ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การแสวงหาราชอาณาจักรเป็นอันดับแรก—ชีวิตที่มั่นคงและเป็นสุข

การแสวงหาราชอาณาจักรเป็นอันดับแรก—ชีวิตที่มั่นคงและเป็นสุข

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

การ​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​เป็น​อันดับ​แรก—ชีวิต​ที่​มั่นคง​และ​เป็น​สุข

เล่า​โดย​เจ​ทา ซุเนล

หลัง​อาหาร​เช้า เรา​ได้​ยิน​คำ​ประกาศ​ทาง​วิทยุ​กระจาย​เสียง​ว่า “พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​กลุ่ม​ผิด​กฎหมาย และ​การ​ดำเนิน​งาน​ของ​เขา​ถูก​สั่ง​ห้าม.”

นั่น​คือ​ปี 1950 พวก​เรา​ผู้​หญิง​สี่​คน​วัย 20 เศษ ๆ รับใช้​ฐานะ​มิชชันนารี​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​สาธารณรัฐ​โดมินิกัน. เรา​ไป​อยู่​ที่​นั่น​แล้ว​หนึ่ง​ปี.

งาน​มิชชันนารี​ใช่​ว่า​เป็น​เป้าหมาย​ใน​ชีวิต​ของ​ฉัน​เสมอ​มา. จริง​อยู่ ฉัน​เคย​เข้า​โบสถ์​ตอน​เด็ก ๆ. แต่​คุณ​พ่อ​เลิก​ไป​โบสถ์​ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1. ใน​วัน​ที่​ฉัน​ตก​ลง​รับ​ศีล​เข้า​คริสตจักร​เอพิสโคพัล​ปี 1933 บิชอป​ได้​อ่าน​พระ​คัมภีร์​เพียง​ข้อ​เดียว​เท่า​นั้น แล้ว​เริ่ม​พูด​เรื่อง​การ​เมือง. คุณ​แม่​ผิด​หวัง​มาก​จน​ไม่​ไป​โบสถ์​อีก​เลย​ตั้ง​แต่​นั้น.

วิถี​ชีวิต​ของ​พวก​เรา​เปลี่ยน​ไป

พวก​เรา​ห้า​คน​เป็น​ลูก​ของ​วิลเลียม คาร์ล​กับ​แมรี แอดัมส์. ลูก​ชาย​ได้​แก่​ดอน, โจเอล, และ​คาร์ล. จอย​น้อง​สาว​ของ​ฉัน​เป็น​ลูก​คน​สุด​ท้อง ส่วน​ฉัน​เป็น​ลูก​คน​โต. ตอน​ที่​ฉัน​คง​อายุ​ประมาณ 13 ปี วัน​หนึ่ง​หลัง​โรง​เรียน​เลิก ฉัน​เห็น​แม่​กำลัง​อ่าน​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ซึ่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​จัด​พิมพ์. ชื่อ​หนังสือ​คือ​ราชอาณาจักร​เป็น​ความ​หวัง​ของ​โลก (ภาษา​อังกฤษ). แม่​บอก​ฉัน​ว่า “นี่​แหละ​คือ​ความ​จริง.”

คุณ​แม่​บอก​เรื่อง​ราว​ที่​ได้​เรียน​รู้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​ลูก​ทุก​คน. โดย​ทาง​คำ​พูด​และ​ตัว​อย่าง แม่​ทำ​ให้​พวก​เรา​เข้าใจ​ชัดเจน​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “จง​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​และ​ความ​ชอบธรรม​ของ​พระองค์​ก่อน.”—มัดธาย 6:33, ล.ม.

ใช่​ว่า​ฉัน​จะ​ใส่​ใจ​อยาก​ฟัง​ไป​เสีย​ทุก​ครั้ง. มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง​ฉัน​บอก​แม่​ว่า “แม่​คะ งด​เทศน์​ให้​ลูก​ฟัง​เสีย​ที​เถอะ​ค่ะ ไม่​อย่าง​นั้น ลูก​จะ​ไม่​ช่วย​แม่​เช็ด​จาน​อีก.” แต่​แม่​ไม่​ละลด​ที่​จะ​พูด​คุย​กับ​พวก​เรา​อย่าง​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา. แม่​จะ​พา​ลูก​ทุก​คน​เดินไป​ร่วม​ประชุม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​เป็น​ประจำ​ที่​บ้าน​คลารา ไร​อัน ซึ่ง​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​บ้าน​ของ​เรา​ใน​เมือง​เอล์มเฮิสต์ รัฐ​อิลลินอยส์ สหรัฐ.

นอก​จาก​นั้น คลารา​เป็น​ครู​สอน​เปียโน​อีก​ด้วย. เมื่อ​นัก​เรียน​ของ​เธอ​ขึ้น​แสดง​ความ​สามารถ​ใน​ด้าน​ดนตรี​ซึ่ง​จัด​ทุก​ปี เธอ​จะ​ถือ​โอกาส​พูด​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​และ​ความ​หวัง​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. ด้วย​เหตุ​ที่​ฉัน​สนใจ​ดนตรี และ​ได้​ฝึก​เรียน​ไวโอลิน​ตั้ง​แต่​อายุ​เจ็ด​ขวบ ฉัน​จึง​ได้​ฟัง​สิ่ง​ที่​คลารา​พูด.

มิ​ช้า​มิ​นาน พวก​เรา​เด็ก ๆ ก็​เริ่ม​ไป​กับ​แม่​เพื่อ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​ประชาคม​ที่​อยู่​ทาง​ตะวัน​ตก​ของ​นคร​ชิคาโก. เป็น​การ​เดิน​ทาง​ระยะ​ไกล​โดย​รถ​ประจำ​ทาง​และ​รถ​ราง ทว่า​มัน​เป็น​ส่วน​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ฝึก​อบรม​พวก​เรา​แต่​เนิ่น ๆ ให้​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​การ​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​เป็น​อันดับ​แรก. ปี 1938 สาม​ปี​หลัง​จาก​แม่​รับ​บัพติสมา ฉัน​ได้​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ชิคาโก​กับ​แม่. การ​ประชุม​ครั้ง​นี้​เป็น​หนึ่ง​ใน 50 เมือง​ที่​มี​การ​เชื่อม​สาย​โทรศัพท์​ติด​ต่อ​กัน ณ โอกาส​นั้น​โดย​เฉพาะ. ฉัน​ซาบซึ้ง​ตรึง​ใจ​มาก​จาก​สิ่ง​ที่​ฉัน​ได้​ยิน ณ ที่​นั่น.

กระนั้น ความ​รัก​ที่​ฉัน​มี​ต่อ​ดนตรี​เป็น​พลัง​ดึงดูด​ใจ​ฉัน​อย่าง​ลึกซึ้ง​ด้วย. ฉัน​เรียน​จบ​ชั้น​มัธยม​ปลาย​ใน​ปี 1938 และ​คุณ​พ่อ​เตรียม​การ​จะ​ให้​ฉัน​เรียน​ต่อ​ใน​โรง​เรียน​สอน​ดนตรี​ของ​รัฐ​ที่​ชิคาโก. ดัง​นั้น ช่วง​สอง​ปี​ต่อ​มา ฉัน​ได้​ศึกษา​ดนตรี​และ​เล่น​ใน​วง​ดนตรี​ออร์เคสตรา​สอง​วง และ​คิด​ว่า​จะ​ยึด​งาน​ด้าน​นี้​เป็น​งาน​ประจำ​ชีพ.

เฮอร์เบิร์ต บัตเลอร์ ครู​สอน​ไวโอลิน​ของ​ฉัน​ได้​ย้าย​จาก​ยุโรป​มา​อยู่​ใน​ประเทศ​สหรัฐ. ดัง​นั้น ฉัน​จึง​ให้​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ผู้​ลี้​ภัย * แก่​เขา คิด​ว่า​เขา​คง​จะ​อ่าน. เขา​ได้​อ่าน​จริง และ​หลัง​ชั่วโมง​สอน​ใน​สัปดาห์​ถัด​มา เขา​พูด​ว่า “เจ​ทา เธอ​เล่น​ได้​ดี​ที​เดียว และ​ถ้า​เธอ​เรียน​ต่อ​ไป​เรื่อย ๆ เธอ​จะ​สามารถ​ทำ​งาน​กับ​วง​ดนตรี​ออร์เคสตรา​ที่​ออก​อากาศ​ทาง​วิทยุ​ได้ หรือ​ไม่​ก็​งาน​สอน​ดนตรี.” แล้ว​เขา​พูด​ต่อ​พลาง​เอา​นิ้ว​มือ​แตะ​หนังสือ​เล่ม​ที่​ฉัน​ให้ “แต่​ครู​คิด​ว่า​จิตใจ​ของ​เธอ​ผูก​พัน​อยู่​กับ​ข่าวสาร​ใน​หนังสือ​นี้. เธอ​น่า​จะ​ทำ​งาน​ด้าน​นี้ ถือ​เป็น​งาน​ประจำ​ชีวิต​ไป​เลย.”

ฉัน​คิด​หนัก​ใน​เรื่อง​นี้. แทน​ที่​จะ​เรียน​ต่อ​ใน​โรง​เรียน​สอน​ดนตรี ฉัน​ตอบรับ​การ​ชวน​ของ​แม่​ไป​ยัง​การ​ประชุม​ใหญ่​ของพยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​เมือง​ดีทรอยต์ รัฐ​มิชิแกน ใน​เดือน​กรกฎาคม 1940. พวก​เรา​กาง​เต็นท์​จัด​เป็น​ที่​พัก​แรม​ชั่ว​คราว​ใน​เมือง​รถ​พ่วง. แน่​ละ ฉัน​เอา​ไวโอลิน​ติด​ตัว​ไป​ด้วย และ​มี​โอกาส​ได้​เล่น​ใน​วง​ออร์เคสตรา ณ การ​ประชุม​ใหญ่​ครั้ง​นั้น. แต่​ใน​เมือง​รถ​พ่วง​นั้น​ฉัน​พบ​ไพโอเนียร์​หลาย​คน (ผู้​เผยแพร่​ประเภท​เต็ม​เวลา). พวก​เขา​ร่าเริง​เบิกบาน​กัน​ทุก​คน. ฉัน​ตัดสิน​ใจ​รับ​บัพติสมา​และ​กรอก​ใบ​สมัคร​เพื่อ​ทำ​งาน​เป็น​ไพโอเนียร์. ฉัน​อธิษฐาน​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ฉัน​ที่​จะ​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ต่อ​ไป​ตลอด​ชีวิต.

ฉัน​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​ที่​บ้าน​เกิด​ของ​ฉัน. ต่อ​มา ฉัน​ไป​เผยแพร่​ที่​ชิคาโก. ปี 1943 ฉัน​ย้าย​ไป​รัฐ​เคนทักกี. หน้า​ร้อน​ปี​นั้น ไม่​นาน​ก่อน​เริ่ม​การ​ประชุม​ภาค ฉัน​ได้​รับ​จดหมาย​เชิญ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​เป็น​รุ่น​ที่​สอง ที่​นั่น​ฉัน​จะ​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​สำหรับ​งาน​มิชชันนารี. ชั้น​เรียน​จะ​เริ่ม​ต้น​ใน​เดือน​กันยายน 1943.

ระหว่าง​การ​ประชุม​ภาค​ใน​ฤดู​ร้อน​ปี​นั้น ฉัน​พัก​ที่​บ้าน​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ซึ่ง​อนุญาต​ให้​ฉัน​เลือก​เสื้อ​ผ้า​ชุด​ไหน​ก็​ได้​ตาม​ใจ​ชอบ​จาก​ตู้​เสื้อ​ผ้า​ลูก​สาว​เธอ. ลูก​สาว​ของ​เธอ​สมัคร​เป็น​ทหาร และ​บอก​มารดา​แจก​ปัน​ข้าวของ​ทุก​อย่าง​ของ​เธอ​ให้​คน​อื่น​ไป. สำหรับ​ฉัน​เห็น​ว่า​สิ่ง​ของ​จำเป็น​เหล่า​นี้​เป็น​การ​จัด​เตรียม​ซึ่ง​สม​จริง​ตาม​คำ​สัญญา​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “ดัง​นั้น จง​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​และ​ความ​ชอบธรรม​ของ​พระองค์​ก่อน​เสมอ​ไป แล้ว​สิ่ง​อื่น​เหล่า​นี้​ทั้ง​หมด​จะ​เพิ่ม​เติม​ให้​แก่​ท่าน.” (มัดธาย 6:33, ล.ม.) เวลา​ห้า​เดือน​ที่​กิเลียด​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว และ​พอ​ถึง​วัน​จบ​หลัก​สูตร​วัน​ที่ 31 มกราคม 1944 ฉัน​คาด​หมาย​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​จะ​ทำ​งาน​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี.

ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ได้​เลือก​เอา​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​เช่น​กัน

คุณ​แม่​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​ปี 1942. ตอน​นั้น น้อง​ชาย​สาม​คน​ของ​ฉัน​และ​น้อง​สาว​อีก​คน​หนึ่ง​ยัง​เรียน​หนังสือ​อยู่. แม่​มัก​จะ​ไป​พบ​น้อง ๆ หลัง​โรง​เรียน​เลิก​แล้ว​พา​พวก​เขา​ออก​ไป​เผยแพร่​ด้วย​กัน. แม่​ยัง​ได้​สอน​พวก​เขา​ให้​ช่วย​กัน​ทำ​งาน​บ้าน​ด้วย. บ่อย​ครั้ง​กว่า​แม่​จะ​เข้า​นอน​ได้​ก็​ดึก​โข เพราะ​ต้อง​รีด​ผ้า​และ​ทำ​งาน​อื่น ๆ ที่​ควร​ทำ​ให้​เสร็จ ทั้ง​นี้​เพื่อ​แม่​จะ​ออก​ไป​ทำ​งาน​รับใช้​ตอน​กลางวัน​ได้.

ช่วง​เดือน​มกราคม ปี 1943 ขณะ​ที่​ฉัน​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​รัฐ​เคนทักกี ดอน​น้อง​ชาย​ได้​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​เช่น​กัน. เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​คุณ​พ่อ​ผิด​หวัง เพราะ​ท่าน​หวัง​จะ​ให้​ลูก​ทุก​คน​เรียน​จบ​วิทยาลัย​เหมือน​พ่อ​กับ​แม่. หลัง​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​เกือบ​สอง​ปี ดอน​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ร่วม​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ต่อ​โดย​ไป​เป็น​คน​หนึ่ง​ของ​คณะ​ทำ​งาน​ใน​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก.

โจเอล​ได้​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​ใน​เดือน​มิถุนายน ปี 1943 เมื่อ​ยัง​อยู่​ที่​บ้าน. ระหว่าง​นั้น​เขา​พยายาม​ชวน​พ่อ​ให้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​แต่​ไม่​สำเร็จ. อย่าง​ไร​ก็​ดี หลัง​จาก​โจเอล​พยายาม​เริ่ม​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ตาม​บ้าน​ให้​ได้​สัก​ราย​หนึ่ง​ใน​เขต​งาน แต่​ไม่​เคย​ได้​สัก​ที คุณ​พ่อ​จึง​ตก​ลง​ให้​โจเอล​นำ​การ​ศึกษา​กับ​ท่าน​เสีย​เอง โดย​ใช้​หนังสือ “ความ​จริง​จะ​ทำ​ให้​ท่าน​เป็น​อิสระ” (ภาษา​อังกฤษ). พ่อ​ตอบ​คำ​ถาม​ได้​ไม่​ยาก แต่​ท่าน​ยืนกราน​จะ​ให้​โจเอล​ค้น​หา​ข้อ​คัมภีร์​มา​พิสูจน์​สิ่ง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​หนังสือ. การ​ทำ​เช่น​นั้น​ช่วย​โจเอล​รับ​เอา​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไว้​เป็น​ของ​ตน​เอง.

โจเอล​คาด​หวัง​คณะ​กรรมการ​เกณฑ์​ทหาร​จะ​ให้​เขา​รับ​การ​ยก​เว้น​ไม่​ถูก​เกณฑ์​เหมือน​ดอน เพราะ​เป็น​ผู้​เผยแพร่​ศาสนา. แต่​เมื่อ​คณะ​กรรมการ​เห็น​หน้า​ตา​โจเอล​ดู​เป็น​เด็ก​รุ่น จึง​ปฏิเสธ​การ​ยก​เว้น​ไม่​จัด​เข้า​ใน​ข่าย​ผู้​เผยแพร่​ศาสนา แถม​ส่ง​หนังสือ​แจ้ง​ให้​ไป​รายงาน​ตัว​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​ใน​กองทัพ. ครั้น​โจเอล​ไม่​ยอม​ไป​เกณฑ์​ทหาร จึง​มี​การ​ออก​หมาย​จับ. หลัง​จาก​ตำรวจ​หน่วย​สืบสวน​กลาง​สืบ​หา​ตัว​ได้​แล้ว โจเอล​ถูก​คุม​ขัง​สาม​วัน​ใน​เรือน​จำ​ที่​กุ๊ก​เคาน์ตี.

คุณ​พ่อ​เอา​บ้าน​ของ​เรา​เป็น​หลักทรัพย์​ประกัน​ตัว​เขา​ออก​จาก​เรือน​จำ. ภาย​หลัง พ่อ​ได้​ใช้​วิธี​เดียว​กัน​นี้​กับ​พยาน​ฯ หนุ่ม​บาง​คน​ที่​ประสบ​สถานการณ์​คล้าย ๆ กัน. คุณ​พ่อ​เดือดดาล​มาก​ใน​เรื่อง​ไม่​เป็น​ธรรม​แบบ​นี้ และ​ท่าน​ถึง​กับ​พา​โจเอล​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อ​ตรวจ​สอบ​ดู​ว่า จะ​มี​โอกาส​ยื่น​อุทธรณ์​ได้​หรือ​ไม่. ใน​ที่​สุด โจเอล​ก็​ถูก​นับ​อยู่​ใน​ประเภท​ผู้​เผยแพร่​ศาสนา และ​เป็น​อัน​ว่า​คดี​ถูก​ยก​ฟ้อง. คุณ​พ่อ​เขียน​เล่า​ใน​จดหมาย​ส่ง​ถึง​ฉัน​ใน​เขต​มอบหมาย​งาน​มิชชันนารี​ว่า “พ่อ​คิด​ว่า​ชัย​ชนะ​ครั้ง​นี้​พระ​ยะโฮวา​สม​ควร​ได้​รับ​คำ​สรรเสริญ!” พอ​ปลาย​เดือน​สิงหาคม 1946 โจเอล​ได้​รับ​คำ​เชิญ​ให้​ไป​ทำ​งาน​ฐานะ​สมาชิก​คณะ​ผู้​ทำ​งาน ณ สำนักงาน​ใหญ่​ที่​บรุกลิน​เช่น​กัน.

คาร์ล​สมัคร​ทำ​งาน​ไพโอเนียร์​หลาย​ครั้ง​ใน​ช่วง​โรง​เรียน​ปิด​ภาค​ฤดู​ร้อน​ก่อน​เรียน​จบ​ชั้น​มัธยม​ปลาย​เมื่อ​ต้น​ปี 1947 และ​ต่อ​มา​เริ่ม​รับใช้​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ประจำ. ระหว่าง​นั้น​สุขภาพ​ของ​พ่อ​ไม่​ค่อย​จะ​แข็งแรง ด้วย​เหตุ​นี้ คาร์ล​จึง​ช่วย​ดู​แล​ธุรกิจ​ของ​พ่อ​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง​ก่อน​รับ​งาน​มอบหมาย​ไป​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​พื้น​ที่​อื่น. ปลาย​ปี 1947 คาร์ล​เริ่ม​งาน​รับใช้​ร่วม​กับ​ดอน​และ​โจเอล​ฐานะ​เป็น​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล ณ สำนักงาน​ใหญ่​ที่​บรุกลิน.

เมื่อ​จอย​จบ​ชั้น​มัธยม​ปลาย​แล้ว เธอ​ก็​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์. และ​ปี 1951 เธอ​สมทบ​พวก​พี่​ชาย​ที่​เบเธล. เธอ​มี​หน้า​ที่​เป็น​แม่บ้าน​ทำ​ความ​สะอาด และ​ทำ​งาน​ที่​แผนก​การ​บอกรับ​วารสาร​ด้วย. ปี 1955 เธอ​แต่งงาน​กับ​โรเจอร์ มอร์แกน สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​เช่น​เดียว​กัน. หลัง​จาก​นั้น​ราว ๆ เจ็ด​ปี ทั้ง​สอง​ตัดสิน​ใจ​จะ​มี​ครอบครัว​ของ​ตัว​เอง จึง​ได้​ลา​ออก​จาก​เบเธล. ใน​เวลา​ต่อ​มา เขา​ให้​กำเนิด​และ​เลี้ยง​ดู​ลูก​สอง​คน ซึ่ง​ก็​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​เช่น​กัน.

เมื่อ​ลูก​ต่าง​ก็​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​กัน​หมด​ทุก​คน​แล้ว คุณ​แม่​ก็​ให้​การ​สนับสนุน​พ่อ​อัน​ควร​แก่​ความ​จำเป็น พ่อ​จึง​ได้​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระ​ยะโฮวา​และ​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1952. ตลอด​เวลา 15 ปี​จน​กระทั่ง​สิ้น​ชีวิต คุณ​พ่อ​เป็น​เจ้า​ความ​คิด​ที่​ปราดเปรื่อง​ใน​การ​ค้น​หา​วิธี​ที่​จะ​แบ่ง​ปัน​ความ​จริง​เรื่อง​ราชอาณาจักร​แก่​คน​อื่น ทั้ง ๆ ที่​การ​เจ็บ​ไข้​ได้​ป่วย​ทำ​ให้​ท่าน​มี​ขีด​จำกัด​หลาย​อย่าง.

หลัง​จาก​ได้​พัก​งาน​ไพโอเนียร์​ไว้​ระยะ​หนึ่ง​เพราะ​พ่อ​ป่วย แม่​ก็​ยัง​ทำ​งาน​ไพโอเนียร์​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​อีก​กระทั่ง​สิ้น​ชีวิต. ท่าน​ไม่​เคย​มี​รถยนต์​และ​ขี่​จักรยาน​ไม่​เป็น. แม้​ว่า​แม่​เป็น​คน​ร่าง​เตี้ย​แต่​มัก​จะ​เดิน​ไป​ไหน​มา​ไหน​และ​บ่อย​ครั้ง​ก็​เดิน​ไป​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ถึง​หมู่​บ้าน​ชนบท​ที่​ห่าง​ไกล.

เข้า​ใน​เขต​งาน​ฐานะ​มิชชันนารี

หลัง​จบ​หลัก​สูตร​การ​ศึกษา​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด กลุ่ม​พวก​เรา​ไพโอเนียร์​ทำ​งาน​อยู่​ประมาณ​หนึ่ง​ปี​กับ​ประชาคม​ทาง​เหนือ​ของ​นคร​นิวยอร์ก ระหว่าง​รอ​เอกสาร​และ​หนังสือ​เดิน​ทาง. ใน​ที่​สุด ปี 1945 เรา​ถึง​ได้​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​เขต​มอบหมาย​ที่​ประเทศ​คิวบา ซึ่ง​ที่​นั่น​เรา​ค่อย ๆ ปรับ​ตัว​ที​ละ​น้อย​ให้​เข้า​กับ​วิถี​ชีวิต​ใหม่. งาน​ประกาศ​ของ​เรา​ได้​รับ​การ​ตอบรับ​อย่าง​ดี และ​ไม่​นาน​พวก​เรา​ทุก​คน​สามารถ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ได้​หลาย​ราย. เรา​ประกาศ​ใน​ประเทศ​นี้​ประมาณ​สี่​ปี. ครั้น​แล้ว​เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​ที่​สาธารณรัฐ​โดมินิกัน. วัน​หนึ่ง ฉัน​พบ​ผู้​หญิง​ซึ่ง​เร่งเร้า​ให้​ฉัน​ไป​เยี่ยม​ลูกค้า​ของ​เธอ​ที่​ชื่อ​ซู​ซัน อองฟรัว​ชาว​ฝรั่งเศส ซึ่ง​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​ให้​เข้าใจ​คัมภีร์​ไบเบิล.

ซู​ซัน​เป็น​คน​ยิว และ​เมื่อ​ฮิตเลอร์​บุก​ยึด​ประเทศ​ฝรั่งเศส สามี​ได้​ย้าย​เธอ​กับ​ลูก​สอง​คน​ไป​อยู่​อีก​ประเทศ​หนึ่ง. ซู​ซัน​ไม่​รอ​ช้า​ที่​จะ​บอก​เล่า​เรื่อง​ราว​ที่​เธอ​กำลัง​เรียน​รู้​แก่​คน​อื่น. ที​แรก​เธอ​คุย​กับ​หญิง​คน​นั้น​ที่​ขอร้อง​ให้​ฉัน​ไป​เยี่ยม ต่อ​มา​คุย​กับ​บลองช์ เพื่อน​จาก​ฝรั่งเศส. ทั้ง​สอง​คน​ก้าว​หน้า​จน​ถึง​ขั้น​รับ​บัพติสมา.

ซู​ซัน​ถาม​ฉัน​ว่า “ฉัน​ควร​ทำ​อย่าง​ไร​เพื่อ​จะ​ช่วย​ลูก​ได้?” ลูก​ชาย​ของ​เธอ​เรียน​แพทย์ ส่วน​ลูก​สาว​เรียน​เต้น​บัลเลต์ โดย​หวัง​จะ​เต้น​รำ​ที่​เรดิโอ​ซิตี​มิวสิก​ฮอลล์​ใน​นคร​นิวยอร์ก. ซู​ซัน​บอกรับ​วารสาร​หอสังเกตการณ์ และ​ตื่นเถิด! ให้​ลูก​ทั้ง​สอง​ได้​อ่าน. ผล​คือ ลูก​ชาย​ของ​ซู​ซัน, ภรรยา​ของ​เขา, และ​น้อง​สาว​คู่​แฝด​ของ​ภรรยา ทุก​คน​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ. หลุยส์ สามี​ซู​ซัน​รู้สึก​เป็น​กังวล​ที่​ภรรยา​สนใจ​พยาน​พระ​ยะโฮวา เพราะ​ตอน​นั้น​รัฐบาล​สาธารณรัฐ​โดมินิกัน​สั่ง​ห้าม​งาน​ของ​เรา. แต่​หลัง​จาก​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​สหรัฐ ใน​ที่​สุด​เขา​ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ เช่น​กัน.

ถูก​สั่ง​ห้าม​แต่​ยัง​คง​รับใช้​ต่อ​ไป

ถึง​แม้​มี​การ​สั่ง​ห้าม​กิจการ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​สาธารณรัฐ​โดมินิกัน​ไม่​นาน​หลัง​จาก​พวก​เรา​ถูก​มอบหมาย​ไป​อยู่​ที่​นั่น​เมื่อ​ปี 1949 เรา​มุ่ง​มั่น​ตั้งใจ​ไว้​แล้ว​ที่​จะ​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​ใน​ฐานะ​ผู้​ปกครอง​ยิ่ง​กว่า​เชื่อ​ฟัง​มนุษย์. (กิจการ 5:29) เรา​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​อันดับ​แรก ด้วย​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​แก่​ผู้​คน ดัง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สั่ง​เหล่า​สาวก​ให้​ทำ. (มัดธาย 24:14) อย่าง​ไร​ก็​ดี เรา​เรียน​รู้​ที่​จะ “ระแวด​ระวัง​เหมือน​งู และ​กระนั้น​ไม่​เป็น​พิษ​เป็น​ภัย​เหมือน​นก​พิราบ” ขณะ​ที่​เรา​ประกาศ. (มัดธาย 10:16, ล.ม.) ยก​ตัว​อย่าง ไวโอลิน​ของ​ฉัน​นับ​เป็น​เครื่อง​ช่วย​ที่​วิเศษ. เมื่อ​ฉัน​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ ฉัน​เอา​ไวโอลิน​ติด​ตัว​ไป​เสมอ. ผู้​ที่​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​ฉัน​ไม่​ได้​มา​เป็น​นัก​ไวโอลิน แต่​หลาย​ครอบครัว​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา!

หลัง​การ​สั่ง​ห้าม พวก​เรา​ผู้​หญิง​สี่​คน มี​แมรี อันโยล, โซเฟีย โซวิอัก, อีดิท มอร์แกน​และ​ฉัน​ได้​ย้าย​จาก​บ้าน​มิชชันนารี​ใน​เมือง​ซานฟรานซิสโก เด มาโครีส​ไป​อยู่​บ้าน​มิชชันนารี​ใน​สาขา​ที่​กรุง​ซานโตโดมิงโก. แต่​ทุก ๆ เดือน​ฉัน​เดิน​ทาง​ไป​สอน​ดนตรี​ใน​เขต​งาน​มอบหมาย​เดิม. ด้วย​เหตุ​นี้ ฉัน​จึง​มี​ทาง​ทำ​ได้​ที่​จะ​นำ​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ซุก​ลง​ใน​หีบ​ไวโอลิน​เอา​ไป​ฝาก​พี่​น้อง​คริสเตียน​ของ​เรา แถม​ขา​กลับ​ก็​มี​รายงาน​การ​ให้​คำ​พยาน​ของ​พี่​น้อง​ติด​ตัว​มา​ด้วย.

เมื่อ​พี่​น้อง​จาก​ซานฟรานซิสโก เด มาโครีส​ถูก​คุม​ขัง​ที่​เรือน​จำ​ซานติอาโก เนื่อง​จาก​การ​ยืนหยัด​ของ​คริสเตียน​ใน​เรื่อง​ความ​เป็น​กลาง บาง​คน​เอา​เงิน​ฝาก​ฉัน​ไป​ให้​พวก​เขา หรือ​เมื่อ​ทำ​ได้​ก็​เอา​พระ​คัมภีร์​ติด​ตัว​ไป และ​นำ​ข่าว​คราว​มา​บอก​ครอบครัว​ของ​เขา​ด้วย. ที่​เรือน​จำ​ซานติอาโก เมื่อ​ยาม​เห็น​หีบ​ไวโอลิน​ที่​ฉัน​หนีบ​ไว้​ใต้​รักแร้ เขา​ถาม​ว่า “หีบ​นั้น​สำหรับ​อะไร?” ฉัน​ตอบ​เขา​ไป​ว่า “ให้​ความ​บันเทิง​แก่​คน​เหล่า​นั้น.”

หนึ่ง​ใน​หลาย ๆ เพลง​ที่​ฉัน​เล่น​เป็น​เพลง​ซึ่ง​แต่ง​โดย​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ระหว่าง​อยู่​ใน​ค่าย​กัก​กัน​ของ​นาซี. เวลา​นี้​เป็น​เพลง​บท 29 ใน​หนังสือ​เพลง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ฉัน​เล่น​เพลง​นี้​เพื่อ​พี่​น้อง​ของ​เรา​ที่​ถูก​คุม​ขัง​จะ​ได้​ฝึก​ขับ​ร้อง​เพลง​นี้.

ฉัน​รู้​มา​ว่า​พยาน​ฯ หลาย​คน​ถูก​ย้าย​เข้า​ไป​ทำ​งาน​ใน​ไร่​ของ​ประธานาธิบดี​ทรูฮิลโย ผู้​นำ​รัฐบาล​สมัย​นั้น. มี​คน​บอก​ฉัน​ว่า​ไร่อยู่​ใกล้​เส้น​ทาง​เดิน​รถ​โดยสาร. ดัง​นั้น ประมาณ​เที่ยง​วัน ฉัน​ลง​จาก​รถ​และ​ถาม​ทิศ​ทาง​ที่​เข้า​ไป​ใน​ไร่. ชาย​เจ้าของ​ร้าน​เล็ก ๆ ชี้​มือ​ไป​ทาง​เทือก​เขา และ​เสนอ​ให้​ฉัน​ขี่​ม้า​ของ​เขา​ไป​และ​ให้​เด็ก​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​นำ​ทาง ทั้ง​นี้​มี​เงื่อนไข​ว่า​ฉัน​ต้อง​ฝาก​ไวโอลิน​ไว้​เป็น​หลัก​ประกัน​ว่า​ฉัน​จะ​คืน​ม้า​ให้​เขา.

เลย​เนิน​เขา​เหล่า​นั้น​ไป เรา​ต้อง​ลุย​ข้าม​แม่น้ำ ตอน​ที่​ม้า​ว่าย​น้ำ​ข้าม​ฝั่ง​เรา​สอง​คน​ต้อง​นั่ง​บน​หลัง​มัน. ที่​นั่น​เรา​มอง​เห็น​ฝูง​นก​แก้ว​ขน​สี​เขียว​แซม​สี​น้ำเงิน​เหมือน​ประกาย​รุ้ง​สดใส​ท่ามกลาง​แสง​แดด. ช่าง​เป็น​ภาพ​สวย​งาม​เสีย​นี่​กระไร! ฉัน​ทูล​อธิษฐาน​ว่า “พระ​ยะโฮวา ขอบคุณ​พระองค์​ที่​ทรง​สร้าง​นก​ให้​มี​สี​สัน​สวย​งาม​เหลือ​เกิน.” ใน​ที่​สุด เรา​ไป​ถึง​ไร่​ตอน​บ่าย​สี่​โมง. ทหาร​รักษา​การณ์​ใจ​ดี​ได้​ปล่อย​ให้​ฉัน​พูด​กับ​พี่​น้อง ทั้ง​ได้​อนุญาต​ฉัน​มอบ​สิ่ง​ของ​ทุก​อย่าง​ไว้​กับ​พี่​น้อง รวม​ถึง​คัมภีร์​ไบเบิล​ขนาด​เล็ก​ที่​ฉัน​นำ​มา​ด้วย.

ระหว่าง​เดิน​ทาง​กลับ ฉัน​อธิษฐาน​ตลอด​ทาง​เพราะ​มืด​แล้ว. พอ​มา​ถึง​ร้าน​นั้น เรา​เปียก​โชก​ทั้ง​ตัว​เพราะ​ถูก​ฝน. เนื่อง​จาก​รถ​เที่ยว​สุด​ท้าย​ออก​ไป​แล้ว ฉัน​จึง​ขอร้อง​ชาย​เจ้าของ​ร้าน​ช่วย​โบก​รถ​บรรทุก​ที่​ผ่าน​ทาง​นั้น​ให้​ฉัน​ได้​นั่ง​ไป​ด้วย. ฉัน​กล้า​ไป​กับ​ผู้​ชาย​สอง​คน​ใน​รถ​คัน​นั้น​เชียว​หรือ? คน​หนึ่ง​ถาม​ฉัน​ว่า “คุณ​รู้​จัก​โซฟี​หรือ​เปล่า? เธอ​ศึกษา​กับ​น้อง​สาว​ผม.” ฉัน​แน่​ใจ​ว่า​นี่​เป็น​การ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ฉัน​จาก​พระ​ยะโฮวา! ชาย​ทั้ง​สอง​ได้​นำ​ฉัน​ไป​ถึง​ซานโตโดมิงโก​อย่าง​ปลอด​ภัย.

ปี 1953 ฉัน​เป็น​หนึ่ง​ใน​จำนวน​ผู้​ที่​ไป​จาก​สาธารณรัฐ​โดมินิกัน​เพื่อ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ณ สนาม​กีฬา​แยงกี​ใน​นคร​นิวยอร์ก. ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ฉัน รวม​ทั้ง​คุณ​พ่อ​อยู่​ที่​นั่น​พร้อม​หน้า. หลัง​จาก​รายงาน​เรื่อง​ความ​ก้าว​หน้า​ใน​การ​ประกาศ​ใน​สาธารณรัฐ​โดมินิกัน​แล้ว ฉัน​กับ​แมรี อันโยล​เพื่อน​มิชชันนารี​ได้​มี​ส่วน​บ้าง​เล็ก​น้อย​ใน​ระเบียบ​วาระ ด้วย​การ​สาธิต​วิธี​ที่​เรา​ทำ​งาน​ประกาศ​ภาย​ใต้​คำ​สั่ง​ห้าม.

ชื่นชม​ยินดี​เป็น​พิเศษ​เนื่อง​มา​จาก​งาน​เยี่ยม​หมวด

ฤดู​ร้อน​ปี​นั้น​ฉัน​พบ​รูดอล์ฟ ซุเนล หนึ่ง​ปี​ต่อ​มา เขา​กลาย​เป็น​สามี​ของ​ฉัน. ครอบครัว​ของ​เขา​ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ ใน​เมือง​แอลเลเกนี รัฐ​เพนซิลเวเนีย​ไม่​นาน​หลัง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1. เขา​ต้อง​โทษ​ติด​คุก​ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 ใน​ฐานะ​คริสเตียน​ที่​เป็น​กลาง หลัง​จาก​นั้น​เขา​ได้​รับ​เอา​งาน​รับใช้​ที่​เบเธล​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก. ภาย​หลัง​การ​แต่งงาน​ของ​เรา​ไม่​นาน เขา​ได้​รับ​การ​เชิญ​ให้​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ ฐานะ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง. จาก​นั้น​เรื่อย​มา​ตลอด​เวลา 18 ปี ฉัน​ได้​ร่วม​เดิน​ทาง​ไป​กับ​เขา​ใน​งาน​เยี่ยม​หมวด.

งาน​เยี่ยม​หมวด​ทำ​ให้​เรา​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​รัฐ​เพนซิลเวเนีย, เวสต์เวอร์จิเนีย, นิวแฮมป์เชียร์, และ​แมสซาชูเซตส์ นอก​เหนือ​จาก​ที่​อื่น ๆ หลาย​แห่ง. ตาม​ปกติ​เรา​พัก​ใน​บ้าน​ของ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ของ​เรา. เรา​รู้สึก​ชื่นชม​ยินดี​เป็น​พิเศษ​เมื่อ​ได้​รู้​จัก​คุ้น​เคย​กับ​พวก​เขา​เป็น​อย่าง​ดี​และ​ได้​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ร่วม​กัน. พี่​น้อง​ได้​แสดง​ความ​รัก​และ​ความ​เอื้อเฟื้อ​ต่อ​เรา​อย่าง​อบอุ่น​และ​จริง​ใจ​เสมอ. หลัง​จาก​โจเอล​แต่งงาน​กับ​แมรี อันโยล เพื่อน​ของ​ฉัน​สมัย​เป็น​มิชชันนารี ทั้ง​สอง​ได้​ใช้​เวลา​สาม​ปี​ใน​งาน​เดิน​ทาง​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ ทั่ว​รัฐ​เพนซิลเวเนีย​และ​มิชิแกน. ต่อ​มา ใน​ปี 1958 โจเอล​ได้​รับ​เชิญ​เป็น​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​อีก​ครั้ง​หนึ่ง คราว​นี้​มา​กับ​แมรี.

คาร์ล​เข้า​มา​อยู่​ที่​เบเธล​ประมาณ​เจ็ด​ปี​แล้ว​ตอน​ที่​เขา​ได้​รับ​มอบหมาย​งาน​เยี่ยม​หมวด​ราว ๆ สอง​สาม​เดือน​เพื่อ​จะ​มี​ประสบการณ์​มาก​ขึ้น. ภาย​หลัง​เขา​ได้​เป็น​ผู้​สอน​ที่​โรง​เรียน​กิเลียด. ปี 1963 คาร์ล​แต่งงาน​กับ​บ๊อบบี้ เธอ​ได้​รับใช้​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ที่​เบเธล​จน​กระทั่ง​สิ้น​ชีวิต​เมื่อ​เดือน​ตุลาคม ปี 2002.

ระหว่าง​หลาย​ปี​ที่​ดอน​ทำ​งาน​ใน​เบเธล เขา​ได้​เดิน​ทาง​ไป​ต่าง​ประเทศ​หลาย​ครั้ง เพื่อ​รับใช้​พี่​น้อง​ที่​ทำ​งาน​ใน​สำนักงาน​สาขา​และ​ใน​เขต​งาน​มิชชันนารี. ภาระ​หน้า​ที่​ของ​เขา​นำ​เขา​ไป​ถึง​โลก​ซีก​ตะวัน​ออก, แอฟริกา, ยุโรป, และ​หลาย​ภูมิภาค​ของ​ทวีป​อเมริกา. บ่อย​ครั้ง ดอโลเรส​ภรรยา​ผู้​ภักดี​ของ​ดอน​ร่วม​เดิน​ทาง​ไป​ด้วย.

สภาพการณ์​ของ​เรา​เปลี่ยน​ไป

หลัง​จาก​ป่วย​เรื้อรัง​อยู่​นาน คุณ​พ่อ​ก็​เสีย​ชีวิต แต่​ก่อน​ตาย ท่าน​บอก​ฉัน​ว่า​ท่าน​สุข​ใจ​เหลือ​เกิน​ที่​พวก​เรา​ได้​เลือก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. ท่าน​พูด​ว่า​เรา​ได้​รับ​พระ​พร​มาก​มาย​หลาย​ประการ มาก​ยิ่ง​กว่า​ที่​อาจ​จะ​ได้​จาก​การ​ศึกษา​ใน​วิทยาลัย​อย่าง​ที่​คุณ​พ่อ​เคย​มุ่ง​หมาย​ไว้. เมื่อ​ฉัน​ช่วย​คุณ​แม่​จัด​เก็บ​ข้าวของ​ย้าย​ไป​อยู่​ใน​ทำเล​ใกล้​บ้าน​จอย​น้อง​สาว​ฉัน​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว ฉัน​กับ​สามี​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​นิว​อิงแลนด์ เพื่อ​เรา​จะ​ได้​อยู่​ใกล้​แม่​สามี ซึ่ง​ใน​ตอน​นั้น​จำเป็น​ต้อง​ได้​การ​ช่วยเหลือ​จาก​เรา. ภาย​หลัง​การ​ตาย​ของ​แม่​สามี คุณ​แม่​ฉัน​มา​อยู่​กับ​เรา​เป็น​เวลา 13 ปี. ครั้น​แล้ว ณ วัน​ที่ 18 มกราคม 1987 ท่าน​ก็​เสร็จ​สิ้น​ภารกิจ​ทาง​แผ่นดิน​โลก​และ​จาก​ไป​เมื่อ​อายุ 93 ปี.

บ่อย​ครั้ง เมื่อ​เพื่อน ๆ ชมเชย​ท่าน​ที่​ได้​เลี้ยง​ลูก​ทุก​คน​ให้​รัก​และ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา คุณ​แม่​จะ​พูด​อย่าง​ถ่อม​ตน​ว่า “บังเอิญ​ดิฉัน​ได้​ปลูก​หว่าน​เมล็ด​ลง​ใน ‘ดิน’ ดี​กระมัง.” (มัดธาย 13:23) นับ​ว่า​เป็น​พระ​พร​อย่าง​แท้​จริง​ที่​เรา​มี​พ่อ​แม่​ที่​เกรง​กลัว​พระเจ้า ผู้​ได้​วาง​ตัว​อย่าง​อัน​ดี​ให้​เรา ทั้ง​ใน​ด้าน​ความ​กระตือรือร้น​และ​ความ​ถ่อม​ใจ!

ราชอาณาจักร​ยัง​คง​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​อันดับ​แรก

พวก​เรา​จัด​ให้​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​อันดับ​แรก​ใน​ชีวิต​ของ​เรา​อยู่​เรื่อย​ไป และ​ได้​พยายาม​เสมอ​มา​ที่​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​ใน​เรื่อง​การ​แจก​ปัน​ให้​ผู้​อื่น. (ลูกา 6:38; 14:12-14) และ​เมื่อ​ทำ​เช่น​นั้น พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​เตรียม​ให้​เรา​อย่าง​เหลือ​ล้น​ตาม​ความ​จำเป็น. ชีวิต​ของ​เรา​มั่นคง​และ​เป็น​สุข.

ฉัน​กับ​รูดี้​ยัง​รัก​ดนตรี​ไม่​เสื่อม​คลาย. ช่าง​เป็น​โอกาส​ที่​น่า​เพลิดเพลิน​เสีย​จริง ๆ เมื่อ​บาง​คน​ที่​ชื่น​ชอบ​ดนตรี​เช่น​กัน​ได้​มา​พบ​ปะ​สังสรรค์​กัน​ที่​บ้าน​ของ​เรา​ตอน​หัวค่ำ และ​เรา​เล่น​ดนตรี​ด้วย​กัน. แม้​ฉัน​ไม่​ได้​ยึด​ดนตรี​เป็น​งาน​ประจำ​ชีพ ทว่า​มัน​ช่วย​เติม​ความ​ยินดี​ให้​แก่​ชีวิต. เวลา​นี้​ฉัน​กับ​สามี​ชื่นชม​เมื่อ​มอง​เห็น​ผล​งาน​การ​รับใช้​ของ​เรา​ฐานะ​ไพโอเนียร์ คือ​ผู้​คน​ที่​เรา​ได้​มี​ส่วน​ช่วยเหลือ​ตลอด​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา.

แม้​เวลา​นี้​เรา​มี​ปัญหา​สุขภาพ ฉัน​พูด​ได้​เลย​ว่า​ชีวิต​ของ​เรา​เปี่ยม​ด้วย​ความ​สุข​และ​มั่นคง​ใน​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา 60 กว่า​ปี. ทุก​เช้า​เมื่อ​ฉัน​ตื่น​ขึ้น​มา ฉัน​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​พระองค์​ได้​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ฉัน ตอน​ที่​ฉัน​เริ่ม​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​หลาย​ปี​มา​แล้ว และ​ฉัน​คิด​รำพึง​ว่า ‘เอ วัน​นี้​ฉัน​สามารถ​จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​เพื่อ​ให้​การ​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​มา​เป็น​อันดับ​แรก?’

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 14 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​ไม่​พิมพ์​อีก​แล้ว.

[ภาพ​หน้า 24]

ครอบครัว​ของ​เรา​เมื่อ​ปี 1948 (จาก​ซ้าย​ไป​ขวา): จอย, ดอน, คุณ​แม่, โจเอล, คาร์ล, ฉัน, และ​คุณ​พ่อ

[ภาพ​หน้า 25]

คุณ​แม่​เป็น​ตัว​อย่าง​ด้าน​ความ​กระตือรือร้น​ใน​งาน​รับใช้

[ภาพ​หน้า 26]

คาร์ล, ดอน, โจเอล, จอย, และ​ฉัน​ใน​ปัจจุบัน กว่า 50 ปี​ต่อ​มา

[ภาพ​หน้า 27]

จาก​ซ้าย​ไป​ขวา: ฉัน, แมรี อันโยล, โซเฟีย โซวิอัก, และ​อีดิท มอร์แกน สมัย​เป็น​มิชชันนารี​ใน​สาธารณรัฐ​โดมินิกัน

[ภาพ​หน้า 28]

กับ​แมรี (คน​ซ้าย) ที่​สนาม​กีฬา​แยงกี ปี 1953

[ภาพ​หน้า 29]

กับ​สามี​ระหว่าง​เดิน​ทาง​เยี่ยม​หมวด