ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

‘จงเรียนจากเรา’

‘จงเรียนจากเรา’

‘จง​เรียน​จาก​เรา’

“จง​รับ​แอก​ของ​เรา​ไว้​บน​เจ้า​ทั้ง​หลาย​และ​เรียน​จาก​เรา เพราะ​เรา​มี​จิตใจ​อ่อนโยน​และ​หัวใจ​ถ่อม และ​เจ้า​จะ​ได้​ความ​สดชื่น​สำหรับ​จิตวิญญาณ​ของ​เจ้า.”—มัดธาย 11:29, ล.ม.

1. เหตุ​ใด​การ​เรียน​รู้​จาก​พระ​เยซู​จึง​ให้​ความ​เพลิดเพลิน​และ​เสริม​สร้าง​ชีวิต​เรา​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​ขึ้น?

พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​คิด, สอน, และ​กระทำ​อย่าง​เหมาะ​สม​เสมอ. ช่วง​เวลา​ที่​พระองค์​ทรง​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​นั้น​สั้น แต่​พระองค์​ทรง​เพลิดเพลิน​กับ​งาน​ประจำ​ชีพ​ที่​มี​ค่า​น่า​พอ​ใจ และ​พระองค์​ทรง​มี​ความ​สุข​เสมอ. พระองค์​ทรง​รวบ​รวม​เหล่า​สาวก​และ​สอน​พวก​เขา​เกี่ยว​กับ​วิธี​นมัสการ​พระเจ้า, วิธี​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​เพื่อน​มนุษย์, และ​วิธี​เอา​ชนะ​โลก​นี้. (โยฮัน 16:33) พระองค์​ทรง​เติม​ความ​หวัง​ไว้​ใน​หัวใจ​ของ​พวก​เขา​และ “ทรง​นำ​ชีวิต​และ​ซึ่ง​ไม่​รู้​เปื่อย​เน่า​นั้น​ให้​กระจ่าง​แจ้ง​โดย​กิตติคุณ.” (2 ติโมเธียว 1:10) หาก​คุณ​ถือ​ว่า​ตัว​คุณ​เอง​เป็น​สาวก​ของ​พระองค์ คุณ​คิด​ว่า​การ​เป็น​สาวก​หมาย​ถึง​อะไร? ด้วย​การ​พิจารณา​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​เหล่า​สาวก เรา​สามารถ​เรียน​รู้​วิธี​ที่​จะ​เสริม​สร้าง​ชีวิต​เรา​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​ขึ้น. การ​พิจารณา​ดัง​กล่าว​รวม​ไป​ถึง​การ​ยอม​รับ​ทัศนะ​ของ​พระองค์​และ​การ​ปฏิบัติ​ตาม​หลักการ​พื้น​ฐาน​บาง​อย่าง.—มัดธาย 10:24, 25; ลูกา 14:26, 27; โยฮัน 8:31, 32; 13:35; 15:8.

2, 3. (ก) การ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู​หมาย​ถึง​อะไร? (ข) เหตุ​ใด​จึง​สำคัญ​ที่​จะ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ฉัน​เป็น​สาวก​ของ​ผู้​ใด?’

2 ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก คำ​ที่​มัก​แปล​กัน​ว่า “สาวก” มี​ความหมาย​พื้น​ฐาน​หมาย​ถึง​คน​ที่​มุ่ง​ความ​คิด​จิตใจ​ไป​ที่​สิ่ง​หนึ่ง หรือ​คน​ที่​เรียน​รู้. คำ​หนึ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กัน​ปรากฏ​อยู่​ใน​ข้อ​พระ​คัมภีร์​ที่​เป็น​อรรถบท​ของ​บทความ​นี้ คือ​มัดธาย 11:29 (ล.ม.) ซึ่ง​อ่าน​ว่า “จง​รับ​แอก​ของ​เรา​ไว้​บน​เจ้า​ทั้ง​หลาย​และ​เรียน จาก​เรา เพราะ​เรา​มี​จิตใจ​อ่อนโยน​และ​หัวใจ​ถ่อม และ​เจ้า​จะ​ได้​ความ​สดชื่น​สำหรับ​จิตวิญญาณ​ของ​เจ้า.” ถูก​แล้ว สาวก​คือ​ผู้​เรียน​รู้. พระ​ธรรม​กิตติคุณ​มัก​ใช้​คำ “สาวก” กับ​คน​ที่​ติด​ตาม​พระ​เยซู​อย่าง​ใกล้​ชิด ซึ่ง​เดิน​ทาง​ไป​กับ​พระองค์​ขณะ​ที่​พระองค์​ทรง​ประกาศ​และ​ได้​รับ​การ​สั่ง​สอน​จาก​พระองค์. บาง​คน​อาจ​เพียง​แค่​ยอม​รับ​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู หรือ​แม้​แต่​ยอม​รับ​อย่าง​ไม่​เปิด​เผย​ด้วยซ้ำ. (ลูกา 6:17; โยฮัน 19:38) ผู้​เขียน​พระ​ธรรม​กิตติคุณ​ยัง​ได้​กล่าว​ถึง “พวก​ศิษย์ [หรือ​สาวก] ของ​โยฮัน [ผู้​ให้​บัพติสมา] และ [สาวก​ของ] พวก​ฟาริซาย” ด้วย. (มาระโก 2:18) เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​ทรง​เตือน​เหล่า​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​ให้ “ระวัง​คำ​สอน​ของ​พวก​ฟาริซาย” เรา​อาจ​ถาม​ตัว​เอง​ได้​ว่า ‘ฉัน​เป็น​สาวก​ของ​ผู้​ใด?’—มัดธาย 16:12.

3 หาก​เรา​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู และ​หาก​เรา​ได้​เรียน​รู้​จาก​พระองค์ คน​อื่น ๆ น่า​จะ​รู้สึก​สดชื่น​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​เมื่อ​เรา​อยู่​ด้วย. พวก​เขา​น่า​จะ​สังเกต​เห็น​ว่า​เรา​เปลี่ยน​เป็น​คน​ที่​มี​จิตใจ​อ่อนโยน​และ​ใจ​ถ่อม​กว่า​เดิม. หาก​เรา​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​เป็น​ผู้​จัด​การ, หรือ​เป็น​บิดา​มารดา, หรือ​มี​หน้า​ที่​บำรุง​เลี้ยง​ฝูง​แกะ​ใน​ประชาคม​คริสเตียน ผู้​ที่​อยู่​ใน​ความ​ดู​แล​ของ​เรา​รู้สึก​ไหม​ว่า​เรา​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​เหมือน​พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​ที่​อยู่​ใน​ความ​ดู​แล​ของ​พระองค์?

วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​คน

4, 5. (ก) เหตุ​ใด​จึง​ไม่​ใช่​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​ทราบ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​อย่าง​ไร​ต่อ​ผู้​คน​ที่​มี​ปัญหา? (ข) มี​เหตุ​การณ์​อะไร​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​พระ​เยซู​กำลัง​รับประทาน​อาหาร​ที่​บ้าน​ของ​ฟาริซาย​คน​หนึ่ง?

4 เรา​จำเป็น​ต้อง​ทราบ​วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​คน โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ต่อ​ผู้​ที่​มี​ปัญหา​หนัก. การ​เรียน​รู้​ใน​เรื่อง​นี้​ไม่​น่า​จะ​เป็น​เรื่อง​ยาก; คัมภีร์​ไบเบิล​มี​รายงาน​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​พบ​ปะ​กับ​ผู้​คน บาง​คน​มี​ความ​ทุกข์​หนัก​ใจ. ขอ​ให้​เรา​สังเกต​ด้วย​ว่า​พวก​หัวหน้า​ศาสนา โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​พวก​ฟาริซาย ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​คน​ที่​มี​ปัญหา​คล้าย ๆ กัน​อย่าง​ไร. ข้อ​แตกต่าง​ที่​เรา​เห็น​จะ​ช่วย​ให้​มี​ความ​เข้าใจ​ที่​ชัดเจน​ขึ้น.

5 ใน​ปี​สากล​ศักราช 31 ขณะ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​เดิน​ทาง​ประกาศ​ไป​ทั่ว​มณฑล​แกลิลี (ฆาลิลาย) “มี​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​ฟาริซาย​เชิญ [พระ​เยซู] ไป​รับประทาน​อาหาร​กับ​เขา.” พระ​เยซู​ไม่​ได้​ทรง​ลังเล​ที่​จะ​ตอบรับ​คำ​เชิญ​นั้น. “พระองค์​ก็​เสด็จ​เข้า​ไป​นั่ง​ใน​บ้าน​ของ​คน​ฟาริซาย​คน​นั้น. และ​นี่​แน่ะ, มี​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ใน​เมือง​นั้น​เคย​เป็น​หญิง​ชั่ว, เมื่อ​รู้​ว่า​พระองค์​ทรง​นั่ง​รับประทาน​อาหาร​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​คน​ฟาริซาย​นั้น, เขา​จึง​ถือ​ผอบ​ศิลา​มี​น้ำมัน​หอม มา​ยืน​อยู่​ข้าง​หลัง​ใกล้​พระ​บาท​ของ​พระองค์, ร้องไห้​น้ำตา​ไหล​ชำระ​พระ​บาท, เอา​ผม​เช็ด, จุบ​พระ​บาท​ของ​พระองค์​มาก, และ​เอา​น้ำมัน​นั้น​ชโลม.”—ลูกา 7:36-38.

6. อะไร​อาจ​เป็น​เหตุ​ที่​หญิง​คน​นี้​ซึ่ง​เป็น “หญิง​ชั่ว” สามารถ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ของ​ฟาริซาย​ได้?

6 คุณ​นึก​ภาพ​เหตุ​การณ์​นั้น​ออก​ไหม? หนังสือ​อ้างอิง​เล่ม​หนึ่ง​อ้าง​ว่า “หญิง​คน​นี้ (ข้อ 37) ฉวย​ประโยชน์​จาก​ขนบธรรมเนียม​ที่​อนุญาต​ให้​คน​จน​มา​ยัง​งาน​เลี้ยง​เพื่อ​ขอ​อาหาร​ที่​เหลือ.” นั่น​อาจ​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​คน​ซึ่ง​ไม่​ได้​รับ​เชิญ​สามารถ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ได้. อาจ​มี​คน​อื่น ๆ รอ​กวาด​อาหาร​ที่​เหลือ​เมื่อ​การ​กิน​เลี้ยง​ใน​มื้อ​นั้น​สิ้น​สุด​ลง. แต่​พฤติกรรม​ของ​หญิง​คน​นี้​แปลก​ออก​ไป. เธอ​ไม่​ได้​คอย​เฝ้า​ดู​อยู่​ข้าง ๆ และ​คอย​ให้​อาหาร​ค่ำ​มื้อ​นั้น​จบ​ลง. เธอ​มี​ชื่อเสียง​ไม่​ดี​ด้าน​ศีลธรรม เป็น “หญิง​ชั่ว” ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี ถึง​ขนาด​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​พระองค์​ทรง​ทราบ​เกี่ยว​กับ “ความ​ผิด​บาป​ของ​ผู้​หญิง​นี้​ซึ่ง​มี​มาก.”—ลูกา 7:47.

7, 8. (ก) เรา​อาจ​แสดง​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​หาก​อยู่​ใน​สภาพการณ์​ดัง​ที่​บอก​ไว้​ใน​ลูกา 7:36-38? (ข) ซีโมน​แสดง​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร?

7 ขอ​ให้​นึก​ภาพ​ว่า​ตัว​คุณ​เอง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สมัย​นั้น​และ​อยู่​ใน​ฐานะ​เดียว​กับ​พระ​เยซู. คุณ​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร? คุณ​จะ​รู้สึก​อึดอัด​ไหม​เมื่อ​หญิง​คน​นี้​เข้า​มา​ใกล้​คุณ? สถานการณ์​เช่น​นั้น​จะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​คุณ​อย่าง​ไร? (ลูกา 7:45) คุณ​จะ​รู้สึก​ขน​ลุก​หรือ​ขยะแขยง​ไหม?

8 ถ้า​คุณ​อยู่​ใน​หมู่​แขก​คน​อื่น ๆ สิ่ง​ที่​คุณ​คิด​อาจ​คล้าย ๆ กับ​ความ​คิด​ของ​ฟาริซาย​ผู้​นี้​ที่​ชื่อ​ซีโมน​ไหม? “ฝ่าย​คน​ฟาริซาย​ที่​ได้​เชิญ [พระ​เยซู] เมื่อ​เห็น​แล้ว​ก็​นึก​ใน​ใจ​ว่า, ‘ถ้า​ท่าน​นี้​เป็น​ศาสดา​พยากรณ์​ก็​คง​จะ​รู้​ว่า​หญิง​ผู้​นี้​ที่​ถูก​ต้อง​กาย​ของ​ท่าน​เป็น​ผู้​ใด​และ​เป็น​คน​อย่าง​ไร, เพราะ​เขา​เป็น​คน​ชั่ว.’ ” (ลูกา 7:39) ตรง​กัน​ข้าม พระ​เยซู​ทรง​เป็น​บุรุษ​ผู้​มี​ความ​กรุณา​อัน​ลึกซึ้ง. พระองค์​ทรง​เข้าใจ​สภาพ​อัน​เลว​ร้าย​ของ​หญิง​คน​นี้​และ​รับ​รู้​ความ​เจ็บ​ปวด​รวดร้าว​ของ​เธอ. ไม่​มี​บันทึก​บอก​ไว้​ว่า​เธอ​พลาด​พลั้ง​สู่​วิถี​ชีวิต​ที่​ผิด​บาป​อย่าง​ไร. หาก​ว่า​เธอ​เป็น​หญิง​โสเภณี​จริง ก็​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​พวก​ผู้​ชาย​ใน​เมือง​นั้น​ซึ่ง​เป็น​ชาว​ยิว​ที่​เคร่ง​ศาสนา​ไม่​ได้​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​แก่​เธอ.

9. พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ปฏิกิริยา​ตอบ​อย่าง​ไร และ​อาจ​เกิด​ผล​เป็น​เช่น​ไร?

9 แต่​พระ​เยซู​ทรง​ปรารถนา​จะ​ช่วย​เธอ. พระองค์​ตรัส​แก่​เธอ​ว่า “ความ​ผิด​บาป​ของ​เจ้า​โปรด​ยก​เสีย​แล้ว.” แล้ว​พระองค์​ตรัส​อีก​ว่า “ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​ได้​ทำ​ให้​เจ้า​รอด. จง​ไป​เป็น​สุข​เถิด.” (ลูกา 7:48-50) บันทึก​จบ​ลง​ตรง​นี้. บาง​คน​อาจ​แย้ง​ว่า​ไม่​เห็น​พระ​เยซู​ทรง​ช่วย​อะไร​เธอ​มาก​นัก. แต่​พื้น​ฐาน​สำคัญ​คือ พระองค์​ทรง​ส่ง​เธอ​ให้​กลับ​ออก​ไป​ด้วย​คำ​อวย​พร. คุณ​คิด​ว่า​เธอ​จะ​กลับ​ไป​สู่​วิถี​ชีวิต​อัน​น่า​รังเกียจ​อีก​ไหม? แม้​ว่า​เรา​ไม่​อาจ​กล่าว​ได้​แน่นอน​ใน​เรื่อง​นี้ แต่​ขอ​ให้​สังเกต​สิ่ง​ที่​ลูกา​กล่าว​ต่อ​จาก​นั้น. ท่าน​เล่า​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เดิน​ทาง “ไป​ทั่ว​ตลอด​ตาม​บ้าน​ตาม​เมือง, ทรง​ประกาศ​กิตติคุณ​แห่ง​แผ่นดิน​ของ​พระเจ้า.” ลูกา​รายงาน​ด้วย​ว่า “ผู้​หญิง​ลาง​คน” อยู่​กับ​พระ​เยซู​และ​เหล่า​สาวก และ “ปรนนิบัติ​พระองค์​ด้วย​การ​ถวาย​สิ่ง​ของ.” เป็น​ไป​ได้​ว่า​หญิง​คน​นี้​ได้​กลับ​ใจ​และ​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​และ​บัด​นี้​ได้​มา​อยู่​ใน​หมู่​เหล่า​สาวก เริ่ม​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​แนว​ทาง​ที่​พระเจ้า​พอ​พระทัย โดย​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด, มี​เป้าหมาย​ใหม่, และ​มี​ความ​รัก​ที่​ลึกซึ้ง​ยิ่ง​ขึ้น​ต่อ​พระเจ้า.—ลูกา 8:1-3.

ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​พระ​เยซู​กับ​พวก​ฟาริซาย

10. เหตุ​ใด​จึง​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​พิจารณา​เรื่อง​ราว​ของ​พระ​เยซู​กับ​หญิง​คน​นี้​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน?

10 เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​บันทึก​นี้​ซึ่ง​กล่าว​ไว้​อย่าง​ชัดเจน? เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​สะเทือน​ใจ​มิ​ใช่​หรือ? ขอ​ให้​นึก​ภาพ​ว่า​ตัว​คุณ​เอง​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​ซีโมน. คุณ​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร? คุณ​จะ​แสดง​ปฏิกิริยา​แบบ​เดียว​กับ​พระ​เยซู หรือ​คุณ​จะ​รู้สึก​คล้าย ๆ กับ​ฟาริซาย​ผู้​เป็น​เจ้าบ้าน? พระ​เยซู​ทรง​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า เรา​จึง​ไม่​อาจ​รู้สึก​และ​ทำ​ได้​เหมือน​พระองค์​ทุก​อย่าง. แต่​ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง เรา​คง​ไม่​อยาก​ให้​ตัว​เรา​เอง​เป็น​เหมือน​กับ​ฟาริซาย​ซีโมน. คง​มี​น้อย​คน​ที่​จะ​รู้สึก​ภูมิ​ใจ​ว่า​ตัว​เอง​มี​ความ​คิด​เหมือน​กับ​พวก​ฟาริซาย.

11. เหตุ​ใด​เรา​คง​ไม่​อยาก​ถูก​จัด​ว่า​มี​ความ​คิด​เหมือน​กับ​พวก​ฟาริซาย?

11 จาก​การ​ศึกษา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​หลักฐาน​ทาง​โลก เรา​ลง​ความ​เห็น​ได้​ว่า​พวก​ฟาริซาย​ถือ​ตัว​ว่า​ตน​เป็น​ผู้​พิทักษ์​สวัสดิภาพ​ของ​ชาติ​และ​ดู​แล​ให้​เกิด​ความ​เจริญ​รุ่งเรือง​ใน​หมู่​ประชาชน. พวก​เขา​ไม่​รู้สึก​อิ่ม​ใจ​ที่​พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า​มี​ลักษณะ​พื้น​ฐาน​ที่​ชัดเจน​และ​เข้าใจ​ง่าย. ใน​ที่​ใด​ก็​ตาม​ที่​พวก​เขา​รู้สึก​ว่า​พระ​บัญญัติ​ไม่​ได้​กำหนด​แน่นอน พวก​เขา​ก็​จะ​พยายาม​อุด​จุด​ที่​เขา​คิด​ว่า​เป็น​ช่อง​โหว่​นั้น​ด้วย​ข้อ​กำหนด​ใน​การ​ใช้​พระ​บัญญัติ เพื่อ​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​ใช้​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ. พวก​หัวหน้า​ศาสนา​เหล่า​นี้​พยายาม​คิด​คำ​สั่ง​เป็น​ลายลักษณ์​อักษร​ซึ่ง​ควบคุม​การ​กระทำ​ใน​ทุก​เรื่อง แม้​แต่​เรื่อง​หยุม ๆ หยิม ๆ. *

12. พวก​ฟาริซาย​ถือ​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​เช่น​ไร?

12 โยเซฟุส​นัก​ประวัติศาสตร์​ชาว​ยิว​แห่ง​ศตวรรษ​แรก​กล่าว​ไว้​ชัดเจน​ว่า​พวก​ฟาริซาย​ถือ​ว่า​ตัว​เอง​กรุณา, อ่อนโยน, ยุติธรรม, และ​มี​สิทธิ​โดย​สมบูรณ์​สำหรับ​หน้า​ที่​ของ​ตน. ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​คง​มี​บาง​คน​ที่​ทำ​ได้​ใกล้​เคียง​กับ​ข้อ​อ้าง​ดัง​กล่าว. คุณ​อาจ​นึก​ถึง​นิโกเดโม. (โยฮัน 3:1, 2; 7:50, 51) ใน​เวลา​ต่อ​มา มี​บาง​คน​ใน​พวก​ฟาริซาย​ได้​รับ​เอา​แนว​ทาง​ชีวิต​แบบ​คริสเตียน. (กิจการ 15:5) คริสเตียน​อัครสาวก​เปาโล​เขียน​เกี่ยว​กับ​ชาว​ยิว​บาง​คน เช่น พวก​ฟาริซาย​ว่า “พวก​เขา​มี​ใจ​แรง​กล้า​เพื่อ​พระเจ้า; แต่​หา​เป็น​ไป​ตาม​ความ​รู้​ถ่องแท้​ไม่.” (โรม 10:2, ล.ม.) อย่าง​ไร​ก็​ตาม พระ​ธรรม​กิตติคุณ​กล่าว​ถึง​พวก​เขา​อย่าง​ที่​คน​ทั่ว​ไป​มอง กล่าว​คือ หยิ่ง, ยโส, ถือ​ตัว​ชอบธรรม, ชอบ​จับ​ผิด, ตัดสิน​ผู้​อื่น, และ​ประพฤติ​ตัว​ไม่​น่า​นับถือ.

ทัศนะ​ของ​พระ​เยซู

13. พระ​เยซู​ตรัส​เช่น​ไร​เกี่ยว​กับ​พวก​ฟาริซาย?

13 พระ​เยซู​ทรง​ตำหนิ​พวก​อาลักษณ์​และ​ฟาริซาย​ว่า​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด. “เขา​ดี​แต่​ผูก​มัด​ของ​หนัก​ซึ่ง​แบก​ยาก​วาง​บน​บ่า​มนุษย์ ส่วน​เขา​เอง​แม้​แต่​นิ้ว​เดียว​ก็​ไม่​จับ​ต้อง​เลย.” ถูก​แล้ว ภาระ​ของ​พวก​เขา​นั้น​หนัก และ​แอก​ที่​พวก​เขา​วาง​บน​ประชาชน​ก็​ทารุณ. พระ​เยซู​ตรัส​ต่อ​ไป​โดย​เรียก​พวก​อาลักษณ์​และฟาริซาย​ว่า “คน​โฉด​เขลา.” คน​โฉด​เขลา​เป็น​ภัย​ต่อ​ชุมชน. พระ​เยซู​ทรง​เรียก​พวก​อาลักษณ์​และ​ฟาริซาย​ด้วย​ว่า “คน​นำ​ทาง​ตา​บอด” และ​ตรัส​อย่าง​หนักแน่น​ว่า​พวก​เขา​ได้ ‘ละ​เว้น​ส่วน​ข้อ​สำคัญ​แห่ง​พระ​บัญญัติ คือ​ความ​ชอบธรรม, ความ​เมตตา, และ​ความ​เชื่อ.’ ใคร​ล่ะ​อยาก​ให้​พระ​เยซู​มอง​ว่า​เขา​เป็น​เหมือน​พวก​ฟาริซาย?—มัดธาย 23:1-4, 16, 17, 23.

14, 15. (ก) วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​มัดธาย​เลวี​เผย​อะไร​เกี่ยว​กับ​แนว​ทาง​ประพฤติ​ของ​พวก​ฟาริซาย? (ข) เรา​สามารถ​ได้​บทเรียน​สำคัญ​อะไร​จาก​เรื่อง​นี้?

14 ผู้​อ่าน​บันทึก​พระ​ธรรม​กิตติคุณ​เกือบ​ทุก​คน​สามารถ​เห็น​ได้​ว่า​พวก​ฟาริซาย​ส่วน​ใหญ่​มี​นิสัย​ชอบ​วิพากษ์วิจารณ์. หลัง​จาก​พระ​เยซู​ทรง​เชิญ​มัดธาย​เลวี​ซึ่ง​เป็น​คน​เก็บ​ภาษี​ให้​มา​เป็น​สาวก เลวี​จัด​งาน​เลี้ยง​ใหญ่​ต้อนรับ​พระองค์. บันทึก​กล่าว​ว่า “ฝ่าย​พวก​ฟาริซาย​และ​พวก​อาลักษณ์​ของ​เขา​กะซิบ​บ่น​ติ​พวก​ศิษย์​ของ​พระองค์​ว่า, ‘เหตุ​ไฉน​พวก​ท่าน​มา​กิน​และ​ดื่ม​กับ​พวก​เก็บ​ภาษี​และ​กับ​พวก​คน​บาป?’ พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า, ‘ . . . เรา​มิ​ได้​มา​เพื่อ​จะ​เรียก​คน​ชอบธรรม, แต่​มา​เรียก​คน​บาป​ให้​กลับ​ใจ​เสีย​ใหม่.’ ”—ลูกา 5:27-32.

15 เลวี​เอง​เข้าใจ​อีก​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ใน​โอกาส​นั้น ที่​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ไป​เรียน​ข้อ​นี้​ให้​เข้าใจ​ซึ่ง​ว่า, ‘เรา​ประสงค์​ความ​เมตตา, และ​เครื่อง​บูชา​เรา​ไม่​ประสงค์.’ ” (มัดธาย 9:13) แม้​ว่า​พวก​ฟาริซาย​อ้าง​ว่า​เชื่อ​ใน​ข้อ​เขียน​ของ​ผู้​พยากรณ์​ชาว​ฮีบรู แต่​พวก​เขา​มิ​ได้​ยอม​รับ​คำ​กล่าว​นี้​ซึ่ง​ยก​จาก​โฮเซอา 6:6. พวก​เขา​ยอม​ฝ่าฝืน​พระ​บัญญัติ​มาก​กว่า​จะ​ฝ่าฝืน​ประเพณี. ขอ​ให้​เรา​แต่​ละ​คน​ถาม​ตัว​เอง​ดัง​นี้: ‘ฉัน​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​คน​ที่​ยึด​ติด​กับ​กฎ​บาง​อย่าง เช่น กฎ​ที่​สะท้อน​ความ​เห็น​ส่วน​ตัว​หรือ​ว่า​ฉัน​ยึด​ถือ​สามัญสำนึก​มาก​กว่า? หรือ คน​อื่น ๆ มอง​ว่า​ฉัน​เด่น​ใน​ด้าน​ความ​เมตตา​และ​ใจ​ดี​ไหม?’

16. แนว​ทาง​ประพฤติ​ของ​พวก​ฟาริซาย​เป็น​เช่น​ไร และ​เรา​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ทำ​อย่าง​พวก​เขา​ได้​อย่าง​ไร?

16 ติ, ติ, แล้ว​ก็​ติ. นั่น​คือ​แนว​ทาง​ประพฤติ​ของ​พวก​ฟาริซาย. พวก​ฟาริซาย​จ้อง​หา​ข้อ​บกพร่อง​ทุก​อย่าง ไม่​ว่า​ที่​เป็น​ข้อ​บกพร่อง​จริง​หรือ​ที่​นึก​เอา​เอง. พวก​เขา​ทำ​ให้​ประชาชน​ต้อง​เตรียม​ใจ​รอ​รับ​การ​ว่า​กล่าว​อยู่​เสมอ และ​คอย​เตือน​พวก​เขา​ให้​นึก​ถึง​ข้อ​ผิด​พลาด​ของ​ตัว​เอง. พวก​ฟาริซาย​ภาคภูมิ​ใจ​ว่า​พวก​เขา​ถวาย​สิบ​ลด​หนึ่ง​แม้​แต่​ของ​เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น สะระแหน่, ยี่หร่า, และ​ขมิ้น. พวก​เขา​โอ้อวด​ว่า​ตน​เคร่ง​ศาสนา​ด้วย​การ​แต่ง​กาย​และ​พยายาม​ชี้​นำ​บงการ​ชาติ. แน่นอน เพื่อ​ที่​การ​กระทำ​ของ​เรา​จะ​สอดคล้อง​ลง​รอย​กับ​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู เรา​ต้อง​หลีก​เลี่ยง​แนว​โน้ม​ที่​จะ​จับ​ผิด​และ​เน้น​ข้อ​บกพร่อง​ของ​ผู้​อื่น​อยู่​เสมอ.

พระ​เยซู​ทรง​จัด​การ​ปัญหา​อย่าง​ไร?

17-19. (ก) จง​อธิบาย​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​จัด​การ​อย่าง​ไร​ใน​เหตุ​การณ์​ที่​อาจ​ก่อ​ผล​ร้ายแรง​มาก. (ข) อะไร​ทำ​ให้​เรื่อง​นี้​ตึงเครียด​และ​ไม่​น่า​ยินดี? (ค) หาก​คุณ​อยู่​ใน​เหตุ​การณ์​ตอน​นั้น​เมื่อ​หญิง​คน​นี้​เข้า​ไป​หา​พระ​เยซู คุณ​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร?

17 วิธี​ของ​พระ​เยซู​ใน​การ​จัด​การ​ปัญหา​แตกต่าง​กัน​มาก​กับ​วิธี​ของ​พวก​ฟาริซาย. ขอ​ให้​พิจารณา​วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​จัด​การ​ใน​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ซึ่ง​อาจ​นับ​ว่า​เป็น​เรื่อง​ร้ายแรง​มาก. เหตุ​การณ์​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​หญิง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ตก​เลือด​มา​นาน​ถึง 12 ปี. คุณ​จะ​อ่าน​เรื่อง​นี้​ได้​ใน​ลูกา 8:42-48.

18 บันทึก​ของ​มาระโก​กล่าว​ว่า​หญิง​คน​นี้ “กลัว​จน​ตัว​สั่น.” (มาระโก 5:33) เพราะ​เหตุ​ใด? ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​เพราะ​เธอ​ทราบ​ว่า​เธอ​ได้​ละเมิด​พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า. ตาม​ที่​ระบุ​ไว้​ใน​เลวีติโก 15:25-28 ผู้​หญิง​ที่​ตก​เลือด​ใน​ลักษณะ​ผิด​ปกติ​ถือ​ว่า​เป็น​มลทิน​ตราบ​เท่า​ที่​ยัง​ตก​เลือด​อยู่ รวม​ถึง​หลัง​จาก​นั้น​อีก​หนึ่ง​สัปดาห์. ทุก​สิ่ง​ที่​เธอ​แตะ​ต้อง​และ​ทุก​คน​ที่​ถูก​ต้อง​ตัว​เธอ​ถือ​ว่า​เป็น​มลทิน. เพื่อ​จะ​เข้า​ไป​ถึง​พระ​เยซู​ได้ หญิง​คน​นี้​ต้อง​ฝ่า​ฝูง​ชน​เข้า​ไป. เมื่อ​เรา​พิจารณา​เรื่อง​นี้​ใน​เวลา​นี้​หลัง​จาก​เหตุ​การณ์​ผ่าน​ไป​แล้ว 2,000 ปี เรา​รู้สึก​เห็น​ใจ​ใน​ความ​ลำบาก​ใจ​ของ​เธอ.

19 หาก​คุณ​อยู่​ใน​ใน​สมัย​นั้น คุณ​จะ​มอง​เหตุ​การณ์​นี้​อย่าง​ไร? คุณ​จะ​พูด​อย่าง​ไร? สังเกต​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​หญิง​คน​นี้​อย่าง​กรุณา, เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก, และ​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​เธอ ไม่​ได้​ตรัส​ถึง​ปัญหา​ที่​เธอ​อาจ​ได้​ก่อ​ให้​เกิด​ขึ้น​ด้วย​ซ้ำ.—มาระโก 5:34.

20. ถ้า​เลวีติโก 15:25-28 เป็น​ข้อ​เรียก​ร้อง​ใน​ปัจจุบัน เรา​จะ​เผชิญ​กับ​ข้อ​ท้าทาย​อะไร?

20 เรา​จะ​เรียน​บาง​สิ่ง​บาง​อย่าง​จาก​เหตุ​การณ์​นี้​ได้​ไหม? สมมุติ​ว่า​คุณ​เป็น​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​ปัจจุบัน. และ​สมมุติ​ต่อ​อีก​ว่า​เลวีติโก 15:25-28 เป็น​ข้อ​เรียก​ร้อง​อย่าง​หนึ่ง​สำหรับ​คริสเตียน​ใน​ปัจจุบัน และ​มี​สตรี​คริสเตียน​คน​หนึ่ง​ได้​ละเมิด​กฎหมาย​ข้อ​นี้ และ​เธอ​วิตก​กังวล​อย่าง​ยิ่ง​และ​รู้สึก​ไร้​ที่​พึ่ง​พิง. คุณ​จะ​แสดง​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร? คุณ​จะ​ทำ​ให้​เธอ​อับอาย​ต่อ​หน้า​ธารกำนัล​ด้วย​การ​ให้​คำ​แนะ​นำ​ใน​เชิง​ต่อ​ว่า​ไหม? คุณ​อาจ​พูด​ว่า “ผม​คง​ไม่​มี​ทาง​ทำ​อย่าง​นั้น​แน่! ผม​คง​ทำ​ตาม​แบบ​อย่าง​ของ​พระ​เยซู โดย​พยายาม​ให้​ถึง​ที่​สุด​เพื่อ​จะ​แสดง​ความ​กรุณา, ความ​รัก, คิด​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​เธอ, และ​เห็น​ใจ​เธอ.” นั่น​นับ​ว่า​ดี​มาก! อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​อย่าง​นี้​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย.

21. พระ​เยซู​ทรง​สอน​ประชาชน​เช่น​ไร​เกี่ยว​กับ​พระ​บัญญัติ?

21 โดย​พื้น​ฐาน​แล้ว ประชาชน​รู้สึก​ว่า​ได้​รับ​ความ​สดชื่น​จาก​พระ​เยซู, มี​สภาพ​จิตใจ​ดี​ขึ้น, และ​ได้​กำลังใจ. ตรง​ไหน​ที่​พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า​กำหนด​ไว้​แน่ชัด ก็​หมายความ​อย่าง​ที่​กล่าว​ไว้. หาก​ดู​เหมือน​ว่า​พระ​บัญญัติ​กล่าว​ไว้​กว้าง ๆ พวก​เขา​ก็​จะ​ต้อง​ใช้​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​ตน​มาก​ขึ้น และ​จะ​สามารถ​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​ได้​ด้วย​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ตน. พระ​บัญญัติ​มี​ความ​ยืดหยุ่น ไม่​ตาย​ตัว. (มาระโก 2:27, 28) พระเจ้า​ทรง​รัก​ไพร่พล​ของ​พระองค์, ทรง​ดำเนิน​การ​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​พวก​เขา​อย่าง​สม่ำเสมอ, และ​ทรง​เต็ม​พระทัย​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​เมื่อ​พวก​เขา​ล้ม​พลาด. พระ​เยซู​ก็​ทรง​เป็น​อย่าง​นั้น.—โยฮัน 14:9.

ผล​ของ​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู

22. การ​เรียน​จาก​พระ​เยซู​ทำ​ให้​อารมณ์​ของ​เหล่า​สาวก​เป็น​เช่น​ไร?

22 คน​ที่​ฟัง​พระ​เยซู​และ​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระองค์​มอง​เห็น​คุณค่า​ของ​ความ​จริง​ที่​พระองค์​ทรง​ประกาศ​ว่า “แอก​ของ​เรา​ก็​พอ​เหมาะ, และ​ภาระ​ของ​เรา​ก็​เบา.” (มัดธาย 11:30) พวก​เขา​ไม่​เคย​รู้สึก​ว่า​พระองค์​ทรง​วาง​ภาระ​หนัก, คอย​รบกวน​ใจ, หรือ​ดุ​ด่า​พวก​เขา. พวก​เขา​มี​อิสระ​มาก​ขึ้น, มี​ความ​สุข​ขึ้น, และ​มั่น​ใจ​ยิ่ง​ขึ้น​ใน​สัมพันธภาพ​ที่​เขา​มี​กับ​พระเจ้า​และ​สัมพันธภาพ​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​กัน. (มัดธาย 7:1-5; ลูกา 9:49, 50) พวก​เขา​เรียน​รู้​จาก​พระองค์​ว่า​การ​เป็น​ผู้​นำ​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​ต้อง​ช่วย​ให้​ผู้​อื่น​รู้สึก​สดชื่น โดย​แสดง​จิตใจ​และ​หัวใจ​ที่​อ่อน​ถ่อม.—1 โกรินโธ 16:17, 18; ฟิลิปปอย 2:3.

23. การ​อยู่​กับ​พระ​เยซู​ช่วย​สอน​บทเรียน​สำคัญ​อะไร​แก่​เหล่า​สาวก และ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​ลง​ความ​เห็น​เช่น​ไร?

23 นอก​จาก​นั้น หลาย​คน​ประทับใจ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ความ​สำคัญ​ของ​การ​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​การ​ร่วม​สามัคคี​กับ​พระ​คริสต์​และ​การ​มี​น้ำใจ​อย่าง​ที่​พระองค์​ทรง​มี. พระองค์​ตรัส​แก่​เหล่า​สาวก​ว่า “พระ​บิดา​ได้​ทรง​รัก​เรา​ฉัน​ใด, เรา​ก็​รัก​ท่าน​ฉัน​นั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​ความ​รัก​ของ​เรา. ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ประพฤติ​ตาม​บัญญัติ​ของ​เรา, ท่าน​จะ​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​ความ​รัก​ของ​เรา เหมือน​เรา​ได้​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​บิดา, และ​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​ความ​รัก​ของ​พระองค์.” (โยฮัน 15:9, 10) หาก​พวก​เขา​ต้องการ​จะ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​ต้อง​ปฏิบัติ​ตาม​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้​จาก​พระ​เยซู​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง ทั้ง​ใน​การ​ประกาศ​การ​สอน​อย่าง​เปิด​เผย​เกี่ยว​กับ​ข่าว​ดี​อัน​มหัศจรรย์​ของ​พระเจ้า​และ​ใน​การ​ปฏิบัติ​ต่อ​ครอบครัว​และ​มิตร​สหาย. ขณะ​ที่​ความ​เป็น​พี่​น้อง​กัน​ใน​ประชาคม​งอกงาม​ขึ้น พวก​เขา​จำเป็น​ต้อง​เตือน​ตัว​เอง​อยู่​บ่อย ๆ ว่า​แนว​ทาง​ของ​พระ​เยซู​นั้น​คือ​แนว​ทาง​ที่​ถูก​ต้อง. สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​สอน​เป็น​ความ​จริง และ​ชีวิต​ของ​พระองค์​ที่​พวก​เขา​ได้​สังเกต​เรียน​รู้​นับ​ว่า​เป็น​ส่วน​ที่​ให้​แรง​บันดาล​ใจ​อย่าง​แท้​จริง.—โยฮัน 14:6; เอเฟโซ 4:20, 21.

24. มี​ตัว​อย่าง​อะไร​บ้าง​ของ​พระ​เยซู​ซึ่ง​เรา​ควร​เอา​ใจ​ใส่?

24 เมื่อ​คุณ​ใคร่ครวญ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​เรา​ได้​พิจารณา​กัน​ไป​แล้ว​นี้ คุณ​มอง​เห็น​แนว​ทาง​ต่าง ๆ ที่​จะ​ปรับ​ปรุง​ไหม? คุณ​เห็น​ด้วย​ไหม​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​คิด, สอน, และ​กระทำ​อย่าง​เหมาะ​สม​เสมอ? ถ้า​อย่าง​นั้น ก็​ขอ​ให้​มี​กำลังใจ. คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​ให้​กำลังใจ​แก่​เรา​ดัง​นี้: “ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​สิ่ง​เหล่า​นั้น​แล้ว​และ​ประพฤติ​ตาม, ท่าน​ก็​จะ​เป็น​สุข.”—โยฮัน 13:17.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 11 “ความ​แตกต่าง​ที่​สำคัญ [ระหว่าง​พระ​เยซู​กับ​พวก​ฟาริซาย] นั้น​จะ​เห็น​ได้​ชัด​ก็​ต่อ​เมื่อ​มอง​ที่​ความ​เข้าใจ​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​ซึ่ง​ตรง​ข้าม​กัน​ของ​ทั้ง​สอง​ฝ่าย. สำหรับ​พวก​ฟาริซาย​แล้ว พระเจ้า​ทรง​เป็น​ผู้​ที่​เรียก​ร้อง​เป็น​ส่วน​ใหญ่; แต่​สำหรับ​พระ​เยซู พระเจ้า​ทรง​เปี่ยม​ด้วย​ความ​กรุณา​และ​ความ​เมตตา​สงสาร. แน่นอน พวก​ฟาริซาย​ไม่​ปฏิเสธ​คุณ​ความ​ดี​และ​ความ​รัก​ของ​พระเจ้า แต่​ใน​ทัศนะ​ของ​พวก​เขา​พระเจ้า​ทรง​แสดง​คุณ​ความ​ดี​และ​ความ​รัก​ด้วย​การ​ประทาน​โทราห์ [พระ​บัญญัติ] และ​โดย​โปรด​ให้​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ตาม​พระ​บัญชา​ที่​บันทึก​ไว้​ที่​นั่น. . . . พวก​ฟาริซาย​ถือ​ว่า​การ​ยึด​มั่น​อยู่​กับ​คำ​สอน​สืบ​ปาก พร้อม​กับ​กฎ​ต่าง ๆ สำหรับ​การ​ตี​ความ​พระ​บัญญัติ เป็น​แนว​ทาง​ที่​ทำ​ให้​โทราห์​สำเร็จ​เป็น​จริง. . . . การ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ยก​ระดับ​พระ​บัญชา​สอง​ข้อ​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก (มัด. 22:34-40) ขึ้น​สู่​ระดับ​ที่​เป็น​บรรทัดฐาน​ของ​การ​ตี​ความ รวม​ทั้ง​การ​ที่​พระองค์​ทรง​ปฏิเสธ​ลักษณะ​ที่​จำกัด​เกิน​ไป​ของ​คำ​สอน​สืบ​ปาก . . . ทำ​ให้​พระองค์​ขัด​แย้ง​กับ​หลัก​ธรรม​ของ​พวก​ฟาริซาย.”—พจนานุกรม​นานา​ชาติ​ฉบับ​ใหม่​เกี่ยว​กับ​เทววิทยา​แห่ง​พันธสัญญา​ใหม่ (ภาษา​อังกฤษ).

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

• การ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู​มี​ความหมาย​อย่าง​ไร​สำหรับ​คุณ?

• พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​คน​อย่าง​ไร?

• เรา​สามารถ​เรียน​รู้​อะไร​จาก​วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สอน?

• พวก​ฟาริซาย​และ​พระ​เยซู​แตกต่าง​กัน​อย่าง​ไร?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 18, 19]

เจตคติ​ของ​พระ​เยซู​ต่อ​ประชาชน​ช่าง​แตกต่าง​จริง ๆ กับ​เจตคติ​ของ​พวก​ฟาริซาย!