ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“โอวาทของคนมีปัญญา” เป็นเหมือนน้ำพุแห่งชีวิต

“โอวาทของคนมีปัญญา” เป็นเหมือนน้ำพุแห่งชีวิต

“โอวาท​ของ​คน​มี​ปัญญา” เป็น​เหมือน​น้ำพุ​แห่ง​ชีวิต

อัครสาวก​เปาโล​เปล่ง​วาจา​ดัง​นี้: “โอ้ ความ​ล้ำ​ลึก​แห่ง​ความ​มั่งคั่ง​และ​พระ​ปัญญา​อีก​ทั้ง​ความ​รู้​ของ​พระเจ้า! คำ​พิพากษา​ของ​พระองค์​เหลือ​กำลัง​ที่​จะ​สืบ​ค้น​ได้​และ​พระ​มรรคา​ของ​พระองค์​ก็​เหลือ​วิสัย​จะ​สืบ​เสาะ​ได้​จริง ๆ!” (โรม 11:33, ล.ม.) และ​โยบ​ปฐม​บรรพบุรุษ​ผู้​ซื่อ​สัตย์​กล่าว​ว่า “[พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า] มี​พระทัย​ประกอบ​ด้วย​สติ​ปัญญา.” (โยบ 9:4, ล.ม.) ใช่​แล้ว พระ​ผู้​สร้าง​ฟ้า​สวรรค์​และ​แผ่นดิน​โลก​ทรง​มี​สติ​ปัญญา​อย่าง​ไม่​มี​ที่​เปรียบ. อาจ​กล่าว​ได้​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​กฎหมาย​หรือ​พระ​คำ​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​องค์​นี้​ที่​มี​จารึก​ไว้?

ท่าน​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ร้อง​เพลง​ดัง​นี้: “กฎหมาย​ของ​พระ​ยะโฮวา​สมบูรณ์ เป็น​ที่​ให้​จิตวิญญาณ​ฟื้น​ตื่น​ขึ้น. ข้อ​เตือน​ใจ​ของ​พระ​ยะโฮวา​วางใจ​ได้ ทำ​ให้​ผู้​ที่​ขาด​ประสบการณ์​มี​ปัญญา. คำ​สั่ง​ของ​พระ​ยะโฮวา​นั้น​เที่ยง​ตรง ทำ​ให้​หัวใจ​ชื่น​บาน; พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​ยะโฮวา​สะอาด ทำ​ให้​ดวง​ตา​สุก​ใส.” (บทเพลง​สรรเสริญ 19:7, 8, ล.ม.) ซะโลโม​กษัตริย์​ชาติ​อิสราเอล​สมัย​โบราณ​คง​ต้อง​หยั่ง​รู้​เข้าใจ​ความ​จริง​แห่ง​ถ้อย​คำ​เหล่า​นั้น​สัก​ปาน​ใด! ท่าน​แถลง​ว่า “โอวาท​ของ​คน​มี​ปัญญา​เป็น​เหมือน​น้ำพุ​แห่ง​ชีวิต; เพื่อ​คน​จะ​ได้​หนี​จาก​เครื่อง​ดัก​แห่ง​ความ​ตาย.” (สุภาษิต 13:14) จาก 13 ข้อ​แรก​ใน​สุภาษิต​บท 13 นี้ ซะโลโม​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คำ​แนะ​นำ​ที่​เรา​ได้​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สามารถ​ช่วย​เรา​ปรับ​ปรุง​คุณภาพ​ชีวิต​และ​หลีก​เลี่ยง​การ​นำ​ชีวิต​เข้า​สู่​อันตราย.

จง​เป็น​คน​รับ​คำ​สั่ง​สอน​ได้

สุภาษิต 13:1 บอก​ดัง​นี้: “บุตร​ที่​มี​ปัญญา​ย่อม​ฟัง​คำ​สั่ง​สอน​บิดา​ของ​ตน, แต่​คน​ประมาท​เยาะเย้ย​ย่อม​ไม่​ฟัง​คำ​ต่อ​ว่า​ตักเตือน.” การ​ว่า​กล่าว​ของ​บิดา​อาจ​อ่อนโยน​หรือ​เข้มงวด​ก็​ได้. อาจ​เป็น​ลักษณะ​การ​อบรม​สั่ง​สอน​ก่อน และ​หาก​ยัง​ดื้อ​รั้น ใน​ที่​สุด​ก็​ต้อง​ลง​โทษ. บุตร​เป็น​คน​มี​ปัญญา​เมื่อ​เขา​รับ​เอา​การ​ตี​สอน​จาก​บิดา.

คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ดัง​นี้: “พระ​ยะโฮวา​รัก​ผู้​ใด พระองค์​ทรง​ตี​สอน​ผู้​นั้น” และ “พระองค์​ทรง​เฆี่ยน​ตี​ทุก​คน​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​รับ​เอา​เป็น​บุตร.” (เฮ็บราย 12:6, ล.ม.) วิธี​หนึ่ง​ที่​พระ​บิดา​ฝ่าย​สวรรค์​ทรง​ตี​สอน​เรา​คือ​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ที่​เป็น​ลายลักษณ์​อักษร. เมื่อ​เรา​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ด้วย​ใจ​ยำเกรง และ​ตอบรับ​ความ​รู้​ที่​เรียน​จาก​ที่​นั่น พระ​คำ​ของ​พระองค์​ก็​ได้​ว่า​กล่าว​และ​ตี​สอน​เรา​อย่าง​แท้​จริง. ทั้ง​นี้​เพื่อ​ผล​ประโยชน์​ของ​เรา เพราะ​ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ตรัส​ล้วน​ให้​คุณประโยชน์​แก่​เรา​ทั้ง​นั้น.—ยะซายา 48:17.

นอก​จาก​นั้น เรา​อาจ​ได้​รับ​การ​ตี​สอน​โดย​การ​แก้ไข​จาก​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ซึ่ง​สนใจ​สวัสดิภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา. คำ​แนะ​นำ​ใด ๆ ก็​ตาม​อัน​เป็น​ประโยชน์​ซึ่ง​สอดคล้อง​กับ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​นั้น​อาจ​ถือ​ว่า​ไม่​ได้​มา​จาก​คน​คน​นั้น แต่​มา​จาก​พระเจ้า​ผู้​เป็น​บ่อ​เกิด​แห่ง​ความ​จริง​องค์​ยิ่ง​ใหญ่. นับ​ว่า​สุขุม​ที่​เรา​จะ​รับ​เอา​คำ​แนะ​นำ​นั้น​เสมือน​เป็น​มา​แต่​พระ​ยะโฮวา. เมื่อ​เรา​ทำ​เช่น​นั้น​และ​ยอม​ให้​คำ​แนะ​นำ​นั้น​โน้ม​นำ​ความ​คิด​ของ​เรา, ปรับ​ปรุง​ความ​เข้าใจ​ด้าน​พระ​คัมภีร์, และ​แก้ไข​แนว​ทาง​ของ​เรา เรา​ก็​กำลัง​รับ​เอา​ประโยชน์​จาก​การ​ตี​สอน. เป็น​จริง​เช่น​เดียว​กัน​เมื่อ​เรา​รับ​คำ​แนะ​นำ ณ การ​ประชุม​คริสเตียน และ​จาก​หนังสือ​ที่​ยึด​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก. การ​ตอบรับ​สิ่ง​ที่​เรา​เรียน​รู้​โดย​ทาง​ถ้อย​คำ​ที่​เป็นลายลักษณ์​อักษร​ดัง​กล่าว​หรือ​จาก​คำ​พูด ล้วน​เป็น​รูป​แบบ​การ​ตี​สอน​ตัว​เอง​ที่​ดี​เยี่ยม.

ใน​ทาง​กลับ​กัน คน​ช่าง​เย้ย​ไม่​ตอบรับ​การ​ตี​สอน. อย่าง​ที่​หนังสือ​อ้างอิง​เล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า “เพราะ​เขา​คิด​ว่า​เขา​รู้​ดี​ที่​สุด” เขา​จึง “ไม่​ใช่​คน​ที่​จะ​รับ​การ​สั่ง​สอน​ได้.” เขา​ไม่​ตอบรับ​แม้​กระทั่ง​การ​ต่อ​ว่า​ตักเตือน—ซึ่ง​เป็น​ลักษณะ​การ​ตี​สอน​ที่​รุนแรง​กว่า. แต่​เขา​จะ​สามารถ​ยืน​ยัน​ได้​ไหม​ว่า​การ​ตี​สอน​จาก​พระ​บิดา​นั้น​ไม่​เหมาะ? พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​ผิด​พลาด และ​ไม่​มี​วัน​ที่​พระองค์​จะ​ผิด​พลาด. เนื่อง​จาก​ไม่​ยอม​รับ​การ​ตี​สอน คน​ช่าง​เย้ย​ก็​มี​แต่​ทำ​ตัว​เอง​ให้​เป็น​ที่​น่า​หัวเราะ​เยาะ. ด้วย​ถ้อย​คำ​ไม่​กี่​คำ ซะโลโม​แสดง​ให้​เห็น​ความ​เชี่ยวชาญ​เสีย​นี่​กระไร​เกี่ยว​ด้วย​คุณค่า​ของ​บุคคล​ที่​สามารถ​รับ​เอา​การ​สั่ง​สอน​ได้!

จง​ระวัง​ลิ้น​ของ​คุณ!

เพื่อ​ชี้​ให้​เห็น​ความ​สำคัญ​ว่า​ด้วย​การ​พูด​ของ​เรา​พึง​มี​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ชี้​นำ​นั้น กษัตริย์​ของ​ชาติ​อิสราเอล​จึง​เทียบ​ปาก​ประหนึ่ง​เป็น​ต้น​ไม้​ที่​ให้​ผล. ท่าน​กล่าว​ดัง​นี้: “บุคคล​จะ​ได้​ของ​ดี [“กิน​ของ​ดี,” ฉบับ​แปล​ใหม่] สม​กับ​ผล​อัน​เกิด​จาก​ปาก​ของ​ตน; แต่​จิตต์​ใจ​ของ​คน​เจ้า​เล่ห์​จะ​ได้​แต่​ความ​โหด​ร้าย.” (สุภาษิต 13:2) คำ​พูด​คือ​ผล​ที่​ออก​มา​จาก​ปาก. และ​คน​เรา​เก็บ​ผล​จาก​สิ่ง​ที่​เขา​หว่าน​ลง​ไป​โดย​คำ​พูด​ของ​เขา. ผู้​คง​แก่​เรียน​คน​หนึ่ง​พูด​ว่า “ถ้า​คำ​พูด​ของ​เขา​มี​แนว​โน้ม​ไป​ใน​ทาง​กรุณา​และ​มุ่ง​สร้าง​มิตรภาพ​กับ​เพื่อน​บ้าน เขา​จะ​กิน​ของ​ดี คือ​ดำรง​ชีวิต​อย่าง​มี​ความ​สุข​และ​สงบ.” แต่​สภาพการณ์​ต่าง​กัน​กับ​คน​เจ้า​เล่ห์. คน​เจ้า​เล่ห์​ประสงค์​จะ​ก่อ​ความ​รุนแรง​และ​ทำ​ร้าย​ผู้​อื่น. เขา​วาง​แผน​ทำ​การ​โหด​ร้าย และ​เขา​เอง​จะ​ได้​รับ​ผล​สืบ​เนื่อง​ที่​โหด​ร้าย. เครื่อง​ดัก​แห่ง​ความ​ตาย​อยู่​ที่​บันได​หน้า​ประตู​บ้าน​ของ​เขา.

ซะโลโม​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า “บุคคล​ผู้​ระวัง​ปาก​ของ​ตน​ก็​รักษา​ป้องกัน​ชีวิต​ของ​ตน​ไว้; แต่​บุคคล​ผู้​เปิด​ริมฝีปาก​ของ​ตน​ออก​กว้าง​จะ​ได้​ความ​หายนะ.” (สุภาษิต 13:3) การ​เสื่อม​เสีย​ชื่อเสียง, ความ​เจ็บใจ, ความ​สัมพันธ์​ที่​ตึงเครียด, และ​กระทั่ง​การ​ทำ​ร้าย​ร่าง​กาย เหล่า​นี้​ล้วน​เป็น​ผล​ที่​อาจ​เกิด​จาก​คำ​พูด​โง่ ๆ ที่​พูด​โดย​ไม่​ตริตรอง. ปาก​พูด​พล่อย​ก็​ไม่​เป็น​ที่​พอ​พระทัย​พระเจ้า​เช่น​กัน เพราะ​พระเจ้า​ทรง​ถือ​ว่า​ทุก​คน​ต้อง​ให้​การ​เกี่ยว​กับ​คำ​พูด​ของ​ตน​เอง. (มัดธาย 12:36, 37) เป็น​ความ​จริง การ​ระมัดระวัง​ไม่​พูด​พล่อย​ย่อม​ป้องกัน​เรา​พ้น​ความ​หายนะ. แต่​เรา​จะ​เรียน​รู้​อย่าง​ไร​เพื่อ​ระวัง​ปาก​ของ​เรา?

วิธี​ง่าย ๆ วิธี​หนึ่ง​คือ​ไม่​พูด​มาก​เกิน​สม​ควร. ดัง​ที่​พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า “การ​พูด​มาก​มัก​มี​ความ​ผิด.” (สุภาษิต 10:19) อีก​วิธี​หนึ่ง​คือ​คิด​ก่อน​พูด. ผู้​เขียน​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​แถลง​ดัง​นี้: “คำ​พูด​พล่อย ๆ ของ​คน​บาง​จำพวก​เหมือน​การ​แทง​ของ​กระบี่.” (สุภาษิต 12:18) หาก​พูด​โดย​ไม่​ได้​คิด​ก่อน ทั้ง​คน​พูด​และ​คน​ฟัง​อาจ​เสียใจ​หรือ​เจ็บใจ​ก็​ได้. ด้วย​เหตุ​นี้ คัมภีร์​ไบเบิล​จึง​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ใช้​ได้​จริง​แก่​เรา​ที่​ว่า “ใจ​ของ​คน​ชอบธรรม​ตรึกตรอง ก่อน​แล้ว​จึง​ตอบ.”—สุภาษิต 15:28.

จง​ขยัน

ซะโลโม​แถลง​ว่า “จิตต์​ใจ​ของ​คน​เกียจ​คร้าน​มัก​อยาก​ได้ แต่​ไม่​ได้​อะไร​เลย; ส่วน​จิตต์​ใจ​ของ​ผู้​ขยัน​จะ​อ้วน​ท้วน.” (สุภาษิต 13:4) หนังสือ​อ้างอิง​เล่ม​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “จุด​สำคัญ [ของ​ภาษิต​ข้อ​นี้] คือ​แค่​นึก​อยาก​ได้​ย่อม​ไม่​มี​ทาง​จะ​ได้​สิ่ง​ใด​เลย” และ “ความ​ขยัน​หมั่น​เพียร​เป็น​สิ่ง​ที่​มี​คุณค่า​อย่าง​แท้​จริง. คน​เกียจ​คร้าน​เป็น​เหยื่อ​ของ​ความ​อยาก​ได้ . . . ซึ่ง​เผา​ผลาญ​เขา และ​คน​เกียจ​คร้าน​ไม่​มี​ผล​งาน​ของ​ตัว​เอง​ออก​มา​อวด.” อย่าง​ไร​ก็​ดี จิตวิญญาณ​หรือ​ความ​ปรารถนา​ของ​คน​ขยัน​ย่อม​ได้​สม​ใจ​กล่าว​คือ​อ้วน​ท้วน.

แล้ว​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ลังเล​ไม่​ได้​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ต้องการ​เลี่ยง​ความ​รับผิดชอบ? คน​ประเภท​นี้​อาจ​แสดง​ตัว​อยาก​อยู่​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า แต่​เขา​เต็ม​ใจ​จะ​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​ใน​เรื่อง​นี้​ไหม? สำหรับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่ “ออก​มา​จาก​ความ​ทุกข์​ลำบากครั้ง​ใหญ่” มี​ข้อ​เรียก​ร้อง​ให้​เขา​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​เครื่อง​บูชา​ไถ่​ของ​พระ​เยซู, อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา, และ​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​โดย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ.—วิวรณ์ 7:14, 15, ล.ม.

อนึ่ง จง​ใคร่ครวญ​ใน​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​บากบั่น​เพื่อ​จะ​ได้​ตำแหน่ง​ผู้​ดู​แล​ประชาคม​ด้วย. ความ​ปรารถนา​จะ​บรรลุ​ซึ่ง​การ​งาน​อัน​ดี​เช่น​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​ยกย่อง​อย่าง​แท้​จริง และ​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​จาก​พระ​คัมภีร์. (1 ติโมเธียว 3:1, ล.ม.) อย่าง​ไร​ก็​ตาม เพียง​แต่​แสดง​ความ​ปรารถนา​เท่า​นั้น​ไม่​พอ. ที่​จะ​มี​คุณวุฒิ​เหมาะ​กับ​ตำแหน่ง​ก็​ต้อง​ปลูกฝัง​คุณสมบัติ​และ​พัฒนา​ความ​สามารถ​หลาย​ประการ​ที่​จำเป็น. ข้อ​นี้​เรียก​ร้อง​ให้​พยายาม​ขยัน​หมั่น​เพียร​เป็น​ส่วน​ตัว.

ความ​ชอบธรรม—เป็น​เครื่อง​คุ้มครอง

คน​ชอบธรรม​ปลูกฝัง​คุณสมบัติ​ซึ่ง​แสดง​ความ​เลื่อมใส​พระเจ้า​และ​พูด​ความ​จริง. เขา​ตระหนัก​ว่า​การ​โกหก​เป็น​การ​ละเมิด​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า. (สุภาษิต 6:16-19; โกโลซาย 3:9) ใน​เรื่อง​นี้ ซะโลโม​แถลง​ว่า “คน​ชอบธรรม​ชัง​มุสาวาท; แต่​คน​ชั่ว​นั้น​เป็น​เหตุ​ให้​เกิด​การ​น่า​เกลียด​และ​น่า​ละอาย.” (สุภาษิต 13:5) ผู้​ชอบธรรม​ไม่​เพียง​แต่​งด​เว้น​การ​โกหก จริง ๆ แล้ว เขา​เกลียด​การ​พูด​เท็จ​ทุก​รูป​แบบ. เขา​รู้​ว่า​แม้​ดู​เหมือน​ไม่​มี​เจตนา​ร้าย ทว่า​การ​โกหก​มัก​ทำลาย​ความ​สัมพันธ์​อัน​ดี​กับ​เพื่อน​มนุษย์. นอก​จาก​นั้น ความ​น่า​เชื่อถือ​ที่​เคย​มี​ต่อ​คน​ที่​โกหก​ก็​พลอย​หมด​ไป. คน​ชั่ว​ประพฤติ​ตน​อย่าง​น่า​ละอาย ไม่​ว่า​ด้วย​การ​พูด​เท็จ​หรือ​ใช้​วิธี​การ​บาง​อย่าง และ​ด้วย​เหตุ​นี้ เขา​นำ​ความ​เสื่อม​เสีย​มา​สู่​ตัว​เอง.

เพื่อ​แสดง​ว่า​การ​ทำ​สิ่ง​ถูก​ต้อง​ใน​สาย​พระ​เนตร​พระเจ้า​เป็น​คุณประโยชน์​อย่าง​ไร​นั้น กษัตริย์​ผู้​ทรง​ปัญญา​สุขุม​ตรัส​ดัง​นี้: “ความ​ชอบธรรม​คุ้มครอง​บุคคล​ผู้​เดิน​แน่วแน่​อยู่​ใน​ทาง​นั้น; แต่​ความ​ชั่ว​ล้าง​ผลาญ​คน​บาป​เสีย.” (สุภาษิต 13:6) ความ​ชอบธรรม​เปรียบ​เหมือน​ป้อม​ปราการ​ที่​ให้​การ​คุ้มครอง​คน​เรา ใน​ขณะ​ที่​ความ​ชั่ว​ร้าย​ยัง​ความ​เสียหาย​แก่​เขา.

อย่า​เสแสร้ง

กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​ให้​ข้อ​สังเกต​ซึ่ง​แสดง​ว่า​ท่าน​เข้าใจ​ลักษณะ​นิสัย​ของ​มนุษย์ เมื่อ​ตรัส​ดัง​นี้: “มี​ลาง​คน​ทำที​ว่า​ตน​มั่งคั่ง, แต่​ก็​ยัง​ไม่​มี​อะไร​เลย; มี​ลาง​คน​ทำที​ว่า​ยาก​จน, แต่​ก็​ยัง​มี​ทรัพย์​มาก​หลาย.” (สุภาษิต 13:7) คน​เรา​อาจ​ไม่​เป็น​อย่าง​ที่​เห็น. คน​ยาก​จน​บาง​คน​อาจ​ทำที​ว่า​ตน​มั่งมี—บาง​ที​เพื่อ​โอ้อวด ทำ​ให้​คน​อื่น​คิด​ว่า​ตน​ได้​รับ​ความ​สำเร็จ หรือ​เพียง​เพื่อ​จะ​รักษา​หน้า. ส่วน​คน​รวย​อาจ​แสร้ง​ทำ​ตัว​ยาก​จน​เพียง​เพื่อ​ปก​ปิด​ความ​มั่งคั่ง​ของ​ตน.

ไม่​ว่า​การ​โอ้อวด​หรือ​การ​ปิด​บัง​อำพราง ล้วน​ไม่​ดี​ทั้ง​นั้น. หาก​ฐานะ​ทาง​การ​เงิน​ของ​เรา​ไม่​ดี การ​ใช้​เงิน​ซื้อ​สิ่ง​ฟุ่มเฟือย​เพียง​เพื่อ​อวด​ร่ำ​อวด​รวย อาจ​เป็น​เหตุ​ให้​ตัว​เอง​และ​ครอบครัว​ขาด​สิ่ง​จำเป็น​ใน​ชีวิต. และ​คน​ที่​แสร้ง​ทำ​ตัว​ยาก​จน​ทั้ง ๆ ที่​ร่ำรวย​ก็​อาจ​ทำ​ให้​ผู้​นั้น​กลาย​เป็น​คน​ใจ​แคบ, เห็น​แก่​ตัว, ขาด​ความ​นับถือ​ตัว​เอง​ที่​พึง​มี, และ​ขาด​ความ​สุข​เนื่อง​จาก​ไม่​มี​น้ำใจ​เอื้อเฟื้อ. (กิจการ 20:35) การ​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​ซื่อ​ตรง​จะ​ยัง​ผล​ให้​การ​ดำรง​ชีวิต​ดี​ขึ้น.

ให้​ความ​ปรารถนา​เป็น​แบบ​เรียบ​ง่าย

ซะโลโม​กล่าว​ดัง​นี้: “ค่า​ไถ่​แห่ง​ชีวิต​คน ๆ หนึ่ง​ก็​คือ​ทรัพย์​สิน​ของ​เขา; แต่​คน​จน​ไม่​แยแส​ต่อ​คำ​ขู่​กรรโชก​ใด ๆ.” (สุภาษิต 13:8) คำ​กล่าว​อย่าง​สุขุม​นี้​ถ่ายทอด​บทเรียน​อะไร?

การ​ร่ำรวย​มี​ข้อ​ได้​เปรียบ​หลาย​ประการ แต่​นั่น​ไม่​ได้​รับประกัน​ความ​สุข​แท้​เสมอ​ไป. การ​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สมัย​ที่​ยาก​ลำบาก บ่อย​ครั้ง​คน​รวย​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​กับ​ครอบครัว​ตก​อยู่​ใน​อันตราย​ที่​จะ​ถูก​ลัก​พา​ตัว​ไป​เรียก​ค่า​ไถ่. บาง​ครั้ง เศรษฐี​สามารถ​จ่าย​เงิน​ไถ่​ชีวิต​ของ​ตน​หรือ​คน​ใน​ครอบครัว. แต่​ก็​ปรากฏ​เนือง ๆ ว่า​คน​ที่​ถูก​ลัก​พา​ตัว​เรียก​ค่า​ไถ่​ถูก​ฆ่า. การ​คุกคาม​ดัง​กล่าว​ทำ​ให้​คน​ร่ำรวย​หวาด​กลัว.

คน​ที่​มี​ราย​ได้​น้อย​ไม่​ต้อง​วิตก​กังวล​ใน​เรื่อง​นี้. แม้​เขา​อาจ​ขาด​สิ่ง​อำนวย​ความ​สะดวก​สบาย​หลาย​อย่าง​และ​ไม่​มี​สิ่ง​ฝ่าย​วัตถุ​มาก​เหมือน​คน​รวย แต่​โอกาส​ที่​เขา​จะ​ตก​เป็น​เป้า​ถูก​ลัก​พา​ตัว​ไป​เรียก​ค่า​ไถ่​มี​น้อย​มาก. นี่​เป็น​ข้อ​ได้​เปรียบ​อีก​ข้อ​หนึ่ง​ของ​การ​ทำ​ให้​ความ​ต้องการ​ของ​เรา​เป็น​แบบ​เรียบ​ง่าย​และ​ไม่​สิ้น​เปลือง​เวลา รวม​ทั้ง​พลัง​ของ​เรา​ใน​การ​แสวง​ความ​มั่งคั่ง.—2 ติโมเธียว 2:4.

ชื่นชม​ใน ‘ความ​สว่าง’

ซะโลโม​ชี้​ให้​เห็น​อีก​ด้วย​ว่า​การ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา​เอื้อ​ประโยชน์​แก่​เรา​มาก​ที่​สุด. ท่าน​แถลง​ว่า “สว่าง​ของ​คน​ชอบธรรม​นั้น​รุ่ง​โรจน์; แต่​ตะเกียง​ของ​คน​ชั่ว​จะ​ดับ​เสีย.”สุภาษิต 13:9.

ตะเกียง​เป็น​สัญลักษณ์​แทน​สิ่ง​ซึ่ง​เรา​พึ่ง​เป็น​แสง​สว่าง​ส่อง​ทาง​ชีวิต​ของ​เรา. ‘พระ​วจนะ​ของ​พระเจ้า​เป็น​โคม​สำหรับ​เท้า​ของ​คน​ชอบธรรม​และ​เป็น​แสง​สว่าง​ตาม​ทาง​ของ​เขา.’ (บทเพลง​สรรเสริญ 119:105) พระ​วจนะ​นั้น​บรรจุ​ความ​รู้​และ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​ซึ่ง​มี​มาก​เหลือ​ล้น. ยิ่ง​เรา​ปรับ​ปรุง​ความ​เข้าใจ​ใน​เรื่อง​พระทัย​ประสงค์​และ​ความ​มุ่ง​หมาย​ของ​พระเจ้า​มาก​เท่า​ใด ความ​สว่าง​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​นำ​ทาง​เรา​ก็​ยิ่ง​เจิดจ้า​ชัดเจน​มาก​ขึ้น​เท่า​นั้น. ช่าง​เป็น​แหล่ง​แห่ง​ความ​ชื่นชม​ยินดี​อะไร​เช่น​นั้น! ทำไม​จะ​ยอม​ให้​สติ​ปัญญา​ของ​โลก​หรือ​สิ่ง​ที่ “เรียก​กัน​ผิด ๆ ว่า ‘ความ​รู้’” มา​ชัก​พา​ให้​เรา​เขว​ไป​เสีย​เล่า?—1 ติโมเธียว 6:20, ล.ม.; 1 โกรินโธ 1:20; โกโลซาย 2:8.

ส่วน​คน​ชั่ว​นั้น ไม่​ว่า​ตะเกียง​ของ​เขา​ดู​เหมือน​ส่อง​แสง​เจิดจ้า​และ​เขา​เจริญ​มั่งคั่ง​สัก​เพียง​ใด แสง​ตะเกียง​ของ​เขา​จะ​ดับ​แน่. เขา​จะ​ถึง​กาล​อัน​มืดมน ซึ่ง​เท้า​ของ​เขา​จะ​สะดุด​และ​ล้ม​ลง. ยิ่ง​กว่า​นั้น เขา “ไม่​มี​หวัง​ใน​ภาย​หน้า.”—สุภาษิต 24:20.

แต่​เรา​พึง​ทำ​ประการ​ใด​เมื่อ​ไม่​แน่​ใจ​ว่า​ควร​ทำ​อย่าง​ไร​ดี​ภาย​ใต้​สภาพการณ์​อย่าง​หนึ่ง​อย่าง​ใด? จะ​ว่า​อย่าง​ไร​หาก​เรา​ไม่​แน่​ใจ​ว่า​มี​สิทธิ​อำนาจ​จัด​การ​หรือ​ไม่? สุภาษิต 13:10 (ล.ม.) เตือน​ว่า “เมื่อ​กระทำ​โดย​พลการ เขา​ย่อม​ก่อ​การ​โต้​เถียง.” การ​กระทำ​อย่าง​ขาด​ความ​รู้​หรือ​นอก​เหนือ​อำนาจ​ของ​เรา​ถือ​ว่า​เป็น​การ​ทำ​โดย​พลการ และ​คง​จะ​เกิด​ปัญหา​กับ​คน​อื่น. น่า​จะ​ดี​กว่า​มิ​ใช่​หรือถ้า​ปรึกษา​บาง​คน​ซึ่ง​มี​ความ​รู้​และ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ? กษัตริย์​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ตรัส​ว่า “ปัญญา​อยู่​กับ​คน​ที่​ปรึกษา​หารือ​กัน.”

ระวัง​ความ​คาด​หมาย​อย่าง​ผิด ๆ

เงิน​อาจ​ถูก​ใช้​เพื่อ​วัตถุ​ประสงค์​อัน​เป็น​ประโยชน์. สภาพ​การ​เงิน​ที่​พอ​ใช้​จ่าย​ย่อม​ดี​กว่า​ความ​เป็น​อยู่​อย่าง​แร้นแค้น​หรือ​ยาก​จน. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 7:11, 12) อย่าง​ไร​ก็​ดี ความ​มั่งคั่ง​ที่​ได้​มา​โดย​มิ​ชอบ ซึ่ง​อำนวย​สิ่ง​ที่​เรา​คิด​ว่า​เป็น​ประโยชน์​นั้น​อาจ​เป็น​สิ่ง​ลวง​ตา. ซะโลโม​เตือน​ดัง​นี้: “ทรัพย์​สมบัติ​ที่​ได้​มา​เปล่า ๆ จะ​ร่อยหรอ​หมด​ไป, แต่​บุคคล​ผู้​สะสม​ไว้​ด้วย​น้ำ​พัก​น้ำ​แรง​จะ​มี​มาก​ขึ้น.”สุภาษิต 13:11.

ยก​ตัว​อย่าง ขอ​พิจารณา​การ​เล่น​พนัน​ที่​ล่อ​ใจ. นัก​พนัน​อาจ​เอา​เงิน​ที่​ตน​หา​มา​ด้วย​ความ​ยาก​ลำบาก​ไป​เล่น​โดย​หวัง​ได้​เงิน​ก้อน​โต. แต่​การ​ทำ​เช่น​นี้​บ่อย​ครั้ง​เป็น​การ​เอา​เงิน​ค่า​ใช้​จ่าย​ของ​ครอบครัว​ไป​เล่น! และ​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​นัก​พนัน​เล่น​ได้​เงิน? เนื่อง​จาก​ได้​เงิน​มา​โดย​ง่าย เขา​อาจ​ไม่​รู้​ค่า​ของ​เงิน. นอก​จาก​นั้น เขา​อาจ​ขาด​ทักษะ​ใน​การ​จัด​การ​กับ​เงิน​รางวัล​ที่​เขา​เพิ่ง​ได้​มา. ความ​ร่ำรวย​ของ​เขา​คง​มลาย​หาย​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว​พอ ๆ กัน​กับ​ที่​เขา​ได้​มัน​มา​มิ​ใช่​หรือ? ตรง​กัน​ข้าม ความ​มั่งคั่ง​อัน​เกิด​จาก​การ​เก็บ​หอม​รอม​ริบ ขยัน​ทำ​งาน ย่อม​จะ​เพิ่ม​พูน​ขึ้น​เรื่อย ๆ และ​สามารถ​ใช้​ประโยชน์​ได้.

ซะโลโม​กล่าว​ดัง​นี้: “ความ​คาด​หมาย​ที่​เลื่อน​ไป​ทำ​ให้​หัวใจ​เจ็บ​ป่วย แต่สิ่ง​ที่​ปรารถนา​เป็น​เหมือน​ต้น​ไม้​แห่ง​ชีวิต​เมื่อ​ได้​มา.” (สุภาษิต 13:12, ล.ม.) ความ​คาด​หมาย​ที่​ไม่​บรรลุ​ตาม​ที่​คิด​ไว้​อาจ​ทำ​ให้​ผิด​หวัง​ซึ่ง​เป็น​เหตุ​ให้​หัวใจ​เจ็บ​ป่วย. เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม นี่​หา​ใช่​กรณี​ความ​คาด​หมาย​ที่​อาศัย​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​มั่นคง. พวก​เรา​มั่น​ใจ​ได้​เต็ม​ที่​ว่า​ความ​คาด​หมาย​เหล่า​นี้​จะ​เป็น​จริง. แม้​ใน​กรณี​ที่​ดู​เหมือน​เนิ่น​ช้า แต่​โอกาส​ผิด​หวัง​จะ​มี​น้อย.

ยก​ตัว​อย่าง เรา​รู้​ว่า​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า​กำลัง​คืบ​ใกล้​เข้า​มา. (2 เปโตร 3:13, ล.ม.) ด้วย​ความ​คาด​หวัง​อัน​แรง​กล้า พวก​เรา​คอย​ท่า​ด้วย​ความ​ยินดี​ว่า​คำ​สัญญา​ต่าง ๆ ของ​พระเจ้า​จะ​สำเร็จ​เป็น​จริง. จะ​เป็น​อย่าง​ไร​หาก​เรา​ใช้​เวลา​ระหว่าง​คอย​ท่า เอา​จริง​เอา​จัง “ใน​งาน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า,” หนุน​กำลัง​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ, และ​สร้าง​สัมพันธภาพ​กับ​พระ​ยะโฮวา​ให้​แน่นแฟ้น​ยิ่ง ๆ ขึ้น? แทน​ที่​จะ​มี ‘หัวใจ​ที่​เจ็บ​ป่วย’ เรา​จะ​เปี่ยม​ล้น​ด้วย​ความ​ยินดี. (1 โกรินโธ 15:58, ล.ม.; เฮ็บราย 10:24, 25; ยาโกโบ 4:8) ครั้น​ความ​ปรารถนา​ที่​รอ​คอย​มา​นาน​สำเร็จ​เป็น​จริง นั่น​จะ​เป็น​ต้น​ไม้​แห่ง​ชีวิต​ที่​ยัง​ความ​สดชื่น​และ​กระปรี้กระเปร่า​อย่าง​แท้​จริง.

กฎหมาย​ของ​พระเจ้า—บ่อ​เกิด​แห่ง​ชีวิต

ใน​การ​แสดง​ให้​เห็น​ความ​จำเป็น​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า สุภาษิต 13:13 บอก​ดัง​นี้: “ผู้​ใด​ที่​ชัง​พระ​คำ​ก็​นำ​ความ​พินาศ​มา​สู่​ตน​เอง; แต่​ผู้​ที่​ยำเกรง​ต่อ​พระ​บัญญัติ​จะ​ได้​รับ​บำเหน็จ.” หาก​ลูกหนี้​ชัง​คำ​สัญญา​โดย​ไม่​ยอม​คืน​เงิน​กู้ เขา​จะ​สูญ​เสีย​สิ่ง​ที่​เขา​ได้​ให้​ไว้​เพื่อ​ประกัน​เงิน​กู้. ทำนอง​เดียว​กัน เรา​คง​จะ​สูญ​เสีย​อะไร​บาง​อย่าง​หาก​เรา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​ข้อ​บัญญัติ​ต่าง ๆ ของ​พระเจ้า. สิ่ง​ที่​เรา​จะ​เสีย​ไป​นั้น​คือ​อะไร?

“โอวาท​ของ​คน​มี​ปัญญา​เป็น​เหมือน​น้ำพุ​แห่ง​ชีวิต; เพื่อ​คน​จะ​ได้​หนี​จาก​เครื่อง​ดัก​แห่ง​ความ​ตาย.” (สุภาษิต 13:14) ที่​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​อย่าง​ปราศจาก​โอวาท​ของ​พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​ผู้​ทรง​สติ​ปัญญา​ล้ำ​เลิศ เรา​ย่อม​ขาด​การ​ชี้​นำ​ที่​ช่วย​เรา​ดำเนิน​ชีวิต​อัน​ดี​งาม​และ​ยืน​ยาว. ช่าง​เป็น​การ​สูญ​เสีย​ใหญ่​หลวง​อะไร​เช่น​นั้น! ดัง​นั้น แนว​ทาง​แห่ง​สติ​ปัญญา​สำหรับ​พวก​เรา​คือ​การ​ใส่​ใจ​ศึกษา​ค้นคว้า​และ​ใคร่ครวญ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ถี่ถ้วน และ​ยอม​ให้​อำนาจ​แห่ง​พระ​คำ​ชัก​นำ​ความ​คิด, คำ​พูด, และ​การ​กระทำ​ของ​เรา.—2 โกรินโธ 10:5; โกโลซาย 1:10.

[ภาพ​หน้า 23]

การ​ตอบรับ​คำ​แนะ​นำ​ตาม​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​รูป​แบบ​การ​ตี​สอน​ตัว​เอง​ที่​ดี​เยี่ยม

[ภาพ​หน้า 24]

“ใจ​ของ​คน​ชอบธรรม​ตรึกตรอง​ก่อน​แล้ว​จึง​ตอบ”

[ภาพ​หน้า 24]

การ​เอา​จริง​เอา​จัง​เสมอ “ใน​งาน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” จะ​ทำ​ให้​เรา​ปลาบปลื้ม​ยินดี