซายา 54:13, ล.ม.; ฟิลิปปอย 4:9) ใช่​แล้ว สันติ​สุข​แท้​เกิด​ขึ้น​กับ​ผู้​ที่​เอา​ใจ​ใส่​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​สอน. นอก​จาก​นั้น ควบ​คู่​ไป​กับ “ความ​รัก, ความ​ยินดี, . . . ความ​อด​กลั้น​ทน​นาน, ความ​กรุณา, ความ​ดี, ความ​เชื่อ, ความ​อ่อนโยน, การ​รู้​จัก​บังคับตน” สันติ​สุข​เป็น​ผล​แห่ง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า. (ฆะลาเตีย 5:22, 23, ล.ม.) สันติ​สุข​ไม่​อาจ​เกิด​ขึ้น​กับ​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​รัก, ไม่​ยินดี, ไม่​อด​กลั้น, ไม่​กรุณา, ชั่ว​ร้าย, ขาด​ความ​เชื่อ, ดุ​ร้าย, หรือ​ไม่​รู้​จัก​บังคับ​ตน.

“จง​สร้าง​สันติ​กับ​คน​ทั้ง​ปวง”

5, 6. (ก) มี​ความ​แตกต่าง​เช่น​ไร​ระหว่าง​การ​มี​สันติ​กับ​การ​สร้าง​สันติ? (ข) คริสเตียน​พยายาม​สร้าง​สันติ​กับ​ใคร?

5 พจนานุกรม​นิยาม​คำ​สันติ​ไว้​ว่า “ความ​สงบ.” คำ​นิยาม​ดัง​กล่าว​ครอบ​คลุม​ถึง​ภาวการณ์​หลาย​อย่าง​เมื่อ​ไม่​มี​การ​ต่อ​สู้​ชิง​ดี​ชิง​เด่น​กัน. ที่​จริง แม้​แต่​คน​ตาย​ก็​อยู่​ใน​สภาพ​สงบ! อย่าง​ไร​ก็​ตาม เพื่อ​จะ​มี​สันติ​แท้​คน​เรา​จำเป็น​ต้อง​ไม่​เพียง​แต่​รัก​ความ​สงบ. ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ความ​สุข​มี​แก่​ผู้​สร้าง​สันติ เพราะ​เขา​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า ‘บุตร​ของ​พระเจ้า.’ ” (มัดธาย 5:9, ล.ม.) พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​บุคคล​ซึ่ง​ใน​ภาย​หลัง​จะ​มี​โอกาส​ได้​เป็น​บุตร​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​และ​รับ​ชีวิต​อมตะ​ใน​สวรรค์. (โยฮัน 1:12; โรม 8:14-17) และ​ใน​ที่​สุด มนุษยชาติ​ที่​ซื่อ​สัตย์​ทั้ง​หมด​ที่​ไม่​มี​ความ​หวัง​ฝ่าย​สวรรค์​จะ​ได้​รับ “เสรีภาพ​อัน​รุ่ง​โรจน์​แห่ง​บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​พระเจ้า.” (โรม 8:21, ล.ม.) เฉพาะ​คน​ที่​สร้าง​สันติ​สามารถ​มี​ความ​หวัง​เช่น​นั้น. บ่อย​ครั้ง มี​ข้อ​แตกต่าง​ระหว่าง​การ​มี​สันติ​หรือ​ความ​สุข​สงบ​กับ​การ​สร้าง​สันติ. การ​สร้าง​สันติ​ตาม​ที่​ใช้​ใน​พระ​คัมภีร์​มี​นัย​ความหมาย​บ่ง​บอก​ถึง​การ​ลง​มือ​ทำ​เพื่อ​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข บาง​ครั้ง​เป็น​การ​สร้าง​สันติ​สุข​ให้​เกิด​ขึ้น​ใน​ที่​ซึ่ง​ก่อน​หน้า​นั้น​ยัง​ขาด​อยู่.

6 โดย​คำนึง​ถึง​ข้อ​นี้ ขอ​ให้​พิจารณา​คำ​แนะ​นำ​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​มี​ไป​ถึง​พี่​น้อง​ใน​กรุง​โรม​ว่า “หาก​เป็น​ได้ เท่า​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย จง​สร้าง​สันติ​กับ​คน​ทั้ง​ปวง.” (โรม 12:18, ล.ม.) เปาโล​ไม่​ได้​บอก​พวก​เขา​ว่า​ให้​เพียง​แต่​ทำ​ใจ​ให้​สงบ แม้​ว่า​การ​ทำ​อย่าง​นั้น​คง​จะ​ช่วย​ได้. ท่าน​กำลัง​สนับสนุน​พวก​เขา​ให้​สร้าง สันติ. กับ​ใคร? กับ “คน​ทั้ง​ปวง”—สมาชิก​ครอบครัว, เพื่อน​คริสเตียน, และ​แม้​แต่​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​เหมือน​กับ​พวก​เขา. ท่าน​สนับสนุน​พวก​เขา​ให้​สร้าง​สันติ​กับ​ผู้​อื่น ‘เท่า​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​พวก​เขา.’ เปล่า ท่าน​ไม่​ต้องการ​ให้​พวก​เขา​ประนีประนอม​ความ​เชื่อ​เพื่อ​เห็น​แก่​สันติ​สุข. แทน​ที่​จะ​ขัด​แย้ง​กับ​ผู้​อื่น​โดย​ไม่​จำเป็น พวก​เขา​ควร​เข้า​หา​ผู้​คน​ด้วย​เจตนา​อัน​เปี่ยม​ด้วย​สันติ. คริสเตียน​ควร​ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​ว่า​เขา​กำลัง​ติด​ต่อ​อยู่​กับ​คน​ที่​อยู่​ใน​ประชาคม​หรือ​คน​ภาย​นอก. (ฆะลาเตีย 6:10) สอดคล้อง​กับ​ข้อ​นี้ เปาโล​เขียน​ว่า “จง​มุ่ง​ทำ​สิ่ง​ดี​ต่อ​กัน​และ​ต่อ​คน​อื่น​ทุก​คน​เสมอ.”—1 เธซะโลนิเก 5:15, ล.ม.

7, 8. คริสเตียน​สร้าง​สันติ​กับ​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​เหมือน​กับ​เขา​โดย​วิธี​ใด และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

7 เรา​จะ​สร้าง​สันติ​กับ​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​เหมือน​กับ​เรา​และ​แม้​แต่​คน​ที่​ต่อ​ต้าน​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ด้วย​ซ้ำ​โดย​วิธี​ใด? วิธี​หนึ่ง​คือ เรา​หลีก​เลี่ยง​ไม่​แสดง​ท่าที​ว่า​เหนือ​กว่า. ยก​ตัว​อย่าง คง​ไม่​เป็น​การ​สร้าง​สันติ​ที่​จะ​พูด​เกี่ยว​กับ​บาง​คน​โดย​ใช้​คำ​พูด​ดูถูก​ดูหมิ่น. พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​เปิด​เผย​คำ​พิพากษา​ต่อ​องค์การ​และ​กลุ่ม​คน​จำพวก​ต่าง ๆ แต่​เรา​ไม่​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​พูด​ถึง​ใคร​ก็​ตาม​เป็น​ราย​บุคคล​ราว​กับ​ว่า​เขา​ถูก​ตัดสิน​แล้ว. ที่​จริง เรา​ไม่​ตัดสิน​ผู้​อื่น แม้​แต่​คน​ที่​ต่อ​ต้าน​เรา. หลัง​จาก​ที่​บอก​ติโต​ให้​แนะ​นำ​คริสเตียน​ใน​เกาะ​ครีต (เกรเต) เกี่ยว​กับ​การ​ติด​ต่อ​กับ​เจ้าหน้าที่​บ้าน​เมือง เปาโล​กล่าว​เตือน​ใจ​พวก​เขา​ว่า “ไม่​ให้​พูด​ใส่​ร้าย​คน​หนึ่ง​คน​ใด, ไม่​ให้​เป็น​คน​ชอบ​วิวาท, ให้​มี​เหตุ​ผล, สำแดง​แต่​ความ​อ่อนโยน​ต่อ​คน​ทั้ง​ปวง.”—ติโต 3:1, 2, ล.ม.

8 การ​สร้าง​สันติ​กับ​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​เหมือน​กับ​เรา​มี​ส่วน​ช่วย​อย่าง​มาก​ใน​การ​แนะ​นำ​ความ​จริง​แก่​คน​เหล่า​นั้น. แน่นอน เรา​ไม่​ปลูกฝัง​มิตรภาพ​ที่ “ทำ​ให้​นิสัย​ดี​เสีย​ไป.” (1 โกรินโธ 15:33, ล.ม.) ถึง​กระนั้น เรา​สามารถ​แสดง​มารยาท​ที่​ดี และ​เรา​ควร​ปฏิบัติ​ต่อ​ทุก​คน​ด้วย​ความ​นับถือ​และ​กรุณา. เปโตร​เขียน​ว่า “จง​รักษา​ความ​ประพฤติ​ของ​ท่าน​ให้​ดี​งาม​ท่ามกลาง​นานา​ชาติ เพื่อ​ว่า ใน​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​ต่อ​ต้าน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า​เป็น​คน​ทำ​ชั่ว​นั้น เนื่อง​ด้วย​การ​กระทำ​ที่​ดี​งาม​ของ​ท่าน​ซึ่ง​เขา​เป็น​ประจักษ์​พยาน​นั้น เขา​อาจ​สรรเสริญ​พระเจ้า​ใน​วัน​สำหรับ​การ​ตรวจตรา​ของ​พระองค์.”—1 เปโตร 2:12, ล.ม.

จง​สร้าง​สันติ​ใน​งาน​รับใช้

9, 10. อัครสาวก​เปาโล​วาง​ตัว​อย่าง​เช่น​ไร​ใน​การ​สร้าง​สันติ​กับ​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ?

9 คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​เป็น​ที่​รู้​จัก​เพราะ​ความ​กล้า​หาญ​ของ​พวก​เขา. พวก​เขา​ไม่​ลด​ความ​หนักแน่น​ของ​ข่าวสาร และ​เมื่อ​พบ​กับ​การ​ต่อ​ต้าน พวก​เขา​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​ใน​ฐานะ​ผู้​ปกครอง​ยิ่ง​กว่า​มนุษย์. (กิจการ 4:29; 5:29) อย่าง​ไร​ก็​ตาม พวก​เขา​ไม่​สับสน​ว่า​อะไร​คือ​ความ​กล้า​อะไร​คือ​ความ​หยาบคาย. ขอ​ให้​พิจารณา​วิธี​ที่​เปาโล​ใช้​เมื่อ​ท่าน​แก้​ต่าง​ความ​เชื่อ​ของ​ตน​ต่อ​กษัตริย์​เฮโรด​อะฆะริปา​ที่​สอง. เฮโรด​อะฆะริปา​มี​สัมพันธ์​สวาท​กับ​เบระนิเก น้อง​สาวร่วม​อุทร​ของ​ตน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เปาโล​ไม่​คิด​ที่​จะ​ว่า​กล่าว​อะฆะริปา​ใน​เรื่อง​ศีลธรรม. แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น ท่าน​เน้น​ใน​จุด​ที่​เห็น​พ้อง​ต้อง​กัน ยอม​รับ​อะฆะริปา​ว่า​เป็น​ผู้​เชี่ยวชาญ​ใน​ธรรมเนียม​ของ​ชาว​ยิว​และ​เชื่อถือ​ผู้​พยากรณ์.—กิจการ 26:2, 3, 27.

10 เปาโล​แกล้ง​ยก​ยอ​คน​ผู้​นี้​ซึ่ง​สามารถ​สั่ง​ปล่อย​ท่าน​ให้​เป็น​อิสระ​ได้​อย่าง​นั้น​ไหม? ไม่. เปาโล​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​ท่าน​เอง​และ​พูด​ความ​จริง. ไม่​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ท่าน​พูด​กับ​เฮโรด​อะฆะริปา​ที่​ไม่​จริง. (เอเฟโซ 4:15) แต่​เปาโล​เป็น​ผู้​สร้าง​สันติ​และ​ทราบ​ว่า​ทำ​อย่าง​ไร​ท่าน​จึง​จะ​กลาย​เป็น “ทุก​อย่าง​กับ​ผู้​คน​ทุก​ชนิด.” (1 โกรินโธ 9:22, ล.ม.) เป้าหมาย​ของ​ท่าน​คือ​เพื่อ​ปก​ป้อง​สิทธิ์​ของ​ท่าน​ที่​จะ​ประกาศ​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู. ด้วย​ความ​เป็น​ครู​ที่​ดี ท่าน​เริ่ม​โดย​กล่าว​ถึง​สิ่ง​ที่​ทั้ง​ตัว​ท่าน​เอง​และ​อะฆะริปา​จะ​เห็น​พ้อง​ด้วย​ได้. โดย​วิธี​นี้ เปาโล​ช่วย​กษัตริย์​ผู้​ไร้​ศีลธรรม​ให้​มอง​เห็น​ศาสนา​คริสเตียน​ใน​แง่​ที่​น่า​ประทับใจ​กว่า​สำหรับ​เขา.—กิจการ 26:28-31.

11. เรา​จะ​เป็น​คน​ที่​สร้าง​สันติ​ใน​งาน​รับใช้​ของ​เรา​ได้​โดย​วิธี​ใด?

11 เรา​จะ​เป็น​ผู้​สร้าง​สันติ​ใน​งาน​รับใช้​ของ​เรา​ได้​โดย​วิธี​ใด? เช่น​เดียว​กับ​เปาโล เรา​ควร​หลีก​เลี่ยง​การ​โต้​เถียง. จริง​อยู่ บาง​ครั้ง​เรา​จำเป็น​ต้อง “กล่าว​คำ​ของ​พระเจ้า​โดย​ปราศจาก​ความ​กลัว” ปก​ป้อง​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​อย่าง​กล้า​หาญ. (ฟิลิปปอย 1:14) แต่​ใน​กรณี​ส่วน​ใหญ่ เป้าหมาย​หลัก​ของ​เรา​คือ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี. (มัดธาย 24:14) หาก​มี​ใคร​มอง​เห็น​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า เขา​ก็​จะ​สามารถ​เริ่ม​ละ​ทิ้ง​ทัศนะ​ทาง​ศาสนา​ที่​ผิด ๆ และ​ชำระ​ตัว​เขา​ให้​พ้น​มลทิน​ของ​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง. ด้วย​เหตุ​นั้น เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้ นับ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​เน้น​สิ่ง​ที่​จะ​ดึงดูด​ใจ​ผู้​ฟัง​ของ​เรา โดย​เริ่ม​กับ​สิ่ง​ซึ่ง​เรา​เห็น​พ้อง​กับ​เขา. คง​เป็น​การ​ขัด​ขวาง​ไม่​ให้​บรรลุ​เป้าหมาย​ของ​เรา​เอง​หาก​เรา​สร้าง​ความ​เป็น​ปฏิปักษ์ เพราะ​หาก​เรา​ใช้​วิธี​ที่​ผ่อน​สั้น​ผ่อน​ยาว บาง​คน​อาจ​ฟัง​ข่าวสาร​ของ​เรา.— 2 โกรินโธ 6:3.

ผู้​สร้าง​สันติ​ใน​ครอบครัว

12. เรา​จะ​เป็น​ผู้​สร้าง​สันติ​ใน​ครอบครัว​ได้​โดย​วิธี​ใด​บ้าง?

12 เปาโล​กล่าว​ว่า​คน​ที่​สมรส “จะ​มี​ความ​ลำบาก​ใน​เนื้อหนัง​ของ​ตน.” (1 โกรินโธ 7:28, ล.ม.) มี​ความ​ยุ่งยาก​ลำบาก​หลาย​อย่าง​ที่​จะ​ต้อง​ประสบ. ประการ​หนึ่ง​ก็​คือ บาง​คู่​จะ​มี​ความ​เห็น​ขัด​แย้ง​กัน​ใน​บาง​ครั้ง. ควร​จัด​การ​ข้อ​ขัด​แย้ง​เหล่า​นี้​อย่าง​ไร? ด้วย​สันติ​วิธี. คน​ที่​สร้าง​สันติ​จะ​พยายาม​ระงับ​ความ​ขัด​แย้ง​ไม่​ให้​ลุก​ลาม. โดย​วิธี​ใด? ก่อน​อื่น โดย​ระวัง​ลิ้น. เมื่อ​ใช้​อวัยวะ​เล็ก ๆ ชิ้น​นี้​พูด​ถากถาง​และ​ดูถูก มัน​ก็​อาจ​เป็น “สิ่ง​ที่​บังคับ​ไม่​อยู่ ก่อ​ให้​เกิด​ความ​เสียหาย เต็ม​ไป​ด้วย​พิษ​ที่​ทำ​ให้​ถึง​ตาย” ได้​อย่าง​แท้​จริง. (ยาโกโบ 3:8, ล.ม.) คน​ที่​สร้าง​สันติ​ใช้​ลิ้น​เพื่อ​เสริม​สร้าง​กัน​ขึ้น ไม่​ใช่​เพื่อ​ทำลาย.—สุภาษิต 12:18.

13, 14. เรา​จะ​รักษา​สันติ​สุข​ได้​โดย​วิธี​ใด​เมื่อ​เรา​พูด​อะไร​ที่​ผิด​พลาด หรือ​เมื่อ​อารมณ์​คุ​กรุ่น?

13 เนื่อง​ด้วย​ความ​ไม่​สมบูรณ์ บาง​ครั้ง​เรา​ทุก​คน​พูด​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​เรา​รู้สึก​เสียใจ​ใน​ภาย​หลัง. เมื่อ​เกิด​เหตุ​การณ์​อย่าง​นี้​ขึ้น จง​แก้ไข​โดย​เร็ว—เพื่อ​สร้าง​สันติ. (สุภาษิต 19:11; โกโลซาย 3:13) หลีก​เลี่ยง​การ​จมปลัก​อยู่​กับ “การ​โต้​เถียง​กัน​เรื่อง​ถ้อย​คำ” และ “การ​โต้​เถียง​กัน​อย่าง​รุนแรง​ด้วย​เรื่อง​หยุมหยิม.” (1 ติโมเธียว 6:4, 5, ล.ม.) แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น จง​มอง​ให้​ลึก​กว่า​ผิว​นอก และ​พยายาม​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​คู่​สมรส. หาก​เขา​พูด​จา​รุนแรง​กับ​คุณ อย่า​โต้​ตอบ​ด้วย​คำ​พูด​รุนแรง. พึง​จำ​ไว้​ว่า “คำ​ตอบ​อ่อน​หวาน​กระทำ​ให้​ความ​โกรธ​ผ่าน​พ้น​ไป.”—สุภาษิต 15:1.

14 บาง​ครั้ง​บาง​คราว คุณ​อาจ​จำเป็น​ต้อง​พิจารณา​คำ​แนะ​นำ​ใน​สุภาษิต 17:14 (ล.ม.) ที่​ว่า “ก่อน​ที่​จะ​เกิด​การ​ทะเลาะ​กัน จง​หลบ​ไป​เสีย.” จง​หลบ​ไป​ก่อน​เมื่อ​อารมณ์​กำลัง​คุ​กรุ่น. ภาย​หลัง เมื่อ​อารมณ์​เย็น​ลง​แล้ว คุณ​อาจ​สามารถ​แก้​ปัญหา​ได้​อย่าง​ละมุน​ละม่อม. ใน​บาง​กรณี อาจ​เหมาะ​ที่​จะ​ขอ​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​ซึ่ง​เป็น​ผู้​อาวุโส​ให้​ช่วย. คน​เหล่า​นี้​ซึ่ง​มี​ประสบการณ์​และ​มี​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​อาจ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ที่​ทำ​ให้​รู้สึก​ดี​ขึ้น​ได้​เมื่อ​สันติ​สุข​ใน​ชีวิต​สมรส​ถูก​คุกคาม.—ยะซายา 32:1, 2.

ผู้​สร้าง​สันติ​ใน​ประชาคม

15. ตาม​ที่​ยาโกโบ​ได้​กล่าว​ไว้ น้ำใจ​ที่​ไม่​ดี​เช่น​ไร​ซึ่ง​ได้​ก่อ​ตัว​ขึ้น​ใน​คริสเตียน​บาง​คน และ​เหตุ​ใด​น้ำใจ​นี้​จึง​เป็น “อย่าง​โลก,” “อย่าง​เดียรัจฉาน,” และ “อย่าง​ผี​ปิศาจ”?

15 น่า​เศร้า มี​หลักฐาน​ว่า​คริสเตียน​บาง​คน​ใน​ศตวรรษ​แรก​มี​น้ำใจ​ริษยา​และ​ชอบ​โต้​เถียง ซึ่ง​ตรง​ข้าม​กับ​สันติ​สุข. ยาโกโบ​กล่าว​ว่า “นี่​มิ​ใช่​สติ​ปัญญา​ที่​ลง​มา​จาก​เบื้อง​บน แต่​เป็น​สติ​ปัญญา​อย่าง​โลก, อย่าง​เดียรัจฉาน, อย่าง​ผี​ปิศาจ. เพราะ​ที่​ใด​มี​ความ​ริษยา​และ​น้ำใจ​ชอบ​โต้​เถียง ที่​นั่น​ก็​มี​ความ​ยุ่งเหยิง​และ​สิ่ง​เลว​ทราม​ทุก​อย่าง.” (ยาโกโบ 3:14-16, ล.ม.) บาง​คน​เชื่อ​ว่า​คำ​ภาษา​กรีก​ซึ่ง​แปล​ใน​ที่​นี้​ว่า “น้ำใจ​ชอบ​โต้​เถียง” เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​ทะเยอทะยาน​อัน​เห็น​แก่​ตัว การ​ใช้​เล่ห์​เหลี่ยม​เพื่อ​จะ​ได้​ตำแหน่ง​บาง​อย่าง. ยาโกโบ​จึง​มี​เหตุ​ผล​ที่​ดี​ที่​เรียก​น้ำใจ​เช่น​นั้น​ว่า​เป็น “อย่าง​โลก, อย่าง​เดียรัจฉาน, อย่าง​ผี​ปิศาจ.” ตลอด​ประวัติศาสตร์ ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หลาย​ของ​โลก​ได้​ปกครอง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​เกิด​การ​โต้​เถียง​กัน ดุจ​สัตว์​ป่า​ที่​ต่อ​สู้​กัน. น้ำใจ​ชอบ​โต้​เถียง​เป็น “อย่าง​โลก” และ “อย่าง​เดียรัจฉาน” อย่าง​แท้​จริง. นอก​จาก​นี้ น้ำใจ​นี้​ยัง​เป็น “อย่าง​ผี​ปิศาจ” ด้วย. นิสัย​อัน​แฝง​เร้น​นี้​ถูก​แสดง​ออก​มา​ครั้ง​แรก​โดย​ทูตสวรรค์​ที่​กระหาย​อำนาจ​ซึ่ง​ตั้ง​ตัว​ต่อ​ต้าน​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​กลาย​เป็น​ซาตาน ผู้​ปกครอง​แห่ง​ผี​ปิศาจ.

16. คริสเตียน​บาง​คน​ใน​ศตวรรษ​แรก​แสดง​น้ำใจ​แบบ​เดียว​กับ​ซาตาน​อย่าง​ไร?

16 ยาโกโบ​กระตุ้น​คริสเตียน​ให้​ต้านทาน​น้ำใจ​ชอบ​โต้​เถียง เพราะ​น้ำใจ​แบบ​นี้​ไม่​ก่อ​ให้​เกิด​สันติ​สุข. ท่าน​เขียน​ว่า “สงคราม​มา​จาก​แหล่ง​ใด​และ​การ​ต่อ​สู้​ท่ามกลาง​พวก​ท่าน​มา​จาก​แหล่ง​ใด? มัน​มิ​ได้​มา​จาก​แหล่ง​นี้​หรือ คือ​จาก​ความ​กระหาย​อยาก​ได้​ความ​เพลิดเพลิน​ทาง​เนื้อหนัง​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ซึ่ง​กำลัง​สู้​รบ​กัน​อยู่​ใน​อวัยวะ​ของ​ท่าน?” (ยาโกโบ 4:1, ล.ม.) ใน​ที่​นี้ “ความ​กระหาย​อยาก​ได้​ความ​เพลิดเพลิน​ทาง​เนื้อหนัง” อาจ​หมาย​ถึง​ความ​โลภ​อยาก​ได้​สิ่ง​ฝ่าย​วัตถุ​หรือ​ความ​ปรารถนา​ความ​เด่น​ดัง, อำนาจ​บงการ, หรือ​อิทธิพล. เช่น​เดียว​กับ​ซาตาน บาง​คน​ใน​ประชาคม​ดู​เหมือน​ว่า​อยาก​จะ​เปล่ง​ประกาย​มาก​กว่า​จะ​เป็น “ผู้​น้อย” ซึ่ง​พระ​เยซู​ตรัส​ไว้​ว่า​สาวก​แท้​ของ​พระองค์​ควร​เป็น. (ลูกา 9:48) น้ำใจ​เช่น​นั้น​อาจ​ทำลาย​สันติ​สุข​ใน​ประชาคม​ได้.

17. คริสเตียน​ใน​ปัจจุบัน​จะ​เป็น​ผู้​สร้าง​สันติ​ใน​ประชาคม​ได้​โดย​วิธี​ใด?

17 ปัจจุบัน เรา​ต้อง​ต้านทาน​แนว​โน้ม​ของ​การ​นิยม​วัตถุ, ความ​ริษยา, หรือ​ความ​ทะเยอทะยาน​ที่​ไร้​ประโยชน์​เช่น​กัน. หาก​เรา​เป็น​ผู้​สร้าง​สันติ​ที่​แท้​จริง เรา​จะ​ไม่​รู้สึก​กังวล​ใจ​ใน​บทบาท​ที่​ด้อย​กว่า​ของ​ตน​หาก​บาง​คน​ใน​ประชาคม​มี​ความ​ชำนาญ​กว่า​เรา​ใน​งาน​บาง​อย่าง และ​เรา​จะ​ไม่​ทำ​ให้​เขา​เสื่อม​ความ​น่า​นับถือ​ใน​สายตา​ผู้​อื่น​ด้วย​การ​ตั้ง​ข้อ​สงสัย​เจตนา​ของ​เขา. หาก​เรา​มี​ความ​สามารถ​ที่​โดด​เด่น เรา​จะ​ไม่​ใช้​ความ​สามารถ​นั้น​ใน​การ​ทำ​ให้​ตัว​เรา​เอง​ดู​ดี​กว่า​ผู้​อื่น ราว​กับ​จะ​แสดง​เป็น​นัย ๆ ว่า​ประชาคม​จะ​รุ่งเรือง​ได้​ก็​เนื่อง​ด้วย​ความ​รู้​ความ​สามารถ​ของ​เรา​เท่า​นั้น. น้ำใจ​เช่น​นั้น​ย่อม​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​แตก​แยก; เป็น​น้ำใจ​ที่​ไม่​ก่อ​ให้​เกิด​สันติ​สุข. คน​ที่​สร้าง​สันติ​ไม่​โอ้อวด​ความ​สามารถ​ของ​ตน แต่​เขา​ใช้​ความ​สามารถ​นั้น​อย่าง​เจียม​ตัว​เพื่อ​รับใช้​พี่​น้อง​และ​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระ​ยะโฮวา. พวก​เขา​ตระหนัก​ว่า เมื่อ​ถึง​ที่​สุด​แล้ว สิ่ง​ที่​ระบุ​ตัว​คริสเตียน​แท้​คือ​ความ​รัก ไม่​ใช่​ความ​สามารถ.—โยฮัน 13:35; 1 โกรินโธ 13:1-3.

“สันติ​สุข​เป็น​ผู้​ดู​แล​เจ้า”

18. ผู้​ปกครอง​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข​ใน​หมู่​พวก​เขา​เอง​โดย​วิธี​ใด?

18 ผู้​ปกครอง​ประชาคม​นำ​หน้า​ใน​การ​เป็น​ผู้​สร้าง​สันติ. พระ​ยะโฮวา​ทรง​บอก​ล่วง​หน้า​เกี่ยว​กับ​ไพร่พล​ของ​พระองค์​ดัง​นี้: “เรา​จะ​แต่ง​ตั้ง​สันติ​สุข​เป็น​ผู้​ดู​แล​เจ้า​และ​แต่ง​ตั้ง​ความ​ชอบธรรม​เป็น​ผู้​มอบหมาย​งาน​แก่​เจ้า.” (ยะซายา 60:17, ล.ม.) สอดคล้อง​กับ​คำ​พยากรณ์​ข้อ​นี้ ผู้​ที่​รับใช้​เป็น​คริสเตียน​ผู้​บำรุง​เลี้ยง​ทำ​งาน​หนัก​เพื่อ​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข​ใน​หมู่​พวก​เขา​เอง​และ​ใน​หมู่​ฝูง​แกะ. ผู้​ปกครอง​สามารถ​รักษา​สันติ​สุข​ใน​หมู่​พวก​เขา​เอง​โดย​แสดง “สติ​ปัญญา​ที่​มา​จาก​เบื้อง​บน” ซึ่ง​ก่อ​ให้​เกิด​สันติ​สุข​และ​มี​เหตุ​ผล. (ยาโกโบ 3:17) โดย​ที่​มี​พื้นเพ​และ​ประสบการณ์​ชีวิต​ต่าง​กัน บาง​ครั้ง​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​มี​ทัศนะ​แตกต่าง​กัน. นี่​หมายความ​ว่า​พวก​เขา​ขาด​สันติ​สุข​ไหม? ไม่​เป็น​เช่น​นั้น หาก​มี​การ​จัด​การ​ใน​เรื่อง​ทัศนะ​ที่​แตกต่าง​กัน​นี้​อย่าง​ถูก​ต้อง. ผู้​สร้าง​สันติ​แสดง​ความ​คิด​อย่าง​อ่อน​สุภาพ แล้ว​ก็​ฟัง​ผู้​อื่น​พูด​อย่าง​ให้​ความ​นับถือ. แทน​ที่​จะ​ยืนกราน​ตาม​วิธี​การ​ของ​ตัว​เอง ผู้​สร้าง​สันติ​จะ​พิจารณาทัศนะ​ของ​พี่​น้อง​อย่าง​จริงจัง​และ​จริง​ใจ. หาก​ไม่​ผิด​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล ตาม​ปกติ​แล้ว​ย่อม​มี​ที่​ว่าง​สำหรับ​ทัศนะ​ที่​หลาก​หลาย. เมื่อ​ผู้​อื่น​ไม่​เห็น​ด้วย ผู้​สร้าง​สันติ​จะ​ยินยอม​และ​สนับสนุน​การ​ตัดสิน​ตาม​เสียง​ข้าง​มาก. โดย​วิธี​นี้ เขา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เขา​มี​เหตุ​ผล. (1 ติโมเธียว 3:2, 3) ผู้​ดู​แล​ที่​มี​ประสบการณ์​ทราบ​ว่า​การ​รักษา​สันติ​สุข​สำคัญ​กว่า​การ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ตาม​วิธี​ของ​ตน​เอง.

19. ผู้​ปกครอง​ทำ​อย่าง​ไร​ใน​ฐานะ​ผู้​สร้าง​สันติ​ใน​ประชาคม?

19 ผู้​ปกครอง​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข​กับ​สมาชิก​ของ​ฝูง​แกะ​โดย​ช่วยเหลือ​สนับสนุน​พวก​เขา​และ​ไม่​วิพากษ์วิจารณ์​ความ​พยายาม​ของ​พวก​เขา​จน​เกิน​ไป. จริง​อยู่ บาง​ครั้ง​บาง​คน​อาจ​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​ปรับ​ให้​เข้า​ที่. (ฆะลาเตีย 6:1) แต่​งาน​ของ​คริสเตียน​ผู้​ดู​แล​ไม่​ใช่​การ​ตี​สอน​เป็น​ส่วน​ใหญ่. เขา​ให้​คำ​ชมเชย​บ่อย ๆ. ผู้​ปกครอง​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​พยายาม​มอง​หา​ข้อ​ดี​ใน​ตัว​ผู้​อื่น. ผู้​ดู​แล​หยั่ง​รู้​ค่า​งาน​หนัก​ของ​เพื่อน​คริสเตียน และ​พวก​เขา​เชื่อ​มั่น​ว่า​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​กำลัง​ทำ​ดี​ที่​สุด​เท่า​ที่​เขา​ทำ​ได้.— 2 โกรินโธ 2:3, 4.

20. ประชาคม​ได้​รับ​ประโยชน์​อย่าง​ไร​หาก​ทุก​คน​เป็น​ผู้​สร้าง​สันติ?

20 ดัง​นั้น ไม่​ว่า​จะ​ใน​ครอบครัว, ใน​ประชาคม, และ​ใน​การ​ติด​ต่อ​กับ​ผู้​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​เหมือน​กับ​เรา เรา​พยายาม​สร้าง​สันติ ทำ​ให้​เกิด​สันติ​สุข. หาก​เรา​ปลูกฝัง​สันติ​สุข​อย่าง​พากเพียร เรา​จะ​ส่ง​เสริม​ให้​เกิด​ความ​สุข​ใน​ประชาคม. ขณะ​เดียว​กัน เรา​จะ​ได้​รับ​การ​ปก​ป้อง​และ​เสริม​สร้าง​ใน​หลาย​ทาง ดัง​ที่​เรา​จะ​เห็น​ใน​บทความ​ถัด​ไป.

คุณ​จำ​ได้​ไหม?

• การ​สร้าง​สันติ​หมายความ​เช่น​ไร?

• เรา​จะ​สร้าง​สันติ​ได้​โดย​วิธี​ใด​เมื่อ​ติด​ต่อ​กับ​ผู้​ที่​ไม่​ใช่​พยาน​ฯ?

• มี​วิธี​ใด​บ้าง​ใน​การ​ปลูกฝัง​สันติ​สุข​ใน​ครอบครัว?

• ผู้​ปกครอง​จะ​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข​ใน​ประชาคม​ได้​โดย​วิธี​ใด?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 9]

ผู้​สร้าง​สันติ​หลีก​เลี่ยง​การ​วาง​ท่า​ว่า​เหนือ​กว่า

[ภาพ​หน้า 10]

คริสเตียน​เป็น​ผู้​สร้าง​สันติ​ใน​งาน​รับใช้, ใน​บ้าน, และ​ใน​ประชาคม