ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ให้เราทั้งหลายประกาศสง่าราศีของพระยะโฮวา

ให้เราทั้งหลายประกาศสง่าราศีของพระยะโฮวา

ให้​เรา​ทั้ง​หลาย​ประกาศ​สง่า​ราศี​ของ​พระ​ยะโฮวา

“จง​ถวาย​รัศมี​และ​เดชานุภาพ​แก่​พระองค์. จง​ถวาย​รัศมี​แก่​พระ​ยะโฮวา​ให้​สม​กับ​พระ​นาม​ของ​พระองค์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 96:7, 8.

1, 2. การ​ถวาย​คำ​สรรเสริญ​แด่​พระ​ยะโฮวา​มา​จาก​แหล่ง​ใด และ​ใคร​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​เข้า​ร่วม?

ดาวิด บุตร​ยิซัย โต​ขึ้น​เป็น​ผู้​เลี้ยง​แกะ​ใน​ย่าน​ชาน​เมือง​เบทเลเฮม. คง​บ่อย​ครั้ง​สัก​เพียง​ไร​ที่​ท่าน​จ้อง​มอง​ท้องฟ้า​อัน​กว้าง​ใหญ่​ที่​ดารดาษ​ไป​ด้วย​ดวง​ดาว​ใน​คืน​สงัด​ขณะ​ที่​เฝ้า​ดู​แล​ฝูง​แกะ​ของ​บิดา​ใน​ทุ่ง​หญ้า​เลี้ยง​แกะ​ที่​ห่าง​ไกล​ผู้​คน! ภาพ​ความ​ประทับใจ​เช่น​นั้น​คง​ผุด​ขึ้น​อย่าง​แจ่ม​ชัด​ใน​ใจ​ขณะ​ที่​ท่าน​ประพันธ์​และ​ร้อง​เพลง​สรรเสริญ​ที่​มี​ถ้อย​คำ​อัน​ไพเราะ​ใน​เพลง​สรรเสริญ​บท 19 ด้วย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า ที่​ว่า “ฟ้า​สวรรค์​แสดง​พระ​รัศมี​ของ​พระเจ้า; และ​ท้องฟ้า​ประกาศ​พระ​หัตถกิจ. เครื่องวัด​ของ​ฟ้า​ทอด​ออก​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน, ถ้อย​คำ​ของ​ฟ้า​นั้น​ไป​ถึง​ปลาย​พิภพ​โลก.”—บทเพลง​สรรเสริญ 19:1, 4.

2 โดย​ปราศจาก​วาจา, ถ้อย​คำ, สำเนียง ฟ้า​สวรรค์​อัน​น่า​เกรง​ขาม​ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​ขึ้น​ประกาศ​สง่า​ราศี​ของ​พระองค์​วัน​ต่อ​วัน คืน​ต่อ​คืน. สรรพสิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​สร้าง​ไม่​หยุด​ประกาศ​สง่า​ราศี​ของ​พระเจ้า และ​ทำ​ให้​ต้อง​เจียม​ตัว​เมื่อ​ตรึกตรอง​ดู​ว่า การ​ประกาศ​โดย​ไร้​คำ​พูด​นี้​เป็น​ที่​ประจักษ์​แก่​ทุก​คน​ที่​อาศัย​อยู่ “ทั่ว​แผ่นดิน.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​ประกาศ​โดย​ไร้​ถ้อย​คำ​ของ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ที่​ปราศจาก​ชีวิต​นั้น​ไม่​พอ. มนุษย์​ที่​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​พระเจ้า​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​ร่วม​การ​ประกาศ​สง่า​ราศี​ของ​พระองค์​ด้วย​คำ​พูด​ของ​ตน. ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่​ระบุ​นาม​บอก​แก่​ผู้​นมัสการ​ที่​ซื่อ​สัตย์​ด้วย​ถ้อย​คำ​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ต่อ​ไป​นี้: “จง​ถวาย​รัศมี​และ​เดชานุภาพ​แก่​พระองค์. จง​ถวาย​รัศมี​แก่​พระ​ยะโฮวา​ให้​สม​กับ​พระ​นาม​ของ​พระองค์.” (บทเพลง​สรรเสริญ 96:7, 8) ผู้​ที่​มี​สัมพันธภาพ​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​ปีติ​ยินดี​ที่​จะ​สนอง​ตอบ​คำ​กระตุ้น​ดัง​กล่าว. แต่​ว่า​การ​ถวาย​รัศมี​หรือ​พระ​เกียรติ​แก่​พระเจ้า​นั้น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​อะไร?

3. เหตุ​ใด​มนุษย์​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า?

3 การ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า​ไม่​ใช่​แค่​ด้วย​คำ​พูด. ชาว​อิสราเอล​ใน​สมัย​ยะซายา​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระเจ้า​ด้วย​ริมฝีปาก​ของ​ตน แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​ขาด​ความ​จริง​ใจ. พระ​ยะโฮวา​ตรัส​ผ่าน​ทาง​ยะซายา​ดัง​นี้: “พลเมือง​เหล่า​นี้​เข้า​มา​เฝ้า​เรา​แต่​เพียง​ปาก​ของ​เขา, และ​ถวาย​เกียรติยศ​แก่​เรา​แต่​เพียง​ริมฝีปาก​ของ​เขา, ส่วน​ใจ​ของ​เขา​อยู่​ห่าง​ไกล​จาก​เรา.” (ยะซายา 29:13) คำ​สรรเสริญ​ใด ๆ ที่​กล่าว​โดย​คน​เหล่า​นี้​ไม่​มี​ความหมาย. เพื่อ​จะ​มี​ความหมาย คำ​สรรเสริญ​จะ​ต้อง​ออกมา​จาก​ใจ​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ต่อ​พระ​ยะโฮวา และ​มา​จาก​ความ​ชื่นชม​จาก​ใจ​จริง​ต่อ​สง่า​ราศี​อัน​หา​ที่​เปรียบ​ไม่​ได้​ของ​พระองค์. พระ​ยะโฮวา​แต่​เพียง​ผู้​เดียว​เป็น​พระ​ผู้​สร้าง. พระองค์​เป็น​ผู้​ทรง​ฤทธานุภาพ​ทุก​ประการ และ​เป็น​บุคคล​ที่​เป็น​แบบ​อย่าง​อัน​ยอด​เยี่ยม​ใน​เรื่อง​ความ​รัก. พระองค์​เป็น​ผู้​ริเริ่ม​จัด​เตรียม​ความ​รอด​สำหรับ​พวก​เรา​และ​เป็น​องค์​บรม​มหิศร​โดย​ชอบธรรม​ที่​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​ปวง​ใน​สวรรค์​หรือ​บน​แผ่นดิน​โลก​สม​ควร​จะ​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​พระองค์. (วิวรณ์ 4:11; 19:1) ถ้า​เรา​เชื่อ​ใน​สิ่ง​เหล่า​นี้​อย่าง​แท้​จริง ก็​ขอ​ให้​เรา​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระองค์​อย่าง​สิ้น​สุด​หัวใจ.

4. พระ​เยซู​ให้​คำ​แนะ​นำ​อะไร​ถึง​วิธี​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า และ​เรา​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​ได้​โดย​วิธี​ใด​บ้าง?

4 พระ​เยซู​คริสต์​บอก​เรา​ถึง​วิธี​ที่​จะ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า. พระองค์​ตรัส​ว่า “พระ​บิดา​ของ​เรา​ได้​รับ​เกียรติ​ด้วย​สิ่ง​นี้ คือ​ที่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เกิด​ผล​มาก​อยู่​เสมอ และ​พิสูจน์​ตัว​ว่า​เป็น​สาวก​ของ​เรา.” (โยฮัน 15:8, ล.ม.) เรา​เกิด​ผล​มาก​โดย​วิธี​ใด? วิธี​แรก คือ​โดย​การ​เข้า​ร่วม​ใน​การ​ประกาศ “ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร” อย่าง​สิ้น​สุด​จิตวิญญาณ และ​โดย​วิธี​นี้​ก็​เป็น​การ​ร่วม​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ทั้ง​สิ้น​ใน​การ “ประกาศ” ถึง “คุณลักษณะ​ต่าง ๆ ของ [พระเจ้า] อัน​ไม่​ประจักษ์​แก่​ตา.” (มัดธาย 24:14, ล.ม.; โรม 1:20, ล.ม.) นอก​จาก​นั้น โดย​วิธี​นี้ เรา​ทุก​คน​ต่าง​มี​ส่วน​ร่วม​ทั้ง​ทาง​ตรง​และ​ทาง​อ้อม​ใน​การ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก ซึ่ง​สาวก​ใหม่​เหล่า​นี้​จะ​ร่วม​ประสาน​คำ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ให้​ก้อง​ดัง​ยิ่ง​ขึ้น. วิธี​ที่​สอง​คือ การ​ที่​เรา​ปลูกฝัง​ผล​แห่ง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ให้​เกิด​ขึ้น​ใน​ตัว​เรา​และ​พยายาม​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ​อัน​ยอด​เยี่ยม​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. (ฆะลาเตีย 5:22, 23; เอเฟโซ 5:1; โกโลซาย 3:10) ผล​คือ ความ​ประพฤติ​แต่​ละ​วัน​ของ​เรา​เป็น​ที่​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า.

“ไป​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​โลก”

5. จง​อธิบาย​วิธี​ที่​เปาโล​เน้น​ถึง​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ของ​คริสเตียน​ใน​การ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า​โดย​การ​แบ่ง​ปัน​ความ​เชื่อ​แก่​คน​อื่น ๆ.

5 ใน​จดหมาย​ของ​ท่าน​ถึง​คริสเตียน​ใน​กรุง​โรม เปาโล​เน้น​ถึง​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ของ​คริสเตียน​ใน​การ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า​โดย​การ​แบ่ง​ปัน​ความ​เชื่อ​แก่​คน​อื่น ๆ. เนื้อหา​หลัก​ของ​พระ​ธรรม​โรม​คือ เฉพาะ​แต่​คน​ที่​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​เท่า​นั้น​ที่​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​รอด. ใน​บท 10 ของ​พระ​ธรรม​นี้ เปาโล​แสดง​ว่า ชาว​ยิว​โดย​กำเนิด​ใน​สมัย​ของ​ท่าน​ยัง​คง​พยายาม​จะ​บรรลุ​ฐานะ​อัน​ชอบธรรม​ด้วย​การ​ติด​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​โมเซ ทั้ง ๆ ที่ “พระ​คริสต์​ทรง​เป็น​จุด​จบ​ของ​พระ​บัญญัติ.” ด้วย​เหตุ​นั้น เปาโล​จึง​กล่าว​ว่า “ถ้า​ท่าน​ประกาศ​อย่าง​เปิด​เผย ‘คำ​นั้น​ใน​ปาก​ของ​ท่าน​เอง’ ว่า พระ​เยซู​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​หัวใจ​ของ​ท่าน​ว่า พระเจ้า​ทรง​ปลุก​พระองค์​ขึ้น​จาก​บรรดา​คน​ตาย ท่าน​ก็​จะ​รอด.” ตั้ง​แต่​นั้น​มา “ไม่​มี​การ​แบ่ง​แยก​ระหว่าง​ชาว​ยิว​กับ​ชาว​กรีก ด้วย​ว่า​มี​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​องค์​เดียว​กัน​อยู่​เหนือ​ทุก​คน ผู้​ทรง​โปรด​ประทาน​อย่าง​บริบูรณ์​แก่​ทุก​คน​ที่​ทูล​ขอ​พระองค์. เพราะ ‘ทุก​คน​ที่​ร้อง​เรียก​พระ​นาม​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​รอด.’ ”—โรม 10:4, 9-13, ล.ม.

6. เปาโล​นำ​บทเพลง​สรรเสริญ 19:4 มา​ใช้​อย่าง​ไร?

6 จาก​นั้น เปาโล​ถาม​ตาม​หลัก​เหตุ​ผล​ว่า “เขา​จะ​ร้อง​เรียก​พระองค์​ผู้​ที่​เขา​ยัง​ไม่​เชื่อ​อย่าง​ไร​กัน? แล้ว​เขา​จะ​เชื่อ​ใน​พระองค์​ผู้​ที่​เขา​ไม่​เคย​ได้​ยิน​ถึง​พระองค์​อย่าง​ไร? แล้ว​เขา​จะ​ได้​ยิน​อย่าง​ไร​เมื่อ​ไม่​มี​ใคร​ประกาศ?” (โรม 10:14, ล.ม.) เปาโล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ชาว​อิสราเอล​ว่า “พวก​เขา​ก็​ไม่​ได้​เชื่อ​ฟัง​ข่าว​ดี​ทุก​คน.” ทำไม​ชาว​อิสราเอล​ไม่​เชื่อ​ฟัง? พวก​เขา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​เพราะ​ขาด​ความ​เชื่อ ไม่​ใช่​เพราะ​ขาด​โอกาส. เปาโล​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​เหตุ​ใด​พวก​เขา​จึง​ไม่​ขาด​โอกาส​โดย​ยก​บทเพลง​สรรเสริญ 19:4 ขึ้น​มา​กล่าว และ​ใช้​ข้อ​นี้​กับ​การ​ประกาศ​ของ​คริสเตียน​แทน​ที่​จะ​ใช้​กับ​การ​ประกาศ​ของ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ที่​ไร้​ชีวิต. ท่าน​กล่าว​ว่า “แท้​จริง​แล้ว ‘เสียง​พวก​เขา​ดัง​ออก​ไป​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​โลก และ​ถ้อย​คำ​ของ​พวก​เขา​ไป​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก​ที่​มี​คน​อาศัย​อยู่.’” (โรม 10:16, 18, ล.ม.) ถูก​แล้ว เช่น​เดียว​กับ​ที่​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ที่​ไร้​ชีวิต​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​ก็​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่องความ​รอด​ใน​ทุก​หน​แห่ง และ​โดย​วิธี​นี้ พวก​เขา​จึง​สรรเสริญ​พระเจ้า​ไป “ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​โลก.” ใน​จดหมาย​ถึง​คริสเตียน​ใน​เมือง​โกโลซาย เปาโล​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า ข่าว​ดี​ได้​แผ่​กระจาย​ไป​กว้างขวาง​แค่​ไหน. ท่าน​กล่าว​ว่า​ข่าว​ดี​ได้​รับ​การ​ประกาศ​แล้ว “แก่​มนุษย์​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใต้​ฟ้า.”—โกโลซาย 1:23.

เหล่า​พยาน​ฯ ที่​กระตือรือร้น

7. ตาม​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู คริสเตียน​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​อะไร?

7 เปาโล​คง​เขียน​จดหมาย​ของ​ท่าน​ไป​ถึง​คริสเตียน​ใน​โกโลซาย​ประมาณ 27 ปี​หลัง​จาก​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​คริสต์. การ​ประกาศ​แผ่​ไป​ถึง​โกโลซาย​ได้​อย่าง​ไร​ใน​เวลา​ที่​ค่อนข้าง​สั้น​ขนาด​นั้น? นั่น​เป็น​เพราะ​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​มี​ใจ​แรง​กล้า และ​พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ของ​พวก​เขา. พระ​เยซู​ทรง​พยากรณ์​ว่า​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​จะ​เป็น​ผู้​ประกาศ​ที่​เอา​การ​เอา​งาน​เมื่อ​พระองค์​ตรัส​ว่า “ข่าว​ดี​จะ​ต้อง​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ใน​ประเทศ​ทั้ง​ปวง​ก่อน.” (มาระโก 13:10, ล.ม.) นอก​จาก​คำ​พยากรณ์​ดัง​กล่าว พระ​เยซู​ทรง​บัญชา​ดัง​บันทึก​ไว้​ใน​สอง​ข้อ​สุด​ท้าย​ของ​กิตติคุณ​ที่​บันทึก​โดย​มัดธาย​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น จง​ไป​และ​ทำ​ให้​คน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก ให้​เขา​รับ​บัพติสมา​ใน​นาม​แห่ง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ สอน​เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้.” (มัดธาย 28:19, 20, ล.ม.) ไม่​นาน​หลัง​จาก​พระ​เยซู​เสด็จ​ขึ้น​สู่​สวรรค์ เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ก็​เริ่ม​ทำ​ให้​คำ​ตรัส​เหล่า​นี้​สำเร็จ​เป็น​จริง.

8, 9. ตาม​ที่​กล่าว​ใน​พระ​ธรรม​กิจการ คริสเตียน​ตอบรับ​อย่าง​ไร​ต่อ​พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู?

8 หลัง​จาก​การ​เท​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ใน​วัน​เพนเทคอสต์ ปี ส.ศ. 33 สิ่ง​แรก​ที่​บรรดา​สาวก​ผู้​ภักดี​ของ​พระ​เยซู​ทำ​คือ​ออก​ไป​ประกาศ บอก​แก่​ฝูง​ชน​ใน​กรุง​เยรูซาเลม “ถึง​ราชกิจ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระเจ้า.” การ​ประกาศ​ของ​พวก​เขา​บังเกิด​ผล​อย่าง​ยิ่ง และ​มี “ประมาณ​สาม​พัน​คน” รับ​บัพติสมา. เหล่า​สาวก​ยัง​คง​สรรเสริญ​พระเจ้า​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​ต่อ ๆ ไป​แก่​สาธารณชน​และ​การ​ทำ​เช่น​นั้น​เกิด​ผล​ที่​ดี.—กิจการ 2:4, 11, 41, 46, 47, ล.ม.

9 ใน​ไม่​ช้า กิจกรรม​การ​ประกาศ​ของ​คริสเตียน​เหล่า​นี้​ก็​กลาย​เป็น​ที่​สังเกต​ของ​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา. เนื่อง​จาก​ร้อน​ใจ​เพราะ​การ​พูด​ที่​ตรง​ไป​ตรง​มา​ของ​เปโตร​และ​โยฮัน พวก​เขา​สั่ง​ให้​อัครสาวก​ทั้ง​สอง​หยุด​ประกาศ. พวก​อัครสาวก​ตอบ​ดัง​นี้: “พวก​ข้าพเจ้า​จะ​หยุด​พูด​ถึง​เรื่อง​ต่าง ๆ ที่​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน​นั้น​ไม่​ได้.” หลัง​จาก​ถูก​ขู่​กำชับ​และ​ปล่อย​ตัว​ไป เปโตร​และ​โยฮัน​กลับ​ไป​หา​พี่​น้อง​ของ​ท่าน และ​ทุก​คน​พร้อม​ใจ​กัน​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา. พวก​เขา​ทูล​ขอ​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​กล้า​หาญ​ว่า “ขอ​โปรด​ให้​ผู้​ทาส​ของ​พระองค์​กล่าว​คำ​ของ​พระองค์​ต่อ​ไป​ด้วย​ใจ​กล้า.”—กิจการ 4:13, 20, 29, ล.ม.

10. การ​ต่อ​ต้าน​อะไร​เริ่ม​ปรากฏ​ให้​เห็น และ​คริสเตียน​แท้​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร?

10 คำ​อธิษฐาน​ดัง​กล่าว​สอดคล้อง​กับ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา ดัง​เห็น​ได้​ชัด​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ไม่​นาน. พวกอัครสาวก​ถูก​จับ​กุม และ​ต่อ​มา​ก็​ได้​รับ​การ​ปลด​ปล่อย​อย่าง​อัศจรรย์​โดย​ทูตสวรรค์. ทูตสวรรค์​บอก​พวก​เขา​ว่า “จง​ไป​ยืน​ใน​บริเวณ​พระ​วิหาร ประกาศ​บรรดา​ข้อ​ความ​แห่ง​ชีวิต​ใหม่​นี้​ให้​ประชาชน​ฟัง.” (กิจการ 5:18-20, ฉบับ​แปล​ใหม่) เนื่อง​จาก​พวก​อัครสาวก​เชื่อ​ฟัง พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​พวก​เขา​ต่อ ๆ ไป. ผล​คือ “เขา​ทั้ง​หลาย​จึง​ทำ​การ​สั่ง​สอน​และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​พระ​คริสต์​เยซู​ใน​พระ​วิหาร​และ​ตาม​บ้าน​เรือน​ทุก​วัน​เรื่อย​ไป​มิ​ได้​ขาด.” (กิจการ 5:42, ล.ม.) เห็น​ได้​ชัด​ว่า การ​ต่อ​ต้าน​อย่าง​มุ่ง​มั่น​ไม่​อาจ​ยับยั้ง​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ไม่​ให้​ประกาศ​สง่า​ราศี​ของ​พระเจ้า​แก่​สาธารณชน.

11. คริสเตียน​ยุค​แรก​มี​เจตคติ​เช่น​ไร​ต่อ​งาน​ประกาศ?

11 ต่อ​มา​ไม่​นาน ซะเตฟาโน​ถูก​จับ​กุม​และ​ถูก​หิน​ขว้าง​จน​ตาย. การ​ฆ่า​ท่าน​จุด​ชนวน​ให้​เกิด​การ​กดขี่​ข่มเหง​อย่าง​หนัก​ใน​กรุง​เยรูซาเลม และ​สาวก​ทั้ง​ปวง​เว้น​แต่​พวก​อัครสาวก​จำ​ต้อง​กระจัด​กระจาย​ไป. การ​กดขี่​ข่มเหง​ทำ​ให้​พวก​เขา​ท้อ​ใจ​ไหม? ไม่​เลย. เรา​อ่าน​ว่า “สานุศิษย์​ทั้ง​หลาย​ซึ่ง​กระจัด​กระจาย​ไป​ก็​ได้​เที่ยว​ประกาศ​พระ​คำ​นั้น.” (กิจการ 8:1, 4) ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ใน​การ​ประกาศ​สง่า​ราศี​ของ​พระเจ้า​เช่น​นั้น​เป็น​ที่​ประจักษ์​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า. ใน​กิจการ​บท 9 เรา​อ่าน​ว่า ฟาริซาย​ชื่อ​เซาโล ชาว​เมือง​ทาร์ซัส ขณะ​เดิน​ทาง​ไป​เมือง​ดามัสกัส​เพื่อ​ข่มเหง​สาวก​ของ​พระ​เยซู ได้​เห็น​นิมิต​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​และ​ตา​มืด​บอด​ไป. ที่​เมือง​ดามัสกัส อะนาเนีย​ทำ​ให้​เซาโล​มอง​เห็น​ได้​อีก​โดย​การ​อัศจรรย์. สิ่ง​แรก​ที่​เซาโล ซึ่ง​ภาย​หลัง​เป็น​ที่​รู้​จัก​ว่า​อัครสาวก​เปาโล​ทำ​คือ​อะไร? บันทึก​กล่าว​ว่า “โดย​ไม่​รอ​ช้า ท่าน​เริ่ม​ประกาศ​เรื่อง​พระ​เยซู​ตาม​ธรรมศาลา​ว่า​ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า.”—กิจการ 9:20, ล.ม.

ทุก​คน​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​ประกาศ

12, 13. (ก) ตาม​ที่​นัก​ประวัติศาสตร์​กล่าว มี​ข้อ​น่า​สังเกต​อะไร​เกี่ยว​กับ​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก? (ข) พระ​ธรรม​กิจการ​และ​คำ​พูด​ของ​เปาโล​สอดคล้อง​กับ​คำ​กล่าว​ของ​นัก​ประวัติศาสตร์​อย่าง​ไร?

12 เป็น​ที่​ยอม​รับ​กัน​อย่าง​กว้างขวาง​ว่า​ทุก​คน​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ยุค​แรก​ต่าง​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ. ฟิลิป แชฟฟ์ เขียน​เกี่ยว​กับ​คริสเตียน​ใน​สมัย​นั้น​ดัง​นี้: “ทุก​ประชาคม​คือ​สมาคม​ของ​เหล่า​มิชชันนารี และ​คริสเตียน​ผู้​เชื่อถือ​ทุก​คน​เป็น​มิชชันนารี.” (ประวัติศาสตร์​คริสตจักร​คริสเตียน ภาษา​อังกฤษ) ดับเบิลยู. เอส. วิลเลียมส์ กล่าว​ว่า “หลักฐาน​โดย​ทั่ว​ไป​แสดง​ว่า คริสเตียน​ทุก​คน​ใน​คริสตจักร​ยุค​แรก โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ได้​รับ​ของ​ประทาน​แห่ง​พระ​วิญญาณ ทำ​การ​ประกาศ​กิตติคุณ.” (พันธกิจ​อัน​มี​เกียรติ​ของ​ฆราวาส ภาษา​อังกฤษ) เขา​ยืน​ยัน​ด้วย​ว่า “พระ​เยซู​คริสต์​ไม่​เคย​มุ่ง​หมาย​ที่​จะ​สงวน​สิทธิ์​การ​ประกาศ​ไว้​ให้​เฉพาะ​บาง​ตำแหน่ง​ของ​งาน​รับใช้.” แม้​แต่​เซลซุส ผู้​ต่อ​ต้าน​ศาสนา​คริสเตียน​ครั้ง​โบราณ ก็​เขียน​ไว้​ว่า “ช่าง​ปั่น​ขน​แกะ, ช่าง​ตัด​เย็บ​รอง​เท้า, ช่าง​ฟอก​หนัง, คน​ไร้​การ​ศึกษา​และ​สามัญ​ชน เป็น​ผู้​ประกาศ​กิตติคุณ​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า.”

13 ความ​ถูก​ต้อง​ของ​คำ​กล่าว​ข้าง​ต้น​เห็น​ได้​จาก​บันทึก​ทาง​ประวัติศาสตร์​ใน​พระ​ธรรม​กิจการ. ใน​วัน​เพนเทคอสต์ ปี ส.ศ. 33 หลัง​จาก​การ​เท​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ สาวก​ทุก​คน ทั้ง​ชาย​และ​หญิง ประกาศ​ราชกิจ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระเจ้า​แก่​สาธารณชน. หลัง​จาก​การ​กดขี่​ข่มเหง​ที่​ตาม​มา​หลัง​การ​ฆ่า​ซะเตฟาโน คริสเตียน​ทุก​คน​ที่​กระจัด​กระจาย​ไป​เผยแพร่​ข่าว​ดี​ออก​ไป​อย่าง​กว้าง​ไกล. ประมาณ 28 ปี​ต่อ​มา เปาโล​เขียน​ไป​ถึง​คริสเตียน​ชาว​ฮีบรู​ทุก​คน ไม่​ใช่​ไป​ถึง​เฉพาะ​ชน​ชั้น​นัก​เทศน์​นัก​บวช​จำนวน​ไม่​กี่​คน เมื่อ​ท่าน​กล่าว​ว่า “โดย​พระองค์​นั้น​จง​ให้​เรา​ถวาย​คำ​สรรเสริญ​เป็น​เครื่อง​บูชา​แด่​พระเจ้า​เสมอ กล่าว​คือ​ผล​แห่ง​ริมฝีปาก​ที่​ประกาศ​พระ​นาม​ของ​พระองค์​อย่าง​เปิด​เผย.” (เฮ็บราย 13:15, ล.ม.) เมื่อ​พรรณนา​ทัศนะ​ของ​ท่าน​เอง​ต่อ​งาน​ประกาศ เปาโล​กล่าว​ว่า “ถ้า​บัด​นี้​ข้าพเจ้า​จะ​ประกาศ​ข่าว​ดี​ก็​ไม่​มี​เหตุ​ที่​ข้าพเจ้า​จะ​โอ้อวด ด้วย​ว่า​ข้าพเจ้า​ได้​รับ​มอบหมาย​หน้า​ที่. แท้​จริง​แล้ว วิบัติ​จะ​เกิด​แก่​ข้าพเจ้า​ถ้า​ข้าพเจ้า​มิ​ได้​ประกาศ​ข่าว​ดี!” (1 โกรินโธ 9:16, ล.ม.) เป็น​ที่​ประจักษ์​ว่า คริสเตียน​ที่​ซื่อ​สัตย์​ทุก​คน​ใน​ศตวรรษ​แรก​รู้สึก​เช่น​เดียว​กับ​ท่าน.

14. การ​ประกาศ​มี​ความ​เกี่ยว​พัน​กัน​อย่าง​ไร​กับ​ความ​เชื่อ?

14 อัน​ที่​จริง คริสเตียน​แท้​ต้อง​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ​เพราะ​การ​ประกาศ​เกี่ยว​พัน​กับ​ความ​เชื่อ​อย่าง​แยก​กัน​ไม่​ออก. เปาโล​กล่าว​ว่า “ด้วย​หัวใจ คน​เรา​สำแดง​ความ​เชื่อ​เพื่อ​ความ​ชอบธรรม แต่​ด้วย​ปาก คน​เรา​ประกาศ​อย่าง​เปิด​เผย​เพื่อ​ความ​รอด.” (โรม 10:10, ล.ม.) เพียง​คน​กลุ่ม​เล็ก ๆ ภาย​ใน​ประชาคม​เท่า​นั้น​ไหม—คล้าย ๆ กับ​ชน​ชั้น​นัก​เทศน์​นัก​บวช—ที่​แสดง​ความ​เชื่อ และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​จึง​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใน​การ​ประกาศ? ไม่​ใช่​อย่าง​แน่นอน! คริสเตียน​แท้​ทุก​คน​ปลูกฝัง​ความ​เชื่อ​ที่​มี​ชีวิต​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​เจ้า และปรารถนา​จะ​ประกาศ​ความ​เชื่อ​นั้น​อย่าง​เปิด​เผย​แก่​คน​อื่น ๆ. มิ​ฉะนั้น ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​ก็​ตาย​แล้ว. (ยาโกโบ 2:26) เนื่อง​จาก​คริสเตียน​ผู้​ภักดี​ทุก​คน​ใน​ศตวรรษ​แรก​แห่ง​สากล​ศักราช​สำแดง​ความ​เชื่อ​ด้วย​วิธี​นี้ เสียง​สรรเสริญ​พระ​นาม​พระ​ยะโฮวา​จึง​เป็น​ที่​ได้​ยิน​อย่าง​กึกก้อง.

15, 16. จง​ยก​ตัว​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​งาน​ประกาศ​ยัง​คง​รุด​หน้า​ต่อ​ไป​ทั้ง ๆ ที่​มี​ปัญหา.

15 ใน​ศตวรรษ​แรก พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​ให้​ประชาชน​ของ​พระองค์​เติบโต​ขึ้น ทั้ง ๆ ที่​มี​ปัญหา​ภาย​ใน​และ​ภาย​นอก​ประชาคม. ตัว​อย่าง​เช่น กิจการ​บท 6 บันทึก​เรื่อง​ความ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​ผู้​ที่​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​ที่​พูด​ภาษา​ฮีบรู​กับ​ที่​พูด​ภาษา​กรีก. ปัญหา​นั้น​ได้​รับ​การ​จัด​การ​แก้ไข​โดย​พวก​อัครสาวก. ผล​เป็น​ดัง​ที่​เรา​อ่าน​นี้: “พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​จึง​จำเริญ​ขึ้น และ​จำนวน​สาวก​ก็​เพิ่ม​ขึ้น​มาก​มาย​ตลอด​เวลา​ใน​เยรูซาเลม และ​ปุโรหิต​จำนวน​มาก​เริ่ม​ปฏิบัติ​ตาม​ความ​เชื่อ​นั้น.”—กิจการ 6:7, ล.ม.

16 ต่อ​มา เกิด​ความ​ตึงเครียด​ทาง​การ​เมือง​ระหว่าง​เฮโรด อะกริปปา​กษัตริย์​แคว้น​ยูเดีย​กับ​ชาว​เมือง​ไทร์​และ​เมือง​ไซ​ดอน. ชาว​เมือง​ทั้ง​สอง​พยายาม​ประจบ​ประแจง​เพื่อ​ขอ​กลับ​เป็น​ไมตรี และ​เฮโรด​กล่าว​ปราศรัย​ตอบ​แก่​พวก​เขา. ฝูง​ชน​ที่​มา​ชุมนุม​กัน​นั้น​เริ่ม​ร้อง​ตะโกน​ว่า “เป็น​พระ​สุรเสียง​ของ​พระ, มิ​ใช่​เสียง​ของ​มนุษย์.” ทันใด​นั้น ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เฮโรด อะกริปปา​เกิด​โรค​ร้าย และ​ถึง​แก่​ความ​ตาย “เพราะ​ท่าน​มิ​ได้​ถวาย​เกียรติยศ​แก่​พระเจ้า.” (กิจการ 12:20-23) ช่าง​เป็น​เรื่อง​น่า​ตกตะลึง​สัก​เพียง​ไร​สำหรับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ฝาก​ความ​หวัง​ไว้​กับ​ผู้​ปกครอง​ที่​เป็น​มนุษย์! (บทเพลง​สรรเสริญ 146:3, 4) แต่​คริสเตียน​ยัง​คง​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระ​ยะโฮวา​ต่อ ๆ ไป. ผล​คือ “พระ​คำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​เจริญ​ขึ้น​และ​แพร่​หลาย​ต่อ​ไป” ทั้ง​ที่​ขาด​เสถียรภาพ​ทาง​การ​เมือง​อย่าง​นั้น.—กิจการ 12:24, ล.ม.

สมัย​นั้น​กับ​สมัย​นี้

17. คน​จำนวน​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ใน​ศตวรรษ​แรก​เข้า​มา​ร่วม​กัน​ใน​การ​ทำ​อะไร?

17 ใช่​แล้ว ประชาคม​คริสเตียน​ทั่ว​โลก​ใน​ศตวรรษ​แรก​ประกอบ​ด้วย​เหล่า​ผู้​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า​และ​เอา​การ​เอา​งาน. คริสเตียน​ผู้​ภักดี​ทุก​คน​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เผยแพร่​ข่าว​ดี. บาง​คน​พบ​ผู้​ที่​ตอบรับ และ​อย่าง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส พวก​เขา​สอน​คน​เหล่า​นั้น​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ที่​พระองค์​ทรง​บัญชา​ไว้. (มัดธาย 28:19, 20) ผล​คือ​ประชาคม​เติบโต​ขึ้น และ​มี​คน​จำนวน​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ มี​ส่วน​ร่วม​กับ​กษัตริย์​ดาวิด​สมัย​โบราณ​ใน​การ​ถวาย​คำ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา. ทุก​คน​กล่าว​ซ้ำ​ถ้อย​คำ​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​ที่​ว่า “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า​จะ​ยกย่อง​พระองค์​สุด​หัวใจ และ​จะ​ถวาย​เกียรติยศ​แด่​พระ​นาม​ของ​พระองค์​จน​เวลา​ที่​ไม่​กำหนด เพราะ​ความ​กรุณา​รักใคร่​ที่​พระองค์​มี​ต่อ​ข้าพเจ้า​ก็​ยิ่ง​ใหญ่.”—บทเพลง​สรรเสริญ 86:12, 13, ล.ม.

18. (ก) มี​การ​ให้​ข้อ​สังเกต​เกี่ยว​กับ​ความ​แตกต่าง​อะไร​ระหว่าง​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​กับ​คริสต์​ศาสนจักร​ใน​ปัจจุบัน? (ข) จะ​มี​การ​พิจารณา​อะไร​ใน​บทความ​ถัด​ไป?

18 เมื่อ​คำนึง​ถึง​เรื่อง​นี้ คำ​กล่าว​ของ อลิสัน เอ. ไทรส์ ศาสตราจารย์​ทาง​เทววิทยา​นั้น​ชวน​ให้​คิด. เมื่อ​เปรียบ​เทียบ​คริสต์​ศาสนจักร​ใน​ปัจจุบัน​กับ​ศาสนา​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก เขา​กล่าว​ว่า “คริสตจักร​ต่าง ๆ ใน​ทุก​วัน​นี้​มัก​เติบโต​ขึ้น​โดย​ทาง​ชีววิทยา (เมื่อ​ลูก ๆ ของ​สมาชิก​คริสตจักร​ประกาศ​ยอม​รับ​ความ​เชื่อ) หรือ​เติบโต​ขึ้น​โดย​การ​โอน​ย้าย (เมื่อ​สมาชิก​ใหม่​โอน​ย้าย​มา​จาก​คริสตจักร​อื่น). แต่​ใน​พระ​ธรรม​กิจการ การ​เติบโต​ขึ้น​เป็น​การ​เติบโต​จาก​การ​เปลี่ยน​ความ​เชื่อ เพราะ​คริสตจักร​เพิ่ง​เริ่ม​งาน​ของ​ตน.” นี่​หมายความ​ว่า​ศาสนา​คริสเตียน​แท้​ไม่​มี​การ​เติบโต​ขึ้น​ใน​แบบ​ที่​พระ​เยซู​กล่าว​ว่า​ควร​จะ​เป็น​อีก​แล้ว​ไหม? หา​มิ​ได้. คริสเตียน​แท้​ใน​ทุก​วัน​นี้​ถวาย​คำ​สรรเสริญ​แด่​พระเจ้า​ต่อ​สาธารณชน​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​เหมือน​กัน​ใน​ทุก​ทาง​กับ​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก. เรา​จะ​พิจารณา​เรื่อง​นี้​ใน​บทความ​ถัด​ไป.

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม?

• เรา​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า​โดย​วิธี​ใด​บ้าง?

• เปาโล​นำ​บทเพลง​สรรเสริญ 19:4 มา​ใช้​อย่าง​ไร?

• การ​ประกาศ​มี​ความ​เกี่ยว​พัน​กัน​อย่าง​ไร​กับ​ความ​เชื่อ?

• มี​ข้อ​น่า​สังเกต​อะไร​เกี่ยว​กับ​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 8, 9]

ฟ้า​สวรรค์ ประกาศ​สง่า​ราศี​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​หยุด

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 8]

Courtesy of Anglo-Australian Observatory, photograph by David Malin

[ภาพ​หน้า 10]

งาน​ประกาศ​เกี่ยว​ข้อง​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​การ​อธิษฐาน