ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“จงเฝ้าระวังอยู่เสมอ”!

“จงเฝ้าระวังอยู่เสมอ”!

“จง​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ”!

“สิ่ง​ซึ่ง​เรา​บอก​พวก​เจ้า เรา​ก็​บอก​คน​ทั้ง​ปวง จง​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ.”—มาระโก 13:37, ล.ม.

1, 2. (ก) บทเรียน​อะไร​ที่​ชาย​คน​หนึ่ง​ได้​เรียน​รู้​ใน​เรื่อง​การ​ปก​ป้อง​รักษา​ทรัพย์​สิน? (ข) เรา​ได้​เรียน​อะไร​เกี่ยว​กับ​การ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​จาก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระ​เยซู​ใน​เรื่อง​ขโมย?

ฮวน​เก็บ​สิ่ง​ของ​มี​ค่า​ไว้​ที่​บ้าน. เขา​เก็บ​มัน​ไว้​ใต้​เตียง ที่​ซึ่ง​เขา​คิด​ว่า​ปลอด​ภัย​ที่​สุด​ใน​บ้าน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คืน​หนึ่ง ขณะ​ที่​เขา​กับ​ภรรยา​กำลัง​หลับ​อยู่ ขโมย​ได้​เข้า​มา​ใน​ห้อง​นอน. เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ขโมย​รู้​ว่า​จะ​หา​ของ​มี​ค่า​เจอ​ได้​ที่​ไหน. ขโมย​กวาด​เอา​ของ​มี​ค่า​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​ใต้​เตียง​ไป​อย่าง​เงียบ​เชียบ รวม​ทั้ง​เงิน​ที่​ฮวน​เก็บ​ไว้​ที่​ลิ้น​ชัก​โต๊ะ​ข้าง​เตียง. วัน​รุ่ง​ขึ้น ฮวน​ถึง​รู้​ว่า​ขโมย​ขึ้น​บ้าน. เขา​จะ​จด​จำ​บทเรียน​อัน​เจ็บ​ปวด​ใน​ครั้ง​นี้​ไป​อีก​นาน​ที่​ว่า คน​ที่​กำลัง​หลับ​อยู่​ไม่​สามารถ​ปก​ป้อง​รักษา​ทรัพย์​สิน​ของ​เขา​ไว้​ได้.

2 ข้อ​นี้​เป็น​จริง​ใน​แง่​ฝ่าย​วิญญาณ​เช่น​กัน. เรา​ไม่​สามารถ​ปก​ป้อง​รักษา​ความ​หวัง​และ​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ไว้​ได้​หาก​เรา​หลับใหล​อยู่. ดัง​นั้น เปาโล​จึง​กระตุ้น​เตือน​ว่า “อย่า​ให้​เรา​หลับ​เหมือน​คน​อื่น แต่​ให้​เรา​ตื่น​อยู่​และ​รักษา​สติ​ของ​เรา.” (1 เธซะโลนิเก 5:6, ล.ม.) เพื่อ​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​นั้น​สำคัญ​เพียง​ไร พระ​เยซู​ทรง​ยก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ใน​เรื่อง​ขโมย. พระองค์​ได้​บรรยาย​ถึง​เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ที่​จะ​นำ​ไป​สู่​การ​เสด็จ​มา​ของ​พระองค์​ใน​ฐานะ​ผู้​พิพากษา แล้ว​พระองค์​เตือน​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น​จง​เฝ้า​ระวัง​อยู่, เพราะ​ท่าน​ไม่​รู้​ว่าองค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​ท่าน​จะ​เสด็จ​มา​เวลา​ไหน. แต่​ให้​เข้าใจ​อย่าง​นี้​ว่า, ถ้า​เจ้าของ​บ้าน​ล่วง​รู้​ได้​ว่า​ขโมย​จะ​มา​ยาม​ไหน เขา​จะ​เฝ้า​ระวัง​ไว้ ไม่​ให้​ตัด​ฝา​เรือน​ของ​เขา​ได้. เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​เตรียม​ตัว​ไว้​ให้​พร้อม ใน​โมง​ที่​ท่าน​ไม่​ทัน​คิด​นั้น บุตร​มนุษย์​จะ​เสด็จ​มา.” (มัดธาย 24:42-44) ขโมย​จะ​ไม่​ประกาศ​ให้​ทราบ​ล่วง​หน้า​ว่า​จะ​มา​เมื่อ​ไร. เขา​หวัง​ที่​จะ​ไป​ถึง​ใน​เวลา​ที่​ไม่​มี​ใคร​คาด​คิด​ว่า​ขโมย​จะ​มา. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน พระ​เยซู​ตรัส​ไว้​ว่า อวสาน​ของ​ระบบ​นี้​จะ​มา​ถึง ‘ใน​โมง​ที่​เรา​ไม่​ทัน​คิด.’

“จง​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ จง​ยืน​มั่น​ใน​ความ​เชื่อ”

3. โดย​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​บ่าว​ที่​คอย​นาย​ของ​ตน​กลับ​จาก​งาน​สมรส พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​การ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ?

3 ใน​ถ้อย​คำ​ที่​บันทึก​ไว้​ใน​กิตติคุณ​ของ​ลูกา พระ​เยซู​ทรง​เปรียบ​เทียบ​คริสเตียน​กับ​บ่าว​ที่​คอย​นาย​ของ​ตน​กลับ​จาก​งาน​สมรส. พวก​เขา​ต้อง​คอย​เฝ้า​ระวัง​เพื่อ​อยู่​พร้อม​ที่​จะ​ต้อนรับ​นาย​เมื่อ​เขา​มา​ถึง. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “บุตร​มนุษย์​จะ​เสด็จ​มา​ใน​โมง​ที่​ท่าน​ไม่​ทัน​คิด.” (ลูกา 12:40) บาง​คน​ที่​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มา​นาน​หลาย​ปี​อาจ​สูญ​เสีย​ความ​สำนึก​ถึง​ความ​เร่ง​ด่วน​ของ​สมัย​ที่​เรา​มี​ชีวิต​อยู่​นี้. พวก​เขา​อาจ​ถึง​กับ​ลง​ความ​เห็น​ว่า​อวสาน​คง​อยู่​อีก​ไกล. แต่​การ​คิด​อย่าง​นั้น​อาจ​หันเห​ความ​สนใจ​ของ​เรา​จาก​สิ่ง​ฝ่าย​วิญญาณ​และ​มุ่ง​ไป​แสวง​หา​สิ่ง​ฝ่าย​วัตถุ​หรือ​สิ่ง​อื่น​ใด​ที่​ทำ​ให้​เรา​เซื่อง​ซึม​ฝ่าย​วิญญาณ.—ลูกา 8:14; 21:34, 35.

4. การ​มี​ความ​มั่น​ใจ​ใน​เรื่อง​อะไร​จะ​กระตุ้น​เรา​ให้​เฝ้า​ระวัง และ​พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ให้​เห็น​ใน​เรื่อง​นี้​อย่าง​ไร?

4 ยัง​มี​บทเรียน​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​เรา​อาจ​ได้​จาก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​นี้​ของ​พระ​เยซู. ถึง​แม้​บ่าว​ไม่​รู้​ว่า​นาย​จะ​มา​ถึง​กี่​ทุ่ม​กี่​ยาม แต่​ก็​ดู​เหมือน​พวก​เขา​รู้​ว่า​นาย​จะ​กลับ​มา​คืน​ไหน. ถ้า​พวก​บ่าว​คิด​ว่า​นาย​คง​ยัง​ไม่​มา​ใน​คืน​นั้น ก็​ยาก​ที่​พวก​เขา​จะ​ตื่น​อยู่​ตลอด​คืน​นั้น. แต่​พวก​เขา​รู้​ว่า​นาย​จะ​มา​คืน​ไหน และ​นั่น​เป็น​แรง​กระตุ้น​ที่​มี​พลัง​ให้​พวก​เขา​ตื่น​อยู่​เสมอ. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน คำ​พยากรณ์​ต่าง ๆ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เปิด​เผย​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​เรา​กำลัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​เวลา​ที่​อวสาน​จะ​มา​ถึง แต่​คำ​พยากรณ์​เหล่า​นั้น​ไม่​ได้​บอก​เรา​ให้​รู้​ว่า​อวสาน​นั้น​จะ​เกิด​ขึ้น​ใน​วัน​ไหน​และ​โมง​ไหน. (มัดธาย 24:36) ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ที่​ว่า​อวสาน​กำลัง​จะ​มา​ช่วย​ให้​เรา​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ แต่​ถ้า​เรา​มั่น​ใจ​ว่า​วัน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว​จริง ๆ เรา​ก็​ยิ่ง​มี​แรง​กระตุ้น​มาก​ขึ้น​อีก​ที่​จะ​เฝ้า​ระวัง.—ซะฟันยา 1:14.

5. เรา​จะ​ตอบรับ​คำ​กระตุ้น​เตือน​ของ​เปาโล​ที่​ให้ “ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ” ได้​โดย​วิธี​ใด?

5 เมื่อ​เขียน​ไป​ถึง​ชาว​โครินท์ เปาโล​กระตุ้น​พวก​เขา​ดัง​นี้: “จง​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ จง​ยืน​มั่น​ใน​ความ​เชื่อ.” (1 โกรินโธ 16:13, ล.ม.) ถูก​แล้ว การ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ยืน​มั่น​ใน​ความ​เชื่อ​ฝ่าย​คริสเตียน. เรา​จะ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​ได้​โดย​วิธี​ใด? เรา​ต้อง​เพิ่ม​พูน​ความ​รู้​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ให้​ลึกซึ้ง​ยิ่ง​ขึ้น. (2 ติโมเธียว 3:14, 15) นิสัย​การ​ศึกษา​ส่วน​ตัว​ที่​ดี​และ​การ​เข้า​ร่วม​ประชุม​เป็น​ประจำ​จะ​ช่วย​ให้​เรา​มี​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง​ยิ่ง​ขึ้น และ​การ​คำนึง​ถึง​วัน​ของ​พระ​ยะโฮวา​เสมอ​ก็​เป็น​ส่วน​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ของ​ความ​เชื่อ​ของ​เรา. ด้วย​เหตุ​นั้น การ​ทบทวน​เป็น​ระยะ ๆ ถึง​ข้อ​พิสูจน์​จาก​พระ​คัมภีร์​ที่​ว่า​เรา​กำลัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใกล้​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้​จะ​ช่วย​เรา​ไม่​ให้ลืม​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​เกี่ยว​กับ​อวสาน​ที่​กำลัง​ใกล้​เข้า​มา​นั้น. * คง​จะ​เป็น​ประโยชน์​ด้วย​ที่​จะ​ใส่​ใจ​เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ของ​โลก​ที่​เกิด​ขึ้น​จริง​ตาม​คำ​พยากรณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​ใน​เยอรมนี​เขียน​ว่า “ทุก​ครั้ง​ที่​ผม​ดู​ข่าว​เกี่ยว​กับ​สงคราม, แผ่นดิน​ไหว, ความ​รุนแรง, และ​การ​ทำลาย​สิ่ง​แวด​ล้อม นั่น​ตอก​ย้ำ​ให้​ผม​เห็น​ชัด​ว่า​อวสาน​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว.”

6. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​โดย​วิธี​ใด​ว่า​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​ขาด​การ​เฝ้า​ระวัง​ฝ่าย​วิญญาณ​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป?

6 ใน​พระ​ธรรม​มาระโก​บท​ที่ 13 เรา​พบ​คำ​กระตุ้น​เตือน​ที่​พระ​เยซู​ให้​แก่​เหล่า​สาวก​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ. ตาม​ที่​กล่าว​ใน​บท​นี้ พระ​เยซู​เปรียบ​สถานการณ์​ของ​เหล่า​สาวก​กับ​สถานการณ์​ของ​คน​เฝ้า​ประตู​ที่​คอย​นาย​ของ​ตน​กลับ​มา​จาก​เดิน​ทาง​ไกล. คน​เฝ้า​ประตู​ไม่​รู้​เลย​ว่า​นาย​จะ​กลับ​มา​ยาม​ไหน. เขา​จึง​ได้​แต่​เฝ้า​คอย. พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​ช่วง​เวลา​ที่​แตกต่าง​กัน​สี่​ช่วง​ที่​นาย​อาจ​มา​ถึง. ช่วง​ที่​สี่​เริ่ม​ตั้ง​แต่​ตี​สาม​จน​ถึง​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น. ใน​ช่วง​สุด​ท้าย​นี้ ความ​ง่วง​อาจ​เข้า​ครอบ​งำ​คน​เฝ้า​ประตู​ได้​ง่าย. ว่า​กัน​ว่า​พวก​ทหาร​ถือ​ว่า​ช่วง​ก่อน​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​นี้​เป็น​ช่วง​เวลา​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​บุก​จับ​ข้าศึก​แบบ​ไม่​ให้​รู้​ตัว. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน ใน​ช่วง​ปลาย​ของ​สมัย​สุด​ท้าย​นี้ เมื่อ​โลก​รอบ​ตัว​เรา​อยู่​ใน​ภาวะ​หลับ​สนิท​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ เรา​อาจ​ต้อง​บากบั่น​ยิ่ง​กว่า​ที่​เป็น​มา​เพื่อ​จะ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ. (โรม 13:11, 12) ด้วย​เหตุ​นั้น ใน​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​นี้​ของ​พระ​เยซู พระองค์​จึง​กล่าว​กระตุ้น​หลาย​ครั้ง​ว่า “จง​คอย​ดู​อยู่ จง​ตื่น​ตัว​เสมอ . . . เหตุ​ฉะนั้น จง​เฝ้า​ระวัง​เสมอ . . . สิ่ง​ซึ่ง​เรา​บอก​พวก​เจ้า เรา​ก็​บอก​คน​ทั้ง​ปวง จง​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ.”—มาระโก 13:32-37, ล.ม.

7. มี​อะไร​เป็น​อันตราย​อย่าง​แท้​จริง และ​ด้วย​เหตุ​นี้ เรา​จึง​อ่าน​พบ​คำ​กระตุ้น​อะไร​ใน​พระ​คัมภีร์​บ่อย​ครั้ง?

7 หลาย​ต่อ​หลาย​ครั้ง​ระหว่าง​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​และ​หลัง​จาก​ที่​ทรง​คืน​พระ​ชนม์ พระองค์​ทรง​กระตุ้น​ให้​เฝ้า​ระวัง. อัน​ที่​จริง แทบ​ทุก​ครั้ง​ที่​พระ​คัมภีร์​กล่าว​ถึง​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้ เรา​พบ​คำ​เตือน​ที่​ให้​ตื่น​ตัว​หรือ​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ. * (ลูกา 12:38, 40; วิวรณ์ 3:2; 16:14-16) เห็น​ได้​ชัด การ​ง่วง​ซึม​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​อันตราย​อย่าง​แท้​จริง. เรา​ทุก​คน​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​คำ​เตือน​ดัง​กล่าว!—1 โกรินโธ 10:12; 1 เธซะโลนิเก 5:2, 6.

อัครสาวก​สาม​คน​ที่​ไม่​สามารถ​ตื่น​ตัว​อยู่

8. ใน​สวน​เฆ็ธเซมาเน อัครสาวก​สาม​คน​ของ​พระ​เยซู​ตอบ​สนอง​อย่าง​ไร​เมื่อ​พระองค์​ขอ​ให้​พวก​เขา​เฝ้า​ระวัง​อยู่?

8 การ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​ต้อง​อาศัย​บาง​สิ่ง​นอก​เหนือ​จาก​ความ​ตั้งใจ​จริง ดัง​ที่​เรา​เห็น​ได้​จาก​ตัว​อย่าง​ของ​เปโตร, ยาโกโบ, และ​โยฮัน. ทั้ง​สาม​คน​เป็น​มนุษย์​ฝ่าย​วิญญาณ​ผู้​ซึ่ง​ติด​ตาม​พระ​เยซู​ด้วย​ความ​ภักดี​และ​มี​ความ​รักใคร่​อย่าง​สุด​ซึ้ง​ต่อ​พระองค์. ถึง​กระนั้น ใน​คืน​วัน​ที่ 14 เดือน​ไนซาน ปี ส.ศ. 33 พวก​เขา​ไม่​ได้​ตื่น​ตัว​อยู่. เมื่อ​ออก​จาก​ห้อง​ชั้น​บน​ที่​พวก​เขา​ฉลอง​ปัศคา อัครสาวก​สาม​คน​นี้​ติด​ตาม​พระ​เยซู​เข้า​ไป​ใน​สวน​เฆ็ธเซมาเน. ที่​นั่น พระ​เยซู​ตรัส​แก่​พวก​เขา​ว่า “ตัว​เรา​เป็น​ทุกข์​นัก​แทบ​ถึง​ตาย. จง​รอ​อยู่​ที่​นี่​และ​เฝ้า​ระวัง​กับ​เรา.” (มัดธาย 26:38, ล.ม.) พระ​เยซู​อธิษฐาน​ด้วย​ความ​เร่าร้อน​ถึง​พระ​บิดา​ฝ่าย​สวรรค์​ของ​พระองค์​ถึง​สาม​ครั้ง และ​แต่​ละ​ครั้ง​ที่​กลับ​มา​หา​สหาย​ของ​พระองค์ ก็​พบ​ว่า​พวก​เขา​กำลัง​หลับ​ทุก​ครั้ง.—มัดธาย 26:40, 43, 45.

9. อะไร​อาจ​เป็น​เหตุ​ที่​ทำ​ให้​พวก​อัครสาวก​ง่วง​นอน?

9 ทำไม​ผู้​ซื่อ​สัตย์​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​พระ​เยซู​ผิด​หวัง​ใน​คืน​นั้น? ความ​อ่อน​ล้า​เป็น​ปัจจัย​อย่าง​หนึ่ง. เวลา​นั้น​ก็​ดึก​มาก​แล้ว อาจ​เป็น​หลัง​เที่ยง​คืน และ​พวก​เขา​หลับ “ลืม​ตา​ไม่​ขึ้น.” (มัดธาย 26:43, ฉบับ​แปล​ใหม่) ถึง​กระนั้น พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “จง​เฝ้า​ระวัง​และ​อธิษฐาน, เพื่อ​ท่าน​จะ​ไม่​ได้​เข้า​ใน​การ​ทดลอง จิตต์​ใจ​พร้อม​แล้ว​ก็​จริง, แต่​เนื้อหนัง​ยัง​อ่อน​กำลัง.”—มัดธาย 26:41.

10, 11. (ก) ถึง​แม้​จะ​เหนื่อย​ล้า อะไร​ได้​ช่วย​พระ​เยซู​ให้​เฝ้า​ระวัง​ขณะ​อยู่​ใน​สวน​เฆ็ธเซมาเน? (ข) เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​อัครสาวก​สาม​คน​เมื่อ​พระ​เยซู​ขอ​ให้​พวก​เขา​เฝ้า​ระวัง?

10 ไม่​มี​ข้อ​สงสัย พระ​เยซู​เหนื่อย​ล้า​เช่น​กัน​ใน​คืน​สำคัญ​ทาง​ประวัติศาสตร์​นั้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม แทน​ที่​พระ​เยซู​จะ​หลับ พระองค์​ทรง​ใช้​เวลา​สำคัญ​ชั่ว​ขณะ​สุด​ท้าย​ก่อน​ที่​จะ​ถูก​จับ​กุม​นี้​เพื่อ​อธิษฐาน​ด้วย​ใจ​ร้อน​รน. ไม่​กี่​วัน​ก่อน​หน้า​นั้น พระองค์​ได้​ทรง​กระตุ้น​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​อธิษฐาน โดย​ตรัส​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น จง​ตื่น​ตัว​เสมอ เฝ้า​วิงวอน​อยู่​ตลอด​เวลา เพื่อ​เจ้า​จะ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​หนี​พ้น​เหตุ​การณ์​ทั้ง​ปวง​เหล่า​นี้​ซึ่ง​ถูก​กำหนด​ไว้​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น และ​ใน​การ​ยืน​อยู่​ต่อ​หน้า​บุตร​มนุษย์.” (ลูกา 21:36, ล.ม.; เอเฟโซ 6:18) ถ้า​เรา​เชื่อ​ฟัง​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​และ​ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ของ​พระองค์​ใน​เรื่อง​การ​อธิษฐาน คำ​ทูล​วิงวอน​จาก​ใจ​จริง​ของ​เรา​ถึง​พระ​ยะโฮวา​จะ​ช่วย​ให้​เรา​ตื่น​ตัว​เสมอ​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ.

11 แน่นอน พระ​เยซู​ทรง​เข้าใจ​ว่า​ใน​อีก​ไม่​ช้า​พระองค์​จะ​ถูก​จับ​กุม​และ​ถูก​ตัดสิน​โทษ​ถึง​ประหาร ซึ่ง​สาวก​ของ​พระองค์​ไม่​เข้าใจ​ใน​ตอน​นั้น. การ​ทดลอง​ที่​พระองค์​ประสบ​จะ​ไป​ถึง​จุด​สุด​ยอด​ด้วย​การ​ทน​ทุกข์​ทรมาน​อย่าง​แสน​สาหัส​บน​หลัก​ทรมาน. พระ​เยซู​ได้​เตือน​เหล่า​อัครสาวก​ของ​พระองค์​ล่วง​หน้า​ถึง​เรื่อง​เหล่า​นี้ แต่​พวก​เขา​ไม่​เข้าใจ​ที่​พระองค์​ตรัส. ด้วย​เหตุ​นั้น พวก​เขา​จึง​หลับ​ขณะ​ที่​พระองค์​ตื่น​อยู่​และ​ทูล​อธิษฐาน. (มาระโก 14:27-31; ลูกา 22:15-18) ดัง​ที่​เป็น​กับ​เหล่า​อัครสาวก เนื้อหนัง​ของ​เรา​อ่อน​กำลัง​เช่น​กัน และ​มี​อีก​หลาย​สิ่ง​ที่​เรา​ยัง​ไม่​รู้. กระนั้น ถ้า​เรา​ไม่​สังเกต​เห็น​ความ​เร่ง​ด่วน​ของ​สมัย​ที่​เรา​มี​ชีวิต​อยู่ ใน​แง่​ฝ่าย​วิญญาณ​เรา​อาจ​จะ​เคลิ้ม​หลับ​ไป. เฉพาะ​เมื่อ​เรา​เฝ้า​ระวัง​เท่า​นั้น เรา​จึง​จะ​ตื่น​ตัว​เสมอ.

คุณลักษณะ​ที่​สำคัญ​สาม​ประการ

12. เปาโล​เชื่อม​โยง​คุณลักษณะ​สาม​ประการ​อะไร​เข้า​กับ​การ​รักษา​สติ?

12 เรา​จะ​รักษา​ความ​สำนึก​ถึง​ความ​เร่ง​ด่วน​ไว้​ได้​อย่าง​ไร? เรา​ได้​เห็น​แล้ว​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​การ​อธิษฐาน​และ​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​คำนึง​ถึง​วัน​ของ​พระ​ยะโฮวา​อยู่​เสมอ. แต่​นอก​จาก​นั้น เปาโล​ยัง​ได้​กล่าว​ถึง​คุณลักษณะ​สำคัญ​สาม​ประการ​ที่​เรา​ควร​ปลูกฝัง. ท่าน​กล่าว​ว่า “ส่วน​เรา​ซึ่ง​เป็น​ฝ่าย​กลางวัน จง​ให้​เรา​รักษา​สติ และ​สวม​เกราะ​หน้า​อก​แห่ง​ความ​เชื่อ​และ​ความ​รัก และ​เอา​ความ​หวัง​เกี่ยว​กับ​ความ​รอด​มา​สวม​เป็น​หมวก​เกราะ.” (1 เธซะโลนิเก 5:8, ล.ม.) ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​อย่าง​สั้น ๆ ถึง​บทบาท​ของ​ความ​เชื่อ, ความ​หวัง, และ​ความ​รัก ใน​การ​ช่วย​ให้​เรา​ตื่น​ตัว​ฝ่าย​วิญญาณ​อยู่​เสมอ.

13. ความ​เชื่อ​มี​บทบาท​เช่น​ไร​ใน​การ​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ?

13 เรา​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​อย่าง​ไม่​สั่น​คลอน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ดำรง​อยู่​และ​เชื่อ​ว่า “พระองค์​เป็น​ผู้​ประทาน​บำเหน็จ​ให้​แก่​ทุก​คน​ที่​ปลง​ใจ​แสวง​หา​พระองค์.” (เฮ็บราย 11:6) ความ​สำเร็จ​สม​จริง​ขั้น​แรก​ของ​คำ​พยากรณ์​ของ​พระ​เยซู​ใน​เรื่อง​อวสาน​ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก​เสริม​สร้าง​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​เกี่ยว​กับ​การ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​ของ​คำ​พยากรณ์​นั้น​ใน​สมัย​ของ​เรา. และ​ความ​เชื่อ​ทำ​ให้​เรา​คาด​หมาย​วัน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​อยู่​เสมอ โดย​แน่​ใจ​ว่า “[นิมิต​เชิง​พยากรณ์] จะ​สำเร็จ​เป็น​แน่. จะ​ไม่​ล่า​ช้า​เลย.”—ฮะบาฆูค 2:3, ล.ม.

14. ความ​หวัง​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​เพียง​ไร​ถ้า​เรา​จะ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ?

14 ความ​หวัง​อัน​แน่นอน​ของ​เรา​เป็น​ดุจ “สมอ​สำหรับจิตวิญญาณ” ที่​ทำ​ให้​เรา​อด​ทน​ต่อ​ความ​ยาก​ลำบาก​ได้ แม้​ว่า​ต้อง​คอย​ท่า​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​จะ​สำเร็จ​เป็น​จริง​อย่าง​แน่นอน. (เฮ็บราย 6:18, 19, ล.ม.) มาร์กาเรต พี่​น้อง​หญิง​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม​ด้วย​พระ​วิญญาณ​ซึ่ง​มี​อายุ​มาก​กว่า 90 ปี และ​รับ​บัพติสมา​มา​แล้ว​กว่า 70 ปี ยอม​รับ​ว่า “เมื่อ​สามี​ของ​ฉัน​เสีย​ชีวิต​ด้วย​โรค​มะเร็ง​ใน​ปี 1963 ฉัน​รู้สึก​ว่า​คง​จะ​วิเศษ​สัก​เพียง​ไร​ถ้า​อวสาน​จะ​มา​ถึง​เร็ว ๆ. แต่​มา​ถึง​ตอน​นี้ ฉัน​ตระหนัก​ว่า​ที่​ฉัน​คิด​นั้น​ก็​นึก​ถึง​แต่​ผล​ประโยชน์​ของ​ตัว​เอง. ใน​ตอน​นั้น เรา​ไม่​รู้​เลย​ว่า​งาน​ของ​เรา​จะ​แผ่​ขยาย​ไป​ทั่ว​โลก​ถึง​ขนาด​ไหน. แม้​แต่​ใน​ปัจจุบัน ก็​ยัง​มี​เขต​งาน​ใหม่ ๆ หลาย​แห่ง​ที่​เพิ่ง​เปิด​ออก. ฉัน​จึง​ดีใจ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​สำแดง​ความ​อด​กลั้น​พระทัย.” อัครสาวก​เปาโล​รับรอง​กับ​เรา​ว่า “ความ​อด​ทน​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​เรา​เป็น​คน​ที่​พระเจ้า​ทรง​ใช้​ได้ และ​การ​ที่​เรา​เห็น​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​เกิด​มี​ความ​หวัง​ใจ และ​ความ​หวัง​ใจ​มิ​ได้​ทำ​ให้​เกิด​ความ​เสียใจ​เพราะ​ผิด​หวัง.”—โรม 5:3-5, ฉบับ​แปล​ใหม่.

15. ความ​รัก​จะ​กระตุ้น​เรา​ให้​ทำ​อะไร​ถึง​แม้​ดู​เหมือน​ว่า​เรา​ได้​รอ​มา​นาน​แล้ว​ก็​ตาม?

15 ความ​รัก​แบบ​คริสเตียน​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​โดด​เด่น​เนื่อง​จาก​เป็น​แรง​กระตุ้น​พื้น​ฐาน​สำหรับ​ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ. เรา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​เรา​รัก​พระองค์ ไม่​ใช่​เพราะ​คำนึง​ถึง​เวลา​กำหนด​ของ​พระองค์. ความ​รัก​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​กระตุ้น​เราให้​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร ไม่​ว่า​พระเจ้า​จะ​ประสงค์​ให้​เรา​ทำ​งาน​นี้​ไป​อีก​นาน​แค่​ไหน หรือ​จะ​ต้อง​ประกาศ​ซ้ำ​ใน​เขต​เดียว​กัน​ไป​อีก​สัก​กี่​ครั้ง. ดัง​ที่​เปาโล​ได้​เขียน​ไว้​ว่า “ยัง​คง​มี​ความ​เชื่อ, ความ​หวัง, ความ​รัก, สาม​อย่าง​นี้; แต่​ที่​ใหญ่​ที่​สุด​คือ​ความ​รัก.” (1 โกรินโธ 13:13, ล.ม.) ความ​รัก​ทำ​ให้​เรา​อด​ทน​ต่อ ๆ ไป​และ​ช่วย​ให้​เรา​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ. “[ความ​รัก] หวัง​ทุก​สิ่ง, อด​ทน​ทุก​สิ่ง. ความ​รัก​ไม่​ล้มเหลว​เลย.”—1 โกรินโธ 13:7, 8, ล.ม.

“จง​ยึด​ถือ​สิ่ง​ซึ่ง​เจ้า​มี​อยู่​ไว้​ให้​มั่น​ต่อ ๆ ไป”

16. แทน​ที่​จะ​เพลา​มือ​ลง เรา​ควร​ปลูกฝัง​เจตคติ​เช่น​ไร?

16 เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​ยุค​สมัย​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​ซึ่ง​เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ของ​โลก​เตือน​ใจ​เรา​ให้​ระลึก​อยู่​เสมอ​ว่า​เรา​อยู่​ใน​ช่วง​ปลาย​ของ​สมัย​สุด​ท้าย. (2 ติโมเธียว 3:1-5) ตอน​นี้​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​จะ​เพลา​มือ แต่​เป็น​เวลา​ที่​จะ ‘ยึด​ถือ​สิ่ง​ซึ่ง​เรา​มี​อยู่​ไว้​ให้​มั่น​ต่อ ๆ ไป.’ (วิวรณ์ 3:11, ล.ม.) โดย​การ “เฝ้า​ระวัง​ใน​การ​อธิษฐาน” และ​โดย​การ​ปลูกฝัง​ความ​เชื่อ, ความ​หวัง, และ​ความ​รัก เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เรา​อยู่​พร้อม​เมื่อ​ชั่วโมง​แห่ง​การ​ทดสอบ​มา​ถึง. (1 เปโตร 4:7) เรา​มี​มาก​มาย​หลาย​สิ่ง​ที่​จะ​ทำ​ใน​งาน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า. การ​เอา​การ​เอา​งาน​ใน​การ​กระทำ​ด้วย​ความ​เลื่อมใส​ใน​พระเจ้า​จะ​ช่วย​ให้​เรา​ตื่น​ตัว​เต็ม​ที่​อยู่​เสมอ.—2 เปโตร 3:11, ล.ม.

17. (ก) เหตุ​ใด​ความ​ผิด​หวัง​ที่​เกิด​ขึ้น​เป็น​บาง​ครั้ง​ไม่​ควร​ทำ​ให้​เรา​ท้อ​ใจ? (ดู​กรอบ​หน้า 21.) (ข) เรา​จะ​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​ได้​อย่าง​ไร และ​คน​ที่​เลียน​แบบ​พระองค์​จะ​ได้​รับ​พระ​พร​อะไร​ใน​อนาคต?

17 ยิระมะยา​เขียน​ดัง​นี้: “‘พระ​ยะโฮวา​ทรง​ถือ​หุ้น​ร่วม​กับ​ข้าพเจ้า, เหตุ​ฉะนี้​ข้าพเจ้า​จะ​หวัง​พึ่ง​พระองค์ [“สำแดง​เจตคติ​แบบ​ที่​รอ​คอย​พระองค์,” ล.ม.].’ พระ​ยะโฮวา​ทรง​ดี​ต่อ​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​ได้​รอ​ท่า​พระองค์, ต่อ​จิตต์​ใจ​ที่​ได้​แสวง​หา​พระองค์. เป็น​การ​ดี​ที่​มนุษย์​จะ​สงบ​ใจ​รอ​คอย​ความ​รอด​ของ​พระ​ยะโฮวา.” (บทเพลง​ร้อง​ทุกข์ 3:24-26) บาง​คน​ใน​พวก​เรา​เพิ่ง​รอ​คอย​มา​ได้​ไม่​นาน. ส่วน​บาง​คน​ได้​คอย​มา​นาน​หลาย​ปี​แล้ว​เพื่อ​จะ​เห็น​ความ​รอด​จาก​พระ​ยะโฮวา. แต่​ช่วง​เวลา​ที่​เรา​รอ​นั้น​สั้น​สัก​เพียง​ไร​เมื่อ​เทียบ​กับ​นิรันดร​กาล​ที่​รอ​อยู่​เบื้อง​หน้า! (2 โกรินโธ 4:16-18) และ​ขณะ​ที่​เรา​คอย​ท่า​เวลา​กำหนด​ของ​พระ​ยะโฮวา​นั้น เรา​สามารถ​ปลูกฝัง​คุณลักษณะ​แบบ​คริสเตียน​ที่​จำเป็น​และ​ช่วย​ผู้​อื่น​ให้​ฉวย​ประโยชน์​จาก​ความ​อด​กลั้น​พระทัย​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​รับ​เอา​ความ​จริง. ฉะนั้น ขอ​ให้​เรา​ทุก​คน​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ. ให้​เรา​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​และ​มี​ความ​อด​ทน ขอบพระคุณ​พระองค์​สำหรับ​ความ​หวัง​ที่​ทรง​ประทาน​แก่​เรา. และ​ขณะ​ที่​เรา​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์ ขอ​ให้​เรา​ยึด​มั่น​ใน​ความ​หวัง​เรื่อง​ชีวิต​นิรันดร์​ต่อ ๆ ไป. แล้ว​คำ​สัญญา​ที่​พยากรณ์​ไว้​ต่อ​ไป​นี้​จะ​ใช้​ได้​กับ​เรา​อย่าง​แน่นอน: “[พระ​ยะโฮวา] จะ​ทรง​โปรด​ให้​ท่าน​เลื่อน​ขึ้น​ได้​มฤดก​ที่​แผ่นดิน​นั้น: ท่าน​คง​จะ​ได้​เห็น, เมื่อ​คน​ชั่ว​ต้อง​ถูก​ตัด​ขาด​เสีย.”—บทเพลง​สรรเสริญ 37:34.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 5 อาจ​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​ทบทวน​หลักฐาน​หก​ประการ​ที่​พิสูจน์​ว่า​เรา​กำลัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน “สมัย​สุด​ท้าย” ซึ่ง​ลง​ไว้​ใน​หอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 มกราคม 2000 หน้า 12-13.—2 ติโมเธียว 3:1, ล.ม.

^ วรรค 7 เมื่อ​กล่าว​ถึง​คำ​กริยา​ภาษา​กรีก​ที่​มี​การ​แปล​ว่า “ตื่น​ตัว​เสมอ” ดับเบิลยู. อี. ไวน์ ผู้​เรียบเรียง​ปทานุกรม อธิบาย​ว่า​คำ​นี้​ตาม​ตัว​อักษร​แล้ว​หมาย​ถึง ‘ขับ​เอา​การ​หลับ​ออก​ไป’ และ​คำ​นี้ “ไม่​หมาย​ถึง​เพียง​แค่​การ​ตื่น​ตัว​เท่า​นั้น แต่​ยัง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​เฝ้า​ระวัง​ของ​คน​ที่​จดจ่อ​อยู่​กับ​สิ่ง​หนึ่ง.”

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

• เรา​จะ​เสริม​ความ​เชื่อ​มั่น​ของ​เรา​ที่​ว่า​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้​มา​ใกล้​แล้ว​โดย​วิธี​ใด?

• เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​ตัว​อย่าง​ของ​เปโตร, ยาโกโบ, และ​โยฮัน?

• คุณลักษณะ​สาม​ประการ​อะไร​จะ​ช่วย​เรา​ให้​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ?

• เหตุ​ใด​บัด​นี้​จึง​เป็น​เวลา​ที่​จะ ‘ยึด​ถือ​สิ่ง​ซึ่ง​เรา​มี​อยู่​ไว้​ให้​มั่น​ต่อ ๆ ไป’?

[คำ​ถาม]

[กรอบ/ภาพ​หน้า 21]

“ความ​สุข​ย่อม​มี​แก่​คน​ที่​คอย​อยู่.”—ดานิเอล 12:12

ขอ​ให้​จินตนาการ​ว่า​มี​ยาม​คน​หนึ่ง​สงสัย​ว่า​ขโมย​วาง​แผน​จะ​เข้า​มา​ขโมย​ของ​ใน​อาคาร​ที่​เขา​เฝ้า​อยู่. พอ​ตก​กลางคืน ยาม​คน​นี้​ตั้งใจ​ฟัง​เสียง​ใด ๆ ที่​อาจ​บ่ง​ชี้​ว่า​มี​ขโมย​มา. ชั่วโมง​แล้ว​ชั่วโมง​เล่า​ที่​เขา​พยายาม​ฟัง​เสียง​และ​คอย​สอดส่อง​อย่าง​เต็ม​ที่. เป็น​ที่​เข้าใจ​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​เขา​อาจ​ถูก​หลอก​ด้วย​เสียง​ลม​ที่​กระโชก​ต้น​ไม้​หรือ​แมว​ที่​ชน​ของ​บาง​อย่าง​ล้ม.—ลูกา 12:39, 40.

สิ่ง​คล้าย ๆ กัน​อาจ​เกิด​ขึ้น​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่ “คอย​ท่า​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา​ผู้​ที่​จะ​เสด็จ​มา​ปรากฏ.” (1 โกรินโธ 1:7) พวก​อัครสาวก​คิด​ว่า​พระ​เยซู​จะ “ทรง​ตั้ง​ราชอาณาจักร​ขึ้น​ใหม่​ให้​แก่​ชน​อิสราเอล” ไม่​นาน​หลัง​จาก​พระองค์​คืน​พระ​ชนม์. (กิจการ 1:6, ฉบับ​แปล​ใหม่) หลาย​ปี​ต่อ​มา คริสเตียน​ใน​เทสซาโลนีกา (เธซะโลนิเก) จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​เตือน​ให้​รู้​ว่า​การ​ประทับ​ของ​พระ​เยซู​ยัง​อยู่​ใน​อนาคต. (2 เธซะโลนิเก 2:3, 8) ถึง​กระนั้น การ​คาด​หมาย​ที่​ไม่​สม​หวัง​ใน​เรื่อง​วัน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ทำ​ให้​เหล่า​สาวก​ใน​ยุค​แรก​ของ​พระ​เยซู​ละ​ทิ้ง​ทาง​ที่​นำ​ไป​ถึง​ชีวิต.—มัดธาย 7:13.

ใน​สมัย​ของ​เรา ความ​ผิด​หวัง​ที่​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้​ดู​เหมือน​ว่า​มา​ช้า​ไม่​ควร​ทำ​ให้​เรา​เลิก​เฝ้า​ระวัง. คน​ยาม​ที่​เฝ้า​ระวัง​อาจ​ถูก​หลอก​ด้วย​เสียง​ที่​ทำ​ให้​เข้าใจ​ผิด ถึง​กระนั้น เขา​ต้อง​เฝ้า​ระวัง​ต่อ ๆ ไป! นั่น​เป็น​หน้า​ที่​ของ​เขา. คริสเตียน​ต้อง​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน.

[ภาพ​หน้า 18]

คุณ​เชื่อ​มั่น​ไหม​ว่า​วัน​ของ​พระ​ยะโฮวา​มา​ใกล้​แล้ว?

[ภาพ​หน้า 19]

การ​ประชุม​ต่าง ๆ, การ​อธิษฐาน, และ​นิสัย​การ​ศึกษา​ที่​ดี ช่วย​เรา​ให้​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เสมอ

[ภาพ​หน้า 22]

เช่น​เดียว​กับ​มาร์กาเรต ขอ​ให้​เรา​เฝ้า​ระวัง​ต่อ ๆ ไป​ด้วย​ความ​อด​ทน​และ​ใจ​จดจ่อ