ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การตรวจดูความเชื่อบางอย่างเกี่ยวกับความตาย

การตรวจดูความเชื่อบางอย่างเกี่ยวกับความตาย

การ​ตรวจ​ดู​ความ​เชื่อ​บาง​อย่าง​เกี่ยว​กับ​ความ​ตาย

ตลอด​ประวัติศาสตร์ มนุษย์​ได้​แต่​งุนงง​และ​หวาด​หวั่น​กับ​ความ​คาด​หวัง​อัน​มืดมน​แห่ง​ความ​ตาย. ยิ่ง​กว่า​นั้น การ​กลัว​ความ​ตาย​ยัง​ได้​แรง​เสริม​จาก​การ​ผสมผเส​ของ​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​ที่​ผิด ๆ, ธรรมเนียม​ประเพณี​อัน​เป็น​ที่​นิยม, และ​ความ​เชื่อ​ส่วน​บุคคล​ที่​ฝัง​ราก​ลึก. สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​การ​กลัว​ความ​ตาย​เป็น​ปัญหา​คือ มัน​ทำ​ให้​คน​เรา​ไม่​สามารถ​ชื่นชม​กับ​ชีวิต​ได้​อย่าง​เต็ม​ที่​และ​เซาะกร่อน​ความ​เชื่อ​มั่น​ของ​คน​เรา​ที่​ว่า​ชีวิต​นั้น​มี​ความ​หมาย.

ศาสนา​ที่​ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​นิยม​นับถือ​นั้น​สม​ควร​ถูก​ตำหนิ​เป็น​พิเศษ​เนื่อง​จาก​ได้​ส่ง​เสริม​ความ​เชื่อ​ที่​ผิด ๆ หลาย​อย่าง​เกี่ยว​กับ​ความ​ตาย​ซึ่ง​เป็น​ที่​ยอม​รับ​กัน​อย่าง​กว้างขวาง. โดย​ตรวจ​สอบ​ความ​เชื่อ​เหล่า​นี้​บาง​อย่าง​โดย​อาศัย​ความ​จริง​แห่ง​คัมภีร์​ไบเบิล จง​ดู​ว่า​สิ่ง​ที่​คุณ​เข้าใจ​เกี่ยว​กับ​ความ​ตาย​นั้น​จะ​กระจ่าง​ขึ้น​อย่าง​ไร.

ความ​เชื่อ​ที่ 1: ความ​ตาย​เป็น​จุด​จบ​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​ชีวิต.

หนังสือ​ความ​ตาย—การ​เติบโต​ขั้น​สุด​ท้าย (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “ความ​ตาย . . . เป็น​ส่วน​ซึ่ง​แยก​ไม่​ออก​จาก​ชีวิต​คน​เรา.” ความ​คิด​เห็น​ต่าง ๆ ทำนอง​นี้​สะท้อน​ความ​เชื่อ​ที่​ว่า​ความ​ตาย​เป็น​เรื่อง​ปกติ เป็น​จุด​จบ​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทุก​ชนิด. ผล​ที่​ตาม​มา​คือ ความ​เชื่อ​เช่น​นี้​ได้​บ่ม​เพาะ​หลัก​ปรัชญา​แนว​สุญ​นิยม​และ​พฤติกรรม​แบบ​ฉกฉวย​โอกาส​ใน​ตัว​ผู้​คน​จำนวน​มาก.

แต่​ความ​ตาย​เป็น​จุด​จบ​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​ชีวิต​จริง ๆ ไหม? ไม่​ใช่​นัก​ค้นคว้า​วิจัย​ทุก​คน​เชื่อ​เช่น​นั้น. ตัว​อย่าง​เช่น คาลวิน ฮาร์ลีย์ นัก​ชีววิทยา​ผู้​ซึ่ง​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​การ​แก่​ลง​ของ​มนุษย์ ได้​ให้​สัมภาษณ์​ครั้ง​หนึ่ง​ว่า​เขา​ไม่​เชื่อ​ว่า​มนุษย์ “ถูก​ออก​แบบ​ให้​ตาย.” นัก​วิทยา​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ชื่อ วิลเลียม คลาร์ก ได้​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “ความ​ตาย​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​แห่ง​คำ​นิยาม​ของ​ชีวิต.” และ​ซีย์โมร์ เบน​เซอร์ แห่ง​สถาบัน​เทคโนโลยี​แคลิฟอร์เนีย กล่าว​ไว้​อย่าง​น่า​คิด​ว่า “อาจ​อธิบาย​การ​แก่​ลง​ได้​ดี​กว่า​ว่า ไม่​ใช่​เหมือน​นาฬิกา แต่​เป็น​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​เรา​หวัง​ว่า​จะ​แก้ไข​ได้.”

เมื่อ​บรรดา​นัก​วิทยาศาสตร์​ศึกษา​วิธี​ที่​มนุษย์​ถูก​ออก​แบบ พวก​เขา​รู้สึก​พิศวง. พวก​เขา​พบ​ว่า​มนุษย์​เรา​มี​คุณสมบัติ​และ​ความ​สามารถ​อยู่​ใน​ตัว​มาก​เกิน​ความ​จำเป็น​สำหรับ​ช่วง​อายุ​ขัย 70 ถึง 80 ปี​ของ​คน​เรา. ยก​ตัว​อย่าง นัก​วิทยาศาสตร์​พบ​ว่า​สมอง​ของ​มนุษย์​มี​ขีด​ความ​สามารถ​ใน​การ​จำ​อย่าง​มาก​มาย. นัก​วิจัย​คน​หนึ่ง​กะ​ประมาณ​ว่า​สมอง​ของ​คน​เรา​สามารถ​เก็บ​ข้อมูล​ซึ่ง “จะ​เขียน​เป็น​หนังสือ​ได้​ประมาณ​ยี่​สิบ​ล้าน​เล่ม มาก​พอ ๆ กับ​จำนวน​หนังสือ​ใน​ห้อง​สมุด​ที่​ใหญ่​ที่​สุด​ใน​โลก.” นัก​ประสาท​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​เชื่อ​ว่า ใน​ระหว่าง​ช่วง​ชีวิต​โดย​เฉลี่ย คน​เรา​ใช้​เพียง 1 ใน 100 ของ​หนึ่ง​เปอร์เซ็นต์ (.0001) ของ​ความ​สามารถ​ทั้ง​หมด​ของ​สมอง. นับ​ว่า​เหมาะ​ที่​จะ​ถาม​ว่า ‘เหตุ​ใด​เรา​จึง​มี​สมอง​ที่​มี​ความ​สามารถ​มาก​เช่น​นี้​ใน​เมื่อ​เรา​ใช้​เพียง​เศษ​เสี้ยว​อัน​น้อย​นิด​ของ​มัน​เท่า​นั้น​ใน​ช่วง​ชีวิต​โดย​เฉลี่ย?’

ลอง​คิด​ดู​ด้วย​ว่า​มนุษย์​ตอบ​สนอง​อย่าง​ผิด​ธรรมดา​เพียง​ไร​ต่อ​ความ​ตาย! สำหรับ​คน​ส่วน​ใหญ่​แล้ว การ​ตาย​ของ​ภรรยา, สามี, หรือ​ลูก​อาจ​เป็น​ประสบการณ์​ซึ่ง​ปวด​ร้าว​ที่​สุด​ใน​ชีวิต. องค์​ประกอบ​ทาง​อารมณ์​ทั้ง​หมด​ของ​มนุษย์​มัก​ได้​รับ​ผลกระทบ​เป็น​ระยะ​เวลา​นาน​ภาย​หลัง​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​บุคคล​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ยิ่ง. แม้​แต่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อ้าง​ว่า​ความ​ตาย​เป็น​ธรรมชาติ​ของ​มนุษย์​ก็​พบ​ว่า​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​ยอม​รับ​ความ​คิด​ที่​ว่า ความ​ตาย​ของ​พวก​เขา​เอง​จะ​หมาย​ถึง​การ​จบ​สิ้น​ของ​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง. วารสาร​การ​แพทย์​แห่ง​บริเตน ได้​พูด​ถึง “สมมุติฐาน​โดย​ทั่ว​ไป​ของ​ผู้​เชี่ยวชาญ​ที่​ว่า คน​เรา​ทุก​คน​ต้องการ​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​นาน​ที่​สุด​เท่า​ที่​เป็น​ได้.”

เมื่อ​พิจารณา​ปฏิกิริยา​โดย​ทั่ว​ไป​ของ​มนุษย์​ที่​มี​ต่อ​ความ​ตาย, ศักยภาพ​อัน​น่า​ทึ่ง​ใน​เรื่อง​ความ​จำ​และ​การ​เรียน​รู้, และ​ความ​ปรารถนา​ภาย​ใน​ที่​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ชั่ว​กาล​นาน นี่​ไม่​ได้​แสดง​ชัด​หรอก​หรือ​ว่า คน​เรา​ถูก​สร้าง​ขึ้น​เพื่อ​ให้​มี​ชีวิต​อยู่? ที่​จริง พระเจ้า​ไม่​ได้​ทรง​สร้าง​มนุษย์​พร้อม​ด้วย​ความ​ตาย​เป็น​ผล​พวง​ตาม​ธรรมชาติ แต่​ทรง​สร้าง​พร้อม​ด้วย​ความ​คาด​หวัง​ที่​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​เรื่อย​ไป​ไม่​สิ้น​สุด. ขอ​ให้​สังเกต​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​วาง​ไว้​เป็น​อนาคต​สำหรับ​มนุษย์​คู่​แรก: “จง​บังเกิด​ทวี​มาก​ขึ้น​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน; จง​มี​อำนาจ​เหนือ​แผ่นดิน; จง​ครอบครอง​ฝูง​ปลา​ใน​ทะเล​และ​ฝูง​นก​ใน​อากาศ, กับ​บรรดา​สัตว์​ที่​มี​ชีวิต​ไหว​กาย​ได้​ซึ่ง​อยู่​บน​แผ่นดิน.” (เยเนซิศ 1:28) ช่าง​เป็น​อนาคต​ที่​ถาวร​และ​ยอด​เยี่ยม​อะไร​เช่น​นั้น!

ความ​เชื่อ​ที่ 2: พระเจ้า​ทรง​รับ​คน​ตาย​ไป​อยู่​กับ​พระองค์.

มารดา​วัย 27 ปี​ซึ่ง​กำลัง​จะ​ตาย​และ​ทิ้ง​บุตร​สาม​คน​ไว้​เบื้อง​หลัง​บอก​กับ​แม่ชี​คาทอลิก​ว่า “อย่า​เข้า​มา​แล้ว​ก็​บอก​ฉัน​ว่า​นี่​เป็น​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​ฉัน​นะ . . . . ฉัน​อารมณ์​เสีย​ทุก​ที​ที่​มี​คน​บอก​อย่าง​นั้น.” แต่​นั่น​เป็น​สิ่ง​ที่​หลาย​ศาสนา​สอน​เกี่ยว​กับ​ความ​ตาย กล่าว​คือ โดย​ความ​ตาย พระเจ้า​ทรง​รับ​ผู้​คน​ให้​ไป​อยู่​ใกล้​พระองค์.

พระ​ผู้​สร้าง​ทรง​โหด​ร้าย​เหลือ​เกิน​จน​ถึง​กับ​จะ​ทำ​ให้​มนุษย์​ตาย​โดย​ปราศจาก​ความ​ปรานี​จริง ๆ หรือ ทั้ง​ที่​ทรง​ทราบ​อยู่​ว่า​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ก่อ​ความ​ปวด​ร้าว​ใจ​ให้​เรา? เปล่า​เลย พระเจ้า​แห่ง​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​เป็น​เช่น​นั้น​แน่. ตาม 1 โยฮัน 4:8 นั้น “พระเจ้า​ทรง​เป็น​ความ​รัก.” สังเกต​ว่า​ข้อ​นี้​ไม่​ได้​กล่าว​ว่า​พระเจ้า​ทรง​มี ความ​รัก​หรือ​พระเจ้า​ทรง​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก แต่​กล่าว​ว่า พระเจ้า​ทรง​เป็น ความ​รัก. ความ​รัก​ของ​พระเจ้า​ลึกซึ้ง, บริสุทธิ์, และ​สมบูรณ์​แบบ​อย่าง​ยิ่ง ความ​รัก​ซึมซาบ​อย่าง​ทั่ว​ถึง​ใน​บุคลิกภาพ​และ​การ​กระทำ​ของ​พระองค์ จน​อาจ​กล่าว​ถึง​พระองค์​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง​ว่า​ทรง​เป็น​แบบ​ฉบับ​แห่ง​ความ​รัก. นี่​ไม่​ใช่​พระเจ้า​ที่​รับ​ผู้​คน​ไป​อยู่​ใกล้​พระองค์​โดย​ความ​ตาย.

ศาสนา​เท็จ​ได้​ทิ้ง​ให้​ผู้​คน​มาก​มาย​รู้สึก​สับสน​เกี่ยว​ด้วย​สถาน​ที่​อยู่​และ​สภาพ​ของ​คน​ตาย. สรวง​สวรรค์, นรก, ไฟ​ชำระ, ลิมโบ (ชายแดน​นรก) สถาน​ที่​เหล่า​นี้​และ​ที่​หมาย​อื่น ๆ ตั้ง​แต่​ที่​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ที่​เข้าใจ​ได้​ไป​จน​ถึง​สถาน​ที่​ที่​น่า​สะพรึงกลัว​อย่าง​ที่​สุด. ตรง​กัน​ข้าม คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ว่า คน​ตาย​ไม่​มี​ความ​รู้สึก​อะไร พวก​เขา​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​คล้ายคลึง​อย่าง​มาก​กับ​คน​ที่​นอน​หลับ​อยู่. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5, 10; โยฮัน 11:11-14) ดัง​นั้น เรา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​กังวล​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​จะ​เกิด​ขึ้น​กับ​เรา​หลัง​จาก​ตาย เช่น​เดียว​กับ​ที่​เรา​ไม่​รู้สึก​กังวล​เมื่อ​เห็น​ใคร​คน​หนึ่ง​กำลัง​นอน​หลับ​สนิท. พระ​เยซู​ทรง​กล่าว​ถึง​เวลา​หนึ่ง​เมื่อ “บรรดา​ผู้​ซึ่ง​อยู่​ใน​อุโมงค์​รำลึก” จะ “ออก​มา” สู่​ชีวิต​ใหม่​บน​แผ่นดิน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน.—โยฮัน 5:28, 29, ล.ม.; ลูกา 23:43.

ความ​เชื่อ​ที่ 3: พระเจ้า​ทรง​รับ​เด็ก​เล็ก ๆ ไป​เป็น​ทูตสวรรค์.

เอลิซาเบท คูบเลอร์-รอสส์ ผู้​ได้​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​บุคคล​ที่​เจ็บ​ป่วย​จน​เสีย​ชีวิต ได้​กล่าว​พาด​พิง​ถึง​แนว​ความ​คิด​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​เชื่อ​กัน​โดย​ทั่ว​ไป​ใน​หมู่​ผู้​ที่​เคร่ง​ศาสนา. โดย​พรรณนา​ถึง​เหตุ​การณ์​จริง​ที่​เกิด​ขึ้น เธอ​กล่าว​ว่า เป็น​เรื่อง “ไม่​ฉลาด​ที่​จะ​บอก​เด็ก​น้อย​ซึ่ง​สูญ​เสีย​น้อง​ชาย​ของ​เธอ​ว่า​พระเจ้า​ทรง​รัก​เด็ก​ผู้​ชาย​มาก​จึง​ทรง​รับ​น้อง​จอห์นนี​ไป​สวรรค์.” คำ​พูด​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​พระเจ้า​ถูก​มอง​ใน​แง่​ลบ​และ​ไม่​ได้​สะท้อน​ถึง​คุณลักษณะ​ของ​พระองค์​และ​วิธี​ที่​พระองค์​ประพฤติ​ปฏิบัติ. แพทย์​หญิง​คูบเลอร์-รอสส์​กล่าว​ต่อ​ว่า “เมื่อ​เด็ก​หญิง​ตัว​น้อย​นั้น​โต​ขึ้น​เป็น​หญิง​สาว​เธอ​ไม่​เคย​หาย​โกรธ​พระเจ้า และ​ผล​คือ​เธอ​เป็น​โรค​จิต​ซึมเศร้า​เมื่อ​เธอ​ต้อง​สูญ​เสีย​ลูก​ชาย​ตัว​น้อย​ใน​อีก​สาม​สิบ​ปี​ต่อ​มา.”

เหตุ​ใด​พระเจ้า​จึง​ทรง​เอา​ตัว​เด็ก​ไป​เพื่อ​จะ​ทรง​มี​ทูตสวรรค์​อีก​องค์​หนึ่ง ราว​กับ​ว่า​พระองค์​ทรง​ประสงค์​ใน​ตัว​เด็ก​คน​นั้น​ยิ่ง​กว่า​ที่​ผู้​เป็น​บิดา​มารดา​ของ​เด็ก​ต้องการ? หาก​เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า​พระเจ้า​ทรง​รับ​เด็ก ๆ ไป การ​ทำ​เช่น​นั้น​จะ​ไม่​ทำ​ให้​พระองค์​กลาย​เป็น​พระ​ผู้​สร้าง​ที่​ไร้​ซึ่ง​ความ​รัก​และ​เห็น​แก่​ตัว​หรอก​หรือ? ตรง​กัน​ข้าม​กับ​ความ​คิด​เช่น​นั้น คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ความ​รัก​มา​จาก​พระเจ้า.” (1 โยฮัน 4:7, ฉบับ​แปล​ใหม่) พระเจ้า​แห่ง​ความ​รัก​จะ​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​ความ​สูญ​เสีย​ซึ่ง​แม้​แต่​มนุษย์​ที่​มี​ศีลธรรม​ใน​ระดับ​หนึ่ง​ก็​ยัง​ไม่​อาจ​ยอม​รับ​ได้​อย่าง​นั้น​ไหม?

ถ้า​เช่น​นั้น ทำไม​เด็ก ๆ จึง​ตาย? ส่วน​หนึ่ง​ของ​คำ​ตอบ​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​บันทึก​ไว้​ที่​ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:11 (ล.ม.) ดัง​นี้: “วาระ​และ​เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​ได้​คาด​ล่วง​หน้า​ย่อม​บังเกิด​แก่​เขา​ทุก​คน.” และ​บทเพลง​สรรเสริญ 51:5 บอก​เรา​ว่า​เรา​ทุก​คน​เป็น​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​และ​ผิด​บาป​นับ​ตั้ง​แต่​เรา​ปฏิสนธิ และ​ผล​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​มนุษย์​ทุก​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ก็​คือ​ความ​ตาย​ซึ่ง​เกิด​จาก​หลาย​สาเหตุ. บาง​ครั้ง​ความ​ตาย​จู่​โจม​ตั้ง​แต่​ก่อน​ที่​คน​เรา​จะ​เกิด ผล​คือ​การ​แท้ง. ใน​กรณี​อื่น ๆ เด็ก ๆ เสีย​ชีวิต​เนื่อง​จาก​สภาพการณ์​ต่าง ๆ อัน​เลว​ร้าย​หรือ​มิ​ฉะนั้น​ก็​ประสบ​อุบัติเหตุ​ถึง​แก่​ชีวิต. ไม่​อาจ​จะ​โทษ​พระเจ้า​ได้​สำหรับ​เหตุ​การณ์​เช่น​นั้น.

ความ​เชื่อ​ที่ 4: บาง​คน​ถูก​ทรมาน​หลัง​จาก​ตาย.

หลาย​ศาสนา​สอน​ว่า​คน​ชั่ว​จะ​ไป​ยัง​ไฟ​นรก​และ​จะ​ถูก​ทรมาน​อยู่​ที่​นั่น​ตลอด​กาล. คำ​สอน​เช่น​นั้น​มี​เหตุ​ผล​และ​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​ไหม? ช่วง​ชีวิต​ของ​มนุษย์​จำกัด​อยู่​เพียง 70 หรือ 80 ปี. แม้​ว่า​บาง​คน​จะ​มี​ความ​ผิด​เนื่อง​จาก​ความ​ชั่ว​อย่าง​สาหัส​สากรรจ์​ซึ่ง​เขา​ได้​ทำ​มา​ตลอด​ชีวิต​ก็​ตาม แต่​การ​ทรมาน​ชั่วกัปชั่วกัลป์ จะ​เป็น​การ​ลง​โทษ​ที่​ยุติธรรม​ไหม? ไม่​เลย. คง​จะ​เป็น​ความ​อยุติธรรม​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​ทรมาน​มนุษย์​ผู้​หนึ่ง​ตลอด​กาล เพราะ​ความ​บาป​ทั้ง​หลาย​ที่​เขา​ได้​กระทำ​ใน​ช่วง​ชีวิต​สั้น ๆ.

มี​เพียง​พระเจ้า​เท่า​นั้น​ที่​สามารถ​เปิด​เผย​ถึง​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​หลัง​จาก​คน​เรา​ตาย และ​พระองค์​ทรง​ทำ​เช่น​นั้น​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระองค์​ที่​จารึก​ไว้. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ไว้​ดัง​นี้: “[สัตว์] ตาย​ฉัน​ใด [มนุษย์] ก็​ตาย​ฉัน​นั้น; และ​ทั้ง​หมด​มี​วิญญาณ​อย่าง​เดียว​กัน . . . ทั้ง​หมด​ล้วน​ไป​ยัง​ที่​เดียว​กัน. ทั้ง​หมด​ล้วน​มา​จาก​ผงคลี และ​ทั้ง​หมด​กลับ​เป็น​ผงคลี.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:19, 20, ล.ม.) ไม่​มี​การ​กล่าว​ถึง​ไฟ​นรก​ใน​ข้อ​นี้. เมื่อ​มนุษย์​ตาย เขา​กลับ​ไป​เป็น​ผงคลี ไม่​ดำรง​อยู่​อีก​ต่อ​ไป.

เพื่อ​จะ​ถูก​ทรมาน​ได้ คน​เรา​ต้อง​มี​สติ​รู้สึก​ตัว​อยู่. คน​ตาย​แล้ว​รู้สึก​ตัว​ไหม? อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​คำ​ตอบ: “คน​เป็น​ย่อม​รู้​ว่า​เขา​เอง​คง​จะ​ตาย, แต่​คน​ตาย​แล้ว​ก็​ไม่​รู้ [“ไม่​รับ​รู้,” ล.ม.] อะไร​เลย, หรือ​เขา​หา​ได้​รับ​รางวัล​อีก​ไม่​เลย; ด้วย​ว่า​ใคร ๆ ก็​พา​กัน​ลืม​เขา​เสีย​หมด​แล้ว.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5) เป็น​ไป​ไม่​ได้​สำหรับ​คน​ตาย ซึ่ง “ไม่​รับ​รู้​อะไร​เลย” จะ​ประสบ​ความ​ทุกข์​ทรมาน​ไม่​ว่า ณ ที่​แห่ง​ใด​ก็​ตาม.

ความ​เชื่อ​ที่ 5: ความ​ตาย​หมาย​ถึง​การ​สิ้น​สุด​แห่ง​การ​ดำรง​อยู่​ของ​เรา​อย่าง​ถาวร.

เรา​ไม่​ดำรง​อยู่​อีก​ต่อ​ไป​เมื่อ​เรา​ตาย แต่​นั่น​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ต้อง​จบ​สิ้น​เสมอ​ไป. ชาย​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ชื่อ​โยบ​ทราบ​ว่า​ท่าน​จะ​ต้อง​ไป​ยัง​หลุม​ฝัง​ศพ เชโอล เมื่อ​ท่าน​ตาย. แต่​จง​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ของ​ท่าน​ถึง​พระเจ้า: “โอ้​หาก​ว่า​พระองค์​จะ​ทรง​ซ่อน​ข้า​ฯ ไว้​ใน​หลุม​ฝัง​ศพ, จะ​ทรง​เก็บ​ข้า​ฯ ไว้ใน​ที่​เร้น​ลับ​จน​กว่า​พระ​พิโรธ​ของ​พระองค์​จะ​หมด​สิ้น​ไป, โดย​มี​เวลา​ที่​ทรง​กำหนด​ไว้​สำหรับ​ข้า​ฯ, แล้ว​จะ​ระลึก​ถึง​ข้า​ฯ อีก​ที​ก็​จะ​ดี. ถ้า​มนุษย์​ตาย​แล้ว​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​อีก​หรือ? . . . พระองค์​จะ​ทรง​เรียก, และ​ข้า​ฯ จะ​ทูล​ตอบ.”—โยบ 14:13-15.

โยบ​เชื่อ​ว่า​หาก​ท่าน​คง​ความ​ซื่อ​สัตย์​จน​กระทั่ง​ตาย พระเจ้า​จะ​ทรง​ระลึก​ถึง​ท่าน​และ​ใน​ที่​สุด​จะ​ปลุก​ท่าน​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. นี่​เป็น​ความ​เชื่อ​ของ​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ทุก​คน​ใน​สมัย​โบราณ. พระ​เยซู​เอง​ทรง​เสริม​ความ​หวัง​ดัง​กล่าว​ให้​หนักแน่น​ยิ่ง​ขึ้น​และ​ทรง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระเจ้า​จะ​ทรง​ใช้​พระองค์​ให้​ปลุก​คน​ที่​ตาย​ไป. คำ​ตรัส​ของ​พระ​คริสต์​เอง​ให้​ความ​มั่น​ใจ​แก่​เรา​ดัง​นี้: “เวลา​จะ​มา​เมื่อ​บรรดา​คน​ที่​อยู่​ใน​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​จะ​ได้​ยิน​สำเนียง​ของ [พระ​เยซู], และ​จะ​ได้​เป็น​ขึ้น​มา ผู้​ที่​ได้​ประพฤติ​ดี​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​สู่​ชีวิต, แต่​ผู้​ที่​ได้​ประพฤติ​ชั่ว​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​สู่​การ​พิพากษา.”—โยฮัน 5:28, 29.

อีก​ไม่​นาน พระเจ้า​จะ​ทรง​กำจัด​ความ​ชั่ว​ทั้ง​หมด​และ​จะ​ทรง​สถาปนา​โลก​ใหม่​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​จาก​สวรรค์. (บทเพลง​สรรเสริญ 37:10, 11; ดานิเอล 2:44; วิวรณ์ 16:14, 16) ผล​คือ​ตลอด​ทั่ว​แผ่นดิน​โลก​จะ​เป็น​อุทยาน​และ​ผู้​คน​ซึ่ง​รับใช้​พระเจ้า​จะ​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น. ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เรา​อ่าน​ว่า “ข้าพเจ้า​ได้​ยิน​เสียง​ดัง​มา​จาก​พระ​ที่​นั่ง​ว่า, ‘จง​ดู​เถิด. พลับพลา​ของ​พระเจ้า​ก็​อยู่​กับ​มนุษย์​แล้ว, พระองค์​จะ​สถิต​อยู่​กับ​เขา, เขา​จะ​เป็น​พลเมือง​ของ​พระองค์, พระเจ้า​เอง​จะ​ดำรง​อยู่​กับ​เขา, และ​จะ​ทรง​เป็น​พระเจ้า​ของ​เขา และ​พระเจ้า​จะ​ทรง​เช็ด​น้ำตา​ทุก ๆ หยด​จาก​ตา​ของ​เขา ความ​ตาย​จะ​ไม่​มี​ต่อ​ไป การ​คร่ำ​ครวญ​และ​ร้องไห้​และ​การ​เจ็บ​ปวด​อย่าง​หนึ่ง​อย่าง​ใด​จะ​ไม่​มี​อีก​เลย เพราะ​เหตุ​การณ์​ที่​ได้​มี​อยู่​แต่​ดั้งเดิม​นั้น​ได้​ล่วง​พ้น​ไป​แล้ว.’”—วิวรณ์ 21:3, 4.

เป็น​อิสระ​พ้น​จาก​ความ​กลัว

ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​หวัง​เรื่อง​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​รวม​เข้า​กับ​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​ผู้​ซึ่ง​เป็น​บ่อ​เกิด​แห่ง​ความ​หวัง​ดัง​กล่าว​สามารถ​ปลอบ​ประโลม​คุณ​ได้. พระ​เยซู​ทรง​สัญญา​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​รู้​จัก​ความ​จริง และ​ความ​จริง​จะ​ทำ​ให้​เจ้า​เป็น​อิสระ.” (โยฮัน 8:32, ล.ม.) นั่น​รวม​ถึง​การ​ปลด​ปล่อย​เรา​ทั้ง​หลาย​จาก​การ​กลัว​ความ​ตาย​ด้วย. พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น​ผู้​เดียว​เท่า​นั้น​ที่​สามารถ​เปลี่ยน​แปลง​กระบวนการ​แก่​และ​ตาย​ทั้ง​ยัง​ให้​ชีวิต​นิรันดร์​แก่​เรา​ได้. คุณ​จะ​เชื่อ​ใน​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​ได้​ไหม? แน่นอน คุณ​เชื่อ​ได้​เพราะ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​จริง​เสมอ. (ยะซายา 55:11) เรา​ขอ​สนับสนุน​คุณ​ให้​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​พระ​ประสงค์​ต่าง ๆ ของ​พระเจ้า​สำหรับ​มนุษยชาติ. พยาน​พระ​ยะโฮวา​ยินดี​จะ​ช่วย​คุณ.

[คำ​โปรย​หน้า 6]

ปัญหา​ของ​การ​กลัว​ความ​ตาย​คือ​อาจ​ทำ​ให้​คน​เรา​ไม่​สามารถ​ชื่นชม​กับ​ชีวิต​ได้​อย่าง​เต็ม​ที่

[ตาราง​แผนภูมิ หน้า 7]

ความ​เชื่อ​ทั่ว​ไป​บาง​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​ความ​ตาย คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​อย่าง​ไร?

• ความ​ตาย​เป็น​จุด​จบ​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​ชีวิต เยเนซิศ 1:28; 2:17; โรม 5:12

• พระเจ้า​ทรง​รับ​คน​ตาย​ไป​อยู่​กับ​พระองค์ โยบ 34:15; บทเพลง​สรรเสริญ 37:11, 29; 115:16

• พระเจ้า​ทรง​รับ​เด็ก​เล็ก ๆ ไป​เป็น​ทูตสวรรค์ บทเพลง​สรรเสริญ 51:5; 104:1, 4; เฮ็บราย 1:7, 14

• บาง​คน​ถูก​ทรมาน​หลัง​จาก​ตาย บทเพลง​สรรเสริญ 146:4; ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5, 10; โรม 6:23

• ความ​ตาย​หมาย​ถึง​การ​สิ้น​สุด​แห่ง​การ โยบ 14:14, 15; โยฮัน 3:16; 17:3; ดำรง​อยู่​ของ​คน​เรา​อย่าง​ถาวร กิจการ 24:15

[ภาพ​หน้า 8]

การ​รู้​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​ความ​ตาย​ทำ​ให้​เรา​เป็น​อิสระ​พ้น​จาก​ความ​กลัว

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 5]

Barrators—Giampolo/The Doré Illustrations For Dante’s Divine Comedy/Dover Publications Inc.