ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณจะมี—ความเชื่อแท้ได้

คุณจะมี—ความเชื่อแท้ได้

คุณ​จะ​มี—ความ​เชื่อ​แท้​ได้

ตอน​เซราห์ เจน​อายุ 19 ปี เธอ​ได้​มา​รู้​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​มะเร็ง​รังไข่. หลัง​การ​ผ่าตัด เธอ​รู้สึก​พอ​ใจ​และ​มอง​อนาคต​ใน​แง่​ดี. ที่​จริง เธอ​มอง​ใน​แง่​ดี​ถึง​ขนาด​ที่​ตอน​อายุ 20 ปี​เธอ​ได้​หมั้น​และ​เริ่ม​วาง​โครงการ​จะ​แต่งงาน. ใน​ปี​เดียว​กัน​นั้น​เอง โรค​มะเร็ง​กลับ​มา​อีก และ​เธอ​รู้​ว่า​ตัว​เอง​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​อีก​เพียง​ไม่​กี่​สัปดาห์. เซราห์ เจน​เสีย​ชีวิต​ใน​เดือน​มิถุนายน 2000 ก่อน​เธอ​อายุ​ครบ 21 ปี.

สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​ผู้​มา​เยี่ยม​รู้สึก​ประทับใจ​เมื่อ​อยู่​ข้าง​เตียง​ของ​เซราห์ เจน​ใน​โรง​พยาบาล​ก็​คือ​ความ​มั่น​ใจ​อย่าง​สงบ​ของ​เธอ​เกี่ยว​กับ​อนาคต พร้อม​กับ​ความ​เชื่อ​ลึกซึ้ง​ของ​เธอ​ที่​มี​ใน​พระเจ้า​และ​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระองค์. ทั้ง ๆ ที่​เผชิญ​กับ​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​เศร้า​สลด​เหลือ​เกิน เธอ​ก็​ยัง​มั่น​ใจ​ใน​ความ​หวัง​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย—ที่​ว่า​เธอ​จะ​ได้​พบ​เพื่อน ๆ ทุก​คน​ของ​เธอ​อีก. (โยฮัน 5:28, 29) เธอ​กล่าว​ว่า “ฉัน​จะ​ได้​พบ​พวก​คุณ​ทุก​คน​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า.”

บาง​คน​ปฏิเสธ​ความ​เชื่อ​เช่น​นั้น​ว่า​เป็น​การ​หลอก​ลวง. ลูโดวิก เคนเนดี​ถาม​ว่า “ชีวิต​หลัง​จาก​ตาย​เป็น​อย่าง​อื่น​ได้​อีก​ไหม​นอก​จาก​ที่​เป็น​เพียง​ความ​เชื่อ​ใน​ท่ามกลาง​คน​ที่​รู้สึก​ไม่​มั่นคง​เท่า​นั้น​ที่​เชื่อ​ว่า​ใน​ตอน​ที่​มี​เสียง​เป่า​แตร​ครั้ง​สุด​ท้าย​ใน​วัน​พิพากษา จะ​มี​กิจกรรม​ที่​น่า​พอ​ใจ​เพลิดเพลิน​และ​เสียง​แตร​สำหรับ​พวก​เขา​ด้วย เป็น​ความ​เชื่อ​ที่​ว่า ณ ที่​ไหน​สัก​แห่ง​หนึ่ง​ใน​สวน​เอเดน​ซึ่ง​ปก​คลุม​ด้วย​ต้น​ไม้​ใบ​หญ้า พวก​เขา​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​ช่วง​เวลา​แห่ง​ความ​สุข​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ได้​ตาย​ไป​ก่อน​เขา​และ​คน​อื่น ๆ ซึ่ง​อาจ​ตาย​หลัง​จาก​เขา?” เรา​ต้อง​ยก​คำ​ถาม​ค้าน​ขึ้น​มา​สำหรับ​ข้อ​ความ​ดัง​กล่าว. อย่าง​ไหน​มี​เหตุ​ผล​มาก​กว่า—การ​เชื่อ​ว่า “ชีวิต​เรา​มี​อยู่​แค่​นี้ ดัง​นั้น​เรา​จึง​ฉวย​ประโยชน์​อย่าง​เต็ม​ที่​จาก​ชีวิต” ดัง​ที่​เคนเนดี​ชี้​แนะ หรือ​ว่า​การ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​และ​คำ​สัญญา​ของพระองค์​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย? เซราห์ เจน​เลือก​เชื่อ​อย่าง​หลัง. เธอ​พัฒนา​ความ​เชื่อ​เช่น​นั้น​ขึ้น​มา​โดย​วิธี​ใด?

“แสวง​หา​พระเจ้า . . . และ​พบ​พระองค์​อย่าง​แท้​จริง”

ที่​จะ​พัฒนา​ความ​เชื่อ​และ​ความ​ไว้​วางใจ​ใน​ใคร​สัก​คน​แล้ว คุณ​ต้อง​รู้​จัก​เขา และ​รู้​ว่า​เขา​คิด​และ​ปฏิบัติ​อย่าง​ไร. ขั้น​ตอน​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ทั้ง​หัวใจ​และ​จิตใจ. การ​พัฒนา​ความ​เชื่อ​แท้​ใน​พระเจ้า​ก็​เหมือน​กัน​นั่น​แหละ. คุณ​ต้อง​รู้​จัก​พระองค์, เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​คุณลักษณะ​และ​บุคลิกภาพ​ของ​พระองค์, เพื่อ​จะ​ทราบ​ว่า​พระองค์​ทรง​พิสูจน์​ว่า​เป็น​ผู้​ที่​เชื่อถือ​ได้​และ​ไว้​ใจ​ได้​เพียง​ใด​ใน​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​ตรัส​และ​กระทำ.—บทเพลง​สรรเสริญ 9:10; 145:1-21.

บาง​คน​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็น​ไป​ไม่​ได้. พวก​เขา​กล่าว​ว่า หาก​พระเจ้า​มี​อยู่​จริง พระองค์​ก็​อยู่​ไกล​เกิน​ไป ทั้ง​เป็น​เรื่อง​เข้าใจ​ยาก​เกิน​ไป. คน​ช่าง​สงสัย​ถาม​ว่า “หาก​พระเจ้า​เป็น​จริง​อย่าง​ที่​ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​เช่น​นั้น​สำหรับ​คริสเตียน​อย่าง​เช่น​เซราห์ เจน​แล้ว ทำไม​จึง​ไม่​สำแดง​พระองค์​เอง​ให้​เป็น​ที่​รู้​จัก​แก่​พวก​เรา​ล่ะ?” แต่​พระเจ้า​ทรง​ห่าง​ไกล​เกิน​ไป​และ​สืบ​ค้น​หา​ไม่​ได้​จริง ๆ ไหม? ใน​คำ​ปราศรัย​ต่อ​พวก​นัก​ปรัชญา​และ​ปัญญาชน​ใน​กรุง​เอเธนส์ อัครสาวก​เปาโล​ได้​กล่าว​ว่า “พระเจ้า​ซึ่ง​ได้​ทรง​สร้าง​โลก​และ​สรรพสิ่ง​ใน​โลก” ยัง​ได้​ทรง​จัด​เตรียม​ทุก​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ด้วย​เพื่อ​จะ “แสวง​หา [พระองค์] . . . และ​พบ​พระองค์​อย่าง​แท้​จริง.” ที่​จริง เปาโล​กล่าว​ว่า “พระองค์​มิ​ได้​ทรง​อยู่​ห่าง​ไกล​จาก​พวก​เรา​แต่​ละ​คน.”—กิจการ 17:24-27, ล.ม.

ถ้า​เช่น​นั้น คุณ​จะ “แสวง​หา​พระเจ้า . . . และ​พบ​พระองค์​อย่าง​แท้​จริง” ได้​อย่าง​ไร? บาง​คน​ได้​ทำ​เช่น​นั้น​เพียง​แต่​โดย​การ​สังเกต​ดู​เอกภพ​รอบ​ตัว​เขา. สำหรับ​หลาย​คน​แล้ว แค่​เอกภพ​อย่าง​เดียว​ก็​ให้​หลักฐาน​มาก​พอ​ที่​จะ​ทำ​ให้​พวก​เขา​เชื่อ​มั่น​ว่า​ต้อง​มี​พระ​ผู้​สร้าง. * (บทเพลง​สรรเสริญ 19:1; ยะซายา 40:26; กิจการ 14:16, 17) พวก​เขา​รู้สึก​เช่น​เดียว​กับ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​ว่า “คุณลักษณะ​ต่าง ๆ ของ [พระเจ้า] อัน​ไม่​ประจักษ์​แก่​ตา​ก็​เห็น​ได้​ชัด ตั้ง​แต่​การ​สร้าง​โลก​เป็น​ต้น​มา เพราะ​ว่า​คุณลักษณะ​เหล่า​นั้น​เป็น​ที่​เข้าใจ​ได้​โดย​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น กระทั่ง​ฤทธานุภาพ​อัน​ถาวร​และ​ความ​เป็น​พระเจ้า​ของ​พระองค์​นั้น.”—โรม 1:20, ล.ม.; บทเพลง​สรรเสริญ 104:24.

คุณ​ต้อง​มี​คัมภีร์​ไบเบิล

อย่าง​ไร​ก็​ดี เพื่อ​จะ​สร้าง​ความ​เชื่อ​แท้​ใน​พระ​ผู้​สร้าง คุณ​ต้อง​มี​สิ่ง​อื่น​ที่​พระองค์​ทรง​จัด​เตรียม​ไว้. สิ่ง​นั้น​คือ​อะไร? คัมภีร์​ไบเบิล—พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​นั่น​เอง​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​เปิด​เผย​พระทัย​ประสงค์​และ​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​พระองค์. (2 ติโมเธียว 3:16, 17) บาง​คน​จะ​พูด​ว่า “แต่​เดี๋ยว​ก่อน คุณ​จะ​เชื่อ​สิ่ง​ใด ๆ ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ได้​อย่าง​ไร​ใน​เมื่อ​เรา​เห็น​สิ่ง​ที่​เลว​ร้าย​ต่าง ๆ ซึ่ง​ผู้​คน​ที่​อ้าง​ว่า​ปฏิบัติ​ตาม​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​ทำ​กัน​นั้น?” จริง​อยู่ คริสต์​ศาสนจักร​มี​ประวัติ​ที่​น่า​ตกตะลึง​เกี่ยว​กับ​ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด, ความ​เหี้ยม​โหด, และ​การ​ผิด​ศีลธรรม. แต่​ใคร​ก็​ตาม​ที่​มี​เหตุ​ผล​ย่อม​เห็น​ได้​ว่า​คริสต์​ศาสนจักร​เพียง​แต่​แสร้ง​ปฏิบัติ​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เท่า​นั้น.—มัดธาย 15:8.

คัมภีร์​ไบเบิล​เอง​ได้​เตือน​ว่า​หลาย​คน​จะ​อ้าง​ว่า​นมัสการ​พระเจ้า แต่​ที่​จริง​แล้ว​จะ “ปฏิเสธ​แม้​แต่​ผู้​เป็น​เจ้าของ​ที่​ได้​ทรง​ซื้อ​เขา​ไว้.” อัครสาวก​เปโตร​กล่าว​ว่า “เพราะ​เหตุ​คน​เหล่า​นี้ ทาง​แห่ง​ความ​จริง​จะ​ถูก​กล่าว​ร้าย.” (2 เปโตร 2:1, 2, ล.ม.) พระ​เยซู​คริสต์​ได้​ตรัส​ว่า​คน​เหล่า​นี้​เป็น “ผู้​ละเมิด​กฎหมาย” ซึ่ง​จะ​ได้​รับ​การ​ระบุ​ตัว​อย่าง​ชัด​แจ้ง​โดย​การ​กระทำ​ที่​ชั่ว​ร้าย​ของ​พวก​เขา. (มัดธาย 7:15-23, ล.ม.) การ​ปฏิเสธ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​โดย​อาศัย​ประวัติ​ของ​คริสต์​ศาสนจักร​เป็น​เกณฑ์​ก็​เป็น​เหมือน​การ​โยน​จดหมาย​จาก​เพื่อน​ที่​ไว้​ใจ​ได้​ทิ้ง​ไป​เพียง​เพราะ​คน​ที่​มา​ส่ง​จดหมาย​นั้น​บังเอิญ​เป็น​คน​ที่​มี​ชื่อเสียง​ไม่​ดี.

ถ้า​ปราศจาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า ก็​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​สร้าง​ความ​เชื่อ​แท้. โดย​ทาง​บันทึก​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เท่า​นั้น​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เสนอ​สิ่ง​ที่​เป็น​เหตุ​ผล​ของ​พระองค์. พระองค์​ทรง​เปิด​เผย​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​ที่​มี​อยู่​เรื่อย​มา เช่น ทำไม​พระองค์​ทรง​ยอม​ให้​มี​ความ​ทุกข์​และ​ความ​เจ็บ​ปวด และ​พระองค์​จะ​ทรง​ทำ​ประการ​ใด​กับ​สภาพการณ์​นั้น. (บทเพลง​สรรเสริญ 119:105; โรม 15:4) เซราห์ เจน​ได้​มา​เชื่อ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ. (1 เธซะโลนิเก 2:13; 2 เปโตร 1:19-21) โดย​วิธี​ใด? ไม่​เพียง​เพราะ​พ่อ​แม่​บอก​เธอ​ให้​เชื่อ​เท่า​นั้น แต่​เพราะ​เธอ​ใช้​เวลา​พิจารณา​หลักฐาน​ทั้ง​หมด​อย่าง​ซื่อ​ตรง​ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​การ​เปิด​เผย​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน​จาก​พระเจ้า. (โรม 12:2) ตัว​อย่าง​เช่น เธอ​ได้​สังเกต​เห็น​ผล​กระทบ​อัน​ทรง​พลัง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ชีวิต​ของ​คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ยึด​มั่น​กับ​หลักการ​ของ​พระ​คัมภีร์. โดย​มี​สิ่ง​พิมพ์ เช่น หนังสือ​คัมภีร์​ไบเบิล—คำ​ของ​พระเจ้า​หรือ​ของ​มนุษย์? * (ภาษา​อังกฤษ) เป็น​เครื่อง​ช่วย เธอ​ยัง​ได้​ตรวจ​สอบอย่าง​ถี่ถ้วน​ด้วย​เกี่ยว​กับ​หลักฐาน​ภาย​ใน​ที่​มี​มาก​มาย​ซึ่ง​พิสูจน์​เรื่อง​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า.

“ความ​เชื่อ​เกิด​จาก​สิ่ง​ที่​ได้​ยิน”

อย่าง​ไร​ก็​ดี แค่​มี​คัมภีร์​ไบเบิล​หรือ​ถึง​กับ​เชื่อ​ว่า​พระ​คัมภีร์​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​นั้น​ยัง​ไม่​พอ. อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “ความ​เชื่อ​เกิด​จาก​สิ่ง​ที่​ได้​ยิน.” (โรม 10:17, ล.ม.) การ​ได้​ยิน คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​สิ่ง​ที่​สร้าง​ความ​เชื่อ ไม่​ใช่​แค่​การ​มี คัมภีร์​ไบเบิล​เท่า​นั้น. คุณ “ได้​ยิน” สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ตรัส​โดย​การ​อ่าน​และ​การ​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระองค์. แม้​แต่​เยาวชน​ก็​ทำ​เช่น​นี้​ได้. เปาโล​กล่าว​ว่า “ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก​มา” ติโมเธียว​ได้​รับ​การ​สอน “คำ​จารึก​อัน​ศักดิ์สิทธิ์” จาก​แม่​และ​ยาย​ของ​เขา. เรื่อง​นี้​ชวน​ให้​คิด​ว่า​เป็น​การ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ล้าง​สมอง​บาง​รูป​แบบ​ไหม? เปล่า​เลย! ไม่​ได้​มี​การ​ใช้​เล่ห์​เหลี่ยม​กับ​ติโมเธียว​หรือ​หลอก​ลวง​เขา​แต่​อย่าง​ใด. เขา “ถูก​โน้ม​น้าว​ใจ​ให้​เชื่อ” สิ่ง​ที่​ตัว​เอง​ได้​ฟัง​และ​อ่าน​มา.—2 ติโมเธียว 1:5; 3:14, 15, ล.ม.

เซราห์ เจน​ได้​ถูก​โน้ม​น้าว​ใจ​แบบ​เดียว​กัน. เช่น​เดียว​กับ​ชาว​เบรอยะ​ใน​ศตวรรษ​แรก เธอ “ได้​รับ​เอา​ถ้อย​คำ [จาก​พ่อ​แม่​ของ​เธอ​และ​ผู้​สอน​คน​อื่น ๆ] นั้น​ด้วย​ใจ​กระตือรือร้น​อย่าง​ยิ่ง.” แน่นอน ตอน​เป็น​เด็ก​เล็ก ๆ เธอ​ไว้​วางใจ​โดย​สัญชาตญาณ​ใน​สิ่ง​ที่​พ่อ​แม่​บอก​เธอ. ภาย​หลัง เมื่อ​เติบโต​ขึ้น เธอ​ไม่​เพียง​ยอม​รับ​ทุก​สิ่ง​ที่​ถูก​สอน​มา​โดย​ไม่​ลังเล​หรือ​คล้อย​ตาม​ไป​เสีย​ทุก​อย่าง. เธอ “ตรวจ​ค้น​ดู​พระ​คัมภีร์​อย่าง​รอบคอบ​ทุก ๆ วัน เพื่อ​ดู​ว่า​ข้อ​ความ​นั้น​จะ​จริง​ดัง​กล่าว​หรือ​ไม่.”—กิจการ 17:11, ล.ม.

คุณ​จะ​สร้าง​ความ​เชื่อ​แท้​ได้

คุณ​จะ​สร้าง​ความ​เชื่อ​แท้​ได้​เช่น​กัน—ความ​เชื่อ​ชนิด​ที่​อัครสาวก​เปาโล​ได้​พรรณนา​ไว้​ใน​จดหมาย​ถึง​คริสเตียน​ชาว​ฮีบรู. ท่าน​กล่าว​ว่า ความ​เชื่อ​เช่น​นั้น​คือ “ความ​คาด​หมาย​ที่​แน่นอน​ใน​สิ่ง​ซึ่ง​หวัง​ไว้ เป็น​การ​แสดง​ออก​เด่น​ชัด ถึง​สิ่ง​ที่​เป็น​จริง ถึง​แม้​ไม่​ได้​เห็น​สิ่ง​นั้น​ก็​ตาม.” (เฮ็บราย 11:1, ล.ม.) เมื่อ​มี​ความ​เชื่อ​เช่น​นั้น คุณ​จะ​มั่น​ใจ​อย่าง​แท้​จริง​ว่า ความ​หวัง​และ​ความ​คาด​หมาย​ทุก​อย่าง​ของ​คุณ รวม​ทั้ง​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​จะ​เป็น​จริง. คุณ​จะ​มั่น​ใจ​ว่า​ความ​หวัง​ดัง​กล่าว​อาศัย​คำ​รับรอง​ที่​แน่นอน ไม่​ใช่​อาศัย​ความ​คิด​ฝัน​เอา​เอง. คุณ​จะ​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​ล้มเหลว​ใน​การ​รักษา​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์. (ยะโฮซูอะ 21:45; 23:14; ยะซายา 55:10, 11; เฮ็บราย 6:18) โลก​ใหม่​ตาม​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​จะ​เป็น​จริง​สำหรับ​คุณ​ประหนึ่ง​ว่า​เป็น​จริง​อยู่​แล้ว​ใน​ตอน​นี้. (2 เปโตร 3:13) และ​คุณ​จะ​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ด้วย​ตา​แห่ง​ความ​เชื่อ​ว่า พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า, พระ​เยซู​คริสต์, และ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ล้วน​เป็น​เรื่อง​จริง ไม่​ใช่​เรื่อง​เพ้อ​ฝัน.

คุณ​ไม่​ได้​ถูก​ปล่อย​ให้​สร้าง​ความ​เชื่อ​แท้​ด้วย​ตัว​เอง. นอก​จาก​ทรง​ทำ​ให้​พระ​คำ​ของ​พระองค์​เป็น​สิ่ง​หา​ได้​อย่าง​ง่าย​ดายแล้ว พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​จัด​ให้​มี​ประชาคม​คริสเตียน​ทั่ว​โลก​ด้วย​ซึ่ง​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ช่วย​ชน​ที่​มี​หัวใจ​สุจริต​สร้าง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า. (โยฮัน 17:20; โรม 10:14, 15) จง​ยอม​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​ทั้ง​สิ้น​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​เตรียม​ให้​ผ่าน​ทาง​องค์การ​นั้น. (กิจการ 8:30, 31) และ​เนื่อง​จาก​ความ​เชื่อ​เป็น​ผล​อย่าง​หนึ่ง​แห่ง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า จง​อธิษฐาน​ขอ​พระ​วิญญาณ​นั้น​เสมอ​เพื่อ​ช่วย​คุณ​พัฒนา​ความ​เชื่อ​แท้.—ฆะลาเตีย 5:22.

อย่า​ให้​คน​ช่าง​สงสัย​ที่​มัก​เยาะเย้ย​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ยอม​รับ​ว่า​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​และ​พระ​คำ​ของ​พระองค์​นั้น​มา​ขัด​ขวาง​คุณ. (1 โกรินโธ 1:18-21; 2 เปโตร 3:3, 4) ที่​จริง ความ​เชื่อ​แท้​มี​คุณค่า​มาก​มาย​ใน​การ​เสริม​ความ​ตั้งใจ​ของ​คุณ​ให้​เข้มแข็ง​เพื่อ​ต่อ​สู้​กับ​การ​โจมตี​ดัง​กล่าว. (เอเฟโซ 6:16) เซราห์ เจน​พบ​ว่า​นั่น​เป็น​ความ​จริง และ​เธอ​มัก​จะ​สนับสนุน​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มา​เยี่ยม​เธอ​ใน​โรง​พยาบาล​ให้​เสริม​สร้าง​ความ​เชื่อ​ของ​ตน​เอง. เธอ​จะ​บอก​ว่า “จง​ทำ​ให้​ความ​จริง​เป็น​ของ​คุณ​เอง. ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. จง​อยู่​ใกล้​ชิด​กับ​องค์การ​ของ​พระเจ้า. จง​อธิษฐาน​เสมอ. ขันแข็ง​ต่อ​ไป​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา.”—ยาโกโบ 2:17, 26.

เมื่อ​สังเกต​เห็น​ความ​เชื่อ​ที่​เธอ​มี​ใน​พระเจ้า​และ​ใน​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย พยาบาล​คน​หนึ่ง​ที่​ดู​แล​เธอ​กล่าว​ว่า “คุณ​เชื่อ​เรื่อง​นี้​จริง ๆ ใช่​ไหม.” เมื่อ​มี​คน​ถาม​ว่า​อะไร​ทำ​ให้​เธอ​มี​ทัศนะ​ที่​มอง​ใน​แง่​ดี​เช่น​นั้น​ทั้ง ๆ ที่​เจ็บ​ปวด เธอ​ตอบ​ว่า “ฉัน​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​ยะโฮวา. พระองค์​ทรง​เป็น​มิตร​แท้​ของ​ฉัน และ​ฉัน​รัก​พระองค์​เหลือ​เกิน.”

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 8 โปรด​ดู​หนังสือ​พระ​ผู้​สร้าง​ผู้​ใฝ่​พระทัย​ใน​ตัว​คุณ​มี​ไหม? จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

^ วรรค 12 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

[ภาพ​หน้า 6]

“ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก” ติโมเธียว​ได้​รับ​การ​สอน “คำ​จารึก​อัน​ศักดิ์สิทธิ์” จาก​แม่​และ​ยาย

[ภาพ​หน้า 6]

ชาว​เบรอยะ​ได้​รับ​คำ​ชมเชย​เนื่อง​จาก​เขา​ตรวจ​ค้น​ดู​พระ​คัมภีร์​ทุก​วัน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

From “Photo-Drama of Creation,” 1914

[ภาพ​หน้า 7]

ไม่​ใช่​แค่​การ​มี​พระ​คัมภีร์​เท่า​นั้น แต่​การ​ได้​ยิน​และ​การ​เอา​ใจ​ใส่​ฟัง​คัมภีร์​ไบเบิล​ต่าง​หาก​ที่​สร้าง​ความ​เชื่อ

[ภาพ​หน้า 7]

“ฉัน​จะ​ได้​พบ​พวก​คุณ​ทุก​คน​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า”