ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ความเป็นกลางของคริสเตียนในสมัยสุดท้าย

ความเป็นกลางของคริสเตียนในสมัยสุดท้าย

ความ​เป็น​กลาง​ของ​คริสเตียน​ใน​สมัย​สุด​ท้าย

“พวก​เขา​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก เหมือน​ข้าพเจ้า​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก.”—โยฮัน 17:16, ล.ม.

1, 2. พระ​เยซู​ตรัส​เช่น​ไร​ใน​เรื่อง​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​สาวก​ของ​พระองค์​กับ​โลก และ​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​ทำ​ให้​เกิด​คำ​ถาม​อะไร​ขึ้น​มา?

ใน​คืน​สุด​ท้าย​ของ​ชีวิต​พระองค์​ใน​ฐานะ​มนุษย์​สมบูรณ์ พระ​เยซู​ได้​กล่าว​คำ​อธิษฐาน​ที่​ค่อนข้าง​ยาว​ซึ่ง​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​สามารถ​ได้​ยิน. ขณะ​ที่​อธิษฐาน​อยู่​นั้น พระองค์​ได้​ตรัส​บาง​สิ่ง​ที่​พรรณนา​ถึง​ชีวิต​คริสเตียน​แท้​ทุก​คน. พระองค์​กล่าว​ถึง​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ดัง​นี้: “ข้าพเจ้า​มอบ​พระ​คำ​ของ​พระองค์​แก่​พวก​เขา​แล้ว แต่​โลก​ได้​เกลียด​ชัง​เขา เพราะ​เขา​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก เหมือน​ข้าพเจ้า​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก. ข้าพเจ้า​ทูล​ขอ​พระองค์ มิ​ให้​นำ​พวก​เขา​ไป​จาก​โลก แต่​ขอ​ทรง​พิทักษ์​เขา​ไว้​เพราะ​ตัว​ชั่ว​ร้าย. พวก​เขา​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก เหมือน​ข้าพเจ้า​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก.”—โยฮัน 17:14-16, ล.ม.

2 พระ​เยซู​ได้​ตรัส​ถึง​สอง​ครั้ง​ว่า​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​จะ​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก. ยิ่ง​กว่า​นั้น การ​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลกจะ​นำ​ไป​สู่​ความ​ตึงเครียด เพราะ​โลก​จะ​เกลียด​ชัง​พวก​เขา. ถึง​กระนั้น คริสเตียน​ไม่​จำเป็น​ต้อง​รู้สึก​วิตก​กังวล เพราะ​พระ​ยะโฮวา​จะ​พิทักษ์​พวก​เขา​ไว้. (สุภาษิต 18:10; มัดธาย 24:9, 13) เมื่อ​คำนึง​ถึง​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู เรา​อาจ​ถาม​ว่า ‘เหตุ​ใด​คริสเตียน​แท้​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก? การ​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​หมาย​ความ​ว่า​อะไร? ถ้า​คริสเตียน​เป็น​ที่​เกลียด​ชัง​ของ​โลก พวก​เขา​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​โลก? โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง พวก​เขา​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​รัฐบาล​ต่าง ๆ ใน​โลก?’ คำ​ตอบ​ที่​อาศัย​พระ​คัมภีร์​เป็น​หลัก​สำหรับ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​นับ​ว่า​สำคัญ​เพราะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​เรา​ทุก​คน.

“เรา​เกิด​จาก​พระเจ้า”

3. (ก) ทำไม​เรา​จึง​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลก? (ข) มี​หลักฐาน​อะไร​ที่​แสดง​ว่า​โลก​อยู่ “ใน​อำนาจ​ตัว​ชั่ว​ร้าย”?

3 เหตุ​ผล​อย่าง​หนึ่ง​ที่​เรา​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​ก็​เพราะ​ว่า​เรา​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา. อัครสาวก​โยฮัน​เขียน​ว่า “เรา​รู้​ว่า​เรา​เกิด​จาก​พระเจ้า แต่​โลก​ทั้ง​สิ้น​อยู่​ใน​อำนาจ​ตัว​ชั่ว​ร้าย.” (1 โยฮัน 5:19, ล.ม.) ถ้อย​คำ​ของ​โยฮัน​เกี่ยว​กับ​โลก​เป็น​จริง​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด. สงคราม, อาชญากรรม, ความ​ทารุณ, การ​กดขี่​ข่มเหง, ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์, และ​การ​ผิด​ศีลธรรม​ที่​แพร่​หลาย​ใน​ทุก​วัน​นี้​ให้​หลักฐาน​ว่า​โลก​อยู่​ใต้​อิทธิพล​ของ​ซาตาน ไม่​ใช่​ของ​พระเจ้า. (โยฮัน 12:31; 2 โกรินโธ 4:4; เอเฟโซ 6:12) เมื่อ​คน​หนึ่ง​คน​ใด​เข้า​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา เขา​จะ​ไม่​ประพฤติ​หรือ​เห็น​ชอบ​กับ​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​ผิด​เหล่า​นั้น และ​นั่น​ทำ​ให้​เขา​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก.—โรม 12:2; 13:12-14; 1 โกรินโธ 6:9-11; 1 โยฮัน 3:10-12.

4. ใน​ทาง​ใด​บ้าง​ที่​เรา​แสดง​ว่า​เรา​เป็น​ของ​พระ​ยะโฮวา?

4 ต่าง​กับ​โลก​อย่าง​สิ้นเชิง โยฮัน​กล่าว​ว่า​คริสเตียน “เกิด​จาก​พระเจ้า.” ทุก​คน​ที่​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ของ​พระองค์. อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ว่า “ไม่​ว่า​เรา​อยู่ เรา​ก็​อยู่​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา และ​ถ้า​เรา​ตาย เรา​ก็​ตาย​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา. เพราะ​ฉะนั้น ไม่​ว่า​เรา​อยู่​หรือ​ตาย เรา​ก็​เป็น​ของ​พระ​ยะโฮวา.” (โรม 14:8, ล.ม.; บทเพลง​สรรเสริญ 116:15) เนื่อง​จาก​เรา​เป็น​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​จึง​ถวาย​ความ​เลื่อมใส​โดย​เฉพาะ​แด่​พระองค์. (เอ็กโซโด 20:4-6, ล.ม.) ดัง​นั้น คริสเตียน​แท้​ไม่​อุทิศ​ชีวิต​ตน​เพื่อ​ส่ง​เสริม​เป้าหมาย​บาง​อย่าง​ของ​โลก. และ​ขณะ​ที่​เขา​ไม่​ดูหมิ่น​สัญลักษณ์​ประจำ​ชาติ แต่​เขา​ก็​ไม่​เคารพ​บูชา​สิ่ง​เหล่า​นั้น ไม่​ว่า​จะ​ด้วย​การ​กระทำ​หรือ​ใน​ความ​คิด. เขา​ไม่​ยกย่อง​บูชา​นัก​กีฬา​ที่​เด่น​ดัง​หรือ​คลั่งไคล้​ดารา​บันเทิง. แน่นอน คริสเตียน​เคารพ​สิทธิ​ของ​คน​อื่น ๆ ที่​จะ​ทำ​ตาม​ที่​พวก​เขา​ประสงค์ แต่​เขา​จะ​นมัสการ​เฉพาะ​พระ​ผู้​สร้าง​แต่​องค์​เดียว. (มัดธาย 4:10; วิวรณ์ 19:10) นี่​เป็น​อีก​เหตุ​ผล​หนึ่ง​ด้วย​ที่​ทำ​ให้​เขา​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลก.

“ราชอาณาจักร​ของ​เรา​มิ​ได้​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้”

5, 6. การ​เป็น​ราษฎร​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ทำ​ให้​เรา​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลก​อย่าง​ไร?

5 คริสเตียน​คือ​ผู้​ติด​ตาม​พระ​คริสต์​เยซู​และ​เป็น​ราษฎร​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า นั่น​เป็น​เหตุ​ผล​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก. เมื่อ​พระ​เยซู​อยู่​ระหว่าง​การ​พิจารณา​คดี​ต่อ​หน้า​ปนเตียว ปีลาต พระองค์​ตรัส​ว่า “ราชอาณาจักร​ของ​เรา​มิ​ได้​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้. ถ้า​ราชอาณาจักร​ของ​เรา​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้ บริวาร​ของ​เรา​คง​ได้​ต่อ​สู้​เพื่อ​มิ​ให้​เรา​ถูก​มอบ​ไว้​กับ​พวก​ยิว. แต่​ว่า​ราชอาณาจักร​ของ​เรา​มิ​ได้​มา​จาก​แหล่ง​นี้.” (โยฮัน 18:36, ล.ม.) ราชอาณาจักร​เป็น​เครื่อง​มือ​ที่​จะ​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ที่​นับถือ​อัน​บริสุทธิ์, พิสูจน์​ความ​ชอบธรรม​แห่ง​พระ​บรม​เดชานุภาพ​ของ​พระองค์, และ​ทำ​ให้​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์​สำเร็จ​บน​แผ่นดิน​โลก​อย่าง​ที่​สำเร็จ​แล้ว​ใน​สวรรค์. (มัดธาย 6:9, 10) ตลอด​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์ พระ​เยซู​ทรงประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร และ​พระองค์​ตรัส​ว่า​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​นี้​จะ​ดำเนิน​ต่อ​ไป​โดย​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​จน​ถึง​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้. (มัดธาย 4:23; 24:14) ใน​ปี 1914 ถ้อย​คำ​เชิง​พยากรณ์​ใน​วิวรณ์ 11:15 (ล.ม.) ได้​สำเร็จ​เป็น​จริง​ที่​ว่า “อาณาจักร​ของ​โลก​ได้​กลาย​เป็น​ราชอาณาจักร​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา​และ​ของ​พระ​คริสต์​ของ​พระองค์ และ​พระองค์​จะ​ทรง​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์​ตลอด​ไป​เป็น​นิตย์.” ใน​อีก​ไม่​ช้า ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​จะ​เป็น​อำนาจ​การ​ปกครอง​เดียว​เหนือ​มนุษยชาติ. (ดานิเอล 2:44) เมื่อ​ถึง​เวลา​หนึ่ง แม้​แต่​บรรดา​ผู้​ปกครอง​ฝ่าย​โลก​ก็​จะ​ต้อง​ยอม​รับ​อำนาจ​การ​ปกครอง​นั้น.—บทเพลง​สรรเสริญ 2:6-12.

6 เมื่อ​คำนึง​ถึง​สิ่ง​ที่​ได้​กล่าว​ไป​ทั้ง​หมด คริสเตียน​แท้​ใน​ปัจจุบัน​จึง​เป็น​ราษฎร​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​และ​เชื่อ​ฟัง​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​ที่​ให้ ‘แสวง​หา​ราชอาณาจักร​และ​ความ​ชอบธรรม​ของ​พระเจ้า​ก่อน​เสมอ​ไป.’ (มัดธาย 6:33, ล.ม.) การ​ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​ได้​ทำ​ให้​คริสเตียน​ไม่​ภักดี​ต่อ​ประเทศ​ที่​เขา​อาศัย​อยู่ แต่​ทำ​ให้​พวก​เขา​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลก​ใน​ความ​หมาย​ฝ่าย​วิญญาณ. งาน​หลัก​ของ​คริสเตียน​ใน​ปัจจุบัน​เหมือน​กัน​กับ​ใน​ศตวรรษ​แรก​คือ “ให้​คำ​พยาน​อย่าง​ถี่ถ้วน​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.” (กิจการ 28:23, ล.ม.) ไม่​มี​รัฐบาล​ใด​ของ​มนุษย์​มี​สิทธิ์​ขัด​ขวาง​งาน​ที่​พระเจ้า​ทรง​มอบหมาย​ให้.

7. ทำไม​คริสเตียน​แท้​วาง​ตัว​เป็น​กลาง และ​พวก​เขา​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ใน​เรื่อง​นี้?

7 เนื่อง​จาก​พวก​เขา​เป็น​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​แบบ​อย่าง​พระ​เยซู​และ​เป็น​ราษฎร​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า พยาน​พระ​ยะโฮวา​จึง​รักษา​ความ​เป็น​กลาง​ท่ามกลาง​ความ​ขัด​แย้ง​ภาย​ใน​หรือ​ระหว่าง​ชาติ​ใน​ช่วง​ศตวรรษ​ที่ 20 และ 21. พวก​เขา​ไม่​เข้า​ข้าง​ฝ่าย​หนึ่ง​ฝ่าย​ใด, ไม่​จับ​อาวุธ​ต่อ​สู้​ใคร, และ​ไม่​แพร่​คำ​โฆษณา​ชวน​เชื่อ​เพื่อ​ส่ง​เสริม​อุดมการณ์​ใด ๆ ใน​ทาง​โลก. ใน​เรื่อง​ของ​การ​แสดง​ความ​เชื่อ​ที่​โดด​เด่น​เมื่อ​เผชิญ​การ​ต่อ​ต้าน​ที่​ดู​เหมือน​ยาก​จะ​ต้านทาน​ได้ พวก​เขา​ติด​ตาม​หลักการ​ตาม​ที่​ได้​กล่าว​แก่​ผู้​ปกครอง​นาซี​ของ​เยอรมนี​ใน​ปี 1934 ที่​ว่า “เรา​ไม่​สนใจ​ใน​การ​เข้า​ร่วม​กิจกรรม​ทาง​การ​เมือง เรา​ได้​อุทิศ​ตัว​ทั้ง​สิ้น​ให้​แก่​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​พระ​คริสต์​เป็น​กษัตริย์. เรา​จะ​ไม่​ทำ​อันตราย​หรือ​ทำ​ร้าย​ใคร. เรา​พอ​ใจ​ที่​จะ​อยู่​อย่าง​สันติ​และ​ทำ​การ​ดี​แก่​คน​ทั้ง​ปวง​ตราบ​เท่า​ที่​เรา​มี​โอกาส.”

ราชทูต​และ​อุปทูต​ทำ​หน้า​ที่​แทน​พระ​คริสต์

8, 9. ใน​ทาง​ใด​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ทุก​วัน​นี้​เป็น​ราชทูต​และ​อุปทูต และ​เรื่อง​นี้​มี​ผล​กระทบ​เช่น​ไร​ต่อ​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​พวก​เขา​กับ​ชาติ​ต่าง ๆ?

เปาโล​กล่าว​ถึง​ตัว​ท่าน​เอง​และ​เพื่อน​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ว่า​เป็น “ราชทูต​ทำ​หน้า​ที่​แทน​พระ​คริสต์ ราว​กับ​พระเจ้า​ทรง​วิงวอน​โดย​ทาง​เรา.” (2 โกรินโธ 5:20, ล.ม.; เอเฟโซ 6:20) ตั้ง​แต่​ปี 1914 คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ด้วย​พระ​วิญญาณ​ซึ่ง​เป็น “เหล่า​บุตร” แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ได้​รับ​การ​กล่าว​ถึง​อย่าง​เหมาะ​สม​ว่า​เป็น​ราชทูต​แห่ง​ราชอาณาจักร​นั้น. (มัดธาย 13:38, ล.ม.; ฟิลิปปอย 3:20; วิวรณ์ 5:9, 10) นอก​จาก​นี้ พระ​ยะโฮวา​ยัง​ได้​นำ “ชน​ฝูง​ใหญ่” แห่ง “แกะ​อื่น” คริสเตียน​ที่​มี​ความ​หวัง​ทาง​แผ่นดิน​โลก ออก​จาก​ชน​ทุก​ชาติ​เพื่อ​สนับสนุน​งาน​ด้าน​การ​ทูต​ของ​เหล่า​บุตร​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม. (วิวรณ์ 7:9, ล.ม.; โยฮัน 10:16) “แกะ​อื่น” เหล่า​นี้​อาจ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น “อุปทูต” แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.

9 เอก​อัครราชทูต​และ​คณะ​เจ้าหน้าที่​ทาง​การ​ทูต​ของ​เขา​จะ​ไม่​เข้า​ไป​แทรกแซง​กิจการ​ภาย​ใน​ประเทศ​ที่​พวก​เขา​ปฏิบัติ​หน้า​ที่. คล้ายคลึง​กัน คริสเตียน​รักษา​ตัว​เป็น​กลาง​ใน​กิจการ​ทาง​การ​เมือง​ของ​ชาติ​ต่าง ๆ ใน​โลก. พวก​เขา​ไม่​เข้า​ข้าง​ฝ่าย​หนึ่ง​ฝ่าย​ใด​หรือ​ต่อ​ต้าน​กลุ่ม​ชน​ใด ไม่​ว่า​คน​เหล่านั้น​จะ​มี​สัญชาติ, เชื้อชาติ, ฐานะ​ทาง​สังคม​หรือ​เศรษฐกิจ​เช่น​ไร. (กิจการ 10:34, 35) ตรง​กัน​ข้าม พวก​เขา “กระทำ​การ​ดี​แก่​คน​ทั้ง​ปวง.” (ฆะลาเตีย 6:10) ความ​เป็น​กลาง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ไม่​มี​ใคร​จะ​ปฏิเสธ​ข่าวสาร​ของ​พวก​เขา​ได้​โดย​อ้าง​อย่าง​ที่​ฟัง​ขึ้น​ว่า​พวก​เขา​เข้า​ไป​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ฝ่าย​ตรง​ข้าม​ใน​ความ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​เชื้อชาติ, สัญชาติ, หรือ​เผ่า​พันธุ์.

ถูก​ระบุ​ตัว​ด้วย​ความ​รัก

10. ความ​รัก​สำคัญ​เพียง​ไร​สำหรับ​คริสเตียน?

10 นอก​จาก​ที่​กล่าว​ไป​แล้ว คริสเตียน​เป็น​กลาง​ใน​กิจการ​ต่าง ๆ ของ​โลก​ก็​เพราะ​เขา​มี​สัมพันธภาพ​กับ​คริสเตียน​คน​อื่น ๆ. พระ​เยซู​ตรัส​แก่​บรรดา​ผู้​ที่​ติด​ตาม​พระองค์​ว่า “คน​ทั้ง​ปวง​จะ​รู้​ได้​ว่า​เจ้า​เป็น​เหล่า​สาวก​ของ​เรา​ก็​เพราะ​ว่า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน.” (โยฮัน 13:35) ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ใน​การ​เป็น​คริสเตียน. (1 โยฮัน 3:14) เหมือน​กับ​สัมพันธภาพ​ที่​เขา​มี​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​เยซู สัมพันธภาพ​ที่​คริสเตียน​คน​หนึ่ง​มี​กับ​คริสเตียน​คน​อื่น ๆ ใกล้​ชิด​กัน​อย่าง​ยิ่ง. ความ​รัก​ของ​เขา​ไม่​จำกัด​อยู่​แค่​คน​เหล่า​นั้น​ใน​ประชาคม​ท้องถิ่น​เท่า​นั้น. ความ​รัก​ของ​เขา​แผ่​คลุม​ไป​ถึง “สังคม​พี่​น้อง​ทั้ง​สิ้น . . . ใน​โลก.”—1 เปโตร 5:9, ล.ม.

11. ความ​รัก​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​ต่อ​กัน​และ​กัน​มี​ผล​ต่อ​ความ​ประพฤติ​ของ​พวก​เขา​อย่าง​ไร?

11 ใน​ทุก​วัน​นี้ พยาน​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​โดย​ปฏิบัติ​ตาม​ถ้อย​คำ​ใน​ยะซายา 2:4 ที่​ว่า “เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​เอา​ดาบ​ของ​เขา​ตี​เป็น​ผาล​ไถ​นา, และ​เอา​หอก​ตี​เป็น​ขอ​สำหรับ​ลิด​แขนง; ประเทศ​ต่อ​ประเทศ​จะ​ไม่​ยก​ดาบ​ขึ้น​ต่อ​สู้​กัน, และ​เขา​จะ​ไม่​ศึกษา​ยุทธศาสตร์​อีก​ต่อ​ไป.” เนื่อง​จาก​ได้​รับ​การ​สั่ง​สอน​จาก​พระ​ยะโฮวา คริสเตียน​แท้​จึง​อยู่​อย่าง​สันติ​กับ​พระเจ้า​และ​มี​สันติ​สุข​ต่อ​กัน. (ยะซายา 54:13, ล.ม.) เพราะ​พวก​เขา​รัก​พระเจ้า​และ​พี่​น้อง​ของ​ตน จึง​เป็น​เรื่อง​เหลือ​คิด​ที่​พวก​เขา​จะ​จับ​อาวุธ​ต่อ​สู้​เพื่อน​คริสเตียน​ของ​ตน​หรือ​คน​ใด ๆ ใน​ประเทศ​อื่น. สันติ​สุข​และ​เอกภาพ​ของ​พวก​เขา​เป็น​ส่วน​สำคัญ​แห่ง​การ​นมัสการ เป็น​หลักฐาน​แสดง​ว่า​พวก​เขา​มี​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​แท้​จริง. (บทเพลง​สรรเสริญ 133:1, ล.ม.; มีคา 2:12, ล.ม.; มัดธาย 22:37-39; โกโลซาย 3:14) พวก​เขา “แสวง​หา​ความ​สงบ​สุข​และ​ติด​ตาม​ไป” เนื่อง​จาก​ทราบ​ว่า “พระ​เนตร​พระ​ยะโฮวา​เพ่ง​ดู​ผู้​ชอบธรรม.”—บทเพลง​สรรเสริญ 34:14, 15.

ทัศนะ​ที่​คริสเตียน​มี​ต่อ​โลก

12. ทัศนะ​เช่น​ไร​ของ​พระ​ยะโฮวา​ต่อ​ผู้​คน​ใน​โลก​ซึ่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เลียน​แบบ และ​โดย​วิธี​ใด?

12 พระ​ยะโฮวา​ได้​ประกาศ​คำ​พิพากษา​อย่าง​ที่​เป็น​ผล​ร้าย​ต่อ​โลก​นี้​ไป​แล้ว แต่​พระองค์​ยัง​ไม่​ได้​พิพากษา​ตัดสิน​ผู้​คน​ทั้ง​สิ้น​ใน​โลก. พระองค์​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​โดย​ทาง​พระ​เยซู​ใน​เวลา​กำหนด​ของ​พระองค์​เอง. (บทเพลง​สรรเสริญ 67:3, 4; มัดธาย 25:31-46; 2 เปโตร 3:10) ใน​ระหว่าง​นี้ พระองค์​ทรง​แสดง​ความ​รัก​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ต่อ​มนุษยชาติ. พระองค์​ถึง​กับ​ประทาน​พระ​บุตร​ผู้​ได้​รับ​กำเนิด​องค์​เดียว​ของ​พระองค์​เพื่อ​เปิด​โอกาส​ให้​ทุก​คน​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์. (โยฮัน 3:16) ใน​ฐานะ​คริสเตียน เรา​เลียน​แบบ​ความ​รัก​ของ​พระเจ้า​โดย​การ​บอก​คน​อื่น ๆ ถึง​การ​จัด​เตรียม​ของ​พระเจ้า​เพื่อ​ความ​รอด แม้​ว่า​บ่อย​ครั้ง​ที่​ความ​พยายาม​ของ​เรา​ได้​รับ​การ​บอก​ปัด.

13. เรา​ควร​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​ผู้​ปกครอง​ฝ่าย​โลก?

13 เรา​ควร​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​ผู้​ปกครอง​ฝ่าย​โลก? เปาโล​ตอบ​คำ​ถาม​ดัง​กล่าว​เมื่อ​ท่าน​เขียน​ว่า “จง​ให้​ทุก​จิตวิญญาณ​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​ที่​สูง​กว่า ด้วย​ว่า​ไม่​มี​อำนาจ​ใด ๆ เว้น​ไว้​โดย​พระเจ้า; อำนาจ​ต่าง ๆ ซึ่ง​มี​อยู่​ตั้ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูง​ต่ำ​โดย​พระเจ้า.” (โรม 13:1, 2, ล.ม.) มนุษย์​ครอง​อำนาจ​ใน​ตำแหน่ง “สูง​ต่ำ” (สูง​กว่า​หรือ​ต่ำ​กว่า​เมื่อ​เทียบ​กัน​เอง แต่​ต่ำ​กว่า​พระ​ยะโฮวา​เสมอ) เนื่อง​จาก​องค์​ทรง​ฤทธานุภาพ​ทุก​ประการ​ยินยอม​ให้​พวก​เขา​มี​อำนาจ​เหล่า​นั้น. คริสเตียน​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​ฝ่าย​บ้าน​เมือง​เนื่อง​จาก​นั่น​เป็น​แง่​มุม​หนึ่ง​ของ​การ​เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา. แต่​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​หาก​มี​ความ​ขัด​แย้ง​กัน​ระหว่าง​ข้อ​เรียก​ร้อง​ของ​พระเจ้า​กับ​ข้อ​เรียก​ร้อง​ของ​รัฐบาล​มนุษย์?

กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​และ​ของ​ซีซาร์

14, 15. (ก) ดานิเอล​หลีก​เลี่ยง​ความ​ขัด​แย้ง​ใน​เรื่อง​การ​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​โดย​วิธี​ใด? (ข) ชาย​หนุ่ม​ฮีบรู​สาม​คน​เลือก​จุด​ยืน​เช่น​ไร​เมื่อ​ไม่​อาจ​หลีก​เลี่ยง​ความ​ขัด​แย้ง​ใน​เรื่อง​การ​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ?

14 ดานิเอล​และ​เพื่อน​สาม​คน​ของ​ท่าน​ให้​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ถึง​วิธี​รักษา​ความ​สมดุล​ระหว่าง​การ​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​รัฐบาล​มนุษย์​กับ​การ​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​พระเจ้า. เมื่อ​เด็ก​หนุ่ม​ชาว​ฮีบรู​ทั้ง​สี่​คน​ถูก​เนรเทศ​มา​อยู่​บาบิโลน พวก​เขา​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​ของ​ดินแดน​นั้น​และ​ไม่​นาน​พวก​เขา​ก็​ถูก​เลือก​ให้​เข้า​รับ​การ​ฝึก​อบรม​พิเศษ. ดานิเอล​ตระหนัก​ว่า​การ​ฝึก​อบรม​นั้น​อาจ​นำ​ไป​สู่​การ​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​ของ​พระ​ยะโฮวา ท่าน​จึง​ปรึกษา​เรื่อง​นั้น​กับ​เจ้า​พนักงาน​ที่​ดู​แล​รับผิดชอบ. ผล​คือ มี​การ​จัด​เตรียม​เป็น​พิเศษ​เพื่อ​คำนึง​ถึง​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เด็ก​หนุ่ม​ชาว​ฮีบรู​ทั้ง​สี่​คน​นี้. (ดานิเอล 1:8-17) พยาน​พระ​ยะโฮวา​ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​ดานิเอล​เมื่อ​พวก​เขา​อธิบาย​ทัศนะ​ของ​ตน​อย่าง​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​ต่อ​เจ้าหน้าที่​บ้าน​เมือง​เพื่อ​หลีก​เลี่ยง​ปัญหา​ที่​ไม่​จำเป็น.

15 อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​เวลา​ต่อ​มา เกิด​เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​มี​ทาง​หลีก​เลี่ยง​ความ​ขัด​แย้ง​ใน​เรื่อง​การ​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ. กษัตริย์​บาบิโลน​ตั้ง​รูป​ปั้น​ขนาด​มหึมา​บน​ที่​ราบ​ดูรา​และ​ออก​คำ​สั่ง​ให้​ข้าราชการ​ระดับ​สูง​และ​นัก​ปกครอง​ประจำ​เขต​ปกครอง​ทุก​คน​มา​ร่วม​ชุมนุม​เพื่อ​ร่วม​พิธี​เฉลิม​ฉลอง​รูป​ปั้น​นั้น. จน​ถึง​ขณะ​นั้น เพื่อน​สาม​คน​ของ​ดานิเอล​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​นัก​ปกครอง​ประจำ​เขต​ปกครอง​ใน​บาบิโลน ดัง​นั้น คำ​สั่ง​ของ​กษัตริย์​จึง​มี​ผล​บังคับ​ต่อ​พวก​เขา​ด้วย. ณ ตอน​หนึ่ง​ของ​พิธี ทุก​คน​ที่​เข้า​ร่วม​ชุมนุม​ต้อง​ก้ม​กราบ​ต่อ​รูป​ปั้น. แต่​ชาว​ฮีบรู​เหล่า​นี้​รู้​ว่า​การ​ทำ​อย่าง​นั้น​เป็น​การ​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า. (พระ​บัญญัติ 5:8-10) ดัง​นั้น เมื่อ​ทุก​คน​ก้ม​กราบ พวก​เขา​ยัง​คง​ยืน​อยู่. โดย​การ​ขัด​ขืน​คำ​สั่ง​ของ​กษัตริย์ พวก​เขา​ทำ​ให้​ตน​เอง​เสี่ยง​ต่อ​ความ​ตาย​อย่าง​น่า​สะพรึงกลัว และ​พวก​เขา​รอด​ชีวิต​ได้​โดย​การ​อัศจรรย์​เท่า​นั้น; แต่​พวก​เขา​เลือก​ที่​จะ​เสี่ยง​ต่อ​การ​ตาย​มาก​กว่า​ที่​จะ​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา.—ดานิเอล 2:49–3:29.

16, 17. เหล่า​อัครสาวก​ตอบ​อย่าง​ไร​เมื่อ​ถูก​ห้าม​ไม่​ให้​ประกาศ และ​ทำไม?

16 ใน​ศตวรรษ​แรก เหล่า​อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ถูก​เรียก​ตัว​ไป​อยู่​ต่อ​หน้า​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​และ​ถูก​ห้าม​ไม่​ให้​ประกาศ​ใน​พระ​นาม​พระ​เยซู. พวก​เขา​ทำ​เช่น​ไร? พระ​เยซู​ทรง​มอบหมาย​พวก​เขา​ให้​ช่วย​ผู้​คน​จาก​ทุก​ชาติ​เข้า​มา​เป็น​สาวก รวม​ทั้ง​คน​ใน​แคว้น​ยูเดีย​ด้วย. พระองค์​ยัง​บอก​พวก​เขา​ให้​เป็น​พยาน​ฝ่าย​พระองค์​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​และ​ใน​ส่วน​ที่​เหลือ​ทั้ง​หมด​ของ​โลก. (มัดธาย 28:19, 20; กิจการ 1:8) เหล่า​อัครสาวก​รู้​ว่า​พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู​เป็น​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​พวก​เขา. (โยฮัน 5:30; 8:28) ดัง​นั้น พวก​เขา​จึง​ตอบ​ว่า “พวก​ข้าพเจ้า​จำ​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​ใน​ฐานะ​เป็น​ผู้​ปกครอง​ยิ่ง​กว่า​มนุษย์.”—กิจการ 4:19, 20; 5:29, ล.ม.

17 เหล่า​อัครสาวก​ไม่​ได้​เป็น​พวก​ขัด​ขืน​อำนาจ​บ้าน​เมือง. (สุภาษิต 24:21) อย่าง​ไร​ก็​ตาม เมื่อ​ผู้​ปกครอง​ที่​เป็น​มนุษย์​ห้าม​ไม่​ให้​พวก​เขา​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​คง​กล่าว​ได้​แต่​เพียง​ว่า ‘เรา​จำ​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​ยิ่ง​กว่า​มนุษย์.’ พระ​เยซู​ได้​ตรัส​ว่า​เรา​ควร “คืน​ของ​ของ​ซีซาร์​แก่​ซีซาร์ แต่​ของ​ของ​พระเจ้า​จง​คืน​แด่​พระเจ้า.” (มาระโก 12:17, ล.ม.) หาก​เรา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญชา​ของ​พระเจ้า​เพราะ​มนุษย์​บอก​ให้​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น เรา​ก็​กำลัง​ให้​ของ​ที่​เป็น​ของ​พระเจ้า​แก่​มนุษย์. แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น เรา​คืน​ทุก​สิ่ง​ที่​เป็น​ของ​ซีซาร์​ให้​แก่​ซีซาร์ แต่​เรา​ยอม​รับ​ว่า​อำนาจ​สูง​สุด​เป็น​ของ​พระ​ยะโฮวา. พระองค์​เป็น​องค์​บรม​มหิศร​แห่ง​เอกภพ, เป็น​พระ​ผู้​สร้าง, และ​เป็น​บ่อ​เกิด​แห่ง​อำนาจ​ทั้ง​มวล.—วิวรณ์ 4:11.

เรา​จะ​ยืนหยัด​มั่นคง

18, 19. พี่​น้อง​ของ​เรา​หลาย​คน​ได้​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​เช่น​ไร​ใน​การ​ยืนหยัด​มั่นคง และ​เรา​จะ​เลียน​แบบ​อย่าง​พวก​เขา​ได้​อย่าง​ไร?

18 ใน​ปัจจุบัน รัฐบาล​ส่วน​ใหญ่​ใน​โลก​ยอม​รับ​ฐานะ​ความ​เป็น​กลาง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​ใน​เรื่อง​นั้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​บาง​ดินแดน พยาน​ฯ ประสบ​การ​ต่อ​ต้าน​อย่าง​รุนแรง. ตลอด​ศตวรรษ​ที่ 20 เรื่อย​มา​จน​ถึง​ปัจจุบัน พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ของ​เรา​บาง​คน​ได้​ออก​แรง​ต่อ​สู้​อย่าง​หนัก ใน​ความ​หมาย​ฝ่าย​วิญญาณ พวก​เขา​เข้า​ใน “การ​สู้​อย่าง​ดี​เพื่อ​ความ​เชื่อ.”—1 ติโมเธียว 6:12, ล.ม.

19 เรา​จะ​ยืนหยัด​มั่นคง​เหมือน​อย่าง​พวก​เขา​ได้​อย่าง​ไร? ประการ​แรก เรา​ต้อง​คาด​หมาย​ว่า​จะ​ประสบ​การ​ต่อ​ต้าน. เรา​ไม่​ควร​หวั่น​วิตก​หรือ​แม้​แต่​ประหลาด​ใจ​หาก​เจอ​การ​ต่อ​ต้าน. เปาโล​เตือน​ติโมเธียว​ว่า “ทุก​คน​ที่​ปรารถนา​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​ด้วย​ความ​เลื่อมใส​ใน​พระเจ้า​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์​เยซู​ก็​จะ​ถูก​ข่มเหง​ด้วย.” (2 ติโมเธียว 3:12, ล.ม.; 1 เปโตร 4:12) ใน​โลก​ที่​ซาตาน​แผ่​อิทธิพล​ครอบ​งำ​ไป​ทั่ว เป็น​ไป​ได้​อย่าง​ไร​ที่​เรา​จะ​ไม่ เจอ​การ​ต่อ​ต้าน​เลย? (วิวรณ์ 12:17) ตราบ​ใด​ที่​เรา​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์ จะ​มี​บาง​คน​เสมอ​ที่ ‘ฉงน​และ​กล่าว​ร้าย​เรา​อยู่​เรื่อย​ไป.’—1 เปโตร 4:4, ล.ม.

20. เรา​ได้​รับ​การ​เตือน​ให้​นึก​ถึง​ความ​จริง​อะไร​ที่​เสริม​กำลัง?

20 ประการ​ที่​สอง เรา​เชื่อ​มั่น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​และ​เหล่า​ทูตสวรรค์​ของ​พระองค์​จะ​เกื้อ​หนุน​เรา. เหมือน​อย่าง​ที่​อะลีซา​แห่ง​ยุค​โบราณ​ได้​กล่าว​ไว้​ว่า “ผู้​ที่​อยู่​ฝ่าย​เรา​ก็​มาก​กว่า​ที่​อยู่​ฝ่าย​เขา.” (2 กษัตริย์ 6:16; บทเพลง​สรรเสริญ 34:7) อาจ​เป็น​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ปล่อย​ให้​ความ​กดดัน​จาก​ผู้​ต่อ​ต้าน​มี​อยู่​ต่อ​ไป​สัก​ระยะ​หนึ่ง​เพื่อ​บรรลุ​จุด​มุ่ง​หมาย​ที่​ดี​ของ​พระองค์. แต่​ถึง​กระนั้น พระองค์​จะ​ทรง​ประทาน​กำลัง​ที่​จำเป็น​แก่​เรา​เสมอ​เพื่อ​จะ​อด​ทน​ได้. (ยะซายา 41:9, 10) บาง​คน​ได้​สูญ​เสีย​ชีวิต แต่​นั่น​ก็​ไม่​ทำ​ให้​เรา​หวาด​หวั่น. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “อย่า​กลัว​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ฆ่า​ร่าง​กาย​แต่​ไม่​สามารถ​ฆ่า​จิตวิญญาณ; แต่​จง​กลัว​ท่าน​ผู้​นั้น​ที่​สามารถ​ทำลาย​ทั้ง​จิตวิญญาณ​และ​ร่าง​กาย​ได้​ใน​เกเฮนนา.” (มัดธาย 10:16-23, 28, ล.ม.) เรา​เป็น​เพียง “ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว” ใน​ระบบ​นี้. เรา​ใช้​เวลา​ของ​เรา​ขณะ​นี้​เพื่อ​จะ “ยึด​เอา​ชีวิต​แท้​ให้​มั่น” นั่น​คือ​ชีวิต​นิรันดร์​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า. (1 เปโตร 2:11, ล.ม.; 1 ติโมเธียว 6:19, ล.ม.) ไม่​มี​มนุษย์​คน​ใด​จะ​พราก​เอา​รางวัล​นี้​ไป​จาก​เรา​ได้​ตราบ​ใด​ที่​เรา​ยัง​คง​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​พระเจ้า.

21. เรา​ควร​ระลึก​ถึง​สิ่ง​ใด​อยู่​เสมอ?

21 ดัง​นั้น ให้​เรา​ระลึก​เสมอ​ว่า​เรา​มี​สัมพันธภาพ​อัน​ล้ำ​ค่า​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. ขอ​ให้​เรา​หยั่ง​รู้​ค่า​ผล​ประโยชน์​จาก​การ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​คริสต์​และ​ราษฎร​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์​เสมอ. ขอ​ให้​เรา​รัก​พี่​น้อง​ของ​เรา​อย่าง​สุด​หัวใจ และ​ชื่นชม​ยินดี​อยู่​เสมอ​ใน​ความ​รัก​ที่​พวก​เขา​มี​ให้​เรา. เหนือ​สิ่ง​อื่น​ใด ให้​เรา​เอา​ใจ​ใส่​ถ้อย​คำ​ของ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ที่​ว่า “จง​คอย​ท่า​พระ​ยะโฮวา: จง​ตั้ง​ข้อ​ให้​แข็ง​และ​ทำ​ใจ​ไว้​ให้​กล้า​หาญ; จง​คอย​ท่า​พระ​ยะโฮวา​เถิด.” (บทเพลง​สรรเสริญ 27:14; ยะซายา 54:17) เช่น​นั้น​แล้ว เหมือน​กับ​คริสเตียน​ที่​ซื่อ​สัตย์​จำนวน​นับ​ไม่​ถ้วน​ที่​อยู่​ก่อน​หน้า​เรา เรา​จะ​ยืนหยัด​มั่นคง​ด้วย​ความ​หวัง​ที่​แน่นอน เป็น​คริสเตียน​ซื่อ​สัตย์​ที่​รักษา​ความ​เป็น​กลาง​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก.

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม?

• สัมพันธภาพ​ที่​เรา​มี​กับ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เรา​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลก​อย่าง​ไร?

• ใน​ฐานะ​ราษฎร​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า เรา​รักษา​ฐานะ​ที่​เป็น​กลาง​ใน​โลก​นี้​อย่าง​ไร?

• ใน​ทาง​ใด​บ้าง​ที่​ความ​รัก​ของ​เรา​ต่อ​พี่​น้อง​ช่วย​เรา​รักษา​ความ​เป็น​กลาง​และ​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลก?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 15]

การ​ที่​เรา​ยอม​ตัว​อยู่​ใต้​อำนาจ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ส่ง​ผล​กระทบ​เช่น​ไร​ต่อ​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​เรา​กับ​โลก?

[ภาพ​หน้า 16]

ชาว​ฮูตู​และ​ทุตซี​ทำ​งาน​ร่วม​กัน​อย่าง​มี​ความ​สุข

[ภาพ​หน้า 17]

พี่​น้อง​คริสเตียน​ชาว​ยิว​และ​อาหรับ

[ภาพ​หน้า 17]

คริสเตียน​ชาว​เซอร์เบีย, บอสเนีย, และ​โครเอเชีย​เพลิดเพลิน​กับ​มิตรภาพ​ที่​มี​ต่อ​กัน

[ภาพ​หน้า 18]

เรา​ควร​ทำ​เช่น​ไร​เมื่อ​ผู้​ปกครอง​ฝ่าย​โลก​สั่ง​ให้​เรา​ละเมิด​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า?