ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การตอบรับคำเชิญของพระยะโฮวานำมาซึ่งผลตอบแทน

การตอบรับคำเชิญของพระยะโฮวานำมาซึ่งผลตอบแทน

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

การ​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ของ​พระ​ยะโฮวา​นำ​มา​ซึ่ง​ผล​ตอบ​แทน

เล่า​โดย​มาเรีย โดเซอุ ซานาร์ดี

“พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทราบ​ว่า​พระองค์​ทำ​อะไร​อยู่. ถ้า​พระองค์​ส่ง​คำ​เชิญ​ให้​ลูก ลูก​ก็​ควร​ถ่อม​ตน​ยอม​รับ​คำ​เชิญ​นั้น.” คำ​พูด​นี้​ของ​พ่อ​เมื่อ 45 ปี​มา​แล้ว​สนับสนุน​ฉัน​ให้​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ครั้ง​แรก​จาก​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​รับใช้​ฐานะ​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. ทุก​วัน​นี้​ฉัน​ยัง​ระลึก​ถึง​คำ​แนะ​นำ​ของ​พ่อ​ด้วย​ความ​ขอบคุณ​อยู่​เสมอ เพราะ​การ​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ดัง​กล่าว ฉัน​จึง​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​อุดม​บริบูรณ์.

ปี 1928 พ่อ​บอกรับ​วาร​หอสังเกตการณ์ และ​เริ่ม​เกิด​ความ​สนใจ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. เนื่อง​จาก​ท่าน​อาศัย​อยู่​ทาง​ภาค​กลาง​ของ​โปรตุเกส ทาง​เดียว​ที่​ท่าน​ติด​ต่อ​ประชาคม​ของ​พระเจ้า​ได้​คือ​สรรพหนังสือ​ที่​เขา​รับ​ทาง​ไปรษณีย์​และ​คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​เคย​เป็น​ของ​ปู่. ปี 1949 ตอน​นั้น​ฉัน​อายุ 13 ปี ครอบครัว​ของ​เรา​ได้​อพยพ​ไป​ประเทศ​บราซิล บ้าน​เกิด​เมือง​นอน​ของ​แม่ และ​ได้​ตั้ง​หลัก​แหล่ง​ที่​ชาน​เมือง​ริวเดจาเนโร.

เพื่อน​บ้าน​ใหม่​ได้​เชิญ​ชวน​เรา​ไป​เยือน​โบสถ์​ของ​เขา และ​เรา​ไป​แค่​ครั้ง​สอง​ครั้ง​เท่า​นั้น. พ่อ​ชอบ​ตั้ง​คำ​ถาม​ให้​เขา​ตอบ​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ไฟ​นรก, จิตวิญญาณ, และ​อนาคต​ของ​แผ่นดิน​โลก แต่​พวก​เขา​ให้​คำ​ตอบ​ไม่​ได้. พ่อ​มัก​จะ​พูด​ว่า “เรา​คง​ต้อง​รอ​จน​กว่า​จะ​พบ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ตัว​จริง.”

วัน​หนึ่ง ชาย​ตา​บอด​ได้​แวะ​เข้า​มา​เสนอ​วารสาร​หอสังเกตการณ์ และ​ตื่นเถิด! ที่​บ้าน​ของ​เรา. พ่อ​ถาม​เขา​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​เดียว​กัน และ​เขา​ให้​คำ​ตอบ​อย่าง​มี​เหตุ​ผล​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล. สัปดาห์​ถัด​มา ก็​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อีก​คน​หนึ่ง​มา​เยี่ยม​เรา. หลัง​จาก​ตอบ​คำ​ถาม​หลาย​ข้อ​แล้ว เธอ​ขอ​ตัว​โดย​บอก​ว่า​เธอ​ต้อง​ไป​ประกาศ​เผยแพร่​ใน “เขต​งาน.” เธอ​ใช้​มัดธาย 13:38 เพื่อ​ชี้​แจง​ว่า งาน​นี้​จะ​ต้อง​ได้​ทำ​ให้​เสร็จ​ทั่วโลก. พ่อ​ถาม​ว่า “ผม​ไป​ด้วย​ได้​ไหม?” คำ​ตอบ “ได้​แน่นอน.” เรา​ดีใจ​กัน​ยก​ใหญ่​ที่​ได้​พบ​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​อีก​ครั้ง​หนึ่ง! พ่อ​รับ​บัพติสมา ณ การ​ประชุม​ใหญ่​ครั้ง​ถัด​มา และ​หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน เดือน​พฤศจิกายน 1955 ฉัน​ก็​รับ​บัพติสมา.

การ​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ครั้ง​แรก​ของ​ฉัน

หนึ่ง​ปี​ครึ่ง​ต่อ​มา ฉัน​ได้​รับ​จดหมาย​ซอง​ใหญ่​สี​น้ำตาล​จาก​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ริวเดจาเนโร เชิญ​ชวน​ฉัน​เข้า​สู่​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. ช่วง​นั้น​สุขภาพ​ของ​แม่​ไม่​สู้​ดี ดัง​นั้น​ฉัน​จึง​ปรึกษา​ขอ​คำ​แนะ​นำ​จาก​พ่อ. ท่าน​ตอบ​อย่าง​หนักแน่น​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทราบ​ว่า​พระองค์​ทำ​อะไร​อยู่. ถ้า​พระองค์​ส่ง​คำ​เชิญ​ให้​ลูก ลูก​ก็​ควร​ถ่อม​ตน​ยอม​รับ​คำ​เชิญ​นั้น.” คำ​พูด​ของ​พ่อ​เป็น​แรง​กระตุ้น​ให้​ฉัน​กรอก​แบบ​ฟอร์ม​แล้ว​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​เมื่อ​วัน​ที่ 1 กรกฎาคม 1957. เขต​งาน​มอบหมาย​แรก​ของ​ฉัน​อยู่​ที่​เมือง​เทรสรีอุส ใน​รัฐ​ริวเดจาเนโร.

ตอน​แรก ๆ ชาว​เมือง​เทรสรีอุส​ยัง​ลังเล​ไม่​ค่อย​จะ​รับ​ฟัง​ข่าวสาร​ที่​เรา​ประกาศ เพราะ​ว่า​เรา​ไม่​ได้​ใช้​คัมภีร์​ของ​คาทอลิก. เรา​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​เมื่อ​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​เชรัลดู รามาลยู​ชาว​คาทอลิก​ที่​ถือ​เคร่ง. เขา​ช่วย​หา​พระ​คัมภีร์​มา​ให้​ฉัน​ได้​เล่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​ลาย​เซ็น​ของ​บาทหลวง​ใน​ท้องถิ่น​นั้น. นับ​แต่​นั้น เมื่อ​มี​คน​หนึ่ง​คน​ใด​ยก​ข้อ​คัดค้าน​ขึ้น​มา ฉัน​ชี้​ให้​เขา​ดู​ลาย​เซ็น​ของ​บาทหลวง​และ​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​อีก​ต่อ​ไป. ใน​เวลา​ต่อ​มา​เชรัลดู​ก็​ได้​รับ​บัพติสมา.

ฉัน​ปลาบปลื้ม​ยินดี​เหลือ​เกิน​เมื่อ​การ​ประชุม​หมวด​ถูก​จัด​ขึ้น ณ ใจ​กลาง​เมือง​เทรสรีอุส​ใน​ปี 1959. ผู้​กำกับ​การ​ตำรวจ​ซึ่ง​ตอน​นั้น​กำลัง​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อยู่​พอ​ดี​ก็​ช่วย​เป็น​ธุระ​ดู​แล​การ​ติด​ป้าย​โฆษณา​การ​ประชุม​หมวด​ตลอด​ทั่ว​เมือง. หลัง​จาก​ทำ​งาน​สาม​ปี​ใน​เมือง​เทรสรีอุส ฉัน​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ย้าย​ไป​ยัง​เขต​งาน​ใหม่​ใน​เมือง​อี​ตู ห่าง​จาก​เมือง​เซาเปาลู​ไป​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ตก​ประมาณ 110 กิโลเมตร.

หนังสือ​ปก​แดง, ปก​น้ำเงิน, ปก​เหลือง

หลัง​จาก​เสาะ​หา​บ้าน​เช่า​ระยะ​หนึ่ง ฉัน​กับ​เพื่อน​ไพโอเนียร์​ก็​ได้​ห้อง​พัก​ที่​สะดวก​สบาย​อยู่​ใจ​กลาง​เมือง ภาย​ใน​บ้าน​ของ​มาเรีย​หญิง​ม่าย​ใจ​ดี. มาเรีย​ปฏิบัติ​ต่อ​เรา​ราว​กับ​เรา​เป็น​ลูก​สาว​เธอ. แต่​ไม่​นาน​เท่า​ไร หัวหน้า​บาทหลวง​นิกาย​โรมัน​คาทอลิก​ที่​เมือง​อี​ตู​ไป​เยี่ยม​เธอ​และ​กำชับ​เธอ​ให้​ขับ​เรา​ออก​จาก​บ้าน แต่​เธอ​ไม่​ยอม​ทำ​ตาม แถม​พูด​ว่า “ตอน​ที่​สามี​ฉัน​เสีย ท่าน​ไม่​ได้​ให้​การ​ปลอบ​ประโลม​แต่​อย่าง​ใด. แต่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอง​คน​นี้​ช่วยเหลือ​ฉัน​ทั้ง ๆ ที่​ฉัน​เอง​ก็​ไม่​ใช่​สมาชิก​ใน​ศาสนา​ของ​เขา.”

ใน​เวลา​ไล่เลี่ย​กัน มี​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​บอก​เรา​ว่า​พวก​บาทหลวง​ที่​เมือง​อี​ตู​ได้​ห้าม​ปราม​ประชาชน​ใน​สังกัด​ไม่​ให้​รับ “หนังสือ​ปก​แดง​เรื่อง​พญา​มาร.” เขา​หมาย​ถึง​หนังสือ “จง​ให้​พระเจ้า​เป็น​องค์​สัตย์​จริง” คู่มือ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​เรา​เสนอ​แก่​ประชาชน​ใน​ช่วง​สัปดาห์​นั้น. เนื่อง​จาก​พวก​บาทหลวง “สั่ง​ห้าม” หนังสือ​ปก​แดง เรา​จึง​เตรียม​การ​เสนอ​หนังสือ​ปก​น้ำเงิน (“ฟ้า​สวรรค์​ใหม่​และ​แผ่นดิน​โลก​ใหม่”). ต่อ​มา เมื่อ​บาทหลวง​ได้​ข่าว​การ​สับ​เปลี่ยน​เช่น​นี้ เรา​เปลี่ยน​ไป​ใช้​หนังสือ​ปก​เหลือง​แทน (ศาสนา​ได้​ทำ​อะไร​บ้าง​เพื่อมนุษยชาติ?) เป็น​ต้น. นับ​ว่า​ดี​มาก​ที่​หนังสือ​ของ​เรา​มี​สี​ปก​หลาก​หลาย​ต่าง​กัน!

หลัง​จาก​อยู่​ที่​เมือง​อี​ตู​ประมาณ​หนึ่ง​ปี ฉัน​ได้​รับ​โทรเลข​ขอ​ให้​ไป​ช่วย​งาน​ชั่ว​คราว​ที่​เบเธล สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​นคร​ริวเดจาเนโร เพื่อ​เตรียม​งาน​สำหรับ​การ​ประชุม​ใหญ่​ระดับ​ชาติ. ฉัน​ตอบรับ​ด้วย​ความ​ดีใจ.

สิทธิ​พิเศษ​และ​การ​ท้าทาย​เพิ่ม​ขึ้น

ที่​เบเธล​มี​งาน​ไม่​ขาด และ​ฉัน​เป็น​สุข​ที่​ได้​ช่วย​ทำ​งาน​อะไร​ตาม​ที่​ทำ​ได้. นับ​ว่า​เป็น​การ​เสริม​สร้าง​เพียง​ใด​ที่​ได้​ร่วม​พิจารณา​ข้อ​คัมภีร์​ประจำ​วัน​ทุก​เช้า และ​การ​ศึกษา​หอสังเกตการณ์ ของ​ครอบครัว​ใน​ตอน​เย็น​วัน​จันทร์! คำ​อธิษฐาน​อย่าง​สุด​หัวใจ​ของ​บราเดอร์​โอทโท เอสเทลมันน์​และ​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​ผู้​มี​ประสบการณ์​ส่ง​ผล​กระทบ​ฉัน​อย่าง​ล้ำ​ลึก.

หลัง​การ​ประชุม​ใหญ่​ระดับ​ชาติ ฉัน​จัด​ของ​ลง​กระเป๋า​เดิน​ทาง​เตรียม​กลับ​เมือง​อี​ตู แต่​ก็​ต้อง​ประหลาด​ใจ​เมื่อ​แกรนต์ มิลเลอร์ ผู้​รับใช้​สาขา​ยื่น​จดหมาย​ให้​ฉัน เป็น​จดหมาย​เชิญ​เข้า​เป็น​สมาชิก​ถาวร​ของ​ครอบครัว​เบเธล. เพื่อน​ร่วม​ห้อง​ของ​ฉัน​คือ​ซิสเตอร์​โฮซา ยาเซดเจียน ซึ่ง​ยัง​คง​รับใช้​ใน​สำนัก​เบเธล​บราซิล. สมัย​นั้น​เบเธล​เป็น​ครอบครัว​ขนาด​เล็ก มี​สมาชิก​เพียง 28 คน และ​เรา​ทุก​คน​สนิทสนม​กัน​ดี.

ปี 1964 ชาเวา ซานาร์ดี ชาย​หนุ่ม​ที่​รับใช้​เต็ม​เวลา​ได้​มา​รับ​การ​อบรม​ที่​เบเธล. ตอน​นั้น​หน้า​ที่​มอบหมาย​ของ​เขา​คือ​ผู้​รับใช้​หมวด หรือ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ใน​หมวด​ซึ่ง​อยู่​ใกล้ ๆ. เรา​พบ​กัน​เป็น​ครั้ง​คราว​เมื่อ​เขา​มา​ส่ง​รายงาน​ที่​เบเธล. ผู้​รับใช้​สาขา​อนุญาต​ชาเวา​เข้า​ร่วม​ศึกษา​กับ​ครอบครัว​ทุก​เย็น​วัน​จันทร์ ด้วย​เหตุ​นี้​เรา​มี​เวลา​อยู่​ด้วย​กัน​มาก​ขึ้น. ชาเวา​กับ​ฉัน​แต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​สิงหาคม ปี 1965. ฉัน​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ด้วย​ความ​ยินดี​ที่​จะ​สมทบ​กับ​สามี​ใน​งาน​เยี่ยม​หมวด.

สมัย​นั้น​การ​เดิน​ทาง​ใน​ประเทศ​บราซิล​ดู​เหมือน​ไม่​ต่าง​จาก​การ​ผจญ​ภัย​เท่า​ใด​นัก. ฉัน​ไม่​มี​วัน​ลืม​การ​เยี่ยม​กลุ่ม​ผู้​ประกาศ​ที่​เมือง​อา​รัน​นา รัฐ​มีนัสเจไรส์. เรา​ต้อง​นั่ง​รถไฟ จาก​นั้น​เดิน​เท้า​จน​ถึง​ที่​หมาย—ทั้ง​แบก​ทั้ง​หิ้ว​กระเป๋า​เสื้อ​ผ้า, เครื่อง​พิมพ์ดีด, เครื่อง​ฉาย​ภาพ​นิ่ง, กระเป๋า​หนังสือ​สำหรับ​งาน​เผยแพร่, รวม​ทั้ง​สรรพหนังสือ. เรา​ดีใจ​เหลือ​เกิน​เมื่อ​เห็น​ลูริวัล ชันตัล บราเดอร์​ผู้​สูง​อายุ​คอย​อยู่​ที่​สถานี​รถไฟ​เสมอ​พร้อม​จะ​ช่วย​แบก​ขน​สัมภาระ​ของ​เรา.

ที่​อา​รัน​นา เขา​จัด​การ​ประชุม​ขึ้น​ใน​บ้าน​เช่า. เรา​นอน​ใน​ห้อง​เล็ก​หลัง​บ้าน. ด้าน​หนึ่ง​ของ​ห้อง​มี​กอง​ฟืน​สำหรับ​ใช้​ก่อ​ไฟ​ทำ​อาหาร​และ​ต้ม​น้ำ ซึ่ง​พวก​พี่​น้อง​ได้​ตัก​มา​เป็น​ถัง ๆ ให้​เรา​ใช้. กลาง​ดง​ไผ่​ไม่​ห่าง​จาก​ตัว​บ้าน​มี​ส้วม​หลุม. ตอน​กลางคืน​เรา​จุด​ตะเกียง​แก๊ส​ทิ้ง​ไว้​เพื่อ​ไล่​แมลง​ปีก​แข็ง​ซึ่ง​เป็น​พาหะ​นำ​โรค​ไข้​ชากัส. พอ​รุ่ง​เช้า รู​จมูก​ของ​เรา​มัก​จะ​ดำ​เพราะ​ควัน​จาก​ตะเกียง. ถือ​ว่า​เป็น​ประสบการณ์​ที่​น่า​สนใจ​ที​เดียว!

ระหว่าง​เดิน​ทาง​เยี่ยม​หมวด​ใน​รัฐ​ปารานา เรา​ได้​รับ​ซอง​ใหญ่​สี​น้ำตาล​จาก​สำนักงาน​สาขา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. เป็น​คำ​เชิญ​จาก​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​อีก—คราว​นี้​ให้​เรา​ไป​ปฏิบัติ​งาน​ที่​ประเทศ​โปรตุเกส! ใน​จดหมาย​นั้น​แนะ​นำ​เรา​ให้​พิจารณา​หลักการ​ใน​ลูกา 14:28 และ​คิด​ให้​รอบคอบ​ก่อน​ตอบรับ​หน้า​ที่​มอบหมาย​นี้ เนื่อง​จาก​มี​การ​สั่ง​ห้าม​งาน​เผยแพร่​ฝ่าย​คริสเตียน​ของ​เรา​ใน​ประเทศ​นั้น และ​รัฐบาล​โปรตุเกส​ได้​จับ​กุม​พี่​น้อง​ของ​เรา​ไป​หลาย​คน​แล้ว.

เรา​จะ​ไป​ยัง​ประเทศ​ที่​เรา​จะ​ต้อง​เจอ​การ​ข่มเหง​ดัง​กล่าว​ไหม? ชาเวา​พูด​ว่า “ถ้า​พี่​น้อง​ชาว​โปรตุเกส​อยู่​ที่​นั่น​ได้​และ​ยัง​คง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ซื่อ​สัตย์ ทำไม​เรา​จะ​อยู่​ไม่​ได้?” เมื่อ​นึก​ถึง​คำ​พูด​ของ​พ่อ​ที่​ให้​กำลังใจ ฉัน​เห็น​พ้อง​ด้วย​ที่​ว่า “ถ้า​พระ​ยะโฮวา​ส่ง​คำ​เชิญ​ให้​เรา เรา​ควร​ตอบรับ​และ​ไว้​วางใจ​พระองค์.” ไม่​นาน​ต่อ​มา เรา​ได้​ไป​ที่​สำนัก​เบเธล​ใน​เมือง​เซาเปาลู เพื่อ​รับ​คำ​แนะ​นำ​ชี้​แจง​ใน​ราย​ละเอียด และ​เตรียม​เอกสาร​ต่าง ๆ สำหรับ​การ​เดิน​ทาง.

ชาเวา มาเรีย​และ​มาเรีย ชาเวา

เรา​โดยสาร​เรือ​ชื่อ​เอยุเชนยูเซ เค ออก​จาก​ท่า​เรือ​ซานโตส รัฐ​เซาเปาลู​ใน​วัน​ที่ 6 กันยายน 1969. หลัง​จาก​อยู่​ใน​ทะเล​เก้า​วัน เรา​ก็​มา​ถึง​โปรตุเกส. ตอน​แรก ๆ เรา​ทำ​งาน​กับ​พวก​พี่​น้อง​ที่​มี​ประสบการณ์​อยู่​หลาย​เดือน โดย​ไป​ตาม​ถนน​สาย​แคบ ๆ ใน​เขต​อัลฟา​มา​และ​มอราเรีย มณฑล​เก่า​แก่​ของ​กรุง​ลิสบอน. พี่​น้อง​เหล่า​นี้​ฝึก​สอน​เรา​ให้​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต เพื่อ​จะ​ไม่​โดน​ตำรวจ​จับ​ง่าย ๆ.

การ​ประชุม​ประชาคม​จัด​ขึ้น​ใน​บ้าน​พยาน​ฯ. เมื่อ​เรา​สังเกต​ว่า​คน​บ้าน​ใกล้​เรือน​เคียง​เริ่ม​สงสัย เรา​จะ​ย้าย​ไป​ประชุม​อีก​ที่​หนึ่ง​ทันที เพื่อ​ตำรวจ​จะ​ไม่​เข้า​จู่​โจม​จับ​กุม​พี่​น้อง​ของ​เรา. การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​เรา​เรียก​ว่า​การ​ไป​ปิกนิก​นั้น​ก็​จัด​ขึ้น​ใน​สวน​ธรรมชาติ​มอนซานตู ที่​ชาน​เมือง​กรุง​ลิสบอน และ​ที่​คอสตา เดอ คาปารีกา เขต​ป่า​ไม้​เลียบ​ชายฝั่ง. เรา​แต่ง​ตัว​ตาม​สบาย​เหมาะ​สม​กับ​กาลเทศะ และ​ใน​จำนวน​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ก็​จะ​มี​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​อยู่​ตาม​จุด​สำคัญ​คอย​เฝ้า​ระวัง​ภัย. ถ้า​มี​คน​ที่​น่า​สงสัย​เข้า​มา​ใกล้ เรา​ก็​มี​เวลา​พอ​ที่​จะ​ทำที​เป็น​เล่น​เกม, หรือ​ทำ​ราว​กับ​ว่า​เรา​มา​ปิกนิก, หรือ​ไม่​ก็​เริ่ม​ร้อง​เพลง​พื้นเมือง.

เรา​เลี่ยง​การ​ใช้​ชื่อ​จริง ทั้ง​นี้​จะ​ทำ​ให้​ตำรวจ​สันติบาล​ระบุ​ตัว​เรา​ได้​ยาก​ขึ้น. พวก​พี่​น้อง​รู้​จัก​เรา​ใน​ชื่อ​ชาเวา มาเรีย​และ​มาเรีย ชาเวา. เรา​ไม่​ใช้​ชื่อ​จริง​เมื่อ​มี​การ​ติด​ต่อ​ทาง​จดหมาย​หรือ​ทำ​บันทึก​อัน​เป็น​หลักฐาน. ทว่า​เรา​ใช้​หมาย​เลข​ประจำ​ตัว. ฉัน​ตั้งใจ​พยายาม​จะ​ไม่​จด​จำ​ที่​อยู่​ของ​พี่​น้อง. โดย​วิธี​นี้ ถ้า​ถูก​จับ​ก็​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​ฉัน​จะ​ทรยศ​พวก​เขา.

แม้น​มี​ข้อ​ห้าม​ข้อ​จำกัด​หลาย​อย่าง ชาเวา​กับ​ฉัน​ตั้งใจ​แน่วแน่​แล้ว​ว่า​จะ​ใช้​ประโยชน์​จาก​ทุก​โอกาส​ให้​คำ​พยาน เพราะ​เรา​รู้​ว่า​อิสรภาพ​ของ​เรา​อาจ​จะ​สิ้น​สุด​ลง​เวลา​ใด​ก็​ได้. เรา​เรียน​รู้​การ​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์. ใน​ฐานะ​ผู้​คุ้มครอง​ของ​เรา พระองค์​ทรง​ใช้​ทูตสวรรค์​ของ​พระองค์​ใน​ลักษณะ​ที่​เรา​รู้สึก​ประหนึ่ง​ว่า “เห็น​พระองค์​ผู้​ไม่​ปรากฏ​แก่​ตา.”—เฮ็บราย 11:27, ล.ม.

ณ โอกาส​หนึ่ง ขณะ​ออก​ไป​ทำ​งาน​เผยแพร่​ตาม​บ้าน​ใน​เมือง​ปอร์โต เรา​พบ​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เชื้อเชิญ​เรา​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ให้​ได้. ซิสเตอร์​ที่​ทำ​งาน​กับ​ฉัน​ตอบรับ​คำ​เชิญ​โดย​ไม่​รีรอ และ​ฉัน​ไม่​มี​ทาง​เลือก​จึง​ต้อง​เข้า​ไป​กับ​เธอ. ฉัน​ตกใจ​กลัว​มาก เพราะ​สังเกต​เห็น​รูป​ถ่าย​คน​ใน​เครื่อง​แบบ​ทหาร​ที่​ห้อง​โถง. ตอน​นี้​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี? เจ้าของ​บ้าน​เชิญ​เรา​นั่ง​แล้ว​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า “คุณ​จะ​ยอม​ให้​ลูก​ชาย​ของ​คุณ​รับ​ราชการ​ทหาร​ไหม​หาก​มี​หมาย​เรียก?” ตอน​นั้น​ช่าง​คับขัน​เสีย​จริง ๆ. แต่​หลัง​จาก​อธิษฐาน​ใน​ใจ​และ​สงบ​สติ​อารมณ์​แล้ว ฉัน​ตอบ​ว่า “ฉัน​ไม่​มี​ลูก และ​หาก​ฉัน​จะ​ถาม​คุณ​ด้วย​คำ​ถาม​สมมุติ​เช่น​นั้น แน่​ใจ​ว่า​คุณ​คง​จะ​ให้​คำ​ตอบ​อย่าง​เดียว​กัน.” เขา​นิ่ง​เงียบ. ดัง​นั้น ฉัน​จึง​พูด​ต่อ​ไป​ว่า “ที​นี้ สมมุติ​คุณ​ถาม​ว่า​ฉัน​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร​ถ้า​ต้อง​สูญ​เสีย​น้อง​ชาย​หรือ​พ่อ ฉัน​สามารถ​ตอบ​ได้​เพราะ​ว่า​น้อง​ชาย​กับ​พ่อ​ต่าง​ก็​เสีย​ชีวิต​ไป​แล้ว.” ฉัน​พูด​น้ำตา​คลอ และ​ฉัน​สังเกต​ด้วย​ว่า​เขา​เกือบ​จะ​ร้องไห้​เหมือน​กัน. แล้ว​เขา​ก็​เล่า​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​เพิ่ง​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​เอง. เขา​จดจ่อ​ตั้งใจ​ฟัง​ขณะ​ที่​ฉัน​อธิบาย​เรื่อง​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ขึ้น​จาก​ตาย. แล้ว​เรา​ก็​กล่าว​คำ​อำลา​อย่าง​สุภาพ​และ​จาก​มา​ด้วย​ความ​ปลอด​ภัย ปล่อย​เรื่อง​นั้น​ไว้​ใน​พระ​หัตถ์​พระ​ยะโฮวา.

แม้​มี​การ​สั่ง​ห้าม สุจริต​ชน​ก็​ยัง​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​ได้​รับ​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​จริง. ที่​เมือง​ปอร์โต สามี​ของ​ฉัน​ได้​เริ่ม​การ​ศึกษา​กับ​ฮอรัสยู ซึ่ง​เป็น​นัก​ธุรกิจ เขา​ก้าว​หน้า​อย่าง​รวด​เร็ว. ต่อ​มา เอมิลยู​บุตร​ชาย​ของ​เขา​ซึ่ง​เป็น​แพทย์​ที่​เก่ง​มาก​ก็​ได้​แสดง​จุด​ยืน​อยู่​ฝ่าย​พระ​ยะโฮวา​และ​ได้​รับ​บัพติสมา​เช่น​กัน. จริง​ที​เดียว ไม่​มี​สิ่ง​ใด​จะ​ยับยั้ง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไว้​ได้.

“คุณ​ไม่​มี​วัน​รู้​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​ยอม​ให้​เป็น​ไป”

ปี 1973 ฉัน​กับ​ชาเวา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​นานา​ชาติ “ชัย​ชนะ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” ที่​กรุง​บรัสเซลส์ ประเทศ​เบลเยียม. พี่​น้อง​ชาว​สเปน​และ​เบลเยียม​หลาย​พัน​คน​ได้​อยู่​ที่​นั่น ทั้ง​ยัง​มี​ตัว​แทน​จาก​โมซัมบิก, แองโกลา, เคปเวิร์ด, หมู่​เกาะ​มาเดรา, และ​หมู่​เกาะ​อะซอร์ส. บราเดอร์​นอรร์ จาก​สำนักงาน​ใหญ่​ใน​นิวยอร์ก กล่าว​ลง​ท้าย​ด้วย​คำ​กระตุ้น​เตือน​ดัง​นี้: “จง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ต่อ​ไป​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์. คุณ​ไม่​มี​วัน​รู้​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​ยอม​ให้​เป็น​ไป. ใคร​จะ​รู้ คุณ​อาจ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ครั้ง​ถัด​ไป​ที่​ประเทศ​โปรตุเกส​ก็​ได้!”

หลัง​จาก​นั้น​หนึ่ง​ปี กิจการ​เผยแพร่​ใน​โปรตุเกส​ได้​รับ​การ​รับรอง​สิทธิ​ตาม​กฎหมาย. และ​คำ​พูด​ของ​บราเดอร์​นอรร์​กลาย​เป็น​จริง วัน​ที่ 25 เมษายน 1978 เรา​ได้​จัด​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​กรุง​ลิสบอน. นับ​ว่า​เป็น​โอกาส​ดี​เยี่ยม​สัก​เพียง​ไร​ที่​เรา​เดิน​เป็น​ขบวน​ไป​ตาม​ถนน​สาย​ต่าง ๆ ใน​กรุง​ลิสบอน ให้​คำ​พยาน​ด้วย​การ​แขวน​แผ่น​ป้าย​ประกบ​หน้า​หลัง, ด้วย​วารสาร, และ​เชิญ​ชวน​ประชาชน​ฟัง​คำ​บรรยาย​สาธารณะ! ความ​ฝัน​กลาย​เป็น​จริง​แล้ว.

นับ​วัน​เรา​ยิ่ง​รัก​พี่​น้อง​ชาว​โปรตุเกส​มาก​ขึ้น​ทุก​ที หลาย​คน​ใน​หมู่​พี่​น้อง​เหล่า​นี้​เคย​ถูก​จำ​คุก​และ​ถูก​เฆี่ยน​เนื่อง​จาก​การ​รักษา​ฐานะ​เป็น​กลาง​ฝ่าย​คริสเตียน. ความ​ปรารถนา​ของ​เรา​คือ​จะ​รับใช้​ต่อ​ไป​ใน​ประเทศ​โปรตุเกส. อย่าง​ไร​ก็​ดี เรา​ไม่​สามารถ​ทำ​ดัง​ที่​ใจ​เรา​ปรารถนา. ปี 1982 ชาเวา​เริ่ม​มี​ปัญหา​ร้ายแรง​ด้าน​โรค​หัวใจ และ​สำนักงาน​สาขา​แนะ​นำ​ให้​เรา​กลับ​บราซิล.

เวลา​ที่​แสน​ลำบาก

พี่​น้อง​ใน​สำนักงาน​สาขา​บราซิล​ให้​การ​สนับสนุน​เป็น​อย่าง​ดี​และ​ได้​มอบหมาย​ให้​เรา​ร่วม​รับใช้​กับ​ประชาคม​กีรีริง​ใน​เมือง​เทาบาเท รัฐ​เซาเปาลู. สุขภาพ​ของ​ชาเวา​ทรุด​อย่าง​รวด​เร็ว และ​หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน​เขา​อยู่​แต่​ใน​บ้าน​เพราะ​ไป​ไหน​ไม่​ได้. คน​สนใจ​มา​ที่​บ้าน​ของ​เรา​เพื่อ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ และ​ทุก​วัน​มี​การ​ประชุม​เพื่อ​ออก​ประกาศ อีก​ทั้ง​มี​กลุ่ม​การ​ศึกษา​ประจำ​สัปดาห์​ด้วย. การ​จัด​เตรียม​ดัง​กล่าว​ช่วย​เรา​รักษา​สภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ​ให้​คง​อยู่.

ชาเวา​ได้​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สุด​ความ​สามารถ​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​จน​กระทั่ง​ถึง​แก่​ชีวิต​เมื่อ​วัน​ที่ 1 ตุลาคม 1985. ฉัน​เศร้า​ใจ​และ​รู้สึก​หดหู่​ไม่​น้อย แต่​ก็​ตั้งใจ​มุ่ง​มั่น​จะ​ทำ​งาน​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​ต่อ​ไป. เกิด​อุปสรรค​อีก​อย่าง​หนึ่ง​เมื่อ​เดือน​เมษายน 1986 ตอน​ที่​ขโมย​ขึ้น​บ้าน​และ​ยก​เค้า​ข้าวของ​ไป​เกือบ​หมด. นับ​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​ชีวิต​ที่​ฉัน​รู้สึก​เปลี่ยว​ใจ​และ​หวาด​กลัว. ด้วย​ความ​รัก​และ​ห่วงใย​ของ​สามี​ภรรยา​คู่​หนึ่ง เขา​ชวน​ฉัน​ไป​พัก​อยู่​ด้วย​ระยะ​หนึ่ง ซึ่ง​ฉัน​สำนึก​บุญคุณ​อย่าง​ยิ่ง.

การ​ตาย​ของ​ชาเวา​และ​ขโมย​ขึ้น​บ้าน​มี​ผล​กระทบ​ฉัน​เหมือน​กัน​ใน​ด้าน​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. ฉัน​รู้สึก​ไม่​มั่น​ใจ​เมื่อ​ออก​ไป​ทำ​งาน​รับใช้. หลัง​จาก​เขียน​จดหมาย​เล่า​ความ​ยาก​ลำบาก​ถึง​สำนักงาน​สาขา​แล้ว ฉัน​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​ไป​พัก​อยู่​ใน​เบเธล​ระยะ​หนึ่ง​เพื่อ​รักษา​สภาพ​จิตใจ​ของ​ฉัน. นั่น​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​เสริม​ความ​เข้มแข็ง​จริง ๆ!

พอ​ฉัน​รู้สึก​ดี​ขึ้น​บ้าง​แล้ว ฉัน​ตอบรับ​งาน​มอบหมาย​ให้​รับใช้​ที่​เมือง​อี​ปู​อัง​ใน​รัฐ​เซาเปาลู. งาน​เผยแพร่​ทำ​ให้​ฉัน​ไม่​มี​เวลา​ว่าง แต่​ก็​มี​อยู่​หลาย​ครั้ง​ที่​ฉัน​รู้สึก​ท้อ​แท้. เมื่อ​เจอ​ภาวะ​แบบ​นั้น ฉัน​โทรศัพท์​ถึง​พี่​น้อง​ที่​ประชาคม​กีรีริง ซึ่ง​จะ​มี​ครอบครัว​หนึ่ง​แวะ​มา​เยี่ยม​ฉัน​สัก​สอง​สาม​วัน. การ​เยี่ยม​ของ​พี่​น้อง​เหล่า​นั้น​ช่าง​เป็น​การ​หนุน​ใจ​อย่าง​แท้​จริง! ใน​ช่วง​หนึ่ง​ปี​แรก​ใน​อี​ปู​อัง มี​พี่​น้อง​ชาย​หญิง 38 คน​ไม่​ซ้ำ​หน้า​กัน​ได้​เดิน​ทาง​ไกล​มา​เยี่ยม​ฉัน.

ปี 1992 หก​ปี​หลัง​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​ชาเวา ฉัน​ได้​รับ​คำ​เชิญ​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​จาก​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา คราว​นี้​ให้​ย้าย​ไป​เมือง​ฟรังกา รัฐ​เซาเปาลู ซึ่ง​ฉัน​ยัง​รับใช้​อยู่​ที่​นี่​ใน​ฐานะ​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. เขต​งาน​ที่​นี่​บังเกิด​ผล​ดี​มาก. ปี 1994 ฉัน​เริ่ม​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​นายก​เทศมนตรี. ขณะ​นั้น เขา​กำลัง​รณรงค์​หา​เสียง​เลือก​ตั้ง​เพื่อ​จะ​ได้​ที่​นั่ง​ใน​สภา​บราซิล ถึง​แม้​ตาราง​เวลา​ทำ​งาน​ของ​เขา​จะ​เต็ม​แน่น แต่​เรา​ก็​ได้​ศึกษา​ทุก​บ่าย​วัน​จันทร์. เพื่อ​หลีก​เลี่ยง​เสียง​รบกวน เขา​จะ​ปิด​เครื่อง​โทรศัพท์. ฉัน​ดีใจ​เพียง​ใด​ที่​เห็น​เขา​ค่อย ๆ ถอน​ตัว​ที​ละ​น้อย​จาก​วิถี​การ​เมือง และ​เมื่อ​มี​ความ​จริง​เข้า​มา​ช่วย เขา​ได้​ปรับ​ปรุง​ชีวิต​สมรส​ให้​คืน​สภาพ​เดิม! เขา​พร้อม​ด้วย​ภรรยา​ได้​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1998.

เมื่อ​มอง​ย้อน​หลัง ฉัน​พูด​ได้​เลย​ว่า​ชีวิต​ฉัน​ใน​ฐานะ​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​เป็น​ชีวิต​ที่​ได้​รับ​พระ​พร​ล้น​เหลือ​และ​มี​สิทธิ​พิเศษ​อัน​ใหญ่​หลวง. การ​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ซึ่ง​พระ​ยะโฮวา​เสนอ​ให้​ฉัน​ผ่าน​ทาง​องค์การ​ของ​พระองค์​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​อุดม​บริบูรณ์. และ​ใน​อนาคต หาก​มี​การ​เชิญ​ชวน​แบบ​ใด​อีก​ก็​ตาม ความ​เต็ม​ใจ​ของ​ฉัน​ใน​การ​ตอบรับ​ก็​ยัง​คง​หนักแน่น​เช่น​เคย.

[ภาพ​หน้า 25]

ปี 1957 เมื่อ​ฉัน​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา และ​ใน​ปัจจุบัน

[ภาพ​หน้า 26]

ถ่าย​กับ​ครอบครัว​เบเธล​ใน​บราซิล​ปี 1963

[ภาพ​หน้า 27]

งาน​แต่งงาน​ของ​เรา​ใน​เดือน​สิงหาคม 1965

[ภาพ​หน้า 27]

การ​ประชุม​ใหญ่​ใน​โปรตุเกส​ขณะ​ที่​มี​การ​สั่ง​ห้าม

[ภาพ​หน้า 28]

การ​ให้​คำ​พยาน​ที่​ถนน​ใน​กรุง​ลิสบอน​ระหว่าง​การ​ประชุม​นานา​ชาติ “ความ​เชื่อ​ที่​มี​ชัย” ปี 1978