ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

พวกเขาดำเนินอยู่ในความจริงต่อ ๆ ไป

พวกเขาดำเนินอยู่ในความจริงต่อ ๆ ไป

พวก​เขา​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​ต่อ ๆ ไป

“ไม่​มี​เหตุ​อัน​ใด​ที่​จะ​ทำ​ให้​ข้าพเจ้า​รู้สึก​ขอบคุณ​ยิ่ง​ไป​กว่า​สิ่ง​เหล่า​นี้ คือ​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ยิน​ว่า​ลูก​ทั้ง​หลาย​ของ​ข้าพเจ้า​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​ต่อ ๆ ไป.”—3 โยฮัน 4, ล.ม.

1. “ความ​จริง​แห่ง​ข่าว​ดี” รวม​จุด​อยู่​ที่​อะไร?

พระ​ยะโฮวา​ทรง​พอ​พระทัย​เฉพาะ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​นมัสการ​พระองค์ “ด้วย​วิญญาณ​และ​ความ​จริง.” (โยฮัน 4:24, ล.ม.) พวก​เขา​เชื่อ​ฟัง​ความ​จริง และ​ยอม​รับ​คำ​สอน​ของ​คริสเตียน​ทุก​อย่าง​ที่​อาศัย​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. “ความ​จริง​แห่ง​ข่าว​ดี” นี้​รวม​จุด​อยู่​ที่​พระ​เยซู​คริสต์​และ​การ​พิสูจน์​ความ​ถูก​ต้อง​แห่ง​พระ​บรม​เดชานุภาพ​ของ​พระ​ยะโฮวา​โดย​ทาง​ราชอาณาจักร. (ฆะลาเตีย 2:14, ล.ม.) พระเจ้า​ทรง​ปล่อย​ให้ ‘สิ่ง​ที่​ไม่​ถูก​นั้น​มา​ทำ​กิจ’ ใน​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ชอบ​ความ​เท็จ แต่​ความ​รอด​ขึ้น​อยู่​กับ​การ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี​และ​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง.—2 เธซะโลนิเก 2:9-12; เอเฟโซ 1:13, 14.

2. เหตุ​ใด​อัครสาวก​โยฮัน​จึง​รู้สึก​ขอบคุณ​เป็น​พิเศษ และ​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​ท่าน​กับ​ฆาโย​เป็น​ไป​ใน​ลักษณะ​ใด?

2 ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ทุก​คน​เป็น “เพื่อน​ร่วม​งาน​ใน​ความ​จริง.” เช่น​เดียว​กัน​กับ​อัครสาวก​โยฮัน​และ​ฆาโย​สหาย​ของ​ท่าน พวก​เขา​ยึด​มั่น​ใน​ความ​จริง​และ​ดำเนิน​ใน​ความ​จริง. โดย​นึก​ถึง​ฆาโย โยฮัน​เขียน​ดัง​นี้: “ไม่​มี​เหตุ​อัน​ใด​ที่​จะ​ทำ​ให้​ข้าพเจ้า​รู้สึก​ขอบคุณ​ยิ่ง​ไป​กว่า​สิ่ง​เหล่า​นี้ คือ​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ยิน​ว่า​ลูก​ทั้ง​หลาย​ของ​ข้าพเจ้า​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​ต่อ ๆ ไป.” (3 โยฮัน 3-8, ล.ม.) ถึง​แม้​อัครสาวก​โยฮัน​ผู้​ชรา​อาจ​ไม่​ได้​สอน​ฆาโย​ให้​รู้​จัก​ความ​จริง แต่​เพราะ​ความ​ชรา​ของ​ท่าน, ความ​อาวุโส​ฝ่าย​คริสเตียน, และ​ความ​รักใคร่​ฉัน​บิดา จึง​เหมาะ​สม​ที่​อัครสาวก​โยฮัน​จะ​ถือ​ว่า​ชาย​ซึ่ง​ดู​เหมือน​อายุ​น้อย​กว่า​คน​นี้​เป็น​ลูก​ฝ่าย​วิญญาณ​คน​หนึ่ง​ของ​ท่าน.

ความ​จริง​กับ​การ​นมัสการ​ของ​คริสเตียน

3. อะไร​คือ​จุด​มุ่ง​หมาย​และ​ผล​ประโยชน์​ของ​การ​ประชุม​ที่​คริสเตียน​ยุค​แรก​จัด​ขึ้น?

3 เพื่อ​จะ​เรียน​รู้​ความ​จริง คริสเตียน​ยุค​แรก​ประชุม​ร่วม​กัน​เป็น​ประชาคม บ่อย​ครั้ง​ใน​บ้าน​ส่วน​ตัว. (โรม 16:3-5) โดย​วิธี​นี้ พวก​เขา​จึง​ได้​รับ​การ​หนุน​กำลังใจ​และ​เร้า​ใจ​กัน​และ​กัน​ให้​เกิด​ความ​รัก​และ​การ​กระทำ​ที่​ดี. (เฮ็บราย 10:24, 25) เกี่ยว​กับ​ผู้​ที่​ประกาศ​ตัว​เป็น​คริสเตียน​ใน​สมัย​ต่อ​มา เทอร์ทูลเลียน (ประมาณ ปี ส.ศ. 155 ถึง​หลัง​ปี ส.ศ. 220) เขียน​ไว้​ดัง​นี้: “เรา​ร่วม​ประชุม​กัน​เพื่อ​จะ​อ่าน​พระ​ธรรม​ของ​พระเจ้า . . . ด้วย​ถ้อย​คำ​ศักดิ์สิทธิ์​เหล่า​นี้ เรา​หล่อ​เลี้ยง​ความ​เชื่อ​ของ​เรา, เสริม​สร้าง​ความ​หวัง​ของ​เรา, ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​มั่น​ของ​เรา​มั่นคง​ยิ่ง​ขึ้น.”—การ​ขอ​ขมา (ภาษา​อังกฤษ) บท 39.

4. การ​ร้อง​เพลง​มี​บทบาท​เช่น​ไร​ใน​การ​ประชุม​คริสเตียน?

4 การ​ร้อง​เพลง​ดู​เหมือน​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​การ​ประชุม​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก. (เอเฟโซ 5:19; โกโลซาย 3:16) ศาสตราจารย์​เฮนรี แชดวิก เขียน​ไว้​ว่า เซลซุส นัก​วิจารณ์​สมัย​ศตวรรษ​ที่​สอง​ได้​พบ​ว่า​เพลง​ที่​มี​ท่วง​ทำนอง​อัน​ไพเราะ​ซึ่ง​ดู​เหมือน​ใช้​ร้อง​โดย​ผู้​ที่​ประกาศ​ตัว​เป็น​คริสเตียน​นั้น “เพราะจับ​ใจ​เสีย​จน​เขา​รู้สึก​ขุ่นเคือง​จริง ๆ ต่อ​ผล​กระทบ​ทาง​อารมณ์​ของ​เพลง​เหล่า​นั้น.” แชดวิก​เขียน​ต่อ​ไป​ว่า “เคลเมนต์​แห่ง​อะเล็กซานเดรีย​เป็น​ผู้​เขียน​คริสเตียน​คน​แรก​ที่​อภิปราย​ว่า​เพลง​ชนิด​ใด​เหมาะ​สม​สำหรับ​คริสเตียน. เขา​ชี้​แนะ​ว่า​ไม่​ควร​เป็น​เพลง​ชนิด​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ระบำ​เร้า​ราคะ.” (หนังสือ​คริสตจักร​ยุค​แรก [ภาษา​อังกฤษ] หน้า 274-275) เช่น​เดียว​กับ​ที่​คริสเตียน​ยุค​แรก​ดู​เหมือน​ร้อง​เพลง​เมื่อ​พบ​ปะ​กัน พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ทุก​วัน​นี้​ก็​ร้อง​เพลง​ที่​แต่ง​ขึ้น​โดย​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก​อยู่​บ่อย ๆ รวม​ถึง​เพลง​ที่​มี​พลัง​เร้า​ใจ​เพื่อ​สรรเสริญ​พระเจ้า​และ​ราชอาณาจักร.

5. (ก) ประชาคม​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​ฝ่าย​วิญญาณ​โดย​วิธี​ใด? (ข) เหล่า​คริสเตียน​แท้​นำ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​บันทึก​ใน​มัดธาย 23:7-9 ไป​ใช้​อย่าง​ไร?

5 ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ยุค​แรก ผู้​ดู​แล​สอน​ความ​จริง และ​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้​ช่วยเหลือ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ใน​หลาย​วิธี. (ฟิลิปปอย 1:1, ล.ม.) คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ให้​การ​ชี้​นำ​ฝ่าย​วิญญาณ​โดย​อาศัย​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. (กิจการ 15:6, 23-31) ไม่​มี​การ​ใช้​บรรดาศักดิ์​ทาง​ศาสนา เพราะ​พระ​เยซู​ได้​สั่ง​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ไว้​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย อย่า​ใคร่​ให้​เขา​เรียก​ว่า ‘อาจารย์’ เลย ด้วย​ท่าน​มี​พระ​อาจารย์​แต่​ผู้​เดียว ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​พี่​น้อง​กัน​ทั้ง​หมด. และ​อย่า​ใคร่​ให้​ผู้​ใด​ใน​แผ่นดิน​โลก​เรียก​ตน​ว่า ‘บิดา’ เพราะ​ท่าน​มี​พระ​บิดา​แต่​ผู้​เดียว คือ​ผู้​ที่​สถิต​อยู่​ใน​สวรรค์.” (มัดธาย 23:7-9) มี​ความ​คล้ายคลึง​กัน​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ ดัง​ที่​กล่าว​มา​และ​ใน​อีก​หลาย ๆ ด้าน​ระหว่าง​คริสเตียน​ยุค​แรก​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ถูก​ข่มเหง​เพราะ​ประกาศ​ความ​จริง

6, 7. ถึง​แม้​พวก​เขา​ป่าว​ประกาศ​ข่าวสาร​แห่ง​สันติ​สุข คริสเตียน​แท้​ถูก​ปฏิบัติ​เช่น​ไร?

6 ถึง​แม้​พวก​เขา​ป่าว​ประกาศ​ข่าวสาร​ราชอาณาจักร​แห่ง​สันติ​สุข คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​กลับ​ถูก​ข่มเหง เหมือน​ที่​พระ​เยซู​ประสบ. (โยฮัน 15:20; 17:14) นัก​ประวัติศาสตร์ จอห์น แอล. ฟอน โมสไฮม์ เรียก​คริสเตียน​ศตวรรษ​แรก​ว่า​เป็น “กลุ่ม​ชน​ที่​มี​ลักษณะ​ไม่​เป็น​อันตราย​และ​ไร้​พิษ​ภัย​มาก​ที่​สุด ซึ่ง​ใน​ใจ​ของ​พวก​เขา​ไม่​เคย​มี​ความ​ปรารถนา​หรือ​ความ​คิด​มุ่ง​ร้าย​ต่อ​สวัสดิภาพ​ของ​รัฐ.” ดร. โมสไฮม์ กล่าว​ว่า สิ่ง​ที่ “รบกวน​ใจ​ชาว​โรมัน​ก็​คือ ความ​เรียบ​ง่าย​ใน​การ​นมัสการ​ของ​พวก​คริสเตียน ซึ่ง​ไม่​เหมือน​กับ​พิธีกรรม​ทาง​ศาสนา​ของ​คน​อื่น ๆ.” เขา​กล่าว​อีก​ว่า “พวก​เขา [คริสเตียน] ไม่​มี​การ​ถวาย​เครื่อง​บูชา, วิหาร, รูป​จำลอง, สำนัก​เทพ​พยากรณ์, หรือ​ลำดับ​ชั้น​ของ​คณะ​นัก​บวช และ​นี่​ก็​เพียง​พอ​แล้ว​ที่​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​คำ​ตำหนิ​จาก​มหาชน​ที่​รู้​เท่า​ไม่​ถึง​การณ์ ซึ่ง​คิด​เอา​เอง​ว่า​ถ้า​ไม่​มี​พิธีกรรม​เหล่า​นี้ ก็​ไม่​ใช่​ศาสนา. ดัง​นั้น พวก​เขา [คริสเตียน] จึง​ถูก​มอง​ว่า​เป็น​พวก​อเทวนิยม และ​ตาม​กฎหมาย​โรมัน ผู้​มี​ความ​ผิด​ใน​ข้อ​หา​อเทวนิยม​ถูก​ประกาศ​ว่า​เป็น​พวก​รังควาน​สังคม​มนุษย์.”

7 พวก​ปุโรหิต, ช่าง​ศิลป์, และ​คน​อื่น ๆ ที่​ดำรง​ชีพ​โดย​อาศัย​การ​บูชา​รูป​เคารพ​ได้​ยุยง​ประชาชน​ให้​ต่อ​ต้าน​คริสเตียน ซึ่ง​ไม่​ทำ​การ​ไหว้​รูป​เคารพ. (กิจการ 19:23-40; 1 โกรินโธ 10:14) เทอร์ทูลเลียน​เขียน​ดัง​นี้: “พวก​เขา​ถือ​เอา​พวก​คริสเตียน​เป็น​ต้น​เหตุ​ความ​หายนะ​ทุก​อย่าง​ของ​รัฐ และ​เคราะห์​ร้าย​ทุก​ประการ​ของ​ประชาชน. หาก​แม่น้ำ​ไทเบอร์​ไหล​ท่วม​ถึง​กำแพง​เมือง, หาก​แม่น้ำ​ไนล์​ไม่​ไหล​ล้น​เข้า​หล่อ​เลี้ยง​ไร่​นา, หาก​สภาพ​อากาศ​ไม่​เปลี่ยน​แปลง, หรือ​หาก​เกิด​แผ่นดิน​ไหว, การ​กันดาร​อาหาร, โรค​ระบาด จะ​มี​เสียง​ร้อง​ขึ้น​มา​ทันที​ว่า ‘เอา​พวก​คริสเตียน​โยน​ให้​สิงโต!’” แต่​ไม่​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น คริสเตียน​แท้ “รักษา​ตัว​ให้​พ้น​จาก​รูป​เคารพ.”—1 โยฮัน 5:21, ล.ม.

ความ​จริง​กับ​ธรรมเนียม​ทาง​ศาสนา

8. เหตุ​ใด​ผู้​ที่​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​จึง​ไม่​ฉลอง​คริสต์มาส?

8 คน​เหล่า​นั้น​ที่​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​หลีก​เลี่ยง​การ​ฉลอง​ธรรมเนียม​ทาง​ศาสนา​ที่​ไม่​เป็น​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์ เพราะ ‘ความ​สว่าง​ไม่​มี​หุ้น​ส่วน​อะไร​กับ​ความ​มืด.’ (2 โกรินโธ 6:14-18, ล.ม.) เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง พวก​เขา​ไม่​ฉลอง​คริสต์มาส ซึ่ง​มี​ขึ้น​ใน​วัน​ที่ 25 ธันวาคม. สารานุกรม เดอะ เวิลด์ บุ๊ก ยอม​รับ​ว่า “ไม่​มี​ใคร​รู้​วัน​ประสูติ​ที่​แน่นอน​ของ​พระ​คริสต์.” สารานุกรม​อเมริกานา (ฉบับ​ปี 1956) กล่าว​ว่า “ซทูร์นาเลีย เทศกาล​เลี้ยง​ฉลอง​ของ​ชาว​โรมัน​กลาง​เดือน​ธันวาคม เป็น​ต้น​แบบ​สำหรับ​ธรรมเนียม​รื่นเริง​หลาย​อย่าง​ของ​คริสต์มาส.” สารานุกรม ของ​แมกคลินทอก​และ​สตรอง​ชี้​ให้​เห็น​ว่า “การ​ฉลอง​คริสต์มาส​ไม่​ใช่​พระ​บัญชา​จาก​พระเจ้า และ​ไม่​ได้​มี​ต้นตอ​มา​จาก​พันธสัญญา​ใหม่.” และ​หนังสือ​ชีวิต​ประจำ​วัน​สมัย​พระ​เยซู (ภาษา​อังกฤษ) ให้​ข้อ​สังเกต​ดัง​นี้: “ฝูง​แกะ . . . ผ่าน​ฤดู​หนาว​โดย​อาศัย​อยู่​ใน​ที่​กำบัง; และ​จาก​ข้อ​เท็จ​จริง​นี้​อย่าง​เดียว ก็​เห็น​ได้​ว่า​วัน​คริสต์มาส​ใน​ฤดู​หนาว​ที่​ถือ​กัน​มา​ตาม​ธรรมเนียม​นั้น​ไม่​น่า​จะ​ถูก​ต้อง เนื่อง​จาก​กิตติคุณ​บอก​ว่า​คน​เลี้ยง​แกะ​อยู่​ใน​ทุ่ง​หญ้า.”—ลูกา 2:8-11.

9. เพราะ​เหตุ​ใด​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​อดีต​และ​ปัจจุบัน​ไม่​ฉลอง​อีสเตอร์?

9 ถือ​กัน​ว่า​อีสเตอร์​เป็น​การ​ระลึก​ถึง​การ​ฟื้น​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์ แต่​แหล่ง​ข้อมูล​ที่​เชื่อถือ​ได้​แสดง​ว่า ที่​มา​และ​ธรรมเนียม​ของ​อีสเตอร์​มา​จาก​การ​นมัสการ​เท็จ. เดอะ เวสต์มินสเตอร์ ดิกชันนารี ออฟ เดอะ ไบเบิล กล่าว​ว่า อีสเตอร์ “แรก​เริ่ม​เดิม​ที​เป็น​เทศกาล​เลี้ยง​ฉลอง​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​เทพ​ธิดา​แห่ง​แสง​สว่าง​และ​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ของ​พวก​ทิวทอน ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​แองโกล-แซกซัน​ว่า อีสเตอร์” หรือ อีออสเตอร์. กระนั้น สารานุกรม​บริแทนนิกา (ฉบับ​พิมพ์​ครั้ง​ที่ 11) กล่าว​ว่า “ไม่​มี​ที่​ใด​ใน​พันธสัญญา​ใหม่​บ่ง​บอก​เรื่อง​การ​ฉลอง​เทศกาล​อีสเตอร์.” อีสเตอร์​ไม่​ใช่​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ของ​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก และ​ไม่​มี​การ​ฉลอง​เทศกาล​นี้​โดย​ไพร่​พล​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ทุก​วัน​นี้.

10. พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​อนุสรณ์​อะไร และ​ใคร​ที่​ได้​ถือ​รักษา​อนุสรณ์​นี้​อย่าง​เหมาะ​สม?

10 พระ​เยซู​ไม่​ได้​สั่ง​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​ระลึก​ถึง​การ​ประสูติ​หรือ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์ แต่​พระองค์​ทรง​ตั้ง​อนุสรณ์​ระลึก​ถึง​การ​วาย​พระ​ชนม์​เป็น​เครื่อง​บูชา​ของ​พระองค์. (โรม 5:8) ที่​จริง อนุสรณ์​ระลึก​ถึง​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์​เป็น​เหตุ​การณ์​อย่าง​เดียว​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สั่ง​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​ถือ​รักษา. (ลูกา 22:19, 20) เหตุ​การณ์​นี้​ซึ่ง​เรียก​กัน​ด้วย​ว่า​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​รับ​การ​ระลึก​ถึง​เป็น​ประจำ​ทุก​ปี​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.—1 โกรินโธ 11:20-26.

ความ​จริง​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ไป​ทั่ว​โลก

11, 12. บรรดา​ผู้​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​ได้​สนับสนุน​กิจกรรม​การ​ประกาศ​ของ​พวก​เขา​ตลอด​มา​โดย​วิธี​ใด?

11 คน​เหล่า​นั้น​ที่​รู้​จัก​ความ​จริง​ถือ​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​จะ​อุทิศ​เวลา, กำลัง, และ​ทรัพยากร​อื่น ๆ ของ​พวก​เขา​ให้​แก่​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี. (มาระโก 13:10) กิจกรรม​การ​ประกาศ​ของ​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​โดย​การ​บริจาค​ด้วย​ใจ​สมัคร. (2 โกรินโธ 8:12; 9:7) เทอร์ทูลเลียน​เขียน​ไว้​ว่า “ถึง​แม้​ว่า​มี​หีบ​บาง​อย่าง เงิน​ใน​หีบ​ก็​ไม่​ได้​มา​จาก​ค่า​ธรรมเนียม​สมาชิก เสมือน​ว่า​ศาสนา​เป็น​เรื่อง​ของ​การ​ทำ​ธุรกิจ. ทุก ๆ คน​นำ​เอา​เงิน​มา​พอ​ประมาณ​เดือน​ละ​ครั้ง หรือ​เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​เขา​ต้องการ และ​เฉพาะ​เมื่อ​เขา​ต้องการ​จริง ๆ และ​สามารถ​ทำ​ได้; เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ถูก​บังคับ; เป็น​การ​ถวาย​ให้​ด้วย​ความ​สมัคร​ใจ.”—การ​ขอ​ขมา บท 39.

12 งาน​ประกาศ​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ไป​ทั่ว​โลก​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​โดย​การ​บริจาค​ด้วย​ใจ​สมัคร​เช่น​กัน. นอก​จาก​พวก​พยาน​ฯ แล้ว ผู้​สนใจ​ที่​หยั่ง​รู้​ค่า​ถือ​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ของ​พวก​เขา​ที่​จะ​บริจาค​เงิน​สนับสนุน​กิจกรรมนี้. นี่​เป็น​อีก​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​แสดง​ความ​คล้ายคลึง​กัน​ระหว่าง​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ความ​จริง​กับ​ความ​ประพฤติ​ส่วน​ตัว

13. พยาน​พระ​ยะโฮวา​เอา​ใจ​ใส่​คำ​แนะ​นำ​อะไร​ของ​เปโตร​ใน​เรื่อง​ความ​ประพฤติ?

13 ฐานะ​ผู้​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​อัครสาวก​เปโตร ที่​ว่า “จง​รักษา​ความ​ประพฤติ​ของ​ท่าน​ให้​ดี​งาม​ท่ามกลาง​นานา​ชาติ เพื่อ​ว่า ใน​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​ต่อ​ต้าน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า​เป็น​คน​ทำ​ชั่ว​นั้น เนื่อง​ด้วย​การ​กระทำ​ที่​ดี​งาม​ของ​ท่าน​ซึ่ง​เขา​เป็น​ประจักษ์​พยาน​นั้น เขา​อาจ​สรรเสริญ​พระเจ้า​ใน​วัน​สำหรับ​การ​ตรวจตรา​ของ​พระองค์.” (1 เปโตร 2:12, ล.ม.) พยาน​พระ​ยะโฮวา​เอา​ใส่​ใจ​คำ​แนะ​นำ​ของ​อัครสาวก​เปโตร​อย่าง​จริงจัง.

14. คริสเตียน​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​ความ​บันเทิง​ที่​ผิด​ศีลธรรม?

14 แม้​แต่​หลัง​จาก​การ​ออก​หาก​ได้​เริ่ม​แทรกซึม​เข้า​มา​แล้ว คริสเตียน​ใน​นาม​ก็​ได้​หลีก​เลี่ยง​กิจกรรม​ต่าง ๆ ที่​ผิด​ศีลธรรม. ดับเบิลยู. ดี. คิลลัน ศาสตราจารย์​ด้าน​ประวัติศาสตร์​คริสตจักร เขียน​ไว้​ดัง​นี้: “ใน​ศตวรรษ​ที่​สอง​และ​สาม โรง​ละคร​ใน​เมือง​ใหญ่​ทุก​เมือง​เป็น​สถาน​ที่​ดึงดูด​ผู้​คน; และ​โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​พวก​นัก​แสดง​เป็น​คน​หละหลวม​ทาง​ศีลธรรม การ​แสดง​ที่​ดึงดูด​ความ​สนใจ​ของ​พวก​เขา​จัด​ขึ้น​เพื่อ​ตอบ​สนอง​ความ​ปรารถนา​อัน​ต่ำทราม​ที่​มี​อย่าง​ไม่​รู้​จัก​จบ​สิ้น​ของ​ยุค​สมัย​นั้น . . . . คริสเตียน​แท้​ทุก​คน​มอง​โรง​ละคร​ด้วย​ความ​รังเกียจ . . . . พวก​เขา​ขยะแขยง​ความ​หยาบ​โลน​ของ​การ​แสดง​ใน​โรง​ละคร​นั้น; และ​การ​วิงวอน​ร้อง​ขอ​ต่อ​เหล่า​เทพเจ้า​และ​เทพ​ธิดา​ของ​คน​นอก​รีต​ตลอด​การ​แสดง​นั้น​ขัด​ต่อ​ความ​เชื่อ​มั่น​ทาง​ศาสนา​ของ​พวก​เขา.” (หนังสือ​คริสตจักร​ยุค​โบราณ [ภาษา​อังกฤษ] หน้า 318-319) สาวก​แท้​ของ​พระ​เยซู​ใน​ทุก​วัน​นี้​หลีก​เลี่ยง​รูป​แบบ​ความ​บันเทิง​ที่​หยาบ​โลน​และ​เสื่อม​ทราม​ทาง​ศีลธรรม​เช่น​เดียว​กัน.—เอเฟโซ 5:3-5.

ความ​จริง​กับ “อำนาจ​ที่​สูง​กว่า”

15, 16. “อำนาจ​ที่​สูง​กว่า” หมาย​ถึง​ผู้​ใด และ​พวก​เขา​ได้​รับ​ความ​นับถือ​จาก​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​อย่าง​ไร?

15 ทั้ง ๆ ที่​คริสเตียน​ยุค​แรก​มี​ความ​ประพฤติ​ที่​ดี​งาม จักรพรรดิ​โรมัน​ส่วน​ใหญ่​ลง​ความ​เห็น​เกี่ยว​กับ​พวก​เขา​อย่าง​ผิด ๆ. นัก​ประวัติศาสตร์ อี. จี. ฮาร์ดี กล่าว​ว่า จักรพรรดิ​เหล่า​นั้น​มอง​ว่า​พวก​เขา​เป็น “ผู้​มี​ความ​กระตือรือร้น​ที่​ค่อนข้าง​น่า​ดูหมิ่น.” จดหมาย​โต้​ตอบ​ระหว่าง​พลินี​ผู้​อ่อน​วัย​กว่า​แห่ง​เมือง​บิทีเนีย​กับ​จักรพรรดิ​ทราจัน​แสดง​ว่า ชน​ชั้น​ปกครอง​โดย​ทั่ว​ไป​แทบ​ไม่​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​ลักษณะ​ที่​แท้​จริง​ของ​ศาสนา​คริสเตียน. แต่​คริสเตียน​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​อำนาจ​รัฐ?

16 เช่น​เดียว​กัน​กับ​สาวก​ยุค​แรก​ของ​พระ​เยซู พยาน​พระ​ยะโฮวา​ยอม​อยู่​ใต้ “อำนาจ​ที่​สูง​กว่า” ของ​รัฐบาล​อย่าง​มี​ขอบ​เขต. (โรม 13:1-7, ล.ม.) ถ้า​มี​ข้อ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​คำ​สั่ง​ของ​มนุษย์​กับ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​จะ​แสดง​จุด​ยืน​ที่​ว่า “พวก​ข้าพเจ้า​จำ​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​ใน​ฐานะ​เป็น​ผู้​ปกครอง​ยิ่ง​กว่า​มนุษย์.” (กิจการ 5:29, ล.ม.) หนังสือ หลัง​จาก​พระ​เยซู—ชัย​ชนะ​ของ​คริสต์​ศาสนา (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ไว้​ว่า “แม้​พวก​คริสเตียน​อาจ​ไม่​ได้​เข้า​ร่วม​ใน​การ​บูชา​จักรพรรดิ แต่​พวก​เขา​ก็​ไม่​ได้​ปลุกระดม​ให้​เกิด​ความ​วุ่นวาย; และ​ศาสนา​ของ​พวก​เขา แม้​จะ​ดู​แปลก​และ​ก่อ​ความขุ่นเคือง​ใน​บาง​ครั้ง​จาก​ทัศนะ​ของ​คน​นอก​ศาสนา แต่​ก็​ไม่​ได้​เป็น​ภัย​คุกคาม​อะไร​จริง ๆ ต่อ​จักรวรรดิ.”

17. (ก) คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​เป็น​ผู้​สนับสนุน​รัฐบาล​ใด? (ข) เหล่า​สาวก​แท้​ของ​พระ​คริสต์​นำ​ถ้อย​คำ​ที่​ยะซายา 2:4 ไป​ใช้​ใน​ชีวิต​ของ​พวก​เขา​อย่าง​ไร?

17 คริสเตียน​ยุค​แรก​เป็น​ผู้​สนับสนุน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า เหมือน​กับ​ที่​พวก​ปฐม​บรรพบุรุษ อับราฮาม, ยิศฮาค, และ​ยาโคบ ได้​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน ‘เมือง​ที่​พระเจ้า​สร้าง’ ซึ่ง​ทรง​สัญญา​ไว้. (เฮ็บราย 11:8-10) เช่น​เดียว​กัน​กับ​นาย​ของ​พวก​เขา สาวก​ของ​พระ​เยซู “ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก.” (โยฮัน 17:14-16, ล.ม.) และ​ใน​เรื่อง​สงคราม​และ​การ​ต่อ​สู้​กัน​ของ​มนุษย์ พวก​เขา​ได้​ติด​ตาม​สันติ​สุข​โดย ‘ตี​ดาบ​ของ​เขา​เป็น​ผาล​ไถ​นา.’ (ยะซายา 2:4) เมื่อ​สังเกต​เห็น​ความ​คล้ายคลึง​ที่​น่า​สนใจ เจฟฟรีย์ เอฟ. นัตทอล อาจารย์​สอน​วิชา​ประวัติศาสตร์​คริสตจักร ให้​ความ​เห็น​ดัง​นี้: “ทัศนคติ​ของ​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ที่​มี​ต่อ​สงคราม​เหมือน​กัน​มาก​กับ​ทัศนคติ​ของ​ผู้​คน​ที่​เรียก​ตัว​เอง​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เสีย​จน​ยาก​ที่​เรา​จะ​ยอม​รับ​ได้​อย่าง​สะดวก​ใจ.”

18. เหตุ​ใด​จึง​ไม่​มี​เหตุ​ผล​อะไร​ที่​รัฐบาล​ใด​จะ​ต้อง​กลัว​พยาน​พระ​ยะโฮวา?

18 ใน​ฐานะ​ผู้​รักษา​ความ​เป็น​กลาง​ที่​ยอม​อยู่​ใต้ “อำนาจ​ที่​สูง​กว่า” คริสเตียน​ยุค​แรก​ไม่​เป็น​ภัย​คุกคาม​ต่อ​อำนาจ​ทาง​การ​เมือง​ใด ๆ ที่​มี​อยู่ และ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​ไม่​เป็น​เช่น​กัน. นัก​เขียน​บท​บรรณาธิการ​คน​หนึ่ง​ทาง​อเมริกา​เหนือ​เขียน​ดัง​นี้: “ต้อง​มี​อคติ​และ​คิด​หวาด​ระแวง​ไป​เอง​จึง​จะ​เชื่อ​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​อันตราย​คุกคาม​ระบอบ​การ​ปกครอง​ใด ๆ. พวก​เขา​ไม่​ใช่​พวก​ล้ม​ล้าง​บ้าน​เมือง แต่​เป็น​คน​รัก​สันติ อย่าง​ที่​กลุ่ม​ศาสนา​พึง​จะ​เป็น.” ผู้​มี​อำนาจ​ปกครอง​ที่​มี​ความ​เข้าใจ​แจ่ม​แจ้ง​เกี่ยว​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​รู้​ดี​ว่า​ไม่​มี​อะไร​ต้อง​กลัว​พวก​เขา.

19. อาจ​กล่าว​อะไร​ได้​เกี่ยว​กับ​คริสเตียน​ยุค​แรก​และ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เรื่อง​ภาษี?

19 วิธี​หนึ่ง​ที่​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ได้​แสดง​ความ​นับถือ​ต่อ “อำนาจ​ที่​สูง​กว่า” คือ​การ​ที่​พวก​เขา​เสีย​ภาษี. เมื่อ​เขียน​จดหมาย​ถึง​แอนโทนินุส ปิอุส จักรพรรดิ​โรมัน (ปี ส.ศ. 138-161) จัสติน มาร์เทอร์ เห็น​ว่า​พวก​คริสเตียน​ชำระ​ภาษี​ของ​เขา “ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ​ยิ่ง​กว่า​คน​ทั้ง​ปวง.” (การ​ขอ​ขมา​ครั้ง​แรก [ภาษา​อังกฤษ] บท 17) และ​เทอร์ทูลเลียน​บอก​กับ​บรรดา​ผู้​ปกครอง​ของ​โรม​ว่า คน​เก็บ​ภาษี​ของ​เขา “เป็น​หนี้​บุญคุณ​พวก​คริสเตียน” เนื่อง​จาก​พวก​เขา​เสีย​ภาษี​ตาม​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ. (การ​ขอ​ขมา บท 42) คริสเตียน​ได้​รับ​ประโยชน์จาก พักซ์ โรมานา หรือ สันติภาพ​ของ​โรม, กฎหมาย​และ​ระเบียบ​ของ​โรม, ถนน​หน​ทาง​ที่​ดี, การ​เดิน​ทาง​ทาง​ทะเล​ที่​ค่อนข้าง​จะ​ปลอด​ภัย. โดย​สำนึก​ถึง​ว่า​พวก​เขา​เป็น​หนี้​สังคม พวก​เขา​จึง​เอา​ใจ​ใส่​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “ของ​ของ​ซีซาร์​จง​ถวาย​แก่​ซีซาร์ และ​ของ​ของ​พระเจ้า​จง​ถวาย​แด่​พระเจ้า.” (มาระโก 12:17, ฉบับ​แปล​ใหม่) ไพร่​พล​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ปัจจุบัน​ติด​ตาม​คำ​แนะ​นำ​นี้ และ​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​ใน​เรื่อง​ความ​ซื่อ​สัตย์ เช่น ใน​การ​เสีย​ภาษี.—เฮ็บราย 13:18.

ความ​จริง—สิ่ง​ผูก​พัน​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว

20, 21. สังคม​พี่​น้อง​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​สันติ​สุข​เป็น​จริง​อย่าง​ไร​กับ​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​และ​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​สมัย​ปัจจุบัน?

20 เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง คริสเตียน​ยุค​แรก​จึง​ผูก​พัน​กัน​เป็น​สังคม​พี่​น้อง​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​สันติ​สุข พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ทุก​วัน​นี้​ก็​เช่น​กัน. (กิจการ 10:34, 35) จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ที่​ตี​พิมพ์​ลง​ใน​เดอะ มอสโก ไทมส์ กล่าว​ว่า “[พยาน​พระ​ยะโฮวา] เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี​ว่า​เป็น​คน​มี​มิตร​ไมตรี, กรุณา, และ​อ่อนน้อม ซึ่ง​ง่าย​มาก​ที่​จะ​ติด​ต่อ​สัมพันธ์​ด้วย, ไม่​เคย​กดดัน​คน​อื่น และ​พยายาม​รักษา​สันติ​สุข​เสมอ​เมื่อ​ติด​ต่อ​กับ​ผู้​อื่น . . . ไม่​มี​คน​รับ​สินบน, คน​ขี้เมา, หรือ​ติด​ยา​ใน​ท่ามกลาง​พวก​เขา และ​เหตุ​ผล​ก็​ง่าย ๆ: พวก​เขา​เพียง​แต่​พยายาม​ให้​ความ​เชื่อ​มั่น​ของ​เขา​ซึ่ง​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​ชี้​นำ​ทุก​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ทำ​หรือ​พูด. ถ้า​ทุก​คน​ใน​โลก​อย่าง​น้อย​พยายาม​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​แบบ​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทำ โลก​อัน​โหด​ร้าย​ของ​เรา​คง​จะ​แตกต่าง​ไป​จาก​นี้​อย่าง​สิ้นเชิง.”

21 สารานุกรม​คริสต์​ศาสนา​ใน​ยุค​ต้น ๆ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “คริสตจักร​ยุค​แรก​ถือ​ว่า​ตน​เอง​เป็น​สังคม​ใหม่​ของ​มนุษย์​ซึ่ง​กลุ่ม​ต่าง ๆ ที่​เคย​เป็น​ศัตรู​กัน ชาว​ยิว​และ​คน​ต่าง​ชาติ สามารถ​อยู่​ร่วม​กัน​ได้​อย่าง​เป็น​เอกภาพ​และ​มี​สันติ​สุข.” ใน​ทำนอง​เดียว​กัน พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​สังคม​พี่​น้อง​ทั่ว​โลก​ที่​อยู่​ร่วม​กัน​ด้วย​ความ​รัก​และ​สันติ​สุข เป็น​สังคม​โลก​ใหม่​อย่าง​แท้​จริง. (เอเฟโซ 2:11-18; 1 เปโตร 5:9; 2 เปโตร 3:13) เมื่อ​หัวหน้า​เจ้าหน้าที่​รักษา​ความ​ปลอด​ภัย​ของ​ลาน​นิทรรศการ​พริทอเรีย สาธารณรัฐ​แอฟริกา​ใต้ ได้​เห็น​ตัว​แทน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จาก​ทุก​เชื้อชาติ​ร่วม​ประชุม​กัน​อย่าง​สงบ​สุข เขา​กล่าว​ว่า “ทุก​คน​มี​มารยาท​เรียบร้อย​และ​เป็น​เช่น​นี้​เสมอ ผู้​คน​พูด​จา​กัน​อย่าง​สุภาพ ท่าที​ที่​ผู้​คน​แสดง​เมื่อ​สอง​สาม​วัน​ก่อน—ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​พยาน​หลักฐาน​ถึง​คุณภาพ​ทาง​ศีลธรรม​ของ​สมาชิก​ใน​สังคม​ของ​คุณ และ​เป็น​พยาน​หลักฐาน​ว่า​ทุก​คน​อยู่​ร่วม​กัน​เป็น​ครอบครัว​หนึ่ง​เดียว​ที่​มี​ความ​สุข.”

ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​จาก​การ​สอน​ความ​จริง

22. การ​ที่​คริสเตียน​ได้​สำแดง​ความ​จริง​ให้​ปรากฏ​ก่อ​ผล​เช่น​ไร?

22 โดย​ความ​ประพฤติ​และ​กิจกรรม​การ​ประกาศ​ของ​พวก​เขา เปาโล​และ​คริสเตียน​คน​อื่น ๆ “สำแดง​ความ​จริง​ให้​ปรากฏ.” (2 โกรินโธ 4:2, ล.ม.) คุณ​เห็น​ด้วย​มิ​ใช่​หรือ​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน​และ​กำลัง​สอน​ความ​จริง​แก่​ทุก​ชาติ? ผู้​คน​จาก​ทั่ว​โลก​จำนวน​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ กำลัง​รับ​เอา​การ​นมัสการ​แท้​และ​หลั่งไหล​ไป​สู่ “ภูเขา​แห่ง​ราชนิเวศ​ของ​พระ​ยะโฮวา.” (ยะซายา 2:2, 3, ล.ม.) ทุก​ปี​หลาย​แสน​คน​รับ​บัพติสมา​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​ถึง​การ​อุทิศ​ตัว​ของ​เขา​แด่​พระเจ้า เป็น​ผล​ให้​มี​การ​ก่อ​ตั้ง​ประชาคม​ใหม่ ๆ มาก​มาย.

23. คุณ​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​กำลัง​สอน​ความ​จริง​แก่​ทุก​ชาติ?

23 ถึง​แม้​มา​จาก​ภูมิหลัง​ที่​ต่าง​กัน ไพร่​พล​ของ​พระ​ยะโฮวา​มี​เอกภาพ​ใน​การ​นมัสการ​แท้. ความ​รัก​ที่​พวก​เขา​แสดง​ออก​ระบุ​ตัว​พวก​เขา​ว่า​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู. (โยฮัน 13:35) คุณ​มอง​ออก​ไหม​ว่า ‘พระเจ้า​ทรง​สถิต​อยู่​ท่ามกลาง​พวก​เขา​อย่าง​แน่นอน’? (1 โกรินโธ 14:25, ฉบับ​แปล​ใหม่) คุณ​ยืน​อยู่​ฝ่าย​คน​เหล่า​นั้น​ที่​กำลัง​สอน​ความ​จริง​แก่​ทุก​ชาติ​ไหม? ถ้า​ใช่ ขอ​ให้​คุณ​แสดง​ความ​ขอบคุณ​เสมอ​สำหรับ​ความ​จริง และ​มี​สิทธิ​พิเศษ​ที่​จะ​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​ตลอด​ไป.

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

• มี​อะไร​ที่​คล้ายคลึง​กัน​ระหว่าง​คริสเตียน​ยุค​แรก​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เรื่อง​การ​นมัสการ?

• อะไร​คือ​การ​ฉลอง​ทาง​ศาสนา​อย่าง​เดียว​ที่​คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ดำเนิน​ใน​ความ​จริง​ถือ​รักษา?

• “อำนาจ​ที่​สูง​กว่า” หมาย​ถึง​ผู้​ใด และ​คริสเตียน​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​พวก​เขา?

• ความ​จริง​เป็น​สิ่ง​ผูก​พัน​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​อย่าง​ไร?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 21]

การ​ประชุม​คริสเตียน​ให้​ผล​ตอบ​แทน​เสมอ​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง

[ภาพ​หน้า 23]

พระ​เยซู​ทรง​สั่ง​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​ถือ​รักษา​อนุสรณ์​ระลึก​ถึง​การ​วาย​พระ​ชนม์​เป็น​เครื่อง​บูชา​ของ​พระองค์

[ภาพ​หน้า 24]

เช่น​เดียว​กับ​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก พยาน​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​นับถือ​ต่อ “อำนาจ​ที่​สูง​กว่า”