ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ถูกทดลองอย่างรุนแรงแสนสาหัส

ถูกทดลองอย่างรุนแรงแสนสาหัส

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ถูก​ทดลอง​อย่าง​รุนแรง​แสน​สาหัส

เล่า​โดย​เพอริคลิซ ยานนอริส

ความ​ชื้น​และ​อากาศ​อับ​ใน​ห้อง​ขัง​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​หนาว​สะท้าน. ขณะ​นั่ง​อยู่​คน​เดียว​ที่​นั่น มี​เพียง​ผ้า​ห่ม​ผืน​บาง​คลุม​ตัว ผม​ยัง​จำ​สี​หน้า​เย็นชา​ไร้​ความ​รู้สึก​ของ​ภรรยา​สาว​ตอน​ที่​ทหาร​ลาก​ตัว​ผม​ออก​จาก​บ้าน​เมื่อ​สอง​วัน​ก่อน ละ​ภรรยา​กับ​ลูก​เล็ก ๆ สอง​คน​ที่​ป่วย​ไว้​เบื้อง​หลัง. ใน​เวลา​ต่อ​มา ภรรยา​ซึ่ง​ไม่​เชื่อ​อย่าง​ที่​ผม​เชื่อ​ได้​ส่ง​กล่อง​พัสดุ​และ​แนบ​กระดาษ​มี​ข้อ​ความ​สั้น ๆ ว่า “ฉัน​ส่ง​ขนมปัง​มา​ให้ และ​หวัง​ว่า​คุณ​คง​ป่วย​เหมือน​ลูก​ของ​คุณ.” ผม​จะ​มี​ชีวิต​รอด​กลับ​ไป​หา​ครอบครัว​หรือ​เปล่า​หนอ?

นั่น​เป็น​เพียง​เหตุ​การณ์​ครั้ง​หนึ่ง​ใน​ช่วง​การ​ต่อ​สู้​อัน​ยาว​นาน และ​ยาก​ลำบาก​เพื่อ​รักษา​ความ​เชื่อ​ของ​คริสเตียน การ​ต่อ​สู้​อย่าง​หนัก​เนื่อง​จาก​ครอบครัว​ต่อ​ต้าน, การ​รังเกียจ​เดียด​ฉันท์​จาก​ชุมชน, การ​สู้​คดี, และ​การ​ข่มเหง​ที่​โหด​ร้าย. แต่​มี​ความ​เป็น​มา​อย่าง​ไร​และ​ทำไม ผม​ซึ่ง​เป็น​คน​เงียบ ๆ และ​เกรง​กลัว​พระเจ้า​จึง​ได้​ลงเอย​ใน​สภาพ​อัน​น่า​สังเวช​เช่น​นี้? ขอ​ให้​ผม​ชี้​แจง​ให้​ทราบ.

เด็ก​ยาก​จน​แต่​มี​ความ​ใฝ่ฝัน​สูง

เมื่อ​ผม​เกิด​ใน​ปี 1909 ที่​เมือง​สตาฟโรเมโน​บน​เกาะ​ครีต ประเทศ​ของ​เรา​อยู่​ใน​ภาวะ​สงคราม, ต่อ​สู้​กับ​ความ​ยาก​จน, และ​การ​กันดาร​อาหาร. ต่อ​มา น้อง​สี่​คน​และ​ตัว​ผม​เอง​เกือบ​ไม่​รอด​จาก​ไข้หวัด​ใหญ่​สเปน. ผม​จำ​ได้​ว่า​พ่อ​แม่​กัก​ตัว​พวก​เรา​ให้​อยู่​แต่​ใน​บ้าน​นาน​หลาย​สัปดาห์ เพื่อ​ป้องกัน​การ​ติด​เชื้อ​ไข้หวัด​ใหญ่.

พ่อ​เป็น​ชาว​นา​ฐานะ​ยาก​จน เคร่ง​ศาสนา​แต่​เป็น​คน​ใจ​เปิด. เนื่อง​จาก​พ่อ​เคย​อยู่​ที่​ประเทศ​ฝรั่งเศส​และ​เกาะ​มาดากัสการ์ ท่าน​จึง​เปิด​กว้าง​ที่​จะ​รับ​แนว​คิด​ใน​เรื่อง​ศาสนา. กระนั้น ครอบครัว​ของ​เรา​ยัง​คง​ยึด​มั่น​ใน​คริสตจักร​กรีก​ออร์โทด็อกซ์, เข้า​ร่วม​พิธี​มิสซา​ทุก​วัน​อาทิตย์​และ​เปิด​บ้าน​รับรอง​บิชอป​ประจำ​ท้องถิ่น​ให้​เข้า​มา​พัก​ระหว่าง​ที่​เขาทำ​การ​เยี่ยม​ใน​รอบ​ปี. ผม​เป็น​นัก​ร้อง​ประสาน​เสียง​ใน​โบสถ์ และ​วาด​ฝัน​ใน​ชีวิต​ว่า​จะ​เป็น​บาทหลวง.

ปี 1929 ผม​เข้า​ทำ​งาน​ใน​กอง​ตำรวจ. พ่อ​ผม​ตาย​ใน​ช่วง​ที่​ผม​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​ใน​เมือง​เทสซาโลนีกา ภาค​เหนือ​ของ​กรีซ. ด้วย​ความ​หวัง​จะ​ได้​รับ​การ​ปลอบ​ประโลม​และ​ความ​รู้​ความ​เข้าใจ​ฝ่าย​วิญญาณ ผม​ได้​ขอ​ย้าย​ไป​สังกัด​กอง​ตำรวจ​แห่ง​เขา​เอทอส อยู่​ใกล้ ๆ ชุมชน​อาราม​ที่​ชาว​คริสต์​นิกาย​ออร์โทด็อกซ์​นับถือ​เป็น “ภูเขา​อัน​บริสุทธิ์.” * ผม​ทำ​งาน​อยู่​ที่​นั่น​สี่​ปี และ​สังเกต​เห็น​ชีวิต​นัก​บวช​ได้​อย่าง​ใกล้​ชิด. แทน​ที่​จะ​ถูก​ชัก​นำ​เข้า​ใกล้​พระเจ้า ผม​กลับ​รู้สึก​สลด​ใจ​เพราะ​มี​การ​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​และ​การ​ทุจริต​กัน​อย่าง​ครึกโครม. ผม​นึก​รังเกียจ​นัก​บวช​คน​หนึ่ง​ที่​ผม​เคย​นับถือ​ซึ่ง​เป็น​ถึง​รอง​บิชอป​ทำ​ท่า​จะ​ลวนลาม​ผม. แม้น​ว่า​จะ​รู้สึก​ผิด​หวัง​ด้วย​เหตุ​ดัง​กล่าว ผม​ยัง​คง​ต้องการ​รับใช้​พระเจ้า​ด้วย​ความ​สุจริต​ใจ​และ​อยาก​เป็น​บาทหลวง. ผม​ถึง​กับ​เอา​เสื้อ​คลุม​ยาว​ของ​บาทหลวง​มา​ใส่​แล้ว​ถ่าย​รูป​เก็บ​ไว้​เป็น​ที่​ระลึก. ใน​ที่​สุด ผม​ย้าย​กลับ​ไป​ที่​เกาะ​ครีต.

“เขา​ร้าย​จริง ๆ!”

ปี 1942 ผม​แต่งงาน​กับ​ฟรอซินี หญิง​สาว​ที่​น่า​รัก ซึ่ง​มา​จาก​ครอบครัว​ที่​มี​คน​นับ​หน้า​ถือ​ตา. ชีวิต​สมรส​ยิ่ง​เสริม​ความ​แน่วแน่​ต่อ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ผม​ที่​จะ​เป็น​บาทหลวง เนื่อง​จาก​ญาติ ๆ ฝ่าย​ภรรยา​ศรัทธา​ศาสนา​เป็น​อย่าง​มาก. * ผม​ตั้งใจ​จะ​ไป​ยัง​เอเธนส์​เพื่อ​ศึกษา​ใน​วิทยาลัย​เทววิทยา. ปลาย​ปี 1943 ผม​ไป​ถึง​ท่า​เรือ​อิ​รา​คลี​โอน เกาะ​ครีต ทว่า​ไม่​ได้​ไป​เอเธนส์​ตาม​ที่​ตั้งใจ. ทั้ง​นี้​อาจ​เป็น​เพราะ​ใน​เวลา​เดียว​กัน​นั้น​ผม​ประสบ​ความ​สดชื่น​ฝ่าย​วิญญาณ​จาก​อีก​แหล่ง​หนึ่ง. เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ?

เอมันวิล ลีโอนูดาคิส ผู้​เผยแพร่​วัย​หนุ่ม​ที่​แข็งขัน​ซึ่ง​ได้​สมทบ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มา​นาน​หลาย​ปี เขา​สอน​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ทั่ว​เกาะ​ครีต​อย่าง​ที่​ให้​ความ​รู้​ความ​เข้าใจ​ชัดเจน. * บาง​คน​รู้สึก​ประทับใจ​เมื่อ​ได้​รับ​ความ​เข้าใจ​ที่​แจ่ม​แจ้ง​เกี่ยว​กับ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​จาก​เหล่า​พยาน​ฯ แล้ว​จึง​ได้​ละ​ทิ้ง​ศาสนา​เท็จ. ใน​เมือง​ซิเทีย​ที่​อยู่​ใกล้​กัน มี​การ​ตั้ง​กลุ่ม​พยาน​ฯ ที่​กระตือรือร้น​ขึ้น. การ​นี้​รบกวน​ใจ​บิชอป​ประจำ​เมือง​นั้น เขา​เคย​อยู่​ใน​สหรัฐ​และ​รู้​ด้วย​ตัว​เอง​มา​แล้ว​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​เผยแพร่​ที่​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​เพียง​ไร. เขา​หมาย​มั่น​ปั้น​มือ​จะ​กำจัด “ลัทธิ​นอก​รีต” ใน​เขต​ปกครอง​ของ​ตน. ด้วย​การ​ยุยง​ของ​บิชอป ตำรวจ​มัก​จะ​ลาก​ตัว​พยาน​ฯ เข้า​คุก และ​บังคับ​พยาน​ฯ ต้อง​ขึ้น​ศาล​ด้วย​ข้อ​หา​ต่าง ๆ นานา​อัน​เป็น​เท็จ.

หนึ่ง​ใน​พยาน​ฯ กลุ่ม​นี้​พยายาม​อธิบาย​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ผม​ฟัง แต่​เขา​เหมา​เอา​ว่า​ผม​คง​ไม่​สนใจ. ดัง​นั้น เขา​จึง​ส่ง​ผู้​เผยแพร่​ที่​ช่ำชอง​มาก​กว่า​มา​คุย​กับ​ผม. ปรากฏ​ว่า​การ​โต้​ตอบ​ของ​ผม​แบบ​ขวานผ่าซาก​ทำ​ให้​พยาน​ฯ คน​ที่​สอง​กลับ​ไป​หา​กลุ่ม​เล็ก ๆ ของ​ตน​และ​รายงาน​ว่า “ไม่​มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​ที่​เพอริคลิซ​จะ​มา​เป็น​พยาน​ฯ. เขา​ร้าย​จริง ๆ!”

ชิม​รส​การ​ต่อ​ต้าน​ครั้ง​แรก

ผม​ดีใจ​ที่​พระเจ้า​ไม่​ทรง​มอง​ผม​อย่าง​นั้น. เดือน​กุมภาพันธ์ 1945 ดิมอสเตนีซ น้อง​ชาย​ผม​ซึ่ง​เชื่อ​มั่น​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอน​ความ​จริง​ได้​มอบ​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ปลอบโยน​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​โศก​เศร้า * (ภาษา​อังกฤษ) ให้​ผม. เนื้อหา​ใน​หนังสือ​นั้น​ประทับใจ​ผม. พวก​เรา​เลิก​เข้า​โบสถ์​ออร์โทด็อกซ์​นับ​แต่​นั้น แล้ว​เข้า​ร่วม​สมทบ​กลุ่ม​เล็ก ๆ ที่​เมือง​ซิเทีย และ​ให้​คำ​พยาน​แก่​น้อง ๆ ถึง​ความ​เชื่อ​ใหม่​ที่​เรา​เพิ่ง​เรียน​รู้. พวก​เขา​ทุก​คน​รับรอง​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. เป็น​ดัง​ที่​คาด​ไว้ การ​ตัดสิน​ใจ​ละ​ทิ้ง​ศาสนา​เท็จ​ทำ​ให้​ภรรยา​และ​ทาง​ฝ่าย​ครอบครัว​ของ​เธอ​ตัด​ขาด​ผม​และ​แสดง​ความ​เป็น​ปฏิปักษ์. มี​อยู่​ช่วง​หนึ่ง พ่อตา​ไม่​ยอม​พูด​กับ​ผม​ด้วย​ซ้ำ. ที่​บ้าน จึง​มี​การ​ไม่​ลง​รอย​และ​ตึงเครียด​อยู่​บ่อย ๆ. ถึง​แม้​เป็น​เช่น​นั้น วัน​ที่ 21 พฤษภาคม 1945 ผม​กับ​ดิมอสเตนีซ​ก็​ได้​รับ​บัพติสมา​โดย​บราเดอร์​มีโนส โคคีนาคิส. *

ใน​ที่​สุด ผม​สามารถ​ทำ​ให้​ฝัน​ของ​ผม​เป็น​จริง​และ​ทำ​งาน​ฐานะ​เป็น​ผู้​รับใช้​แท้​ของ​พระเจ้า! ผม​ยัง​จำ​วัน​แรก​ได้​เมื่อ​ผม​ออก​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน. กระเป๋า​ของ​ผม​บรรจุ​หนังสือ​เล่ม​เล็ก 35 เล่ม ผม​ขึ้น​รถ​ประจำ​ทาง​ไป​ยัง​หมู่​บ้าน​เพียง​ลำพัง. ผม​รู้สึก​หวั่น ๆ เมื่อ​เริ่ม​ออก​ไป​ตาม​บ้าน. ยิ่ง​ไป​ไกล ผม​ก็ยิ่ง​กล้า​มาก​ขึ้น. เมื่อ​บาทหลวง​ที่​โมโห​โกรธา​เข้า​มา​ใน​หมู่​บ้าน ผม​สามารถ​ประจัน​หน้า​เขา​อย่าง​กล้า​หาญ ผม​ทำ​เฉย​ต่อ​คำ​สั่ง​ที่​จะ​ให้​ผม​ไป​สถานี​ตำรวจ​กับ​เขา. ผม​บอก​เขา​ว่า​ผม​จะ​ไป​ก็​ต่อ​เมื่อ​ได้​เยี่ยม​ทั่ว​ทั้ง​หมู่​บ้าน​เสีย​ก่อน และ​ผม​ก็​ทำ​อย่าง​ที่​พูด. ผม​มี​ความ​สุข​มาก​จน​ไม่​ได้​รอ​ขึ้น​รถ​โดยสาร แต่​เดิน​กลับ​บ้าน​ระยะ​ทาง 15 กิโลเมตร.

ตก​อยู่​ใน​มือ​เหล่า​ร้าย​ใจ​อำมหิต

เดือน​กันยายน 1945 ผม​รับผิดชอบ​หน้า​ที่​หลาย​อย่าง​ที่​เพิ่ม​เข้า​มา​ใน​ประชาคม​ซึ่ง​ตั้ง​ขึ้น​ใหม่​ของ​เรา​ใน​เมือง​ซิเทีย. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น​ก็​เกิด​สงคราม​กลาง​เมือง​ใน​กรีซ. กลุ่ม​พรรค​ต่าง ๆ ลุก​ฮือ​ขึ้น​ต่อ​ต้าน​กัน​อย่าง​โหด​ร้าย​รุนแรง. บิชอป​ฉวย​ประโยชน์​จาก​สถานการณ์​ด้วย​การ​ปลุก​เร้า​ทหาร​กองโจร​ใน​ท้องถิ่น​ให้​ใช้​ทุก​วิธี​การ​ที่​เห็น​ว่า​เหมาะ​เพื่อ​กำจัด​เหล่า​พยาน​ฯ ให้​หมด​สิ้น. (โยฮัน 16:2) ขณะ​ที่​กลุ่ม​ทหาร​กองโจร​นั่ง​รถ​โดยสาร​มุ่ง​หน้า​มา​ที่​หมู่​บ้าน​ของ​เรา ใน​รถ​คัน​นั้น​มี​สุภาพสตรี​ที่​เป็น​มิตรคน​หนึ่ง​นั่ง​มา​ด้วย เธอ​เผอิญ​ได้​ยิน​คน​พวก​นั้น​วาง​แผน​ปฏิบัติการ​ตาม​ที่ “พระเจ้า​ทรง​กำหนด” และ​เธอ​ได้​เตือน​พวก​เรา​ให้​รู้​ล่วง​หน้า. เรา​จึง​หลบ​ซ่อน​ตัว และ​ญาติ​อีก​คน​หนึ่ง​เข้า​ช่วยเหลือ​พวก​เรา. เรา​จึง​เอา​ชีวิต​รอด​มา​ได้.

เหตุ​การณ์​ครั้ง​นี้​เตรียม​ทาง​ไว้​เผื่อ​ความ​ทุกข์​ลำบาก​ที่​จะ​ตาม​มา. การ​ทุบ​ตี​และ​การ​ข่มขู่​กลาย​เป็น​เรื่อง​ปกติ​ประจำ​วัน. พวก​ที่​ต่อ​ต้าน​พยายาม​จะ​บังคับ​เรา​ให้​กลับ​เข้า​โบสถ์, ให้​ลูก​ของ​เรา​รับ​ศีล​บัพติสมา, และ​ทำ​สัญลักษณ์​ไม้กางเขน. มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง พวก​เขา​รุม​ทุบ​ตี​น้อง​ชาย​ผม​จน​คิด​ว่า​เขา​เสีย​ชีวิต​ไป​แล้ว. ผม​เจ็บ​ปวด​มาก​ที่​เห็น​น้อง​สาว​สอง​คน​ของ​ผม​ถูก​รุม​ฉีก​เสื้อ​ผ้า​ขาด​ลุ่ย มิ​หนำ​ซ้ำ​ถูก​เฆี่ยน. ระหว่าง​เวลา​นั้น คริสตจักร​บังคับ​ให้​ลูก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ถึง​แปด​คน​ด้วย​กัน​รับ​ศีล​บัพติสมา.

ใน​ปี 1949 แม่​ของ​ผม​ตาย. บาทหลวง​ตาม​ไล่​ล่า​พวก​เรา​อีก กล่าวหา​ว่า​พวก​เรา​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม​ข้อ​กำหนด​ทาง​กฎหมาย​ใน​เรื่อง​การ​ขอ​อนุญาต​ปลง​ศพ. ผม​ต้อง​สู้​คดี​ใน​ศาล​และ​ได้​รับ​การ​ปล่อย​ตัว​พ้น​ผิด. เรื่อง​นี้​เป็น​การ​ให้​คำ​พยาน​ที่​วิเศษ​ยิ่ง เนื่อง​จาก​ได้​ยิน​การ​เอ่ย​นาม​พระ​ยะโฮวา​ระหว่าง​การ​เริ่ม​พิจารณา​คดี. ยัง​เหลือ​วิธี​การ​อย่าง​เดียว​เท่า​นั้น​ที่​ศัตรู​จะ “ทำ​ให้​เรา​รู้​สำนึก” คือ​จับ​พวก​เรา​แล้ว​เนรเทศ. พวก​เขา​ได้​ทำ​เช่น​นั้น​จริง​เมื่อ​เดือน​เมษายน 1949.

ตก​อยู่​ใน​การ​ทดลอง​ที่​รุนแรง​แสน​สาหัส

ผม​เป็น​หนึ่ง​ใน​จำนวน​พี่​น้อง​ชาย​สาม​คน​ที่​ถูก​จับ. ภรรยา​ผม​ไม่​ไป​เยี่ยม​ผม​ที่​สถานี​ตำรวจ​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. แห่ง​แรก​ที่​เรา​แวะ​คือ​เรือน​จำ​ใน​เมือง​อิ​รา​คลี​โอน. ดัง​กล่าว​ข้าง​ต้น ผม​รู้สึก​โดด​เดี่ยว​และ​เศร้า​สลด. ผม​ละ​ภรรยา​สาว​ซึ่ง​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​เหมือน​ผม​ไว้​เบื้อง​หลัง แถม​ลูก​เล็ก ๆ อีก​สอง​คน. ผม​ทูล​อธิษฐาน​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ไม่​ละลด. ผม​ระลึก​ถึง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ดัง​บันทึก​ที่​เฮ็บราย 13:5 (ล.ม.) ที่​ว่า “เรา​จะ​ไม่​ละ​ท่าน​ไว้​เลย​และ​จะ​ไม่​ทิ้ง​ท่าน​เสีย​เลย.” ผม​ตระหนัก​แน่​ว่า​การ​ไว้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​เต็ม​ที่​เป็น​แนว​ทาง​แห่ง​สติ​ปัญญา.—สุภาษิต 3:5.

เรา​ได้​มา​รู้​ว่า​จะ​ถูก​เนรเทศ​ไป​ยัง​มาครอนีซอส เกาะ​ที่​แห้ง​แล้ง​ทุรกันดาร​นอก​ฝั่ง​แอตติกา ประเทศ​กรีซ. เพียง​เอ่ย​ชื่อ​มาครอนีซอส ผู้​คน​ก็​ขยาด​เสีย​แล้ว เพราะ​ค่าย​นัก​โทษ​บน​เกาะ​นั้น​ลือ​ชื่อ​ใน​เรื่อง​การ​ทรมาน​และ​การ​ทำ​งาน​เยี่ยง​ทาส. ระหว่าง​ทาง​ไป​ยัง​เรือน​จำ พวก​เรา​ได้​แวะ​ที่​เมือง​ไพรีอัส. ถึง​แม้​กุญแจ​มือ​ยัง​คา​อยู่ แต่​เรา​ได้​รับ​กำลังใจ​เมื่อ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​บาง​คน​ขึ้น​มา​บน​เรือ​และ​สวมกอด​พวก​เรา.—กิจการ 28:14, 15.

ชีวิต​ใน​มาครอนีซอส​นั้น​น่า​หวาด​กลัว​และ​สยดสยอง. พวก​ทหาร​กระทำ​ทารุณ​นัก​โทษ​อย่าง​โหด​ร้าย​ตั้ง​แต่​เช้า​ยัน​ค่ำ. นัก​โทษ​หลาย​คน​ที่​ไม่​ใช่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ถึง​กับ​เสีย​สติ​วิปลาส​ไป​ก็​มี, หลาย​คน​ถึง​แก่​ชีวิต, อีก​จำนวน​มาก​ที่​พิการ​ทุพพลภาพ. ช่วง​กลางคืน เรา​ได้​ยิน​เสียง​ร้อง​โหยหวน​คร่ำ​ครวญ​ของ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ถูก​ทรมาน. ผ้า​ห่ม​บาง ๆ ของ​ผม​แทบ​ไม่​ได้​ให้​ความ​อบอุ่น​สำหรับ​อากาศ​หนาว​เย็น​ใน​เวลา​กลางคืน.

พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ค่าย​คุม​ขัง​เป็น​ที่​รู้​จัก​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ เพราะ​มี​การ​เรียก​ชื่อ​นั้น​ทุก​เช้า​ใน​ช่วง​เข้า​แถว. ด้วย​เหตุ​นี้ เรา​จึง​มี​หลาย​โอกาส​ให้​คำ​พยาน. ผม​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​ให้​บัพติสมา​แก่​นัก​โทษ​การ​เมือง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ก้าว​หน้า​จน​ถึง​ขั้น​อุทิศ​ชีวิต​ของ​เขา​แด่​พระ​ยะโฮวา.

ระหว่าง​ที่​ถูก​เนรเทศ ผม​เขียน​จดหมาย​ถึง​ภรรยา​ที่​รัก​เป็น​ประจำ ถึง​แม้​ไม่​เคย​ได้​รับ​จดหมาย​ตอบ​จาก​เธอ​เลย. ถึง​กระนั้น ผม​ก็​ยัง​เขียน​ถึง​เธอ​ด้วย​ความ​รู้สึก​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน, ปลอบโยน, และ​รับรอง​ให้​เธอ​มั่น​ใจ​ว่า​สภาพ​ซึ่ง​ไม่​น่า​พึง​ใจ​เช่น​นี้​มี​อยู่​เพียง​ชั่ว​คราว แล้ว​เรา​จะ​มี​ความ​สุข​ด้วย​กัน​อีก.

ใน​ระหว่าง​นั้น จำนวน​พยาน​ฯ เพิ่ม​มาก​ขึ้น​เนื่อง​จาก​พี่​น้อง​หลาย​คน​ถูก​ส่ง​ตัว​มา​ที่​นั่น. ช่วง​ที่​ทำ​งาน​ใน​ห้อง​ธุรการ ผม​ทำ​ความ​รู้​จัก​กับ​นาย​พัน​ผู้​บังคับ​การ​ค่าย. เพราะ​เขา​ให้​ความ​นับถือ​ต่อ​เหล่า​พยาน​ฯ ผม​จึง​รวบ​รวม​ความ​กล้า​ถาม​เขา​ว่า​จะ​เป็น​ไป​ได้​หรือ​ไม่​ถ้า​จะ​ขอ​รับ​สรรพหนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​จาก​สำนักงาน​ของ​เรา​ที่​กรุง​เอเธนส์. เขา​พูด​ว่า “คง​เป็น​ไป​ไม่​ได้ แต่​ทำ​แบบ​นี้​จะ​ดี​กว่า​ไหม ถ้า​ให้​พวกพ้อง​ของ​คุณ​ใน​เอเธนส์​จัด​หนังสือ​ใส่​กล่อง แล้ว​เขียน​ชื่อ​ผม​บน​กล่อง​ส่ง​ถึง​ผม?” ผม​นิ่ง​อึ้ง​ด้วย​ความ​ประหลาด​ใจ! หลัง​จาก​นั้น​ไม่​กี่​วัน ขณะ​ที่​เรา​ขน​ของ​ออก​จาก​เรือ ตำรวจ​นาย​หนึ่ง​ทำ​ความ​เคารพ​นาย​พัน​และ​แจ้ง​ว่า “ผู้​พัน​ครับ กล่อง​พัสดุ​ของ​ท่าน​มา​ถึง​แล้ว.” นาย​พัน​ถาม​ทวน​ว่า “กล่อง​อะไร?” บังเอิญ​ผม​อยู่​ใกล้ ๆ ได้​ยิน​การ​สนทนา ผม​จึง​กระซิบ​บอก​ว่า “อาจ​เป็น​กล่อง​ของ​พวก​เรา ซึ่ง​ส่ง​มา​ใน​ชื่อ​ของ​ท่าน ดัง​ที่​ท่าน​สั่ง​เอา​ไว้.” นี่​เป็น​หนึ่ง​ใน​หลาย ๆ วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ดู​แล​ให้​เรา​ได้​รับ​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ.

ได้​รับ​พระ​พร​โดย​ไม่​คาด​หมาย—ครั้น​แล้ว​ความ​ทุกข์​ลำบาก​เพิ่ม​ทวี

ผม​ได้​รับ​การ​ปล่อย​ตัว​ปลาย​ปี 1950. ผม​กลับ​บ้าน​อย่าง​โผ​เผ​อิดโรย, ซีด​เซียว, ซูบ​ผอม, และ​ไม่​แน่​ใจ​จะ​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​หรือ​ไม่. ผม​ดีใจ​เสีย​นี่​กระไร​ที่​จะ​ได้​เห็น​หน้า​ภรรยา​และ​ลูก ๆ อีก! ที่​ดี​ยิ่ง​กว่า​นั้น ผม​ประหลาด​ใจ​เมื่อ​พบ​ว่า​ความ​เป็น​ปฏิปักษ์​จาก​ฟรอซินี​ได้​ลด​ลง. จดหมาย​เหล่า​นั้น​ที่​เขียน​ใน​คุก​ได้​ผล. ฟรอซินี​ซาบซึ้ง​ที่​ผม​แสดง​ความ​อด​ทน​นาน​และ​พากเพียร​พยายาม. ต่อ​มา​ไม่​นาน ผม​ใช้​เวลา​สนทนา​กับ​ภรรยา​อย่าง​สงบ​เยือกเย็น​และ​ยาว​นาน. เธอ​ตอบรับ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​และ​ได้​พัฒนา​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​ยะโฮวา​และ​คำ​สัญญา​ต่าง ๆ ของ​พระองค์. วัน​ที่​ผม​มี​ความ​สุข​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ชีวิต​วัน​หนึ่ง​คือ​ใน​ปี 1952 เมื่อ​ผม​ได้​บัพติสมา​ให้​เธอ​ฐานะ​เป็น​ผู้​รับใช้​ที่​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา!

ปี 1955 เรา​เริ่ม​รณรงค์​แจก​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ชื่อ​คริสต์​ศาสนจักร​หรือ​หลักการ​คริสเตียน—อย่าง​ไหน​คือ “ความ​สว่าง​ของ​โลก”? ให้​บาทหลวง​คน​ละ​หนึ่ง​เล่ม. ผม​ถูก​จับ​และ​ดำเนิน​คดี​พร้อม​กับ​เพื่อน​พยาน​ฯ อีก​หลาย​คน. มี​การ​ฟ้องร้อง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​หลาย​คดี จน​ศาล​ต้อง​ได้​กำหนด​วาระ​พิเศษ​พิจารณา​ทุก​คดี. พอ​ถึง​วัน​นั้น บุคลากร​ทุก​ฝ่าย​ที่​เกี่ยว​ข้อง​ทาง​กฎหมาย​ประจำ​ท้องถิ่น​ได้​เข้า​ร่วม​พิจารณา​คดี และ​ใน​ศาล​ก็​คลาคล่ำ​ไป​ด้วย​พวก​บาทหลวง. ส่วน​บิชอป​เอง​เดิน​กระสับกระส่าย​ไป​มา​ใน​ช่อง​ทาง​เดิน​ระหว่าง​ที่​นั่ง. บาทหลวง​คน​หนึ่ง​ได้​ยื่น​ฟ้อง​ผม​ใน​ข้อ​หา​ชักจูง​ผู้​อื่น​ให้​เปลี่ยน​ศาสนา. ผู้​พิพากษา​ถาม​เขา​ว่า “ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​อ่อนแอ​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ แค่​อ่าน​จุลสาร​เล่ม​เดียว​ก็​เปลี่ยน​ศาสนา​เสีย​แล้ว?” บาทหลวง​ถึง​กับ​นิ่ง​อั้น. ผม​ถูก​ปล่อย​ตัว​พ้น​ความ​ผิด แต่​พี่​น้อง​บาง​คน​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​หก​เดือน.

หลาย​ปี​หลัง​จาก​นั้น พวก​เรา​ถูก​จับ​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า และ​มี​การ​ฟ้องร้อง​มาก​มาย​หลาย​คดี. เนื่อง​จาก​ต้อง​ไป​ว่า​ความ​ใน​ศาล ทนาย​ฝ่าย​เรา​จึง​ทำ​งาน​ไม่​ได้​หยุด​ได้​หย่อน. ผม​ถูก​นำ​ตัว​ขึ้น​ศาล 17 ครั้ง. ถึง​แม้​ถูก​ต่อ​ต้าน​ขัด​ขวาง พวก​เรา​ก็​ยัง​คง​ทำ​กิจกรรม​เผยแพร่​อย่าง​สม่ำเสมอ. เรา​ยอม​รับ​ข้อ​ท้าทาย​นี้​ด้วย​ความ​ยินดี และ​การ​ทดลอง​ที่​ร้อน​แรง​สาหัส​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​มี​คุณภาพ.—ยาโกโบ 1:2, 3.

สิทธิ​พิเศษ​ใหม่ ๆ และ​ข้อ​ท้าทาย

ปี 1957 เรา​ย้าย​ไป​เอเธนส์. ไม่​นาน ผม​ก็​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ให้​รับใช้​ใน​ประชาคม​ที่​เพิ่ง​ตั้ง​ขึ้น​ใหม่. การ​สนับสนุน​อย่าง​เต็ม​หัวใจ​จาก​ภรรยา​ทำ​ให้​เรา​สามารถ​จัด​ชีวิต​ของ​เรา​ให้​เรียบ​ง่าย​และ​มุ่ง​มั่น​เอา​งาน​ฝ่าย​วิญญาณ​ไว้​ใน​อันดับ​แรก. โดย​วิธี​นี้ เรา​สามารถ​ทุ่มเท​เวลา​ส่วน​ใหญ่​ไป​กับ​งาน​เผยแพร่. ตลอด​หลาย​ปี เรา​ได้​รับ​การ​ร้อง​ขอ​ให้​ย้าย​ไป​ช่วย​ประชาคม​ต่าง ๆ ที่​มี​ความ​จำเป็น.

ปี 1963 ลูก​ชาย​วัย 21 ปี​ต้อง​รายงาน​ตัว​เพื่อ​การ​เกณฑ์​ทหาร. เนื่อง​จาก​ยืนหยัด​ใน​ความ​เป็น​กลาง พยาน​ฯ ทุก​คน​ที่​มา​รายงาน​ตัว​จึง​ถูก​เฆี่ยน, ถูก​เยาะเย้ย, และ​ต้อง​ทน​รับ​ความ​อับอาย. นั่น​เป็น​ประสบการณ์​ของ​ลูก​ชาย​ผม​เช่นเดียว​กัน. ดัง​นั้น​ผม​จึง​ได้​มอบ​ผ้า​ห่ม​ผืน​ที่​ผม​เคย​ใช้​ตอน​ที่​อยู่​มาครอนีซอส​ให้​ลูก​เพื่อ​เขา​จะ​มี​กำลังใจ เตือน​ใจ​เขา​ให้​ปฏิบัติ​ตาม​ตัว​อย่าง​อดีต​ผู้​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง. พวก​พี่​น้อง​ที่​ถูก​หมาย​เรียก​ต้อง​ขึ้น​ศาล​ทหาร และ​โดย​ปกติ​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​สอง​ถึง​สี่​ปี. เมื่อ​ได้​รับ​การ​ปล่อย​ตัว​ออก​มา​แล้ว พวก​เขา​ถูก​เรียก​ตัว​และ​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​อีก. ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​ผู้​สอน​ศาสนา ผม​สามารถ​เข้า​เยี่ยม​เรือน​จำ​หลาย​แห่ง​และ​ได้​พบ​ลูก​ชาย​และ​เหล่า​พยาน​ฯ ที่​ซื่อ​สัตย์​คน​อื่น ๆ ใน​ชั่ว​เวลา​จำกัด. ลูก​ชาย​ผม​ติด​คุก​นาน​กว่า​หก​ปี.

พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​ค้ำจุน​พวก​เรา​โดย​ตลอด

หลัง​จาก​เสรีภาพ​ทาง​ศาสนา​ใน​ประเทศ​กรีซ​คืน​สู่​สภาพ​เดิม ผม​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​ทำ​งาน​รับใช้​ประเภท​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ชั่ว​คราว​บน​เกาะ​โรดส์. ครั้น​แล้ว ใน​ปี 1986 มี​ความ​จำเป็น​ใน​เมือง​ซิเทีย เกาะ​ครีต ซึ่ง​ที่​นั่น​ผม​ได้​เริ่ม​งาน​ประจำ​ชีพ​ฝ่าย​คริสเตียน. ผม​ยินดี​รับ​เอา​งาน​มอบหมาย​ครั้ง​นี้​เพื่อ​รับใช้​ด้วย​กัน​อีก​กับ​บรรดา​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ผู้​เป็น​ที่​รัก ซึ่ง​ผม​รู้​จัก​พวก​เขา​ตั้ง​แต่​ผม​เป็น​หนุ่ม.

เนื่อง​จาก​มี​อายุ​มาก​ที่​สุด​ใน​ครอบครัว ผม​ปลื้ม​ใจ​ที่​เห็น​ลูก​หลาน​รวม​ทั้ง​สิ้น​เกือบ 70 คน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ภักดี. และ​ยัง​คง​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​เรื่อย ๆ. บาง​คน​รับใช้​เป็น​ผู้​ปกครอง, บ้าง​ก็​เป็น​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้, ไพโอเนียร์, สมาชิก​เบเธล, และ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง. ความ​เชื่อ​ของ​ผม​ถูก​ทดลอง​อย่าง​รุนแรง​แสน​สาหัส​นาน​กว่า 58 ปี. เวลา​นี้​ผม​อายุ 93 ปี และ​เมื่อ​มอง​ย้อน​ไป​ใน​อดีต ผม​ไม่​เสียใจ​แม้​แต่​น้อย​ที่​ได้​รับใช้​พระเจ้า. พระองค์​ทรง​ประทาน​กำลัง​แก่​ผม​เพื่อ​จะ​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ของ​พระองค์​อัน​เปี่ยม​ความ​รัก​ที่​ว่า “บุตร​ชาย​ของ​เรา จง​มอบ​หัวใจ​ของ​เจ้า​ให้​เรา และ​จง​ให้​ดวง​ตา​ของ​เจ้า​ชื่นชม​ใน​ทาง​ทั้ง​หลาย​ของ​เรา.”—สุภาษิต 23:26, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 9 ดู​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ฉบับ​วัน​ที่ 1 ธันวาคม 1999 หน้า 30, 31.

^ วรรค 11 บาทหลวง​แห่ง​คริสตจักร​กรีก​ออร์โทด็อกซ์​แต่งงาน​ได้.

^ วรรค 12 อ่าน​ประวัติ​ชีวิต​ของ​เอมันวิล ลีโอนูดาคิส​ได้​จาก​หอสังเกตการณ์ ฉบับ​วัน​ที่ 1 กันยายน 1999 หน้า 25-29.

^ วรรค 15 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​ปัจจุบัน​งด​พิมพ์​แล้ว.

^ วรรค 15 สำหรับ​เรื่อง​ที่​มีโนส โคคีนาคิส​ชนะ​คดี​นั้น โปรด​อ่าน​หอสังเกตการณ์ ฉบับ​วัน​ที่ 1 กันยายน 1993 หน้า 27-31.

[กรอบ​หน้า 27]

มาครอนีซอส​เกาะ​ที่​น่า​พรั่นพรึง

ใน​ช่วง​เวลา​สิบ​ปี จาก​ปี 1947-1957 เกาะ​มาครอนีซอส​ที่​แห้ง​แล้ง​และ​โดด​เดี่ยว​เป็น​ที่​กัก​ขัง​นัก​โทษ​มาก​กว่า 100,000 คน. ใน​จำนวน​ดัง​กล่าว มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​ซื่อ​สัตย์​จำนวน​มาก​รวม​อยู่​ด้วย พวก​เขา​ถูก​ส่ง​ไป​ที่​นั่น​เพราะ​ความ​เป็น​กลาง​ของ​คริสเตียน. ผู้​ที่​ยุยง​ให้​เนรเทศ​พวก​เขา​มัก​จะ​เป็น​พวก​นัก​บวช​นิกาย​กรีก​ออร์โทด็อกซ์ ซึ่ง​กล่าวหา​เท็จ​ว่า​พยาน​ฯ เป็น​คอมมิวนิสต์.

ว่า​ด้วย​วิธี​การ “ปฏิรูป” ที่​ใช้​บน​เกาะ​มาครอนีซอส​นั้น สารานุกรม​กรีก​พาพีรอส ลารุสส์ บริแทนนิกา ให้​ข้อ​สังเกต​ดัง​นี้: “วิธี​ทรมาน​อย่าง​โหด​เหี้ยม, . . . สภาพ​ความ​เป็น​อยู่​ซึ่ง​ชาติ​ที่​เจริญ​แล้ว​รับ​ไม่​ได้, และ​พฤติกรรม​ที่​ต่ำทราม​ของ​ผู้​คุม​ที่​กระทำ​ต่อ​นัก​โทษ . . . ล้วน​เป็น​ความ​อัปยศ​ต่อ​ประวัติศาสตร์​ประเทศ​กรีซ.”

มี​คน​บอก​พยาน​ฯ บาง​คน​ว่า​จะ​ไม่​มี​การ​ปล่อย​ตัว​พวก​เขา​เป็น​อิสระ​เว้น​แต่​ว่า​พยาน​ฯ จะ​ละ​ทิ้ง​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​ของ​ตน. ถึง​กระนั้น ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ของ​เหล่า​พยาน​ฯ ยัง​ดำรง​อยู่​โดย​ไม่​มี​ใคร​จะ​ทำลาย​เสีย​ได้. ยิ่ง​กว่า​นั้น นัก​โทษ​การ​เมือง​บาง​คน​ได้​รับ​เอา​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เพราะ​การ​พบ​ปะ​ติด​ต่อ​กับ​เหล่า​พยาน​ฯ.

[ภาพ​หน้า 27]

มีโนส โคคีนาคิส (คน​ที่​สาม​นับ​จาก​ขวา) และ​ผม (คน​ที่​สี่​จาก​ซ้าย) เมื่อ​ต้อง​โทษ​ที่​เกาะ​มาครอนีซอส

[ภาพ​หน้า 29]

ทำ​งาน​ร่วม​กับ​เพื่อน​พยาน​ฯ ใน​เมือง​ซิเทีย เกาะ​ครีต ผม​เคย​รับใช้​ที่​นี่​ตอน​เป็น​หนุ่ม