ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ซาตานเทพนิยายหรือว่าตัวชั่วร้ายที่มีอยู่จริง?

ซาตานเทพนิยายหรือว่าตัวชั่วร้ายที่มีอยู่จริง?

ซาตาน​เทพนิยาย​หรือ​ว่า​ตัว​ชั่ว​ร้าย​ที่​มี​อยู่​จริง?

ต้น​กำเนิด​ของ​ความ​ชั่ว​ร้าย​ได้​กระตุ้น​ความ​สนใจ​ของ​คน​ช่าง​คิด​ตั้ง​แต่​ยุค​แรก ๆ ที​เดียว. อะ ดิกชันนารี ออฟ เดอะ ไบเบิล โดย​เจมส์ เฮสติงส์ กล่าว​ว่า “ใน​ตอน​เริ่ม​ต้น​แห่ง​จิต​สำนึก​ของ​มนุษย์ คน​เรา​พบ​ว่า​ตัว​เอง​เผชิญ​กับ​พลัง​อำนาจ​ซึ่ง​เขา​ไม่​สามารถ​ควบคุม​ได้ และ​เป็น​พลัง​ซึ่ง​ก่อ​ผล​กระทบ​ที่​เป็น​อันตราย​หรือ​ยัง​ความ​เสียหาย.” หนังสือ​อ้างอิง​เล่ม​เดียว​กัน​นี้​ยัง​กล่าว​ด้วย​ว่า “มนุษยชาติ​ใน​ยุค​ต้น ๆ ได้​สืบ​หา​สาเหตุ​ต่าง ๆ โดย​สัญชาตญาณ และ​อธิบาย​พลัง​อำนาจ​และ​ปรากฏการณ์​อื่น ๆ ใน​ธรรมชาติ​นั้น​ว่า​เป็น​บุคคล.”

ตาม​ที่​นัก​ประวัติศาสตร์​กล่าว​ไว้ ความ​เชื่อ​ใน​เทพเจ้า​ที่​เป็น​ผี​ปิศาจ​และ​วิญญาณ​ที่​ชั่ว​ร้าย​ทั้ง​หลาย​นั้น​อาจ​สืบ​ร่องรอย​ย้อน​ไป​ถึง​ประวัติศาสตร์​แรก​สุด​ของ​เมโสโปเตเมีย. ชาว​บาบิโลน​โบราณ​เชื่อ​ว่า​พระ​เนอร์กัล​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ครอง​ยมโลก หรือ “ดินแดน​ที่​ไป​แล้ว​ไม่​หวน​กลับ” นั้น เป็น​เทพเจ้า​ที่​ชอบ​ความ​รุนแรง​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​นาม “ผู้​เผา​ผลาญ.” พวก​เขา​ยัง​กลัว​พวก​ผี​ปิศาจ​ด้วย ทั้ง​พยายาม​เอา​ใจ​ผี​เหล่า​นั้น​โดย​การ​ท่อง​เวทมนตร์. ใน​เทพนิยาย​ของ​อียิปต์ เซต​เป็น​เทพเจ้า​แห่ง​ความ​ชั่ว​ร้าย “มี​การ​แสดง​ภาพ​ไว้​ว่า​มี​ลักษณะ​ของ​สัตว์​ประหลาด​ซึ่ง​มี​สัน​จมูก​บาง​และ​งอ​งุ้ม, มี​หู​รูป​ทรง​สี่​เหลี่ยม​ตั้ง​ชี้​ขึ้น​และ​หาง​เป็น​สาม​ง่าม.”—ลารุสส์ เอ็นไซโคลพีเดีย ออฟ มิทโทโลยี.

แม้​ชาว​กรีก​และ​ชาว​โรมัน​มี​เทพเจ้า​ต่าง ๆ ที่​ดี​และ​ที่​มุ่ง​ร้าย​ก็​ตาม พวก​เขา​ไม่​มี​เทพเจ้า​องค์​ใด​ที่​ชั่ว​ร้าย​อย่าง​โดด​เด่น. นัก​ปรัชญา​ของ​พวก​เขา​สอน​ว่า มี​หลัก​สอง​อย่าง​ที่​ตรง​กัน​ข้าม​กัน. สำหรับ​เอ็มเพโดเคลส หลัก​ดัง​กล่าว​นั้น​คือ​ความ​รัก​กับ​ความ​ไม่​ลง​รอย​กัน. สำหรับ​เพลโต โลก​มี “จิตวิญญาณ” สอง​อย่าง อย่าง​หนึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​ดี​และ​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​สิ่ง​ชั่ว​ร้าย. ดัง​ที่​ชอร์ช มีนัวส์​กล่าว​ใน​หนังสือ​ของ​เขา​ชื่อ​เลอ ดิอับเลอ (พญา​มาร) ว่า “ศาสนา​แบบ​นอก​รีต​ของ​กรีก-โรมัน​ไม่​ยอม​รับ​การ​ดำรง​อยู่​ของ​พญา​มาร.”

ใน​อิหร่าน ศาสนา​โซโรอัสเตอร์​สอน​ว่า​เทพเจ้า​องค์​สูง​สุด​ชื่อ​อะหุระ มาซดะ หรือ​ออร์มาซด์ ได้​สร้าง​แอ​งก​รา ไมน์ยู หรือ​อารี​มาน​ซึ่ง​เลือก​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ร้าย และ​ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​กลาย​เป็น​วิญญาณ​ที่​ชอบ​ทำลาย หรือ​ผู้​ทำลาย.

ใน​ศาสนา​ยิว มี​การ​เสนอ​ภาพ​ซาตาน​อย่าง​ง่าย ๆ ว่า​เป็น​ปรปักษ์​ของ​พระเจ้า​ผู้​ซึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​บาป. แต่​หลัง​จาก​หลาย​ศตวรรษ​ผ่าน​ไป ภาพ​ที่​มี​การ​เสนอ​นั้น​ได้​กลาย​เป็น​เรื่อง​ที่​แปดเปื้อน​ด้วย​แนว​คิด​ต่าง ๆ แบบ​นอก​รีต. สารานุกรม​จูไดกา กล่าว​ว่า “การ​เปลี่ยน​แปลง​อย่าง​ขนาน​ใหญ่​ได้​เกิด​ขึ้น . . . ภาย​ใน​ไม่​กี่​ร้อย​ปี​ก่อน​สากล​ศักราช. ใน​ช่วง​นี้​ศาสนา [ของ​ชาว​ยิว] . . . ได้​รับ​เอา​ลักษณะ​หลาย​อย่าง​ของ​ความ​เชื่อ​ใน​หลัก​ที่​ว่า​มี​สอง​สิ่ง​ที่​ตรง​กัน​ข้าม​กัน ซึ่ง​ใน​หลัก​ดัง​กล่าว​พระเจ้า​และ​พลัง​อำนาจ​ของ​ความ​ดี​และ​ความ​จริง​ถูก​ต่อ​ต้าน​ทั้ง​ใน​สวรรค์​และ​บน​แผ่นดิน​โลก​โดย​พลัง​อำนาจ​ของ​ความ​ชั่ว​ร้าย​และ​การ​หลอก​ลวง. ความ​เชื่อ​เช่น​นี้​ดู​เหมือน​อยู่​ภาย​ใต้​อิทธิพล​ของ​ศาสนา​เปอร์เซีย.” เดอะ คอนไซส์ จูวิช เอ็นไซโคลพีเดีย แจ้ง​ว่า “มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​ใน​การ​ปก​ป้อง​ไว้​จาก​พวก​ผี​ปิศาจ​โดย​การ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​และ​โดย​ใช้​เครื่องราง.”

เทววิทยา​คริสเตียน​ที่​ออก​หาก

เช่น​เดียว​กับ​ที่​ศาสนา​ยิว​ได้​รับ​เอา​แนว​คิด​ที่​ไม่​ได้​มา​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​ซาตาน​และ​พวก​ผี​ปิศาจ คริสเตียน​ที่​ออก​หาก​ก็​ได้​ขยาย​แนว​คิด​ที่​ไม่​ถูก​หลัก​พระ​คัมภีร์. พจนานุกรม ดิ แองเคอร์ ไบเบิล กล่าว​ว่า “หนึ่ง​ใน​แนว​คิด​ทาง​เทววิทยา​ที่​ผิด​ธรรมดา​ที่​สุด​คือ​ข้อ​ที่​ว่า พระเจ้า​ทรง​ไถ่​เพื่อ​ปลด​ปล่อย​ไพร่​พล​ของ​พระองค์​โดย​การ​ชำระ​ค่า​ไถ่​ให้​ซาตาน.” อิเรแนอุส (ศตวรรษ​ที่​สอง​สากล​ศักราช) ได้​เสนอ​แนว​คิด​นี้. ได้​มี​การ​ขยาย​แนว​คิด​นั้น​ต่อ​ไป​โดย​ออริเกน (ศตวรรษ​ที่​สาม​สากล​ศักราช) ผู้​ซึ่ง​อ้าง​ว่า “พญา​มาร​ได้​รับ​สิทธิ​ตาม​กฎหมาย​ใน​ตัว​มนุษย์” และ​เป็น​ผู้​ที่​ถือ​ว่า “ความ​ตาย​ของ​พระ​คริสต์ .. . เป็น​ค่า​ไถ่​ที่​จ่าย​ให้​พญา​มาร.”—ประวัติ​ของ​หลัก​คำ​สอน โดย​อะดอล์ฟ ฮาร์นัค.

ตาม​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​สารานุกรม เดอะ คาทอลิก นั้น “เป็น​เวลา​ประมาณ​หนึ่ง​พัน​ปี [แนว​คิด​ที่​ว่า​มี​การ​ชำระ​ค่า​ไถ่​ให้​พญา​มาร] มี​บทบาท​ที่​โดด​เด่น​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​เทววิทยา” และ​ยัง​คง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​แห่ง​ความ​เชื่อ​ของ​คริสตจักร. นัก​เขียน​แห่ง​คริสตจักร​โบราณ​คน​อื่น ๆ รวม​ทั้ง​เอากุสติน (ศตวรรษ​ที่​สี่-ห้า​สากล​ศักราช) ได้​รับ​เอา​แนว​คิด​ที่​ว่า​มี​การ​ชำระ​ค่า​ไถ่​ให้​ซาตาน. ใน​ที่​สุด เมื่อ​มา​ถึง​ศตวรรษ​ที่ 12 สากล​ศักราช นัก​เทววิทยา​คาทอลิก​ชื่อ​แอนเซล์ม​และ​อะบี​ลาร์​ได้​สรุป​ว่า​ไม่​ได้​มี​การ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ของ​พระ​คริสต์​ให้​ซาตาน แต่​ถวาย​ให้​พระเจ้า.

การ​เชื่อ​โชค​ลาง​ใน​ยุค​กลาง

ถึง​แม้​สภา​คริสตจักร​คาทอลิก​ส่วน​ใหญ่​ยัง​คง​เงียบ​เสียง​อย่าง​น่า​สังเกต​ใน​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​ซาตาน ใน​ปี ส.ศ. 1215 การ​ประชุม​สังคายนา​ลาเทอรัน​ที่​สี่​ได้​เสนอ​สิ่ง​ที่​สารานุกรม​คาทอลิก​ฉบับ​ใหม่ เรียก​ว่า “คำ​แถลง​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ.” กฎ​ข้อ 1 กล่าว​ว่า “เดิม​ที​พญา​มาร​และ​ผี​ปิศาจ​อื่น ๆ ถูก​พระเจ้า​สร้าง​ให้​ดี แต่​พวก​มัน​กลับ​ชั่ว​ร้าย​ไป​โดย​การ​กระทำ​ของ​ตัว​เอง.” กฎ​ข้อ​นั้น​ยัง​กล่าว​อีก​ว่า​พวก​มัน​พยายาม​อย่าง​แข็งขัน​ที่​จะ​ล่อ​ลวง​มนุษยชาติ. ผู้​คน​มาก​มาย​ถูก​ครอบ​งำ​ด้วย​ความ​คิด​ประการ​หลัง​นี้​ใน​ระหว่าง​ยุค​กลาง. ซาตาน​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​สิ่ง​ใด ๆ ที่​ดู​เหมือน​ว่า​ผิด​ธรรมดา เช่น ความ​เจ็บ​ป่วย​ที่​อธิบาย​สาเหตุ​ไม่​ได้, ความ​ตาย​อย่าง​กะทันหัน, หรือ​ผล​เก็บ​เกี่ยว​ที่​ไม่​ดี. ใน​ปี ส.ศ. 1233 โปป​เกรกอรี​ที่ 9 ได้​ออก​คำ​สั่ง​ต่อ​ต้าน​พวก​นอก​รีต รวม​ทั้ง​คำ​สั่ง​ที่​ให้​ต่อ​ต้าน​พวก​ลูซิเฟอร์ ซึ่ง​เข้าใจ​ว่า​เป็น​ผู้​นมัสการ​พญา​มาร.

ใน​ไม่​ช้า​ความ​เชื่อ​ที่​ว่า​พญา​มาร​หรือ​ผี​ปิศาจ​ของ​มัน​สามารถ​เข้า​สิง​ผู้​คน​ได้​ทำ​ให้​เกิด​ความ​หวาด​ระแวง​โดย​รวม นั่น​คือ​ความ​กลัว​แบบ​ประสาท​หลอน​ใน​เรื่อง​ไสยศาสตร์​และ​เวทมนตร์​คาถา. ตั้ง​แต่​ศตวรรษ​ที่ 13 จน​ถึง​ศตวรรษ​ที่ 17 ความ​กลัว​พวก​แม่มด​ได้​แพร่​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว​ตลอด​ทั่ว​ยุโรป​และ​ไป​ถึง​อเมริกา​เหนือ​พร้อม​กับ​ผู้​บุกเบิก​อาณานิคม​ที่​เป็น​ชาว​ยุโรป. แม้​แต่​มาร์ติน ลูเทอร์​และ​จอห์น แคลวิน นัก​ปฏิรูป​โปรเตสแตนต์​ก็​เห็น​ชอบ​กับ​การ​ล่า​แม่มด. ใน​ยุโรป​ทั้ง​ศาล​ศาสนา​และ​ศาล​ทาง​โลก​มี​การ​พิจารณา​คดี​เกี่ยว​กับ​แม่มด​ซึ่ง​อาศัย​เพียง​ข่าว​ลือ​หรือ​ข้อ​กล่าวหา​ที่​มุ่ง​ร้าย. การ​ใช้​วิธี​ทรมาน​เพื่อ​ขู่​บังคับ​ให้​คน​บริสุทธิ์​สารภาพ​ผิด​เป็น​การ​กระทำ​ที่​มี​อยู่​ทั่ว​ไป.

คน​เหล่า​นั้น​ที่​ถูก​พบ​ว่า​มี​ความ​ผิด​อาจ​ถูก​ประหาร​ชีวิต ถ้า​ใน​อังกฤษ​และ​สกอตแลนด์​ก็​โดย​การ​แขวน​คอ และ​ใน​ที่​อื่น​โดย​การ​เผา. เกี่ยว​กับ​จำนวน​ของ​ผู้​ตก​เป็น​เหยื่อ​นั้น สารานุกรม เดอะ เวิลด์ บุ๊ก กล่าว​ว่า “ตาม​ที่​นัก​ประวัติศาสตร์​บาง​คน​บอก​ไว้ ตั้ง​แต่​ปี 1484 ถึง​ปี 1782 คริสตจักร​คริสเตียน​ได้​ประหาร​ชีวิต​ผู้​หญิง​ประมาณ 300,000 คน​โดย​หา​ว่า​เป็น​แม่มด.” หาก​ซาตาน​อยู่​เบื้อง​หลัง​โศกนาฏกรรม​ใน​ยุค​กลาง​เช่น​นี้​แล้ว ใคร​เป็น​เครื่อง​มือ​ของ​มัน ผู้​ตก​เป็น​เหยื่อ หรือ​ว่า​ผู้​ข่มเหง​ทาง​ศาสนา​ที่​บ้า​คลั่ง?

ความ​เชื่อ​และ​ความ​ไม่​เชื่อ​ใน​ปัจจุบัน

ศตวรรษ​ที่ 18 มี​การ​พัฒนา​แนว​คิด​แบบ​ที่​ชอบ​ด้วย​เหตุ​ผล​ขึ้น​มา ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​ขบวนการ​ยุค​สว่าง. สารานุกรม​บริแทนนิกา กล่าว​ว่า “ปรัชญา​และ​เทววิทยา​ของ​ยุค​สว่าง​ได้​พยายาม​ขจัด​พญา​มาร​ออก​ไป​จาก​จิต​สำนึก​ของ​คริสเตียน​ใน​ฐานะ​เป็น​ผลิตผล​จาก​จินตนาการ​ตาม​เทพนิยาย​ของ​ยุค​กลาง.” คริสตจักร​โรมัน​คาทอลิก​มี​ปฏิกิริยา​ต่อ​เรื่อง​นี้​และ​ยืน​ยัน​อีก​ถึง​ความ​เชื่อ​ใน​เรื่อง​ซาตาน​พญา​มาร ณ การ​ประชุม​สังคายนา​วาติกัน​ที่​หนึ่ง (ปี 1869-1870) ย้ำ​ความ​เชื่อ​นี้​อีก​ครั้ง ณ การ​ประชุม​สังคายนา​วาติกัน​ที่​สอง (1962-1965) อย่าง​ค่อนข้าง​เหนียม​อาย.

ดัง​ที่​สารานุกรม​คาทอลิก​ฉบับ​ใหม่ ยอม​รับ​ว่า “คริสตจักร​มี​พันธะ​ที่​จะ​เชื่อ​ใน​เรื่อง​ทูตสวรรค์​และ​ผี​ปิศาจ” อย่าง​เป็น​ทาง​การ. อย่าง​ไร​ก็​ดี เทออ พจนานุกรม​ฝรั่งเศส​ของ​คาทอลิก​ยอม​รับ​ว่า “คริสเตียน​หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ไม่​ยอม​รับ​ว่า​ความ​ชั่ว​ร้าย​ใน​โลก​เกิด​ขึ้น​เนื่อง​จาก​พญา​มาร.” ไม่​กี่​ปี​มา​นี้ นัก​เทววิทยา​คาทอลิก​ได้​รับมือ​กับ​สถานการณ์​นี้​อย่าง​ระมัดระวัง โดย​ถ่วง​ดุล​ระหว่าง​คำ​สอน​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​ของ​คาทอลิก​กับ​แนว​คิด​สมัย​ใหม่​อย่าง​ล่อแหลม​ต่อ​อันตราย. สารานุกรม​บริแทนนิกา กล่าว​ว่า “เทววิทยา​คริสเตียน​ที่​มี​ความ​คิด​แบบ​เปิด​กว้าง​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​ถือ​ว่า​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ซาตาน​เป็น​เพียง ‘จินตภาพ’ ไม่​ควร​ถือ​เอา​ตาม​ตัว​อักษร คือ​ถือ​ว่า​เป็น​ความ​พยายาม​ซึ่ง​มา​จาก​เทพนิยาย​ที่​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ความ​เป็น​จริง​และ​ขนาด​ของ​ความ​ชั่ว​ร้าย​ใน​จักรวาล.” สำหรับ​พวก​โปรเตสแตนต์ หนังสือ​อ้างอิง​เล่ม​เดียว​กัน​กล่าว​ว่า “นิกาย​โปรเตสแตนต์​สมัย​ปัจจุบัน​ที่​มี​ความ​คิด​แบบ​เปิด​กว้าง​มี​แนว​โน้ม​จะ​ปฏิเสธ​ความ​จำเป็น​เรื่อง​การ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พญา​มาร​ฐานะ​เป็น​บุคคล.” แต่​คริสเตียน​แท้​ควร​ถือ​ว่า​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ซาตาน​เป็น​เพียง “จินตภาพ” เท่า​นั้น​ไหม?

สิ่ง​ที่​พระ​คัมภีร์​สอน

คำ​อธิบาย​เรื่อง​ต้นตอ​ของ​ความ​ชั่ว​ตาม​ที่​ปรัชญา​และ​เทววิทยา​ของ​มนุษย์​เสนอ​นั้น​ไม่​ได้​ดี​กว่า​คำ​อธิบาย​ที่​บอก​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. สิ่ง​ที่​พระ​คัมภีร์​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ซาตาน​เป็น​พื้น​ฐาน​ใน​การ​เข้าใจ​ต้นตอ​ของ​ความ​ชั่ว​และ​ความ​ทุกข์​ของ​มนุษย์ อีก​ทั้ง​สาเหตุ​ที่​ความ​รุนแรง​อย่าง​เลว​ร้าย​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​นึก​ภาพ​ออก​ได้​นั้น​เพิ่ม​มาก​ขึ้น​ใน​แต่​ละ​ปี.

บาง​คน​อาจ​ถาม​ว่า ‘หาก​พระเจ้า​เป็น​พระ​ผู้​สร้าง​ที่​ดี​และ​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​แล้ว พระองค์​จะ​สร้าง​กาย​วิญญาณ​ที่​ชั่ว​ดัง​เช่น​ซาตาน​ได้​อย่าง​ไร?’ คัมภีร์​ไบเบิล​ชี้​แจง​หลักการ​ที่​ว่า​พระ​ราชกิจ​ทั้ง​สิ้น​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​สมบูรณ์​พร้อม​และ​พระองค์​ทรง​ประทาน​เจตจำนง​เสรี​ให้​บรรดา​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา. (พระ​บัญญัติ 30:19; 32:4; ยะโฮซูอะ 24:15; 1 กษัตริย์ 18:21) เพราะ​ฉะนั้น บุคคล​วิญญาณ​ซึ่ง​กลาย​เป็น​ซาตาน​ต้อง​ถูก​สร้าง​มา​อย่าง​สมบูรณ์ และ​ต้อง​ได้​หันเห​ไป​จาก​แนว​ทาง​แห่ง​ความ​จริง​และ​ความ​ชอบธรรม​โดย​เจตนา​เลือก​เอง.—โยฮัน 8:44; ยาโกโบ 1:14, 15.

ใน​หลาย​ทาง แนว​ทาง​กบฏ​ขัด​ขืน​ของ​ซาตาน​คล้าย​กัน​กับ​แนว​ทาง​ของ “กษัตริย์​เมือง​ไทระ” ผู้​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​พรรณนา​ใน​เชิง​กวี​ว่า “มี​ความ​งาม​อย่าง​พร้อม​สรรพ” และ ‘ปราศจาก​ตำหนิ​ใน​วิธี​การ​ทั้ง​หลาย​ของ​เขา​ตั้ง​แต่​วัน​ที่​เขา​ได้​ถูก​สร้าง​ขึ้น​มา​จน​พบ​ความ​บาป​ชั่ว​ใน​ตัว​เขา.’ (ยะเอศเคล 28:11-19, ฉบับ​แปล​ใหม่) ซาตาน​มิ​ได้​โต้​แย้ง​อำนาจ​สูง​สุด​ของ​พระ​ยะโฮวา​หรือ​ตำแหน่ง​พระ​ผู้​สร้าง​ของ​พระองค์. เนื่อง​จาก​ถูก​พระเจ้า​สร้าง มัน​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? กระนั้น ซาตาน​ได้​ท้าทาย​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​สำแดง​พระ​บรม​เดชานุภาพ​ของ​พระองค์. ใน​สวน​เอเดน ซาตาน​ได้​พูด​เป็น​นัย​ว่า​พระเจ้า​ทรง​กีด​กัน​อะไร​บาง​อย่าง​ไว้​จาก​มนุษย์​คู่​แรก​ซึ่ง​เขา​มี​สิทธิ์​ได้​รับ​และ​สวัสดิภาพ​ของ​เขา​ขึ้น​อยู่​กับ​สิ่ง​นั้น. (เยเนซิศ 3:1-5) มัน​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​ทำ​ให้​อาดาม​และ​ฮาวา​กบฏ​ขัด​ขืน​พระ​บรม​เดชานุภาพ​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​นำ​บาป​กับ​ความ​ตาย​มา​สู่​คน​ทั้ง​สอง​รวม​ทั้ง​ลูก​หลาน​ของ​เขา. (เยเนซิศ 3:16-19; โรม 5:12) ดัง​นั้น คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ว่า​ซาตาน​เป็น​มูล​เหตุ​อัน​แท้​จริง​แห่ง​ความ​ทุกข์​ของ​มนุษย์.

ช่วง​เวลา​หนึ่ง​ก่อน​น้ำ​ท่วม​โลก ทูตสวรรค์​อื่น ๆ ได้​สมทบ​กับ​ซาตาน​ใน​การ​กบฏ​ขัด​ขืน​ของ​มัน. ทูตสวรรค์​เหล่า​นี้​ได้​แปลง​กาย​เป็น​มนุษย์​เพื่อ​สนอง​ความ​ปรารถนา​จะ​ได้​ความ​เพลิดเพลิน​ทาง​เพศ​กับ​บุตร​สาว​ของ​มนุษย์. (เยเนซิศ 6:1-4) ใน​คราว​น้ำ​ท่วม​โลก ทูตสวรรค์​ที่​ทรยศ​เหล่า​นี้​ได้​กลับ​ไป​ยัง​แดน​วิญญาณ ทว่า​ไม่​ได้​คืน​สู่ “ตำแหน่ง​ดั้งเดิม​ของ​ตน” กับ​พระเจ้า​ใน​สวรรค์. (ยูดา 6, ล.ม.) พวก​มัน​ถูก​ลด​ฐานะ​ลง​สู่​สภาพ​ความ​มืด​ทึบ​ฝ่าย​วิญญาณ. (1 เปโตร 3:19, 20; 2 เปโตร 2:4) พวก​มัน​กลาย​เป็น​ผี​ปิศาจ ไม่​ได้​รับใช้​ภาย​ใต้​พระ​บรม​เดชานุภาพ​ของ​พระ​ยะโฮวา​อีก​ต่อ​ไป แต่​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​ซาตาน. แม้​ปรากฏ​ว่า​ไม่​สามารถ​แปลง​กาย​ได้​อีก แต่​พวก​ผี​ปิศาจ​ก็​ยัง​คง​สามารถ​ใช้​อำนาจ​มาก​มาย​เหนือ​ความ​คิด​จิตใจ​และ​ชีวิต​ของ​มนุษย์​อยู่ และ​ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​พวก​มัน​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​ความ​รุนแรง​ส่วน​ใหญ่​ที่​เรา​พบ​เห็น​อยู่​ใน​ทุก​วัน​นี้.—มัดธาย 12:43-45; ลูกา 8:27-33.

อวสาน​แห่ง​การ​ปกครอง​ของ​ซาตาน​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว

ปรากฏ​ชัด​ว่า​พลัง​อำนาจ​ที่​ชั่ว​ร้าย​ดำเนิน​งาน​อยู่​ใน​โลก​ทุก​วัน​นี้. อัครสาวก​โยฮัน​เขียน​ว่า “โลก​ทั้ง​สิ้น​อยู่​ใน​อำนาจ​ตัว​ชั่ว​ร้าย​นั้น.”—1 โยฮัน 5:19, ล.ม.

อย่าง​ไร​ก็​ดี คำ​พยากรณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​สำเร็จ​เป็น​จริง​แล้ว​แสดง​ว่า​พญา​มาร​กำลัง​ทำ​ให้​วิบัติ​ของ​แผ่นดิน​โลก​รุนแรง​ยิ่ง​ขึ้น เพราะ​รู้​ว่า​มัน​มี “ระยะ​เวลา​อัน​สั้น” เท่า​นั้น​เหลือ​อยู่​ที่​จะ​ก่อ​ความ​หายนะ​ก่อน​มัน​ถูก​กัก​ตัว. (วิวรณ์ 12:7-12, ล.ม.; 20:1-3) อวสาน​แห่ง​การ​ปกครอง​ของ​ซาตาน​จะ​นำ​มา​ซึ่ง​โลก​ใหม่​อัน​ชอบธรรม​ที่​น้ำตา, ความ​ตาย, และ​ความ​เจ็บ​ปวด “จะ​ไม่​มี​ต่อ​ไป.” ครั้น​แล้ว พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า “สำเร็จ​ใน​สวรรค์​อย่าง​ไร” ก็​จะ “สำเร็จ​ใน​แผ่นดิน​โลก​เหมือน​กัน.”—วิวรณ์ 21:1-4; มัดธาย 6:10.

[ภาพ​หน้า 4]

ชาว​บาบิโลน​เชื่อ​ใน​พระ​เนอร์กัล (ซ้าย​สุด) ซึ่ง​เป็น​เทพเจ้า​ที่​ชอบ​ความ​รุนแรง; เพลโต (ซ้าย) เชื่อ​ว่า​มี​อยู่​สอง “จิตวิญญาณ” ที่​ตรง​กัน​ข้าม​กัน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Cylinder: Musée du Louvre, Paris; Plato: National Archaeological Museum, Athens, Greece

[ภาพ​หน้า 5]

อิเรแนอุส, ออริเกน, และ​เอากุสติน​สอน​ว่า​มี​การ​ชำระ​ค่า​ไถ่​ให้​พญา​มาร

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Origen: Culver Pictures; Augustine: From the book Great Men and Famous Women

[ภาพ​หน้า 6]

ความ​กลัว​พวก​แม่มด​ได้​นำ​ไป​สู่​การ​ประหาร​ชีวิต​หลาย​แสน​คน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

From the book Bildersaal deutscher Geschichte