ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“ทาสสัตย์ซื่อ” ผ่านการทดสอบ

“ทาสสัตย์ซื่อ” ผ่านการทดสอบ

“ทาส​สัตย์​ซื่อ” ผ่าน​การ​ทดสอบ

“ถึง​เวลา​กำหนด​แล้ว​ที่​การ​พิพากษา​จะ​เริ่ม​ต้น​กับ​ราชนิเวศ​ของ​พระเจ้า.”—1 เปโตร 4:17, ล.ม.

1. พระ​เยซู​พบ​อะไร​เมื่อ​ตรวจ​สอบ “ทาส” นั้น?

ใน​วัน​เพนเทคอสต์ ปี ส.ศ. 33 พระ​เยซู​ทรง​แต่ง​ตั้ง “ทาส” ให้​แจก​จ่าย​อาหาร​ใน​เวลา​อัน​เหมาะ​แก่ “คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย” ของ​พระองค์. พระ​เยซู​ขึ้น​ครอง​ราชย์​เป็น​กษัตริย์​ใน​ปี ส.ศ. 1914 และ​ไม่​นาน​จาก​นั้น ก็​เป็น​เวลา​ตรวจ​สอบ “ทาส” นั้น. พระองค์​พบ​ว่า​ส่วน​ใหญ่​ของ​สมาชิก​ที่​ประกอบ​กัน​เป็น “ทาส” นั้น​พิสูจน์​ตัว “สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” พระองค์​จึง​แต่ง​ตั้ง​ทาส​นี้​ให้ “ดู​แล​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​นาย.” (มัดธาย 24:45-47, ล.ม.) แต่​มี​ทาส​ชั่ว​ด้วย ที่​ทั้ง​ไม่​สัตย์​ซื่อ​และ​ไม่​สุขุม.

“ทาส​นั้น​ชั่ว”

2, 3. ‘ทาส​ชั่ว’ มา​จาก​ไหน และ​เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร?

2 พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​ทาส​ชั่ว​ทันที​ต่อ​จาก​การ​พิจารณา​เรื่อง “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” พระองค์​ตรัส​ว่า “ถ้า​ทาส​นั้น​ชั่ว​และ​คิด​ใน​ใจ​ว่า ‘นาย​ของ​ข้า​มา​ช้า’ แล้ว​จะ​ตั้ง​ต้น​โบย​ตี​เพื่อน​ทาส​และ​กิน​ดื่ม​อยู่​กับ​เพื่อน​ขี้เมา นาย​ของ​ทาส​ผู้​นั้น​จะ​มา​ใน​วัน​ที่​เขา​ไม่​คิด​ใน​โมง​ที่​เขา​ไม่​รู้ และ​จะ​ทำ​โทษ​เขา​ถึง​สาหัส ทั้ง​จะ​ขับ​ไล่​ให้​เขา​ไป​อยู่​ใน​ที่​ของ​พวก​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด ซึ่ง​ที่​นั่น​จะ​มี​แต่​การ​ร้องไห้​ขบ​เขี้ยว​เคี้ยว​ฟัน.” (มัดธาย 24:48-51, ฉบับ​แปล​ใหม่) คำ​ว่า “ทาส​นั้น ชั่ว” นำ​ความ​สนใจ​ของ​เรา​ไป​สู่​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ก่อน​หน้า​นั้น​เกี่ยว​กับ​ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม. ถูก​แล้ว ‘ทาส​ชั่ว’ ก็​คือ​ผู้​ที่​เคย​เป็น​สมาชิก​ของ​ทาส​สัตย์​ซื่อ​มา​ก่อน. * เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร?

3 ก่อน​ปี 1914 สมาชิก​หลาย​คน​ของ​ชน​ชั้น​ทาส​สัตย์​ซื่อ​มี​ความ​คาด​หวัง​อย่าง​มาก​ว่า​จะ​ได้​พบ​กับ​เจ้าบ่าว​ใน​สวรรค์​ใน​ปี​นั้น แต่​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​คาด​หวัง​ไว้​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น. ผล​ของ​สิ่ง​นี้​และ​เหตุ​การณ์​อื่น ๆ ที่​ตาม​มา ทำ​ให้​หลาย​คน​ผิด​หวัง และ​บาง​คน​ขมขื่น. บาง​คน​ใน​พวก​นี้​หัน​มา “โบย​ตี” ผู้​ที่​เคย​เป็น​พี่​น้อง​ของ​ตน​ด้วย​วาจา และ​มั่วสุม​กับ “เพื่อน​ขี้เมา” ซึ่ง​ก็​คือ​กลุ่ม​ศาสนา​ต่าง ๆ แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร.—ยะซายา 28:1-3; 32:6.

4. พระ​เยซู​ทรง​จัด​การ​อย่าง​ไร​กับ ‘ทาส​ชั่ว’ และ​กับ​ทุก​คน​ที่​แสดง​น้ำใจ​อย่าง​เดียว​กัน?

4 ใน​ที่​สุด​อดีต​คริสเตียน​เหล่า​นี้​ก็​แสดง​ตัว​ว่า​เป็น ‘ทาส​ชั่ว’ และ​พระ​เยซู​ทรง​ทำ​โทษ​พวก​เขา “ถึง​สาหัส.” โดย​วิธี​ใด? พระองค์​ปฏิเสธ​พวก​เขา และ​พวก​เขา​สูญ​เสีย​โอกาส​จะ​ไป​สวรรค์. อย่าง​ไร​ก็​ตาม พวก​เขา​ไม่​ถูก​ทำลาย​ใน​ทันที. ก่อน​อื่น​พวก​เขา​ต้อง​ประสบ​ช่วง​เวลา​แห่ง​การ​ร้องไห้​และ​ขบ​เขี้ยว​เคี้ยว​ฟัน​ใน “ที่​มืด​ภาย​นอก” ประชาคม​คริสเตียน. (มัดธาย 8:12) ตั้ง​แต่​ช่วง​แรก ๆ นั้น ผู้​ถูก​เจิม​คน​อื่น ๆ อีก​บาง​คน​แสดง​น้ำใจ​ชั่ว​คล้าย ๆ กัน แล้ว​เข้า​สมทบ​เป็น​ส่วน​ของ ‘ทาส​ชั่ว.’ บาง​คน​ใน​จำพวก “แกะ​อื่น” ดำเนิน​รอย​ตาม​ความ​ไม่​สัตย์​ซื่อ​ของ​พวก​เขา. (โยฮัน 10:16) ศัตรู​เหล่า​นี้​ทั้ง​สิ้น​ของ​พระ​คริสต์​ประสบ​บั้น​ปลาย​อย่าง​เดียว​กัน คือ “ที่​มืด​ภาย​นอก” ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ.

5. ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​แสดง​ปฏิกิริยา​ต่าง​กัน​อย่าง​ไร​กับ ‘ทาส​ชั่ว’?

5 กระนั้น ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​ก็​เผชิญ​การ​ทดสอบ​ต่าง ๆ เช่น​เดียว​กับ ‘ทาส​ชั่ว.’ แต่​แทน​ที่​จะ​ขมขื่น พวก​เขา​รับ​เอา​การ​ปรับ​ให้​เข้า​ที่. (2 โกรินโธ 13:11, ล.ม.) ความ​รัก​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​พี่​น้อง​ของ​ตน​แน่นแฟ้น​ขึ้น. ผล​คือ พวก​เขา​กลาย​เป็น “หลัก​และ​ราก​แห่ง​ความ​จริง” เรื่อย​มา​ตลอด “สมัย​สุด​ท้าย” ที่​วุ่นวาย​นี้.—1 ติโมเธียว 3:15; 2 ติโมเธียว 3:1, ล.ม.

หญิง​พรหมจารี​สุขุม​กับ​หญิง​พรหมจารี​โง่

6. (ก) พระ​เยซู​ยก​อุปมา​ให้​เห็น​ถึง​ความ​สุขุม​ของ​ชน​ชั้น​ทาส​สัตย์​ซื่อ​อย่าง​ไร? (ข) ก่อน​ปี 1914 คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ประกาศ​ข่าวสาร​ใน​เรื่อง​ใด?

6 หลัง​จาก​กล่าว​ถึง ‘ทาส​ชั่ว’ พระ​เยซู​ยก​อุปมา​สอง​เรื่อง​เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ทำไม​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​บาง​คน​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​ใน​ขณะ​ที่​บาง​คน​ไม่​เป็น​เช่น​นั้น. * เพื่อ​ยก​อุปมา​ให้​เห็น​ถึง​ความ​สุขุม พระองค์​ตรัส​ว่า “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​จะ​เปรียบ​เหมือน​หญิง​พรหมจารี​สิบ​คน​ที่​เอา​ตะเกียง​ของ​ตน​ออก​ไป​พบ​เจ้าบ่าว. ห้า​คน​เป็น​คน​โง่ อีก​ห้า​คน​เป็น​คน​สุขุม. ด้วย​ว่า​หญิง​พรหมจารี​โง่​ถือ​ตะเกียง​ของ​ตน​ไป​แต่​ไม่​เอา​น้ำมัน​ไป​ด้วย ส่วน​หญิง​พรหมจารี​ที่​สุขุม​เอา​ขวด​น้ำมัน​ไป​กับ​ตะเกียง​ของ​ตน​ด้วย.” (มัดธาย 25:1-4, ล.ม.) หญิง​พรหมจารี​สิบ​คน​ทำ​ให้​เรา​นึก​ถึง​เหล่า​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ก่อน​ปี 1914. พวก​เขา​ได้​คำนวณ​เวลา​ว่า​พระ​เยซู​คริสต์​ผู้​เป็น​เจ้าบ่าว​ใกล้​จะ​มา​ปรากฏ​แล้ว. พวก​เขา​จึง “ออก​ไป” พบ​พระองค์ ประกาศ​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​เต็ม​ที่​ว่า “เวลา​กำหนด​ของ​นานา​ชาติ” จะ​สิ้น​สุด​ลง​ใน​ปี 1914.—ลูกา 21:24, ล.ม.

7. เมื่อ​ไร​และ​เหตุ​ใด​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม “หลับ​ไป” ใน​ความหมาย​เป็น​นัย?

7 พวก​เขา​กล่าว​ถูก​ต้อง. เวลา​กำหนด​ของ​นานา​ชาติ​สิ้น​สุด​ลง​ใน​ปี 1914 จริง ๆ และ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​พระ​คริสต์​เยซู​เป็น​กษัตริย์​เริ่ม​ดำเนิน​การ. แต่​สิ่ง​นั้น​เกิด​ขึ้น​ใน​สวรรค์​ซึ่ง​ไม่​ประจักษ์​แก่​ตา. บน​แผ่นดิน​โลก มนุษยชาติ​เริ่ม​ประสบ​กับ “วิบัติ” ที่​มี​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า. (วิวรณ์ 12:10, 12) ติด​ตาม​มา​ด้วย​เวลา​แห่ง​การ​ทดสอบ. เนื่อง​จาก​ยัง​ไม่​เข้าใจ​สิ่ง​ต่าง ๆ อย่าง​กระจ่าง​ชัด คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​คิด​ว่า “เจ้าบ่าว​ยัง​ช้า​อยู่.” ด้วย​ความ​สับสน​และ​ประสบ​การ​ต่อ​ต้าน​อย่าง​รุนแรง​จาก​โลก พวก​เขา​โดย​ส่วน​รวม​จึง​เฉื่อย​ชา​ลง​และ​แทบ​หยุด​จาก​งาน​ประกาศ​ต่อ​สาธารณชน​อย่าง​เป็น​ระบบ. กล่าว​ใน​ความหมาย​ฝ่าย​วิญญาณ​แล้ว เช่น​เดียว​กับ​หญิง​พรหมจารี​ใน​อุปมา พวก​เขา “ง่วง​เหงา​หลับ​ไป” เหมือน​กับ​ที่​ผู้​อ้าง​ตัว​เป็น​คริสเตียน​แต่​ทว่า​ไม่​สัตย์​ซื่อ​ได้​ม่อย​หลับ​ไป​ภาย​หลัง​พวก​อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู​เสีย​ชีวิต.—มัดธาย 25:5; วิวรณ์ 11:7, 8; 12:17.

8. อะไร​นำ​ไป​สู่​เสียง​ร้อง​ว่า “เจ้าบ่าว​มา​แล้ว” และ​นั่น​เป็น​เวลา​ที่​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​จะ​ต้อง​ทำ​อะไร?

8 ต่อ​มา​ใน​ปี 1919 สิ่ง​ที่​ไม่​คาด​คิด​ก็​เกิด​ขึ้น. เรา​อ่าน​ว่า “ครั้น​เวลา​เที่ยง​คืน​ก็​มี​เสียง​ร้อง​มา​ว่า, ‘เจ้าบ่าว​มา​แล้ว, จง​ออก​มา​รับ​ท่าน​เถิด’ พวก​พรหมจารี​เหล่า​นั้น​ก็​ลุก​ขึ้น​ตกแต่ง​ตะเกียง​ของ​ตน.” (มัดธาย 25:6, 7) ขณะ​ที่​สิ่ง​ต่าง ๆ ดู​มืดมน​สิ้น​หวัง​นั้น ก็​มี​เสียง​เรียก​ให้​ลง​มือ​ทำ! ใน​ปี 1918 พระ​เยซู​ฐานะ “ทูต​แห่ง​สัญญา​ไมตรี” เสด็จ​มา​ยัง​พระ​วิหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​ตรวจ​สอบ​และ​ชำระ​ประชาคม​ของ​พระเจ้า. (มาลาคี 3:1, ล.ม.) ตอน​นี้ คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ต้อง​ออก​ไป​พบ​กับ​พระองค์​ที่​ลาน​พระ​วิหาร​ทาง​แผ่นดิน​โลก. ได้​เวลา​ที่​พวก​เขา​จะ​ต้อง “ฉาย​แสง” ออก​ไป​แล้ว.—ยะซายา 60:1, ฉบับ​แปล​ใหม่; ฟิลิปปอย 2:14, 15.

9, 10. คริสเตียน​บาง​คน​ใน​ปี 1919 “สุขุม” และ​บาง​คน “โง่” เพราะ​อะไร?

9 แต่​เดี๋ยว​ก่อน! ตาม​อุปมา​นั้น หญิง​สาว​บาง​คน​มี​ปัญหา. พระ​เยซู​กล่าว​ต่อ​ว่า “พวก​ที่​โง่​นั้น​ก็​พูด​กับ​พวก​ที่​มี​ปัญญา​ว่า, ‘ขอ​แบ่ง​น้ำมัน​ของ​ท่าน​ให้​เรา​บ้าง ตะเกียง​ของ​เรา​จวน​จะ​ดับ​อยู่​แล้ว.’ ” (มัดธาย 25:8) หาก​ขาด​น้ำมัน ตะเกียง​ก็​ไม่​อาจ​ส่อง​แสง. น้ำมัน​ตะเกียง​จึง​ทำ​ให้​เรา​ระลึก​ถึง​พระ​คำ​แห่ง​ความ​จริง​ของ​พระเจ้า​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์ ที่​ทำ​ให้​ผู้​นมัสการ​แท้​สามารถ​เป็น​ผู้​ส่อง​ความ​สว่าง​ออกไป​ได้. (บทเพลง​สรรเสริญ 119:130; ดานิเอล 5:14) ก่อน​ถึง​ปี 1919 คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​สุขุม​พยายาม​ขวนขวาย​เพื่อ​จะ​เข้าใจ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​พวก​เขา แม้​ว่า​อยู่​ใน​สภาพ​อ่อนแอ​ใน​ช่วง​นั้น. ด้วย​เหตุ​นี้ เมื่อ​มี​การ​เรียก​ให้​ฉาย​แสง​สว่าง​ออก​ไป พวก​เขา​จึง​อยู่​พร้อม.—2 ติโมเธียว 4:2; เฮ็บราย 10:24, 25.

10 อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผู้​ถูก​เจิม​บาง​คน​ไม่​ได้​เตรียม​ตัว​ให้​พร้อม​สำหรับ​การ​เสีย​สละ​หรือ​การ​ทุ่มเท​ตน​เอง แม้​ว่า​พวก​เขา​ปรารถนา​อย่าง​จริงจัง​ที่​จะ​ไป​อยู่​กับ​เจ้าบ่าว. ฉะนั้น เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​จะ​ทำ​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี พวก​เขา​จึง​ไม่​พร้อม. (มัดธาย 24:14) พวก​เขา​ถึง​กับ​พยายาม​จะ​หน่วง​เพื่อน ๆ ของ​ตน​ที่​กระตือรือร้น​ไว้​ด้วย​ซ้ำ ประหนึ่ง​ว่า​ขอ​แบ่ง​น้ำมัน​จาก​พวก​เขา. ตาม​อุปมา​ของ​พระ​เยซู หญิง​พรหมจารี​ที่​สุขุม​ตอบ​สนอง​อย่าง​ไร? พวก​เธอ​กล่าว​ว่า “น่า​กลัว​น้ำมัน​จะ​ไม่​พอ​สำหรับ​เรา​และ​เจ้า, จง​ไป​หา​คน​ขาย​ซื้อ​สำหรับ​ตัว​เอง​จะ​ดี​กว่า.” (มัดธาย 25:9) ใน​ทำนอง​เดียว​กัน คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​ภักดี​ใน​ปี 1919 ปฏิเสธ​ไม่​ทำ​สิ่ง​ใด ๆ ที่​จะ​ลด​ทอน​ความ​สามารถ​ของ​ตน​ใน​การ​ฉาย​ความ​สว่าง. ฉะนั้น พวก​เขา​จึง​ผ่าน​การ​ตรวจ​สอบ.

11. เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​หญิง​พรหมจารี​โง่?

11 พระ​เยซู​กล่าว​ลง​ท้าย​ดัง​นี้: “เมื่อ [หญิง​พรหมจารี​โง่] กำลัง​ไป​ซื้อ​นั้น​เจ้าบ่าว​ก็​มา​ถึง, ผู้​ที่​พร้อม​อยู่​แล้ว​ก็​ได้​เข้า​ไป​กับ​ท่าน​ใน​งาน​สมรส​แล้ว​ก็​ปิด​ประตู​เสีย. ภาย​หลัง​พรหมจารี​พวก​นั้น​มา​ร้อง​ว่า, ‘ท่าน​เจ้าข้า ๆ, ขอ​เปิด​ให้​ข้าพเจ้า​เข้า​ไป​ด้วย.’ ฝ่าย​ท่าน​ตอบ​ว่า, ‘เรา​บอก​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ตาม​จริง​ว่า, เรา​ไม่​รู้​จัก​เจ้า.’ ” (มัดธาย 25:10-12) ใช่​แล้ว บาง​คน​ไม่​ได้​เตรียม​ตัว​ให้​พร้อม​สำหรับ​การ​มา​ถึง​ของ​เจ้าบ่าว. ฉะนั้น พวก​เขา​จึง​ไม่​ผ่าน​การ​ตรวจ​สอบ​และ​สูญ​เสีย​โอกาส​ที่​จะ​เข้า​ร่วม​งาน​เลี้ยง​สมรส​ใน​สวรรค์. ช่าง​น่า​เศร้า​เสีย​จริง ๆ!

อุปมา​เรื่อง​เงิน​ตะลันต์

12. (ก) พระ​เยซู​ยก​อุปมา​อะไร​ให้​เห็น​ถึง​ความ​สัตย์​ซื่อ? (ข) ใคร​คือ​ชาย​ที่ “ออก​เดิน​ทาง​ไป”?

12 หลัง​จาก​ยก​อุปมา​ให้​เห็น​ถึง​ความ​สุขุม พระ​เยซู​ยก​อุปมา​ต่อ​ไป​ให้​เห็น​ถึง​เรื่อง​ความ​สัตย์​ซื่อ. พระองค์​ตรัส​ว่า “ยัง​เปรียบ​เหมือน​ชาย​ผู้​หนึ่ง​จะ​ออก​เดิน​ทาง​ไป จึง​เรียก​พวก​ทาส​ของ​ตน​มา​ฝาก​ทรัพย์​สมบัติ​ไว้ คน​หนึ่ง​ท่าน​ให้​ห้า​ตะลันต์ คน​หนึ่ง​สอง​ตะลันต์ และ​อีก​คน​หนึ่ง​ตะลันต์​เดียว ตาม​ความ​สามารถ​ของ​แต่​ละ​คน แล้ว​ท่าน​ก็​ไป.” (มัดธาย 25:14, 15, ฉบับ​แปล​ใหม่) ชาย​ที่​กล่าว​ถึง​ใน​อุปมา​คือ​พระ​เยซู​เอง ซึ่ง “ออก​เดิน​ทาง​ไป” เมื่อ​เสด็จ​สู่​สวรรค์​ใน​ปี ส.ศ. 33. แต่​ก่อน​จาก​ไป พระ​เยซู​ฝาก “ทรัพย์​สมบัติ” ไว้​ให้​สาวก​ที่​สัตย์​ซื่อ​ดู​แล. โดย​วิธี​ใด?

13. โดย​วิธี​ใด​ที่​พระ​เยซู​เตรียม​ทุ่ง​นา​ที่​กว้าง​ใหญ่​สำหรับ​กิจการ​งาน และ​มอบหมาย​ให้ “พวก​ทาส” ไป​ทำ​การ​ค้า​ขาย?

13 ระหว่าง​งาน​รับใช้​ทาง​แผ่นดิน​โลก พระ​เยซู​เริ่ม​เตรียม​ทุ่ง​นา​ที่​กว้าง​ใหญ่​สำหรับ​กิจการ​งาน​ด้วย​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ไป​ทั่ว​เขต​แดน​อิสราเอล. (มัดธาย 9:35-38) ก่อน “ออก​เดิน​ทาง​ไป” พระองค์​ฝาก​ทุ่ง​นา​นั้น​ไว้​ให้​บรรดา​สาวก​ที่​สัตย์​ซื่อ​ดู​แล โดย​ตรัส​ว่า “ฉะนั้น จง​ไป​ทำ​ให้​คน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก ให้​เขา​รับ​บัพติสมา​ใน​นาม​แห่ง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ สอน​เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้.” (มัดธาย 28:18-20, ล.ม.) ด้วย​ถ้อย​คำ​ดัง​กล่าว พระ​เยซู​มอบหมาย​ให้ “พวก​ทาส” ไป​ทำ​การ​ค้า​ขาย “ตาม​ความ​สามารถ​ของ​แต่​ละคน” จน​กว่า​พระองค์​จะ​เสด็จ​กลับ​มา.

14. เหตุ​ใด​จึง​ไม่​มี​การ​คาด​หมาย​ให้​ทุก​คน​ทำ​การ​ค้า​ขาย​ใน​ปริมาณ​เท่า ๆ กัน?

14 คำ​กล่าว​นั้น​บ่ง​ชี้​ว่า​ไม่​ใช่​คริสเตียน​ทุก​คน​ใน​ศตวรรษ​แรก​มี​สภาพการณ์​หรือ​โอกาส​เหมือน ๆ กัน. บาง​คน​อย่าง​เช่น​เปาโล​และ​ติโมเธียว อยู่​ใน​สภาพ​ที่​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ​สั่ง​สอน​ได้​อย่าง​อิสระ​เต็ม​ที่. คน​อื่น ๆ อาจ​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​ทำ​ได้​อย่าง​จำกัด​มาก. ตัว​อย่าง​เช่น คริสเตียน​บาง​คน​เป็น​ทาส, และ​บาง​คน​สุขภาพ​ไม่​ค่อย​แข็งแรง, สูง​อายุ, หรือ​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ภาย​ใน​ครอบครัว. แน่​ล่ะ สิทธิ​พิเศษ​บาง​อย่าง​ใน​ประชาคม​ไม่​ได้​เปิด​ออก​แก่​สาวก​ทุก​คน. บรรดา​สตรี​ที่​ถูก​เจิม​และ​ผู้​ชาย​ที่​ถูก​เจิม​บาง​คน​ไม่​ได้​ทำ​หน้า​ที่​สอน​ภาย​ใน​ประชาคม. (1 โกรินโธ 14:34; 1 ติโมเธียว 3:1; ยาโกโบ 3:1) แต่​ไม่​ว่า​สภาพการณ์​ของ​แต่​ละ​คน​จะ​เป็น​เช่น​ไร สาวก​ผู้​ถูก​เจิม​ทุก​คน​ของ​พระ​คริสต์ ทั้ง​ชาย​และ​หญิง ต่าง​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ทำ​การ​ค้า​ขาย คือ​ใช้​โอกาส​และ​สภาพการณ์​ของ​ตน​ให้​เป็น​ประโยชน์​เพื่อ​ทำ​งาน​รับใช้​ของ​คริสเตียน. สาวก​ของ​พระ​คริสต์​ใน​สมัย​ปัจจุบัน​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน.

เวลา​แห่ง​การ​ตรวจ​สอบ​เริ่ม​ต้น!

15, 16. (ก) เมื่อ​ไร​เป็น​เวลา​คิด​บัญชี? (ข) โอกาส​เพิ่ม​เติม​อะไร​ที่​ให้​แก่​เหล่า​ผู้​สัตย์​ซื่อ​เพื่อ “ทำ​การ​ค้า​ขาย”?

15 อุปมา​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า “ครั้น​อยู่​มา​ช้า​นาน นาย​จึง​มา​คิด​บัญชี​กับ​บ่าว​เหล่า​นั้น.” (มัดธาย 25:19) ใน​ปี 1914—ผ่าน​ไป​นาน​จริง ๆ นับ​จาก​ปี ส.ศ. 33—พระ​คริสต์​เยซู​เริ่ม​การ​ประทับ​ของ​พระองค์​ใน​ฐานะ​กษัตริย์. หลัง​จาก​ผ่าน​ไป​สาม​ปี​ครึ่ง ใน​ปี 1918 พระองค์​เสด็จ​มา​ยัง​พระ​วิหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​และ​ทำ​ให้​ถ้อย​คำ​ของ​เปโตร​เป็น​จริง​ที่​ว่า “ถึง​เวลา​กำหนด​แล้ว​ที่​การ​พิพากษา​จะ​เริ่ม​ต้น​กับ​ราชนิเวศ​ของ​พระเจ้า.” (1 เปโตร 4:17, ล.ม.; มาลาคี 3:1) นี่​เป็น​เวลา​คิด​บัญชี.

16 พวก​ทาส หรือ​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ของ​พระ​เยซู ได้​ทำ​อะไร​กับ “[เงิน] ตะลันต์” ของ​กษัตริย์? ตั้ง​แต่​ปี ส.ศ. 33 เป็น​ต้น​มา รวม​ไป​ถึง​ปี​ต่าง ๆ ที่​นำ​ไป​สู่​ปี 1914 หลาย​คน​ได้​ขยัน​ขันแข็ง​ใน “การ​ค้า​ขาย” ของ​พระ​เยซู. (มัดธาย 25:16, ล.ม.) แม้​แต่​ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​หนึ่ง พวก​เขา​ก็​แสดงความ​ปรารถนา​อย่าง​แรง​กล้า​ที่​จะ​รับใช้​นาย. บัด​นี้​เป็น​เวลา​เหมาะ​ที่​จะ​ให้​โอกาส​เพิ่ม​เติม​แก่​เหล่า​ผู้​สัตย์​ซื่อ​เพื่อ “ทำ​การ​ค้า​ขาย.” เวลา​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้​มา​ถึง​แล้ว. ข่าว​ดี​จะ​ต้อง​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ไป​ทั่ว​โลก. “ผล​ที่​จะ​เก็บ​เกี่ยว​ของ​แผ่นดิน​โลก​นั้น” จะ​ต้อง​ได้​รับ​การ​เกี่ยว. (วิวรณ์ 14:6, 7, 14-16, ล.ม.) เหล่า​ผู้​สัตย์​ซื่อ​จะ​ต้อง​ค้น​หา​สมาชิก​กลุ่ม​สุด​ท้าย​ของ​ชน​ชั้น​ข้าว​ดี และ​รวบ​รวม “ชน​ฝูง​ใหญ่” แห่ง​แกะ​อื่น​เข้า​มา.—วิวรณ์ 7:9, ล.ม.; มัดธาย 13:24-30.

17. คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​สัตย์​ซื่อ “ร่วม​ความ​ยินดี​กับ​นาย” ใน​ทาง​ใด?

17 ฤดู​เกี่ยว​เป็น​ช่วง​เวลา​แห่ง​ความ​ยินดี. (บทเพลง​สรรเสริญ 126:6) ฉะนั้น จึง​เหมาะ​ที่​ว่า​เมื่อ​พระ​เยซู​มอบ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​เพิ่ม​ขึ้น​แก่​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​สัตย์​ซื่อ​ของ​พระองค์​ใน​ปี 1919 นั้น พระองค์​ตรัส​ว่า “เจ้า​สัตย์​ซื่อ​ใน​ของ​เล็ก​น้อย, เรา​จะ​ตั้ง​เจ้า​ให้​ดู​แล​ของ​มาก เจ้า​จง​ร่วม​ความ​ยินดี​กับ​นาย​เถิด.” (มัดธาย 25:21, 23) ยิ่ง​ไป​กว่า​นั้น ความ​ยินดี​ของ​นาย​ฐานะ​กษัตริย์​ที่​เพิ่ง​ขึ้น​ครอง​ราชย์​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​นั้น​เกิน​กว่า​ที่​เรา​จะ​นึก​ภาพ​ได้. (บทเพลง​สรรเสริญ 45:1, 2, 6, 7) ชน​ชั้น​ทาส​สัตย์​ซื่อ​ร่วม​ความ​ยินดี​นี้​ด้วย​การ​เป็น​ตัว​แทน​ของ​กษัตริย์​และ​เพิ่ม​พูน​ผล​ประโยชน์​ของ​พระองค์​บน​แผ่นดิน​โลก. (2 โกรินโธ 5:20) ความ​ยินดี​ของ​พวก​เขา​ปรากฏ​ให้​เห็น​ใน​คำ​พยากรณ์ ที่​ยะซายา 61:10 ว่า “ข้าพเจ้า​จะ​ยินดี​เป็น​อย่าง​ยิ่ง​ใน​องค์​พระ​ยะโฮวา, ข้าพเจ้า​จะ​ปลาบปลื้ม​ใน​องค์​พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า, เพราะ​พระองค์​ได้​ทรง​เอา​ความ​รอด​มา​สวม​ใส่​ข้าพเจ้า​เป็น​เครื่อง​นุ่ง​ห่ม.”

18. เหตุ​ใด​บาง​คน​ไม่​ผ่าน​การ​ตรวจ​สอบ และ​ผล​เป็น​เช่น​ไร?

18 น่า​เศร้า บาง​คน​ไม่​ผ่าน​การ​ตรวจ​สอบ. เรา​อ่าน​ว่า “ฝ่าย​คน​ที่​ได้​รับ​ตะลันต์​เดียว​นั้น​มา​ชี้​แจง​ด้วย​ว่า, ‘นาย​เจ้าข้า, ข้าพเจ้า​รู้​อยู่​ว่า​ท่าน​เป็น​คน​ใจ​แข็ง, เกี่ยว​ผล​ที่​ท่าน​มิ​ได้​หว่าน, เก็บ​สะสม​ที่​ท่าน​มิ​ได้​โปรย ข้าพเจ้า​กลัว​จึง​เอา​ทรัพย์​ของ​ท่าน​ไป​ซ่อน​ไว้​ใต้​ดิน ดู​เถิด, ของ ๆ ท่าน​เท่า​ไร ท่าน​ก็​ได้​เท่า​นั้น.’ ” (มัดธาย 25:24, 25) ทำนอง​เดียว​กัน คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​บาง​คน​ไม่​ทำ “การ​ค้า​ขาย.” ก่อน​ปี 1914 คน​เหล่า​นี้​ไม่​กระตือรือร้น​ที่​จะ​แบ่ง​ปัน​ความ​หวัง​ของ​ตน​กับ​คน​อื่น ๆ และ​พวก​เขา​ก็​ไม่​อยาก​เริ่ม​ทำ​เมื่อ​ถึง​ปี 1919. พระ​เยซู​มี​ปฏิกิริยา​เช่น​ไร​ต่อ​การ​พูด​จาบจ้วง​ของ​พวก​เขา? พระองค์​ริบ​สิทธิ​พิเศษ​ทุก​อย่าง​จาก​พวก​เขา. พวก​เขา​ถูก “ทิ้ง​เสีย​ที่​มืด​ภาย​นอก ซึ่ง​มี​แต่​การ​ร้องไห้​ขบ​เขี้ยว​เคี้ยว​ฟัน.”—มัดธาย 25:28, 30.

การ​ตรวจ​สอบ​ดำเนิน​ต่อ​ไป

19. การ​ตรวจ​สอบ​ดำเนิน​ต่อ​ไป​ใน​วิธี​ใด และ​บรรดา​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​ทำ​อะไร?

19 แน่นอน ส่วน​ใหญ่​ของ​ผู้​ที่​จะ​เข้า​มา​เป็น​ทาส​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม​ของ​พระ​คริสต์​ระหว่าง​สมัย​สุด​ท้าย​นั้น​ยัง​ไม่​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ใน​ตอน​ที่​พระ​เยซู​เริ่ม​ทำ​การ​ตรวจ​สอบ​ใน​ปี 1918. พวก​เขา​ไม่​มี​โอกาส​ที่​จะ​ถูก​ตรวจ​สอบ​ไหม? ไม่​เลย. การ​ตรวจ​สอบ​ใน​ช่วง​ปี 1918 ถึง 1919 ซึ่ง​ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​ใน​ฐานะ​กลุ่ม​ชน ผ่าน​การ​ทดสอบ เป็น​แค่​จุด​เริ่ม​ต้น​เท่า​นั้น. คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​เป็น​ราย​บุคคล​ยัง​คง​ถูก​ตรวจ​สอบ​อยู่​ต่อ​ไป​จน​กว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​ประทับ​ตรา​อย่าง​ถาวร. (วิวรณ์ 7:1-3) โดย​ตระหนัก​ถึง​ข้อ​นี้ พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ของ​พระ​คริสต์​จึง​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ “ทำ​การ​ค้า​ขาย” ต่อ​ไป​ด้วย​ความ​สัตย์​ซื่อ. พวก​เขา​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​สุขุม โดย​เก็บ​กัก​น้ำมัน​ไว้​ให้​มาก​เพื่อ​จะ​ฉาย​แสง​ออก​ไป​อย่าง​สว่างไสว. พวก​เขา​รู้​ว่า​เมื่อ​แต่​ละ​คน​ไป​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แห่ง​แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​ตน​อย่าง​สัตย์​ซื่อ พระ​เยซู​จะ​รับ​เขา​ไป​สู่​ที่​พำนัก​ใน​สวรรค์.—มัดธาย 24:13; โยฮัน 14:2-4; 1 โกรินโธ 15:50, 51.

20. (ก) แกะ​อื่น​ใน​ทุก​วัน​นี้​ตั้งใจ​จะ​ทำ​ประการ​ใด? (ข) คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ตระหนัก​ถึง​อะไร?

20 ชน​ฝูง​ใหญ่​แห่ง​แกะ​อื่น​ติด​ตาม​แบบ​อย่าง​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ของ​พวก​เขา. พวก​เขา​ตระหนัก​ว่า​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​นำ​มา​ซึ่ง​ความ​รับผิดชอบ​อย่าง​มาก. (ยะเอศเคล 3:17-21) ฉะนั้น ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​คำ​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา พวก​เขา​จึง​เก็บ​กัก​น้ำมัน​ไว้​ให้​มาก​เช่น​กัน​โดย​การ​ศึกษา​และ​การ​เข้า​ร่วม​ประชุม. และ​พวก​เขา​ให้​ความ​สว่าง​ของ​ตน​ส่อง​ออก​ไป เข้า​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ​และ​การ​สอน และ​โดย​วิธี​นี้​จึง​เป็น​การ “ทำ​การ​ค้า​ขาย” ร่วม​กับ​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ของ​พวก​เขา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ตระหนัก​อย่าง​จริงจัง​ว่า​เงิน​ตะลันต์​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​ตน. พวก​เขา​ต้อง​ให้​การ​เกี่ยว​กับ​วิธี​บริหาร​ทรัพย์​สมบัติ​บน​แผ่นดิน​โลก​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า. แม้​ว่า​มี​จำนวน​น้อย พวก​เขา​ไม่​อาจ​ทิ้ง​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ให้​ชน​ฝูง​ใหญ่. ด้วย​คำนึง​ถึง​เรื่อง​นี้ ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​จึง​นำ​หน้า​ต่อ​ไป​ใน​การ​ดู​แล​กิจการ​งาน​ของ​กษัตริย์ และ​หยั่ง​รู้​ค่า​ที่​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​จาก​สมาชิก​ของ​ชน​ฝูง​ใหญ่​ที่​ภักดี. คน​เหล่า​นี้​ตระหนัก​ถึง​บทบาท​หน้า​ที่​ของ​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​และ​รู้สึก​เป็น​เกียรติ​ที่​ได้​ทำ​งาน​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ของ​พวก​เขา.

21. คำ​กระตุ้น​เตือน​อะไร​ที่​ใช้​ได้​กับ​คริสเตียน​ทุก​คน​ตั้ง​แต่​ก่อน​ปี 1919 มา​จน​ถึง​สมัย​ของ​เรา?

21 ฉะนั้น แม้​ว่า​อุปมา​สอง​เรื่อง​จะ​ให้​ความ​กระจ่าง​แก่​เรา​ใน​เรื่อง​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​ราว ๆ ปี 1919 แต่​หลักการ​จาก​สอง​เรื่อง​นั้น​นำ​มา​ใช้​ได้​กับ​คริสเตียน​แท้​ทุก​คน​ตลอด​สมัย​สุด​ท้าย. โดย​วิธี​นี้ ขณะ​ที่​คำ​กระตุ้น​เตือน​ที่​พระ​เยซู​กล่าว​ปิด​ท้าย​อุปมา​เรื่อง​หญิง​พรหมจารี​สิบ​คน​นั้น​ใช้​กับ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ก่อน​ปี 1919 ใน​อันดับ​แรก แต่​โดย​หลักการ​แล้ว คำ​กระตุ้น​เตือน​ดัง​กล่าว​ก็​ยัง​คง​ใช้​ได้​กับ​คริสเตียน​ทุก​คน. ดัง​นั้น ขอ​ให้​เรา​ทุก​คน​เอา​ใจ​ใส่​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น​จง​เฝ้า​ระวัง​อยู่, เพราะ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​รู้​กำหนด​วัน​หรือ​โมง​นั้น.”—มัดธาย 25:13.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 2 ใน​ลักษณะ​คล้าย​กัน หลัง​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​พวก​อัครสาวก “สุนัข​ป่า​อัน​ร้าย” มา​จาก​หมู่​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​ที่​ถูก​เจิม.—กิจการ 20:29, 30.

^ วรรค 6 สำหรับ​การ​พิจารณา​เพิ่ม​เติม​เกี่ยว​กับ​อุปมา​ของ​พระ​เยซู ดู​หนังสือ​ความ​ปลอด​ภัย​ทั่ว​โลก​ภาย​ใต้ “องค์​สันติ​ราช” (ภาษา​อังกฤษ) จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา บท 5 และ 6.

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม?

• พระ​เยซู​ตรวจ​สอบ​สาวก​ของ​พระองค์​เมื่อ​ไร และ​พระองค์​พบ​อะไร?

• เหตุ​ใด​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​บาง​คน​จึง​พัฒนา​น้ำใจ​เยี่ยง ‘ทาส​ชั่ว’?

• เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​ตัว​เรา​สุขุม​ฝ่าย​วิญญาณ?

• โดย​การ​ติด​ตาม​แบบ​อย่าง​ของ​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​สัตย์​ซื่อ​ของ​พระ​เยซู เรา​จะ “ทำ​การ​ค้า​ขาย” ต่อ ๆ ไป​โดย​วิธี​ใด?

[คำ​ถาม]

[กรอบ​หน้า 16]

พระ​เยซู​มา​เมื่อ​ไร?

ใน​มัดธาย​บท 24 และ 25 มี​การ​กล่าว​ว่า​พระ​เยซู “มา” ใน​ความหมาย​ที่​ต่าง​กัน. เพื่อ​จะ “มา” พระองค์​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เดิน​ทาง​จาก​ที่​หนึ่ง​ไป​อีก​ที่​หนึ่ง​จริง ๆ. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น พระองค์ “มา” ใน​ความหมาย​ของ​การ​หัน​ความ​สน​พระทัย​มา​ยัง​มนุษยชาติ​หรือ​ยัง​สาวก​ของ​พระองค์ บ่อย​ครั้ง​เพื่อ​การ​พิพากษา. ฉะนั้น ใน​ปี 1914 พระองค์ “มา” เพื่อ​เริ่ม​ต้น​การ​ประทับ​ของ​พระองค์​ฐานะ​กษัตริย์​ที่​ครอง​บัลลังก์. (มัดธาย 16:28; 17:1; กิจการ 1:11) ใน​ปี 1918 พระองค์ “มา” ฐานะ​ทูต​แห่ง​สัญญา​ไมตรี​และ​เริ่ม​ต้น​พิพากษา​คน​ที่​อ้าง​ว่า​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. (มาลาคี 3:1-3, ล.ม.; 1 เปโตร 4:17) ณ อาร์มาเก็ดดอน พระองค์​จะ “มา” เพื่อ​ลง​โทษ​ตาม​การ​พิพากษา​เหล่า​ศัตรู​ของ​พระ​ยะโฮวา.—วิวรณ์ 19:11-16.

การ​มา (หรือ การ​มา​ถึง) ที่​มี​การ​อ้าง​ถึง​หลาย​ครั้ง​ใน​มัดธาย 24:29-44 และ 25:31-46 เกิด​ขึ้น​ใน​คราว “ความ​ทุกข์​ลำบาก​ครั้ง​ใหญ่.” (วิวรณ์ 7:14, ล.ม.) ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง การ​มา​ที่​มี​การ​อ้าง​ถึง​หลาย​ครั้ง​ใน​มัดธาย 24:45 ถึง 25:30 เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​พิพากษา​ของ​พระองค์​ต่อ​ผู้​ที่​ประกาศ​ตัว​เป็น​สาวก​ตั้ง​แต่​ปี 1918 เป็น​ต้น​มา. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง คง​ไม่​เป็น​เรื่อง​สม​เหตุ​สม​ผล​ที่​จะ​กล่าว​ว่า การ​ให้​รางวัล​ทาส​สัตย์​ซื่อ, การ​พิพากษา​หญิง​พรหมจารี​โง่, และ​การ​พิพากษา​ทาส​เกียจ​คร้าน​ที่​ซ่อน​เงิน​ตะลันต์​ของ​นาย จะ​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​พระ​เยซู “มา” คราว​ความ​ทุกข์​ลำบาก​ครั้ง​ใหญ่. นั่น​จะ​หมายความ​ว่า​จะ​มี​การ​พบ​ว่า​ผู้​ถูก​เจิม​หลาย​คน​ไม่​สัตย์​ซื่อ​ใน​เวลา​นั้น​และ​จึง​ต้อง​หา​ใคร​มา​แทน. แต่​ทว่า​วิวรณ์ 7:3 บ่ง​ชี้​ว่า​ใน​ตอน​นั้น ทาส​ผู้​ถูก​เจิม​ของ​พระ​คริสต์​ทั้ง​หมด​จะ​ถูก “ประทับ​ตรา” อย่าง​ถาวร.

[ภาพ​หน้า 14]

‘ทาส​ชั่ว’ ไม่​ได้​รับ​ความ​พอ​พระทัย​ใน​ปี 1919

[ภาพ​หน้า 15]

หญิง​พรหมจารี​ที่​มี​ปัญญา​อยู่​พร้อม​เมื่อ​เจ้าบ่าว​มา​ถึง

[ภาพ​หน้า 17]

ทาส​สัตย์​ซื่อ​ได้​ทำ “การ​ค้า​ขาย”

ทาส​เกียจ​คร้าน​ไม่​ได้​ทำ​อย่าง​นั้น

[ภาพ​หน้า 18]

ผู้​ถูก​เจิม​และ “ชน​ฝูง​ใหญ่” ให้​ความ​สว่าง​ของ​ตน​ส่อง​ออก​ต่อ ๆ ไป