ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“นอกจากอุทาหรณ์แล้ว พระองค์ไม่ได้ตรัสสิ่งใดแก่เขา”

“นอกจากอุทาหรณ์แล้ว พระองค์ไม่ได้ตรัสสิ่งใดแก่เขา”

“นอก​จาก​อุทาหรณ์​แล้ว พระองค์​ไม่​ได้​ตรัส​สิ่ง​ใด​แก่​เขา”

“พระ​เยซู​ตรัส​แก่​ฝูง​ชน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์. แท้​จริง นอก​จาก​อุทาหรณ์​แล้ว พระองค์​ไม่​ได้​ตรัส​สิ่ง​ใด​แก่​เขา.”—มัดธาย 13:34, ล.ม.

1, 2. (ก) ทำไม​อุทาหรณ์​ที่​บังเกิด​ผล​จึง​ยาก​จะ​ลืม? (ข) รูป​แบบ​ของ​อุทาหรณ์​ที่​พระ​เยซู​ใช้​มี​อะไร​บ้าง และ​เกิด​คำ​ถาม​อะไร​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​การ​ใช้​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์? (ดู​เชิงอรรถ​ด้วย.)

คุณ​จำ​อุทาหรณ์​สัก​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​คุณ​ได้​ยิน​หลาย​ปี​มา​แล้ว​ได้​ไหม อาจ​เป็น​เรื่อง​ที่​คุณ​ได้​ยิน​จาก​คำ​บรรยาย​สาธารณะ? อุทาหรณ์​ที่​บังเกิด​ผล​นั้น​ยาก​ที่​จะ​ลืม. นัก​เขียน​คน​หนึ่ง​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า อุทาหรณ์ “แปลง​เสียง​ให้​เป็น​ภาพ และ​ปล่อย​ผู้​ฟัง​ให้​คิด​ด้วย​ภาพ​ที่​สร้าง​อยู่​ใน​ความ​คิด​ของ​เขา.” เนื่อง​จาก​บ่อย​ครั้ง​เรา​เข้าใจ​ได้​ดี​ที่​สุด​ถ้า​เห็น​ภาพ อุทาหรณ์​จึง​ช่วย​ให้​เรา​จับ​แนว​ความ​คิด​ได้​ง่าย​กว่า. อุทาหรณ์​ทำ​ให้​ถ้อย​คำ​มี​ความ​หมาย​แจ่ม​ชัด​ยิ่ง​ขึ้น​และ​สอน​บท​เรียน​ที่​ประทับ​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​เรา.

2 ไม่​มี​ครู​คน​ใด​ใน​โลก​ชำนิ​ชำนาญ​ใน​การ​ใช้​อุทาหรณ์​มาก​ไป​กว่า​พระ​เยซู​คริสต์. เรื่อง​สอน​ใจ​หลาย​เรื่อง​ของ​พระ​เยซู​ยัง​คง​จำ​กัน​ได้​ดี​หลัง​จาก​ที่​ได้​กล่าว​เรื่อง​เหล่า​นั้น​ไป​แล้ว​เกือบ​สอง​พัน​ปี. * ทำไม​พระ​เยซู​มัก​ใช้​การ​สอน​วิธี​นี้? และ​อะไร​ทำ​ให้​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​บังเกิด​ผล​อย่าง​มาก?

เหตุ​ผล​ที่​พระ​เยซู​สอน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์

3. (ก) ตาม​มัดธาย 13:34, 35 อะไร​คือ​เหตุ​ผล​ประการ​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ใช้​อุทาหรณ์? (ข) อะไร​บ่ง​ชี้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ต้อง​เห็น​คุณค่า​ของ​การ​สอน​ด้วย​วิธี​นี้?

3 คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เหตุ​ผล​ที่​น่า​สังเกต​สอง​ประการ​ว่า​ทำไม​พระ​เยซู​สอน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์. เหตุ​ผล​ประการ​แรก​ที่​ทำ​เช่น​นั้น​คือ​เพื่อ​ทำ​ให้​คำ​พยากรณ์​ที่​เล็ง​ถึง​พระองค์​สำเร็จ. อัครสาวก​มัดธาย​เขียน​ดัง​นี้: “พระ​เยซู​ตรัส​แก่​ฝูง​ชน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์. แท้​จริง นอก​จาก​อุทาหรณ์​แล้ว พระองค์ไม่​ได้​ตรัส​สิ่ง​ใด​แก่​เขา; เพื่อ​สิ่ง​ที่​กล่าว​โดย​ทาง​ผู้​พยากรณ์​จะ​สำเร็จ​ที่​ว่า ‘เรา​จะ​ออก​ปาก​กล่าว​เป็น​อุทาหรณ์.’” (มัดธาย 13:34, 35, ล.ม.) “ผู้​พยากรณ์” ที่​มัดธาย​อ้าง​ถึง​คือ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ 78:2. หลาย​ศตวรรษ​ก่อน​พระ​เยซู​ประสูติ พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ดล​ใจ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ให้​เขียน​บท​พลง​นี้. เป็น​เรื่อง​น่า​สังเกต​มิ​ใช่​หรือ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​กำหนด​ไว้​หลาย​ร้อย​ปี​ล่วง​หน้า​ว่า​พระ​บุตร​ของ​พระองค์​จะ​สอน​ด้วย​อุทาหรณ์? เห็น​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ต้อง​เห็น​คุณค่า​ของ​การ​สอน​ด้วย​วิธี​นี้​อย่าง​แน่นอน!

4. พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​เช่น​ไร​ถึง​เหตุ​ผล​ที่​พระองค์​ใช้​อุทาหรณ์?

4 เหตุ​ผล​ประการ​ที่​สอง พระ​เยซู​เอง​ทรง​อธิบาย​ว่า​พระองค์​ใช้​อุทาหรณ์​เพื่อ​จะ​แยก​คน​ที่​ใจ​ด้าน​ชา​ออก​ไป. หลัง​จาก​พระองค์​ยก​อุทาหรณ์​เรื่อง​ผู้​หว่าน​พืช​แก่ “ฝูง​ชน​มาก​มาย” เหล่า​สาวก​ทูล​ถาม​ว่า “เหตุ​ใด​พระองค์​ตรัส​แก่​พวก​เขา​โดย​ใช้​อุทาหรณ์?” พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​ว่า “ความ​ลับ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​ทรง​โปรด​ให้​พวก​เจ้า​เข้าใจ แต่​คน​เหล่า​นั้น​ไม่​ทรง​โปรด​ให้​เข้าใจ. นี่​เป็น​เหตุ​ที่​เรา​กล่าว​แก่​เขา​โดย​ใช้​อุทาหรณ์ เพราะ​แม้​เขา​จะ​มอง ก็​ไม่​เห็น แม้​จะ​ฟัง ก็​ไม่​ได้​ยิน และ​ไม่​เข้าใจ; และ​คำ​พยากรณ์​ของ​ยะซายา​ก็​สำเร็จ​กับ​พวก​เขา ที่​ว่า ‘เมื่อ​ฟัง พวก​เจ้า​จะ​ได้​ยิน​แต่​ไม่​เข้าใจ​เลย; และ​เมื่อ​มอง พวก​เจ้า​จะ​มอง​แต่​ไม่​เห็น​เลย. เพราะ​หัวใจ​ของ​ชน​ชาติ​นี้​ด้าน​ชา​ไป.’”—มัดธาย 13:2, 10, 11, 13-15, ล.ม.; ยะซายา 6:9, 10.

5. อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​แยก​ผู้​ฟัง​ที่​หัวใจ​ถ่อม​ออก​จาก​ผู้​ที่​มี​หัวใจ​หยิ่ง​ทะนง​อย่าง​ไร?

5 เป็น​เช่น​ไร​ที่​ว่า​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​คัด​แยก​ผู้​คน? บาง​กรณี ผู้​ฟัง​ของ​พระองค์​ต้อง​สืบ​เสาะ​เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ความ​หมาย​แห่ง​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​ได้​อย่าง​เต็ม​ที่. คน​ที่​หัวใจ​ถ่อม​ถูก​กระตุ้น​ให้​ขอ​คำ​อธิบาย​เพิ่ม​เติม. (มัดธาย 13:36; มาระโก 4:34) อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​จึง​เปิด​เผย​ความ​จริง​ให้​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​หัวใจ​ของ​พวก​เขา​กระหาย​ความ​จริง แต่​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​ปก​ปิด​ความ​จริง​ไว้​จาก​คน​ที่​มี​หัวใจ​หยิ่ง​ทะนง. พระ​เยซู​ช่าง​เป็น​ครู​ที่​น่า​ทึ่ง​จริง ๆ! ตอน​นี้ ขอ​ให้​เรา​ตรวจ​สอบ​ปัจจัย​บาง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​บังเกิด​ผล​อย่าง​มาก.

เลือก​ว่า​จะ​ให้​ราย​ละเอียด​ส่วน​ใด​ใน​อุทาหรณ์

6-8. (ก) เหล่า​ผู้​ฟัง​ใน​สมัย​ของ​พระ​เยซู​ยัง​ไม่​มี​อะไร​เพื่อ​ช่วย​พวก​เขา​ให้​ระลึก​ถึง​สิ่ง​ที่​พระองค์​ได้​ตรัส? (ข) ตัว​อย่าง​อะไร​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เลือก​ว่า​จะ​ให้​ราย​ละเอียด​ใน​ส่วน​ใด?

6 คุณ​เคย​สงสัย​ไหม​ว่า​จะ​เป็น​เช่น​ไร​ที่​เหล่า​สาวก​ใน​สมัย​พระ​เยซู​ได้​ฟัง​พระองค์​สอน​โดย​ตรง? แม้​ว่า​พวก​เขา​มี​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ที่​ได้​ฟัง​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​เยซู แต่​พวก​เขา​ยัง​ไม่​มี​คำ​สอน​ที่​บันทึก​ไว้​ใน​รูป​ข้อ​เขียน​สำหรับ​ค้น​ดู​เพื่อ​ช่วย​เขา​ให้​ระลึก​ถึง​สิ่ง​ที่​พระองค์​ได้​ตรัส. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น พวก​เขา​ต้อง​จด​จำ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ไว้​ใน​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​ตน. โดย​การ​ใช้​อุทาหรณ์​อย่าง​ชำนิ​ชำนาญ พระ​เยซู​ทำ​ให้​พวก​เขา​จด​จำ​สิ่ง​ที่​พระองค์​สอน​ได้​ง่าย​ขึ้น. ทำ​เช่น​นั้น​โดย​วิธี​ใด?

7 พระ​เยซู​ทรง​เลือก​ว่า​จะ​ให้​ราย​ละเอียด​ส่วน​ใด​ใน​อุทาหรณ์. เมื่อ​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​หรือ​เมื่อ​จำเป็น​เพื่อ​จะ​เน้น พระองค์​จะ​ใส่​ใจ​ให้​ราย​ละเอียด​ส่วน​นั้น​เป็น​พิเศษ. ดัง​นั้น พระองค์​จึง​ระบุ​ว่า​แกะ​กี่​ตัว​ที่​เจ้าของ​ได้​ละ​ไว้​ขณะ​ไป​ตาม​หา​แกะ​อีก​ตัว​หนึ่ง​ที่​หลง​หาย​ไป, กี่​ชั่วโมง​ที่​ลูกจ้าง​ทำ​งาน​ใน​สวน​องุ่น, และ​กี่​ตะลันต์​ที่​นาย​ได้​ฝาก​ไว้​กับ​บ่าว.—มัดธาย 18:12-14; 20:1-16; 25:14-30.

8 ใน​ขณะ​เดียว​กัน พระ​เยซู​ก็​ตัด​ราย​ละเอียด​ที่​ไม่​จำเป็น​ออก​ไป​ที่​อาจ​เป็น​อุปสรรค​ต่อ​การ​เข้าใจ​ความ​หมาย​ของ​อุทาหรณ์. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​อุทาหรณ์​เรื่อง​ทาส​ที่​ไม่​ยอม​ยก​หนี้ ไม่​มี​คำ​อธิบาย​ว่า​ทาส​คน​นั้น​เป็น​หนี้​มาก​ถึง 60,000,000 เดนาริอน​ได้​อย่าง​ไร. พระ​เยซู​ทรง​เน้น​ถึง​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​ให้​อภัย. ประเด็น​สำคัญ​ไม่​ได้​อยู่​ที่​ว่า​ทาส​คน​นั้น​ก่อ​หนี้​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร แต่​อยู่​ที่​ว่า​เขา​ได้​รับ​การ​ยก​หนี้ แล้ว​ต่อ​มา​เขา​ได้​ปฏิบัติ​เช่น​ไร​กับ​เพื่อน​ทาส​ที่​เป็น​หนี้​เขา​ด้วย​เงิน​เพียง​เล็ก​น้อย​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว. (มัดธาย 18:23-35, ฉบับ​แปล​ใหม่) คล้ายคลึง​กัน ใน​อุทาหรณ์​เรื่อง​บุตร​สุรุ่ยสุร่าย พระ​เยซู​ไม่​ได้​อธิบาย​ว่า​ทำไม​จู่ ๆ บุตร​คน​เล็ก​ถึง​อยาก​ได้​มรดก​ส่วน​ของ​ตน​และ​ทำไม​เขา​ได้​ผลาญ​มรดก​นั้น. แต่​พระ​เยซู​พรรณนา​ราย​ละเอียด​ว่า​บิดา​ของ​เขา​รู้สึก​และ​แสดง​ปฏิกิริยา​เช่น​ไร​เมื่อ​บุตร​คน​เล็ก​ของ​เขา​กลับ​ใจ​และ​กลับ​มา​บ้าน. ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​ปฏิกิริยา​ของ​บิดา​นั้น​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​เน้น​จุด​สำคัญ​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​อภัย “อย่างล้น​เหลือ.”—ยะซายา 55:7, ฉบับ​แปล​ใหม่; ลูกา 15:11-32.

9, 10. (ก) เมื่อ​บรรยาย​ภาพ​ตัว​ละคร​ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์ พระ​เยซู​ทรง​มุ่ง​เน้น​ไป​ที่​สิ่ง​ใด? (ข) พระ​เยซู​ทรง​ทำ​เช่น​ไร​เพื่อ​ช่วย​ผู้​ฟัง​ใน​สมัย​พระองค์​และ​คน​อื่น ๆ ให้​จด​จำ​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​ได้​ง่าย​ขึ้น?

9 พระ​เยซู​ยัง​ระมัดระวัง​ใน​การ​บรรยาย​ภาพ​ตัว​ละคร​ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​ด้วย. แทน​ที่​จะ​พรรณนา​ราย​ละเอียด​รูป​ลักษณ์​ของ​ตัว​ละคร บ่อย​ครั้ง​พระ​เยซู​มุ่ง​เน้น​ไป​ยัง​การ​กระทำ​หรือ​ปฏิกิริยา​ของ​ตัว​ละคร​ใน​ฉาก​เหตุ​การณ์​ที่​พระองค์​ได้​เล่า. ด้วย​เหตุ​นั้น แทน​ที่​จะ​พรรณนา​ว่า​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย​นั้น​มี​รูป​ร่าง​หน้า​ตา​เช่น​ไร พระ​เยซู​ทรง​เล่า​ถึง​สิ่ง​ที่​สำคัญ​กว่า​คือ วิธี​ที่​ชาว​ซะมาเรีย​ผู้​มี​ใจ​เมตตา​นี้​เข้า​ไป​ช่วยเหลือ​ชาว​ยิว​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​นอน​บาดเจ็บ​อยู่​ที่​ถนน. พระ​เยซู​ให้​ราย​ละเอียด​ที่​จำเป็น​เพื่อ​สอน​ว่า​ความ​รัก​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​นั้น​ควร​ครอบ​คลุม​ไป​ถึง​ผู้​มี​เชื้อชาติ​หรือ​สัญชาติ​ต่าง​กับ​เรา.—ลูกา 10:29, 33-37.

10 การ​ที่​พระ​เยซู​ระมัดระวัง​ใน​การ​ให้​ราย​ละเอียด​ทำ​ให้​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​รวบรัด​และ​ไม่​มี​สิ่ง​ที่​ไม่​จำเป็น. โดย​การ​ทำ​เช่น​นั้น พระองค์​จึง​ช่วย​ผู้​ฟัง​ใน​สมัย​พระองค์​และ​ผู้​คน​อีก​นับ​ไม่​ถ้วน​ที่​จะ​อ่าน​พระ​ธรรม​กิตติคุณ​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​ใน​สมัย​ต่อ​มา​ให้​จด​จำ​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​และ​บทเรียน​อัน​มี​ค่า​ใน​อุทาหรณ์​เหล่า​นั้น​ได้​ง่าย​ขึ้น.

นำ​เอา​เรื่อง​ราว​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​มา​ใช้​ใน​อุทาหรณ์

11. จง​ให้​ตัว​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​อาศัย​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​พระองค์​คง​ได้​พบ​เห็น​ขณะ​เจริญ​วัย​ใน​มณฑล​แกลิลี.

11 พระ​เยซู​ทรง​มี​ความ​ชำนิ​ชำนาญ​ใน​การ​ใช้​อุทาหรณ์​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ชีวิต​ประจำ​วัน​ของ​ผู้​คน. อุทาหรณ์​หลาย​เรื่อง​ของ​พระองค์​อาศัย​สิ่ง​ที่​พระองค์​คง​ได้​พบ​เห็น​ขณะ​เจริญ​วัย​ใน​มณฑล​แกลิลี (ฆาลิลาย). ขอ​ให้​คิด​สัก​ครู่​ถึง​ชีวิต​ใน​ช่วง​ต้น ๆ ของ​พระองค์. บ่อย​ครั้ง​สัก​เพียง​ไร​ที่​พระ​เยซู​ได้​เห็น​มารดา​ของ​พระองค์​ทำ​ขนมปัง​โดย​การ​นำ​เอา​แป้ง​เชื้อ​ที่​ผ่าน​การ​หมัก​ซึ่ง​เก็บ​ไว้​จาก​การ​ทำ​ขนมปัง​คราว​ก่อน​มา​เจือ​ลง​ใน​แป้ง​เพื่อ​ทำ​ให้​ขึ้น​ฟู? (มัดธาย 13:33) กี่​ครั้ง​ที่​พระองค์​ได้​เฝ้า​ดู​ชาว​ประมง​หย่อน​อวน​ลง​ใน​น้ำ​สี​ฟ้า​ใส​ของ​ทะเล​แกลิลี? (มัดธาย 13:47) บ่อย​แค่​ไหน​ที่​พระองค์​ได้​เห็น​เด็ก ๆ เล่น​กัน​กลาง​ตลาด? (มัดธาย 11:16) พระ​เยซู​คง​สังเกต​ดู​สิ่ง​อื่น ๆ ที่​พบ​เห็น​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​เพื่อ​หา​วิธี​นำ​มา​ใช้​ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์ เช่น การ​หว่าน​เมล็ด​พืช, งาน​เลี้ยง​สมรส​ที่​มี​ความ​ชื่นชม​ยินดี, และ​นา​ข้าว​สุก​เหลือง​ที่​ต้อง​ประกาย​แสง​ตะวัน.—มัดธาย 13:3-8; 25:1-12; มาระโก 4:26-29.

12, 13. อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​ข้าว​ดี​และ​ข้าว​ละมาน​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​พระองค์​ทรง​คุ้น​เคย​กับ​สถานการณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​ท้องถิ่น?

12 จึง​ไม่​น่า​ประหลาด​ใจ​ที่​มี​เหตุ​การณ์​หรือ​สถานการณ์​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​แทรก​อยู่​มาก​มาย​ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู. ดัง​นั้น เพื่อ​เรา​จะ​เห็น​ถึง​ความ​ชำนาญ​ใน​การ​ใช้​วิธีการ​สอน​นี้​ของ​พระองค์​อย่าง​เต็ม​ที่​ยิ่ง​ขึ้น จึง​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​พิจารณา​ว่า​ถ้อย​คำ​ของ​พระองค์​มี​ความ​หมาย​เช่น​ไร​สำหรับ​ผู้​ฟัง​ชาว​ยิว. ขอ​เรา​ดู​สัก​สอง​ตัว​อย่าง.

13 ตัว​อย่าง​แรก ใน​อุทาหรณ์​เรื่อง​ข้าว​ดี​กับ​ข้าว​ละมาน พระ​เยซู​เล่า​ว่า​ชาย​คน​หนึ่ง​ได้​หว่าน​เมล็ด​ข้าว​ดี​ใน​นา​ของ​ตน แต่ “ศัตรู” บุกรุก​เข้า​มา​ใน​นา​แล้ว​หว่าน​เมล็ด​ข้าว​ละมาน​ปะปน​กับ​เมล็ด​ข้าว​ดี. ทำไม​พระ​เยซู​เลือก​การ​กระทำ​ที่​มุ่ง​ร้าย​เช่น​นั้น? จำ​ไว้​ว่า​พระองค์​เล่า​อุทาหรณ์​นี้​ใกล้​ทะเล​แกลิลี​และ​ดู​เหมือน​ว่า​ชาว​แกลิลี​ส่วน​ใหญ่​ทำ​เกษตรกรรม​เป็น​อาชีพ​หลัก. จะ​มี​อะไร​ก่อ​ความ​เสียหาย​แก่​ชาว​นา​ได้​มาก​ไป​กว่า​การ​ที่​ศัตรู​แอบ​เข้า​มา​ใน​นา​ของ​เขา​และ​หว่าน​เมล็ด​ข้าว​ละมาน​ไว้? กฎหมาย​ฝ่าย​โลก​ที่​ใช้​กัน​ใน​เวลา​นั้น​มี​ข้อ​บัญญัติ​ที่​บ่ง​ชี้​ว่า​มี​การ​บุกรุก​เพื่อ​ทำ​เช่น​นั้น​จริง. เห็น​ได้​ชัด​มิ​ใช่​หรือ​ว่า​พระ​เยซู​ใช้​สถานการณ์​ที่​ผู้​ฟัง​ของ​พระองค์​เข้าใจ​ได้?—มัดธาย 13:1, 2, 24-30.

14. ใน​อุทาหรณ์​เรื่อง​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย ทำไม​การ​ที่​พระ​เยซู​ใช้​ถนน ‘จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ’ เพื่อ​นำ​เสนอ​เรื่อง​จึง​มี​นัย​สำคัญ?

14 ตัว​อย่าง​ที่​สอง ขอ​ให้​นึก​ถึง​อุทาหรณ์​เรื่อง​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย. พระ​เยซู​เริ่ม​เล่า​เรื่อง​ดัง​นี้: “มี​คน​หนึ่ง​ลง​ไป​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​จะ​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ, และ​เขา​ถูก​พวก​โจร​ปล้น โจร​นั้น​ได้​แย่ง​ชิง​เสื้อ​ผ้า​ของ​เขา​และ​ทุบ​ตี, แล้ว​ก็​ละ​ทิ้ง​เขา​ไว้​เกือบ​จะ​ตาย​แล้ว.” (ลูกา 10:30) การ​ที่​พระ​เยซู​ใช้​ถนน ‘จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ’ เพื่อ​นำ​เสนอ​เรื่อง​นั้น​มี​นัย​สำคัญ. พระองค์​อยู่​ใน​มณฑล​ยูเดีย​ไม่​ไกล​จาก​กรุง​เยรูซาเลม​ขณะ​เล่า​อุทาหรณ์​นี้ ดัง​นั้น ผู้​ที่​ฟัง​พระองค์​คง​จะ​รู้​จัก​ถนน​ที่​ว่า​นี้. ถนน​สาย​นี้​ขึ้น​ชื่อ​ด้าน​ความ​ไม่​ปลอด​ภัย โดย​เฉพาะ​ถ้า​เดิน​ทาง​ลำพัง​คน​เดียว. ถนน​สาย​นี้​ทั้ง​เปลี่ยว​และ​คดเคี้ยว​ไป​มา​ตลอด​เส้น​ทาง ทำ​ให้​พวก​โจร​มี​ที่​ซุ่ม​ซ่อน​ตัว​มาก​มาย.

15. เหตุ​ใด​จึง​ไม่​มี​ใคร​สามารถ​อ้าง​เหตุ​ผล​ที่​ฟัง​ขึ้น​ถึง​ความ​เฉยเมย​ของ​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​ใน​อุทาหรณ์​เรื่อง​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย?

15 ยัง​มี​สิ่ง​อื่น​น่า​สังเกต​ด้วย​เมื่อ​พระ​เยซู​กล่าว​ถึง​ถนน ‘ลง​ไป​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ.’ ตาม​ที่​เล่า​ใน​อุทาหรณ์ ที​แรก​ปุโรหิต​คน​หนึ่ง​และ​ต่อ​มา​ชาว​เลวี​อีก​คน​หนึ่ง​ต่าง​ก็​เดิน​ทาง​ผ่าน​ถนน​สาย​นั้น แม้​ว่า​ไม่​มี​ใคร​หยุด​เพื่อ​ช่วยเหลือ​ชาย​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย​นั้น. (ลูกา 10:31, 32) พวก​ปุโรหิต​รับใช้​ที่​พระ​วิหาร​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​และ​ชาว​เลวี​เป็น​ผู้​ช่วย​ของ​เขา. ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​หลาย​คน​พัก​อาศัย​ใน​เมือง​เยริโค (ยะริโฮ) เมื่อ​พวก​เขา​ไม่​ได้​ทำ​งาน​ที่​พระ​วิหาร​เนื่อง​จาก​เมือง​เยริโค​อยู่​ห่าง​จาก​กรุง​เยรูซาเลม​เพียง 23 กิโลเมตร. ดัง​นั้น พวก​เขา​คง​มี​โอกาส​ใช้​ถนน​สาย​นี้​ใน​การ​เดิน​ทาง​อย่าง​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย. ขอ​ให้​สังเกต​ด้วย​ว่า​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​ใน​อุทาหรณ์​นี้​เดิน​ทาง​ไป​ตาม​ถนน “จาก กรุง​ยะรูซาเลม” ดัง​นั้น​พวก​เขา​เดิน​ทาง​มุ่ง​หน้า​ออก จาก​พระ​วิหาร. * จึง​ไม่​มี​ใคร​อ้าง​เหตุ​ผล​ที่​ฟัง​ขึ้น​ได้​เลย​ถึง​ความ​เฉยเมยของ​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​ว่า ‘ที่​พวก​เขา​หลีก​เลี่ยง​ไม่​ช่วย​ชาย​ที่​บาดเจ็บ​ปาง​ตาย​นั้น​ก็​เพราะ​ชาย​คน​นั้น​ดู​เหมือน​ตาย​แล้ว และ​การ​แตะ​ต้อง​ศพ​จะ​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​มี​คุณสมบัติ​ชั่ว​คราว​สำหรับ​การ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​ใน​พระ​วิหาร.’ (เลวีติโก 21:1; อาฤธโม 19:11, 16) เห็น​ได้​ชัด​มิ​ใช่​หรือ​ว่า​ผู้​ที่​ฟัง​พระ​เยซู​รู้​จัก​คุ้น​เคย​กับ​สิ่ง​ต่าง ๆ ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​เป็น​อย่าง​ดี?

นำ​เอา​สิ่ง​ทรง​สร้าง​มา​ใช้​ใน​อุทาหรณ์

16. เหตุ​ใด​จึง​ไม่​น่า​ประหลาด​ใจ​ที่​พระ​เยซู​มี​ความ​รู้​อย่าง​ลึกซึ้ง​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง?

16 เรื่อง​สอน​ใจ​และ​อุทาหรณ์​หลาย​เรื่อง​ของ​พระ​เยซู​เผย​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​มี​ความ​รู้​ใน​เรื่อง​พืช, สัตว์, และ​สภาพ​อากาศ. (มัดธาย 6:26, 28-30; 16:2, 3) พระองค์​ได้​ความ​รู้​ดัง​กล่าว​มา​จาก​ที่​ไหน? ขณะ​ที่​เจริญ​วัย​ขึ้น​ใน​มณฑล​แกลิลี พระองค์​ย่อม​มี​โอกาส​มาก​มาย​ใน​การ​สังเกต​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ต่าง ๆ ของ​พระ​ยะโฮวา. ยิ่ง​กว่า​นั้น พระ​เยซู​ทรง​เป็น “ผู้​แรก​ที่​บังเกิด​ก่อน​สรรพสิ่ง​ทรง​สร้าง” และ​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ใช้​พระองค์​เป็น “นาย​ช่าง” เพื่อ​สร้าง​สรรพสิ่ง. (โกโลซาย 1:15, 16, ล.ม.; สุภาษิต 8:30, 31, ล.ม.) จึง​ไม่​น่า​ประหลาด​ใจ​มิ​ใช่​หรือ​ที่​พระ​เยซู​มี​ความ​รู้​อย่าง​ลึกซึ้ง​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง? ขอ​ให้​เรา​มา​ดู​วิธี​ที่​พระ​เยซู​นำ​เอา​ความ​รู้​นี้​ไป​ใช้​อย่าง​ชำนิ​ชำนาญ​ใน​การ​สอน​ของ​พระองค์.

17, 18. (ก) ถ้อย​คำ​ของ​พระ​เยซู​ซึ่ง​บันทึก​ที่​โยฮัน​บท 10 เผย​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ว่า​พระองค์​ทรง​รู้​จัก​คุ้น​เคย​นิสัย​ของ​แกะ​เป็น​อย่าง​ดี? (ข) ผู้​ไป​เยือน​ดินแดน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​สังเกต​เห็น​ความ​ผูก​พัน​เช่น​ไร​ระหว่าง​ผู้​เลี้ยง​แกะ​กับ​แกะ​ของ​เขา?

17 หนึ่ง​ใน​บรรดา​อุทาหรณ์​ที่​ให้​ความ​รู้สึก​อ่อน​ละมุน​ที่​สุด​ของ​พระ​เยซู​นั้น​บันทึก​ไว้​ใน​โยฮัน​บท 10 ซึ่ง​พระองค์​เปรียบ​ความ​สัมพันธ์​ที่​ใกล้​ชิด​ระหว่าง​พระองค์​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​เหมือน​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​ผู้​เลี้ยง​แกะ​กับ​แกะ​ของ​เขา. ถ้อย​คำ​ของ​พระ​เยซู​เผย​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ทรง​รู้​จัก​คุ้น​เคย​นิสัย​ของ​แกะ​เป็น​อย่าง​ดี. พระองค์​ชี้​ว่า​แกะ​ยินดี​ที่​จะ​ติด​ตาม​ผู้​นำ และ​พวก​มัน​ติด​ตาม​ผู้​เลี้ยง​อย่าง​ซื่อ​สัตย์. (โยฮัน 10:2-4) ผู้​ไป​เยือน​ดินแดน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​สังเกต​เห็น​ความ​ผูก​พัน​เป็น​พิเศษ​นี้​ระหว่าง​ผู้​เลี้ยง​กับ​แกะ. เอช. บี. ทริสทรัม นัก​ธรรมชาติ​วิทยา​แห่ง​ศตวรรษ​ที่ 19 ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “ครั้ง​หนึ่ง ผม​เฝ้า​ดู​ผู้​เลี้ยง​แกะ​คน​หนึ่ง​เล่น​กับ​ฝูง​แกะ​ของ​เขา. เขา​แกล้ง​ทำ​เป็น​วิ่ง​หนี พวก​แกะ​วิ่ง​ไล่​ตาม​เขา​ไป​และ​โอบ​ล้อม​เขา​ไว้ . . . . ใน​ที่​สุด​แกะ​เหล่า​นั้น​ก็​เรียง​ตัว​เป็น​รูป​วง​กลม​และ​กระโดด​โลด​เต้น​รอบ ๆ เขา.”

18 ทำไม​แกะ​จึง​ตาม​ผู้​เลี้ยง​แกะ? พระ​เยซู​บอก​ว่า ‘เพราะ​แกะ​รู้​จัก​เสียง​ของ​ผู้​เลี้ยง.’ (โยฮัน 10:4) แกะ​รู้​จัก​เสียง​ของ​ผู้​เลี้ยง​จริง ๆ ไหม? จอร์จ เอ. สมิท เขียน​สิ่ง​ที่​เขา​ได้​พบ​เห็น​ไว้​ใน​หนังสือ​ภูมิ​ประเทศ​ทาง​ประวัติศาสตร์​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์ (ภาษา​อังกฤษ) ว่า “บาง​ครั้ง เรา​พักผ่อน​ตอนเที่ยง​ข้าง​บ่อ​น้ำ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ยูเดีย​ที่​มี​ผู้​เลี้ยง​แกะ​สาม​หรือ​สี่​คน​ลง​มา​ที่​นั่น​พร้อม​กับ​ฝูง​แกะ​ของ​เขา. ฝูง​แกะ​ของ​ผู้​เลี้ยง​แกะ​เหล่า​นั้น​มา​รวม​กลุ่ม​ปะปน​กัน​ที่​บ่อ​น้ำ และ​เรา​สงสัย​ว่า​ผู้​เลี้ยง​แกะ​แต่​ละ​คน​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​แกะ​ตัว​ไหน​เป็น​ของ​เขา. แต่​หลัง​จาก​พวก​แกะ​ได้​น้ำ​และ​เล่น​กัน​เสร็จ​แล้ว ผู้​เลี้ยง​ก็​ทยอย​กลับ​ขึ้น​ไป​คน​ละ​ฝั่ง​ของ​หุบเขา และ​แต่​ละ​คน​ก็​ร้อง​เรียก​แกะ​ด้วย​เสียง​ที่​มี​ลักษณะ​เฉพาะ และ​แกะ​ของ​ผู้​เลี้ยง​แต่​ละ​คน​ก็​แยก​กัน​ออก​จาก​กลุ่ม​กลับ​ไป​หา​ผู้​เลี้ยง​ของ​มัน​เป็น​ฝูง​แบบ​เดิม​อย่าง​มี​ระเบียบ​เหมือน​กับ​ตอน​ที่​พวก​มัน​มา.” พระ​เยซู​คง​ไม่​อาจ​หา​ตัว​อย่าง​อะไร​ที่​ดี​ไป​กว่า​นี้​เพื่อ​ใช้​เป็น​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​พระองค์​กับ​เหล่า​สาวก. หาก​เรา​ยอม​รับ​และ​เชื่อ​ฟัง​คำ​สอน​อีก​ทั้ง​ติด​ตาม​การ​นำ​ของ​พระองค์ เรา​จะ​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​เอา​ใจ​ใส่​ด้วย​ความ​รัก​และ​ความ​อ่อน​ละมุน​ของ “ผู้​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี.”—โยฮัน 10:11, ล.ม.

นำ​เอา​เหตุ​การณ์​ที่​ผู้​ฟัง​รู้​จัก​ดี​มา​ใช้​ใน​อุทาหรณ์

19. พระ​เยซู​ทรง​ใช้​เหตุ​ร้าย​อัน​น่า​เศร้า​สลด​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​ท้องถิ่น​อย่าง​บังเกิด​ผล​อย่าง​ไร​เพื่อ​หักล้าง​ความ​เชื่อ​ที่​ผิด?

19 อุทาหรณ์​ที่​บังเกิด​ผล​อาจ​อยู่​ใน​รูป​ของ​ประสบการณ์​หรือ​บทเรียน​ที่​ได้​จาก​เหตุ​การณ์​จริง​ที่​เกิด​ขึ้น. ครั้ง​หนึ่ง พระ​เยซู​ทรง​ใช้​ตัว​อย่าง​เหตุ​การณ์​ที่​เพิ่ง​เกิด​ขึ้น​เพื่อ​หักล้าง​ความ​เชื่อ​ผิด ๆ ที่​ว่า​เหตุ​ร้าย​อัน​น่า​เศร้า​สลด​ย่อม​เกิด​ขึ้น​กับ​คน​ที่​สม​ควร​จะ​ได้​รับ. พระองค์​ตรัส​ดัง​นี้: “สิบ​แปด​คน​นั้น​ที่​หอ​รบ​ที่​ซีโลอาม​ได้​พัง​ทับ​เขา​ตาย​เสีย​นั้น, ท่าน​ทั้ง​หลาย​คิด​ว่า​เขา​เป็น​คน​บาป​ยิ่ง​กว่า​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​อาศัย​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม​หรือ?” (ลูกา 13:4) พระ​เยซู​หา​เหตุ​ผล​หักล้าง​ความ​เชื่อ​เรื่อง​การ​กำหนด​เหตุ​การณ์​ล่วง​หน้า​ได้​อย่าง​น่า​จับ​ใจ. สิบ​แปด​คน​นั้น​ไม่​ได้​ตาย​เพราะ​บาป​บาง​อย่าง​ที่​กระตุ้น​ให้​พระเจ้า​ไม่​พอ​พระทัย. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น ความ​ตาย​อัน​น่า​เศร้า​สลด​นั้น​เป็น​ผล​จาก​วาระ​และ​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​โดย​ไม่​ทัน​คาด​คิด. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:11) โดย​วิธี​นี้ พระองค์​ทรง​หักล้าง​คำ​สอน​เท็จ​โดย​ยก​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​ผู้​ฟัง​ของ​พระองค์​รู้​จัก​ดี.

20, 21. (ก) เหตุ​ใด​พวก​ฟาริซาย​จึง​ตำหนิ​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู? (ข) พระ​เยซู​ใช้​เรื่อง​ราว​อะไร​จาก​พระ​คัมภีร์​เพื่อ​ให้​ตัว​อย่าง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​มุ่ง​หมาย​ให้​ใช้​พระ​บัญญัติ​เกี่ยว​กับ​วัน​ซะบาโต​อย่าง​เข้มงวด? (ค) จะ​มี​การ​พิจารณา​เรื่อง​อะไร​ใน​บทความ​ถัด​ไป?

20 พระ​เยซู​ทรง​ใช้​ตัว​อย่าง​จาก​พระ​คัมภีร์​ใน​การ​สอน​ของ​พระองค์​ด้วย. ขอ​ให้​หวน​นึก​ถึง​คราว​ที่​พวก​ฟาริซาย​ตำหนิ​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​เนื่อง​จาก​พวก​เขา​เด็ด​รวง​ข้าว​มา​กิน​ใน​วัน​ซะบาโต. ที่​จริง​แล้ว เหล่า​สาวก​ไม่​ได้​ละเมิด​พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า แต่​ละเมิด​ข้อ​ห้าม​ของ​พวก​ฟาริซาย​ที่​ตี​ความ​พระ​บัญญัติ​อย่าง​เข้มงวด​ว่า​อะไร​ถือ​เป็น​การ​กระทำ​ที่​ต้อง​ห้าม​ใน​วัน​ซะบาโต. เพื่อ​จะ​ให้​ตัว​อย่าง​ว่า​พระเจ้า​ไม่​เคย​มุ่ง​หมาย​ให้​ใช้​บัญญัติ​ของ​พระองค์​เกี่ยว​กับ​วัน​ซะบาโต​อย่าง​เข้มงวด​เช่น​นั้น พระ​เยซู​ทรง​อ้าง​ถึง​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​บันทึก​ไว้​ใน 1 ซามูเอล 21:3-6. เมื่อ​ดาวิด​กับ​พรรค​พวก​ของ​ท่าน​หิว พวก​เขา​หยุด​พัก​ที่​พลับพลา​ประชุม​และ​กิน​ขนมปัง​ถวาย​ที่​ได้​วาง​ก้อน​ใหม่​แทน​แล้ว. ปกติ ขนมปัง​ถวาย​ก้อน​เก่า​ที่​เก็บ​ออก​จาก​โต๊ะ​นั้น​สงวน​ไว้​ให้​พวก​ปุโรหิต​กิน. ถึง​กระนั้น ดาวิด​กับ​พรรค​พวก​ไม่​ถูก​ตำหนิ​ที่​กิน​ขนมปัง​เหล่า​นี้​ใน​สถานการณ์​พิเศษ​เช่น​นั้น. น่า​สังเกต​ว่า​นี่​เป็น​ตัว​อย่าง​เดียว​ที่​บันทึก​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​การ​กิน​ขนมปัง​ถวาย​โดย​คน​ที่​ไม่​ใช่​ปุโรหิต. พระ​เยซู​ทรง​รู้​เรื่อง​ราว​นั้น​ซึ่ง​นำ​มา​ใช้​ได้​พอ​ดี และ​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​ชาว​ยิว​ที่​ได้​ฟัง​พระองค์​ก็​คุ้น​เคย​กับ​เรื่อง​นี้​ดี.—มัดธาย 12:1-8.

21 ถูก​แล้ว พระ​เยซู​ทรง​เป็น​ครู​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่! เรา​อด​ไม่​ได้​ที่​จะ​พิศวง​ใน​ความ​สามารถ​ของ​พระองค์​ที่​ไม่​มี​ผู้​ใด​เทียบ​ใน​การ​ถ่ายทอด​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​ใน​วิธี​ที่​ผู้​ฟัง​ของ​พระองค์​สามารถ​เข้าใจ​ได้. แต่​เรา​จะ​เลียน​แบบ​การ​สอน​ของ​พระองค์​ได้​อย่าง​ไร? จะ​มี​การ​พิจารณา​เรื่อง​นี้​ใน​บทความ​ถัด​ไป.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 2 พระ​เยซู​ใช้​อุทาหรณ์​ใน​หลาย​รูป​แบบ​รวม​ทั้ง​ตัว​อย่าง, เรื่อง​เปรียบ​เทียบ, อุปมา, และ​อุปลักษณ์. พระองค์​มี​ชื่อเสียง​ใน​เรื่อง​การ​ใช้ ‘เรื่อง​สอน​ใจ’ (parable) ซึ่ง​มี​การ​นิยาม​ว่า​เป็น “เรื่อง​เล่า​สั้น ๆ ที่​ปกติ​แล้ว​แต่ง​ขึ้น​เพื่อ​ใช้​สอน​ความ​จริง​ทาง​ศาสนา​และ​ศีลธรรม.”

^ วรรค 15 กรุง​เยรูซาเลม​อยู่​สูง​กว่า​เมือง​เยริโค. ดัง​นั้น ใน​อุทาหรณ์​จึง​กล่าว​ว่า​ผู้​ที่​เดิน​ทาง ‘จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ’ จะ “ลง​ไป.”

คุณ​จำ​ได้​ไหม?

• ทำไม​พระ​เยซู​สอน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์?

• ตัว​อย่าง​อะไร​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​ใช้​อุทาหรณ์​ที่​ผู้​ฟัง​ใน​สมัย​ของ​พระองค์​เข้าใจ​ได้?

• พระ​เยซู​นำ​เอา​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ไป​ใช้​อย่าง​ชำนิ​ชำนาญ​ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​อย่าง​ไร?

• ใน​ทาง​ใด​ที่​พระ​เยซู​ใช้​ประโยชน์​จาก​เหตุ​การณ์​ที่​ผู้​ฟัง​ของ​พระองค์​รู้​จัก​คุ้น​เคย?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 15]

พระ​เยซู​เล่า​เรื่อง​ทาส​ผู้​ไม่​ยอม​ยก​หนี้​ที่​ถือ​ว่า​น้อย​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว และ​เล่า​เรื่อง​บิดา​ผู้​ให้​อภัย​บุตร ที่​ผลาญ​มรดก​ทั้ง​หมด​ของ​ตน

[ภาพ​หน้า 16]

อะไร​คือ​จุด​สำคัญ​ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย?

[ภาพ​หน้า 17]

แกะ​รู้​จัก​เสียง​ของ​ผู้​เลี้ยง​จริง ๆ ไหม?