ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

‘คนดีจะได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า’

‘คนดีจะได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า’

‘คน​ดี​จะ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า’

บ่อ​เกิด​แห่ง​ชีวิต​ทั้ง​สิ้น​อยู่​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. (บทเพลง​สรรเสริญ 36:9) ใช่​แล้ว “โดย​พระองค์ เรา​มี​ชีวิต​และ​เคลื่อน​ไหว​และ​เป็น​อยู่.” (กิจการ 17:28, ล.ม.) และ​หัวใจ​ของ​เรา​จะ​ไม่​เปี่ยม​ล้น​ด้วย​ความ​รู้สึก​ขอบคุณ​หรอก​หรือ​เมื่อ​เรา​พิจารณา​รางวัล​ซึ่ง​พระองค์​ได้​ประทาน​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​สัมพันธภาพ​แนบแน่น​กับ​พระองค์? ทั้ง​นี้​เพราะ “ของ​ประทาน​ที่​พระเจ้า​ทรง​โปรด​ให้​นั้น​คือ​ชีวิต​นิรันดร.” (โรม 6:23, ล.ม.) สำคัญ​เพียง​ไร​ที่​เรา​พึง​แสวง​ความ​โปรดปราน​ของ​พระ​ยะโฮวา!

ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ให้​คำ​รับรอง​แก่​เรา​ว่า “พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​ประทาน​พระคุณ [“ความ​โปรดปราน,” ล.ม.].” (บทเพลง​สรรเสริญ 84:11) แต่​ทรง​ประทาน​แก่​ผู้​ใด? ผู้​คน​สมัย​นี้​มัก​แสดง​ความ​ชอบ​พอ​หรือ​ถูก​อัธยาศัย​กัน​บน​พื้น​ฐาน​ของ​การ​ศึกษา, ฐานะ​ร่ำรวย, สี​ผิว, ภูมิหลัง​ด้าน​ชาติ​พันธุ์, และ​อะไร ๆ ทำนอง​นั้น. คน​จำพวก​ไหน​ล่ะ​ที่​รับ​ความ​โปรดปราน​ของ​พระเจ้า? กษัตริย์​ซะโลโม​แห่ง​ชาติ​อิสราเอล​โบราณ​ตอบ​ดัง​นี้: “คน​ดี​จะ​ได้​ความ​โปรดปราน​จาก​พระ​ยะโฮวา: แต่​คน​ที่​คิด​ทำ​การ​ชั่ว​ร้าย​พระองค์​จะ​ทรง​ลง​โทษ.”สุภาษิต 12:2.

เห็น​ได้​ชัด​ว่า พระ​ยะโฮวา​ทรง​โปรดปราน​คน​ดี คน​มี​คุณธรรม. คุณ​งาม​ความ​ดี​ของ​คน​ดี​นับ​รวม​เอา​คุณลักษณะ​อื่น ๆ เข้า​ไว้​ด้วย เช่น การ​ใช้​วินัย​ควบคุม​ตัว​เอง, ไม่​ลำเอียง, ถ่อม​ตน, เมตตา​สงสาร, และ​รอบคอบ. ความ​คิด​ของ​เขา​ชอบธรรม, วาจา​ของ​เขา​ชู​ใจ, การ​กระทำ​ของ​เขา​เที่ยงธรรม​และ​เป็น​คุณประโยชน์. ส่วน​ต้น​ของ​พระ​ธรรม​สุภาษิต​บท 12 เผย​ให้​เห็น​ว่า​ความ​ดี​ควร​เป็น​พลัง​นำ​ชีวิต​ของ​เรา​แต่​ละ​วัน​อย่าง​ไร และ​ชี้​ถึง​คุณประโยชน์​ต่าง ๆ อัน​เป็น​ผล​สืบ​เนื่อง​จาก​การ​แสดง​คุณลักษณะ​นี้. การ​พิจารณา​ถ้อย​คำ​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​ที่​นั่น​จะ​ช่วย​เรา​ให้ ‘เข้าใจ​ลึกซึ้ง​เพื่อ​กระทำ​ความ​ดี.’ (บทเพลง​สรรเสริญ 36:3, ฉบับ​แปล​ใหม่) การ​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​อัน​สุขุม​ของ​ข้อ​คัมภีร์​ดัง​กล่าว​จะ​ช่วย​เรา​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า.

การ​ตี​สอน​เป็น​สิ่ง​สำคัญ

ซะโลโม​ตรัส​ว่า “ผู้​รัก​การ​ตี​สอน​คือ​ผู้​รัก​ความ​รู้ แต่​ผู้​ชัง​การ​ว่า​กล่าว​เป็น​คน​ไร้​เหตุ​ผล.” (สุภาษิต 12:1, ล.ม.) ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​อยาก​ปรับ​ปรุง​แก้ไข​ตัว​เอง คน​ดี​จึง​กระหาย​ที่​จะ​รับ​เอา​การ​ตี​สอน. เขา​ว่องไว​ที่​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ที่​ได้​รับ ณ การ​ประชุม​คริสเตียน หรือ​เมื่อ​ได้​สนทนา​กัน​เป็น​ส่วน​ตัว. ถ้อย​คำ​ใน​ข้อ​คัมภีร์​และ​สรรพหนังสือ​ที่​ยึด​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ประหนึ่ง​ประตัก​ที่​คอย​กระทุ้ง​เขา​ให้​เดิน​ใน​ทาง​ที่​ถูก​ต้อง. เขา​แสวง​ความ​รู้​และ​ใช้​ความ​รู้​เพื่อ​จัด​ทาง​เดิน​ของ​ตน​ให้​ตรง. ใช่​แล้ว คน​รัก​การ​ตี​สอน​ย่อม​รัก​ความ​รู้​ด้วย.

การ​ตี​สอน​จำเป็น​เพียง​ใด​สำหรับ​ผู้​นมัสการ​แท้—โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​การ​ตี​สอน​ตัว​เอง! เรา​อาจ​ปรารถนา​อยาก​จะ​มี​ความ​รู้​ลึกซึ้ง​ยิ่ง​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. เรา​อาจ​อยาก​เป็น​ผู้​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ขึ้น​ใน​งาน​รับใช้​ฝ่าย​คริสเตียน​และ​เป็น​ผู้​สอน​ที่​ดี​ขึ้น​ใน​ด้าน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. (มัดธาย 24:14; 28:19, 20) แต่​จำเป็น​ต้อง​ใช้​วินัย​กับ​ตัว​เอง​เพื่อ​จะ​ทำ​ได้​จริง​ตาม​ที่​ปรารถนา. การ​ใช้​วินัย​กับ​ตัว​เอง​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เช่น​เดียว​กัน​ใน​ขอบ​เขต​อื่น​ของ​ชีวิต. ยก​ตัว​อย่าง การ​ออก​แบบ​วัตถุ​สิ่ง​ของ​เพื่อ​เร้า​ความ​ปรารถนา​อย่าง​ผิด​ทำนอง​คลอง​ธรรม​มี​ดาษ​ดื่น​ใน​เวลา​นี้. ทั้ง​นี้​จำเป็น​ต้อง​มี​วินัย​กับ​ตัว​เอง​มิ​ใช่​หรือ​เพื่อ​บังคับ​สายตา​ไม่​ให้​เพ่ง​มอง​สิ่ง​ที่​ไม่​เหมาะ​สม? ยิ่ง​กว่า​นั้น เนื่อง​จาก “ความ​เอนเอียง​แห่ง​หัวใจ​ของ​มนุษย์​นั้น​ชั่ว​ตั้ง​แต่​เด็ก​มา” ความ​คิด​ใน​ทาง​ผิด​ศีลธรรม​อาจ​ก่อ​ตัว​ขึ้น​จริง​จาก​ส่วน​ลึก​ของ​จิตใจ. (เยเนซิศ 8:21, ล.ม.) การ​ใช้​วินัย​กับ​ตัว​เอง​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​จะ​ไม่​หมกมุ่น​ครุ่น​คิด​แต่​เรื่อง​นั้น.

ใน​ทาง​กลับ​กัน คน​ที่​เกลียด​การ​ว่า​กล่าว​ตักเตือน​จะ​ไม่​รัก​การ​ตี​สอน​หรือ​ความ​รู้. โดย​ยอม​แพ้​ต่อ​ความ​โน้ม​เอียง​ไป​ใน​ทาง​ผิด​ของ​มนุษย์​ที่​จะ​ไม่​พอ​ใจ​การ​ว่า​กล่าว​ตักเตือน เขา​ลด​ระดับ​ตัว​เอง​ประหนึ่ง​เดรัจฉาน​ซึ่ง​ไม่​รู้​จัก​เหตุ​ผล, ไร้​ซึ่ง​ค่า​นิยม​ด้าน​ศีลธรรม. เรา​ต้อง​มุ่ง​มั่น​ต้านทาน​ความ​โน้ม​เอียง​นี้.

“ราก​ซึ่ง​รื้อ​ถอน​ไม่​ได้”

แน่นอน คน​ดี​ไม่​อาจ​จะ​ประพฤติ​การ​อธรรม. ดัง​นั้น ความ​ชอบธรรม​ย่อม​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เช่น​กัน​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​พระ​ยะโฮวา. กษัตริย์​ดาวิด​ร้อง​เพลง​ดัง​นี้: “พระองค์​จะ​ทรง​อวย​พระ​พร​แก่​ผู้​ชอบธรรม; ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, พระองค์​จะ​ทรง​คุ้มครอง​รักษา​เขา​ไว้​ด้วย​พระ​กรุณา [“ความ​โปรดปราน,” ล.ม.] เหมือน​ดัง​โล่​ใหญ่.” (บทเพลง​สรรเสริญ 5:12) เมื่อ​เทียบเคียง​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​คน​ชอบธรรม​กับ​คน​ชั่ว ซะโลโม​กล่าว​ดัง​นี้: “คน​จะ​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ได้​ด้วย​ความ​ชั่ว​ร้าย​ก็​หา​มิ​ได้; แต่​ราก​แห่ง​ผู้​ชอบธรรม​จะ​ไม่​ถูก​รื้อ​ถอน.”สุภาษิต 12:3.

คน​ชั่ว​อาจ​ดู​เหมือน​จำเริญ​รุ่งเรือง. จง​พิจารณา​ประสบการณ์​ของ​อาซาฟ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ. ท่าน​พูด​ว่า “ฝ่าย​ข้าพเจ้า​เล่า, เท้า​ของ​ข้าพเจ้า​แทบ​หลุด​แล้ว; ย่าง​เท้า​ของ​ข้าพเจ้า​แทบ​จะ​พลาด​พลั้ง​ลง​ไป​แล้ว.” เพราะ​อะไร? อาซาฟ​ตอบ​ดัง​นี้: “ข้าพเจ้า​ได้​ริษยา​คน​อหังการ​ใน​เมื่อ​ข้าพเจ้า​เห็น​ความ​จำเริญ​ของ​เขา.” (บทเพลง​สรรเสริญ 73:2, 3) แต่​ขณะ​ที่​ท่าน​เดิน​เข้า​ไป​ยัง​พระ​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระเจ้า ท่าน​ได้​ตระหนัก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​เขา​ยืน​ใน​ที่​ลื่น. (บทเพลง​สรรเสริญ 73:17, 18) ความ​สำเร็จ​ใด ๆ ซึ่ง​ดู​เหมือน​ว่า​คน​ชั่ว​อาจ​บรรลุ​ได้​ก็​เป็น​แต่​เพียง​ชั่ว​คราว. เรา​จะ​อิจฉา​คน​เหล่า​นั้น​ไป​ทำไม?

ใน​ทาง​ตรง​กัน​ข้าม บุคคล​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​โปรดปราน​นั้น​ตั้ง​มั่นคง. โดย​การ​ยก​เอา​ราก​ที่​แข็งแรง​ของ​ต้น​ไม้​ขึ้น​มา​เปรียบ​เทียบ ซะโลโม​กล่าว​ว่า “คน​ดี​มี​ราก​ซึ่ง​รื้อ​ถอน​ไม่​ได้.” (สุภาษิต 12:3, เดอะ นิว อิงลิช ไบเบิล) ราก​ที่​มอง​ไม่​เห็น​ของ​ต้น​ไม้​ใหญ่ เช่น ต้น​ซีควอยา​แถบ​แคลิฟอร์เนีย อาจ​ครอบ​คลุม​พื้น​ที่​เป็น​สิบ​ไร่ และ​เปรียบ​ดุจ​สมอ​ที่​ยึด​ต้น​ไว้​มั่น​แม้​จะ​มี​น้ำ​ท่วม​หรือ​ลม​แรง. ต้น​ซีควอยา​สูง​ตระหง่าน​สามารถ​ต้านทาน​แผ่นดิน​ไหว​ที่​รุนแรง​ได้​ด้วย​ซ้ำ.

เฉก​เช่น​ราก​ดัง​กล่าว​ที่​ซอกซอน​ใน​ดิน​อัน​อุดม​สมบูรณ์​ของ​แผ่นดิน ความ​คิด​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​เรา​จำ​ต้อง​ชอน​ไช​เข้า​ไป​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​ดูด​ซับ​น้ำ​ที่​ให้​ชีวิต​จาก​พระ​คำ​นั้น. ความ​เชื่อ​ของ​เรา​จึง​จะ​มี​ราก​ยึด​แน่น​และ​แข็งแรง ความ​หวัง​ของ​เรา​ก็​แน่นอน​และ​มั่นคง. (เฮ็บราย 6:19) เรา​จะ​ไม่ “ถูก​พา​ไป​ทาง​โน้น​บ้าง​ทาง​นี้​บ้าง​โดย​ลม​แห่ง​คำ​สอน [เท็จ] ทุก​อย่าง.” (เอเฟโซ 4:14, ล.ม.) แน่นอน เรา​จะ​รู้สึก​ถึง​ผล​กระทบ​ของ​ความ​ยาก​ลำบาก​ที่​ซัด​กระหน่ำ และ​อาจ​กลัว​จน​ตัว​สั่น​ด้วย​ซ้ำ​เมื่อ​เผชิญ​ปรปักษ์. แต่ ‘ราก​ที่​มั่นคง​ของ​เรา​จะ​ไม่​ถูก​รื้อ​ถอน.’

“ภรรยา​ดี​เป็น​มงกุฎ​ของ​สามี​ตน”

หลาย​คน​รู้​จัก​คำ​กล่าว​ที่​ว่า “ผู้​ชาย​ทุก​คน​ที่​ประสบ​ความ​สำเร็จ​มี​ภรรยา​ที่​ดี​อยู่​เบื้อง​หลัง.” เพื่อ​เน้น​ความ​สำคัญ​ของ​ผู้​หญิง​ที่​ให้​การ​เกื้อ​หนุน ซะโลโม​กล่าว​ดัง​นี้: “ภรรยา​ดี [“มี​ความ​สามารถ,” ล.ม.] เป็น​มงกุฎ​ของ​สามี​ตน แต่​นาง​ผู้​ที่​นำ​ความ​อับอาย​มา​ก็​เหมือน​ความ​เน่า​เปื่อย​ใน​กระดูก​สามี.” (สุภาษิต 12:4, ฉบับ​แปล​ใหม่) วลี​ที่​ว่า “มี​ความ​สามารถ” รวม​เอา​หลาย​แง่​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี​เข้า​ไว้​ด้วย​กัน. คุณ​งาม​ความ​ดี​ของ​ภรรยา​ที่​ดี​ดัง​พรรณนา​ราย​ละเอียด​ใน​สุภาษิต​บทบท 31 รวม​ไป​ถึง​ความ​ขยัน​หมั่น​เพียร, ความ​ซื่อ​สัตย์, และ​สติ​ปัญญา. สตรี​ใด​มี​คุณสมบัติ​เหล่า​นี้​ย่อม​เป็น​มงกุฎ​แก่​สามี​ของ​นาง เพราะ​ความ​ประพฤติ​อัน​ดี​ของ​นาง​นำ​เกียรติยศ​มา​สู่​สามี​และ​เสริม​สามี​ให้​ได้​รับ​ความ​เคารพ​นับถือ​จาก​ผู้​อื่น. นาง​ไม่​เคย​ทะเยอทะยาน​อยาก​ล้ำ​หน้า​หรือ​ชิง​ดี​ชิง​เด่น​กับ​สามี​เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​ที่​ยอม​รับ. แทน​การ​ทำ​เช่น​นั้น นาง​เป็น​ผู้​ช่วย เป็น​คู่​เคียง​ของ​สามี.

สตรี​อาจ​ประพฤติ​ตน​เช่น​ไร​ซึ่ง​น่า​อับอาย​ขายหน้า และ​มี​ผล​อะไร​ตาม​มา? การ​ประพฤติ​ที่​น่า​อาย​นี้​อาจ​มี​ตั้ง​แต่​น้ำใจ​ชอบ​โต้​เถียง​กระทั่ง​การ​เล่นชู้. (สุภาษิต 7:10-23; 19:13) การ​ที่​ภรรยา​ประพฤติ​ตน​เช่น​นั้น​มี​แต่​จะ​ก่อ​ความ​เสียหาย​แก่​สามี​ของ​ตน. ข้อ​อ้างอิง​จาก​แหล่ง​หนึ่ง​กล่าว​ว่า นาง​เป็น​เหมือน “ความ​เน่า​เปื่อย​ใน​กระดูก​สามี” ใน​แง่​ที่​ว่า “นาง​ทำลาย​เขา เหมือน​โรค​ที่​ทำ​ให้​โครง​กระดูก​สึก​กร่อน.” และจาก​อีก​แหล่ง​หนึ่ง​ก็​ว่า “คำ​กล่าว​นี้​ใน​ปัจจุบัน​อาจ​เทียบ​ได้​กับ ‘มะเร็ง’ อัน​เป็น​โรค​ร้าย​ที่​บั่น​ทอน​กำลัง​เรี่ยว​แรง​ของ​ผู้​ป่วย.” หวัง​ว่า​ภรรยา​คริสเตียน​ทั้ง​หลาย​จะ​เพียร​พยายาม​ให้​ได้​มา​ซึ่ง​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า​โดย​สะท้อน​คุณ​งาม​ความ​ดี​ประการ​ต่าง ๆ เยี่ยง​ภรรยา​ที่​มี​ความ​สามารถ.

จาก​ความ​คิด​สู่​การ​กระทำ​จาก​การ​กระทำ​สู่​ผล​ที่​ตาม​มา

ความ​คิด​นำ​ไป​สู่​การ​กระทำ และ​การ​กระทำ​ก่อ​ให้​เกิด​ผล​ตาม​มา. ต่อ​จาก​นั้น ซะโลโม​เสนอ​ลำดับ​ความ​คิด​สู่​การ​กระทำ โดย​เปรียบ​เทียบ​คน​ชอบธรรม​กับ​คน​ชั่ว. ท่าน​แถลง​ดัง​นี้: “ความ​คิด​ทั้ง​หลาย​ของ​คน​ชอบธรรม​นั้น​เที่ยง​ตรง; แต่​การ​ให้​คำ​หารือ​ของ​คน​ชั่ว​ร้าย​นั้น​เป็น​การ​ลวง. ถ้อย​คำ​ของ​คน​ชั่ว​เป็น​การ​ซุ่ม​ทำ​ร้าย​ให้​โลหิต​ตก; แต่​ปาก​ของ​คน​ตรง​จะ​เป็น​ที่​ช่วย​ให้​รอด​พ้น.”สุภาษิต 12:5, 6.

แม้​แต่​ความ​คิด​ของ​คน​ดี​ก็​ไม่​เสื่อม​เสีย​ด้าน​ศีลธรรม และ​มุ่ง​ไป​ใน​ทาง​ไม่​เอนเอียง​และ​ยุติธรรม. เนื่อง​จาก​ผู้​ชอบธรรม​ได้​รับ​แรง​กระตุ้น​จาก​ความ​รัก​ที่​มี​ต่อ​พระเจ้า​และ​ต่อ​เพื่อน​มนุษย์ เจตนา​ของ​เขา​ล้วน​แต่​ดี​ทั้ง​นั้น. ใน​ทาง​กลับ​กัน คน​ชั่ว​ถูก​กระตุ้น​ด้วย​ความ​เห็น​แก่​ตัว. ดัง​นั้น แผนการ​ของ​เขา—วิธี​การ​ของ​เขา​เพื่อ​จะ​ได้​มา​ซึ่ง​สิ่ง​ต้อง​ประสงค์—เป็น​การ​หลอก​ลวง. การ​กระทำ​ของ​เขา​แฝง​อันตราย. พวก​เขา​ไม่​ลังเล​ที่​จะ​วาง​กับดัก​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​ผิด บาง​ที​ใน​กรณี​พิจารณา​คดี​ใน​ศาล ด้วย​การ​กล่าวหา​อัน​เป็น​เท็จ. คำ​พูด​ของ​เขา “เป็น​การ​ซุ่ม​ทำ​ร้าย​ให้​โลหิต​ตก” เนื่อง​จาก​เขา​ประสงค์​จะ​ทำ​ให้​เหยื่อ​ที่​ปราศจาก​ความ​ผิด​ได้​รับ​ความ​เสียหาย. ส่วน​คน​ตรง​ซึ่ง​รู้​วิธี​การ​อัน​แยบคาย​ของ​คน​ชั่ว​และ​ประกอบ​ด้วย​สติ​ปัญญา​ที่​จำเป็น​เพื่อ​ระวัง​ตัว จึง​สามารถ​หลีก​เลี่ยง​ภยันตราย​นั้น​ได้. พวก​เขา​อาจ​ยัง​สามารถ​ตักเตือน​คน​ที่​ไม่​ระวัง​ตัว​และ​ช่วย​คน​ประเภท​นั้น​ให้​พ้น​แผนการ​หลอก​ลวง​ของ​คน​ชั่ว​เสีย​ด้วย​ซ้ำ.

จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​คน​ชอบธรรม​และ​คน​ชั่ว? ซะโลโม​ตอบ​ดัง​นี้: “คน​ชั่ว​ร้าย​คว่ำ​แล้ว​และ​ไม่​มี​อีก แต่​เรือน​ของ​คน​ชอบธรรม​ยัง​ดำรง​อยู่.” (สุภาษิต 12:7, ฉบับ​แปล​ใหม่) หนังสือ​อ้างอิง​เล่ม​หนึ่ง​กล่าว​ว่า เรือน​ใน​ที่​นี้ “หมาย​ถึง​ครัว​เรือน​และ​ทุก​สิ่ง​มี​ค่า​สำหรับ​บุคคล​ผู้​นั้น ทำ​ให้​ผู้​นั้น​มี​ทาง​ที่​จะ​ดำรง​ชีวิต​อยู่​ได้​อย่าง​แท้​จริง.” เรือน​อาจ​พาด​พิง​ถึง​ครอบครัว​และ​บรรดา​ลูก​หลาน​ของ​คน​ชอบธรรม​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. ใน​กรณี​ใด​ก็​ตาม จุด​สำคัญ​ของ​สุภาษิต​ข้อ​นี้​ชัดเจน​ที่​ว่า คน​ชอบธรรม​จะ​ตั้ง​มั่นคง​ภาย​ใต้​สภาพ​อัน​ยาก​ลำบาก.

คน​ใจ​ถ่อม​มี​ชีวิต​ที่​ดี​กว่า

เพื่อ​เน้น​คุณค่า​ของ​การ​สังเกต​เข้าใจ กษัตริย์​ชาติ​อิสราเอล​ได้​แถลง​ว่า “คน​จะ​ได้​ความ​สรรเสริญ​ตาม​ปัญญา [“เนื่อง​ด้วย​การ​ระวัง​ปากคำ,” ล.ม.] ของ​ตน แต่​ผู้​ที่​มี​ใจ​ดื้อ​หลง​ผิด [“หัวใจ​คด​โกง,” ล.ม.] จะ​เป็น​ที่​เกลียด​ชัง.” (สุภาษิต 12:8) บุคคล​ที่​มี​ความ​สังเกต​เข้าใจ​ย่อม​ไม่​พูด​พล่อย. เขา​คิด​ก่อน​พูด​และ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​ผู้​อื่น เพราะ “การ​ระวัง​ปากคำ” ทำ​ให้​เขา​เลือก​ใช้​ถ้อย​คำ​อย่าง​รอบคอบ. เมื่อ​เผชิญ​คำ​ถาม​ที่​ไม่​เป็น​เรื่อง​หรือ​เป็น​การ​เดา​สุ่ม บุคคล​ผู้​มี​ความ​สังเกต​เข้าใจ​สามารถ “ประหยัด​คำ​พูด​ของ​เขา.” (สุภาษิต 17:27) คน​ประเภท​นี้​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​และ​เป็น​ที่​ชอบ​พระทัย​พระ​ยะโฮวา. เขา​ต่าง​ไป​จาก​คน​คิด​ตลบตะแลง​ซึ่ง​เกิด​จาก “หัวใจ​คด​โกง”!

ใช่​แล้ว บุคคล​ที่​ระวัง​ปากคำ​ได้​รับ​การ​ยกย่อง แต่​สุภาษิต​ข้อ​ถัด​ไป​สอน​เรา​ถึง​คุณค่า​ของ​ความ​อ่อนน้อม​ถ่อม​ตน ดัง​นี้: “ผู้​ใด​ที่​มี​คน​นับถือ​น้อย​และ​มี​บ่าว​คน​หนึ่ง​ก็​ยัง​ดี​กว่า​ผู้​ที่​ไว้​ยศ​และ​ขาด​อาหาร.” (สุภาษิต 12:9) ซะโลโม​ดู​เหมือน​จะ​บอก​ว่า​การ​เป็น​คน​ต่ำต้อย​มี​ทรัพย์​น้อย มี​คน​ใช้​แค่​คน​เดียว ก็​ยัง​ดี​กว่า​การ​จ่าย​ทรัพย์​สำหรับ​สิ่ง​จำเป็น​ต่อ​ชีวิต​เพื่อ​พยายาม​รักษา​สถานะ​สูง​ส่ง​ใน​สังคม. คำ​แนะ​นำ​นี้​ช่าง​ดี​เสีย​นี่​กระไร​สำหรับ​พวก​เรา นั่น​คือ​ให้​การ​กิน​อยู่​ของ​เรา​สม​ควร​แก่​งบประมาณ!

ชีวิต​ด้าน​เกษตรกรรม​ให้​บทเรียน​เกี่ยว​กับ​ความ​ดี

โดย​การ​ยก​เอา​วิถี​ชีวิต​เกษตรกรรม​มา​เป็น​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ ซะโลโม​ให้​บทเรียน​สอน​ใจ​สอง​ประการ​ใน​เรื่อง​ความ​ดี. ท่าน​กล่าว​ดัง​นี้: “คน​ชอบธรรม​ย่อม​เห็น​แก่​ชีวิต​แห่ง​สัตว์​เลี้ยง​ของ​เขา; แต่​ความ​ปรานี​อ่อนโยน​ของ​คน​ชั่ว​ร้าย​ก็​ยัง​เป็น​อำมหิต.” (สุภาษิต 12:10) คน​ชอบธรรม​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​สัตว์​เลี้ยง​ของ​ตน​ด้วย​ความ​กรุณา. เขา​รู้​ความ​ต้องการ​ของ​สัตว์​และ​เป็น​ห่วง​ความ​เป็น​อยู่​ของ​ฝูง​สัตว์. ฝ่าย​คน​ชั่ว​อาจ​พูด​ว่า​เขา​เอง​ก็​ห่วง​สัตว์​เช่น​กัน แต่​หา​ใช่​เกิด​จาก​แรง​กระตุ้น​ใน​เรื่อง​ความ​จำเป็น​ของ​สัตว์​เหล่า​นั้น​ไม่. แรง​กระตุ้น​ของ​เขา​เป็น​การ​เห็น​แก่​ตัว และ​เขา​ดู​แล​เลี้ยง​สัตว์​ด้วยหวัง​ผล​กำไร​ที่​อาจ​จะ​ได้​จาก​สัตว์​เหล่า​นั้น. สิ่ง​ที่​บุคคล​ดัง​กล่าว​ถือ​ว่า​เป็น​การ​เอา​ใจ​ใส่​สัตว์​อย่าง​เพียง​พอ จริง ๆ แล้ว​อาจ​เป็น​การ​ปฏิบัติ​ที่​โหด​ร้าย.

หลักการ​ว่า​ด้วย​การ​กระทำ​อย่าง​กรุณา​ต่อ​สัตว์​ยัง​ใช้​ได้​กับ​การ​ดู​แล​สัตว์​เลี้ยง​ใน​บ้าน​เช่น​กัน. คง​เป็น​ความ​โหด​ร้าย​เพียง​ไร​หาก​เอา​สัตว์​เข้า​มา​เลี้ยง​ใน​บ้าน ครั้น​แล้ว​ปล่อย​ปละ​ละเลย​หรือ​ปฏิบัติ​ต่อ​สัตว์​เหล่า​นั้น​อย่าง​ไม่​สม​ควร จน​สัตว์​เจ็บ​ป่วย​ทรมาน​โดย​ไม่​จำเป็น! ใน​กรณี​ที่​สัตว์​เลี้ยง​ป่วย​ร้ายแรง​หรือ​บาดเจ็บ​สาหัส เพื่อ​สำแดง​ถึง​ความ​กรุณา​อาจ​จำเป็น​ต้อง​จบ​ชีวิต​สัตว์​นั้น​เสีย.

อีก​แง่​หนึ่ง​ของ​วิถี​ชีวิต​ด้าน​เกษตรกรรม​ซึ่ง​ยก​ขึ้น​มา​เป็น​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ก็​คือ​การ​ฟื้น​ดิน ซะโลโม​กล่าว​ดัง​นี้: “บุคคล​ที่​ฟื้น​ดิน​ใน​เนื้อ​ที่​ของ​ตน​จะ​มี​อาหาร​บริบูรณ์.” อัน​ที่​จริง การ​ทำ​งาน​หนัก​ด้วย​มี​จุด​มุ่ง​หมาย​ย่อม​จะ​ได้​เก็บ​เกี่ยว​ผล​ประโยชน์. “แต่​บุคคล​ที่​ติด​ตาม​ไป​ใน​สิ่ง​ที่​ไร้​ประโยชน์​ก็​เป็น​ผู้​ขาด​ความ​เข้าใจ [“ขาด​ด้าน​หัวใจ,” ล.ม.].” (สุภาษิต 12:11) เนื่อง​จาก​ขาด​ดุลพินิจ​หรือ​ความ​เข้าใจ คน​ที่ “ขาด​ด้าน​หัวใจ” จะ​ติด​ตาม​สิ่ง​ซึ่ง​ไม่​มี​แก่น​สาร ทำ​ธุรกิจ​การ​ค้า​ที่​เสี่ยง​เพื่อ​เก็ง​กำไร​และ​ไม่​คุ้มค่า. บทเรียน​ที่​ได้​จาก​สุภาษิต​สอง​ข้อ​นี้​ชัดเจน​คือ จง​มี​ใจ​เมตตา​และ​ขยัน​หมั่น​เพียร.

คน​ชอบธรรม​ย่อม​เจริญ​รุ่งเรือง

กษัตริย์​ที่​ฉลาด​สุขุม​กล่าว​ว่า “คน​ชั่ว​ร้าย​ก็​ปอง​ที่​จะ​ได้​เหยื่อ​แห่ง​คน​ชั่ว.” (สุภาษิต 12:12​ก) คน​ชั่ว​ร้าย​ทำ​เช่น​นั้น​อย่าง​ไร? เขา​ทำ​เช่น​นั้น​ด้วย​ความ​ปรารถนา​อยาก​ได้​ของ​ที่​แย่ง​ชิง​มา​ด้วย​วิธี​การ​ชั่ว​ร้าย.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ใน​ส่วน​ของ​คน​ดี? คน​ดี​เป็น​ผู้​ที่​รัก​การ​ว่า​กล่าว​ตี​สอน​และ​ยึด​มั่น​ใน​ความ​เชื่อ. เขา​เป็น​คน​ชอบธรรม​และ​เที่ยงธรรม, สุขุม​และ​ถ่อม​ใจ, เมตตา​สงสาร​และ​ขยัน. และ​ซะโลโม​แถลง​ว่า “แต่​ราก​ของ​คน​ชอบธรรม​ยัง​ให้​เกิด​พืช​ผล” หรือ “เจริญ​รุ่งเรือง.” (สุภาษิต 12:12​ข; ฉบับ​แปล​นิว อินเตอร์​แนชันแนล) ฉบับ​แปล​ใหม่​ใช้​สำนวน​ว่า “ราก​ของ​คน​ชอบธรรม​ตั้ง​มั่นคง​อยู่.” บุคคล​ดัง​กล่าว​ตั้ง​มั่นคง​และ​ปลอด​ภัย. จริง​ที​เดียว ‘คน​ดี​จะ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า.’ ดัง​นั้น ให้​เรา “ไว้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา​และ​ทำ​การ​ดี.”—บทเพลง​สรรเสริญ 37:3, ล.ม.

[ภาพ​หน้า 31]

ความ​เชื่อ​ของ​คน​ชอบธรรม​ฝัง​ราก​มั่นคง​เหมือน​ต้น​ไม้​ที่​แข็งแรง​คงทน