ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ผมมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลทั่วโลก

ผมมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลทั่วโลก

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ผม​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​ส่ง​เสริม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ทั่ว​โลก

เล่า​โดย​โรเบิร์ต นิสเบต

กษัตริย์​โซบูซา​ที่ 2 แห่ง​สวาซิแลนด์​ได้​ให้​การ​ต้อนรับ​ผม​กับ​จอร์จ​น้อง​ชาย ณ วัง​ที่​ประทับ​ของ​ท่าน. นั่น​เป็น​ปี 1936 ถึง​กระนั้น ผม​ยัง​จำ​การ​สนทนา​ได้​แม่นยำ. สาเหตุ​ที่​ผม​มี​โอกาส​สนทนา​กับ​กษัตริย์​นาน​พอ​สม​ควร​ก็​เพราะ​ผม​ทำ​งาน​ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​การ​สอน​พระ​คัมภีร์​อย่าง​กว้างขวาง​มา​นาน​นั่น​เอง. บัด​นี้ ผม​อายุ 95 ปี​แล้ว ผม​มอง​ย้อน​หลัง​ด้วย​ความ​ภูมิ​ใจ​เนื่อง​จาก​ได้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​นี้​ซึ่ง​เป็น​เหตุ​ที่​ผม​เดิน​ทาง​ไป​ถึง​ห้า​ทวีป.

เรื่อง​ทั้ง​หมด​เริ่ม​ต้น​ใน​ปี 1925 เมื่อ​นาย​ดอบสัน คน​เร่​ขาย​ใบ​ชา​เริ่ม​แวะ​เยี่ยม​ครอบครัว​ของ​เรา​ที่​เอดินบะระ สกอตแลนด์. ตอน​นั้น​ผม​ยัง​เป็น​เด็ก​หนุ่ม​อายุ​ไม่​ถึง 20 และ​อยู่​ใน​ระหว่าง​ฝึก​งาน​เป็น​คน​ปรุง​ยา. แม้​ผม​ค่อนข้าง​เป็น​เด็ก แต่​ผม​นึก​ห่วง​กังวล​ต่อ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ครั้ง​ใหญ่​ซึ่ง​สงคราม​โลก​ระหว่าง​ปี 1914-1918 ได้​ยัง​ให้​เกิด​ขึ้น​แก่​ครอบครัว​และ​ความ​เชื่อ​มั่น​และ​กิจกรรม​ต่าง ๆ ทาง​ศาสนา. จาก​การ​เยี่ยม​คราว​หนึ่ง นาย​ดอบสัน​ให้​หนังสือ​แผนการ​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​ยุค​ต่าง ๆ (ภาษา​อังกฤษ) แก่​พวก​เรา. หนังสือ​เล่ม​นี้​มี​วิธี​การ​นำ​เสนอ​เรื่อง​พระ​ผู้​สร้าง​ที่​ทรง​ปรีชา​ญาณ พร้อม​ด้วย “แผนการ” ที่​กำหนด​ไว้​แน่นอน​เช่น​นั้น ดู​เหมือน​สม​เหตุ​สม​ผล​และ​สอดคล้อง​กับ​พระเจ้า​องค์​ที่​ผม​ต้องการ​นมัสการ.

จาก​นั้น​ไม่​นาน​ผม​กับ​คุณ​แม่​ก็​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​เรียก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สมัย​นั้น. เดือน​กันยายน 1926 ผม​กับ​แม่​ก็​ได้​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​โดย​การ​จุ่ม​ตัว​มิด​ใน​น้ำ ณ การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​เมือง​กลาสโกว์. แต่​ละ​คน​ที่​เสนอ​ตัว​เพื่อ​จะ​รับ​บัพติสมา​ได้​รับ​แจก​เสื้อ​คลุม​ยาว​มี​สาย​รัด​ที่​ข้อ​เท้า ใช้​สวม​ทับ​ชุด​อาบ​น้ำ​ปกติ​ของ​เรา​อีก​ชั้น​หนึ่ง. ครั้ง​กระโน้น​มอง​การ​ได้​สวม​เสื้อ​คลุม​ยาว​ว่า​เหมาะ​กับ​วาระ​สำคัญ​เช่น​นั้น.

ใน​สมัย​นั้น ความ​เข้าใจ​ของ​เรา​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ มาก​มาย​จำเป็น​ต้อง​แก้ไข​และ​ปรับ​ให้​ถูก​ต้อง. สมาชิก​ประชาคม​ส่วน​ใหญ่ ถ้า​ไม่​ใช่​ทั้ง​หมด ยัง​คง​ฉลอง​คริสต์มาส​กัน​อยู่. มี​ไม่​กี่​คน​ได้​ออก​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน. แม้​แต่​ผู้​ปกครอง​บาง​คน​ก็​ได้​คัดค้าน​การ​จำหน่าย​หนังสือ​ใน​วัน​อาทิตย์​ด้วย​ซ้ำ เพราะ​เขา​รู้สึก​ว่า​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ละเมิด​วัน​ซะบาโต. แต่​บทความ​ใน​หอสังเกตการณ์ ปี 1925 เริ่ม​เน้น​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​ด้วย​ความ​สำคัญ​ของ​ข้อ​คัมภีร์​บาง​ข้อ อาทิ มาระโก 13:10 (ล.ม.) ที่​ว่า “ข่าว​ดี​จะ​ต้อง​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ใน​ประเทศ​ทั้ง​ปวง​ก่อน.”

งาน​ที่​ดำเนิน​ตลอด​ทั่ว​โลก​นั้น​จะ​สำเร็จ​ลุ​ล่วง​ได้​อย่าง​ไร? เมื่อ​ผม​พยายาม​เข้า​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ​ตาม​บ้าน​แบบ​ง่าย ๆ ครั้ง​แรก​นั้น ผม​พูด​กับ​เจ้าของ​บ้าน​แต่​เพียง​ว่า​ผม​กำลัง​ขาย​หนังสือ​ที่​น่า​สนใจ​เกี่ยว​กับ​ศาสนา และ​เสนอ​หนังสือ​พิณ​ของ​พระเจ้า (ภาษา​อังกฤษ) ซึ่ง​อธิบาย​คำ​สอน​สำคัญ​สิบ​ประการ​ของ​พระ​คัมภีร์ เปรียบ​คำ​สอน​เหล่า​นั้น​เหมือน​พิณ​สิบ​สาย. ต่อ​มา พวก​เรา​มี​บัตร​พิมพ์​คำ​พยาน ซึ่ง​เสนอ​ข่าวสาร​สั้น ๆ ให้​เจ้าของ​บ้าน​อ่าน. นอก​จาก​นั้น เรา​ใช้​หีบ​เสียง​แบบ​กระเป๋า​หิ้ว​เล่น​แผ่น​เสียง​บันทึก​คำ​บรรยาย​นาน​สี่​นาที​ครึ่ง. รุ่น​แรก​ที่​ออก​มา​หนัก​เอา​การ แต่​รุ่น​ที่​ออก​ที​หลัง​มี​น้ำหนัก​เบา​กว่า และ​เมื่อ​วาง​ใน​แนว​ตั้ง​ก็​สามารถ​เปิด​เล่น​ได้​ด้วย​ซ้ำ.

จาก​ปี 1925 และ​ย่าง​เข้า​ทศวรรษ 1930 เรา​ให้​คำ​พยาน​ใน​วิธี​ที่​เห็น​ว่า​เหมาะ​สม​ที่​สุด​เท่า​ที่​เรา​ทำ​ได้. ครั้น​มา​ถึง​ช่วง​ต้น​ทศวรรษ 1940 ก็​เริ่ม​มี​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ใน​ทุก​ประชาคม. พวก​เรา​ได้​เรียน​วิธี​ให้​คำ​พยาน​เรื่อง​ข่าวสาร​ราชอาณาจักร​แก่​เจ้าของ​บ้าน​โดย​ตรง แทน​การ​ใช้​บัตร​หรือ​เปิด​แผ่น​เสียง​ให้​ฟัง. เรา​ยัง​ได้​เรียน​รู้​ความ​สำคัญ​ของ​การ​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ผู้​สนใจ​อีก​ด้วย. ใน​แง่​หนึ่ง เรา​อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ตอน​นั้น​เป็น​ช่วง​เริ่ม​ต้น​ของ​งาน​ให้​ความ​รู้​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทั่ว​โลก อย่าง​ที่​ทำ​กัน​ใน​ปัจจุบัน.

การ​หนุน​กำลังใจ​จาก​บราเดอร์​รัทเทอร์ฟอร์ด

ผม​ปรารถนา​จะ​มี​ส่วน​มาก​ขึ้น​ใน​งาน​ให้​ความ​รู้​จึง​ได้​ลง​ชื่อ​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์​รับใช้​เต็ม​เวลา​ใน​ปี 1931. ผม​กำหนด​ตาราง​เวลา​ไว้​ว่า​จะ​เริ่ม​รับใช้​ทันที​หลัง​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​กรุง​ลอนดอน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ระหว่าง​พัก​กิน​อาหาร​กลางวัน บราเดอร์​โจเซฟ รัทเทอร์ฟอร์ด​ผู้​ดู​แล​กิจการ​สมัย​นั้น​ขอ​พูด​กับ​ผม. ท่าน​มี​แผนการ​ส่ง​ไพโอเนียร์​คน​หนึ่ง​ไป​แอฟริกา. ท่าน​ถาม​ผม​ว่า “คุณ​เต็ม​ใจ​ไป​ไหม?” ทั้ง ๆ ที่​ตกตะลึง​อยู่​บ้าง แต่​ผม​ก็​ตอบรับ​อย่าง​หนักแน่น​ว่า “ครับ ผม​จะ​ไป.”

สมัย​นั้น เป้าหมาย​หลัก​ของ​เรา​คือ​จำหน่าย​สรรพหนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​มาก​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้ และ​นั่น​หมาย​ถึง​การ​เดิน​ทาง​ไป​เรื่อย ๆ. ผม​ได้​รับ​การ​หนุน​ใจ​ให้​ครอง​ตัว​เป็น​โสด เหมือน​พี่​น้อง​ส่วน​ใหญ่​สมัย​นั้น​ที่​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ดู​แล​งาน. เขต​งาน​ของ​ผม​เริ่ม​ต้น​ที่​เมือง​เคปทาวน์ บน​พื้น​ที่​ใต้​สุด​ของ​แอฟริกา และ​แผ่​ไป​ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​ทวีป รวม​ถึง​เกาะ​ต่าง ๆ ทาง​ชายฝั่ง​มหาสมุทร​อินเดีย. ที่​จะ​ไป​ถึง​พรม​แดน​ด้าน​ตะวัน​ตก ผม​ต้อง​เดิน​ทาง​ข้าม​ทะเล​ทราย​คาลาฮาริ​ที่​ร้อน​ระอุ​และ​ขึ้น​เหนือ​ไป​จน​ถึง​ต้น​แม่น้ำ​ไนล์​ตรง​ทะเลสาบ​วิกตอเรีย. ปี​หนึ่ง ๆ ผม​กับ​เพื่อน​ร่วม​งาน​ต้อง​ใช้​เวลา​หก​เดือน​อยู่​ใน​ประเทศ​หนึ่ง​หรือ​มาก​กว่า​นั้น​ใน​แอฟริกา​ซึ่ง​มี​พื้น​ที่​กว้าง​ใหญ่​ไพศาล.

ทรัพย์​มาก​มาย​ฝ่าย​วิญญาณ​อัด​แน่น​อยู่​ใน​สอง​ร้อย​กล่อง

เมื่อ​ไป​ถึง​เคปทาวน์ ผม​พบ​ว่า​มี​หนังสือ​สอง​ร้อย​กล่อง​สำหรับ​แอฟริกา​ตะวัน​ออก. สรรพหนังสือ​เหล่า​นั้น​พิมพ์​ออก​มา​สำหรับ​คน​ยุโรป​สี่​ภาษา​และ​สำหรับ​คน​เอเชีย​สี่​ภาษา แต่​ไม่​มี​ภาษา​แอฟริกา​เลย. ครั้น​ผม​ไต่ถาม​ว่า​ทำไม​หนังสือ​เหล่า​นั้น​ทั้ง​หมด​มา​อยู่​ที่​นั่น​ก่อน​ผม​มา​ถึง​เสีย​ด้วย​ซ้ำ คำ​ตอบ​คือ​มี​การ​ส่ง​หนังสือ​เหล่า​นี้​ให้​แฟรงก์​กับ​เกรย์ สมิท สอง​พี่​น้อง​ไพโอเนียร์​ซึ่ง​เพิ่ง​เดิน​ทาง​ไป​ประกาศ​ที่​เคนยา​ก่อน​หน้า​นี้. เมื่อ​เขา​ไป​ถึง​เคนยา​ได้​ไม่​นาน ทั้ง​สอง​คน​ป่วย​เป็น​ไข้​มาลาเรีย และ​น่า​เศร้า​ที่​แฟรงก์​ถึง​แก่​ชีวิต​เสีย​แล้ว.

ถึง​แม้​ข่าว​นี้​ทำ​ให้​ผม​ต้อง​ใคร่ครวญ​สภาพการณ์​ของ​ตัว​เอง​อย่าง​จริงจัง แต่​ก็​ไม่​เป็น​อุปสรรค. ผม​กับ​เดวิด นอร์มัน เพื่อน​ร่วม​งาน​ได้​ลง​เรือ​จาก​เคปทาวน์​ไป​ยัง​เขต​งาน​แรก​ของ​เรา​ใน​แทนซาเนีย ระยะ​ทาง​ประมาณ 5,000 กิโลเมตร. ตัว​แทน​จัด​การ​เดิน​ทาง​ใน​มอมบาซา ประเทศ​เคนยา เป็น​ผู้​ดู​แล​คลัง​หนังสือ​ของ​เรา และ​จะ​ส่ง​ต่อ​ไป​ยัง​ปลาย​ทาง​ให้​เรา​ตาม​ความ​ประสงค์. ตอน​แรก ๆ เรา​ให้​คำ​พยาน​ใน​ย่าน​ธุรกิจ เช่น ห้าง​ร้าน​และ​สำนักงาน​ใน​แต่​ละ​เมือง. เรา​จัด​หนังสือจำหน่าย​ด้วย​การ​แยก​เป็น​ชุด ชุด​หนึ่ง​มี​ปก​แข็ง 9 เล่ม เล่ม​เล็ก 11 เล่ม เนื่อง​จาก​หนังสือ​เหล่า​นั้น​มี​สี​สัน​ต่าง​กัน​หลาก​หลาย จึง​กลาย​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​ชุด​สี​รุ้ง.

ถัด​จาก​นั้น เรา​ตก​ลง​กัน​ไป​ที่​เกาะ​แซน​ซิ​บาร์ ห่าง​จาก​ฝั่ง​ทะเล​ทาง​ตะวัน​ออก​ราว 30 กิโลเมตร. เกาะ​แซน​ซิ​บาร์​เคย​เป็น​ศูนย์กลาง​การ​ค้า​ทาส​อยู่​นาน​หลาย​ร้อย​ปี แต่​เป็น​แหล่ง​กานพลู​ที่​ขึ้น​ชื่อ​ด้วย ซึ่ง​เรา​ได้​กลิ่น​ทุก​หน​ทุก​แห่ง​ทั่ว​เมือง. เรา​รู้สึก​กลัว​อยู่​บ้าง​เมื่อ​ไป​ไหน​มา​ไหน​ใน​เมือง เนื่อง​จาก​ขาด​การ​วาง​ผัง​เมือง​ที่​ดี. ถนน​คดเคี้ยว​เลี้ยว​ไป​เลี้ยว​มา และ​การ​จะ​หลง​ทาง​นั้น​เป็น​ไป​ได้​ง่าย. โรงแรม​ที่​เรา​พัก​ให้​ความ​สะดวก​พอ​สม​ควร ทว่า​ใช้​ตาปู​หัว​ใหญ่​ตอก​ประดับ​ประตู​และ​ผนัง​ห้อง​หนา​ทึบ​จึง​ดู​คล้าย​ห้อง​ขัง​เสีย​มาก​กว่า. ถึง​อย่าง​ไร งาน​ของ​เรา​ที่​นั่น​เกิด​ผล​ดี และ​ดีใจ​เมื่อ​พบ​ชาว​อาหรับ, ชาว​ภารต, และ​คน​อื่น ๆ ที่​เต็ม​ใจ​รับ​สรรพหนังสือ​ของ​เรา.

รถไฟ, เรือ, และ​รถยนต์

สมัย​นั้น​การ​เดิน​ทาง​ใน​แอฟริกา​ตะวัน​ออก​ไม่​ง่าย. อย่าง​เช่น ระหว่าง​ที่​เรา​เดิน​ทาง​จาก​มอมบาซา​สู่​ภูมิ​ประเทศ​แถบ​ภูเขา​ใน​เคนยา รถไฟ​ของ​เรา​จำ​ต้อง​หยุด​วิ่ง​เพราะ​ภัย​จาก​ฝูง​ตั๊กแตน. ฝูง​ตั๊กแตน​มาก​มาย​นับ​ล้าน ๆ ตัว​ปก​คลุม​ทั่ว​ทุก​แห่ง​ทั้ง​บน​พื้น​ดิน​และ​บน​ทาง​รถไฟ ทำ​ให้​ราง​รถไฟ​ลื่น​จน​หัว​รถ​จักร​ไม่​อาจ​ลาก​ขบวน​รถ​ไป​ได้. ทาง​เดียว​เท่า​นั้น​ที่​แก้​ได้​คือ​เอา​น้ำ​ร้อน​จาก​หัว​รถ​จักร​ฉีด​ล้าง​ราง​เสีย​ก่อน. การ​แก้​ปัญหา​วิธี​นี้​เป็น​ไป​อย่าง​เชื่อง​ช้า​จน​กระทั่ง​ใน​ที่​สุด​รถ​ก็​พา​เรา​ผ่าน​พ้น​ตั๊กแตน​จำนวน​มาก​มาย​ไป​ได้. และ​เรา​รู้สึก​โล่ง​ใจ​เพียง​ใด​เมื่อ​รถไฟ​เริ่ม​ไต่​ขึ้น​ที่​สูง​และ​ได้​สูด​กลิ่น​ไอ​ที่​เย็น​กว่า​ของ​ภูมิอากาศ​บน​ภูเขา!

ถึง​แม้​การ​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​เมือง​ต่าง ๆ ตาม​ชายฝั่ง​โดย​รถไฟ​และ​เรือ​นั้น​สะดวก แต่​ที่​จะ​ไป​ให้​ถึง​ท้องถิ่น​ใน​ชนบท​โดย​รถยนต์​นั้น​ดี​ที่​สุด. ผม​ดีใจ​เมื่อ​มี​จอร์จ​น้อง​ชาย​มา​สมทบ​ด้วย เพราะ​ตอน​นั้น​เรา​สามารถ​ซื้อ​รถ​ตู้​คัน​ใหญ่​พอ​สม​ควร ใหญ่​พอ​ที่​จะ​ตั้ง​เตียง, มี​ที่​ทำ​ครัว, ที่​เก็บ​ข้าวของ, และ​มี​หน้าต่าง​แบบ​กัน​ยุง​ได้. นอก​จาก​นั้น เรา​ติด​ตั้ง​เครื่อง​ขยาย​เสียง​ไว้​บน​หลังคา​ด้วย. เมื่อ​เตรียม​พร้อม​แล้ว​เช่น​นี้ เรา​สามารถ​ออก​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ตอน​กลางวัน และ​เชิญ​ชวน​ประชาชน​มา​ฟัง​การ​บรรยาย​ตอน​เย็น ณ บริเวณ​ตลาด. เรา​เปิด​แผ่น​เสียง​เรื่อง​ที่​คน​ชอบ​ฟัง​คือ “นรก​ร้อน​ไหม?” เรา​เดิน​ทาง​เที่ยว​หนึ่ง​จาก​แอฟริกา​ใต้​ไป​เคนยา ระยะ​ทาง 3,000 กิโลเมตร​ด้วย “บ้าน​เคลื่อน​ที่” ของ​เรา และ​รู้สึก​ดีใจ​ว่า​ตอน​นั้น​เรา​มี​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​หลาย​อย่าง​เป็น​ภาษา​ต่าง ๆ ที่​ใช้​ใน​แอฟริกา ซึ่ง​ผู้​คน​ใน​ท้องถิ่น​รับ​ไป​จาก​เรา​ด้วย​ความ​ตื่นเต้น.

ประสบการณ์​ซึ่ง​ยัง​ความ​เพลิดเพลิน​ยินดี​แก่​เรา​ระหว่าง​การ​เดิน​ทาง​แบบ​นี้​อยู่​ตรง​ที่​เรา​สามารถ​เห็น​ชีวิต​สัตว์​ป่า​แอฟริกา. แน่นอน เพื่อ​ความ​ปลอด​ภัย เรา​ไม่​ออก​ไป​นอก​รถ​ใน​ยาม​ค่ำ​คืน แต่​การ​ได้​เห็น​ความ​แตกต่าง​หลาก​หลาย​ท่ามกลาง​สัตว์​ประเภท​ต่าง ๆ อัน​เป็น​ผล​งาน​การ​สร้าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​สภาพ​แวด​ล้อม​ตาม​ธรรมชาติ​เช่น​นี้​เป็น​การ​เสริม​ความ​เชื่อ​จริง ๆ.

การ​ขัด​ขวาง​เริ่ม​ขึ้น

แม้​เรา​ต้อง​คอย​ระแวด​ระวัง​สัตว์​ป่า แต่​ไม่​อาจ​จะ​เทียบ​ได้​กับ​สิ่ง​ที่​เรา​จำ​ต้อง​ทำ​เมื่อ​เผชิญ​เจ้าหน้าที่​รัฐบาล​หลายรูป​แบบ อีก​ทั้ง​ผู้​นำ​ศาสนา​บาง​คน​ที่​รู้สึก​เดือดดาล​ซึ่ง​เริ่ม​ขัด​ขวาง​งาน​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ของ​เรา​อย่าง​โจ่งแจ้ง​ที​เดียว. เรา​ต้อง​สู้​อุปสรรค​ใหญ่​กับ​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​คลั่งไคล้​หลง​เรียก​ตัว​เอง​ว่า ม​วา​นา ลี​ซา ซึ่ง​มี​ความหมาย​ว่า “บุตร​ของ​พระเจ้า” และ​กลุ่ม​ของ​เขา​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​ชื่อ​คิทาวาลา น่า​เสียใจ​ที่​คำ​นี้​มี​ความหมาย​ว่า “ว็อชเทาเวอร์.” ช่วง​หนึ่ง​ก่อน​พวก​เรา​ไป​ถึง​ที่​นั่น ชาย​คน​นี้​ได้​กด​คอ​ชาว​แอฟริกา​จม​น้ำ​ตาย​ไป​แล้ว​หลาย​คน โดย​อ้าง​ว่า​เขา​ให้​คน​เหล่า​นั้น​รับ​บัพติสมา. ลง​ท้าย​เขา​ถูก​จับ​และ​ถูก​แขวน​คอ. ภาย​หลัง​ผม​มี​โอกาส​ได้​คุย​กับ​เพชฌฆาต​ที่​แขวน​คอ​ม​วา​นา ลี​ซา ชี้​แจง​ให้​เขา​เข้าใจ​ว่า​นัก​โทษ​คน​นี้​ไม่​มี​อะไร​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์​ของ​เรา.

อนึ่ง เรา​มี​เรื่อง​ยุ่งยาก​กับ​ชาว​ยุโรป​หลาย​คน​ที่​ไม่​สบาย​ใจ​เพราะ​งาน​ให้​ความ​รู้​ของ​เรา ส่วน​ใหญ่​เป็น​เหตุ​ผล​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​เงิน. ผู้​จัด​การ​โรง​เก็บ​สินค้า​คน​หนึ่ง​บ่น​ว่า “เพื่อ​ที่​คน​ผิว​ขาว​จะ​อยู่​ใน​ประเทศ​นี้​ต่อ​ไป​ได้ จะ​ต้อง​ไม่​ให้​คน​แอฟริกา​รู้​ทัน​ว่า​พวก​เขา​ได้​รับ​ค่า​จ้าง​ต่ำ​อย่าง​ไม่​เป็น​ธรรม.” ด้วย​เหตุ​ผล​เดียว​กัน ผู้​จัด​การ​บริษัท​ทำ​เหมือง​ทองคำ​ออก​คำ​สั่ง​เฉียบขาด​ไล่​ผม​ออก​ไป​จาก​ห้อง​ทำ​งาน. เขา​ยัง​คง​กราดเกรี้ยว​และ​คุม​ตัว​ผม​ตลอด​ทาง​กระทั่ง​ถึง​ถนน​ใหญ่.

ไม่​ต้อง​สงสัย อิทธิพล​ส่วน​ใหญ่​มา​จาก​ผู้​ต่อ​ต้าน​ขัด​ขวาง​ซึ่ง​เป็น​ฝ่าย​ศาสนา​และ​การ​ค้า ใน​ที่​สุด​รัฐบาล​โรดีเซีย (ปัจจุบัน​คือ​ซิมบับเว) ได้​สั่ง​ขับ​พวก​เรา​ออก​นอก​ประเทศ. พวก​เรา​ยื่น​อุทธรณ์​ค้าน​คำ​สั่ง​ศาล​ชั้น​ต้น และ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​โดย​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​อยู่​ต่อ แต่​วาง​เงื่อนไข​ห้าม​พวก​เรา​ประกาศ​แก่​คน​แอฟริกา. เจ้าหน้าที่​นาย​หนึ่ง​ให้​เหตุ​ผล​ว่า​หนังสือ​ของ​เรา “ไม่​เหมาะ​กับ​ความ​คิด​ของ​คน​แอฟริกา.” อย่าง​ไร​ก็​ดี ใน​ประเทศ​อื่น​งาน​ของ​เรา​เพื่อ​ให้​ความ​รู้​แก่​ชาว​แอฟริกา​ก็​คง​ดำเนิน​ต่อ​ไป​โดย​ไม่​ถูก​ขัด​ขวาง แถม​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ด้วย​ซ้ำ. หนึ่ง​ใน​ประเทศ​เหล่า​นี้​คือ​สวาซิแลนด์.

กษัตริย์​ให้​การ​ต้อนรับ​สู่​สวาซิแลนด์

สวาซิแลนด์​เป็น​ประเทศ​เล็ก ๆ ปกครอง​ตัว​เอง มี​เนื้อ​ที่ 17,364 ตาราง​กิโลเมตร อยู่​ภาย​ใน​ประเทศ​แอฟริกา​ใต้. ที่​นี่​เรา​ได้​รู้​จัก​กษัตริย์​โซบูซา​ที่ 2 ซึ่ง​พูด​จา​ฉะฉาน ดัง​ได้​กล่าว​ตอน​ต้น​ของ​เรื่อง​นี้. ท่าน​เชี่ยวชาญ​ภาษา​อังกฤษ เนื่อง​จาก​เคย​ศึกษา​ที่​มหาวิทยาลัย​ใน​อังกฤษ. ท่าน​แต่ง​กาย​ไม่​เป็น​ทาง​การ ต้อนรับ​พวก​เรา​ด้วย​อัธยาศัย​ไมตรี​อัน​ดี.

ระหว่าง​การ​สนทนา เรา​เพ่งเล็ง​แต่​เรื่อง​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก ซึ่ง​พระเจ้า​ทรง​มุ่ง​หมาย​จะ​ให้​คน​ที่​มี​ความ​โน้ม​เอียง​อย่าง​ถูก​ต้อง​ได้​อยู่​อาศัย. ถึง​แม้​ไม่​ให้​ความ​สน​พระทัย​ต่อ​เรื่อง​นี้​มาก​นัก แต่​ท่าน​ก็​แสดง​ออก​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ทรง​คำนึง​ถึง​สิ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​ดัง​กล่าว​อย่าง​มาก. กษัตริย์​องค์​นี้​สน​พระทัย​จะ​ปรับ​ปรุง​มาตรฐาน​ความ​เป็น​อยู่​ของ​คน​จน​และ​คน​ที่​ไม่​ได้​เล่า​เรียน​ให้​ดี​ขึ้น. ท่าน​ไม่​ชอบ​การ​ทำ​งาน​ของ​พวก​มิชชันนารี​ของ​คริสต์​ศาสนจักร ซึ่ง​ดู​เหมือน​สนใจ​เพียง​การ​เพิ่ม​จำนวน​สมาชิก​โบสถ์​มาก​กว่า​จะ​ให้​การ​ศึกษา​แก่​ประชาชน. อย่าง​ไร​ก็​ดี กษัตริย์​ทราบ​ดี​เกี่ยว​กับ​กิจกรรม​ที่​ไพโอเนียร์​หลาย​คน​ได้​ทำ​ไป และ​ตรัส​ชม​พวก​เรา​ที่​ดำเนิน​งาน​ให้​ความ​รู้​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​แง่​ที่​พวก​เรา​เต็ม​ใจ​ทำ​งาน​นี้​โดย​ไม่​ได้​เรียก​ร้อง​ค่า​ตอบ​แทน​หรือ​พันธะ​ผูก​มัด​ใด ๆ.

การ​เร่ง​การ​สอน​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เร็ว​ยิ่ง​ขึ้น

การ​ก่อ​ตั้ง​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด​เมื่อ​ปี 1943 ก็​เพื่อ​ฝึก​อบรม​มิชชันนารี. มี​การ​เน้น​ให้​ติด​ตาม​ช่วยเหลือ​เมื่อ​พบ​ผู้​สนใจ​ทุก​ราย และ​ไม่​เพียง​แต่​มุ่ง​จำหน่าย​สรรพหนังสือ​ที่​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล. ปี 1950 ผม​กับ​จอร์จ​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่ 16. ผม​พบ​จีน ไฮด์​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​นี่ เธอ​เป็น​ซิสเตอร์​ที่​ซื่อ​สัตย์​จาก​ออสเตรเลีย และ​ถูก​มอบหมาย​ไป​ทำ​งาน​มิชชันนารี​ที่​ญี่ปุ่น​หลัง​จาก​ที่​เรา​สอง​คน​เรียน​จบ​หลัก​สูตร. เวลา​นั้น การ​ครอง​ตัว​เป็น​โสด​ยัง​เป็น​เรื่อง​ที่​นิยม​กัน ดัง​นั้น มิตรภาพ​ระหว่าง​เรา​จึง​ไม่​ก้าว​หน้า​ไป​ถึง​ไหน.

ภาย​หลัง​การ​ฝึก​อบรม​ที่​กิเลียด ผม​กับ​จอร์จ​ได้​รับ​มอบ​งาน​มิชชันนารี​ไป​ที่​มอริเชียส เกาะ​หนึ่ง​ใน​มหาสมุทร​อินเดีย. เรา​ผูก​มิตร​กับ​ประชาชน, เรียน​ภาษา​ของ​เขา, และ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​เขา​ที่​บ้าน. ต่อ​มา น้อง​ชาย​ผม​คือ​วิลเลียม​พร้อม​ด้วย​ภรรยา​ชื่อ​มิวรีเอล​ก็​สำเร็จ​การ​ศึกษา​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด​เช่น​เดียว​กัน. ทั้ง​สอง​ถูก​ส่ง​ไป​ยัง​เขต​งาน​ที่ผม​เคย​ประกาศ​มา​ก่อน นั่น​คือ​เคนยา.

แปด​ปี​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว ครั้น​แล้ว ณ การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ที่​นคร​นิวยอร์ก ปี 1958 ผม​ได้​พบ​จีน ไฮด์​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. เรา​ฟื้น​มิตรภาพ​ขึ้น​มา​ใหม่​แล้ว​ตก​ลง​หมั้น​กัน. สำหรับ​ผม เขต​งาน​มอบหมาย​งาน​มิชชันนารี​เปลี่ยน​จาก​เกาะ​มอริเชียส​ไป​เป็น​ประเทศ​ญี่ปุ่น แล้ว​จีน​กับ​ผม​ก็​แต่งงาน​กัน​ที่​นั่น​ใน​ปี 1959. เรา​มี​ความ​สุข​มาก​ใน​ช่วง​นั้น​เมื่อ​เรา​เริ่ม​ทำ​งาน​มิชชันนารี​ใน​เมือง​ฮิโรชิมา ซึ่ง​ตอน​นั้น​มี​เพียง​หนึ่ง​ประชาคม​เล็ก ๆ. ปัจจุบัน มี 36 ประชาคม​ใน​เมือง​นั้น.

ซาโยนาระ—อำลา​ญี่ปุ่น

หลาย​ปี​ผ่าน​ไป ปัญหา​ด้าน​สุขภาพ​ของ​เรา​สอง​คน​เริ่ม​ทำ​ให้​งาน​รับใช้​ของ​เรา​ฐานะ​มิชชันนารี​ชัก​จะ​ยาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ และ​ใน​ที่​สุด​เรา​จำ​ต้อง​ลา​จาก​ญี่ปุ่น​และ​ย้าย​ไป​อยู่​ออสเตรเลีย​บ้าน​เกิด​ของ​จีน. วัน​ที่​เรา​ออก​จาก​เมือง​ฮิโรชิมา​นั้น​เป็น​วัน​แสน​เศร้า. ที่​ชานชาลา​สถานี​รถไฟ เรา​ได้​กล่าว​อำลา​มิตร​สหาย​ทุก​คน​ซึ่ง​เป็น​ที่​รัก​ของ​เรา​ด้วย​คำ​ว่า​ซาโยนาระ.

ปัจจุบัน​เรา​มี​หลัก​แหล่ง​อยู่​ใน​ออสเตรเลีย และ​ใช้​ความ​สามารถ​ทุก​อย่าง​ที่​มี​จำกัด​ให้​ดี​ที่​สุด เรา​ยัง​คง​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​กับ​ประชาคม​อาร์​มิ​เดล​ใน​รัฐ​นิวเซาท์เวลส์. นับ​ว่า​เป็น​ความ​ชื่นชม​อย่าง​แท้​จริง​ที่​ได้​แบ่ง​ปัน​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​อัน​มี​ค่า​ยิ่ง​ให้​แก่​ผู้​คน​มาก​หลาย​มา​นาน​เกือบ 80 ปี! ผม​ได้​เห็น​การ​เจริญ​เติบโต​อย่าง​น่า​พิศวง​ด้าน​โครงการ​ให้​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ได้​เป็น​พยาน​รู้​เห็น​เหตุ​การณ์​สำคัญ​ต่าง ๆ ใน​แง่​มุม​ฝ่าย​วิญญาณ​ด้วย​ตัว​เอง. ไม่​มี​คน​ใด​หรือ​หมู่​คณะ​ใด ๆ อาจ​อ้าง​สิทธิ​เรียก​ร้อง​การ​สรรเสริญ​เยินยอ​สำหรับ​ผล​สำเร็จ​เหล่า​นี้. แท้​จริง ขอ​ยืม​ถ้อย​แถลง​ของ​ท่าน​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​มา​กล่าว​ที่​ว่า “นี่​แหละ​เป็น​กิจการ​ของ​พระ​ยะโฮวา; เป็น​การ​อัศจรรย์​ต่อ​ลูก​ตา​ของ​พวก​ข้าพเจ้า.”—บทเพลง​สรรเสริญ 118:23.

[ภาพ​หน้า 28]

จอร์จ​น้อง​ชาย​ผม​กับ​รถ​คัน​ที่​เป็น​บ้าน​ของ​เรา

[ภาพ​หน้า 28]

ผม​เมื่อ​อยู่​ที่​ทะเลสาบ​วิกตอเรีย

[ภาพ​หน้า 29]

นัก​เรียน​ชั้น​มัธยม​ที่​ได้​ฟัง​คำ​บรรยาย​สาธารณะ​ใน​สวาซิแลนด์ ปี 1938

[ภาพ​หน้า 30]

กับ​จีน​ใน​วัน​แต่งงาน​ของ​เรา​ปี 1959 และ​ใน​ปัจจุบัน