ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ชีวิตที่ประสบความประหลาดใจหลายครั้งในงานรับใช้พระยะโฮวา

ชีวิตที่ประสบความประหลาดใจหลายครั้งในงานรับใช้พระยะโฮวา

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ชีวิต​ที่​ประสบ​ความ​ประหลาด​ใจ​หลาย​ครั้ง​ใน​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา

เล่า​โดย​เอริก​และ​เฮเซล เบฟเวอริดจ์

“ด้วย​เหตุ​นี้ ศาล​ขอ​พิพากษา​ลง​โทษ​จำ​คุก​เธอ​หก​เดือน.” คำ​ตัดสิน​นั้น​ยัง​แว่ว​อยู่​ใน​หู​เมื่อ​เขา​นำ​ผม​ไป​ที่​เรือน​จำ​สเตรนจ์เวส์ ใน​เมือง​แมนเชสเตอร์ ประเทศ​อังกฤษ. เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​ใน​เดือน​ธันวาคม 1950 และ​ผม​อายุ 19 ปี. ผม​เพิ่ง​เผชิญ​การ​ทดสอบ​ครั้ง​หนึ่ง​ที่​หนัก​มาก​ใน​ชีวิต​วัย​หนุ่ม​ของ​ผม​ทั้ง​นี้​เพราะ​ผม​ปฏิเสธ​การ​เข้า​รับ​ราชการ​ทหาร.—2 โกรินโธ 10:3-5.

ผม​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์ ซึ่ง​น่า​จะ​ได้​รับ​การ​ยก​เว้น​จาก​การ​เป็น​ทหาร แต่​กฎหมาย​ประเทศ​อังกฤษ​ไม่​รับรอง​สถานภาพ​ของ​เรา. ดัง​นั้น ท้าย​สุด​ผม​จึง​ต้อง​มา​อยู่​คน​เดียว​ใน​คุก. และ​ผม​คิด​ถึง​พ่อ. โดย​อ้อม​แล้ว ผม​ติด​คุก​เนื่อง​จาก​พ่อ.

ขอ​ให้​ผม​เล่า​ให้​ฟัง พ่อ​ผม​เป็น​ผู้​บังคับ​การ​เรือน​จำ เป็น​คน​ยอร์กเชียร์​ที่​มี​ความ​เชื่อ​มั่น​และ​มี​หลัก​ศีลธรรม​สูง​ส่ง. เนื่อง​จาก​ท่าน​ผ่าน​ประสบการณ์​มา​มาก​ใน​การ​ทำ​งาน ทั้ง​ใน​หน่วย​ทหาร​และ​ใน​เรือน​จำ​ฐานะ​เป็น​ผู้​บังคับ​การ ท่าน​เกลียด​ศาสนา​นิกาย​โรมัน​คาทอลิก​อย่าง​ฝัง​ใจ. ท่าน​ได้​พบ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ครั้ง​แรก​เมื่อ​ต้น​ทศวรรษ 1930 เมื่อ​ท่าน​ไป​ที่​ประตู​หมาย​จะ​ขับ​พยาน​ฯ ไป​ให้​พ้น​บ้าน แต่​ท่าน​กลับ​ได้​หนังสือ​บาง​เล่ม​ของ​พวก​เขา​ติด​มือ​เข้า​มา! หลัง​จาก​นั้น ท่าน​เป็น​สมาชิก​บอกรับ​วารสาร​คอนโซเลชัน (เวลา​นี้​เรียก​ว่า ตื่นเถิด! ). แต่​ละ​ปี​พวก​พยาน​ฯ มา​เยี่ยม​ท่าน​เพื่อ​กระตุ้น​ให้​ต่อ​อายุ​การ​บอกรับ. ตอน​ที่​ผม​อายุ​ประมาณ 15 ปี พยาน​ฯ เคย​ชวน​พ่อ​ให้​ถก​หา​เหตุ​ผล​ใน​เรื่อง​อื่น ๆ ด้วย​กัน และ​ผม​ได้​ร่วม​วง​สนทนา​และ​เข้า​ข้าง​พวก​พยาน​ฯ. ผม​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ช่วง​นี้​เอง.

เมื่อ​อายุ 17 ปี ผม​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​เดือน​มีนาคม 1949. ต่อ​มา ใน​ปี​เดียว​กัน ผม​ได้​รู้​จัก​จอห์น​และ​ไมเคิล ชารุก สอง​พี่​น้อง​ซึ่ง​เพิ่ง​จบ​จาก​กิเลียด โรง​เรียน​อบรม​มิชชันนารี ซึ่ง​กำลัง​อยู่​ระหว่าง​การ​เดิน​ทาง​ไป​ประเทศ​ไนจีเรีย. น้ำใจ​มิชชันนารีของ​เขา​สร้าง​ความ​ประทับใจ​อย่าง​ลึกซึ้ง​แก่​ผม. ไม่​ว่า​คน​ทั้ง​สอง​ตระหนัก​ใน​เรื่อง​นี้​หรือ​ไม่ เขา​ได้​เป็น​ผู้​ปลูกฝัง​น้ำใจ​มิชชันนารี​ใน​หัวใจ​ของ​ผม.

ใน​ช่วง​ที่​ผม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​หมด​ความ​สนใจ​ที่​จะ​เข้า​เรียน​ใน​มหาวิทยาลัย. ผม​จาก​บ้าน​ไป​อยู่​ลอนดอน ทำ​งาน​ที่​กรม​ศุลกากร ฝ่าย​จัด​เก็บ​ภาษี ผม​อยู่​ได้​ไม่​ถึง​ปี​ก็​รู้สึก​ว่า​ถ้า​ผม​ยัง​ขืน​รับ​ราชการ​อยู่​ต่อ​ไป ผม​คง​ไม่​สามารถ​ทำ​ให้​สำเร็จ​ตาม​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระเจ้า​ได้. ตอน​ที่​ผม​ลา​ออก​จาก​งาน เพื่อน​ข้าราชการ​คน​หนึ่ง​ที่​ทำ​งาน​มา​นาน​กล่าว​แสดง​ความ​ยินดี​ที่​ผม​ได้​สลัด​ทิ้ง “ภารกิจ​ที่​ทำลาย​น้ำใจ​ของ​คน​เรา.”

ก่อน​หน้า​นี้ ผม​เผชิญ​การ​ทดสอบ​อีก​เรื่อง​หนึ่ง นั่น​คือ ผม​จะ​บอก​พ่อ​อย่าง​ไร​ว่า​ผม​ต้องการ​ลา​ออก​จาก​งาน​ที่​มั่นคง​เพื่อ​จะ​เป็น​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา. เย็น​วัน​หนึ่ง​ใน​ช่วง​พัก​ร้อน ขณะ​อยู่​ที่​บ้าน ผม​บอก​ข่าว​ซึ่ง​คน​ฟัง​อาจ​ถึง​กับ​ตกตะลึง. ผม​รอ​พ่อ​จะ​ระเบิด​คำ​พูด​ออก​มา​ทัน​ควัน. แต่​แล้ว​ผม​ต้อง​ประหลาด​ใจ​เมื่อ​พ่อ​เพียง​แต่​พูด​ว่า “ใคร​ปลูก​เรือน คน​นั้น​ก็​ต้อง​อยู่. แต่​ถ้า​ไม่​สำเร็จ อย่า​วิ่ง​กลับ​มา​หา​พ่อ​ก็​แล้ว​กัน.” ผม​จด​ลง​ใน​สมุด​บันทึก​ประจำ​วัน​วัน​ที่ 1 มกราคม 1950 ดัง​นี้: “บอก​พ่อ​แล้ว​เรื่อง​งาน​ไพโอเนียร์. ฉัน​ประหลาด​ใจ​สุด ๆ เลย​ที่​พ่อ​ไม่​ว่า​อะไร​ซึ่ง​ช่วย​ได้​มาก. ความ​เมตตา​กรุณา​ของ​ท่าน​ทำ​ให้​ฉัน​ต้อง​ร้องไห้.” ผม​ลา​ออก​จาก​ราชการ​แล้ว​รับ​เอา​หน้า​ที่​มอบหมาย​เป็น​ไพโอเนียร์​เต็ม​เวลา.

หน้า​ที่​มอบหมาย​พร้อม​กับ “กระท่อม”

แล้ว​ก็​มา​ถึง​การ​ทดสอบ​ครั้ง​ต่อ​มา​ใน​เรื่อง​ความ​เชื่อ​มั่น​ศรัทธา​ของ​ผม​ต่อ​พระเจ้า. ผม​ได้​รับ​การ​เสนอ​งาน​มอบหมาย​เป็น​ไพโอเนียร์ ให้​ไป​อยู่ “กระท่อม” ใน​เมือง​แลงคาเชียร์​ร่วม​กับ​ลอยด์ กริฟฟิตส์​เพื่อน​คริสเตียน​จาก​เวลส์. ผม​ไป​ถึง​เบคัป​ซึ่ง​เป็น​เมือง​เล็ก ๆ ท้องฟ้า​ครึ้ม​และ​มี​ฝน​ชุก ด้วย​จิตใจ​อัน​เปี่ยม​ด้วย​อุดมการณ์​และ​ความ​คิด​ฝัน​ถึง​กระท่อม​น้อย​หลัง​นั้น. ใน​ไม่​ช้า ผม​ก็​เผชิญ​ความ​เป็น​จริง​เมื่อ​กระท่อม​น้อย​หลัง​นั้น​ก็​คือ​ห้อง​ใต้​ถุน​ตึก! ตก​กลางคืน​เรา​มี​หนู​และ​แมลง​สาบ​เป็น​เพื่อน. ผม​เกือบ​เปลี่ยน​ใจ​และ​คิด​จะ​กลับ​บ้าน​เสีย​แล้ว. ทว่า ผม​เฝ้า​อธิษฐาน​ใน​ใจ​ขอ​ให้​ผม​เข้มแข็ง​ใน​การ​เผชิญ​การ​ทดสอบ​ครั้ง​นี้. จิตใจ​ผม​สงบ​ลง​ทันที​ทันใด และ​ผม​เริ่ม​มอง​สภาพการณ์​ตาม​ความ​เป็น​จริง. นี่​คือ​งาน​มอบหมาย​ที่​ผม​ได้​รับ​จาก​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา. ผม​จะ​ไว้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​ช่วยเหลือ. ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​เหลือ​เกิน​ที่​ผม​ทน​สู้​สภาพ​ดัง​กล่าว​มา​ได้ เพราะ​หาก​ผม​เลิก​เสีย​กลาง​คัน วิถี​ชีวิต​ของ​ผม​คง​เปลี่ยน​ไป​ตลอด​กาล!—ยะซายา 26:3, 4.

ผม​ทำ​งาน​เผยแพร่​ประมาณ​เก้า​เดือน​ใน​แถบ​หุบเขา​รอสเซนเดล ซึ่ง​ใน​ช่วง​นั้น​ภาวะ​เศรษฐกิจ​ย่ำแย่ แล้ว​หลัง​จาก​นั้น​ผม​ถูก​ส่ง​ตัว​เข้า​เรือน​จำ​เนื่อง​จาก​ปฏิเสธ​ไม่​รับ​ราชการ​ทหาร. ผม​ถูก​จำ​คุก​ใน​เรือน​จำ​สเตรนจ์เวส์​สอง​สัปดาห์ แล้ว​มี​คำ​สั่ง​ให้​ผม​ย้าย​ไป​อยู่​เรือน​จำ​ลูเอส บน​ฝั่ง​ทะเล​ตอน​ใต้​ของ​อังกฤษ. ใน​ที่​สุด พวก​เรา​พยาน​ฯ ห้า​คน​ได้​มา​อยู่​รวม​กัน​ที่​เรือน​จำ​แห่ง​นี้ และ​พวก​เรา​สามารถ​จัด​การ​ประชุม​อนุสรณ์​ระลึก​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์​ภาย​ใน​ห้อง​ขัง​นัก​โทษ.

คุณ​พ่อ​ได้​มา​เยี่ยม​ผม​ครั้ง​เดียว. ทั้ง​นี้​คง​ต้อง​เป็น​การ​ทดสอบ​ความ​หยิ่ง​ใน​ศักดิ์ศรี​ของ​ท่าน—ผู้​บังคับ​การ​เรือน​จำ​ที่​ใคร ๆ ก็​รู้​จัก​ได้​เดิน​ทาง​มา​เยี่ยม​ลูก​ชาย​ที่​เป็น​นัก​โทษ! ผม​จะ​ระลึก​ถึง​การ​เยี่ยม​ครั้ง​นั้น​ด้วย​ความ​ขอบคุณ​เสมอ. แล้ว​ใน​ที่​สุด เดือน​เมษายน 1951 ผม​ก็​ได้​รับ​อิสรภาพ.

พอ​ผม​ออก​จาก​คุก​ที่​เมือง​ลูเอส ผม​จับ​รถไฟ​ไป​เมือง​คาร์ดิฟฟ์ รัฐ​เวลส์ ซึ่ง​เวลา​นั้น พ่อ​ผม​เป็น​ผู้​บังคับ​การ​เรือน​จำ​ที่​นั่น. ผม​เป็น​ลูก​คน​โต​ใน​จำนวน​พี่​น้อง​สี่​คน—ชาย​สาม หญิง​หนึ่ง. ผม​ต้อง​หา​งาน​พิเศษ​ที่​ไม่​ต้อง​ทำ​เต็ม​เวลา​เพื่อ​เลี้ยง​ตัว​เอง และ​ยัง​คง​เป็น​ไพโอเนียร์​ได้​ต่อ​ไป. ผม​ได้​งาน​ทำ​ที่​ร้าน​เสื้อ​ผ้า แต่​จุด​มุ่ง​หมาย​หลัก​ใน​ชีวิต​ของ​ผม​คือ​งาน​รับใช้​ฝ่าย​คริสเตียน. แม่​ได้​ทิ้ง​พวก​เรา​ไป​ประมาณ​ช่วง​เวลา​นี้. เหตุ​การณ์​นั้น​ก่อ​ผล​กระทบ​อย่าง​รุนแรง​ต่อ​พ่อ​รวม​ทั้ง​พวก​เรา​อายุ​ระหว่าง 8 ถึง 19 ปี​ซึ่ง​ยัง​อยู่​ใน​วัย​เยาว์. น่า​เศร้า พ่อ​แม่​ของ​เรา​ได้​หย่า​ขาด​จาก​กัน.

มี​ใคร​พบ​ภรรยา​ที่​ดี . . .

มี​ไพโอเนียร์​หลาย​คน​ใน​ประชาคม. หนึ่ง​ใน​จำนวน​นั้น​เป็น​ซิสเตอร์​จาก​หุบเขา​รอนด์ดา​ที่​ทำ​เหมือง​ถ่าน​หิน ซึ่ง​ทุก​วัน​เธอ​ลง​มา​ทำ​งาน​หา​ราย​ได้​และ​ประกาศ​เผยแพร่​ด้วย. เธอ​ชื่อ เฮเซล กรีน เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​น่า​ชมเชย​จริง ๆ. เฮเซล​รู้​ความ​จริง​ก่อน​ผม​หลาย​ปี พ่อ​แม่​ของ​เธอ​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ (เวลา​นี้​คือ​พยาน​พระ​ยะโฮวา) ย้อน​หลัง​ไป​ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1920. แต่​ให้​เฮเซล​เล่า​เรื่อง​ของ​เธอ​เอง.

“ดิฉัน​ไม่​ค่อย​ใส่​ใจ​เรื่อง​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​จริงจัง จน​กระทั่ง​ปี 1944 เมื่อ​ได้​อ่าน​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ศาสนา​เกี่ยว​เก็บลมบ้าหมู (ภาษา​อังกฤษ). แม่​พยายาม​โน้ม​น้าว​ดิฉัน​ให้​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​หมวด​ที่​คาร์ดิฟฟ์. ทั้ง​ที่​ไม่​มี​ความ​รู้​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​ดิฉัน​ก็​ไป​อยู่​แถว​ศูนย์​การ​ค้า​พร้อม​กับ​มี​ป้าย​กระดาษ​แข็ง​คล้อง​คอ​โฆษณา​การ​บรรยาย​สาธารณะ. ดิฉัน​ผ่าน​ประสบการณ์​ครั้ง​นั้น​มา​ได้ ทั้ง ๆ ที่​มี​การ​ก่อกวน​ของ​นัก​เทศน์​นัก​บวช​และ​คน​อื่น ๆ. ดิฉัน​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1946 และ​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​เดือน​ธันวาคม​ปี​เดียว​กัน. แล้ว​ใน​ปี 1951 ไพโอเนียร์​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​เพิ่ง​พ้น​โทษ​จำ​คุก​ได้​มา​ที่​เมือง​คาร์ดิฟฟ์. เอริก​นั่น​เอง.

“เรา​ออก​ประกาศ​ด้วย​กัน. เรา​ไป​กัน​ได้​ดี. เรา​ต่าง​ก็​ตั้ง​เป้าหมาย​ใน​ชีวิต​เหมือน​กัน คือ​ส่ง​เสริม​ผล​ประโยชน์​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. ดัง​นั้น เรา​ตก​ลง​แต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​ธันวาคม 1952. ถึง​แม้​เรา​สอง​คน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ฐานะ​ไพโอเนียร์ และ​มี​ราย​ได้​ที่​ต้อง​จำกัด​จำเขี่ย เรา​ก็​ไม่​เคย​ขัดสน​สิ่ง​จำเป็น​พื้น​ฐาน​ใด ๆ เลย. บาง​ครั้ง​เรา​ได้​ของ​จาก​เพื่อน​พยาน​ฯ ซึ่ง​เผอิญ​สั่ง​ซื้อ​แยม​หรือ​สบู่​ไว้​มาก​ไป​จึง​แบ่ง​ปัน​ให้​เรา—และ​เป็น​เวลา​ที่​เรา​ต้องการ​พอ​ดี! เรา​หยั่ง​รู้​ค่า​เป็น​อย่าง​มาก​สำหรับ​การ​แสดง​น้ำใจ​เอื้อเฟื้อ​เช่น​นั้น. แต่​เรา​ยัง​จะ​ประสบ​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เรา​ประหลาด​ใจ​มาก​กว่า​นั้น​อีก​หลาย​อย่าง.”

ความ​ประหลาด​ใจ​ที่​ได้​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​เรา

เดือน​พฤศจิกายน 1954 ผม​กับ​เฮเซล​ประหลาด​ใจ​เนื่อง​จาก​ไม่​เคย​คาด​คิด​มา​ก่อน นั่น​คือ มี​แบบ​ฟอร์ม​จาก​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​กรุง​ลอนดอน มอบหมาย​ผม​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ แต่​ละ​สัปดาห์. เรา​มั่น​ใจ​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็น​การ​ผิด​พลาด ฉะนั้น​จึง​ไม่​ได้​บอก​ใคร ๆ ใน​ประชาคม. อย่าง​ไร​ก็​ดี ผม​กรอก​แบบ​ฟอร์ม​แล้ว​ส่ง​กลับ และ​รอ​ด้วย​ความ​กระวนกระวาย. ไม่​กี่​วัน​ต่อ​มา เรา​ได้​รับ​คำ​ตอบ: “ไป​ลอนดอน​รับ​การ​อบรม”!

ณ สำนักงาน​ที่​ลอนดอน ผม​ไม่​อยาก​เชื่อ​เลย​ว่า ตัว​เอง​ซึ่ง​อายุ 23 ปี​จะ​ได้​อยู่​ที่​นั่น​กับ​พี่​น้อง​ที่​โดด​เด่น​หลาย​คน ซึ่ง​สำหรับ​ผม​แล้ว​มอง​พี่​น้อง​เหล่า​นี้​ล้วน​มาก​ด้วย​ความ​สามารถ​ฝ่าย​วิญญาณ อาทิ บราเดอร์​ไพรซ์ ฮิวส์, เอมลีน วีนส์, เออร์นี บีเวอร์, เออร์นี ไกเวอร์, บ๊อบ โก, กลินน์ พารร์, สแตน​และ​มาร์ติน วูดเบิร์น​และ​อีก​หลาย​คน ส่วน​ใหญ่​สิ้น​ชีวิต​แล้ว. คน​เหล่า​นี้​ได้​วาง​พื้น​ฐาน​อัน​แน่น​หนา​ใน​ด้าน​ความ​กระตือรือร้น​และ​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ใน​บริเตน​ย้อน​ไป​ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1940 และ 1950.

การ​เยี่ยม​หมวด​ใน​อังกฤษ​ไม่​น่า​เบื่อ​เลย

เรา​เริ่ม​ต้น​การ​เดิน​ทาง​เยี่ยม​หมวด​ใน​ช่วง​ฤดู​หนาว ปี 1944/1945 ซึ่ง​หิมะ​ตก​หนัก​มาก. เรา​ถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​ที่​อีสต์​แองเกลีย พื้น​ที่​ราบ​แห่ง​อังกฤษ​ซึ่ง​ได้​รับ​ลม​หนาว​โดย​ตรง​จาก​ทะเล​เหนือ. สมัย​นั้น​มี​พยาน​ฯ ใน​บริเตน​เพียง 31,000 คน. งาน​เยี่ยม​หมวด​ครั้ง​แรก​เป็น​ประสบการณ์​อัน​ยาก​ยิ่ง​ที่​เรา​ต้อง​เรียน​รู้ และ​ก็​ไม่​ง่าย​สำหรับ​พวก​พี่​น้อง​ที่​เรา​เยี่ยม. เนื่อง​จาก​ผม​ยัง​อ่อน​ประสบการณ์​และ​ชาว​ยอร์กเชียร์​เป็น​คน​เถร​ตรง บาง​ครั้ง​ผม​ทำ​ให้​พวก​พี่​น้อง​ขุ่นเคือง. ตลอด​เวลา​หลาย​ปี ผม​จำ​ต้อง​เรียน​รู้​ว่า​ความ​กรุณา​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​ประสิทธิภาพ และ​คน​ก็​สำคัญ​กว่า​วิธี​ดำเนิน​การ. ผม​ยัง​ต้อง​พยายาม​ปฏิบัติ​ตาม​แบบ​อย่าง​ที่​พระ​เยซู​วาง​ไว้ คือ​ทำ​ให้​ผู้​อื่น​สดชื่น แต่​ไม่​ประสบ​ความ​สำเร็จ​เสมอ​ไป.—มัดธาย 11:28-30.

หลัง​จาก 18 เดือน​ใน​อีสต์​แองเกลีย เรา​ถูก​มอบหมาย​ไป​ปฏิบัติ​งาน​หมวด​ทาง​ภาค​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​ของ​อังกฤษ ที่​เมือง​นิวคาสเซิล​บน​ฝั่ง​แม่น้ำ​ไทน์​และ​นอร์ททัมเบอร์แลนด์. ผม​รัก​ประชาชน​ผู้​มี​น้ำใจ​อารีอารอบ​ที่​อาศัย​อยู่​ตาม​ภูมิ​ประเทศ​ที่​เป็น​ธรรมชาติ​แถบ​นั้น. การ​ช่วยเหลือ​อัน​ใหญ่​ยิ่ง​ที่​ผม​ได้​รับ​คือ​การ​เยี่ยม​ของ​ดอน วอร์ด​ผู้​ดู​แล​ภาค ซึ่ง​มา​จาก​ซีแอตเทิล รัฐ​วอชิงตัน สหรัฐ​อเมริกา. เขา​เรียน​จบ​กิเลียด​รุ่น 20. เมื่อ​ผม​บรรยาย ผม​มัก​จะ​พูด​เร็ว​มาก. เขา​ได้​สอน​ผม​ให้​พูด​ช้า​ลง, หยุด​เป็น​ช่วง ๆ, และ​สั่ง​สอน.

ความ​ประหลาด​ใจ​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​เปลี่ยน​แปลง​ชีวิต​ของ​เรา

ปี 1958 เรา​ได้​รับ​จดหมาย​ซึ่ง​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​เรา. เรา​ได้​รับ​เชิญ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​ใน​เซาท์แลนซิง รัฐ​นิวยอร์ก สหรัฐ​อเมริกา. เรา​จัด​การ​ขาย​รถ​ออสติน​เซเวน​รุ่น​ปี 1935 คัน​เล็ก ๆ แล้ว​ซื้อ​ตั๋ว​โดยสาร​เรือ​ไป​นิวยอร์ก. เรา​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​นคร​นิวยอร์ก​ก่อน. จาก​นั้น​เรา​ไป​ที่​ปีเตอร์โบโร ออนแทรีโอ ทำ​งาน​เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​นั่น​หก​เดือน ก่อน​มุ่ง​ลง​ใต้​ไป​ยัง​โรง​เรียน​กิเลียด.

ผู้​สอน​ใน​โรง​เรียน​ประกอบ​ด้วย​อัลเบิร์ต ชโรเดอร์ ซึ่ง​ตอน​นี้​เป็น​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง, รวม​ทั้ง​แมกซ์เวลล์ เฟรนด์, และ​แจ็ก เรดฟอร์ด​ซึ่ง​ก็​สิ้น​ชีวิต​ไป​แล้ว. การ​สมาคม​คบหา​ท่ามกลาง​นัก​เรียน 82 คน​จาก 14 ประเทศ​เป็น​การ​เสริม​สร้าง​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​อย่าง​แท้​จริง. เรา​เริ่ม​จะ​เข้าใจ​บ้าง​ใน​เรื่อง​วัฒนธรรม​ของ​กัน​และ​กัน. การ​คลุกคลี​ใกล้​ชิด​กับ​นัก​เรียน​ต่าง​ชาติ​ซึ่ง​มุ​มานะ​เรียน​ภาษา​อังกฤษ​ช่วย​เรา​รู้​ปัญหา​ต่าง ๆ ที่​เรา​จะ​เผชิญ​เมื่อ​เรียน​อีก​ภาษา​หนึ่ง. นัก​เรียน​ทั้ง​ชั้น​จบ​การ​ฝึก​อบรม​ใน​เวลา​ห้า​เดือน​และ​ได้​รับ​เขต​งาน​มอบหมาย​ให้​ไป​ยัง 27 ประเทศ. ครั้น​วัน​จบ​หลัก​สูตร​ผ่าน​ไป​เพียง​ไม่​กี่​วัน​เรา​ก็​มา​อยู่​ใน​นคร​นิวยอร์ก คอย​เวลา​ลง​เรือ​ควีนเอลิซาเบท พา​เรา​กลับ​ยุโรป.

การ​มอบหมาย​ครั้ง​แรก​ของ​เรา​ใน​ต่าง​ประเทศ

เรา​ถูก​มอบหมาย​ไป​ที่​ไหน? ประเทศ​โปรตุเกส! เรา​มา​ถึง​กรุง​ลิสบอน​ใน​เดือน​พฤศจิกายน 1959. ตอน​นี้​เรา​ถูก​ทดสอบ​เรื่อง​การ​ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​สภาพ​แวด​ล้อม​ทั้ง​ด้าน​ภาษา​และ​วัฒนธรรม​ใหม่. ปี 1959 มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา 643 คน​ทำ​งาน​อย่าง​แข็งขัน​ใน​โปรตุเกส ซึ่ง​มี​จำนวน​ประชากร​เกือบ 9 ล้าน​คน. แต่​กิจการ​งาน​เผยแพร่​ของ​เรา​ยัง​ไม่​เป็น​ที่​ยอม​รับ​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. ถึง​แม้​เรา​มี​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร แต่​ไม่​มี​ป้าย​ติด​ไว้​ข้าง​นอก.

หลัง​จาก​เรียน​ภาษา​โปรตุเกส​กับ​มิชชันนารี​ชื่อ​เอลซา พิกโกนี ผม​กับ​เฮเซล​ได้​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​และ​กลุ่ม​ต่าง ๆ รอบ ๆ กรุง​ลิสบอน ที่​ฟารู, เอโวรา, และ​เบชา​เป็น​ต้น. พอ​มา​ใน​ปี 1961 หลาย​อย่าง​เริ่ม​เปลี่ยน. ผม​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ชาย​หนุ่ม​ชื่อ​ชาเวา กอนซาวิส มาเตอุส. เขา​ตัดสิน​ใจ​ยืนหยัด​ฐานะ​คริสเตียน​ที่​เป็น​กลาง​ใน​ประเด็น​การ​รับ​ราชการ​ทหาร. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ผม​ถูก​เรียก​ตัว​ไป​สอบสวน​ที่​กอง​บัญชา​การ​ตำรวจ. ความ​ประหลาด​ใจ​เกิด​ขึ้น​อีก​ครั้ง​หนึ่ง! สอง​สาม​วัน​หลัง​จาก​นั้น เรา​ได้​รับ​หนังสือ​แจ้ง​ให้​เดิน​ทาง​ออก​จาก​ประเทศ​ภาย​ใน 30 วัน! เพื่อน​มิชชันนารี อาทิ เอริก​กับ​คริสตินา บริตเทน และ​ดอมินิก​กับ​เอลซา พิกโกนี​ก็​ประสบ​เหตุ​การณ์​เช่น​นี้​เหมือน​กัน.

ผม​ร้อง​เรียน​ขอ​ให้​มี​การ​พิจารณา​เรื่อง​ราว​อีก​ที​หนึ่ง และ​พวก​เรา​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​เข้า​พบ​ผู้​บัญชา​การ​ตำรวจ​ลับ. เขา​บอก​เรา​ด้วย​น้ำ​เสียง​ชัดเจน​และ​เฉียบขาด​ถึง​สาเหตุ​ที่​มี​คำ​สั่ง​ให้​เรา​ออก​นอก​ประเทศ แถม​เอ่ย​ชื่อ​ชาเวา กอนซาวิส มาเตอุส นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ของ​ผม​ด้วย! เขา​พูด​ว่า​ประเทศ​โปรตุเกส​ไม่​เหมือน​บริเตน คือ​ไม่​อาจ​ยอม​ให้​กับ​ความ​สะดวก​สบาย​จาก​การ​ที่​ไม่​ต้อง​เป็น​ทหาร โดย​อ้าง​ว่า​ขัด​กับ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ. ดัง​นั้น พวก​เรา​จำ​ต้อง​ออก​ไป​จาก​ประเทศ​โปรตุเกส และ​ผม​ไม่​ได้​ติด​ต่อ​กับ​ชาเวา​อีก​เลย. แล้ว​จาก​นั้น​มา​อีก 26 ปี ช่าง​เป็น​ความ​ปีติ​ยินดี​อย่าง​เหลือ​ล้น​เมื่อ​ได้​พบ​ชาเวา​พร้อม​ด้วย​ภรรยา​และ​ลูก​สาว​สาม​คน​ของ​เขา​ใน​คราว​การ​อุทิศ​สำนัก​เบเธล​ใหม่​ใน​โปรตุเกส! งาน​รับใช้​ของ​เรา​ใน​โปรตุเกส​ไม่​ไร้​ผล​เสีย​ที​เดียว!—1 โกรินโธ 3:6-9.

การ​มอบหมาย​ของ​เรา​ต่อ​มา​เป็น​อะไร? ช่าง​น่า​ประหลาด​ใจ! สเปน ประเทศ​เพื่อน​บ้าน​นั่น​เอง. เดือน​กุมภาพันธ์ 1962 เรา​ถึง​กับ​น้ำตา​ซึม​ขณะ​ขึ้น​รถไฟ​ที่​กรุง​ลิสบอน​มุ่ง​หน้า​ไป​สู่​มาดริด.

ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​อีก​วัฒนธรรม​หนึ่ง

ใน​สเปน​เรา​ต้อง​ทำ​ตัว​ให้​คุ้น​กับ​วิธี​การ​ประกาศ​และ​การ​จัด​ประชุม​อย่าง​ลับ ๆ. เมื่อ​ออก​ไป​ประกาศ ปกติ​แล้ว​เรา​จะ​ไม่​แวะ​เข้า​ไป​ที่​บ้าน​สอง​หลัง​ติด ๆ กัน. เมื่อ​ได้​ให้​คำ​พยาน​ที่​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​แล้ว เรา​จะ​ไป​บ้าน​ที่​อยู่​อีก​ถนน​หนึ่ง. การ​ประกาศ​วิธี​นี้​ทำ​ให้​ตำรวจ​หรือ​พวก​บาทหลวง​ติด​ตาม​จับ​เรา​ได้​ยาก. อย่า​ลืม​ว่า​พวก​เรา​อยู่​ภาย​ใต้​ระบอบ​เผด็จการ​คาทอลิก​ฟาสซิสต์ และ​งาน​ประกาศ​ของ​เรา​ถูก​ห้าม. พวก​เรา​ที่​เป็น​คน​ต่าง​ด้าว​จึง​ใช้​ชื่อ​ภาษา​สเปน​เพื่อ​ป้องกัน​มิ​ให้​มี​การ​ตรวจ​สอบ. ชื่อ​ผม​เปลี่ยน​เป็น​พับโล และ​เฮเซล​เปลี่ยน​เป็น​ฮวนนา.

หลัง​จาก​อยู่​ที่​กรุง​มาดริด​เพียง​สอง​สาม​เดือน เรา​ได้​รับ​มอบ​หน้า​ที่​ดู​แล​หมวด​ใน​บาร์เซโลนา. เรา​เยี่ยม​หลาย​ประชาคม​ใน​เมือง​นี้ บ่อย​ครั้ง​แต่​ละ​แห่ง​เรา​ใช้​เวลา​อยู่​กับ​เขา​สอง​หรือ​สาม​สัปดาห์. การ​อยู่​นาน​หลาย​วัน​เช่น​นั้น​เพราะ​ว่า​เรา​ต้อง​เยี่ยม​แต่​ละ​กลุ่ม​ศึกษา​หนังสือ​ประจำ​ประชาคม​เหมือน​เป็น​หนึ่ง​ประชาคม และ​โดย​ปกติ​ย่อม​หมาย​ถึง​สอง​กลุ่ม​ต่อ​สัปดาห์.

การ​ท้าทาย​โดย​ไม่​ได้​คาด​หมาย

ปี 1963 เรา​ได้​รับ​คำ​เชิญ​ให้​เข้า​สู่​งาน​ดู​แล​ภาค​ใน​สเปน. เพื่อ​จะ​ปฏิบัติ​งาน​รับใช้​เหล่า​พยาน​ฯ ที่​ขยัน​ขันแข็ง​ประมาณ 3,000 คน เรา​จึง​ต้อง​ดู​แล​ทั่ว​ทั้ง​ประเทศ เยี่ยม​หมวด​ต่าง ๆ ซึ่ง​เวลา​นั้น​มี​อยู่​เก้า​หมวด​ด้วย​กัน. เรา​ได้​จัด​การ​ประชุม​หมวด​อย่าง​ลับ ๆ หลาย​ครั้ง​ซึ่ง​ไม่​อาจ​ลืม​เลือน​เสีย​ได้ คือ​ที่​เรา​จัด​ใน​บริเวณ​ป่า​ไม้​ใกล้​เมือง​เซวิลล์, จัด​ใน​ฟาร์ม​ใกล้​เมือง​คีคอน, และ​ริม​แม่น้ำ​ใกล้​กรุง​มาดริด, บาร์เซโลนา, และ​โลโกรโญ.

เพื่อ​เป็น​การ​ป้องกัน​ไว้​ก่อน เมื่อ​ออก​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ผม​มัก​จะ​สำรวจ​แผน​ผัง​เส้น​ทาง​สัญจร​ที่​อยู่​ใกล้ ๆ เผื่อ​ทาง​หนี​ที​ไล่​หาก​เกิด​ความ​จำเป็น. คราว​หนึ่ง​ขณะ​ประกาศ​ใน​กรุง​มาดริด ผม​กับ​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​อยู่​ชั้น​บน ทันใด​นั้น​เอง​เรา​ได้​ยิน​เสียง​ตะโกน​ลั่น​ที่​ชั้น​ล่าง. เมื่อ​เรา​ลง​มา​ถึง​ชั้น​ล่าง​ก็​เจอ​เด็ก​หญิง​วัยรุ่น​กลุ่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​สมาชิก​กลุ่ม​คาทอลิก​ที่​เรียก​ว่า​ลูก​หญิง​ของ​นาง​มาเรีย. เด็ก​กลุ่ม​นี้​กำลัง​เตือน​ชาว​บ้าน​เกี่ยว​กับ​พวก​เรา. เรา​ไม่​สามารถ​พูด​จา​หา​เหตุ​ผล​กับ​เขา และ​ผม​รู้​ว่า​จะ​ต้อง​รีบ​ไป​ทันที มิ​ฉะนั้น​ตำรวจ​จะ​จับ​เรา​แน่. ดัง​นั้น เรา​หนี​โดย​ไม่​ชักช้า!

ช่วง​นั้น​เป็น​เวลา​ที่​น่า​ตื่นเต้น​ตลอด​หลาย​ปี​ที่​อยู่​ใน​สเปน. เรา​พยายาม​ให้​การ​หนุน​ใจ​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ที่​น่า​รัก​เหล่า​นั้น รวม​ถึง​ผู้​เผยแพร่​ประเภท​ไพโอเนียร์​พิเศษ. พวก​เขา​เสี่ยง​ต่อ​การ​ถูก​จำ​คุก​และ​บ่อย​ครั้ง​ทน​สู้​ความ​ยาก​จน​ข้นแค้น​เพื่อ​ที่​จะ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า รวม​ถึง​การ​ก่อ​ตั้ง​และ​เสริม​สร้าง​ประชาคม​ต่าง ๆ.

ใน​ระหว่าง​นั้น​เรา​ได้​รับ​ข่าว​ร้าย​ด้วย. เฮเซล​เล่า​ว่า “ใน​ปี 1964 คุณ​แม่​ซึ่ง​เป็น​พยาน​ฯ ที่​ซื่อ​สัตย์​เสีย​ชีวิต. เป็น​เรื่อง​น่า​เศร้า​ใจ​อย่าง​ยิ่ง​ที่​แม่​จาก​ไป​โดย​ไม่​ได้​ล่ำ​ลา​กัน. นี่​เป็น​การ​เสีย​สละ​อย่าง​หนึ่ง​สำหรับ​งาน​มิชชันนารี​ซึ่ง​คน​อื่น​อีก​หลาย​คน​ได้​ประสบ​เช่น​กัน.”

ใน​ที่​สุด​ก็​ได้​มา​ซึ่ง​เสรีภาพ​ทาง​ศาสนา

ภาย​หลัง​การ​กดขี่​นาน​หลาย​ปี ใน​ที่​สุด เดือน​กรกฎาคม 1970 รัฐบาล​ฟรังโก​ได้​รับรอง​งาน​ของ​เรา​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. ผม​กับ​เฮเซล​ตื่นเต้น​ดีใจ​มาก​เมื่อ​มี​การ​เปิด​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร แห่ง​แรก​ใน​กรุง​มาดริด​และ​แห่ง​ที่​สอง​ใน​เลสเซบส์ บาร์เซโลนา. หอ​ประชุม​เหล่า​นี้​ติด​ป้าย​ใหญ่​และ​เปิด​ไฟ​สว่าง​อยู่​เสมอ. เรา​ต้องการ​ให้​ผู้​คน​รู้​ว่า​พวก​เรา​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ศาสนา​ที่​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​และ​จะ​ยืนยง​ตลอด​ไป​ใน​สเปน! จน​ถึง​ตอน​นั้น​ใน​ปี 1972 มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เกือบ 17,000 คน​ใน​สเปน.

ประมาณ​เวลา​นั้น ผม​ได้​ข่าว​จาก​ประเทศ​อังกฤษ​ซึ่ง​ให้​การ​ชู​กำลังใจ​ผม​มาก​ที​เดียว. พ่อ​มา​เยี่ยม​เรา​ที่​สเปน​ใน​ปี 1969. ท่าน​รู้สึก​ประทับใจ​วิธี​ที่​พี่​น้อง​พยาน​ฯ ชาว​สเปน​ปฏิบัติ​ต่อ​ท่าน เมื่อ​กลับ​ไป​อังกฤษ ท่าน​จึง​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. ครั้น​มา​ใน​ปี 1971 ผม​ได้​ข่าว​พ่อ​รับ​บัพติสมา! ช่วง​หนึ่ง​ที่​ผม​รู้สึก​ซาบซึ้ง​ตรึง​ใจ​เหลือ​เกิน คือ​คราว​ที่​เรา​กลับ​ไป​เยี่ยม​บ้าน​และ​พ่อ​ซึ่ง​เข้า​มา​เป็น​พี่​น้อง​คริสเตียน​ได้​อธิษฐาน​ขอ​พร ณ การ​รับประทาน​อาหาร. ผม​รอ​คอย​มา​นาน​ถึง 20 ปี​กว่า​จะ​ได้​เห็น​วัน​นั้น. บ๊อบ​น้อง​ชาย​ผม​และ​ไอริส​ภรรยา​เริ่ม​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ ใน​ปี 1958. ฟิลลิป​ลูก​ชาย​ของ​เขา ขณะ​นี้​รับใช้​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​หมวด​ใน​สเปน​กับ​จีน​ภรรยา​ของ​เขา. เรา​พึง​พอ​ใจ​มาก​ที่​เห็น​พวก​เขา​ปฏิบัติ​งาน​รับใช้​ใน​ประเทศ​นั้น​ที่​น่า​อยู่​มาก.

ความ​ประหลาด​ใจ​อย่าง​ยิ่ง​ของ​เรา​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้

เดือน​กุมภาพันธ์​ปี 1980 สมาชิก​ท่าน​หนึ่ง​แห่ง​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ไป​เยี่ยม​สเปน​ใน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​โซน. ผม​รู้สึก​ประหลาด​ใจ เพราะ​ท่าน​ต้องการ​ออก​ไป​ใน​งาน​ประกาศ​กับ​ผม. ผม​ไม่​รู้​แม้​แต่​น้อย​ว่า​ท่าน​กำลัง​ตรวจ​สอบ​ผม! หลัง​จาก​นั้น ใน​เดือน​กันยายน เรา​ก็​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​สำนักงาน​กลาง​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก! เรา​ตกตะลึง. เรา​ตอบรับ​คำ​เชิญ แม้​ว่า​การ​ละ​จาก​พี่​น้อง​ชาว​สเปน​นั้น​ทำ​ให้​หัวใจ​แทบ​สลาย​ก็​ตาม. ถึง​เวลา​นั้น จำนวน​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​สเปน​มี 48,000 คน!

เมื่อ​เรา​ลา​จาก​พวก​เขา บราเดอร์​คน​หนึ่ง​ได้​มอบ​นาฬิกา​พก​เป็น​ของ​ขวัญ. เขา​สลัก​ข้อ​คัมภีร์​สอง​ข้อ​บน​นาฬิกา​เรือน​นั้น—“ลูกา 16:10; ลูกา 17:10.” เขา​บอก​ว่า​นั่น​เป็น​ข้อ​คัมภีร์​หลัก​ของ​ผม. ลูกา 16:10 เน้น​ให้​เรา​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​ใน​สิ่ง​เล็ก​น้อย; และ​ลูกา 17:10 บอก​ว่า​เรา​เป็น “บ่าว​ที่​ไม่​มี​บุญคุณ​ต่อ​นาย” ฉะนั้น จึง​ไม่​มี​สาเหตุ​จะ​โอ้อวด. ผม​ตระหนัก​เสมอ​ว่า​ไม่​ว่า​เรา​มี​หน้า​ที่​ใด​ก็​ตาม​ใน​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา เรา​ก็​เพียง​แต่​ได้​ทำ​หน้า​ที่​ใน​ฐานะ​คริสเตียน​ซึ่ง​อุทิศ​ตัว​แล้ว.

ความ​ประหลาด​ใจ​ใน​ด้าน​สุขภาพ

ปี 1990 ผม​เริ่ม​มี​อาการ​ของ​โรค​หัวใจ. ใน​ที่​สุด ผม​จำ​ต้อง​มี​ท่อ​สอด​เข้า​ไป​ใน​เส้น​เลือด​เพื่อ​กัน​หลอด​เลือด​แดง​ตีบ​ตัน. ใน​ช่วง​ที่​ประสบ​ปัญหา​ยุ่งยาก​เนื่อง​จาก​ร่าง​กาย​อ่อนแอ เฮเซล​ช่วยเหลือ​ผม​ได้​มาก​มาย​หลาย​ทาง บ่อย​ครั้ง​ช่วย​หิ้ว​ถุง​หรือ​กระเป๋า​ซึ่ง​ผม​ยก​เอง​ไม่​ไหว. หลัง​จาก​นั้น ใน​เดือน​พฤษภาคม​ปี 2000 ผม​ได้​รับ​การ​ฝัง​เครื่อง​คุม​จังหวะ​การ​เต้น​ของ​หัวใจ. ช่าง​เป็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​ส่ง​ผล​กระทบ​จริง ๆ!

ใน​ช่วง​ห้า​สิบ​กว่า​ปี​มา​นี้ เฮเซล​กับ​ผม​ได้​ประจักษ์​แล้ว​ว่า​พระ​หัตถ์​พระ​ยะโฮวา​ไม่​สั้น​เกิน​ไป อีก​ทั้ง​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​ก็​ได้​สำเร็จ​เป็น​จริง​ภาย​ใน​เวลา​ที่​พระองค์​ทรง​กำหนด​ไว้ ไม่​ใช่​เรา​กำหนด​เอา​เอง. (ยะซายา 59:1; ฮะบาฆูค 2:3) เรา​ประสบ​ความ​ประหลาด​ใจ​ที่​น่า​ชื่นชม​หลาย​ครั้ง​ใน​ชีวิต​ของ​เรา และ​ก็​ประสบ​ความ​ประหลาด​ใจ​ที่​น่า​เศร้า​บ้าง​เหมือน​กัน แต่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ค้ำจุน​เกื้อ​หนุน​พวก​เรา​ให้​ผ่าน​พ้น​มา​ได้. ณ สำนักงาน​กลาง​แห่ง​ไพร่พล​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​นี่ เรา​ได้​รับ​พระ​พร​ทุก ๆ วัน​ด้วย​การ​ติด​ต่อ​สัมพันธ์​กับ​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง. บาง​ครั้ง​ผม​ก็​ถาม​ตัว​เอง ‘เรา​มา​อยู่​ที่​นี่​จริง ๆ หรือ?’ ที่​เรา​อยู่​ที่​นี่​เนื่อง​ด้วย​พระ​กรุณา​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ. (2 โกรินโธ 12:9, ล.ม.) เรา​หวัง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​คุ้มครอง​เรา​ต่อ ๆ ไป​ใน​การ​ต่อ​ต้าน​ยุทธอุบาย​ของ​ซาตาน และ​ทรง​อภิบาล​รักษา​เรา​เพื่อ​เรา​จะ​ได้​ชื่นชม​ยินดี​ใน​สมัย​เมื่อ​การ​ปกครอง​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระองค์​แผ่​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน​โลก.—เอเฟโซ 6:11-18; วิวรณ์ 21:1-4.

[ภาพ​หน้า 26]

เรือน​จำ​สเตรนจ์เวส์ เมือง​แมนเชสเตอร์ ที่​ผม​ต้อง​โทษ​ติด​คุก​ที่​นั่น

[ภาพ​หน้า 27]

กับ​รถ​ออสติน​เซเวน คราว​เดิน​ทาง​เยี่ยม​หมวด​ใน​ประเทศ​อังกฤษ

[ภาพ​หน้า 28]

การ​ประชุม​หมวด​ที่​จัด​ขึ้น​อย่าง​ลับ ๆ ใน​ปี 1962 ที่​เมือง​เทอร์เซดิลยา กรุง​มาดริด สเปน

[ภาพ​หน้า 29]

ที่​โต๊ะ​จัด​แสดง​สรรพหนังสือ​ให้​คำ​พยาน​ใน​บรุกลิน