ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การให้ที่พระเจ้าพอพระทัย

การให้ที่พระเจ้าพอพระทัย

การ​ให้​ที่​พระเจ้า​พอ​พระทัย

พระ​เยซู​และ​เหล่า​สาวก​ชื่น​ชอบ​การ​รับประทาน​อาหาร​มื้อ​อร่อย​ที่​บ้าน​เบธาเนีย​ร่วม​กับ​เพื่อน​สนิท​หลาย​คน รวม​ทั้ง​มาเรีย, มาธา, และ​ลาซะโร​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ปลุก​ขึ้น​จาก​ตาย​ไม่​นาน​ก่อน​หน้า​นั้น. เมื่อ​มาเรีย​เอา​น้ำมัน​ราคา​แพง​ประมาณ​สาม​ขีด​มา​ชโลม​พระ​บาท​ของ​พระ​เยซู ยูดา​อิศการิโอด​รู้สึก​ขุ่นเคือง​และ​พูด​คัดค้าน​ว่า “เหตุ​ไฉน​จึง​ไม่​ขาย​น้ำมัน​หอม​นั้น​เป็น​เงิน​สาม​ร้อย​เดนาริอน [เท่า​กับ​ค่า​จ้าง​แรงงาน​ประมาณ​หนึ่ง​ปี] แล้ว​แจก​ให้​แก่​คน​จน?” คน​อื่น ๆ ก็​บ่น​คล้าย​กัน​นั้น​ทันที.—โยฮัน 12:1-6, ล.ม.; มาระโก 14:3-5.

อย่าง​ไร​ก็​ดี พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​ว่า “อย่า​ว่า​เขา​เลย. . . . ด้วย​ว่า​คน​ยาก​จน​มี​อยู่​กับ​ท่าน​เป็น​นิตย์, และ​ท่าน​จะ​ทำ​การ​ดี​แก่​เขา​เมื่อ​ไร​ก็​ทำ​ได้ แต่​เรา​จะ​ไม่​อยู่​กับ​ท่าน​เสมอ​ไป.” (มาระโก 14:6-9) ผู้​นำ​ศาสนา​ชาว​ยิว​สอน​ว่า​การ​ให้​ทาน​ไม่​เพียง​เป็น​คุณ​ความ​ดี​เท่า​นั้น แต่​ถึง​กับ​ชดเชย​บาป​ได้. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง พระ​เยซู​ทรง​ทำ​ให้​ชัด​แจ้ง​ว่า​การ​ให้​ที่​พระเจ้า​พอ​พระทัย​มิ​ได้​จำกัด​อยู่​แค่​การ​ให้​ทาน​แก่​คน​จน.

การ​พิจารณา​สั้น ๆ ถึง​ลักษณะ​การ​ให้​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ยุค​แรก​จะ​เน้น​วิธี​ที่​ใช้​ได้​จริง​บาง​อย่าง​ซึ่ง​เรา​สามารถ​แสดง​ความ​ห่วงใย​และ​ด้วย​เหตุ​นี้​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย​การ​ให้​ของ​เรา. นั่น​จะ​บ่ง​บอก​ถึง​การ​ให้​ชนิด​ที่​ดี​กว่า​ซึ่ง​เป็น​ประโยชน์​มาก​ที่​สุด​ด้วย.

‘การ​ทำ​ทาน’

ใน​หลาย​โอกาส พระ​เยซู​ทรง​สนับสนุน​พวก​สาวก​ให้ “ทำ​ทาน.” (ลูกา 12:33) อย่าง​ไร​ก็​ดี พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ให้​ระวัง​การ​แสดง​อย่าง​โอ้อวด​ที่​มุ่ง​หมาย​เพียง​แค่​การ​ยกย่อง​ผู้​ให้​แทน​ที่​จะ​ถวาย​เกียรติ​พระเจ้า. พระองค์​ตรัส​ว่า “เมื่อ​ทำ​ทาน, อย่า​เป่า​แตร​ข้าง​หน้า​ท่าน, เหมือน​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​กระทำ​ใน​ธรรมศาลา​และ​ตาม​ถนน, เพื่อ​จะ​ได้​ความ​สรรเสริญ​จาก​มนุษย์.” (มัดธาย 6:1-4) โดย​นำ​เอา​คำ​แนะ​เตือน​นี้​มา​ใช้ คริสเตียน​ยุค​แรก​จึง​หลีก​เลี่ยง​การ​แสดง​อย่าง​โอ้อวด​แบบ​ผู้​นำ​ที่​เคร่ง​ศาสนา​ใน​สมัย​ของ​เขา​และ​เลือก​ที่​จะ​ช่วย​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ขัดสน​โดย​การ​รับใช้​หรือ​การ​ให้​ทาน​เป็น​ส่วน​ตัว.

ตัว​อย่าง​เช่น ลูกา 8:1-3 บอก​เรา​ว่า​มาเรีย​มัฆดาลา, โยอันนา, ซูซันนา และ​คน​อื่น ๆ ได้​ใช้ “สิ่ง​ของ” ของ​ตน​ใน​การ​ปรนนิบัติ​พระ​เยซู​และ​พวก​อัครสาวก​โดย​ไม่​โอ้อวด. ถึง​แม้​ผู้​ชาย​เหล่า​นี้​มิ​ได้​อัตคัด​ขัดสน แต่​พวก​เขา​ได้​ละ​ทิ้ง​แหล่ง​ราย​ได้​เพื่อ​ทุ่มเท​ความ​พยายาม​ของ​พวก​เขา​เฉพาะ​แต่​ใน​งาน​รับใช้. (มัดธาย 4:18-22; ลูกา 5:27, 28) โดย​การช่วย​คน​เหล่า​นี้​ให้​ทำ​งาน​มอบหมาย​จาก​พระเจ้า​ให้​สำเร็จ​ลุ​ล่วง ที่​แท้​แล้ว ผู้​หญิง​เหล่า​นี้​ได้​ถวาย​เกียรติ​พระเจ้า. และ​พระเจ้า​ทรง​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​โดย​การ​รักษา​บันทึก​เรื่อง​น้ำใจ​เอื้อเฟื้อ​เผื่อแผ่​ด้วย​ความ​เมตตา​ของ​พวก​เธอ​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เพื่อ​คน​รุ่น​ต่อ ๆ ไป​ใน​อนาคต​จะ​อ่าน​ได้.—สุภาษิต 19:17; เฮ็บราย 6:10.

โดระกา​เป็น​หญิง​ใจ​ดี​อีก​คน​หนึ่ง​ที่ “กระทำ​การ​อัน​เป็น​คุณประโยชน์​และ​ให้​ทาน​มา​มาก​แล้ว.” เธอ​ได้​ทำ​เสื้อ​ผ้า​ให้​แม่​ม่าย​ที่​ขัดสน​ใน​เมือง​ยบเป​เมือง​ชาย​ทะเล​ที่​เธอ​อยู่. เรา​ไม่​ทราบ​ว่า เธอ​ออก​เงิน​ค่า​ผ้า​ทั้ง​หมด​เอง หรือ​ว่า​เพียง​แต่​ตัด​เย็บ​ให้​โดย​ไม่​คิด​ค่า​แรง. ถึง​กระนั้น การ​งาน​ที่​ดี​ทำ​ให้​เธอ​เป็น​ที่​รัก​ของ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เธอ​ช่วย​ได้ อีก​ทั้ง​เป็น​ที่​รัก​ของ​พระเจ้า​ผู้​ทรง​ตอบ​แทน​ไมตรี​จิต​ของ​เธอ​ด้วย​ความ​เมตตา.—กิจการ 9:36-41, ฉบับ​แปล​ใหม่.

แรง​กระตุ้น​ที่​เหมาะ​สม​เป็น​สิ่ง​สำคัญ

อะไร​กระตุ้น​บุคคล​เหล่า​นี้​ใน​การ​ให้? ไม่​ใช่​เพียง​แต่​แรง​ผลัก​ดัน​ด้วย​ใจ​เมตตา​ที่​เกิด​จาก​การ​อ้อน​วอน​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​อย่าง​น่า​สงสาร​เท่า​นั้น. พวก​เขา​รู้​สำนึก​เอง​ถึง​ความ​รับผิดชอบ​ทาง​ศีลธรรม​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ทำ​ได้​ใน​แต่​ละ​วัน​เพื่อ​ช่วย​คน​เหล่า​นี้​ที่​ประสบ​ความ​ยาก​จน, ความ​ลำบาก, ความ​เจ็บ​ป่วย, หรือ​ความ​ยุ่งยาก​อื่น ๆ. (สุภาษิต 3:27, 28; ยาโกโบ 2:15, 16) นี่​เป็น​การ​ให้​ชนิด​ที่​พระเจ้า​พอ​พระทัย. เป็น​การ​ให้​ที่​ได้​รับ​แรง​กระตุ้น​จาก​ความ​รัก​อย่าง​สุด​ซึ้ง​ต่อ​พระเจ้า​และ​ความ​ปรารถนา​ที่​จะ​เลียน​แบบ​บุคลิกภาพ​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​เมตตา​และ​เอื้อ​อารี​ของ​พระองค์​เป็น​ประการ​สำคัญ.—มัดธาย 5:44, 45; ยาโกโบ 1:17.

อัครสาวก​โยฮัน​เน้น​แง่​มุม​ที่​สำคัญ​ใน​การ​ให้​นี้​เมื่อ​ท่าน​ถาม​ว่า “คน​ใด​ที่​มี​ทรัพย์​สมบัติ​ใน​โลก​นี้, และ​เห็น​พี่​น้อง​ของ​ตน​ขัดสน, แล้ว​และ​กระทำ​ใจ​แข็ง​กะด้าง​ไม่​สงเคราะห์​เขา, ความ​รัก​ของ​พระเจ้า​จะ​อยู่​ใน​คน​นั้น​อย่าง​ไร​ได้?” (1 โยฮัน 3:17) คำ​ตอบ​นั้น​เห็น​ได้​ชัด. ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​กระตุ้น​ผู้​คน​ให้​มี​ใจ​เอื้อเฟื้อ​เผื่อแผ่. พระเจ้า​ทรง​หยั่ง​รู้​ค่า​และ​ประทาน​บำเหน็จ​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​แสดง​น้ำใจ​เอื้อเฟื้อ​เผื่อแผ่​เหมือน​พระองค์. (สุภาษิต 22:9; 2 โกรินโธ 9:6-11) เรา​เห็น​ความ​เอื้อเฟื้อ​เผื่อแผ่​แบบ​นี้​ใน​ปัจจุบัน​ไหม? ขอ​พิจารณา​สิ่ง​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​ใน​ประชาคม​หนึ่ง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

บ้าน​ของ​สตรี​คริสเตียน​สูง​อายุ​คน​หนึ่ง​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​ซ่อม​ใหญ่. เธอ​อยู่​ตัว​คน​เดียว​และ​ไม่​มี​ครอบครัว​ที่​จะ​ช่วยเหลือ​ดู​แล​เธอ. ตลอด​หลาย​ปี บ้าน​ของ​เธอ​เปิด​อยู่​เสมอ​เพื่อ​จัด​การ​ประชุม​คริสเตียน และ​บ่อย​ครั้ง​เธอ​จะ​ให้​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ยอม​รับ​คำ​เชิญ​มา​ที่​บ้าน​ของ​เธอ ร่วม​รับประทาน​อาหาร​ด้วย​กัน. (กิจการ 16:14, 15, 40) เมื่อ​เห็น​สภาพ​ลำบาก​ของ​เธอ สมาชิก​ของ​ประชาคม​ได้​รวม​ตัว​กัน​เพื่อ​ช่วยเหลือ. บาง​คน​บริจาค​เงิน บาง​คน​สละ​แรง​กาย. ช่วง​สุด​สัปดาห์​สอง​สาม​ครั้ง อาสา​สมัคร​ได้​ปู​หลังคา​ใหม่, ทำ​ห้อง​น้ำ​ใหม่, ฉาบ​ปูน​และ​ทาสี​ชั้น​ล่าง​ทั้ง​หมด, และ​ติด​ตั้ง​ตู้​ใหม่​สำหรับ​ใส่​ของ​ใน​ห้อง​ครัว. การ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ไม่​เพียง​สนอง​ความ​จำเป็น​ของ​สตรี​ผู้​นี้​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ทำ​ให้​ประชาคม​ใกล้​ชิด​กัน​มาก​ขึ้น​และ​ทำ​ให้​เพื่อน​บ้าน​ประทับใจใน​ตัว​อย่าง​ของ​การ​ให้​แบบ​คริสเตียน​แท้​ด้วย.

มี​มาก​มาย​หลาย​วิธี​จริง ๆ ที่​เรา​สามารถ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น. เรา​จะ​ให้​เวลา​แก่​เด็ก​กำพร้า​ได้​ไหม? เรา​จะ​ไป​ซื้อ​ของ​หรือ​เย็บ​ผ้า​ให้​แม่​ม่าย​สูง​อายุ​ที่​เรา​รู้​จัก​ได้​ไหม? เรา​จะ​ทำ​อาหาร​หรือ​ออก​ค่า​ใช้​จ่าย​ให้​แก่​คน​ที่​มี​เงิน​จำกัด​ได้​ไหม? เรา​ไม่​ต้อง​เป็น​คน​ร่ำรวย​เพื่อ​จะ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น. อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “ถ้า​มี​น้ำใจ​พร้อม​อยู่​ก่อน​แล้ว, พระเจ้า​ก็​พอ​พระทัย​ที่​จะ​ทรง​โปรด​รับ​ไว้​ตาม​ซึ่ง​ทุก​คน​มี​อยู่, มิ​ใช่​ตาม​ซึ่ง​เขา​ไม่​มี.” (2 โกรินโธ 8:12) แต่​การ​ให้​โดย​ตรง​เป็น​ส่วน​ตัว​เช่น​นั้น เป็น​การ​ให้​ชนิด​เดียว​ที่​พระเจ้า​จะ​อวย​พระ​พร​ไหม? เปล่า​เลย.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เรื่อง​การ​บรรเทา​ทุกข์​ที่​มี​การ​จัด​ระเบียบ?

บาง​ครั้ง​ความ​พยายาม​เป็น​ส่วน​ตัว​ยัง​ไม่​พอ. ที่​จริง พระ​เยซู​และ​พวก​อัครสาวก​ได้​เก็บ​เงิน​ทุน​รวม​กัน​ไว้​สำหรับ​คน​จน และ​พวก​เขา​ยอม​รับ​เงิน​บริจาค​จาก​ผู้​คน​ที่​ห่วงใย​ซึ่ง​พบ​ใน​การ​ทำ​งาน​ของ​พวก​เขา. (โยฮัน 12:6; 13:29) เช่น​เดียว​กัน ประชาคม​ใน​ศตวรรษ​แรก​ดำเนิน​การ​เรี่ยไร​เมื่อ​เกิด​ความ​จำเป็น​และ​ได้​จัด​ระเบียบ​การ​บรรเทา​ทุกข์​ใน​ขอบ​เขต​ที่​กว้างขวาง​กว่า.—กิจการ 2:44, 45; 6:1-3; 1 ติโมเธียว 5:9, 10.

สภาพการณ์​ดัง​กล่าว​ครั้ง​หนึ่ง​ได้​เกิด​ขึ้น​ราว ๆ ปี ส.ศ. 55. ประชาคม​ต่าง ๆ ใน​แคว้น​ยูเดีย​ได้​ประสบ​ความ​ยาก​จน​ข้นแค้น บาง​ที​เป็น​ผล​มา​จาก​การ​กันดาร​อาหาร​อย่าง​หนัก​ที่​เพิ่ง​เกิด​ขึ้น. (กิจการ 11:27-30) เนื่อง​จาก​ห่วงใย​คน​จน​เสมอ อัครสาวก​เปาโล​ได้​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​ประชาคม​ที่​อยู่​ห่าง​ไกล​ถึง​มาซิโดเนีย. ท่าน​ได้​จัด​การ​เรี่ยไร​ด้วย​ตัว​เอง​และ​ใช้​คน​ที่​ได้​รับ​ความ​เห็น​ชอบ​ให้​นำ​เงิน​นั้น​ไป​ส่ง​ให้. (1 โกรินโธ 16:1-4; ฆะลาเตีย 2:10) ทั้ง​ท่าน​และ​คน​อื่น ๆ ที่​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​ด้วย​ต่าง​ก็​ไม่​ได้​รับ​เงิน​ตอบ​แทน​สำหรับ​การ​รับใช้​เช่น​นั้น.—2 โกรินโธ 8:20, 21.

พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ทุก​วัน​นี้​ก็​พร้อม​จะ​ช่วยเหลือ​ด้วย​เมื่อ​เกิด​ภัย​พิบัติ​ขึ้น. ตัว​อย่าง​เช่น ระหว่าง​ฤดู​ร้อน​ปี 2001 พายุ​ที่​รุนแรง​ได้​ทำ​ให้​เกิด​น้ำ​ท่วม​ใหญ่​ใน​เมือง​ฮุสตัน รัฐ​เทกซัส สหรัฐ​อเมริกา. รวม​ทั้ง​หมด​แล้ว​บ้าน 723 หลัง​ของ​พยาน​ฯ ได้​รับ​ความ​เสียหาย​บาง​ส่วน มี​หลาย​หลัง​ที่​เสียหาย​หนัก. คณะ​กรรมการ​บรรเทา​ทุกข์​ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​ที่​มี​คุณวุฒิ​ได้​ถูก​ตั้ง​ขึ้น​ทันที​เพื่อ​ประเมิน​ความ​จำเป็น​ของ​แต่​ละ​คน และ​เพื่อ​จัด​สรร​เงิน​ทุน​บรรเทา​ทุกข์​ช่วยเหลือ​พยาน​ฯ ใน​ท้องถิ่น​ให้​รับมือ​กับ​สภาพการณ์​และ​ซ่อมแซม​บ้าน​ของ​เขา. อาสา​สมัคร​ที่​เต็ม​ใจ​จาก​ประชาคม​ใกล้​เคียง​ได้​ทำ​งาน​ทั้ง​หมด​นั้น. พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​รู้สึก​หยั่ง​รู้​บุญคุณ​อย่าง​ยิ่ง​ต่อ​การ​ช่วยเหลือ​นั้น จน​ถึง​กับ​เมื่อ​เธอ​ได้​รับ​เงิน​จาก​บริษัท​ประกันภัย​เพื่อ​ชด​ใช้​ค่า​ซ่อมแซม​สำหรับ​บ้าน​ของ​เธอ เธอ​บริจาค​เงิน​นั้น​ให้​กองทุน​บรรเทา​ทุกข์​ทันที​เพื่อ​จะ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น​ที่​มี​ความ​จำเป็น.

แต่​ใน​เรื่อง​การ​กุศล​อย่าง​เป็น​ระบบ เรา​จำเป็น​ต้อง​สุขุม​รอบคอบ​ขณะ​ที่​ประเมิน​ดู​คำ​วิงวอน​ขอ​หลาย​ราย​ที่​เรา​ได้รับ. องค์การ​การ​กุศล​บาง​องค์การ​มี​ค่า​ใช้​จ่าย​สูง​ใน​การ​บริหาร​งาน​หรือ​ใน​การ​จัด​หา​เงิน​ทุน ทำ​ให้​เหลือ​เงิน​เพียง​ส่วน​น้อย​ซึ่ง​รวบ​รวม​มา​เพื่อ​จุด​ประสงค์​ที่​มุ่ง​หมาย​ไว้. สุภาษิต 14:15 (ล.ม.) กล่าว​ว่า “คน​ใด​ที่​ขาด​ประสบการณ์​เชื่อ​คำ​พูด​ทุก​คำ แต่​คน​ฉลาด​พิจารณา​ก้าว​เท้า​ของ​ตน.” ดัง​นั้น นับ​ว่า​เป็น​แนว​ทาง​แห่ง​สติ​ปัญญา​ที่​จะ​ตรวจ​สอบ​ดู​ข้อ​เท็จ​จริง​อย่าง​ถี่ถ้วน.

การ​ให้​ที่​เป็น​ประโยชน์​มาก​ที่​สุด

มี​การ​ให้​ชนิด​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​การ​ให้​เพื่อ​การ​กุศล​เสีย​อีก. พระ​เยซู​ทรง​บอก​เป็น​นัย​ถึง​เรื่อง​นี้​เมื่อ​ผู้​ปกครอง​หนุ่ม​ที่​มั่งคั่ง​คน​หนึ่ง​ถาม​ว่า​เขา​ต้อง​ทำ​ประการ​ใด​เพื่อ​จะ​ได้​ชีวิต​นิรันดร์. พระ​เยซู​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “จง​ไป​ขาย​บรรดา​สิ่ง​ของ​ซึ่ง​ท่าน​มี​อยู่​แจก​จ่าย​ให้​คน​อนาถา. ท่าน​จึง​จะ​มี​ทรัพย์​สมบัติ​ใน​สวรรค์ แล้ว​จง​ตาม​เรา​มา.” (มัดธาย 19:16-22) โปรด​สังเกต​ว่า พระ​เยซู​มิ​ได้​ตรัส​เพียง​แต่​ว่า ‘จง​แจก​จ่าย​ให้​คน​อนาถา​และ​ท่าน​จะ​ได้​ชีวิต.’ แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น พระองค์​ตรัส​เสริม​ว่า “จง​ตาม​เรา​มา [“เป็น​สาวก​ของ​เรา,” ฉบับ​แปล​ใหม่].” กล่าว​อีก​นัย​หนึ่ง ถึง​แม้​กิจกรรม​เพื่อ​การ​กุศล​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​ชมเชย​และ​เป็น​ประโยชน์ การ​เป็น​สาวก​คริสเตียน​เกี่ยว​ข้อง​มาก​กว่า​นั้น.

พระ​เยซู​มี​ความ​สนใจ​ใน​การ​ช่วย​คน​อื่น​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​ประการ​สำคัญ. ไม่​นาน​ก่อน​วาย​พระ​ชนม์ พระองค์​ตรัส​แก่​ปีลาต​ว่า “เพราะ​เหตุ​นี้​เรา​จึง​บังเกิด​มา​และ​เข้า​มา​ใน​โลก เพื่อ​เรา​จะ​เป็น​พยาน​ถึง​ความ​จริง.” (โยฮัน 18:37) ถึง​แม้​นำ​หน้า​ใน​การ​ช่วยเหลือ​คน​จน, รักษา​คน​ป่วย, และ​เลี้ยง​อาหาร​คน​ที่​หิว​โหย แต่​พระ​เยซู​ทรง​ฝึก​อบรม​เหล่า​สาวก​ให้​ประกาศ​เป็น​ประการ​สำคัญ. (มัดธาย 10:7, 8) ที่​จริง ใน​บรรดา​คำ​สั่ง​สุด​ท้าย​ที่​พระองค์​ตรัส​แก่​พวก​เขา​คือ​พระ​บัญชา​ที่​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น จง​ไป​และ​ทำ​ให้​ชน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก.”—มัดธาย 28:19, 20, ล.ม.

แน่นอน การ​ประกาศ​จะ​ไม่​แก้​ปัญหา​ทั้ง​สิ้น​ของ​โลก. กระนั้น การ​แบ่ง​ปัน​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ให้​แก่​คน​ทุก​ชนิด​เป็น​การ​ถวาย​เกียรติ​พระเจ้า เพราะ​การ​ประกาศ​ทำ​ให้​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​บรรลุ​ผล​สำเร็จ​และ​เปิด​ทาง​สู่​ผล​ประโยชน์​นิรันดร์​สำหรับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ยอม​รับ​ข่าวสาร​ของ​พระเจ้า. (โยฮัน 17:3; 1 ติโมเธียว 2:3, 4) ลอง​ฟัง​สิ่ง​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​พูด​ใน​คราว​ต่อ​ไป​ที่​พวก​เขา​มา​เยี่ยม​คุณ​สิ. พวก​เขา​นำ​ของ​ประทาน​ฝ่าย​วิญญาณ​มา​ด้วย. และ​พวก​เขา​ทราบ​ว่า​นี่​เป็น​วิธี​ดี​ที่​สุด​ที่​เขา​จะ​ให้​คุณ​ได้.

[ภาพ​หน้า 6]

มี​หลาย​วิธี​ที่​จะ​แสดง​ว่า​เรา​ห่วงใย

[ภาพ​หน้า 7]

การ​ที่​เรา​เผยแพร่​ข่าว​ดี​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย​และ​เปิด​ทาง​สู่​ผล​ประโยชน์​นิรันดร์