ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณมีความเชื่อในข่าวดีอย่างแท้จริงไหม?

คุณมีความเชื่อในข่าวดีอย่างแท้จริงไหม?

คุณ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี​อย่าง​แท้​จริง​ไหม?

“ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​แล้ว. จง​กลับ​ใจ​เถิด เจ้า​ทั้ง​หลาย และ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี.”—มาระโก 1:15, ล.ม.

1, 2. คุณ​จะ​อธิบาย​มาระโก 1:14, 15 อย่าง​ไร?

ขณะ​นั้น​เป็น​ปี ส.ศ. 30. พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เริ่ม​ต้น​งาน​รับใช้​ที่​มี​ความ​สำคัญ​ยิ่ง​ใน​แถบ​แกลิลี. พระองค์​ทรง​ประกาศ “ข่าว​ดี​ของ​พระเจ้า” และ​ชาว​แกลิลี​หลาย​คน​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​จาก​ถ้อย​คำ​ของ​พระองค์​ที่​ว่า “เวลา​กำหนด​สำเร็จ​เป็น​จริง​แล้ว และ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​แล้ว. จง​กลับ​ใจ​เถิด เจ้า​ทั้ง​หลาย และ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี.”—มาระโก 1:14, 15, ล.ม.

2 “เวลา​กำหนด” มา​ถึง​แล้ว​ที่​พระ​เยซู​จะ​เริ่ม​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์ และ​ที่​ประชาชน​จะ​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ​อย่าง​ที่​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​ความ​พอ​พระทัย​จาก​พระเจ้า. (ลูกา 12:54-56) “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​แล้ว” เพราะ​พระ​เยซู​ผู้​ที่​จะ​เป็น​กษัตริย์​ใน​วัน​ข้าง​หน้า​ได้​อยู่​ท่ามกลาง​พวก​เขา. งาน​ประกาศ​ของ​พระองค์​กระตุ้น​ผู้​มี​หัวใจ​สุจริต​ให้​กลับ​ใจ. แต่​พวก​เขา​ได้​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า “มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี” และ​เรา​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร?

3. ผู้​คน​ได้​ทำ​อะไร​บ้าง​ที่​แสดง​ว่า​พวก​เขา​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี?

3 เช่น​เดียว​กับ​พระ​เยซู อัครสาวก​เปโตร​กระตุ้น​ประชาชน​ให้​กลับ​ใจ. เมื่อ​ปราศรัย​กับ​ชาว​ยิว​ที่​กรุง​เยรูซาเลม​ใน​วัน​เพนเทคอสต์ ปี ส.ศ. 33 เปโตร​กล่าว​ว่า “จง​กลับ​ใจ​เสีย​ใหม่​และ​รับ​บัพติศมา​ใน​นาม​แห่ง​พระ​เยซู​คริสต์​สิ้น​ทุก​คน, เพื่อ​ความ​ผิด​บาป​ของ​ท่าน​จะ​ทรง​ยก​เสีย แล้ว​ท่าน​จะ​ได้​รับ​พระราชทาน​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” หลาย​พัน​คน​ได้​กลับ​ใจ, รับ​บัพติสมา, และ​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู. (กิจการ 2:38, 41; 4:4) ใน​ปี ส.ศ. 36 ชาว​ต่าง​ชาติ​ที่​กลับ​ใจ​ได้​ลง​มือ​ปฏิบัติ​อย่าง​เดียว​กัน. (กิจการ 10:1-48) ใน​สมัย​ของ​เรา ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี​กำลัง​กระตุ้น​หลาย​พัน​คน​ให้​กลับ​ใจ​จาก​บาป​ของ​พวก​เขา, อุทิศ​ตัว​แด่​พระเจ้า, และ​รับ​บัพติสมา. พวก​เขา​รับ​เอา​ข่าว​ดี​ใน​เรื่อง​ความ​รอด​และ​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​เครื่อง​บูชา​ไถ่​ของ​พระ​เยซู. นอก​จาก​นี้ พวก​เขา​กำลัง​ดำเนิน​ชีวิต​ด้วย​ความ​ชอบธรรม​และ​อยู่​ฝ่าย​สนับสนุน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.

4. ความ​เชื่อ​คือ​อะไร?

4 แต่​ความ​เชื่อ​คือ​อะไร? อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ดัง​นี้: “ความ​เชื่อ​คือ​ความ​คาด​หมาย​ที่​แน่นอน​ใน​สิ่ง​ซึ่ง​หวัง​ไว้ เป็น​การ​แสดง​ออก​เด่น​ชัด​ถึง​สิ่ง​ที่​เป็น​จริง ถึง​แม้​ไม่​ได้​เห็น​สิ่ง​นั้น​ก็​ตาม.” (เฮ็บราย 11:1, ล.ม.) ความ​เชื่อ​ทำ​ให้​เรา​แน่​ใจ​ว่า​ทุก​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​สัญญา​ไว้​ใน​พระ​คำ​ของ​พระองค์​จะ​เกิด​ขึ้น​จริง​ราว​กับ​ว่า​ได้​เกิด​ขึ้น​ไป​แล้ว. เหมือน​กับ​ว่า​เรา​ได้​รับ​ตราสาร​ที่​แสดง​หลักฐาน​ว่า​เรา​มี​กรรมสิทธิ์​ใน​ทรัพย์​สิน​บาง​อย่าง. นอก​จาก​นี้ ความ​เชื่อ​เป็น “การ​แสดง​ออก​เด่น​ชัด” หรือ​หลักฐาน​ที่​พิสูจน์​ว่า​มี​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​สิ่ง​ที่​ยัง​ไม่​เห็น. ความ​สามารถ​ใน​การ​เข้าใจ​และ​หัวใจ​ที่​เต็ม​เปี่ยม​ด้วย​ความ​สำนึก​บุญคุณ​ทำ​ให้​เรา​เชื่อ​มั่น​ว่า​สิ่ง​ต่าง ๆ ดัง​ที่​กล่าว​มา​นี้​เป็น​จริง ถึง​แม้​ว่า​ยัง​ไม่​ได้​เห็น​ก็​ตาม.—2 โกรินโธ 5:7; เอเฟโซ 1:18.

เรา​จำ​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ!

5. เหตุ​ใด​ความ​เชื่อ​จึง​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​มาก?

5 เรา​เกิด​มา​พร้อม​ด้วย​ความ​ต้องการ​ฝ่าย​วิญญาณ แต่​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น​กับ​ความ​เชื่อ. ว่า​กัน​ตาม​จริง​แล้ว “ที่​เชื่อ​นั้น​ไม่​ใช่​ทุก​คน.” (2 เธซะโลนิเก 3:2) อย่าง​ไร​ก็​ตาม คริสเตียน​จำ​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​สัญญา​เป็น​มรดก. (เฮ็บราย 6:12) หลัง​จาก​อ้าง​ถึง​ตัว​อย่าง​ความ​เชื่อ​ของ​หลาย​คน เปาโล​เขียน​ดัง​นี้: “เมื่อ​เรา​มี​เมฆ​ใหญ่​แห่ง​พยาน​ล้อม​รอบ​เรา ให้​เรา​ปลด​ของ​หนัก​ทุก​อย่าง​และ​บาป​ที่​เข้า​ติด​พัน​เรา​โดย​ง่าย​นั้น และ​ให้​เรา​วิ่ง​ด้วย​ความ​เพียร​อด​ทน​ใน​การ​วิ่ง​แข่ง​ซึ่ง​อยู่​ต่อ​หน้า​เรา ขณะ​ที่​เรา​มอง​เขม้น​ไป​ที่​พระ​เยซู ผู้​นำ​องค์​เอก​และ​ผู้​ปรับ​ปรุง​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ให้​สมบูรณ์.” (เฮ็บราย 12:1, 2, ล.ม.) อะไร​คือ “บาป​ที่​เข้า​ติด​พัน​เรา​โดย​ง่าย”? นั่น​คือ​การ​ขาด​ความ​เชื่อ​ไป​บ้าง​เป็น​บาง​ครั้ง หรือ​แม้​แต่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​อย่าง​ที่​เคย​มี​อีก​ต่อ​ไป. เพื่อ​จะ​รักษา​ความ​เชื่อ​ให้​เข้มแข็ง เรา​ต้อง “มอง​เขม้น​ไป​ที่​พระ​เยซู” และ​ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​พระองค์. นอก​จาก​นี้ เรา​ยัง​ต้อง​ปฏิเสธ​การ​ผิด​ศีลธรรม, ต่อ​สู้​กับ​การ​ของ​เนื้อหนัง, และ​หลีก​เลี่ยง​การ​นิยม​วัตถุ, ปรัชญา​ของ​โลก, และ​ธรรมเนียม​ต่าง ๆ ที่​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์. (ฆะลาเตีย 5:19-21; โกโลซาย 2:8; 1 ติโมเธียว 6:9, 10; ยูดา 3, 4) ยิ่ง​กว่า​นั้น เรา​ต้อง​เชื่อ​ว่า​พระเจ้า​สถิต​กับ​เรา​และ​เชื่อ​ว่า​คำ​แนะ​นำ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระองค์​ใช้​การ​ได้​จริง.

6, 7. เหตุ​ใด​จึง​เป็น​การ​สม​ควร​ที่​จะ​อธิษฐาน​ขอ​ความ​เชื่อ?

6 เรา​ไม่​สามารถ​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​เชื่อ​ขึ้น​ใน​ตัว​เรา​ด้วย​ความ​ตั้งใจ​มุ่ง​มั่น​ของ​เรา​เอง. ความ​เชื่อ​เป็น​ผล​ของ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​หรือ​พลัง​ปฏิบัติการ​ของ​พระเจ้า. (ฆะลาเตีย 5:22, 23, ล.ม.) ถ้า​อย่าง​นั้น เรา​จะ​เสริม​ความ​เชื่อ​ให้​เข้มแข็ง​ได้​โดย​วิธี​ใด? พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ถ้า​ท่าน​เอง . . . ยัง​รู้​จัก​ให้​ของ​ดี​แก่​บุตร​ของ​ตน, ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด​พระ​บิดา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​จะ​ประทาน​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​แก่​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​ขอ​จาก​พระองค์.” (ลูกา 11:13) ถูก​แล้ว ให้​เรา​อธิษฐาน​ขอ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ เพื่อ​ว่า​พระ​วิญญาณ​นั้น​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​เชื่อ​ที่​จำเป็น​ต้อง​มี​เพื่อ​จะ​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​แม้​ตก​อยู่​ภาย​ใต้​สภาพการณ์​ที่​ยาก​ลำบาก​ที่​สุด.—เอเฟโซ 3:20.

7 เป็น​การ​สม​ควร​ที่​จะ​อธิษฐาน​ขอ​ให้​มี​ความ​เชื่อ​มาก​ขึ้น. ขณะ​ที่​พระ​เยซู​กำลัง​จะ​ขับ​ผี​ออก​จาก​เด็ก​ชาย​คน​หนึ่ง บิดา​ของ​เด็ก​นั้น​วิงวอน​ดัง​นี้: “ข้าพเจ้า​มี​ความ​เชื่อ! โปรด​ช่วย​ด้วย​ใน​ส่วน​ที่​ข้าพเจ้า​ขาด​ความ​เชื่อ!” (มาระโก 9:24, ล.ม.) เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ทูล​ว่า “ขอ​พระองค์​โปรด​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​ข้าพเจ้า​มาก​ยิ่ง​ขึ้น.” (ลูกา 17:5) ดัง​นั้น ขอ​ให้​เรา​อธิษฐาน​ขอ​ความ​เชื่อ โดย​มั่น​ใจ​ว่า​พระเจ้า​จะ​ทรง​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​เช่น​นั้น.—1 โยฮัน 5:14.

ความ​เชื่อ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​สำคัญ

8. ความ​เชื่อ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​จะ​ช่วย​เรา​ได้​อย่าง​ไร?

8 ไม่​นาน​ก่อน​การ​วาย​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์​เป็น​เครื่อง​บูชา พระ​เยซู​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ดัง​นี้: “อย่า​ให้​หัวใจ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​กังวล​เลย. จง​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า จง​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​เรา​ด้วย.” (โยฮัน 14:1, ล.ม.) ใน​ฐานะ​คริสเตียน เรา​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​และ​ใน​พระ​บุตร​ของ​พระองค์. แต่​สำหรับ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ล่ะ? พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สามารถ​ก่อ​พลัง​กระตุ้น​ใน​ทาง​ที่​ดี​แก่​ชีวิต​ของ​เรา​ถ้า​เรา​ศึกษา​และ​นำ​พระ​คำ​นั้น​ไป​ใช้​ด้วย​ความ​เชื่อ​มั่น​เต็ม​เปี่ยม​ว่า​พระ​คำ​นั้น​บรรจุ​คำ​แนะ​นำ​และ​การ​ชี้​นำ​ที่​ดี​ที่​สุด​สำหรับ​เรา.—เฮ็บราย 4:12.

9, 10. คุณ​จะ​อธิบาย​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​ยาโกโบ 1:5-8?

9 เนื่อง​จาก​เรา​เป็น​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์ ชีวิต​จึง​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​ยาก​ลำบาก. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ความ​เชื่อ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ช่วย​เรา​ได้​จริง ๆ. (โยบ 14:1) เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง สมมุติ​ว่า​เรา​ไม่​รู้​วิธี​จัด​การ​กับ​ความ​ยาก​ลำบาก​บาง​อย่าง. พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ให้​คำ​แนะ​นำ​แก่​เรา​ดัง​นี้: “ถ้า​ผู้​ใด​ใน​พวก​ท่าน​ขาด​สติ​ปัญญา ก็​ให้​ผู้​นั้น​ทูล​ขอ​พระเจ้า​ต่อ ๆ ไป เพราะ​พระองค์​ทรง​ประทาน​แก่​ทุก​คน​ด้วย​พระทัย​เอื้อ​อารี​และ​โดย​มิ​ได้​ทรง​ติ​ว่า แล้ว​จะ​ทรง​ประทาน​ให้​แก่​ผู้​นั้น. แต่​ให้​ผู้​นั้น​ทูล​ขอ​ต่อ ๆ ไป​ด้วย​ความ​เชื่อ โดย​ไม่​มี​ความ​สงสัย​เลย เพราะ​ผู้​ที่​สงสัย​ก็​เป็น​เหมือน​คลื่น​ใน​ทะเล​ที่​ถูก​ลม​พัด​และ​ซัด​ไป​มา. ที่​จริง อย่า​ให้​คน​นั้น​คิด​ว่า จะ​ได้​รับ​สิ่ง​ใด​จาก​พระ​ยะโฮวา​เลย; เขา​เป็น​คน​สอง​จิต​สอง​ใจ ไม่​มั่นคง​ใน​ทุก​วิถี​ทาง​ของ​ตน.”—ยาโกโบ 1:5-8, ล.ม.

10 พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​จะ​ไม่​ตำหนิ​เรา​ที่​ขาด​สติ​ปัญญา​และ​ได้​อธิษฐาน​ขอ​สิ่ง​นั้น. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น พระองค์​จะ​ช่วย​เรา​ให้​มี​ทัศนะ​ที่​เหมาะ​สม​ต่อ​ความ​ยาก​ลำบาก. เรา​อาจ​ได้​ข้อ​คัมภีร์​ที่​ช่วย​ได้​มาก​จาก​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​หรือ​ขณะ​ที่​เรา​กำลัง​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. หรือ​เรา​อาจ​ได้​การ​ชี้​นำ​โดย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​วิธี​อื่น. พระ​บิดา​ฝ่าย​สวรรค์​ของ​เรา​จะ​ทรง​โปรด​ให้​เรา​ได้​สติ​ปัญญา​ใน​การ​รับมือ​กับ​ความ​ยาก​ลำบาก หาก​เรา “ทูล​ขอ​ต่อ ๆ ไป​ด้วย​ความ​เชื่อ โดย​ไม่​มี​ความ​สงสัย​เลย.” ถ้า​เรา​เป็น​เหมือน​คลื่น​ใน​ทะเล​ที่​ถูก​ลม​พัด เรา​ไม่​อาจ​คาด​หวัง​ว่า​จะ​ได้​รับ​สิ่ง​ใด​จาก​พระเจ้า. เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​นั่น​จะ​แสดง​ว่า​เรา​เป็น​คน​สอง​จิต​สอง​ใจ และ​ไม่​มั่นคง​ใน​การ​อธิษฐาน​หรือ​ใน​เรื่อง​อื่น ๆ—ใช่​แล้ว แม้​แต่​ใน​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​ด้วย​ซ้ำ. ดัง​นั้น เรา​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ที่​มั่นคง​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​การ​ชี้​นำ​ที่​พบ​ใน​พระ​คำ​นั้น. ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​บาง​ตัว​อย่าง​ที่​แสดง​ถึง​วิธี​ที่​เรา​จะ​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​และ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า.

ความ​เชื่อ​กับ​ปัจจัย​ค้ำจุน​ชีพ

11. ความ​เชื่อ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ทำ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​เช่น​ไร​ใน​เรื่อง​สิ่ง​จำเป็น​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน?

11 จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ถ้า​เรา​กำลัง​ขาด​แคลน​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ใน​การ​ยัง​ชีพ​หรือ​มี​ความ​เป็น​อยู่​อย่าง​แร้นแค้น? ความ​เชื่อ​ใน​พระ​คำของ​พระเจ้า​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​คาด​หมาย​ที่​แน่นอน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ดู​แล​ให้​เรา​มี​สิ่ง​จำเป็น​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน และ​พระองค์​จะ​จัด​เตรียม​ให้​ทุก​คน​ที่​รัก​พระองค์​ได้​รับ​สิ่ง​ดี​ต่าง ๆ อย่าง​อุดม​ใน​ระบบ​ใหม่. (บทเพลง​สรรเสริญ 72:16; ลูกา 11:2, 3) เรา​อาจ​ได้​กำลังใจ​จาก​การ​พิจารณา​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​เตรียม​อาหาร​ให้​แก่​เอลียา​ผู้​พยากรณ์​ของ​พระองค์​ระหว่าง​ที่​มี​การ​กันดาร​อาหาร. ต่อ​มา พระเจ้า​ทรง​ประทาน​แป้ง​และ​น้ำมัน​โดย​การ​อัศจรรย์​เพื่อ​ค้ำจุน​ชีวิต​ของ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง, บุตร​ชาย​ของ​เธอ, และ​เอลียา. (1 กษัตริย์ 17:2-16) พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​เตรียม​ให้​ผู้​พยากรณ์​ยิระมะยา​ได้​รับ​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ใน​ลักษณะ​คล้าย ๆ กัน​ระหว่าง​ที่​ชาว​บาบิโลน​ปิด​ล้อม​กรุง​เยรูซาเลม. (ยิระมะยา 37:21) ถึง​แม้​ว่า​ยิระมะยา​และ​เอลียา​มี​อาหาร​กิน​ไม่​มาก แต่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ดู​แล​พวก​เขา. พระองค์​ทรง​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน​นั้น​กับ​ทุก​คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระองค์​ใน​ปัจจุบัน.—มัดธาย 6:11, 25-34.

12. โดย​วิธี​ใด​ที่​ความ​เชื่อ​จะ​ช่วย​ให้​เรา​ได้​รับ​สิ่ง​จำเป็น​สำหรับ​ค้ำจุน​ชีวิต?

12 ความ​เชื่อ​ควบ​คู่​ไป​กับ​การ​ใช้​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​จะ​ไม่​ทำ​ให้​เรา​มั่งคั่ง​ฝ่าย​วัตถุ แต่​จะ​ช่วย​ให้​เรา​ได้​รับ​สิ่ง​จำเป็น​สำหรับ​ค้ำจุน​ชีวิต. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง คัมภีร์​ไบเบิล​แนะ​นำ​ให้​เรา​เป็น​คน​สัตย์​ซื่อ, มี​ความ​สามารถ, ขยัน​ขันแข็ง. (สุภาษิต 22:29; ท่าน​ผู้​ประกาศ 5:18, 19; 2 โกรินโธ 8:21) เรา​ไม่​ควร​ประเมิน​ค่า​การ​มี​ชื่อเสียง​ที่​ดี​ใน​การ​ทำ​งาน​ต่ำ​ไป. แม้​แต่​ใน​ที่​ที่​งาน​ราย​ได้​ดี​หา​ได้​ยาก คน​งาน​ที่​สัตย์​ซื่อ, มี​ทักษะ, ขยัน​ขันแข็ง มี​โอกาส​จะ​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​มาก​กว่า​คน​อื่น. ถึง​แม้​คน​งาน​เช่น​นั้น​อาจ​มี​สิ่ง​ฝ่าย​วัตถุ​ไม่​มาก แต่​โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว คน​เหล่า​นี้​จะ​มี​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ขั้น​พื้น​ฐาน​และ​พึง​พอ​ใจ​ที่​ได้​กิน​อาหาร​ซึ่ง​ตน​หา​มา​ได้​เอง.—2 เธซะโลนิเก 3:11, 12.

ความ​เชื่อ​ช่วย​เรา​ให้​ทน​ต่อ​ความ​โศก​เศร้า

13, 14. ความ​เชื่อ​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ทน​ความ​โศก​เศร้า​ได้​อย่าง​ไร?

13 พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​แสดง​อย่าง​ที่​ตรง​กับ​ความ​เป็น​จริง​ว่า​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​จะ​โศก​เศร้า​เมื่อ​คน​ที่​เรา​รัก​เสีย​ชีวิต. อับราฮาม ปฐม​บรรพบุรุษ​ที่​ซื่อ​สัตย์ โศก​เศร้า​อาลัย​เนื่อง​จาก​ความ​ตาย​ของ​ซารา ภรรยา​ที่​รัก. (เยเนซิศ 23:2) ดาวิด​โศก​เศร้า​มาก​เมื่อ​ได้​ทราบ​ข่าว​การ​ตาย​ของ​อับซาโลม บุตร​ชาย. (2 ซามูเอล 18:33) แม้​แต่​พระ​เยซู ซึ่ง​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์ ก็​ทรง​กันแสง​เมื่อ​ลาซะโร สหาย​ของ​พระองค์​เสีย​ชีวิต. (โยฮัน 11:35, 36) เมื่อ​คน​ที่​เรา​รัก​เสีย​ชีวิต เรา​อาจ​รู้สึก​โศก​เศร้า​มาก​จน​แทบ​ทน​ไม่​ไหว แต่​ความ​เชื่อ​ใน​คำ​สัญญา​ที่​อยู่​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สามารถ​ช่วย​เรา​ให้​ทน​ต่อ​ความ​โศก​เศร้า​นั้น​ได้.

14 เปาโล​กล่าว​ว่า ‘ข้าพเจ้า​มี​ความ​หวัง​ใจ​ใน​พระเจ้า​ว่า​คน​ชอบธรรม​และ​คน​ที่​ไม่​ชอบธรรม​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย.’ (กิจการ 24:15) เรา​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ใน​การ​จัด​เตรียม​ของ​พระเจ้า​ที่​ว่า​ผู้​คน​จำนวน​มหาศาล​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​สู่​ชีวิต. (โยฮัน 5:28, 29) ท่ามกลาง​คน​เหล่า​นี้​จะ​มี​อับราฮาม​กับ​ซารา, ยิศฮาค​กับ​ริบะคา, ยาโคบ​กับ​เลอา ซึ่ง​ตอน​นี้​ทั้ง​หมด​กำลัง​หลับ​อยู่​ใน​ความ​ตาย​และ​คอย​ท่า​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า. (เยเนซิศ 49:29-32) ช่าง​น่า​ปีติ​ยินดีสัก​เพียง​ไร​เมื่อ​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ของ​เรา​ถูก​ปลุก​ให้​ตื่น​จาก​การ​หลับ​อยู่​ใน​ความ​ตาย​เพื่อ​มี​ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก​นี้​อีก! (วิวรณ์ 20:11-15) ใน​ระหว่าง​นี้ ความ​เชื่อ​จะ​ไม่​ได้​ขจัด​ความ​เศร้า​ให้​หมด​ไป แต่​จะ​ทำ​ให้​เรา​อยู่​ใกล้​กับ​พระเจ้า​เสมอ ผู้​ซึ่ง​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ทน​ต่อ​การ​สูญ​เสีย​ผู้​เป็น​ที่​รัก.—บทเพลง​สรรเสริญ 121:1-3; 2 โกรินโธ 1:3.

ความ​เชื่อ​เสริม​กำลัง​ผู้​ที่​ซึมเศร้า

15, 16. (ก) เหตุ​ใด​เรา​กล่าว​ได้​ว่า​การ​ที่​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​อยู่​ใน​ภาวะ​ซึมเศร้า​จึง​ไม่​ใช่​เรื่อง​แปลก? (ข) เรา​จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​เพื่อ​รับมือ​กับ​ภาวะ​ซึมเศร้า?

15 พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ยัง​แสดง​ด้วย​ว่า​แม้​แต่​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​ก็​อาจ​ตก​อยู่​ใน​ภาวะ​ซึมเศร้า. ระหว่าง​ที่​ประสบ​การ​ทดลอง​อย่าง​หนัก โยบ​รู้สึก​ว่า​พระเจ้า​ได้​ทอดทิ้ง​ท่าน. (โยบ 29:2-5) สภาพ​ของ​กรุง​เยรูซาเลม​และ​กำแพง​ของ​กรุง​นั้น​ที่​ถูก​ทำลาย​ทำ​ให้​นะเฮมยา​เศร้า​หมอง. (นะเฮมยา 2:1-3) เนื่อง​จาก​เศร้า​เสียใจ​อย่าง​มาก​ที่​ได้​ปฏิเสธ​พระ​เยซู เปโตร “ร้องไห้​เป็น​ทุกข์​นัก.” (ลูกา 22:62) และ​เปาโล​ได้​กระตุ้น​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ใน​ประชาคม​เทสซาโลนีกา​ให้ “พูด​ปลอบโยน​จิตวิญญาณ​ที่​หดหู่​ใจ.” (1 เธซะโลนิเก 5:14, ล.ม.) ดัง​นั้น การ​ที่​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ทุก​วัน​นี้​อยู่​ใน​ภาวะ​ซึมเศร้า​จึง​ไม่​ใช่​เรื่อง​แปลก. ถ้า​อย่าง​นั้น เรา​จะ​รับมือ​กับ​ความ​ซึมเศร้า​ได้​อย่าง​ไร?

16 เรา​อาจ​รู้สึก​หดหู่​เพราะ​เผชิญ​ปัญหา​หนัก​หลาย​อย่าง​พร้อม ๆ กัน. แทน​ที่​จะ​มอง​ปัญหา​เหล่า​นั้น​เสมือน​เป็น​ปัญหา​ใหญ่​ปัญหา​เดียว เรา​อาจ​แก้ไข​ปัญหา​เหล่า​นั้น​ได้​ถ้า​แก้ไข​ที​ละ​อย่าง​โดย​ใช้​หลักการ​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล. การ​ทำ​อย่าง​นี้​อาจ​ช่วย​บรรเทา​ภาวะ​ซึมเศร้า​ได้. กิจกรรม​ที่​สมดุล​และ​การ​พักผ่อน​ที่​เพียง​พอ​ก็​อาจ​เป็น​ประโยชน์​เช่น​กัน. สิ่ง​หนึ่ง​ที่​แน่ ๆ คือ ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​และ​พระ​คำ​ของ​พระองค์​ส่ง​เสริม​สวัสดิภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ เนื่อง​จาก​ความ​เชื่อ​นี้​เสริม​ความ​เชื่อ​มั่น​ของ​เรา​มาก​ขึ้น​ที่​ว่า​พระองค์​ทรง​ใฝ่​พระทัย​เรา​อย่าง​แท้​จริง.

17. เรา​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ใฝ่​พระทัย​เรา?

17 เปโตร​ให้​คำ​รับรอง​ที่​ชู​ใจ​ดัง​นี้: “ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ถ่อม​ตัว​ลง​ภาย​ใต้​พระ​หัตถ์​อัน​ทรง​ฤทธิ์​ของ​พระเจ้า เพื่อ​พระองค์​จะ​ทรง​ยก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ขึ้น​ใน​เวลา​อัน​ควร ขณะ​ที่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​มอบ​ความ​กระวนกระวาย​ทั้ง​สิ้น​ของ​ท่าน​ไว้​กับ​พระองค์ เพราะ​ว่า​พระองค์​ทรง​ใฝ่​พระทัย​ใน​ท่าน​ทั้ง​หลาย.” (1 เปโตร 5:6, 7, ล.ม.) ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ร้อง​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ทรง​โปรด​ค้ำ​ชู​ทุก​คน​ที่​กำลัง​จะ​ล้ม​ลง และ​ทรง​ยก​บรรดา​คน​ตก​อับ​ให้​ลุก​ขึ้น.” (บทเพลง​สรรเสริญ 145:14, ล.ม.) เรา​ควร​เชื่อ​มั่น​ว่า​คำ​รับรอง​เหล่า​นี้​เป็น​ความ​จริง เนื่อง​จาก​เป็น​คำ​รับรอง​ที่​เรา​พบ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. แม้​ว่า​ความ​ซึมเศร้า​ยัง​อาจ​มี​อยู่​ต่อ​ไป แต่​ช่าง​เป็น​การ​เสริม​ความ​เชื่อ​สัก​เพียง​ไร​ที่​รู้​ว่า​เรา​สามารถ​มอบ​ความ​กังวล​ทั้ง​สิ้น​ของ​เรา​ไว้​กับ​พระ​บิดา​ฝ่าย​สวรรค์​ผู้​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​รัก​ของ​เรา!

ความ​เชื่อ​กับ​ความ​ยาก​ลำบาก​อื่น ๆ

18, 19. ความ​เชื่อ​ช่วย​เรา​ให้​รับมือ​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​และ​ปลอบโยน​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ที่​เจ็บ​ป่วย​อย่าง​ไร?

18 เรา​อาจ​เผชิญ​การ​ทดสอบ​ความ​เชื่อ​ครั้ง​ใหญ่​เมื่อ​เรา​หรือ​คน​ที่​เรา​รัก​ป่วย​หนัก. ถึง​แม้​ว่า​ไม่​มี​รายงาน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​มี​การ​รักษา​โรค​โดย​การ​อัศจรรย์​ให้​แก่​คริสเตียน​อย่าง​เช่น เอปาฟะโรดีโต, ติโมเธียว, และ​โตรฟีโม แต่​ก็​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วย​พวก​เขา​ให้​อด​ทน​ได้. (ฟิลิปปอย 2:25-30; 1 ติโมเธียว 5:23; 2 ติโมเธียว 4:20) นอก​จาก​นี้ เกี่ยว​กับ​ผู้​ที่ “ใส่​ใจ​ใน​พวก​คน​จน” นั้น ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ร้อง​เพลง​ว่า “เมื่อ​เป็น​ไข้​นอน​อยู่​บน​เตียง​พระ​ยะโฮวาจะ​ทรง​อุปถัมภ์​เขา​ไว้: เมื่อ​เขา​ป่วย​อยู่​นั้น​พระองค์​จะ​ทรง​จัด​เตียง​นอน​ของ​เขา.” (บทเพลง​สรรเสริญ 41:1-3) ถ้อย​คำ​ของ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​นี้​จะ​ช่วย​เรา​ใน​การ​ปลอบโยน​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ที่​เจ็บ​ป่วย​ได้​อย่าง​ไร?

19 วิธี​หนึ่ง​ที่​จะ​ให้​การ​ช่วยเหลือ​ฝ่าย​วิญญาณ​คือ​อธิษฐาน​ด้วย​กัน​หรือ​อธิษฐาน​เผื่อ​ผู้​ที่​เจ็บ​ป่วย. ขณะ​ที่​เรา​ไม่​อธิษฐาน​ขอ​การ​รักษา​โรค​โดย​การ​อัศจรรย์​ใน​ทุก​วัน​นี้ เรา​อาจ​ขอ​ให้​พระเจ้า​ประทาน​ความ​เข้มแข็ง​ทาง​จิตใจ​แก่​พวก​เขา​เพื่อ​จะ​สามารถ​ทน​รับ​ความ​เจ็บ​ป่วย และ​ประทาน​ความ​เข้มแข็ง​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​จำเป็น​เพื่อ​จะ​สามารถ​ทน​กับ​ช่วง​เวลา​ที่​อ่อนแอ​นั้น. พระ​ยะโฮวา​จะ​ค้ำจุน​พวก​เขา และ​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​เสริม​ให้​เข้มแข็ง​โดย​มอง​ไป​ข้าง​หน้า​ถึง​สมัย​ที่ “ไม่​มี​ใคร​ที่​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​พูด​ว่า, ‘ข้าพเจ้า​ป่วย​อยู่.’” (ยะซายา 33:24) เป็น​การ​ชู​ใจ​จริง ๆ ที่​รู้​ว่า​โดย​ทาง​พระ​เยซู​คริสต์​ผู้​ถูก​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์​และ​โดย​ทาง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า มนุษยชาติ​ที่​เชื่อ​ฟัง​จะ​ได้​รับ​การ​ปลด​เปลื้อง​อย่าง​ถาวร​จาก​บาป, ความ​เจ็บ​ป่วย, และ​ความ​ตาย! เรา​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา ‘ผู้​ทรง​รักษา​บรรดา​โรค​ของ​เรา​ให้​หาย’ สำหรับ​ความ​คาด​หวัง​อัน​ยอด​เยี่ยม​เหล่า​นี้.—บทเพลง​สรรเสริญ 103:1-3; วิวรณ์ 21:1-5.

20. เหตุ​ใด​จึง​กล่าว​ได้​ว่า​ความ​เชื่อ​สามารถ​ช่วย​เรา​ให้​ทน​กับ “ยาม​ทุกข์​ร้อน” ใน​วัย​ชรา​ได้?

20 ความ​เชื่อ​ยัง​ช่วย​เรา​ให้​ทน​กับ “ยาม​ทุกข์​ร้อน” ใน​วัย​ชรา เมื่อ​สุขภาพ​และ​กำลัง​วังชา​เสื่อม​ถอย. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 12:1-7) ดัง​นั้น ผู้​สูง​อายุ​ท่ามกลาง​พวก​เรา​สามารถ​อธิษฐาน​อย่าง​ที่​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ซึ่ง​อยู่​ใน​วัย​ชรา​ร้อง​เพลง​ดัง​นี้: “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา​เจ้า . . . พระองค์​เป็น​ที่​หวัง​ใจ​ของ​ข้าพเจ้า . . . เวลา​ชรา​แล้ว​ขอ​อย่า​ทรง​สลัด​ข้าพเจ้า​เสีย; เมื่อ​กำลัง​ของ​ข้าพเจ้า​ถอย​ขอ​อย่า​ทรง​ละ​ทิ้ง​ข้าพเจ้า​เสีย​เลย.” (บทเพลง​สรรเสริญ 71:5, 9) ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​รู้สึก​ว่า​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​ค้ำจุน​จาก​พระ​ยะโฮวา เพื่อน​คริสเตียน​ของ​เรา​ที่​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มา​นาน​หลาย​ปี​และ​ปัจจุบัน​แก่​ชรา​แล้ว​ก็​รู้สึก​อย่าง​เดียว​กัน. เนื่อง​จาก​มี​ความ​เชื่อ พวก​เขา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​หัตถ์​อัน​ถาวร​เป็น​นิตย์​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​พยุง​พวก​เขา​ไว้​เสมอ.—พระ​บัญญัติ 33:27.

จง​รักษา​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า

21, 22. ถ้า​เรา​มี​ความ​เชื่อ นั่น​จะ​ส่ง​ผล​เช่น​ไร​ต่อ​สัมพันธภาพ​ระหว่าง​เรา​กับ​พระเจ้า?

21 ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี​และ​พระ​คำ​ทั้ง​สิ้น​ของ​พระเจ้า​ช่วย​เรา​ให้​เข้า​ใกล้​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น. (ยาโกโบ 4:8) จริง​อยู่ พระองค์​ทรง​เป็น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​องค์​บรม​มหิศร​ของ​เรา แต่​พระองค์​ก็​เป็น​พระ​ผู้​สร้าง​และ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ด้วย. (ยะซายา 64:8; มัดธาย 6:9; กิจการ 4:24) ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ร้อง​เพลง​ดัง​นี้: “พระองค์​ทรง​เป็น​พระ​บิดา​ของ​ข้า​พระองค์ พระเจ้า​ของ​ข้า​พระองค์ และ​เป็น​พระ​ศิลา​แห่ง​ความ​รอด​ของ​ข้า​พระองค์.” (บทเพลง​สรรเสริญ 89:26, ฉบับ​แปล​ใหม่) ถ้า​เรา​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​คำ​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​ของ​พระองค์ เรา​ก็​ถือ​ได้​ว่า​พระองค์​เป็น ‘พระ​ศิลา​แห่ง​ความ​รอด​ของ​พวก​เรา’ เช่น​กัน. ช่าง​เป็น​เกียรติ​ที่​น่า​ชื่น​ใจ​เสีย​จริง ๆ!

22 พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระ​บิดา​ของ​คริสเตียน​ที่​ได้​รับ​กำเนิด​ด้วย​พระ​วิญญาณ​และ​สหาย​ของ​พวก​เขา​ที่​มี​ความ​หวัง​ทาง​แผ่นดิน​โลก. (โรม 8:15) และ​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​บิดา​ฝ่าย​สวรรค์​ของ​เรา​จะ​ไม่​ทำ​ให้​เรา​ผิด​หวัง​เลย. ดาวิด​กล่าว​ว่า “เมื่อ​บิดา​มารดา​ละ​ทิ้ง​ข้าพเจ้า​แล้ว, พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​รับ​ข้าพเจ้า​ไว้.” (บทเพลง​สรรเสริญ 27:10) ยิ่ง​กว่า​นั้น เรา​ได้​รับ​คำ​รับรอง​ที่​ว่า “พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ละ​ทิ้ง​ประชาชน​ของ​พระองค์​เพื่อ​เห็น​แก่​พระ​นาม​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระองค์.”—1 ซามูเอล 12:22, ล.ม.

23. เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ยั่งยืน​กับ​พระ​ยะโฮวา?

23 แน่​ล่ะ เพื่อ​จะ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ยั่งยืน​กับ​พระ​ยะโฮวา เรา​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี​และ​ยอม​รับ​พระ​คัมภีร์​อย่าง​ที่​เป็น​เช่น​นั้น​จริง ๆ คือ​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. (1 เธซะโลนิเก 2:13) เรา​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​อย่าง​เต็ม​เปี่ยม​ใน​พระ​ยะโฮวา​และ​ให้​พระ​คำ​ของ​พระองค์​ส่อง​สว่าง​ทาง​ของ​เรา. (บทเพลง​สรรเสริญ 119:105; สุภาษิต 3:5, 6) ความ​เชื่อ​ของ​เรา​จะ​ทวี​ขึ้น​ขณะ​ที่​เรา​อธิษฐาน​ถึง​พระองค์​ด้วย​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​ความ​เมตตา​สงสาร, ความ​ปรานี, และ​การ​เกื้อ​หนุน​ของ​พระองค์.

24. แนว​คิด​ที่​ให้​การ​ปลอบโยน​อะไร​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​โรม 14:8?

24 ความ​เชื่อ​ได้​กระตุ้น​เรา​ให้​อุทิศ​ตัว​แด่​พระเจ้า​เป็น​นิตย์. เนื่อง​จาก​เรา​มี​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง ถึง​แม้​เรา​อาจ​ต้อง​ตาย แต่​เรา​ก็​ยัง​เป็น​ผู้​รับใช้​ที่​ได้​อุทิศ​ตัว​แด่​พระองค์​ที่​มี​ความ​หวัง​ใน​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. ถูก​แล้ว “ไม่​ว่า​เรา​อยู่​หรือ​ตาย เรา​ก็​เป็น​ของ​พระ​ยะโฮวา.” (โรม 14:8, ล.ม.) ขอ​ให้​เรา​รักษา​แนว​คิด​ที่​ให้​การ​ปลอบโยน​นี้​ไว้​ใน​หัวใจ​ของ​เรา​เสมอ ขณะ​ที่​เรา​รักษา​ความ​มั่น​ใจ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​มี​ความ​เชื่อ​ต่อ ๆ ไป​ใน​ข่าว​ดี.

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

• ความ​เชื่อ​คือ​อะไร และ​เหตุ​ใด​เรา​จำเป็น​ต้อง​มี​คุณลักษณะ​นี้?

• ทำไม​จึง​สำคัญ​ที่​เรา​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี​และ​ใน​พระ​คำ​ทั้ง​สิ้น​ของ​พระเจ้า?

• ความ​เชื่อ​ช่วย​เรา​ให้​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำบาก​ต่าง ๆ ได้​อย่าง​ไร?

• อะไร​จะ​ช่วย​เรา​ให้​รักษา​ความ​เชื่อ?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 12]

พระ​ยะโฮวา​ทรง​ค้ำจุน​ชีวิต​ยิระมะยา​และ​เอลียา​เพราะ​พวก​เขา​มี​ความ​เชื่อ

[ภาพ​หน้า 13]

โยบ, เปโตร, และ​นะเฮมยา​มี​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง

[ภาพ​หน้า 15]

เพื่อ​จะ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ยั่งยืน​กับ​พระ​ยะโฮวา เรา​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี