การระบุตัวสัตว์ร้ายและหมายเลขของมัน
การระบุตัวสัตว์ร้ายและหมายเลขของมัน
คุณชอบไขปริศนาไหม? เพื่อจะทำเช่นนั้น คุณมองหาร่องรอยที่ช่วยคุณให้พบทางไขปริศนาในที่สุด. ในพระคำของพระเจ้าที่มีขึ้นโดยการดลใจ พระองค์ทรงจัดเตรียมร่องรอยที่จำเป็นเพื่อไขปริศนาเกี่ยวกับหมายเลข 666 ชื่อหรือเครื่องหมายของสัตว์ร้ายในพระธรรมวิวรณ์บท 13.
ในบทความนี้ เราจะพิจารณาแนวทางหลักสี่ประการในการหาเหตุผล ซึ่งเป็นร่องรอยสำคัญที่จะเปิดเผยความหมายของเครื่องหมายของสัตว์ร้ายนั้น. เราจะพิจารณาว่า (1) บางครั้งมีการเลือกใช้ชื่อต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลอย่างไร (2) สัตว์ร้ายคืออะไร (3) การที่ 666 เป็น “เลขของมนุษย์” หมายถึงอะไร และ (4) ความหมายของเลข 6 และเหตุผลที่มีการเขียนเลขนี้เป็นสามหลัก กล่าวคือ 600 บวก 60 บวก 6 หรือ 666.—วิวรณ์ 13:18, ล.ม.
ชื่อในคัมภีร์ไบเบิล—ไม่ได้เป็นเพียงป้ายชื่อ
บ่อยครั้งชื่อในคัมภีร์ไบเบิลมีความหมายพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นชื่อที่พระเจ้าตั้งให้. ตัวอย่างเช่น เนื่องจากอับรามจะกลายเป็นบิดาของชาติต่าง ๆ พระเจ้าได้ทรงเปลี่ยนชื่อของอับรามปฐมบรรพบุรุษเป็นอับราฮาม หมายความว่า “บิดาของชนหลายประเทศ.” (เยเนซิศ 17:5) พระเจ้าทรงรับสั่งแก่โยเซฟและมาเรียให้เรียกชื่อบุตรที่มาเรียจะให้กำเนิดในอนาคตว่าเยซู ซึ่งหมายความว่า “พระยะโฮวาทรงเป็นความรอด.” (มัดธาย 1:21, ล.ม., เชิงอรรถ; ลูกา 1:31) สอดคล้องกับชื่อที่มีความหมายพิเศษนั้น พระยะโฮวาทรงทำให้ความรอดของเราเป็นไปได้โดยทางงานรับใช้และการวายพระชนม์เป็นเครื่องบูชาของพระเยซู.—โยฮัน 3:16.
เพราะฉะนั้น ชื่อซึ่งเป็นตัวเลข 666 ที่พระเจ้าทรงตั้งให้ต้องเป็นสัญลักษณ์ของอะไรบางอย่างที่พระเจ้าทรงถือว่าเป็นลักษณะพิเศษที่เด่นชัดของสัตว์ร้าย. แน่นอน เพื่อจะเข้าใจลักษณะเหล่านั้น เราต้องรู้ว่าตัวสัตว์ร้ายเองหมายถึงอะไรและเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่มันทำ.
สัตว์ร้ายถูกระบุตัว
พระธรรมดานิเอลเผยข้อมูลมากมายในเรื่องความหมายของสัตว์ร้ายต่าง ๆ ที่เป็นนัย. บท 7 มีภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับ “สัตว์ใหญ่สี่ตัว” ได้แก่ สิงโต, หมี, เสือดาว, และสัตว์ที่น่ากลัวซึ่งมีฟันเหล็กซี่ใหญ่. (ดานิเอล 7:2-7) ดานิเอลบอกเราว่า สัตว์ร้ายเหล่านี้เป็นภาพหมายถึง “กษัตริย์” หรืออาณาจักรทางการเมือง ซึ่งปกครองสืบต่อกันมาตามลำดับเหนือจักรวรรดิอันไพศาล.—ดานิเอล 7:17, 23.
เกี่ยวกับสัตว์ร้ายในพระธรรมวิวรณ์ 13:1, 2 พจนานุกรมคัมภีร์ไบเบิลของผู้แปล (ภาษาอังกฤษ) ชี้แจงว่า สัตว์ร้ายนี้ “มีลักษณะพิเศษของสัตว์ร้ายทั้งสี่ตัวในนิมิตของดานิเอลรวมกันอยู่ในตัวมัน . . . ฉะนั้น สัตว์ร้ายตัวแรกนี้ [ในพระธรรมวิวรณ์] จึงเป็นภาพแสดงถึงอำนาจรวมกันของการปกครองด้านการเมืองทั้งสิ้นในโลกที่ต่อต้านพระเจ้า.” ข้อคิดเห็นนี้ได้รับการยืนยันจากวิวรณ์ 13:7 (ล.ม.) ซึ่งกล่าวถึงสัตว์ร้ายว่า “มันได้รับอำนาจเหนือทุก ตระกูลและทุก ชนชาติและทุก ภาษาและทุก ชาติ.” *
เหตุใดคัมภีร์ไบเบิลจึงใช้สัตว์ร้ายเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการปกครองของมนุษย์? เนื่องด้วยเหตุผลอย่างน้อยสองประการ. ประการแรก เนื่องจากประวัติในการทำให้เลือดตกยางออกเยี่ยงสัตว์ร้ายที่รัฐบาลต่าง ๆ ได้สั่งสมมาตลอดหลายศตวรรษ. วิลล์และอาริเอล ดูแรนต์ นักประวัติศาสตร์ได้เขียนไว้ว่า “สงครามเป็นหนึ่งในบรรดาเหตุการณ์ที่มีอยู่เสมอท่านผู้ประกาศ 8:9, ล.ม.) เหตุผลประการที่สองคือการที่ “พญานาค [ซาตาน] ได้ให้ฤทธิ์เดชและบัลลังก์และอำนาจใหญ่ยิ่งแก่สัตว์ร้ายนั้น.” (วิวรณ์ 12:9; 13:2, ล.ม.) ฉะนั้น การปกครองของมนุษย์จึงเป็นผลิตผลของพญามาร ด้วยเหตุนี้จึงสะท้อนน้ำใจของมันที่เป็นเยี่ยงสัตว์ร้าย เหมือนพญานาค.—โยฮัน 8:44; เอเฟโซ 6:12.
มาตลอดประวัติศาสตร์ และหาได้ลดลงเนื่องด้วยอารยธรรมและระบอบประชาธิปไตยไม่.” เป็นความจริงสักเพียงไรที่ “มนุษย์ใช้อำนาจเหนือมนุษย์อย่างที่ก่อผลเสียหายแก่เขา”! (อย่างไรก็ดี นี่มิได้หมายความว่า ผู้ปกครองที่เป็นมนุษย์ทุกคนเป็นเครื่องมือที่ซาตานใช้โดยตรง. ที่จริง ในด้านหนึ่ง รัฐบาลมนุษย์ทำหน้าที่เป็น “ผู้รับใช้ของพระเจ้า” ทำให้สังคมมนุษย์มีเสถียรภาพ มิฉะนั้นแล้วคงจะมีความสับสนอลหม่าน. และผู้นำบางคนได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน รวมทั้งสิทธิที่จะปฏิบัติการนมัสการแท้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ซาตานไม่ประสงค์. (โรม 13:3, 4; เอษรา 7:11-27; กิจการ 13:7) กระนั้น เนื่องจากอิทธิพลของพญามาร จึงไม่มีมนุษย์คนใด หรือสถาบันใดของมนุษย์สามารถนำสันติภาพและความปลอดภัยถาวรมาสู่ประชาชนได้. *—โยฮัน 12:31.
“เลขของมนุษย์”
ร่องรอยประการที่สามเพื่อจะเข้าใจความหมายของเลข 666 คือการที่เลขนี้ถูกเรียกว่า “เลขของมนุษย์.” คำกล่าวนี้ไม่อาจพาดพิงถึงมนุษย์เป็นรายบุคคลได้ เพราะซาตาน—หาใช่มนุษย์คนใดไม่—มีอำนาจเหนือสัตว์ร้าย. (ลูกา 4:5, 6; 1 โยฮัน 5:19; วิวรณ์ 13:2, 18, ล.ม.) แทนที่จะเป็นเช่นนั้น การที่สัตว์ร้ายมี “เลข (หรือ เครื่องหมาย) ของมนุษย์” บ่งชี้ว่าสัตว์ร้ายมีลักษณะของมนุษย์ ไม่ใช่วิญญาณหรือผีปิศาจ และบ่งชี้ว่า ด้วยเหตุนั้น สัตว์ร้ายจึงแสดงให้เห็นลักษณะบางอย่างของมนุษย์. ลักษณะเหล่านี้อาจได้แก่อะไรบ้าง? คัมภีร์ไบเบิลตอบว่า “คน [มนุษย์] ทั้งปวงได้ทำผิดทุกคน, และขาดการถวายเกียรติยศแก่พระเจ้า.” (โรม 3:23) เพราะฉะนั้น การที่สัตว์ร้ายมี “เลขของมนุษย์” จึงบ่งชี้ว่ารัฐบาลต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นสภาพที่ตกต่ำของมนุษย์ ซึ่งมีบาปและความไม่สมบูรณ์เป็นลักษณะเด่น.
ประวัติศาสตร์ยืนยันความจริงในเรื่องนี้. เฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า “อารยธรรมทุกแบบที่เคยดำรงอยู่ ได้มาถึงจุดจบในที่สุด. ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความพยายามที่ล้มเหลว ความปรารถนาที่ไม่เคยเป็นจริง . . . ดังนั้น ในฐานะนักประวัติศาสตร์ คนเราต้องยอมรับความสำนึกในเรื่องโศกนาฏกรรมที่เลี่ยงไม่พ้น.” การประเมินอย่างซื่อตรงของคิสซิงเจอร์ยืนยันความจริงพื้นฐานในคัมภีร์ไบเบิลข้อนี้ที่ว่า “ทางที่มนุษย์จะไปนั้นไม่ได้อยู่ในตัวของตัว, ไม่ใช่ที่มนุษย์ซึ่งดำเนินนั้นจะได้กำหนดก้าวของตัวได้.”—ยิระมะยา 10:23.
ในเมื่อเราระบุตัวสัตว์ร้ายไปแล้วและได้เข้าใจว่าพระเจ้ามีทัศนะอย่างไรต่อมัน ตอนนี้เราก็สามารถพิจารณาส่วนสุดท้ายแห่งปริศนาของเรา นั่นคือเลขหกและเหตุผลที่มีการเขียนเลขนี้เป็นสามหลัก นั่นคือ 666 หรือ 600 บวก 60 บวก 6.
เลขหกซ้ำกันสามตัว—เพราะเหตุใด?
ในพระคัมภีร์ เลขบางตัวมีความหมายเชิงสัญลักษณ์. ตัวอย่างเช่น เลข 7 มักใช้เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่ครบถ้วน หรือสมบูรณ์ในสายพระเนตรของพระเจ้า. ตัวอย่างเช่น สัปดาห์แห่งการทรงสร้างของพระเจ้าประกอบด้วย ‘วันต่าง ๆ’ เจ็ดวัน หรือช่วงเวลาที่ยืดยาวเจ็ดช่วง ซึ่งระหว่างช่วงนั้นพระเจ้าทรงทำให้พระประสงค์ในการทรงสร้างของพระองค์เกี่ยวกับแผ่นดินโลกสำเร็จอย่างครบถ้วน. (เยเนซิศ 1:3–2:3) “คำตรัส” ของพระเจ้าเป็นเหมือนเงินซึ่ง “เผาชำระในเบ้าถึงเจ็ดครั้งแล้ว” ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการกลั่นกรองอย่างสมบูรณ์. (บทเพลงสรรเสริญ 12:6; สุภาษิต 30:5, 6) นามานที่เป็นโรคเรื้อนถูกสั่งให้ไปอาบน้ำเจ็ดครั้งในแม่น้ำจอร์แดน หลังจากได้ทำเช่นนั้นแล้วเขาหายเป็นปกติ.—2 กษัตริย์ 5:10, 14.
เลขหกน้อยกว่าเลขเจ็ดไปหนึ่ง. เลขหกคงจะเป็นสัญลักษณ์ที่เหมาะสมของสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ หรือมีข้อบกพร่องในสายพระเนตรของพระเจ้ามิใช่หรือ? ใช่แล้ว เป็นเช่นนั้นจริง ๆ! (1 โครนิกา 20:6, 7) นอกจากนี้ การเขียนเลขหกซ้ำกันสามตัว คือ 666 เป็นการเน้นความไม่สมบูรณ์นั้นอย่างหนักแน่น. ที่ว่าความคิดเห็นแบบนี้ถูกต้องนั้นได้รับการสนับสนุนโดยข้อเท็จจริงที่ว่า 666 เป็น “เลขของมนุษย์” ดังที่เราได้พิจารณาไปแล้ว. ดังนั้น ประวัติของสัตว์ร้าย, การที่มันมี “เลขของมนุษย์,” และตัวเลข 666 เองล้วนชี้ถึงข้อสรุปอย่างหนึ่งที่ไม่ผิดพลาด นั่นคือความบกพร่องและความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในสายพระเนตรพระยะโฮวา.
การพรรณนาความบกพร่องของสัตว์ร้ายทำให้เราระลึกถึงสิ่งที่กล่าวเกี่ยวกับกษัตริย์เบละซาซัรแห่งบาบิโลนโบราณ. พระยะโฮวาตรัสแก่ผู้ปกครองคนนี้ผ่านทางดานิเอลว่า “ฝ่าพระบาทได้ถูกชั่งในตราชูทรงเห็นว่ายังขาดอยู่.” ในคืนนั้นเองเบละซาซัรได้ถูกประหาร และจักรวรรดิบาบิโลนอันเกรียงไกรได้ถูกพิชิต. (ดานิเอล 5:27, 30, ฉบับแปลใหม่) เช่นเดียวกัน การพิพากษาของพระเจ้าต่อสัตว์ร้ายทางการเมืองและบรรดาคนเหล่านั้นที่มีเครื่องหมายของมันหมายถึงอวสานของสัตว์ร้ายนั้นและเหล่าผู้สนับสนุนมัน. อย่างไรก็ดี ในกรณีนี้ พระเจ้าจะทรงกำจัดไม่เพียงระบบทางการเมืองอย่างเดียว แต่ร่องรอยทุกอย่างแห่งการปกครองของมนุษย์. (ดานิเอล 2:44; วิวรณ์ 19:19, 20) เพราะฉะนั้น นับว่าสำคัญสักเพียงไรที่เราหลีกเลี่ยงการมีเครื่องหมายของสัตว์ร้ายที่ทำให้ถึงตายนั้น!
เครื่องหมายได้รับการระบุชัด
ทันทีหลังจากเปิดเผยเลข 666 พระธรรมวิวรณ์กล่าวถึงสาวก 144,000 คนของพระเมษโปดก พระเยซูคริสต์ ซึ่งมีพระนามของพระองค์และพระนามยะโฮวา พระบิดาของพระองค์เขียนไว้บนหน้าผากของพวกเขา. นามเหล่านี้ระบุตัวผู้ถือพระนามนี้ว่าเป็นของพระยะโฮวาและพระบุตรของพระองค์ ซึ่งพวกเขาเป็นพยานถึงพระองค์ทั้งสองด้วยความภูมิใจ. เช่นเดียวกัน คนเหล่านั้นที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้ายประกาศตัวอย่างเปิดเผยว่าพวกเขายอมอยู่ใต้อำนาจของสัตว์ร้ายนั้น. ด้วยเหตุนี้ กล่าวโดยอุปมาแล้ว เครื่องหมายไม่ว่าอยู่ที่มือขวาหรือบนหน้าผาก เป็นสัญลักษณ์ที่ระบุตัวว่าผู้มีเครื่องหมายเป็นคนที่ให้การสนับสนุนในเชิงนมัสการต่อระบบการเมืองของโลกที่เป็นเหมือนสัตว์ร้าย. คนเหล่านั้นที่มีลูกา 20:25, ฉบับแปลใหม่; วิวรณ์ 13:4, 8; 14:1) พวกเขาทำเช่นนี้โดยวิธีใด? โดยการให้เกียรติเชิงนมัสการแก่รัฐบาล, สัญลักษณ์ต่าง ๆ ของรัฐ, และอำนาจทางทหาร ซึ่งพวกเขาหมายพึ่งเพื่อจะมีความหวังและความรอด. การนมัสการใด ๆ ที่พวกเขาถวายแด่พระเจ้าเที่ยงแท้เป็นเพียงการพูดแต่ปาก.
เครื่องหมาย ให้สิ่งซึ่งเป็นของพระเจ้าโดยชอบธรรมแก่ “ซีซาร์.” (ในทางตรงกันข้าม คัมภีร์ไบเบิลกระตุ้นเราว่า “ท่านทั้งหลายอย่าวางใจในพวกเจ้านาย, หรือในเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ช่วยให้รอดไม่ได้. เมื่อลมหายใจเขาขาด, เขาก็กลับคืนเป็นดินอีก; และในวันนั้นทีเดียวความคิดของเขาก็ศูนย์หายไป.” (บทเพลงสรรเสริญ 146:3, 4) คนเหล่านั้นที่เอาใจใส่ฟังคำแนะนำที่สุขุมนี้ไม่รู้สึกผิดหวังเมื่อรัฐบาลไม่ทำตามคำสัญญา หรือเมื่อผู้นำที่มีพลังในการโน้มน้าวจิตใจสูญเสียฐานะอันเป็นที่นิยมชมชอบไป.—สุภาษิต 1:33.
นี่มิได้หมายความว่าคริสเตียนแท้ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนในเรื่องสภาพทุกข์ยากของมนุษยชาติ. ตรงกันข้าม พวกเขาประกาศอย่างเปิดเผยถึงรัฐบาลหนึ่งที่จะแก้ปัญหาของมนุษยชาติ นั่นคือราชอาณาจักรของพระเจ้าซึ่งพวกเขาเป็นตัวแทนนั้น.—มัดธาย 24:14.
ราชอาณาจักรของพระเจ้า—ความหวังอย่างเดียวของมนุษยชาติ
ขณะที่อยู่บนแผ่นดินโลก พระเยซูทรงให้ราชอาณาจักรของพระเจ้าเป็นสาระสำคัญแห่งงานประกาศของพระองค์. (ลูกา 4:43) ในคำอธิษฐานแบบอย่างของพระเยซู พระองค์ทรงสอนเหล่าสาวกให้อธิษฐานขอให้ราชอาณาจักรมาและขอให้พระทัยประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จบนแผ่นดินโลกนี้. (มัดธาย 6:9, 10) ราชอาณาจักรเป็นรัฐบาลที่จะปกครองเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น ไม่ใช่จากเมืองหลวงบางเมืองบนแผ่นดินโลก แต่ปกครองจากสวรรค์. ฉะนั้น พระเยซูทรงเรียกราชอาณาจักรนี้ว่า “แผ่นดินสวรรค์ [“ราชอาณาจักรทางภาคสวรรค์,” ล.ม.].”—มัดธาย 11:12.
มีใครหรือที่เหมาะจะเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรนั้นยิ่งไปกว่าพระเยซูคริสต์ผู้ทรงวายพระชนม์เพื่อประชากรของพระองค์ในอนาคต? (ยะซายา 9:6, 7; โยฮัน 3:16) อีกไม่นาน ผู้ปกครองที่สมบูรณ์องค์นี้ ซึ่งปัจจุบันเป็นบุคคลวิญญาณผู้ทรงอานุภาพ จะทรงเหวี่ยงสัตว์ร้าย, กษัตริย์ทั้งหลาย, และกองทัพของมันลงใน “บึงไฟที่ไหม้ด้วยกำมะถัน” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความพินาศโดยสิ้นเชิง. แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น. พระเยซูจะทรงกำจัดซาตานด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีมนุษย์คนใดจะทำได้เลย.—วิวรณ์ 11:15; 19:16, 19-21; 20:2, 10.
ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะนำสันติภาพมาสู่ประชากรที่เชื่อฟังทั้งสิ้นของราชอาณาจักรนั้น. (บทเพลงสรรเสริญ 37:11, 29; 46:8, 9) แม้แต่ความโศกเศร้า, ความเจ็บปวด, และความตายจะไม่มีอีกต่อไป. ช่างเป็นความหวังอันรุ่งโรจน์อะไรเช่นนี้สำหรับคนเหล่านั้นที่ไม่ยอมให้ตัวเองมีเครื่องหมายของสัตว์ร้ายนั้น!—วิวรณ์ 21:3, 4.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 9 สำหรับการพิจารณาข้อเหล่านี้โดยละเอียด โปรดดูบท 28 ของหนังสือพระธรรมวิวรณ์—ใกล้จะถึงจุดสุดยอด! จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.
^ วรรค 11 ถึงแม้รู้ว่าการปกครองของมนุษย์บ่อยครั้งเป็นเหมือนสัตว์ร้าย คริสเตียนแท้ยอมตัวอยู่ใต้ “อำนาจที่สูงกว่า” ของรัฐบาล ดังที่คัมภีร์ไบเบิลแนะนำ. (โรม 13:1, ล.ม.) แต่ถ้าผู้มีอำนาจดังกล่าวสั่งให้พวกเขาปฏิบัติอย่างที่ขัดกับกฎหมายของพระเจ้าแล้ว พวกเขา “เชื่อฟังพระเจ้าในฐานะเป็นผู้ปกครองยิ่งกว่ามนุษย์.”—กิจการ 5:29, ล.ม.
[กรอบหน้า 5]
ร่องรอยที่นำไปสู่ความหมายของเลข 666
1. บ่อยครั้งชื่อต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลเผยอะไรบางอย่างเกี่ยวกับลักษณะพิเศษหรือแนวทางชีวิตของคนที่ถูกเรียกนั้น ดังในกรณีของอับราฮาม, พระเยซู, และคนอื่นอีกหลายคน. เช่นเดียวกัน หมายเลขของสัตว์ร้ายแสดงถึงลักษณะพิเศษของมัน.
2. ในพระธรรมดานิเอล สัตว์ร้ายต่าง ๆ แสดงถึงอาณาจักรหรือจักรวรรดิของมนุษย์ที่สืบทอดกันมาตามลำดับ. สัตว์ร้ายที่ประกอบด้วยลักษณะของสัตว์ต่าง ๆ ในวิวรณ์ 13:1, 2 เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงระบบการเมืองทั่วโลกซึ่งได้รับอำนาจและการควบคุมจากซาตาน.
3. การที่สัตว์ร้ายมี “เลขของมนุษย์” บ่งชี้ว่ามันมีลักษณะของมนุษย์ ไม่ใช่ผีปิศาจ. ฉะนั้น เลขนั้นจึงสะท้อนให้เห็นความล้มเหลวของมนุษย์อันเป็นผลมาจากบาปและความไม่สมบูรณ์.
4. ในสายพระเนตรของพระเจ้า เลขหกบ่งชี้ถึงความไม่สมบูรณ์ ขาดสิ่งที่เป็นความหมายของเลข 7 คือความครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ตามคัมภีร์ไบเบิล. เครื่องหมาย 666 เน้นว่ามีความบกพร่องมากโดยใช้เลขซ้ำกันถึงสามตัว.
[ภาพหน้า 6]
การปกครองของมนุษย์ได้พิสูจน์แล้วว่าล้มเหลว ซึ่งเหมาะที่เลข 666 เป็นสัญลักษณ์เล็งถึง
[ที่มาของภาพ]
Starving child: UNITED NATIONS/Photo by F. GRIFFING
[ภาพหน้า 7]
พระเยซูคริสต์จะทรงนำการปกครองที่สมบูรณ์มาสู่แผ่นดินโลก