ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การเดินในแนวทางของพระยะโฮวานำมาซึ่งรางวัลอันอุดม

การเดินในแนวทางของพระยะโฮวานำมาซึ่งรางวัลอันอุดม

การ​เดิน​ใน​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา​นำ​มา​ซึ่ง​รางวัล​อัน​อุดม

คุณ​เคย​เดิน​ไป​ตาม​ภูเขา​สูง ๆ ไหม? ถ้า​เคย ตอน​นั้น​คุณ​คง​รู้สึก​ราว​กับ​กำลัง​เดิน​อยู่​บน​หลังคา​โลก. การ​ได้​สูด​อากาศ​บริสุทธิ์, ได้​มอง​ออก​ไป​ไกล ๆ, และ​ได้​ชื่นชม​กับ​ความ​งาม​ของ​ธรรมชาติ​ช่าง​น่า​เพลิดเพลิน​เสีย​จริง ๆ! บาง​ที ความ​กังวล​ของ​โลก​เบื้อง​ล่าง​ก็​ดู​เหมือน​ไม่​ค่อย​จะ​มี​ความ​สำคัญ​เท่า​ไร.

สำหรับ​ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​แล้ว การ​เดิน​ทาง​ที่​เพลิดเพลิน​เช่น​นี้​มี​น้อย​ครั้ง แต่​ถ้า​คุณ​เป็น​คริสเตียน​ที่​อุทิศ​ตัว​แล้ว คุณ​คง​ได้​เดิน​ใน​พื้น​ที​เขต​ภูเขา​อยู่​บ้าง​ใน​ความ​หมาย​ฝ่าย​วิญญาณ. เช่น​เดียว​กับ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ใน​สมัย​โบราณ ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​คุณ​คง​เคย​อธิษฐาน​ดัง​นี้: “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, ขอ​ทรง​โปรด​ให้​ข้าพเจ้า​รู้​ทาง​ของ​พระองค์, ขอ​ทรง​ฝึก​สอน​ข้าพเจ้า​ให้​ดำเนิน​ใน​พระ​มรคา​ของ​พระองค์.” (บทเพลง​สรรเสริญ 25:4) คุณ​จำ​ได้​ไหม​ว่า​คุณ​รู้สึก​อย่าง​ไร​เมื่อ​คุณ​ได้​ขึ้น​ไป​ยัง​ภูเขา​แห่ง​พระ​วิหาร​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ครั้ง​แรก​และ​ได้​เริ่ม​เดิน​บน​เขา​สูง​นั้น? (มีคา 4:2; ฮะบาฆูค 3:19) ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า ไม่​ช้า​คุณ​คง​ได้​ตระหนัก​ว่า​การ​เดิน​ไป​ตาม​ทาง​สูง​แห่ง​การ​นมัสการ​บริสุทธิ์​นั้น​ให้​การ​ปก​ป้อง​คุ้มครอง​และ​ความ​ยินดี​แก่​คุณ. คุณ​ได้​มา​รู้สึก​เช่น​เดียว​กับ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ที่​ว่า “ความ​สุข​ย่อม​มี​แก่​พลไพร่​ที่​รู้​จัก​เสียง​ชื่น​ใจ​นั้น: ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, เขา​ดำเนิน​ไป​ใน​แสง​สว่าง​แห่ง​พระ​พักตร์​ของ​พระองค์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 89:15.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม บาง​ครั้ง​บาง​คราว​ผู้​ที่​เดิน​ใน​เขต​ภูเขา​สูง​ก็​ต้อง​ออก​แรง​มาก​เมื่อ​ผ่าน​เส้น​ทาง​ที่​ลาด​ชัน​และ​ยาว​ไกล. ขา​ของ​เขา​เริ่ม​ปวด​และ​เขา​เริ่ม​รู้สึก​ล้า. เรา​เอง​ก็​เช่น​กัน อาจ​ประสบ​ปัญหา​ยุ่งยาก​หลาย​อย่าง​ขณะ​ที่​เรา​รับใช้​พระเจ้า. ใน​ระยะ​หลัง ๆ มา​นี้ ย่าง​ก้าว​ของ​เรา​ก็​อาจ​ยาก​ลำบาก​ยิ่ง​ขึ้น. เรา​จะ​ได้​ความ​กระปรี้กระเปร่า​และ​ความ​ยินดี​กลับ​คืน​มา​โดย​วิธี​ใด? ขั้น​แรก​คือ เรา​ต้อง​สำนึก​ถึง​ความ​สูง​ส่ง​แห่ง​แนว​ทาง​ของ​พระเจ้า.

กฎหมาย​อัน​สูง​ส่ง​ของ​พระ​ยะโฮวา

แนว​ทาง​ทั้ง​หลาย​ของ​พระ​ยะโฮวา ‘สูง​กว่า​ทาง​ของ​มนุษย์’ และ​การ​นมัสการ​ของ​พระองค์​ได้​ถูก ‘ตั้ง​ขึ้น​อย่าง​มั่นคง​เหนือ​ภูเขา​ทั้ง​หลาย และ​ถูก​ยก​ขึ้น​เหนือ​เขา​ทั้ง​ปวง.’ (ยะซายา 55:9; มีคา 4:1, ล.ม.) สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​นั้น​เป็น “สติ​ปัญญา​ที่​มา​จาก​เบื้อง​บน.” (ยาโกโบ 3:17) กฎหมาย​ต่าง ๆ ของ​พระองค์​ก็​สูง​ส่ง​เหนือ​กฎหมาย​ทั้ง​ปวง. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​ช่วง​เวลา​ที่​ชาว​คะนาอัน​กระทำ​การ​บูชายัญ​เด็ก​อย่าง​โหด​เหี้ยม​นั้น พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประทาน​กฎหมาย​ซึ่ง​มี​ความ​สูง​ส่ง​ทาง​ศีลธรรม​และ​เด่น​ใน​เรื่อง​ความ​เมตตา​สงสาร​แก่​ชาติ​อิสราเอล. พระองค์​ตรัส​แก่​พวก​เขา​ว่า “เจ้า​อย่า​ลำเอียง​เข้า​ข้าง​คน​จน​หรือ​เห็น​แก่​หน้า​ผู้​เป็น​ใหญ่ . . . . คน​ต่าง​ด้าว​ที่​อาศัย​อยู่​กับ​เจ้า​นั้น​ก็​เหมือน​กับ​ชาว​เมือง​ของ​เจ้า เจ้า​จง​รัก​เขา​เหมือน​กับ​รัก​ตัว​เอง.”—เลวีติโก 19:15, 34, ฉบับ​แปล​ใหม่.

สิบ​ห้า​ศตวรรษ​หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทรง​ให้​ตัว​อย่าง​มาก​ขึ้น​อีก​เกี่ยว​กับ ‘กฎหมาย​อัน​สูง​ส่ง’ ของ​พระ​ยะโฮวา. (ยะซายา 42:21) ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา พระองค์​ตรัส​แก่​เหล่า​สาวก​ดัง​นี้: “จง​รัก​ศัตรู​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ต่อ ๆ ไป และ​อธิษฐาน​เผื่อผู้​ที่​ข่มเหง​ท่าน​ทั้ง​หลาย; เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​พิสูจน์​ตัว​ว่า​เป็น​บุตร​แห่ง​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์.” (มัดธาย 5:44, 45, ล.ม.) พระองค์​ทรง​เสริม​อีก​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น​สิ่ง​สารพัตร​ซึ่ง​ท่าน​ปรารถนา​ให้​มนุษย์​ทำ​แก่​ท่าน, จง​กระทำ​อย่าง​นั้น​แก่​เขา​เหมือน​กัน, เพราะ​ว่า​พระ​บัญญัติ​และ​คำ​ของ​ศาสดา​พยากรณ์​สอน​ดัง​นั้น.”—มัดธาย 7:12.

กฎหมาย​ที่​สูง​ส่ง​เหล่า​นี้​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​หัวใจ​ของ​ผู้​ที่​ตอบรับ โดย​กระตุ้น​พวก​เขา​ให้​เลียน​แบบ​พระเจ้า​ที่​พวก​เขา​นมัสการ. (เอเฟโซ 5:1; 1 เธซะโลนิเก 2:13) ขอ​ให้​คิด​ถึง​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​กรณี​ของ​เปาโล. เมื่อ​เรา​ได้​ยิน​ถึง​เรื่อง​ของ​ท่าน​เป็น​ครั้ง​แรก​นั้น ท่าน “เห็น​ชอบ​ด้วย” กับ​การ​ฆ่า​ซะเตฟาโน​และ​ได้ “ประทุษร้าย​คริสตจักร.” เพียง​ไม่​กี่​ปี​หลัง​จาก​นั้น ท่าน​กลาย​เป็น​ผู้​ที่​ปฏิบัติ​อย่าง​นุ่มนวล​ต่อ​เพื่อน​คริสเตียน​ใน​เมือง​เทสซาโลนีกา (เธซะโลนิเก) เหมือน “แม่​ลูก​อ่อน​ทะนุถนอม​ลูก​ของ​ตน.” การ​สอน​ที่​ท่าน​ได้​รับ​จาก​พระเจ้า​ได้​เปลี่ยน​เปาโล​จาก​ผู้​ข่มเหง​มา​เป็น​คริสเตียน​ที่​เอา​ใจ​ใส่​ผู้​อื่น. (กิจการ 8:1, 3; 1 เธซะโลนิเก 2:7, ล.ม.) แน่นอน​ว่า ท่าน​คง​รู้สึก​ขอบพระคุณ​ที่​บุคลิกภาพ​ของ​ท่าน​ได้​รับ​การ​หล่อ​หลอม​โดย​การ​สอน​จาก​พระ​คริสต์. (1 ติโมเธียว 1:12, 13) การ​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​ที่​คล้ายคลึง​กัน​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ก้าว​เดิน​ต่อ​ไป​ใน​ทาง​อัน​สูง​ส่ง​ของ​พระเจ้า​ได้​อย่าง​ไร?

ก้าว​เดิน​ไป​ด้วย​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า

บรรดา​นัก​เดิน​เท้า​ต่าง​รู้สึก​เพลิดเพลิน​กับ​ทิวทัศน์​อัน​งดงาม​ของ​พื้น​ที่​เขต​ภูเขา​สูง. และ​พวก​เขา​ยัง​ได้​เรียน​รู้​ที่​จะ​ชื่นชม​กับ​สิ่ง​เล็ก ๆ น้อย ๆ ข้าง​ทาง​ไป​เรื่อย ๆ เช่น ก้อน​หิน​รูป​ร่าง​แปลก​ตา, ดอกไม้​ที่​สวย​งาม, หรือ​สัตว์​ป่า​ที่​ออก​มา​ให้​เห็น​แวบ​หนึ่ง. ใน​แง่​ฝ่าย​วิญญาณ​แล้ว เรา​จำเป็น​ต้อง​ตื่น​ตัว​ต่อ​สิ่ง​ดี ๆ ที่​เป็น​ผล​ตอบ​แทน​ไม่​ว่า​จะ​มาก​หรือ​น้อย​ซึ่ง​เรา​ได้​จาก​การ​ดำเนิน​กับ​พระเจ้า. การ​สำนึก​ถึง​เรื่อง​นี้​สามารถ​ทำ​ให้​เรา​มี​พลัง​ขึ้น​มา​อีก​เพื่อ​จะ​ก้าว​ต่อ​ไป และ​สามารถ​เปลี่ยน​จาก​การ​เดิน​ที่​เหน็ด​เหนื่อย​เมื่อย​ล้า​มา​เป็น​การ​เดิน​ที่​กระฉับกระเฉง​มี​ชีวิต​ชีวา. เรา​จะ​กล่าว​ซ้ำ​ถ้อย​คำ​ของ​ดาวิด​ที่​ว่า “ขอ​ทรง​โปรด​ให้​ข้าพเจ้า​ได้​ยิน​พระ​กรุณา​ของ​พระองค์​เมื่อ​เวลา​รุ่ง​เช้า; เพราะ​ข้าพเจ้า​วางใจ​พึ่ง​ใน​พระองค์: ขอ​โปรด​ข้าพเจ้า​ให้​รู้​จัก​มรคา​ที่​ข้าพเจ้า​ควร​จะ​ดำเนิน.”—บทเพลง​สรรเสริญ 143:8.

มารี ซึ่ง​ได้​เดิน​ใน​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา​มา​หลาย​ปี​กล่าว​ดัง​นี้: “เมื่อ​ดิฉัน​มอง​ดู​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ของ​พระ​ยะโฮวา ดิฉัน​ไม่​ได้​เห็น​เพียง​การ​ออก​แบบ​ที่​ละเอียด​ซับซ้อน​เท่า​นั้น แต่​ดิฉัน​ยัง​เห็น​บุคลิกภาพ​อัน​อบอุ่น​ของ​พระเจ้า​ด้วย. ไม่​ว่า​จะ​เป็น​สัตว์, นก, หรือ​แมลง แต่​ละ​ชนิด​ก็​มี​โลก​เล็ก ๆ ของ​มัน​เอง​ซึ่ง​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ. ความ​เพลิดเพลิน​แบบ​เดียว​กัน​นั้น​มา​จาก​ความ​จริง​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​ชัดเจน​ยิ่ง​ขึ้น​ตลอด​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา.”

เรา​จะ​ทำ​ให้​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ของ​เรา​ลึกซึ้ง​ยิ่ง​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร? ส่วน​หนึ่ง​ก็​โดย​การ​ไม่​ถือ​ว่า​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​กระทำ​เพื่อ​เรา​นั้น​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา. เปาโล​เขียน​ไว้​ว่า “จง​อธิษฐาน​เสมอ​อย่า​เว้น จง​ขอบพระคุณ​สำหรับ​ทุก​สิ่ง.”—1 เธซะโลนิเก 5:17, 18; บทเพลง​สรรเสริญ 119:62.

การ​ศึกษา​ส่วน​ตัว​ช่วย​เรา​ให้​ปลูกฝัง​น้ำใจ​หยั่ง​รู้​ค่า. เปาโล​กระตุ้น​คริสเตียน​ชาว​โกโลซาย​ดัง​นี้: “จง​ดำเนิน​ร่วม​สามัคคี​กับ [พระ​คริสต์​เยซู] ต่อ ๆ ไป . . . เปี่ยม​ล้น​ด้วย​ความ​เชื่อ​ใน​การ​ขอบพระคุณ.” (โกโลซาย 2:6, 7, ล.ม.) การ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​การ​คิด​รำพึง​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​เรา​อ่าน​จะ​เสริม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ให้​เข้มแข็ง​ขึ้น​และ​นำ​เรา​ให้​เข้า​มา​ใกล้​ผู้​ประพันธ์​คัมภีร์​ไบเบิล​ยิ่ง​ขึ้น. ตลอด​หน้าต่าง ๆ ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​คือ​คลัง​ทรัพย์​ซึ่ง​สามารถ​กระตุ้น​เรา​ให้ ‘เปี่ยม​ล้น​ใน​การ​ขอบพระคุณ’ ได้.

นอก​จาก​นั้น การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​เคียง​บ่า​เคียง​ไหล่​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา​ทำ​ให้​อะไร ๆ ง่าย​ขึ้น​ด้วย. ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​กล่าว​ถึง​ตัว​ท่าน​เอง​ว่า “ข้าพเจ้า​เป็น​เพื่อน​กับ​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​เกรง​กลัว​พระองค์.” (บทเพลง​สรรเสริญ 119:63) ส่วน​หนึ่ง​ของ​ช่วง​เวลา​ที่​เรา​มี​ความ​สุข​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​นั้น​คือ​เวลา​ที่​เรา​ใช้​ไป​ใน​การ​ประชุม​ใหญ่​ของ​คริสเตียน หรือ​ใน​การ​คบหา​สมาคม​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา ณ โอกาส​อื่น ๆ. เรา​ต่าง​สำนึก​ว่า​ครอบครัว​คริสเตียน​ทั่ว​โลก​ที่​มี​ค่า​ของ​เรา​มี​อยู่​ได้​ก็​เพราะ​พระยะโฮวา​และ​แนว​ทาง​อัน​สูง​ส่ง​ของ​พระองค์.—บทเพลง​สรรเสริญ 144:15​ข.

นอก​จาก​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​แล้ว การ​สำนึก​ถึง​ความ​รับผิดชอบ​จะ​ช่วย​เสริม​แรง​แก่​เรา​ให้​ก้าว​รุด​หน้า​ต่อ ๆ ไป​ใน​แนว​ทาง​ที่​สูง​ส่ง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย.

ดำเนิน​อย่าง​สำนึก​ถึง​ความ​รับผิดชอบ

นัก​เดิน​เท้า​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​รับผิดชอบ​จะ​ตระหนัก​ถึง​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​เดิน​อย่าง​ระมัดระวัง​เพื่อ​เขา​จะ​ไม่​หลง​ทาง​หรือ​หลง​เดิน​ไป​ใกล้​หน้าผา​ที่​อันตราย. ใน​ฐานะ​บุคคล​ที่​มี​เจตจำนง​เสรี พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​เรา​มี​เสรีภาพ​และ​ความ​คิด​ริเริ่ม​ใน​ระดับ​หนึ่ง. แต่​เสรีภาพ​เช่น​นั้น​เรียก​ร้อง​เอา​ความ​สำนึก​ใน​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ขณะ​ที่​เรา​ทำ​ตาม​พันธะ​ใน​ฐานะ​คริสเตียน​ของ​เรา​ให้​สำเร็จ.

เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง พระ​ยะโฮวา​ทรง​วางใจ​ว่า​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​จะ​ทำ​ตาม​พันธะ​หน้า​ที่​ของ​พวก​เขา​ให้​สำเร็จ​ด้วย​ความ​รับผิดชอบ. พระองค์​ไม่​ได้​ตรัส​ว่า​เรา​ควร​ใช้​เรี่ยว​แรง​และ​เวลา​มาก​น้อย​เพียง​ไร​ใน​กิจกรรม​ต่าง ๆ ของ​คริสเตียน หรือ​เรา​ควร​บริจาค​เพื่อ​ช่วย​ด้าน​การ​เงิน​หรือ​ด้าน​อื่น ๆ มาก​น้อย​ขนาด​ไหน. ตรง​กัน​ข้าม สิ่ง​ที่​เปาโล​กล่าว​แก่​ชาว​โครินธ์ (โกรินโธ) ใช้​ได้​กับ​พวก​เรา​ทุก​คน​ที่​ว่า “ให้​แต่​ละ​คน​ทำ​อย่าง​ที่​เขา​ได้​มุ่ง​หมาย​ไว้​ใน​หัวใจ.”—2 โกรินโธ 9:7, ล.ม.; เฮ็บราย 13:15, 16.

การ​ให้​ของ​คริสเตียน​ที่​มี​ความ​รับผิดชอบ​หมาย​รวม​ถึง​การ​แบ่ง​ปัน​ข่าว​ดี​แก่​ผู้​อื่น. และ​เรา​ยัง​แสดง​ด้วย​ว่า​เรา​มี​ความ​รับผิดชอบ​โดย​บริจาค​เงิน​สำหรับ​งาน​ราชอาณาจักร​ทั่ว​โลก. ผู้​ปกครอง​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เกร์​ฮาร์ท อธิบาย​ว่า​เขา​กับ​ภรรยา​ได้​บริจาค​เงิน​เพิ่ม​ขึ้น​มาก​ที​เดียว​หลัง​จาก​ได้​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​แห่ง​หนึ่ง​ใน​แถบ​ยุโรป​ตะวัน​ออก. เขา​กล่าว​ว่า “เรา​ได้​เห็น​ว่า​พี่​น้อง​ของ​เรา​ที่​นั่น​มี​สิ่ง​ต่าง ๆ ทาง​วัตถุ​น้อย​เหลือ​เกิน แต่​กระนั้น พวก​เขา​ก็​หยั่ง​รู้​ค่า​สรรพหนังสือ​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​ของ​เรา​มาก. ดัง​นั้น เรา​จึง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​เรา​ต้องการ​จะ​ให้​การ​สนับสนุน​มาก​เท่า​ที่​ทำ​ได้​แก่​พี่​น้อง​ที่​มี​ความ​จำเป็น​ใน​ดินแดน​อื่น ๆ.”

การ​เพิ่ม​ความ​อด​ทน​ของ​เรา

การ​เดิน​ใน​เขต​ภูเขา​ต้อง​มี​ความ​ทรหด​อด​ทน. บรรดา​นัก​เดิน​เท้า​จะ​หา​ทาง​ออก​กำลัง​เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​ทำ​ได้ และ​หลาย​คน​จะ​เดิน​ระยะ​สั้น ๆ เพื่อ​เตรียม​ตัว​สำหรับ​การ​เดิน​ที่​ยาว​ไกล. คล้ายคลึง​กัน เปาโล​แนะ​นำ​ให้​เรา​หมกมุ่น​อยู่​กับ​กิจกรรม​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​เพื่อ​จะ​รักษา​ความ​สมบูรณ์​แข็งแรง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา​ไว้. เปาโล​กล่าว​ว่า คน​เหล่า​นั้น​ที่​ปรารถนา “จะ​ดำเนิน​คู่​ควร​กับ​พระ​ยะโฮวา” และ “ได้​รับ​พลัง” ควร “เกิด​ผล​ต่อ​ไป​ใน​การ​งาน​ที่​ดี​ทุก​อย่าง.”—โกโลซาย 1:10, 11, ล.ม.

แรง​กระตุ้น​มี​ผล​ต่อ​ความ​อด​ทน​ของ​นัก​เดิน​เท้า. เป็น​เช่น​นั้น​โดย​วิธี​ใด? การ​จดจ่อ​กับ​เป้าหมาย​ที่​ชัดเจน​อย่าง​หนึ่ง​อยู่​เสมอ เช่น ภูเขา​ลูก​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​ไกล​ออก​ไป เป็น​แรง​ผลัก​ดัน​ที่​ดี. และ​เมื่อ​นัก​เดิน​เท้า​เดิน​มา​ถึง​จุด​ต่าง ๆ ที่​สังเกต​ได้​ชัด​ตาม​ทาง เขา​สามารถ​วัด​ดู​ความ​ก้าว​หน้า​ของ​ตน​ได้​และ​รู้​ว่า​ใกล้​จะ​ถึง​จุด​หมาย​ปลาย​ทาง​แค่​ไหน​แล้ว. เมื่อ​เขา​หัน​กลับ​ไป​ดู​ระยะ​ทาง​ที่​ได้​เดิน​ผ่าน​มา เขา​รู้สึก​พึง​พอ​ใจ.

ทำนอง​เดียว​กัน ความ​หวัง​ของ​เรา​เรื่อง​ชีวิต​นิรันดร์​ก็​ค้ำจุน​และ​กระตุ้น​เรา. (โรม 12:12) ขณะ​ที่​เรา​เดิน​อยู่​ใน​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​พบ​ความ​สำเร็จ​ใน​การ​วาง​เป้าหมาย​ต่าง ๆ ของ​คริสเตียน​และ​ใน​การ​บรรลุ​เป้า​เหล่า​นั้น. และ​เรา​รู้สึก​ยินดี​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​เรา​มอง​ย้อน​ไป​ดู​เวลา​หลาย​ปี​ที่​ได้​รับใช้​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​หรือ​เมื่อ​เรา​สังเกต​ดู​การ​เปลี่ยน​แปลง​ต่าง ๆ ใน​ด้าน​บุคลิกภาพ​ซึ่ง​เรา​ได้​ทำ​ไป!—บทเพลง​สรรเสริญ 16:11.

เพื่อ​จะ​เดิน​ให้​ได้​ระยะ​ทาง​ไกล ๆ และ​เพื่อ​ถนอม​แรง นัก​เดิน​เท้า​จะ​เดิน​ด้วย​ฝี​ก้าว​ที่​สม่ำเสมอ. คล้ายคลึง​กัน การ​มี​ตาราง​เวลา​ที่​ดี​ซึ่ง​รวม​ถึง​การ​ร่วม​ประชุม​และ​ออก​ประกาศ​เป็น​ประจำ​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ก้าว​ไป​เรื่อย ๆ สู่​จุด​หมาย​ที่​วาง​ไว้​อย่าง​มุ่ง​มั่น. ด้วย​เหตุ​นั้น เปาโล​จึง​สนับสนุน​เพื่อน​คริสเตียน​ดัง​นี้: “จง​ให้​เรา​ดำเนิน​อย่าง​มี​ระเบียบ​ตาม​แบบ​แผน​เดียว​กัน​นี้​ต่อ​ไป.”—ฟิลิปปอย 3:16, ล.ม.

แน่​ที​เดียว เรา​ไม่​ได้​เดิน​ไป​ตาม​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา​แต่​ลำพัง​ผู้​เดียว. เปาโล​เขียน​ดัง​นี้: “ให้​เรา​พิจารณา​ดู​ว่า​ทำ​อย่าง​ไร​จึง​จะ​กระตุ้น​กัน​และ​กัน​ให้​มี​ความ​รัก​และ​การ​กระทำ​ที่​ดี.” (เฮ็บราย 10:24, นิว อินเตอร์​แนชันแนล เวอร์ชัน ) การ​คบหา​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​ดี​จะ​ทำ​ให้​เรา​รักษา​ย่าง​ก้าว​ของ​เรา​ได้​ง่าย​ขึ้น​ขณะ​ที่​เรา​เดิน​ไป​พร้อม​กับ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ.—สุภาษิต 13:20.

ประการ​สุด​ท้าย​และ​เป็น​ประการ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ก็​คือ เรา​จะ​ต้อง​ไม่​ลืม​พลัง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประทาน​ให้​เป็น​อัน​ขาด. คน​เหล่า​นั้น​ที่​ได้​รับ​กำลัง​จาก​พระ​ยะโฮวา​จะ​เดิน​ต่อ​ไป​โดย “มี​กำลัง​ทวี​ขึ้น.” (บทเพลง​สรรเสริญ 84:5, 7) แม้​มี​บาง​คราว​ที่​เรา​ต้อง​เจอ​กับ​สถานการณ์​ที่​เปรียบ​เสมือน​ทาง​ขรุขระ​ไม่​ราบ​เรียบ แต่​ด้วย​การ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา​เรา​สามารถ​เดิน​ผ่าน​ไป​ได้.