ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การรับใช้ด้วยน้ำใจเสียสละ

การรับใช้ด้วยน้ำใจเสียสละ

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

การ​รับใช้​ด้วย​น้ำใจ​เสีย​สละ

เล่า​โดย​ดอน เรนเดลล์

แม่​ผม​เสีย​ชีวิต​ใน​ปี 1927 ตอน​นั้น​ผม​อายุ​แค่​ห้า​ขวบ. แต่​ความ​เชื่อ​ศรัทธา​ของ​ท่าน​มี​อิทธิพล​มาก​ต่อ​ชีวิต​ของ​ผม. เป็น​ไป​ได้​อย่าง​ไร?

คุณ​แม่​เป็น​สมาชิก​คริสตจักร​แห่ง​อังกฤษ​ที่​ถือ​เคร่ง ตอน​ที่​ท่าน​แต่งงาน​กับ​พ่อ​ซึ่ง​เป็น​ทหาร​อาชีพ. นั่น​คือ​ช่วง​ก่อน​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1. สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1 ปะทุ​ขึ้น​ใน​ปี 1914 และ​แม่​ไม่​เห็น​ด้วย​เมื่อ​นัก​เทศน์​ใช้​ธรรมาสน์​ใน​โบสถ์​เสมือน​เป็น​ที่​เกณฑ์​ทหาร. นัก​เทศน์​ตอบ​อย่าง​ไร? “กลับ​ไป​บ้าน​เสีย​เถอะ อย่า​คิด​กังวล​ใจ​กับ​เรื่อง​นั้น​เลย!” คำ​ตอบ​แบบ​นั้น​ไม่​จุ​ใจ​แม่​เลย.

ปี 1917 ขณะ​ที่​สงคราม​ทวี​ความ​รุนแรง​ถึง​ขีด​สุด แม่​ได้​ไป​ชม “ภาพยนตร์​เรื่อง​การ​ทรง​สร้าง.” ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​ว่า​ท่าน​พบ​ความ​จริง​เข้า​แล้ว ท่าน​ไม่​รีรอ​ที่​จะ​ผละ​จาก​คริสตจักร​แล้ว​หัน​ไป​คบหา​กับ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล ชื่อ​ที่​ใช้​เรียก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สมัย​นั้น. ท่าน​เข้า​ร่วม​ประชุม​กับ​ประชาคม​ใน​เมือง​โยวิล ซึ่ง​เป็น​ประชาคม​ที่​ใกล้​ที่​สุด​กับ​หมู่​บ้าน​เวสต์โคเกอร์​ที่​พวก​เรา​อยู่ ใน​แคว้น​ซอมเมอร์เซต​ของ​อังกฤษ.

จาก​นั้น​ไม่​นาน แม่​พูด​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ซึ่ง​เพิ่ง​ได้​เรียน​รู้​ใหม่ ๆ แก่​พี่​สาว​สอง​คน​และ​น้อง​สาว​คน​หนึ่ง​ของ​แม่. สมาชิก​สูง​อายุ​ของ​ประชาคม​โยวิล​เล่า​ให้​ผม​ฟัง​ว่า​แม่​กับ​มิลลี​น้อง​สาว​ขี่​จักรยาน​ไป​ทั่ว​เขต​งาน​ชนบท​ที่​กว้าง​ไพศาล​อย่าง​กระตือรือร้น​เพื่อ​แจก​จ่าย​หนังสือ​ชุด​คู่มือ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ). แต่​น่า​เศร้า​เหลือ​เกิน ช่วง 18 เดือน​สุด​ท้าย​ของ​ชีวิต แม่​ป่วย​จน​ต้อง​นอน​แบ็บ​อยู่​บน​เตียง​เพราะ​เป็น​วัณโรค สมัย​นั้น​ยัง​ไม่​มี​วิธี​เยียว​ยา​โรค​นี้​ให้​หาย​ขาด.

การ​เสีย​สละ​ใน​ภาค​ปฏิบัติ

น้า​มิลลี​อยู่​กับ​พวก​เรา​ตอน​นั้น ได้​เฝ้า​ดู​แล​พยาบาล​แม่​ผม​ที่​ป่วย และ​ยัง​ต้อง​คอย​เอา​ใจ​ใส่​ผม​กับ​โจน​พี่​สาว​วัย​เจ็ดขวบ​ด้วย. ครั้น​แม่​สิ้น​ชีวิต น้า​มิลลี​ขอ​รับ​ดู​แล​พวก​เรา​ทันที. คุณ​พ่อ​ดีใจ​ที่​ได้​คน​มา​ช่วย​แบ่ง​เบา​ภาระ​รับผิดชอบ​นี้ จึง​ตก​ลง​เห็น​ควร​ให้​น้า​มิลลี​อยู่​กับ​พวก​เรา​ตลอด​ไป.

เรา​รัก​และ​ผูก​พัน​กับ​น้า​สาว​มาก​และ​ดีใจ​ที่​น้า​จะ​อยู่​กับ​เรา​ต่อ​ไป. แต่​ทำไม​น้า​ตัดสิน​ใจ​ทำ​เช่น​นั้น? หลาย​ปี​ต่อ​มา น้า​มิลลี​บอก​เรา​ว่า​เธอ​ตระหนัก​ถึง​พันธะ​ที่​จะ​สร้าง​ต่อ​บน​พื้น​ฐาน​ที่​แม่​ได้​วาง​ไว้ คือ​สอน​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​แก่​โจน​กับ​ผม ซึ่ง​น้า​ทราบ​ดี​ว่า​พ่อ​ไม่​มี​วัน​จะ​ทำ​เช่น​นั้น เนื่อง​จาก​พ่อ​ไม่​สนใจ​เรื่อง​ศาสนา.

ใน​เวลา​ต่อ​มา เรา​ยัง​ได้​รู้​ว่า​น้า​มิลลี​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​เป็น​การ​ส่วน​ตัว. น้า​ไม่​ยอม​แต่งงาน​เพื่อ​จะ​ได้​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​เรา​อย่าง​ทั่ว​ถึง. ช่าง​เป็น​การ​เสีย​สละ​กระไร​เช่น​นี้! โจน​กับ​ผม​มี​เหตุ​ผล​ทุก​ประการ​ที่​จะ​ซาบซึ้ง​ใน​บุญคุณ​ของ​น้า. ทุก​อย่าง​ที่​น้า​เคย​สอน​เรา อีก​ทั้ง​การ​วาง​ตัว​อย่าง​อัน​ดี​ของ​เธอ​ยัง​คง​ติด​ตรึง​ใจ​เรา​อยู่​เสมอ.

ถึง​คราว​ต้อง​ตัดสิน​ใจ

ผม​กับ​โจน​ได้​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ประจำ​หมู่​บ้าน​ซึ่ง​สังกัด​คริสตจักร​แห่ง​อังกฤษ ที่​นี่​น้า​มิลลี​ได้​ยืน​ยัน​หนักแน่น​กับ​ครู​ใหญ่​เกี่ยว​กับ​สถานภาพ​การ​ศึกษา​ทาง​ศาสนา​ของ​เรา. เมื่อ​เด็ก​นัก​เรียน​คน​อื่น ๆ เดิน​แถว​เข้า​โบสถ์ เรา​เดิน​กลับ​บ้าน และ​เมื่อ​นัก​เทศน์​มา​ที่​โรง​เรียน​ให้​การ​อบรม​สั่ง​สอน​เรื่อง​ศาสนา เรา​แยก​ไป​นั่ง​ต่าง​หาก​และ​ท่อง​ข้อ​คัมภีร์​ตาม​ที่​ครู​สั่ง​จน​ขึ้น​ใจ. การ​ทำ​เช่น​นี้​ให้​คุณประโยชน์​แก่​ผม โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​ทำ​งาน​รับใช้​ใน​เวลา​ต่อ​มา เพราะ​ข้อ​คัมภีร์​หลาย​ข้อ​หลาย​ตอน​ยัง​ฝัง​แน่น​ใน​จิตใจ​ผม​เสมอ​มา.

ตอน​อายุ 14 ปี ผม​ออก​จาก​โรง​เรียน​แล้ว​ไป​เป็น​ลูก​มือ​ฝึก​งาน​อยู่​สี่​ปี​ใน​โรง​งาน​ผลิต​เนย​แข็ง​แถว ๆ บ้าน. นอก​จาก​นั้น ผม​เรียน​เปียโน และ​ดนตรี​กับ​การ​เต้น​รำ​กลาย​เป็น​งาน​อดิเรก​สำหรับ​ผม. ถึง​แม้​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​หยั่ง​ราก​ลง​ใน​หัวใจ​ผม​แล้ว​ก็​ตาม ทว่า​ยัง​ไม่​ได้​ก่อ​แรง​ผลัก​ดัน. ครั้น​แล้ว​วัน​หนึ่ง​ใน​เดือน​มีนาคม 1940 พยาน​ฯ สูง​อายุ​คน​หนึ่ง​ได้​ชวน​ผม​เป็น​เพื่อน​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​เมือง​สะวินดอน ระยะ​ทาง​ประมาณ 110 กิโลเมตร. อัลเบิร์ต ดี. ชโรเดอร์ ผู้​ดู​แล​ผู้​เป็น​ประธาน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บริเตน​ได้​ขึ้น​กล่าว​คำ​บรรยาย​สาธารณะ. การ​ประชุม​ครั้ง​นั้น​เป็น​จุด​เปลี่ยน​แปลง​ชีวิต​ผม.

สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 ดำเนิน​ไป​อย่าง​ดุเดือด. ผม​ควร​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​กับ​ชีวิต​ตัว​เอง? ผม​ตัดสิน​ใจ​กลับ​ไป​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ที่​โยวิล. ณ การ​ประชุม​ครั้ง​แรก​ที่​ผม​เข้า​ร่วม​นั้น​เอง มี​การ​พูด​ถึง​การ​ให้​คำ​พยาน​ตาม​ถนน​ซึ่ง​เป็น​วิธี​ใหม่. ถึง​แม้​ผม​ยัง​ไม่​ค่อย​รู้​อะไร​มาก แต่​ผม​อาสา​ร่วม​ทำ​กิจกรรม​นี้ ซึ่ง​ทำ​ให้​เพื่อน ๆ หลาย​คน​ประหลาด​ใจ​มาก แถม​ยัง​พูด​เยาะเย้ย​ผม​เมื่อ​เดิน​ผ่าน!

เดือน​มิถุนายน 1940 ผม​รับ​บัพติสมา​ที่​เมือง​บริสทอล. จาก​นั้น​ไม่​ถึง​เดือน ผม​ก็​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ​หรือ​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. ผม​สุข​ใจ​จริง ๆ ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น​พี่​สาว​ของ​ผม​ได้​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​ด้วย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ​เช่น​กัน!

งาน​ไพโอเนียร์​สมัย​สงคราม

หนึ่ง​ปี​ภาย​หลัง​สงคราม​เริ่ม ผม​ได้​รับ​หมาย​เรียก​ให้​เป็น​ทหาร. เมื่อ​ลง​ทะเบียน​เป็น​ผู้​ปฏิเสธ​การ​รับ​ราชการ​ทหาร​เนื่อง​ด้วย​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ใน​โยวิล​แล้ว ผม​ต้อง​ไป​แสดง​ตัว​ต่อ​ศาล​เมือง​บริสทอล. ผม​สมทบ​กับ​จอห์น วีนน์ ทำ​งาน​ไพโอเนียร์​ใน​เมือง​ซิน​เดอร์​ฟอร์ด, โกลเซสเตอร์เชียร์, และ​หลัง​จาก​นั้น​ที่​เมือง​ฮาเวอร์ฟอร์ดเวสต์​และ​คาร์มาร์เทน แคว้น​เวลส์. * ใน​เวลา​ต่อ​มา ณ การ​พิจารณา​คดี​ที่​คาร์มาร์เทน ผมถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​สาม​เดือน​ใน​เมือง​สะวอนซี พร้อม​กับ​ค่า​ปรับ​เป็น​เงิน 25 ปอนด์ ซึ่ง​ถือ​ว่า​เป็น​เงิน​ไม่​น้อย​เลย​ใน​สมัย​นั้น. ต่อ​มา ผม​ติด​คุก​รอบ​ที่​สอง​อีก​สาม​เดือน​ฐาน​ไม่​จ่าย​ค่า​ปรับ​จำนวน​เงิน​ดัง​กล่าว.

ณ การ​พิจารณา​คดี​หน​ที่​สาม ผม​ถูก​ซัก​ดัง​นี้: “คุณ​รู้​คำ​กล่าว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช่​ไหม​ที่​ว่า ‘ของ​ของ​ซีซาร์​จง​คืน​ให้​แก่​ซีซาร์’ “? ผม​ตอบ “ใช่​ครับ ผม​รู้​ข้อ​นั้น แต่​อยาก​ต่อ​ข้อ​ความ​ให้​จบ​ว่า ‘และ​ของ​ของ​พระเจ้า จง​ถวาย​แก่​พระเจ้า.’ นี่​คือ​สิ่ง​ที่​ผม​กำลัง​ทำ​อยู่.” (มัดธาย 22:21, ล.ม.) สอง​สาม​สัปดาห์​ถัด​จาก​นั้น ผม​รับ​จดหมาย​แจ้ง​มา​ว่า​ผม​พ้น​หน้า​ที่​ราชการ​ทหาร​แล้ว.

ช่วง​ต้น​ปี 1945 ผม​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ไป​สมทบ​ครอบครัว​เบเธล​ที่​ลอนดอน. ฤดู​หนาว​ปี​นั้น นาทาน เอช. นอรร์ ซึ่ง​นำ​หน้า​ใน​การ​จัด​ระเบียบ​งาน​เผยแพร่​ทั่ว​โลก​ได้​ไป​เยือน​ลอนดอน​พร้อม​กับ​เลขานุการ​ส่วน​ตัว​คือ​มิลตัน จี. เฮนเชล. พี่​น้อง​ชาย​วัย​หนุ่มแน่น​แปด​คน​จาก​บริเตน​ได้​ลง​ชื่อ​เป็น​นัก​เรียน​เพื่อ​รับ​การ​อบรม​เป็น​มิชชันนารี​รุ่น​ที่​แปด​ของ​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​แห่ง​กิเลียด และ​ผม​รวม​อยู่​ใน​กลุ่ม​นี้​ด้วย.

เขต​งาน​มอบหมาย​สำหรับ​มิชชันนารี

วัน​ที่ 23 พฤษภาคม 1946 เรา​ออก​จาก​ท่า​เรือ​คอร์นิช​แห่ง​เฟาวีย์ โดย​ลง​เรือ​สินค้า​ขนาด​ใหญ่​สมัย​สงคราม. หัวหน้า​นาย​ท่า​คือ​กัปตัน​คอลลินส์​ซึ่ง​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง และ​เขา​ได้​เปิด​หวูด​ขณะ​เรือ​แล่น​ออก​จาก​ท่า​เรือ. จริง ๆ แล้ว พวก​เรา​รู้สึก​ดีใจ​และ​ใจ​หาย​ระคน​กัน​เมื่อ​ฝั่ง​ทะเล​อังกฤษ​พ้น​สายตา. การ​แล่น​เรือ​ข้าม​แอตแลนติก​ครั้ง​นั้น​เจอ​คลื่น​ลม​กระหน่ำ​รุนแรง แต่​แล้ว 13 วัน​ต่อ​มา พวก​เรา​ก็​ไป​ถึง​ประเทศ​สหรัฐ​อย่าง​ปลอด​ภัย.

การ​ร่วม​ประชุม​นานา​ชาติ​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​มี​ชื่อ​ว่า “ประชาชาติ​ทั้ง​หลาย​จง​ชื่น​ใจ​ยินดี” เป็น​เวลา​แปด​วัน ที่​คลิฟแลนด์ มลรัฐ​โอไฮโอ ระหว่าง​วัน​ที่ 4 ถึง 11 สิงหาคม 1946 ประสบการณ์​ครั้ง​นั้น​น่า​จด​จำ. มี​ผู้​เข้า​ร่วม​แปด​หมื่น​คน นับ​รวม 302 คน​จาก​ที่​อื่น ๆ 32 ประเทศ. วารสาร​ตื่นเถิด! * (ภาษา​อังกฤษ) ปรากฏ​โฉม​หน้า ณ การ​ประชุม​คราว​นั้น และ​ฝูง​ชน​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า​ได้​รับ​หนังสือ​คู่มือ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ออก​ใหม่​ชื่อ “จง​ให้​พระเจ้า​เป็น​องค์​สัตย์​จริง.”

พวก​เรา​จบ​หลัก​สูตร​โรง​เรียน​กิเลียด​ใน​ปี 1947 ผม​กับ​บิลล์ คอปสัน ถูก​มอบหมาย​ไป​ยัง​ประเทศ​อียิปต์. แต่​ก่อน​จะ​ออก​เดิน​ทาง ผม​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​การ​ฝึก​อบรม​การ​ทำ​งาน​ใน​สำนักงาน​โดย​ริชาร์ด เอบราแฮมสัน​ที่​เบเธล​บรุกลิน. เรา​ขึ้น​ฝั่ง​ที่​อะเล็กซานเดรีย และ​ใน​ชั่ว​เวลา​อัน​สั้น ผม​สามารถ​ปรับ​ตัว​เข้า​กับ​วิถี​ชีวิต​คน​ตะวัน​ออก​กลาง​ได้. อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​เรียน​รู้​ภาษา​อาหรับ​เป็น​ข้อ​ท้าทาย และ​ผม​ใช้​ประโยชน์​จาก​บัตร​ให้​คำ​พยาน​ถึง​สี่​ภาษา​ด้วย​กัน.

บิลล์ คอปสัน​อยู่​ทำ​งาน​ใน​ประเทศ​นี้​ถึง​เจ็ด​ปี แต่​วีซ่า​ของ​ผม​ต่อ​อายุ​ไม่​ได้​หลัง​จาก​ปี​แรก ผม​จึง​ต้อง​ออก​จาก​ประเทศ. เมื่อ​มอง​ย้อน​ไป​ถึง​ปี​นั้น​ที่​ได้​รับใช้​ฐานะ​มิชชันนารี ผม​ว่า​เป็น​ปี​ที่​บังเกิด​ผล​มาก​ที่​สุด​ใน​ชีวิต. ผม​ประสบ​โอกาส​อัน​ดี​เยี่ยม​ที่​สามารถ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ตาม​บ้าน​สัปดาห์​หนึ่ง ๆ มาก​กว่า 20 ราย และ​บาง​คน​ที่​เรียน​ความ​จริง​สมัย​นั้น​ยัง​คง​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​แข็งขัน​ตราบ​ทุก​วัน​นี้. จาก​อียิปต์ ผม​ถูก​มอบหมาย​ไป​ยัง​เกาะ​ไซปรัส.

ไซปรัส​และ​อิสราเอล

ผม​เริ่ม​เรียน​ภาษา​ใหม่​คือ​ภาษา​กรีก เพื่อ​จะ​คุ้น​เคย​ภาษา​ถิ่น​พอ​สม​ควร. ใน​ชั่ว​เวลา​อัน​สั้น​หลัง​จาก​นั้น เมื่อ​แอนโทนี ซิดาริส​ได้​ย้าย​ไป​ยัง​ประเทศ​กรีซ ผม​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ให้​ดู​แล​งาน​ใน​ไซปรัส. สมัย​นั้น​สำนักงาน​สาขา​ใน​ไซปรัส​ได้​ช่วย​ดู​แล​งาน​ใน​อิสราเอล​ด้วย เพราะ​เหตุ​นี้ ผม​กับ​พี่​น้อง​ชาย​บาง​คน​จึง​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​เยี่ยม​เยียน​พยาน​ฯ ไม่​กี่​คน​ใน​อิสราเอล​เป็น​ครั้ง​คราว.

เมื่อ​ผม​เดิน​ทาง​ไป​อิสราเอล​เป็น​ครั้ง​แรก​นั้น เรา​ได้​จัด​การ​ประชุม​หมวด​ขนาด​ย่อม​ขึ้น​ใน​ภัตตาคาร​เมือง​ไฮฟา มี​ผู้​เข้า​ร่วม​ประชุม​ประมาณ 50 หรือ 60 คน. เมื่อ​แยก​กลุ่ม​ตาม​ชาติ​ต่าง ๆ แล้ว เรา​จัด​ระเบียบ​วาระ​การ​ประชุม​ถึง​หก​ภาษา! มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง ผม​สามารถ​นำ​ภาพยนตร์​ซึ่ง​สร้าง​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไป​ฉาย​ใน​กรุง​เยรูซาเลม และ​ผม​ให้​คำ​บรรยาย​สาธารณะ ซึ่ง​หนังสือ​พิมพ์​ภาษา​อังกฤษ​ได้​รายงาน​ข่าว​อย่าง​น่า​ประทับใจ.

ตอน​นั้น​บน​เกาะ​ไซปรัส​มี​พยาน​ฯ ประมาณ 100 คน และ​พวก​เขา​ต้อง​สู้​อย่าง​ทรหด​เพื่อ​ความ​เชื่อ. บาทหลวง​คริสตจักร​กรีก​ออร์โทด็อกซ์​ได้​นำ​ฝูง​ชน​ออก​ก่อกวน​การ​ประชุม​ของ​เรา และ​นับ​เป็น​ประสบการณ์​ใหม่​สำหรับ​ผม​เมื่อ​ถูก​หิน​ขว้าง​ขณะ​ทำ​งาน​เผยแพร่​ใน​ชนบท. ผม​จึง​ต้อง​เรียน​รู้​ที่​จะ​หลบ​ลี้​ถอย​หนี​อย่าง​รวด​เร็ว! การ​เผชิญ​การ​ต่อ​ต้าน​ขัด​ขวาง​อย่าง​รุนแรง​ดัง​กล่าว ถือ​ได้​ว่า​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​รับ​การ​เสริม​ให้​เข้มแข็ง​เมื่อ​มิชชันนารี​อีก​หลาย​คน​ถูก​มอบหมาย​ให้​มา​ที่​เกาะ​แห่ง​นี้. อาทิ เดนนิส​และ​เมวิส แมตทิวส์, พร้อม​กับ​โจน ฮัลเลย์, และ​เบรีล เฮย์วูด​ได้​สมทบ​กับ​ผม​ใน​เมือง​ฟามากุสทา ขณะ​ที่​ทอม​กับ​แมรี กูลเดน​และ​นีนา คอนสแตนที​ชาว​อังกฤษ​เชื้อ​สาย​ไซปรัส​ได้​ไป​ลิมัสซอล. ใน​เวลา​เดียว​กัน บิลล์ คอปสัน​ก็​ถูก​ย้าย​ไป​ไซปรัส และ​เบิร์ต​กับ​เบรีล ไวเซย์​ตาม​ไป​สมทบ​ภาย​หลัง.

ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​สถานการณ์​ที่​เปลี่ยน​ไป

ปลาย​ปี 1957 ผม​ล้ม​ป่วย​และ​ไม่​สามารถ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​มอบหมาย​ฐานะ​มิชชันนารี​ได้​อีก​ต่อ​ไป. เพื่อ​การ​พักฟื้น​คืน​สู่​สุขภาพ​ดี​ดัง​เดิม ผม​ตัดสิน​ใจ​ด้วย​ความ​เสียดาย​ว่า​ควร​กลับ​ประเทศ​อังกฤษ และ​ผม​ได้​ทำ​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​ที่​นั่น​กระทั่ง​ปี 1960. พี่​สาว​กับ​สามี​ของ​เธอ​มี​น้ำใจ​กรุณา​ต้อนรับ​ผม​ให้​พัก​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​เขา ทว่า​สภาพการณ์​หลาย​อย่าง​เปลี่ยน​ไป. โจน​ประสบ​ความ​ลำบาก​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ. นอก​จาก​ดู​แล​สามี​และ​ลูก​สาว​วัยรุ่น​แล้ว ระยะ​เวลา 17 ปี​ที่​ผม​จาก​บ้าน​ไป​อยู่​ที่​อื่น เธอ​ได้​เอา​ใจ​ใส่​เลี้ยง​ดู​พ่อ​และ​น้า​มิลลี​ด้วย​ความ​ผูก​พัน​รักใคร่ ซึ่ง​มา​บัด​นี้​คน​ทั้ง​สอง​อายุ​มาก​แล้ว​และ​สุขภาพ​ไม่​สู้​ดี​นัก. เห็น​ได้​ชัด​ว่า ผม​จำเป็น​ต้อง​ปฏิบัติ​ตาม​แบบ​อย่าง​การ​เสีย​สละ​ของ​น้า ดัง​นั้น ผม​ตก​ลง​ใจ​พัก​อยู่​กับ​พี่​สาว จน​กระทั่ง​น้า​และ​พ่อ​ของ​ผม​สิ้น​ชีวิต.

มัน​คง​จะ​ง่าย​ดี​หาก​ปัก​หลัก​อยู่​ใน​ประเทศ​อังกฤษ แต่​ภาย​หลัง​การ​พักผ่อน​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง ผม​สำนึก​ถึง​พันธะ​หน้า​ที่​ที่​จะ​ต้อง​กลับ​ไป​ยัง​เขต​งาน​มอบหมาย. ที่​สำคัญ องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​จ่าย​เงิน​ไม่​ใช่​น้อย​ให้​ผม​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​มิ​ใช่​หรือ? ดัง​นั้น ใน​ปี 1972 ผม​จึง​ใช้​เงิน​ส่วน​ตัว​เป็น​ค่า​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​ทำ​งาน​ไพโอเนียร์​ที่​ไซปรัส​อีก.

นาทาน เอช. นอรร์​ได้​เดิน​ทาง​มา​เพื่อ​จัด​การ​ประชุม​ใหญ่​ซึ่ง​จะ​มี​ใน​ปี​ถัด​ไป. เมื่อ​ทราบ​เรื่อง​ที่​ผม​ได้​กลับ​ไป​เขต​งาน​อีก ท่าน​จึง​เสนอ​แต่ง​ตั้ง​ผม​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด​เยี่ยม​ทั่ว​ทั้ง​เกาะ ซึ่ง​ผม​มี​สิทธิ​พิเศษ​ล้ำ​ค่า​นี้​นาน​ถึง​สี่​ปี. อย่าง​ไร​ก็​ตาม งาน​มอบหมาย​นี้​ทำ​เอา​ผม​หวาด​หวั่น​ไม่​ใช่​น้อย เพราะ​มัน​หมาย​ถึง​การ​พูด​ภาษา​กรีก​แทบ​ตลอด​เวลา​ที​เดียว.

ยาม​ยาก​ลำบาก

ผม​พัก​อยู่​กับ​พอล อันเดรอู ซึ่ง​เป็น​พยาน​ฯ ชาว​ไซปรัส​พูด​ภาษา​กรีก​ที่​หมู่​บ้าน​คาราคูมิ​ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​เมือง​คิรีเนีย บน​ชายฝั่ง​ทาง​เหนือ​ของ​เกาะ​ไซปรัส. ส่วน​สำนักงาน​สาขา​ไซปรัส​อยู่​ใน​เมือง​นิโคเซีย ทาง​ทิศ​ใต้​ของ​เทือก​เขา​คิรีเนีย. ต้น​เดือน​กรกฎาคม 1974 ผม​อยู่​ที่​นิโคเซีย​ขณะ​เกิด​รัฐประหาร​ขับ​ไล่​ประธานาธิบดี​มาคารีออส และ​ผม​ได้​เห็น​การ​จุด​ไฟ​เผา​ทำลาย​ทำเนียบ​ประธานาธิบดี. เมื่อ​เห็น​ว่า​การ​เดิน​ทาง​คง​จะ​ปลอด​ภัย ผม​รีบ​กลับ​ไป​ยัง​คิรีเนีย​ทันที ซึ่ง​เรา​อยู่​ใน​ระหว่าง​เตรียม​การ​ประชุม​หมวด. ถัด​มา​อีก​สอง​วัน​ผม​ได้​ยิน​เสียง​ระเบิด​ลูก​แรก​บน​ท่า​เรือ และ​มอง​เห็น​เฮลิคอปเตอร์​ที่​นำ​ผู้​รุกราน​จาก​ตุรกี​บิน​ว่อน​เหนือ​น่าน​ฟ้า.

เนื่อง​จาก​ผม​ถือ​สัญชาติ​อังกฤษ ทหาร​ตุรกี​จึง​พา​ผม​ออก​ไป​ถึง​ชาน​เมือง​นิโคเซีย ณ ที่​นั่น​เจ้าหน้าที่​สหประชาชาติ​ซึ่ง​ได้​ติด​ต่อ​กับ​สำนักงาน​สาขา​ดำเนิน​การ​ไต่สวน​ผม. แล้ว​ผม​ก็​ได้​เผชิญ​ความ​ลำบาก​ที่​น่า​หวั่น​หวาด​เมื่อ​ต้อง​เดิน​มุด​สาย​โทรศัพท์​และ​สาย​ไฟ​ระโยง​ระยาง​ไป​ยัง​บ้าน​เรือน​ที่​ร้าง​ผู้​คน​ซึ่ง​อยู่​อีก​ฟาก​หนึ่ง​ของ​เขต​กัน​ชน​ระหว่าง​สอง​ฝ่าย. ผม​ดีใจ​เหลือ​หลาย​ที่​การ​สื่อ​ความ​ระหว่าง​ผม​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ไม่​ได้​ถูก​รบกวน! การ​อธิษฐาน​ช่วย​ค้ำจุน​ผม​จน​ผ่าน​ประสบการณ์​ที่​ยาก​ลำบาก​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​มา​ได้.

ข้าวของ​ต่าง ๆ ของ​ผม​ไม่​เหลือ​สัก​ชิ้น แต่​ผม​ดีใจ​ที่​มี​ความ​ปลอด​ภัย ณ สำนักงาน​สาขา. แต่​สภาพ​ดัง​กล่าว​เป็น​เพียง​ระยะ​สั้น ๆ. ชั่ว​เวลา​ไม่​กี่​วัน กอง​กำลัง​ที่​รุกราน​ก็​ยึด​พื้น​ที่​ทาง​เหนือ​ของ​เกาะ​ได้​ถึง​หนึ่ง​ใน​สาม. เบเธล​จึง​ถูก​ปล่อย​ทิ้ง​ไว้ แล้ว​พวก​เรา​ก็​ย้าย​ไป​ยัง​ลิมัสซอล. ผม​ยินดี​ที่​สามารถ​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​คณะ​กรรมการ​ที่​ตั้ง​ขึ้น​มา​เพื่อ​ดู​แล​พี่​น้อง 300 คน​ซึ่ง​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​ความ​โกลาหล​วุ่นวาย หลาย​คน​สูญ​เสีย​บ้าน​เรือน​ของ​ตน.

การ​เปลี่ยน​แปลง​งาน​มอบหมาย​อื่น ๆ อีก

เดือน​มกราคม 1981 คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ขอ​ให้​ผม​ย้าย​ไป​ประเทศ​กรีซ เพื่อ​สมทบ​ครอบครัว​เบเธล​ใน​กรุง​เอเธนส์ แต่​พอ​สิ้น​ปี ผม​กลับ​ไป​ไซปรัส​อีก​และ​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ประสาน​งาน​คณะ​กรรมการ​สาขา. แอนเดรียส์ คอนโดโยร์กีส​พร้อม​กับ​ภรรยา​ชื่อ​มา​โร ทั้ง​สอง​เป็น​ชาว​ไซปรัส​ซึ่ง​ถูก​ส่ง​มา​จาก​ลอนดอน ได้​พิสูจน์​ให้​เห็น​ว่า​เขา “เป็น​ผู้​ช่วย​เสริม​กำลัง” จริง ๆ.—โกโลซาย 4:11, ล.ม.

ใน​ตอน​ท้าย​ของ​การ​เยี่ยม​ของ​ทีโอดอร์ จารัซ​ผู้​ดู​แล​โซน​ใน​ปี 1984 ผม​ได้​รับ​จดหมาย​จาก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ซึ่ง​เพียง​แต่​บอก​ว่า “เมื่อ​ผู้​ดู​แล​โซน​เยี่ยม​เสร็จ​แล้ว เรา​ต้องการ​ให้​คุณ​เดิน​ทาง​ไป​กรีซ​กับ​บราเดอร์​จารัซ.” ไม่​มี​การ​ให้​เหตุ​ผล​ใด ๆ แต่​เมื่อ​เรา​ไป​ถึง​กรีซ มี​จดหมาย​อีก​ฉบับ​หนึ่ง​จาก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ถึง​คณะ​กรรมการ​สาขา ซึ่ง​แจ้ง​เรื่อง​การ​แต่ง​ตั้ง​ผม​เป็น​ผู้​ประสาน​งาน​คณะ​กรรมการ​สาขา​ใน​ประเทศ​นั้น.

ตอน​นั้น พวก​เรา​ใน​กรีซ​เผชิญ​การ​เริ่ม​ปะทุ​ของ​พวก​ออก​หาก. นอก​จาก​นั้น มี​ข้อ​กล่าวหา​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​การ​ชักชวน​คน​ให้​เปลี่ยน​ศาสนา​ซึ่ง​ถือ​ว่า​เป็น​การ​ผิด​กฎหมาย. ไพร่​พล​ของ​พระ​ยะโฮวา​ถูก​จับ​กุม และ​ถูก​นำ​ตัว​ขึ้น​ศาล​ทุก​วัน. นับ​เป็น​โอกาส​เหมาะ​ที่​ได้​มา​รู้​จัก​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ซึ่ง​ยืนหยัดรักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ภาย​ใต้​การ​ทดสอบ! การ​สู้​คดี​บาง​ราย พวก​เขา​ต้อง​ขึ้น​ศาล​สิทธิ​มนุษยชน​แห่ง​ยุโรป และ​ผล​ที่​ตาม​มา​น่า​ทึ่ง​มาก ส่ง​ผล​ดี​ต่อ​งาน​เผยแพร่​ใน​ประเทศ​กรีซ. *

ระหว่าง​ปฏิบัติ​งาน​ใน​ประเทศ​กรีซ ผม​สามารถ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​น่า​จด​จำ​รำลึก​ทั้ง​ใน​กรุง​เอเธนส์, ที่​เมือง​เทสซาโลนีกา, ที่​เกาะ​โรดส์​และ​เกาะ​ครีต. ผม​ประสบ​ความ​สุข​ตลอด​สี่​ปี และ​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​บังเกิด​ผล​อุดม แต่​ทว่า​จวน​จะ​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​อีก​ครั้ง​หนึ่ง นั่น​คือ​การ​กลับ​สู่​ไซปรัส​ใน​ปี 1988.

ไซปรัส​และ​กลับ​ไป​ประเทศ​กรีซ​อีก

ระหว่าง​ที่​ผม​ไม่​ได้​อยู่​ใน​ไซปรัส พวก​พี่​น้อง​ได้​อาคาร​สาขา​แห่ง​ใหม่​ใน​เมือง​นีซู ห่าง​จาก​นิโคเซีย​เพียง​ไม่​กี่​กิโลเมตร และ​แครีย์ บาร์เบอร์​จาก​สำนักงาน​กลาง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​บรุกลิน​เป็น​ผู้​บรรยาย​การ​อุทิศ. สถานการณ์​บน​เกาะ​ใน​เวลา​นั้น​ค่อนข้าง​สงบ และ​ผม​ดีใจ​ที่​ได้​กลับ​มา​ที่​เดิม อย่าง​ไร​ก็​ตาม สภาพการณ์​สงบ​อยู่​ได้​ไม่​นาน.

คณะ​กรรมการ​ปกครอง​เห็น​ชอบ​กับ​โครงการ​สร้าง​เบเธล​ใหม่​ใน​ประเทศ​กรีซ ห่าง​จาก​กรุง​เอเธนส์​ไป​ทาง​เหนือ​เพียง​ไม่​กี่​กิโลเมตร. เนื่อง​จาก​ผม​พูด​ได้​ทั้ง​ภาษา​อังกฤษ​และ​กรีก ใน​ปี 1990 ผม​ได้​รับ​เชิญ​ให้​กลับ​ไป​ทำ​งาน​ใน​โครงการ​ก่อ​สร้าง​อาคาร​หลัง​ใหม่​ฐานะ​ล่าม​ให้​แก่​ครอบครัว​ผู้​รับใช้​นานา​ชาติ​ซึ่ง​มา​ทำ​งาน​ที่​นั่น. ผม​ยัง​จำ​ความ​ชื่นชม​ยินดี​ขณะ​อยู่ ณ สถาน​ก่อ​สร้าง​ตอน​หก​โมง​เช้า​ช่วง​หน้า​ร้อน เมื่อ​กล่าว​ต้อนรับ​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ชาว​กรีก​หลาย​ร้อย​คน​ที่​อาสา​เข้า​มา​ทำ​งาน​กับ​ครอบครัว​ก่อ​สร้าง! ความ​เบิกบาน​ยินดี​และ​ความ​กระตือรือร้น​ของ​อาสา​สมัคร​เหล่า​นี้​จะ​ติด​ตรึง​ใจ​ผม​ตลอด​ไป.

บาทหลวง​นิกาย​กรีก​ออร์โทด็อกซ์​และ​พรรค​พวก​ที่​สนับสนุน​พยายาม​บุกรุก​เข้า​มา​ใน​บริเวณ​ก่อ​สร้าง​และ​ขัด​ขวาง​การ​งาน​ของ​เรา แต่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​สดับ​คำ​อธิษฐาน​ของ​พวก​เรา​และ​ให้​การ​ปก​ป้อง​คุ้มครอง. ผม​อยู่​ทำ​งาน​ที่​โครงการ​ก่อ​สร้าง​จน​กระทั่ง​ได้​เห็น​การ​อุทิศ​บ้าน​เบเธล​แห่ง​ใหม่​เมื่อ​วัน​ที่ 13 เมษายน 1991.

ให้​การ​อุดหนุน​เกื้อกูล​พี่​สาว​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ของ​ผม

ปี​ถัด​มา ผม​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​พัก​ร้อน​ที่​ประเทศ​อังกฤษ อาศัย​อยู่​กับ​พี่​สาว​และ​สามี​ของ​เธอ. น่า​เศร้า ช่วง​ที่​ผม​อยู่​ที่​นั่น พี่​เขย​ผม​เกิด​อาการ​หัวใจ​ขาด​เลือด​เฉียบ​พลัน​สอง​ครั้ง​และ​เสีย​ชีวิต​ใน​ที่​สุด. โจน​เคย​เอื้อเฟื้อ​เกื้อ​หนุน​ผม​ตลอด​สมัย​ที่​ผม​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี. เธอ​เขียน​จดหมาย​ให้​กำลังใจ​ผม​แทบ​ทุก​สัปดาห์​ที​เดียว. การ​ติด​ต่อ​ด้วย​วิธี​ดัง​กล่าว​เป็น​พระ​พร​เสีย​จริง ๆ สำหรับ​มิชชันนารี​ไม่​ว่า​ใคร​ก็​ตาม! มา​บัด​นี้ เธอ​เป็น​ม่าย แถม​สุขภาพ​ไม่​แข็งแรง​และ​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ. ผม​จะ​ทำ​อย่าง​ไร?

ลูก​สาว​ของ​โจน​คือ​เทลมา และ​สามี​ของ​เธอ​ให้​การ​ช่วยเหลือ​ดู​แล​หญิง​ม่าย​คน​หนึ่ง​ที่​ซื่อ​สัตย์​ใน​ประชาคม​ซึ่ง​ป่วย​หนัก นับ​ญาติ​เธอ​ก็​เป็น​ลูก​พี่​ลูก​น้อง​กับ​ผม. หลัง​จาก​เพียร​อธิษฐาน​มาก​มาย ผม​จึง​ตัดสิน​ใจ​จะ​อยู่​ช่วย​ดู​แล​โจน. การ​ปรับ​เปลี่ยน​ครั้ง​นี้​ไม่​ง่าย แต่​ผม​ก็​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ให้​รับใช้​ฐานะ​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​เพนมิลล์ หนึ่ง​ใน​สอง​ประชาคม​ที่​เมือง​โยวิล.

พวก​พี่​น้อง​ใน​ต่าง​ประเทศ​ที่​เคย​รับใช้​ด้วย​กัน​มัก​ติด​ต่อ​ผม​เป็น​ประจำ​ทั้ง​ทาง​โทรศัพท์​และ​ทาง​จดหมาย และ​เรื่อง​นั้น​ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​เป็น​อย่าง​มาก. เมื่อ​ใด​ที่​ผม​ปรารถนา​จะ​กลับ​ไป​ประเทศ​กรีซ​หรือ​ไซปรัส ผม​รู้​ว่า​พวก​พี่​น้อง​จะ​ส่ง​ตั๋ว​เดิน​ทาง​ให้​ผม​ทันที. แต่​อายุ​ผม​ปา​เข้า​ไป​ตั้ง 80 ปี​แล้ว และ​สายตา​หรือ​สุขภาพ​ร่าง​กาย​ของ​ผม​ก็​ไม่​เหมือน​เดิม. ผม​รู้สึก​คับข้อง​ใจ​ไม่​น้อย​ที่​ไม่​กระฉับกระเฉง​อย่าง​แต่​ก่อน แต่​ชีวิต​แบบ​ที่​เคย​อยู่​ใน​เบเธล​หลาย​ปี​ช่วย​ผม​พัฒนา​นิสัย​หลาย​อย่าง​ซึ่ง​เป็น​ประโยชน์​แก่​ตัว​เอง​เวลา​นี้. ตัว​อย่าง​เช่น ผม​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​ประจำ​วัน​ก่อน​อาหาร​เช้า​เสมอ. อนึ่ง ผม​เรียน​รู้​ที่​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​ร่วม​กับ​ผู้​อื่น​และ​รัก​เขา ซึ่ง​เป็น​เคล็ด​สู่​ความ​สำเร็จ​สำหรับ​งาน​มิชชันนารี.

เมื่อ​มอง​ย้อน​หลัง​ไป 60 กว่า​ปี​อัน​แสน​วิเศษ​ซึ่ง​ผม​ได้​ใช้​เวลา​ช่วง​นั้น​เพื่อ​การ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา ผม​รู้​ว่า​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​เป็น​สิ่ง​ปก​ป้อง​ที่​ดี​ที่​สุด ทั้ง​ได้​เปิด​ช่อง​ทาง​การ​ศึกษา​ที่​ดี​เลิศ. ผม​สามารถ​สะท้อน​อย่าง​สุด​หัวใจ​ด้วย​ถ้อย​คำ​ที่​ดาวิด​ทูล​พระ​ยะโฮวา​ที่​ว่า “พระองค์​เป็น​ป้อม​อัน​สูง​ของ​ข้าพเจ้า, เป็น​ที่​พึ่ง​พำนัก​ใน​เวลา​ทุกข์​ยาก​ของ​ข้าพเจ้า.”—บทเพลง​สรรเสริญ 59:16.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 18 เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง​ของ​จอห์น วีนน์ “หัวใจ​ของ​ผม​เปี่ยม​ล้น​ด้วย​ความ​รู้สึก​ขอบคุณ” มี​ปรากฏ​ใน​หอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 กันยายน 1997 หน้า 25-28.

^ วรรค 23 เมื่อ​ก่อน​รู้​จัก​กัน​ด้วย​ชื่อ​คอนโซเลชัน.

^ วรรค 41 โปรด​ดู หอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 ธันวาคม 1998 หน้า 20-21, และ 1 กันยายน 1993 หน้า 27-31; ตื่นเถิด! (ภาษา​อังกฤษ) 8 มกราคม 1998 หน้า 21-22, และ 22 มีนาคม 1997 หน้า 14-15.

[แผนที่​หน้า 24]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

กรีซ

เอเธนส์

ไซปรัส

นิโคเซีย

คิรีเนีย

ฟามากุสทา

ลิมัสซอล

[ภาพ​หน้า 21]

คุณ​แม่ ปี 1915

[ภาพ​หน้า 22]

ปี 1946 ณ ดาดฟ้า​หลังคา​เบเธล​บรุกลิน ผู้​เล่า (คน​ที่​สี่​นับ​จาก​ซ้าย) พร้อม​กับ​พี่​น้อง​คน​อื่น ๆ ที่​สำเร็จ​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่​แปด

[ภาพ​หน้า 23]

กับ​น้า​มิลลี​หลัง​จาก​กลับ​ไป​ประเทศ​อังกฤษ​ครั้ง​แรก