ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“ทาส” ที่ทั้งสัตย์ซื่อและสุขุม

“ทาส” ที่ทั้งสัตย์ซื่อและสุขุม

“ทาส” ที่​ทั้ง​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม

“แท้​จริง ใคร​เป็น​ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​ซึ่ง​นาย​ได้​แต่ง​ตั้ง​ให้​ดู​แล​คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย​ของ​นาย?”—มัดธาย 24:45, ล.ม.

1, 2. ทำไม​เรา​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​ประจำ​ใน​ทุก​วัน​นี้?

บ่าย​วัน​อังคาร​ที่ 11 เดือน​ไนซาน ปี ส.ศ. 33 เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ยก​คำ​ถาม​หนึ่ง​ขึ้น​มา​ที่​มี​ความหมาย​ลึกซึ้ง​สำหรับ​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้. พวก​เขา​ถาม​พระองค์​ว่า “จะ​มี​อะไร​เป็น​หมาย​สำคัญ​แห่ง​การ​ประทับ​ของ​พระองค์​และ​ช่วง​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้?” ใน​คำ​ตอบ พระ​เยซู​กล่าว​คำ​พยากรณ์​ที่​จับ​ความ​สนใจ​อย่าง​ยิ่ง. พระองค์​ตรัส​ถึง​ช่วง​เวลา​ที่​ปั่นป่วน​วุ่นวาย​ไป​ด้วย​สงคราม, การ​ขาด​แคลน​อาหาร, แผ่นดิน​ไหว, และ​โรค​ต่าง ๆ. และ​สิ่ง​เหล่า​นี้​จะ​เป็น​แค่ “การ​เริ่ม​ต้น​ของ​ความ​ปวด​ร้าว​แห่ง​ความ​ทุกข์.” สถานการณ์​ยัง​จะ​เลว​ร้าย​ลง​ไป​อีก. สิ่ง​ที่​คาด​หมาย​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น​นั้น​ช่าง​น่า​กลัว​จริง ๆ!—มัดธาย 24:3, 7, 8, 15-22, ล.ม.; ลูกา 21:10, 11.

2 ตั้ง​แต่​ปี 1914 เรื่อย​มา แง่​มุม​ส่วน​ใหญ่​แห่ง​คำ​พยากรณ์​ของ​พระ​เยซู​ได้​สำเร็จ​ไป​แล้ว. “ความ​ปวด​ร้าว​แห่ง​ความ​ทุกข์” เกิด​ขึ้น​กับ​มนุษยชาติ​อย่าง​มาก​มาย. กระนั้น คริสเตียน​แท้​ไม่​จำเป็น​ต้อง​กลัว. พระ​เยซู​สัญญา​ว่า​พระองค์​จะ​ค้ำจุน​พวก​เขา​ด้วย​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​บำรุง​เลี้ยง. เนื่อง​จาก​ขณะ​นี้​พระ​เยซู​อยู่​ใน​สวรรค์ พระองค์​ได้​เตรียม​การ​อย่าง​ไร​เพื่อ​ให้​เรา​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​ได้​รับ​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ?

3. พระ​เยซู​จัด​เตรียม​อะไร​ไว้​เพื่อ​เรา​จะ​ได้​รับ “อาหาร . . . ใน​เวลา​อัน​เหมาะ”?

3 พระ​เยซู​เอง​เผย​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​ดัง​กล่าว. ขณะ​ที่​พระองค์​กำลัง​กล่าว​คำ​พยากรณ์​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​นั้น พระองค์​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า “แท้​จริง ใคร​เป็น​ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​ซึ่ง​นาย​ได้​แต่ง​ตั้ง​ให้​ดู​แล​คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย​ของ​นาย เพื่อ​ให้​อาหาร​แก่​พวก​เขา​ใน​เวลา​อัน​เหมาะ?” จาก​นั้น พระองค์​กล่าว​ว่า “ทาส​ผู้​นั้น​ก็​เป็น​สุข ถ้า​ตอน​ที่​นาย​มา​ถึง พบ​ว่า​เขา​กำลัง​ทำ​อย่าง​นั้น. เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ตาม​จริง​ว่า นาย​จะ​แต่ง​ตั้ง​เขา​ให้​ดู​แล​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​นาย.” (มัดธาย 24:45-47, ล.ม.) ถูก​แล้ว จะ​มี “ทาส” ผู้​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​จัด​เตรียม​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ “ทาส” นี้​จะ​ทั้ง​สัตย์​ซื่อ และ​สุขุม. ทาส​นี้​จะ​เป็น​คน​คน​เดียว​ไหม หรือ​ว่า​เป็น​บุคคล​ที่​สืบ​ทอด​ตำแหน่ง​กัน​ไป​ที​ละ​คน หรือ​ว่า​จะ​เป็น​อย่าง​อื่น? เนื่อง​จาก​ทาส​สัตย์​ซื่อ​นี้​จัด​เตรียม​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​จำเป็น​อย่าง​มาก เรา​จึง​สนใจ​ที่​จะ​หา​คำ​ตอบ.

คน​เดียว​หรือ​กลุ่ม​ชน?

4. เรา​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” ไม่​อาจ​จะ​เป็น​คน​คน​เดียว​ได้?

4 “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” ไม่​อาจ​จะ​เป็น​คน​คน​เดียว​ได้. เพราะ​เหตุ​ใด? เนื่อง​จาก​ว่า​ทาส​เริ่ม​ทำ​หน้า​ที่​ให้​อาหาร​ฝ่ายวิญญาณ​มา​ตั้ง​แต่​ศตวรรษ​แรก และ​ตาม​ที่​พระ​เยซู​กล่าว ทาส​นี้​จะ​ยัง​คง​ทำ​หน้า​ที่​ดัง​กล่าว​เมื่อ​นาย​มา​ถึง​ใน​ปี 1914. นั่น​จะ​หมายความ​ว่า คน​คน​เดียว​ทำ​หน้า​ที่​นี้​อย่าง​สัตย์​ซื่อ​เป็น​เวลา​ถึง 1,900 ปี. แม้​แต่​มะธูเซลา​ก็​ยัง​ไม่​อายุ​ยืน​ถึง​ขนาด​นั้น!—เยเนซิศ 5:27.

5. จง​อธิบาย​เหตุ​ผล​ที่​คำ​ว่า “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” ไม่​อาจ​ใช้​กับ​คริสเตียน​แต่​ละ​คน​เป็น​ราย​บุคคล.

5 ถ้า​อย่าง​นั้น คำ “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” อาจ​ใช้​ใน​ความหมาย​ทั่ว​ไป​กับ​คริสเตียน​แต่​ละ​คน​ไหม? เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า​คริสเตียน​ทุก​คน​ต้อง​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม แต่​เห็น​ได้​ชัด​ว่า พระ​เยซู​กำลัง​นึก​ถึง​อะไร​มาก​กว่า​นั้น เมื่อ​ตรัส​ถึง “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” เรา​รู้​ได้​อย่าง​ไร? ก็​เพราะ​พระองค์​บอก​ว่า เมื่อ “นาย​มา​ถึง” นาย​จะ​แต่ง​ตั้ง​ทาส​นี้ “ให้​ดู​แล​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด ของ​นาย.” คริสเตียน​แต่​ละ​คน​เป็น​ราย​บุคคล​จะ​ถูก​แต่ง​ตั้ง​ให้​ดู​แล​ทุก​สิ่ง กล่าว​คือ​ทรัพย์​สมบัติ “ทั้ง​หมด” ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​อย่าง​ไร? เป็น​ไป​ไม่​ได้!

6. ชาติ​อิสราเอล​ควร​ทำ​หน้า​ที่​เป็น “ผู้​รับใช้” หรือ “ทาส” ของ​พระเจ้า​อย่าง​ไร?

6 ถ้า​เช่น​นั้น ข้อ​สรุป​อย่าง​เดียว​ที่​สม​เหตุ​สม​ผล​ก็​คือ พระ​เยซู​กล่าว​ถึง​คริสเตียน​กลุ่ม​หนึ่ง​ว่า​เป็น “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” เป็น​ไป​ได้​หรือ​ที่​จะ​มี​ทาส​ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​สมาชิก​หลาย​คน? ใช่​แล้ว. เจ็ด​ร้อย​ปี​ก่อน​สมัย​พระ​คริสต์ พระ​ยะโฮวา​กล่าว​ถึง​ชาติ​อิสราเอล​ทั้ง​ชาติ​ว่า​เป็น “พยาน​ของ​เรา” และ​เป็น “ผู้​รับใช้ [รูป​เอกพจน์] ของ​เรา​ที่​เรา​ได้​เลือก​สรร​ไว้.” (ยะซายา 43:10) สมาชิก​ทุก​คน​ใน​ชาติ​อิสราเอล​นับ​ตั้ง​แต่​ปี 1513 ก่อน ส.ศ. อัน​เป็น​ปี​ที่​มี​การ​ประทาน​พระ​บัญญัติ​ของ​โมเซ เรื่อย​มา​จน​ถึง​วัน​เพนเทคอสต์​ปี ส.ศ. 33 เป็น​ส่วน​ของ​ชน​ชั้น​ผู้​รับใช้​นี้. ประชากร​ส่วน​ใหญ่​ใน​ชาติ​อิสราเอล​ไม่​ได้​มี​บทบาท​โดย​ตรง​ใน​การ​บริหาร​กิจการ​ต่าง ๆ ของ​ชาติ หรือ​ใน​การ​จัด​ให้​มี​การ​บำรุง​เลี้ยง​ฝ่าย​วิญญาณ. พระ​ยะโฮวา​ทรง​ใช้​กษัตริย์, ผู้​วินิจฉัย, ผู้​พยากรณ์, ปุโรหิต, และ​พวก​เลวี ให้​ทำ​หน้า​ที่​ดัง​กล่าว. กระนั้น ใน​ฐานะ​เป็น​ชาติ​หนึ่ง ชาติ​อิสราเอล​ต้อง​เป็น​ตัว​แทน​ที่​แสดง​ถึง​พระ​บรม​เดชานุภาพ​ของ​พระ​ยะโฮวา และ​ถวาย​คำ​สรรเสริญ​พระองค์​ท่ามกลาง​นานา​ชาติ. ชาว​อิสราเอล​แต่​ละ​คน​ต้อง​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​พยาน​ของ​พระ​ยะโฮวา.—พระ​บัญญัติ 26:19; ยะซายา 43:21; มาลาคี 2:7; โรม 3:1, 2.

“ผู้​รับใช้” ถูก​ปลด​ออก​จาก​หน้า​ที่

7. เหตุ​ใด​ชาติ​อิสราเอล​โบราณ​จึง​ถูก​ถอด​ออก​จาก​การ​เป็น “ผู้​รับใช้” ของ​พระเจ้า?

7 เนื่อง​จาก​ชาติ​อิสราเอล​เป็น “ผู้​รับใช้” ของ​พระเจ้า​หลาย​ศตวรรษ​มา​แล้ว ชาติ​นี้​จะ​เป็น​ทาส​ที่​พระ​เยซู​กล่าว​ถึง​ด้วย​ไหม? ไม่ เพราะ​ชาติ​อิสราเอล​โบราณ​ปรากฏ​ว่า​ทั้ง​ไม่​สัตย์​ซื่อ​และ​ไม่​สุขุม​อย่าง​น่า​เศร้า​ใจ. เปาโล​สรุป​สภาพ​นั้น เมื่อ​ท่าน​ยก​ถ้อย​คำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ตรัส​ถึง​ชาติ​นี้​มา​กล่าว​ที่​ว่า “คน​ต่าง​ชาติ​พูด​หยาบ​หยาม​ต่อ​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​ก็​เพราะ​ท่าน​ทั้ง​หลาย.” (โรม 2:24, ฉบับ​แปล​ใหม่) อัน​ที่​จริง ชาติ​อิสราเอล​มา​ถึง​จุด​สุด​ยอด​แห่ง​ประวัติศาสตร์​อัน​ยาว​นาน​ของ​การ​กบฏ​ด้วย​การ​ปฏิเสธ​พระ​เยซู ซึ่ง ณ จุด​นี้​เอง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ปฏิเสธ​พวก​เขา.—มัดธาย 21:42, 43.

8. เมื่อ​ไร​ที่​มี​การ​แต่ง​ตั้ง “ผู้​รับใช้” ให้​สวม​ตำแหน่ง​แทน​ชาติ​อิสราเอล และ​ภาย​ใต้​สภาพการณ์​เช่น​ไร?

8 ความ​ไม่​สัตย์​ซื่อ​ดัง​กล่าว​ใน​ส่วน​ของ “ผู้​รับใช้” หรือ​ชาติ​อิสราเอล​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า ผู้​นมัสการ​ที่​สัตย์​ซื่อ​จะ​ไม่​ได้​รับ​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อีก​ต่อ​ไป. ใน​วัน​เพนเทคอสต์ ปี ส.ศ. 33 หลัง​จาก​พระ​เยซู​คืน​พระ​ชนม์ 50 วัน มี​การ​หลั่ง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ลง​บน​สาวก​ของ​พระองค์​ประมาณ 120 คน ที่​อยู่​ใน​ห้อง​ชั้น​บน​ใน​กรุง​เยรูซาเลม. ใน​คราว​นั้น​เอง ชาติ​ใหม่​ได้​ก่อ​กำเนิด. สาธารณชน​ได้​ทราบ​ถึง​การ​ก่อ​กำเนิด​ของชาติ​นี้​อย่าง​สม​ควร เมื่อ​สมาชิก​ของ​ชาติ​ดัง​กล่าว​เริ่ม​บอก​ผู้​คน​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​อย่าง​กล้า​หาญ​ให้​รู้​ถึง “ราชกิจ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระเจ้า.” (กิจการ 2:11, ล.ม.) โดย​วิธี​นี้ ชาติ​ใหม่​นี้​ใน​ฐานะ​ชาติ​ฝ่าย​วิญญาณ จึง​กลาย​มา​เป็น “ผู้​รับใช้” ที่​จะ​ประกาศ​สง่า​ราศี​ของ​พระ​ยะโฮวา​แก่​นานา​ชาติ และ​แจก​จ่าย​อาหาร​ใน​เวลา​อัน​เหมาะ. (1 เปโตร 2:9) ต่อ​มา​ชาติ​นี้​ถูก​ขนาน​นาม​อย่าง​เหมาะ​สม​ว่า “ชาติ​อิสราเอล​ของ​พระเจ้า.”—ฆะลาเตีย 6:16, ล.ม.

9. (ก) ใคร​ประกอบ​กัน​เป็น “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม”? (ข) ใคร​คือ “คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย”?

9 สมาชิก​ทุก​คน​แห่ง “ชาติ​อิสราเอล​ของ​พระเจ้า” เป็น​คริสเตียน​ที่​ได้​อุทิศ​ตัว​และ​รับ​บัพติสมา​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​เจิม​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​และ​มี​ความ​หวัง​ทาง​ภาค​สวรรค์. ฉะนั้น คำ “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” จึง​หมาย​ถึง​สมาชิก​ทุก​คน​ใน​ชาติ​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม​นั้น​ฐานะ​กลุ่ม​ชน​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก ณ เวลา​ใด​เวลา​หนึ่ง ตั้ง​แต่​ปี ส.ศ. 33 จน​ถึง​ปัจจุบัน เช่น​เดียว​กับ​ที่​ชาว​อิสราเอล​ทุก​คน​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ไม่​ว่า ณ เวลา​ใด​ตั้ง​แต่​ปี 1513 ก่อน ส.ศ. มา​จน​ถึง​วัน​เพนเทคอสต์ ปี ส.ศ. 33 เป็น​ส่วน​ของ​ชน​ชั้น​ผู้​รับใช้​ก่อน​ยุค​คริสเตียน. แต่​ใคร​จะ​เป็น “คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย” ที่​รับ​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​จาก​ทาส​นั้น? ใน​ศตวรรษ​แรก​แห่ง​สากล​ศักราช คริสเตียน​ทุก​คน​มี​ความ​หวัง​ทาง​ภาค​สวรรค์. ด้วย​เหตุ​นี้ คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย​จึง​เป็น​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ด้วย ที่​ถูก​มอง​เป็น​ราย​บุคคล ไม่​ใช่​ใน​ฐานะ​กลุ่ม​ชน. พวก​เขา​ทุก​คน รวม​ทั้ง​ผู้​มี​ตำแหน่ง​รับผิดชอบ​ใน​ประชาคม จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​จาก​ทาส​นั้น.—1 โกรินโธ 12:12, 19-27; เฮ็บราย 5:11-13; 2 เปโตร 3:15, 16.

“แต่​ละ​คน​ได้​รับ​มอบหมาย”

10, 11. เรา​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​ไม่​ใช่​ทุก​คน​ใน​ชน​ชั้น​ทาส​มี​งาน​มอบหมาย​อย่าง​เดียว​กัน?

10 ขณะ​ที่ “ชาติ​อิสราเอล​ของ​พระเจ้า” เป็น​ชน​ชั้น​ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​งาน สมาชิก​แต่​ละ​คน​ก็​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​เป็น​ส่วน​ตัว​เช่น​กัน. คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ซึ่ง​บันทึก​ไว้​ที่​มาระโก 13:34 (ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย ) ทำ​ให้​เรื่อง​นี้​กระจ่าง​ชัด. พระองค์​ตรัส​ว่า “ก็​เหมือน​ชาย​คน​หนึ่ง​ออก​จาก​บ้าน​ไป เขา​ตั้ง​คน​รับใช้​ให้​รับผิดชอบ​หน้า​ที่​ต่าง ๆ ตาม​ที่​แต่​ละ​คน​ได้​รับ​มอบหมาย และ​บอก​คน​ที่​ประตู​ให้​เฝ้า​ระวัง​ไว้.” ฉะนั้น สมาชิก​แต่​ละ​คน​ของ​ชน​ชั้น​ทาส​ได้​รับ​มอบหมาย​งาน คือ​ให้​เพิ่ม​พูน​สมบัติ​ทาง​แผ่นดิน​โลก​ของ​พระ​คริสต์. แต่​ละ​คน​ทำ​งาน​นี้​ตาม​ความ​สามารถ​และ​โอกาส​ของ​แต่​ละ​คน.—มัดธาย 25:14, 15.

11 นอก​จาก​นี้ อัครสาวก​เปโตร​บอก​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ใน​สมัย​ของ​ท่าน​ว่า “ตาม​ส่วน​ที่​แต่​ละ​คน​ได้​รับ​ของ​ประทาน จง​ใช้​ของ​ประทาน​นั้น​ใน​การ​รับใช้​กัน​และ​กัน ใน​ฐานะ​เป็น​คน​ต้น​เรือน​ที่​ดี​แห่ง​พระ​กรุณา​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ​ของ​พระเจ้า​ที่​แสดง​ออก​ใน​วิธี​ต่าง ๆ.” (1 เปโตร 4:10, ล.ม.) เพราะ​ฉะนั้น ผู้​ถูก​เจิม​เหล่า​นั้น​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใน​การ​รับใช้​กัน​และ​กัน โดย​ใช้​ของ​ประทาน​ที่​พระเจ้า​มอบ​แก่​พวก​เขา. ยิ่ง​กว่า​นั้น ถ้อย​คำ​ของ​เปโตร​ชี้​ว่า ไม่​ใช่​คริสเตียน​ทุก​คน​จะ​มี​ความ​สามารถ, ได้​รับ​หน้า​ที่​มอบหมาย, หรือ​สิทธิ​พิเศษ​ใน​งาน​รับใช้อย่าง​เดียว​กัน. ถึง​กระนั้น สมาชิก​แต่​ละ​คน​ของ​ชน​ชั้น​ทาส​ก็​มี​ส่วน​ช่วย​ใน​ทาง​ใด​ทาง​หนึ่ง​ให้​ชาติ​ฝ่าย​วิญญาณ​นี้​เจริญ​ขึ้น​ได้. โดย​วิธี​ใด?

12. สมาชิก​แต่​ละ​คน​ของ​ชน​ชั้น​ทาส ไม่​ว่า​ชาย​หรือ​หญิง มี​ส่วน​ช่วย​อย่าง​ไร​ให้​ทาส​นี้​เจริญ​ขึ้น?

12 แรก​ที​เดียว แต่​ละ​คน​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ที่​จะ​เป็น​พยาน​ของ​พระ​ยะโฮวา และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร. (ยะซายา 43:10-12; มัดธาย 24:14) ไม่​นาน​ก่อน​เสด็จ​สู่​สวรรค์ พระ​เยซู​สั่ง​สาวก​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระองค์​ทุก​คน ทั้ง​ชาย​และ​หญิง ให้​เป็น​ผู้​สอน. พระองค์​ตรัส​ว่า “ฉะนั้น จง​ไป​ทำ​ให้​คน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก ให้​เขา​รับ​บัพติสมา​ใน​นาม​แห่ง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ สอน​เขา ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้. และ​นี่​แน่ะ! เรา​อยู่​กับ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เสมอ​จน​กระทั่ง​ช่วง​อวสาน​แห่ง​ระบบ.”—มัดธาย 28:19, 20, ล.ม.

13. ผู้​ถูก​เจิม​ทุก​คน​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​อะไร?

13 เมื่อ​มี​การ​พบ​ผู้​ที่​จะ​เป็น​สาวก​ใหม่ พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​สอน​อย่าง​ถี่ถ้วน​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ที่​พระ​คริสต์​ได้​ตรัส​สั่ง​เหล่า​สาวก. ใน​ที่​สุด ผู้​ที่​ตอบรับ​จะ​มี​คุณวุฒิ​ที่​จะ​สอน​คน​อื่น​ต่อ​ไป. อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​บำรุง​เลี้ยง​มี​อยู่​พร้อม​สำหรับ​ผู้​ที่​จะ​เข้า​มา​เป็น​สมาชิก​ของ​ชน​ชั้น​ทาส​นี้​ใน​หลาย​ชาติ. คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ทุก​คน ทั้ง​ชาย​และ​หญิง มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​มอบหมาย​การ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก. (กิจการ 2:17, 18) งาน​นี้​จะ​ต้อง​ดำเนิน​ไป​ตั้ง​แต่​เวลา​ที่​ทาส​นี้​เริ่ม​งาน​ของ​ตน​จน​กระทั่ง​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้.

14. สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​สอน​ภาย​ใน​ประชาคม​จำกัด​ไว้​ให้​ใคร​โดย​เฉพาะ และ​สตรี​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​สัตย์​ซื่อ​รู้สึก​เช่น​ไร​ใน​เรื่อง​นั้น?

14 บรรดา​ผู้​ที่​รับ​บัพติสมา​ใหม่​และ​ได้​รับ​การ​เจิม​กลาย​มา​เป็น​ส่วน​ของ​ทาส และ​ไม่​ว่า​พวก​เขา​ได้​รับ​การ​สอน​จาก​ใคร​ใน​ตอน​แรก พวก​เขา​ได้​รับ​การ​สอน​ต่อ​ไป​จาก​สมาชิก​ของ​ประชาคม​ที่​บรรลุ​คุณวุฒิ​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​ที่​รับใช้​เป็น​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่. (1 ติโมเธียว 3:1-7; ติโต 1:6-9) ฉะนั้น ชาย​ที่​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เหล่า​นี้​จึง​มี​สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​ช่วย​ให้​ชาติ​นี้​เจริญ​เติบโต​ขึ้น​ใน​วิธี​พิเศษ. สตรี​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​สัตย์​ซื่อ​ไม่​รู้สึก​ขุ่นเคือง​ที่​เฉพาะ​แต่​ชาย​คริสเตียน​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​สอน​ใน​ประชาคม. (1 โกรินโธ 14:34, 35) ตรง​กัน​ข้าม พวก​เธอ​ยินดี​ที่​จะ​รับ​ประโยชน์​จาก​การ​งาน​หนัก​ของ​สมาชิก​ผู้​ชาย​ใน​ประชาคม และ​หยั่ง​รู้​ค่า​สิทธิ​พิเศษ​ที่​เปิด​ออก​แก่​ผู้​หญิง ซึ่ง​รวม​ถึง​การ​นำ​ข่าว​ดี​ไป​บอก​แก่​คน​อื่น. บรรดา​พี่​น้อง​หญิง​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า​ใน​ทุก​วัน​นี้​สำแดง​เจตคติ​ที่​ถ่อม​ใจ​อย่าง​เดียว​กัน ไม่​ว่า​ผู้​ปกครอง​ที่​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​จะ​เป็น​ผู้​ถูก​เจิม​หรือ​ไม่​ก็​ตาม.

15. แหล่ง​หลัก​แหล่ง​หนึ่ง​ของ​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก​คือ​อะไร และ​ใคร​นำ​หน้า​ใน​การ​แจก​จ่าย​อาหาร​นั้น?

15 อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​หลัก​ที่​แจก​จ่าย​ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก​นั้น​มา​จาก​จดหมาย​ต่าง ๆ ที่​เขียน​โดย​เหล่า​อัครสาวก​และ​สาวก​คน​อื่น ๆ ที่​นำ​หน้า. จดหมาย​ที่​พวก​เขา​เขียน—โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง ที่​รวม​อยู่​ใน​พระ​ธรรม 27 เล่ม​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​ซึ่ง​ประกอบ​กัน​เป็น​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก—ได้​ถูก​ส่ง​เวียน​ต่อ ๆ กัน​ไป​ตาม​ประชาคม​ต่าง ๆ และ​ใช้​เป็น​พื้น​ฐาน​ใน​การ​สอน​ของ​ผู้​ปกครอง​ท้องถิ่น​อย่าง​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย. โดย​วิธี​นี้ ผู้​เป็น​ตัว​แทน​ของ​ทาส​ได้​แจก​จ่าย​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​บริบูรณ์​ด้วย​ความ​สัตย์​ซื่อ​แก่​คริสเตียน​ที่​จริง​ใจ. ชน​ชั้น​ทาส​ใน​ศตวรรษ​แรก​พิสูจน์​ตัว​สัตย์​ซื่อ​ใน​งาน​มอบหมาย​ของ​ตน.

“ทาส” นั้น​ใน​อีก 19 ศตวรรษ​ต่อ​มา

16, 17. ชน​ชั้น​ทาส​พิสูจน์​ตัว​อย่าง​ไร​ว่า​สัตย์​ซื่อ​ใน​การ​ทำ​หน้า​ที่​มอบหมาย​ตลอด​หลาย​ปี​จวบ​จน​ปี 1914?

16 แล้ว​ทุก​วัน​นี้​ล่ะ​เป็น​อย่าง​ไร? เมื่อ​การ​ประทับ​ของ​พระ​เยซู​เริ่ม​ต้น​ใน​ปี 1914 พระองค์​พบ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​กำลัง​แจก​จ่าย​อาหาร​ใน​เวลา​อัน​เหมาะ​อย่าง​สัตย์​ซื่อ​ไหม? ใช่​แล้ว พระองค์​ได้​พบ. กลุ่ม​นี้​ระบุ​ตัว​ได้​อย่าง​ชัดเจน​เนื่อง​ด้วย​ผล​อัน​ดี​ที่​พวก​เขา​ก่อ​ขึ้น. (มัดธาย 7:20) ประวัติศาสตร์​ตั้ง​แต่​นั้น​มา​พิสูจน์​ว่า​การ​ระบุ​ตัว​นี้​ถูก​ต้อง.

17 ตอน​ที่​พระ​เยซู​เสด็จ​มา​ถึง มี​คน​รับใช้​ประมาณ 5,000 คน​ที่​กำลัง​ขะมักเขม้น​ใน​การ​เผยแพร่​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล. คน​งาน​มี​ไม่​มาก แต่​ทาส​นี้​ใช้​วิธี​ใหม่ ๆ หลาย​อย่าง​ที่​คิด​ค้น​ขึ้น​เพื่อ​แพร่​ข่าว​ดี​ออก​ไป​อย่าง​กว้างขวาง. (มัดธาย 9:38) ตัว​อย่าง​เช่น มี​การ​จัด​พิมพ์​คำ​เทศนา​ใน​หัวข้อ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ลง​ใน​หนังสือ​พิมพ์​ถึง​เกือบ 2,000 ฉบับ. โดย​วิธี​นี้ ความ​จริง​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​จึง​ไป​ถึง​ผู้​อ่าน​นับ​หมื่น ๆ คน​ใน​เวลา​เดียว​กัน. นอก​จาก​นี้ มี​การ​ตระเตรียม​รายการ​แสดง​ยาว​แปด​ชั่วโมง​ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​ภาพ​นิ่ง​และภาพยนตร์​สี. เนื่อง​ด้วย​การ​นำ​เสนอ​ด้วย​วิธี​ที่​คิด​ค้น​ขึ้น​ใหม่ ๆ นี้ ข่าวสาร​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล เริ่ม​ตั้ง​แต่​การ​ทรง​สร้าง​ไป​จน​ถึง​ปลาย​รัชสมัย​พัน​ปี​ของ​พระ​คริสต์ จึง​ถูก​ถ่ายทอด​ไป​ยัง​ผู้​ชม​รวม​เก้า​ล้าน​กว่า​คน​ใน​สาม​ทวีป. สิ่ง​พิมพ์​ก็​เป็น​อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​ได้​ใช้. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​ปี 1914 มี​การ​จัด​พิมพ์​วารสาร​นี้​ประมาณ 50,000 ฉบับ.

18. พระ​เยซู​แต่ง​ตั้ง​ทาส​ให้​ดู​แล​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​พระองค์​เมื่อ​ไร และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

18 ใช่​แล้ว เมื่อ​นาย​เสด็จ​มา​ถึง ก็​พบ​ว่า​ทาส​สัตย์​ซื่อ​ของ​พระองค์​กำลัง​แจก​จ่าย​อาหาร​แก่​คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย​และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​อยู่​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​หน้า​ที่. บัด​นี้ มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​มาก​ขึ้น​คอย​ท่า​ทาส​นั้น​อยู่. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ตาม​จริง​ว่า นาย​จะ​แต่ง​ตั้ง​เขา​ให้​ดู​แล​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​นาย.” (มัดธาย 24:47, ล.ม.) พระ​เยซู​ทำ​เช่น​นั้น​ใน​ปี 1919 หลัง​จาก​ที่​ทาส​นี้​ผ่าน​พ้น​ช่วง​แห่ง​การ​ทดสอบ​แล้ว. แต่​เหตุ​ใด “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” จึง​ได้​รับ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​เพิ่ม​ขึ้น? ก็​เพราะ​นาย​เพิ่ง​ได้​รับ​สมบัติ​มาก​ขึ้น. พระ​เยซู​ได้​รับ​มอบ​ฐานะ​กษัตริย์​ใน​ปี 1914.

19. จง​อธิบาย​ว่า​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ “ชน​ฝูง​ใหญ่” ได้​รับ​การ​ดู​แล​อย่าง​ไร.

19 อะไร​คือ​ทรัพย์​สมบัติ​ที่​นาย​ซึ่ง​เพิ่ง​ขึ้น​เสวย​ราชย์​แต่ง​ตั้ง​ทาส​สัตย์​ซื่อ​ให้​ดู​แล? นั่น​ก็​คือ​สิ่ง​ฝ่าย​วิญญาณ​ทั้ง​สิ้น​บน​แผ่นดิน​โลก​ที่​เป็น​ของ​พระองค์. ตัว​อย่าง​เช่น สอง​ทศวรรษ​หลัง​จาก​พระ​คริสต์​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​ใน​ปี 1914 “ชน​ฝูง​ใหญ่” แห่ง “แกะ​อื่น” ได้​รับ​การ​ระบุ​ตัว​ว่า​เป็น​ใคร. (วิวรณ์ 7:9, ล.ม.; โยฮัน 10:16) คน​เหล่า​นี้​ไม่​ใช่​สมาชิก​ผู้​ถูก​เจิม​แห่ง “ชาติ​อิสราเอล​ของ​พระเจ้า” แต่​เป็น​ชาย​หญิง​ที่​จริง​ใจ​ผู้​มี​ความ​หวัง​จะ​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก ซึ่ง​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​ต้องการ​จะ​รับใช้​พระองค์​เช่น​เดียว​กับ​เหล่า​ผู้​ถูก​เจิม. โดย​แท้​แล้ว ก็​เหมือน​กับ​ว่า​พวก​เขา​กล่าว​แก่ “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” ว่า “เรา​จะ​ไป​ด้วย​ท่าน, เพราะ​เรา​ได้​ยิน​ว่า​พระเจ้า​อยู่​กับ​ท่าน​แล้ว.” (ซะคาระยา 8:23) คริสเตียน​ที่​รับ​บัพติสมา​ใหม่​เหล่า​นี้​รับประทาน​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​บริบูรณ์​อย่าง​เดียว​กัน​กับ​ที่​คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย​ที่​ถูก​เจิม​ได้​รับ และ​ทั้ง​สอง​กลุ่ม​ก็​ร่วม​รับประทาน​ที่​โต๊ะ​ฝ่าย​วิญญาณ​นี้​นับ​แต่​นั้น​มา. ช่าง​เป็น​พระ​พร​อะไร​เช่น​นั้น​สำหรับ​ผู้​เป็น​สมาชิก​ของ “ชน​ฝูง​ใหญ่”!

20. “ชน​ฝูง​ใหญ่” มี​บทบาท​อะไร​ใน​การ​เพิ่ม​พูน​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า?

20 สมาชิก​ของ “ชน​ฝูง​ใหญ่” ร่วม​กับ​ชน​ชั้น​ทาส​ที่​ถูก​เจิม​ด้วย​ความ​ยินดี​ใน​การ​เป็น​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ดี. เมื่อ​พวก​เขา​ประกาศ ทรัพย์​สมบัติ​ทาง​แผ่นดิน​โลก​ของ​นาย​ก็​เพิ่ม​ขึ้น ซึ่ง​ทำ​ให้ “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​เพิ่ม​ขึ้น. เมื่อ​จำนวน​ผู้​แสวง​หา​ความ​จริง​เพิ่ม​ขึ้น ก็​จำเป็น​ต้อง​มี​การ​ขยาย​โรง​พิมพ์​มาก​ขึ้น ให้​ทัน​กับ​ความ​ต้องการ​สรรพหนังสือ​ที่​อธิบาย​พระ​คัมภีร์. มี​การ​ตั้ง​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ดินแดน​ต่าง ๆ แห่ง​แล้ว​แห่ง​เล่า. มิชชันนารี​ถูก​ส่ง​ออก​ไป “จน​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก.” (กิจการ 1:8) จาก​จำนวน​ผู้​ถูก​เจิม​ประมาณ​ห้า​พัน​คน​ใน​ปี 1914 กลุ่ม​ผู้​สรรเสริญ​พระเจ้า​ได้​เพิ่ม​เป็น​หก​ล้าน​กว่า​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้ ซึ่ง​ส่วน​ใหญ่​ใน​จำนวน​นี้​เป็น “ชน​ฝูง​ใหญ่.” ใช่​แล้ว ทรัพย์​สมบัติ​ของ​กษัตริย์​เพิ่ม​ขึ้น​หลาย​เท่า​หลัง​จาก​ราชาภิเษก​ใน​ปี 1914!

21. เรา​จะ​พิจารณา​อุปมา​สอง​เรื่อง​อะไร​ใน​บทความ​ถัด​ไป?

21 ทั้ง​หมด​นี้​แสดง​ว่า​ทาส​นี้​ทั้ง “สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม.” ทันที​หลัง​จาก​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” พระองค์​ตรัส​คำ​อุปมา​สอง​เรื่อง​ที่​เน้น​คุณลักษณะ​สอง​อย่าง​นี้ คือ อุปมา​เรื่อง​หญิง​พรหมจารี​สุขุม​กับ​หญิง​พรหมจารี​โง่ และ​อุปมา​เรื่อง​เงิน​ตะลันต์. (มัดธาย 25:1-30) นั่น​ช่าง​กระตุ้น​ความ​สนใจ​ของ​เรา​เสีย​จริง ๆ! อุปมา​สอง​เรื่อง​นี้​มี​ความหมาย​อะไร​สำหรับ​พวก​เรา​ใน​ปัจจุบัน? เรา​จะ​พิจารณา​คำ​ถาม​นี้​ใน​บทความ​ถัด​ไป.

คุณ​คิด​อย่าง​ไร?

• ใคร​ประกอบ​กัน​เป็น “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม”?

• ใคร​คือ “คน​รับใช้​ทั้ง​หลาย”?

• เมื่อ​ไร​ที่​ทาส​สัตย์​ซื่อ​ถูก​แต่ง​ตั้ง​ให้​ดู​แล​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​เหตุ​ใด​จึง​เป็น​ตอน​นั้น?

• ใคร​มี​ส่วน​ช่วย​เพิ่ม​พูน​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ใน​ทศวรรษ​ต่าง ๆ ที่​เพิ่ง​ผ่าน​มา และ​โดย​วิธี​ใด?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 10]

ชน​ชั้น​ทาส​ใน​ศตวรรษ​แรก​พิสูจน์​ตัว​สัตย์​ซื่อ​ใน​งาน​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย