ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

กีฬาในสมัยโบราณและความสำคัญของการชนะ

กีฬาในสมัยโบราณและความสำคัญของการชนะ

กีฬา​ใน​สมัย​โบราณ​และ​ความ​สำคัญ​ของ​การ​ชนะ

“ฝ่าย​ทุก​คน​ที่​แข่งขัน​กัน​เพื่อ​เอา​ชนะ​ก็​ระวัง​รักษา​ตัว [“ควบคุม​ตน​เอง,” ล.ม.] ทุก​อย่าง.” “ถ้า​ผู้​ใด​จะ​เข้า​แข่งขัน​ใน​การ​กรีฑา, เขา​ก็​คง​มิ​ได้​สวม​พวงมาลัย, เว้น​เสีย​แต่​เขา​ได้​ปฏิบัติ​ตาม​กฎ.”—1 โกรินโธ 9:25; 2 ติโมเธียว 2:5.

กีฬา​ต่าง ๆ ซึ่ง​อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ถึง​เป็น​ลักษณะ​สำคัญ​ที่​แยก​ไม่​ออก​ของ​อารยธรรม​กรีก​โบราณ. ประวัติศาสตร์​บอก​อะไร​แก่​เรา​เรื่อง​การ​แข่งขัน​ดัง​กล่าว​และ​บรรยากาศ​โดย​รอบ​ของ​การ​แข่งขัน​เหล่า​นั้น?

ไม่​นาน​มา​นี้ มี​การ​จัด​นิทรรศการ​กีฬา​ของ​กรีก​ชื่อ​นีเค—อีล โจโก เอ ลา วีตอร์ยา (“นีเค—กีฬา​และ​ชัย​ชนะ”) ที่​โคลอสเซียม​ใน​กรุง​โรม. * นิทรรศการ​นี้​ตอบ​คำ​ถาม​นั้น​บาง​ส่วน​และ​ทำ​ให้​เรา​ได้​ใคร่ครวญ​เกี่ยว​กับ​ทัศนะ​ของ​คริสเตียน​ใน​เรื่อง​กีฬา.

กิจ​ปฏิบัติ​อัน​เก่า​แก่

ประเทศ​กรีซ​ไม่​ใช่​อารยธรรม​แรก​ที่​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​กีฬา. แม้​จะ​เป็น​เช่น​นั้น ใน​ประมาณ​ศตวรรษ​ที่​แปด​ก่อน​สากล​ศักราช โฮเมอร์​กวี​ชาว​กรีก​พรรณนา​ถึงสังคม​ที่​ถูก​กระตุ้น​โดย​อุดมการณ์​ต่าง ๆ ของ​วีรชน​และ​น้ำใจ​แข่งขัน ซึ่ง​ถือ​ว่า​ความ​สามารถ​ทาง​ทหาร​และ​ทาง​กีฬา​มี​ค่า​สูง​ยิ่ง. นิทรรศการ​นั้น​อธิบาย​ว่า เทศกาล​แรก​ของ​กรีก​เริ่ม​ต้น​ใน​ขณะ​ที่​มี​เหตุ​การณ์​ทาง​ศาสนา​เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​เหล่า​เทพเจ้า ณ การ​ฝัง​ศพ​ของ​เหล่า​วีรชน. ตัว​อย่าง​เช่น โคลง​อิเลียด ของ​โฮเมอร์ งาน​วรรณคดี​กรีก​ที่​เหลือ​รอด​มา​อัน​เก่า​แก่​ที่​สุด พรรณนา​ถึง​เหล่า​นัก​รบ​ผู้​สูง​ศักดิ์ ซึ่ง​เป็น​บรรดา​สหาย​ของ​อะคิลลิส ได้​วาง​อาวุธ​ของ​ตน​ลง​ที่​พิธี​ฝัง​ศพ​ของ​พาโตรคลอส​และ​แข่งขัน​กัน​เพื่อ​พิสูจน์​ความ​กล้า​หาญ​ใน​การ​ชก​มวย, มวย​ปล้ำ, ขว้าง​จักร​และ​พุ่ง​แหลน, รวม​ทั้ง​แข่ง​ขับ​รถ​ม้า.

มี​การ​ฉลอง​เทศกาล​ต่าง ๆ คล้าย​กัน​นี้​ทั่ว​ทั้ง​ประเทศ​กรีซ. หนังสือ​คู่มือ​นิทรรศการ​นั้น​กล่าว​ว่า “เนื่อง​จาก​ความ​นับถือ​ต่อ​เหล่า​เทพเจ้า เทศกาล​ต่าง ๆ ทำ​ให้​ชาว​กรีก​ละ​เว้น​จาก​การ​ต่อ​สู้​ที่​ไม่​มี​ขอบ​เขต​และ​มัก​ใช้​ความ​รุนแรง และ​บรรลุ​ผล​ใน​การ​เปลี่ยน​น้ำใจ​แข่งขัน​ที่​มี​อยู่​ทั่ว​ไป​มา​เป็น​รัก​สันติ ทว่า​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ที่​แท้​จริง​อย่าง​เท่า​เทียม​กัน นั่น​คือ​การ​แข่งขัน​กีฬา.”

กลุ่ม​นครรัฐ​ต่าง ๆ รับ​เอา​กิจ​ปฏิบัติ​ของ​การ​ชุมนุม​กัน​เป็น​ประจำ​ที่​ศูนย์กลาง​การ​นมัสการ​เพื่อ​ถวาย​เกียรติ​แก่​เหล่า​เทพเจ้า​ของ​พวก​เขา​โดย​ทาง​การ​แข่งขัน​กีฬา. ใน​เวลา​ต่อ​มา สี่​เทศกาล​ดัง​กล่าว—โอลิมปิก​และ​นีเมียน ทั้ง​สอง​เทศกาล​อุทิศ​แด่​เทพเจ้า​ซูส, พือเธียน​อุทิศ​แด่​เทพเจ้า​อะพอลโล, และ​อิสท์เมียน​อุทิศ​แด่​เทพเจ้า​โพ​ซี​ดอน—มี​ความ​สำคัญ​มาก​ขึ้น​จน​กระทั่ง​กลาย​เป็น​เทศกาล​ของ​ชาว​กรีก. กล่าว​คือ เทศกาล​เหล่า​นี้​เปิด​ให้​ผู้​แข่งขัน​จาก​ทั่ว​ดินแดน​กรีก​ได้​เข้า​ร่วม. เทศกาล​ต่าง ๆ เน้น​การ​บูชายัญ​และ​การ​อธิษฐาน รวม​ทั้ง​มี​การ​แข่งขัน​กีฬา​ชั้น​สูง​หรือ​ศิลปะ​เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​เหล่า​เทพเจ้า​ด้วย​เช่น​กัน.

เทศกาล​ที่​เก่า​แก่​และ​มี​ชื่อเสียง​ที่​สุด​ของ​เทศกาล​เหล่า​นั้น กล่าว​กัน​ว่า​จัด​ขึ้น​ใน​ปี 776 ก่อน ส.ศ. ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ทุก ๆ สี่​ปี​เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​เทพเจ้า​ซูส ณ เมือง​โอลิมเปีย. เทศกาล​ที่​สำคัญ​อันดับ​รอง​ลง​มา​คือ​เทศกาล​พือเธียน ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ใกล้ ๆ กับ​สำนัก​ผู้​ทำนาย​ที่​มี​ชื่อเสียง​โด่งดัง​ที่​สุด​ของ​โลก​ยุค​โบราณ ณ เมือง​เดลฟี เทศกาล​นี้​ก็​มี​กีฬา​รวม​อยู่​ด้วย. ทว่า​เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​เทพเจ้า​อะพอลโล ซึ่ง​เป็น​เทพ​ผู้​พิทักษ์​บท​กวี​และ​ดนตรี จึง​มี​การ​เน้น​ที่​เพลง​และ​การ​เต้น​รำ.

การ​แข่งขัน

เทียบ​กับ​กีฬา​ใน​สมัย​ปัจจุบัน จำนวน​ของ​การ​แข่งขัน​มี​ค่อนข้าง​จำกัด และ​เฉพาะ​ผู้​ชาย​เท่า​นั้น​ที่​ลง​แข่งขัน. รายการ​ของ​กีฬา​โอลิมปิก​ใน​สมัย​โบราณ​มี​การ​แข่งขัน​ไม่​เกิน​สิบ​รายการ. รูป​ปั้น, ภาพ​นูน, ลวด​ลาย​โมเสก, และ​ภาพ​วาด​บน​โถ​ดิน​เผา​ที่​จัด​แสดง​ใน​โคลอสเซียม​แสดง​ภาพ​ของ​การ​แข่งขัน​เหล่า​นั้น.

มี​การ​วิ่ง​แข่ง​สาม​ระยะ​ทาง คือ​รอบ​สนาม​กีฬา​ประมาณ 200 เมตร; วิ่ง​สอง​รอบ เทียบ​กับ​ระยะ​ทาง​ใน​ปัจจุบัน​คือ 400 เมตร; และ​วิ่ง​ระยะ​ไกล​ประมาณ 4,500 เมตร. นัก​กีฬา​จะ​วิ่ง​และ​ฝึกฝน​ใน​สภาพ​เปลือย​ล่อนจ้อน. ผู้​แข่งขัน​ปัญจกรีฑา​เข้า​แข่งขัน​ใน​ห้า​ประเภท คือ​วิ่ง, กระโดด​ไกล, ขว้าง​จักร, พุ่ง​แหลน, และ​มวย​ปล้ำ. การ​แข่งขัน​อื่น ๆ รวม​ถึง​การ​ชก​มวย​ผสม​มวย​ปล้ำ​แบบ​ไม่​กำหนด​ท่า มี​การ​พรรณนา​ว่า​เป็น “กีฬา​ที่​ทารุณ​ซึ่ง​ผสม​การ​ชก​มวย​แบบ​ไม่​ใส่​นวม​เข้า​กับ​มวย​ปล้ำ.” ถัด​จาก​นั้น มี​การ​แข่ง​ขับ​รถ​ม้า​ใน​ระยะ​ทาง​กว่า 1,600 เมตร โดย​ใช้​พาหนะ​ขนาด​เบา​เปิด​ด้าน​หลัง​พร้อม​กับ​ติด​ตั้ง​ล้อ​เล็ก ๆ และ​ใช้​ลูก​ม้า​หรือ​ม้า​ที่​โต​แล้ว​สอง​หรือ​สี่​ตัว​ลาก​ไป.

การ​ชก​มวย​นั้น​รุนแรง​อย่าง​ยิ่ง​และ​บาง​ครั้ง​เป็น​อันตราย​ถึง​ชีวิต. ผู้​แข่งขัน​พัน​สาย​หนัง​แข็ง ๆ ซึ่ง​ทำ​เป็น​ปุ่ม​โลหะ​ไว้​รอบ​มือ​ของ​ตน. คุณ​อาจ​นึก​ภาพ​ออก​ว่า เหตุ​ใด​ผู้​แข่งขันคน​หนึ่ง​ที่​ชื่อ​สตราโตฟอนเต​จำ​หน้า​ตัว​เอง​ใน​กระจก​ไม่​ได้​หลัง​จาก​การ​ชก​มวย​สี่​ชั่วโมง. รูป​ปั้น​และ​ลวด​ลาย​โมเสก​ใน​สมัย​โบราณ​ให้​หลักฐาน​ว่า พวก​นัก​มวย​เสีย​โฉม​อย่าง​น่า​กลัว.

ใน​กีฬา​มวย​ปล้ำ กติกา​กำหนด​ให้​จับ​ตัว​คู่​ต่อ​สู้​ได้​เพียง​ส่วน​บน​ของ​ร่าง​กาย​เท่า​นั้น และ​ผู้​ชนะ​คือ​คน​ที่​ทำ​ให้​คู่​ต่อ​สู้​นอน​อยู่​บน​พื้น​โดย​เคลื่อน​ที่​ไม่​ได้​สาม​ครั้ง. ใน​ทาง​ตรง​ข้าม กีฬา​มวย​ปล้ำ​แบบ​ไม่​กำหนด​ท่า​ไม่​มี​ข้อ​ห้าม​ใน​การ​จับ​ตัว​คู่​ต่อ​สู้. ผู้​แข่งขัน​สามารถ​เตะ, ต่อย, และ​บิด​ข้อ​ได้. แต่​มี​ข้อ​ห้าม​คือ การ​ควัก​ลูก​ตา, การ​ข่วน, และ​การ​กัด. เป้าหมาย​คือ​เพื่อ​ทำ​ให้​คู่​ต่อ​สู้​นอน​อยู่​บน​พื้น​โดย​เคลื่อน​ที่​ไม่​ได้​และ​จำ​ต้อง​ยอม​แพ้. บาง​คน​ถือ​ว่า​นั่น​เป็น “ภาพ​ที่​น่า​ตื่นเต้น​ที่​สุด​ของ​โอลิมเปีย​ทั้ง​หมด.”

มี​การ​กล่าว​กัน​ว่า การ​ต่อ​สู้​ใน​มวย​ปล้ำ​แบบ​ไม่​กำหนด​ท่า​ที่​มี​ชื่อเสียง​ที่​สุด​ใน​สมัย​โบราณ​เกิด​ขึ้น ณ การ​แข่งขัน​รอบ​สุด​ท้าย​ของ​กีฬา​โอลิมปิก​ใน​ปี 564 ก่อน ส.ศ. อาร์ราฮีโอน ซึ่ง​ถูก​บีบ​คอ​จน​หายใจ​ไม่​ออก ได้​ตั้ง​สติ​ทำ​ให้​นิ้ว​เท้า​นิ้ว​หนึ่ง​ของ​คู่​ต่อ​สู้​เคลื่อน. คู่​ต่อ​สู้​ของ​เขา​เจ็บ​ปวด​จน​หมด​กำลัง จึง​ยอม​แพ้​เกือบ​เวลา​เดียว​กับ​ที่​อาร์ราฮีโอน​เสีย​ชีวิต. ผู้​ตัดสิน​ประกาศ​ให้​ศพ​ของ​อาร์ราฮีโอน​เป็น​ผู้​ชนะ!

การ​แข่ง​ขับ​รถ​ม้า​เป็น​การ​แข่งขัน​ที่​มี​ชื่อเสียง​ที่​สุด​และ​ยัง​เป็น​ที่​นิยม​มาก​ที่​สุด​ใน​หมู่​พวก​ขุนนาง​อีก​ด้วย เนื่อง​จาก​ผู้​ชนะ​ไม่​ใช่​คน​ขับ​รถ​ม้า​แต่​เป็น​เจ้าของ​รถ​ม้า​และ​ม้า. ช่วง​วิกฤติ​ใน​การ​แข่งขัน​คือ​ช่วง​เริ่ม​ต้น​ของ​การ​แข่งขัน เมื่อ​คน​ขับ​รถ​ม้า​ต้อง​อยู่​ใน​ลู่​แข่ง และ​ช่วง​วิกฤติ​ที่​สุด​คือ​ตอน​เลี้ยว​กลับ​รอบ​เสา​ใน​แต่​ละ​รอบ​ที่​อยู่​สุด​ลู่​แข่ง​ทั้ง​สอง​ด้าน. ความ​ผิด​พลาด​และ​การ​ทำ​ผิด​กติกา​อาจ​ก่อ​ให้​เกิด​อุบัติเหตุ​ซึ่ง​ทำ​ให้​การ​แข่งขัน​อัน​เป็น​ที่​นิยม​นี้​น่า​ตื่นเต้น​ยิ่ง​ขึ้น.

รางวัล​สำหรับ​ผู้​ชนะ

อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ว่า “คน​เหล่า​นั้น​ที่​วิ่ง​แข่ง​กัน​ก็​วิ่ง​ด้วย​กัน​ทุก​คน, แต่​คน​ที่​ได้​รับ​รางวัล​มี​แต่​คน​เดียว.” (1 โกรินโธ 9:24) ชัย​ชนะ​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด. ไม่​มี​เหรียญ​เงิน​หรือ​เหรียญ​ทองแดง ไม่​มี​อันดับ​สอง​หรือ​อันดับ​สาม. นิทรรศการ​นั้น​อธิบาย​ว่า “ชัย​ชนะ หรือ ‘นีเค’ เป็น​เป้าหมาย​สูง​สุด​ของ​นัก​กีฬา. เพียง​แค่​ได้​ชัย​ชนะ​ก็​เพียง​พอ เนื่อง​จาก​ชัย​ชนะ​เท่า​นั้น​ที่​สะท้อน​ให้​เห็น​คุณสมบัติ​ส่วน​ตัว​ของ​คน​นั้น​อย่าง​แท้​จริง ทั้ง​ด้าน​ร่าง​กาย​และ​ศีลธรรม อีก​ทั้ง​เป็น​ความ​ภูมิ​ใจ​แห่ง​บ้าน​เกิด​เมือง​นอน​ของ​เขา.” ทัศนะ​ดัง​กล่าว​สรุป​ได้​ด้วย​โคลง​บรรทัด​หนึ่ง​ของ​โฮเมอร์​ที่​ว่า “ข้า​เรียน​รู้​ที่​จะ​ชนะ​เลิศ​เสมอ.”

รางวัล​ที่​มอบ​ให้​แก่​ผู้​ชนะ​ใน​กีฬา​ของ​ชาว​กรีก​เป็น​เพียง​สิ่ง​ที่​ใช้​เป็น​สัญลักษณ์​แห่ง​ชัย​ชนะ​เท่า​นั้น ซึ่ง​ก็​คือ​มงกุฎ​ใบ​ไม้. เปาโล​เรียก​มงกุฎ​นั้น​ว่า “มงกุฎ​ใบ​ไม้​ที่​จะ​ร่วงโรย​เสีย​ได้.” (1 โกรินโธ 9:25) กระนั้น รางวัล​นี้​มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง. รางวัล​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ถึง​อำนาจ​แห่ง​ธรรมชาติ​ซึ่ง​ให้​พลัง​แก่​ผู้​ชนะ. ชัย​ชนะ ซึ่ง​ติด​ตาม​ด้วย​ความ​ตั้งใจ​มุ่ง​มั่น หมาย​ถึง​การ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​เหล่า​เทพเจ้า. นิทรรศการ​นี้​แสดง​ตัว​อย่าง​วิธี​ที่​เหล่า​ประ​ติ​มา​กร​และ​จิตรกร​ใน​สมัย​โบราณ​จินตนาการ​ภาพ​ของ​นีเค เทพ​ธิดา​แห่ง​ชัย​ชนะ​ของ​กรีก​ที่​มี​ปีก กำลัง​สวม​มงกุฎ​ให้​แก่​ผู้​ชนะ. ชัย​ชนะ​ที่​โอลิมเปีย​เป็น​จุด​สุด​ยอด​ของ​อาชีพ​นัก​กีฬา.

มงกุฎ​ของ​โอลิมปิก​ทำ​จาก​ใบ​มะกอก​เทศ​ป่า, มงกุฎ​ของ​อิสท์เมียน​ทำ​จาก​ใบ​สน, มงกุฎ​ของ​พือเธียน​ทำ​จาก​ใบ​ลอเรล, มงกุฎ​ของ​นีเมียน​ทำ​จาก​ใบ​ขึ้นฉ่าย​ป่า. พวก​ผู้​จัด​การ​แข่งขัน​ใน​ที่​อื่น​เสนอ​เงิน​หรือ​รางวัล​อื่น ๆ เพื่อ​จูง​ใจ​ผู้​แข่งขัน​ที่​เก่ง​ที่​สุด. โถ​บาง​ใบ​ที่​แสดง​ใน​นิทรรศการ​นี้​เคย​เป็น​รางวัลใน​กีฬา​พา​นาที​นา​อิ​ก ซึ่ง​จัด​ที่​กรุง​เอเธนส์​เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​เทพ​ธิดา​อะทีนา. โถ​เหล่า​นี้​แต่​เดิม​ใช้​บรรจุ​น้ำมัน​มะกอก​อัน​มี​ค่า​จาก​แถบ​แอตติกา. ภาพ​วาด​บน​โถ​ด้าน​หนึ่ง​เป็น​ภาพ​เทพ​ธิดา​อะทีนา​และ​เขียน​ว่า “รางวัล​สำหรับ​การ​แข่งขัน​แห่ง​อะทีนา.” อีก​ด้าน​หนึ่ง​มี​ภาพ​วาด​ของ​การ​แข่งขัน​พิเศษ เป็น​ไป​ได้​ว่า​เป็น​ภาพ​การ​แข่งขัน​หนึ่ง​ซึ่ง​นัก​กีฬา​ได้​รับ​ชัย​ชนะ.

เมือง​ต่าง ๆ ใน​กรีก​ร่วม​ชื่นชม​กับ​ชื่อเสียง​ของ​พวก​นัก​กีฬา​ของ​ตน ซึ่ง​ชัย​ชนะ​ได้​เปลี่ยน​พวก​เขา​ให้​กลาย​เป็น​วีรบุรุษ​เด่น​ดัง​ใน​ชุมชน​หมู่​บ้าน​ของ​ตน. มี​การ​ฉลอง​การ​กลับ​มา​ของ​ผู้​ชนะ​ด้วย​ขบวน​แห่​ชัย​ชนะ. มี​การ​ทำ​รูป​ปั้น​ของ​เหล่า​ผู้​ชนะ​เพื่อ​เป็น​การ​ถวาย​คำ​ขอบพระคุณ​แด่​เหล่า​เทพเจ้า—ซึ่ง​เป็น​เกียรติ​ที่​ตาม​ธรรมดา​แล้ว​ไม่​มอบ​ให้​กับ​มนุษย์—และ​พวก​กวี​ขับ​ร้อง​เกี่ยว​กับ​ความ​กล้า​หาญ​ของ​พวก​เขา. หลัง​จาก​นั้น พวก​ผู้​ชนะ​ได้​รับ​ที่​นั่ง​ใน​แถว​แรก ณ พิธี​ต่อ​หน้า​สาธารณชน​และ​ได้​รับ​เงิน​บำนาญ​จาก​รัฐ.

โรง​พลศึกษา​และ​พวก​นัก​กีฬา

การ​แข่งขัน​กีฬา​ถือ​เป็น​ส่วน​สำคัญ​ใน​พัฒนาการ​ของ​ทหาร​กึ่ง​พลเรือน. ทุก ๆ เมือง​ใน​กรีก​มี​โรง​พลศึกษา ที่​ซึ่ง​มี​การ​ฝึก​ร่าง​กาย​สำหรับ​ชาย​หนุ่ม​ร่วม​กับ​การ​สอน​ด้าน​เชาวน์​ปัญญา​และ​การ​ฝึกฝน​ทาง​ศาสนา. ลาน​กว้าง​ใน​อาคาร​ต่าง ๆ ของ​โรง​พลศึกษา​ถูก​จัด​ไว้​สำหรับ​ออก​กำลัง​กาย มี​ระเบียง​ล้อม​รอบ​และ​พื้น​ที่​ปิด​อื่น ๆ ถูก​ใช้​เป็น​ห้อง​สมุด​และ​ห้อง​เรียน. ส่วน​ใหญ่ ชาย​หนุ่ม​จาก​ครอบครัว​ที่​มั่งคั่ง​ซึ่ง​สามารถ​อุทิศ​เวลา​ให้​กับ​การ​ศึกษา​แทน​ที่​จะ​ทำ​งาน​ได้​ใช้​สถาน​ที่​ดัง​กล่าว. ที่​นี่ พวก​นัก​กีฬา​เก็บ​ตัว​เพื่อ​การ​เตรียม​ตัว​อัน​ยาว​นาน​และ​คร่ำ​เคร่ง​สำหรับ​การ​แข่งขัน​โดย​มี​ผู้​ฝึก​สอน​คอย​ช่วย ผู้​ซึ่ง​กำหนด​อาหาร​และ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​มี​การ​งด​การ​ร่วม​เพศ​ด้วย​เช่น​กัน.

งาน​นิทรรศการ​ที่​โคลอสเซียม​เปิด​โอกาส​ให้​ผู้​เข้า​ชม​ได้​ชื่นชม​กับ​รูป​ปั้น​อัน​งดงาม​ของ​พวก​นัก​กีฬา​ใน​สมัย​โบราณ ส่วน​ใหญ่​เป็น​รูป​จำลอง​ที่​ทำ​ใน​สมัย​จักรวรรดิ​โรมัน​ตาม​รูป​ปั้น​ดั้งเดิม​ของ​กรีก. เนื่อง​จาก​ใน​อุดมการณ์​ของ​กรีก​ใน​สมัย​โบราณ ความ​สมบูรณ์​ทาง​กาย​ตรง​กับ​ความ​สมบูรณ์​ทาง​ศีลธรรม​และ​มี​เฉพาะ​ใน​ชน​ชั้น​ขุนนาง ร่าง​กาย​ซึ่ง​มี​สัดส่วน​ที่​ดี​ของ​พวก​นัก​กีฬา​ที่​ได้​ชัย​ชนะ​เหล่า​นี้​จึง​แสดง​ถึง​อุดมคติ​ด้าน​หลัก​ปรัชญา. ชาว​โรมัน​ยกย่อง​รูป​ปั้น​เหล่า​นี้​ว่า​เป็น​งาน​ศิลปะ รูป​ปั้น​หลาย​รูป​ถูก​นำ​ไป​ตกแต่ง​สนาม​กีฬา, โรง​อาบ​น้ำ, บ้าน​พัก​ของ​พวก​ผู้​ดี, และ​วัง.

ใน​หมู่​ชาว​โรมัน การ​แสดง​อัน​รุนแรง​เป็น​ที่​นิยม​มา​โดย​ตลอด โดย​เหตุ​นั้น ใน​การ​แข่งขัน​ทั้ง​หมด​ของ​กรีก​ที่​นำ​มา​แสดง​ใน​โรม การ​ชก​มวย, มวย​ปล้ำ, และ​มวย​ปล้ำ​แบบ​ไม่​กำหนด​ท่า​เป็น​ที่​ชื่น​ชอบ​มาก​ที่​สุด. ชาว​โรมัน​ถือ​ว่า​กีฬา​ต่าง ๆ ดัง​กล่าว​ไม่​ได้​เป็น​การ​แข่งขัน​ระหว่าง​ผู้​ที่​เท่า​เทียม​กัน​เพื่อ​วัด​ความ​สามารถ​ของ​แต่​ละ​คน แต่​เป็น​เพียง​การ​ให้​ความ​เพลิดเพลิน​เท่า​นั้น. ความ​คิด​ดั้งเดิม​ใน​เรื่อง​กีฬา​ที่​ว่า เหล่า​นัก​กีฬา -ยอด​นัก​รบ​มี​ส่วน​ร่วม​กัน​ใน​ฐานะ​เป็น​ส่วน​ของ​การ​ศึกษา​นั้น​ได้​ล้ม​เลิก​ไป. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น ชาว​โรมัน​ลด​ระดับ​กีฬา​ของ​กรีก​ลง​เป็น​การ​ออก​กำลัง​กาย​เพื่อ​สุขภาพ​ก่อน​อาบ​น้ำ​หรือ​การ​ที่​นัก​กีฬา​อาชีพ​ชั้น​ต่ำ​กว่า​แสดง​ให้​ผู้​ชม​ดู คล้าย​กับ​การ​ต่อ​สู้​ใน​สังเวียน.

คริสเตียน​และ​กีฬา

ลักษณะ​ทาง​ศาสนา​ใน​กีฬา​เป็น​สาเหตุ​หนึ่ง​สำหรับ​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​ที่​จะ​หลีก​หนี​จาก​กีฬา​เหล่า​นั้น เพราะ “วิหาร​ของ​พระเจ้า​จะ​ทำ​สัญญา​อะไร​กับ​รูป​เคารพ​ได้?” (2 โกรินโธ 6:14, 16) จะ​ว่า​อย่าง​ไร​สำหรับ​กีฬา​ใน​ทุก​วัน​นี้?

เห็น​ได้​ชัด​ว่า กีฬา​ใน​สมัย​ปัจจุบัน​ไม่​ได้​ให้​เกียรติ​แก่​เหล่า​เทพเจ้า​นอก​รีต. ถึง​กระนั้น เป็น​ความ​จริง​มิ​ใช่​หรือ​ที่​ว่า กีฬา​บาง​ประเภท​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​ศรัทธา​ที่​ใกล้​เคียง​กับ​ความ​ศรัทธา​ด้าน​ศาสนา เทียบ​ได้​กับ​ความ​ศรัทธา​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​สมัย​โบราณ? นอก​จาก​นั้น ดัง​ที่​รายงาน​เมื่อ​ไม่​กี่​ปี​มา​นี้​แสดง​ให้​เห็น เพื่อ​จะ​ชนะ นัก​กีฬา​บาง​คน​ตั้งใจ​ใช้​สาร​กระตุ้น​ซึ่ง​เป็น​อันตราย​ต่อ​สุขภาพ​และ​แม้​กระทั่ง​ต่อ​ชีวิต​ของ​ตน.

สำหรับ​คริสเตียน​แล้ว การ​มี​ชื่อเสียง​ทาง​ด้าน​กีฬา​มี​ค่า​จำกัด. คุณลักษณะ​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ “บุคคล​ที่​ซ่อน​เร้น​ไว้​แห่ง​หัวใจ” เป็น​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เรา​งดงาม​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า. (1 เปโตร 3:3, 4, ล.ม.) เรา​ยอม​รับ​ว่า​ไม่​ใช่​ทุก​คน​ที่​มี​ส่วน​ใน​กีฬา​ใน​ทุก​วัน​นี้​มี​น้ำใจ​แข่งขัน​อย่าง​ดุเดือด แต่​หลาย​คน​เป็น​เช่น​นั้น. การ​คบหา​สมาคม​กับ​คน​เหล่า​นั้น​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ติด​ตาม​คำ​กระตุ้น​เตือน​ของ​พระ​คัมภีร์​ที่​จะ “ไม่​ทำ​ประการ​ใด​ใน​ทาง​ทุ่มเถียง​กัน​หรือ​อวดดี​ไป​เปล่า ๆ, แต่​ให้​ทุก​คน​มี​ใจ​ถ่อม​ลง” ไหม? หรือ​การ​คบหา​สมาคม​ดัง​กล่าว​จะ​ไม่​ทำ​ให้​เกิด “การ​เป็น​ศัตรู​กัน, การ​วิวาท​กัน, การ​ริษยา​กัน, การ​โกรธ​กัน, การ​ทุ่มเถียง​กัน, การ​แตก​ก๊ก​กัน” ไหม?—ฟิลิปปอย 2:3; ฆะลาเตีย 5:19-21.

กีฬา​ที่​ผู้​เล่น​มัก​จะ​ถูก​เนื้อ​ถูก​ตัว​กัน​หลาย​ประเภท​ใน​ปัจจุบัน​อาจ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​รุนแรง​ขึ้น​ได้. ใคร​ก็​ตาม​ที่​สนใจ​กีฬา​ดัง​กล่าว​ควร​จด​จำ​ถ้อย​คำ​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ 11:5 ที่​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทดลอง​ดู​คน​ชอบธรรม; แต่​พระทัย​ของ​พระองค์​ทรง​เกลียด​ชัง​คน​ชั่ว​ที่​นิยม​ใน​การ​ร้าย [“ชอบ​ความ​รุนแรง,” ล.ม.].”

เมื่อ​อยู่​ใน​ลำดับ​ความ​สำคัญ​ที่​เหมาะ​สม การ​ออก​กำลัง​กาย​สามารถ​ให้​ความ​เพลิดเพลิน และ​อัครสาวก​เปาโล​ได้​กล่าว​ว่า “การ​ฝึก​หัด​กาย​นั้น​มี​ประโยชน์​ชั่ว​คราว.” (1 ติโมเธียว 4:7-10) อย่าง​ไร​ก็​ตาม เมื่อ​เปาโล​พูด​ถึง​กีฬา​ต่าง ๆ ของ​กรีก ท่าน​เพียง​แต่​อ้างอิง​ถึง​กีฬา​เหล่า​นั้น​อย่าง​เหมาะ​สม​เพื่อ​แสดง​ให้​คริสเตียน​เห็น​ความ​สำคัญ​ที่​จะ​มี​คุณลักษณะ​ต่าง ๆ เช่น การ​ควบคุม​ตน​เอง​และ​ความ​อด​ทน. เหนือ​สิ่ง​อื่น​ใด เป้าหมาย​ที่​เปาโล​พยายาม​บรรลุ​คือ​การ​ได้​รับ “มงกุฎ” แห่ง​ชีวิต​นิรันดร์​ที่​พระเจ้า​จะ​ประทาน​ให้. (1 โกรินโธ 9:24-27; 1 ติโมเธียว 6:12) โดย​การ​ทำ​เช่น​นั้น เปาโล​วาง​แบบ​อย่าง​ไว้​ให้​พวก​เรา.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 4 นีเค เป็น​คำ​ภาษา​กรีก​หมาย​ถึง “ชัย​ชนะ.”

[กรอบ/ภาพ​หน้า 31]

นัก​มวย​หลัง​การ​ต่อ​สู้

รูป​ปั้น​ทองแดง​จาก​ศตวรรษ​ที่​สี่​ก่อน​สากล​ศักราช​นี้​ชี้​ถึง​ผล​เสียหาย​ของ​การ​ชก​มวย​ใน​สมัย​โบราณ ตาม​ที่​รายการ​นิทรรศการ​ของ​โรม​กล่าว​ไว้​ว่า “การ​ต้านทาน​ของ​นัก​มวย . . . ผู้​ที่​ต่อ​สู้​อย่าง​หมด​เรี่ยว​แรง ซึ่ง​ใน​ระหว่าง​การ​ต่อ​สู้​มี​การ​ให้ ‘บาดแผล​แทน​บาดแผล’ นั้น​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​ว่า​เป็น​แบบ​อย่าง​ที่​ดี​เยี่ยม.” มี​การ​พรรณนา​ต่อ​ไป​ว่า “บาดแผล​จาก​การ​ต่อ​สู้​ที่​เพิ่ง​ยุติ​เพิ่ม​เข้า​กับ​บาดแผล​จาก​การ​ต่อ​สู้​ใน​ครั้ง​ก่อน ๆ.”

[ภาพ​หน้า 29]

การ​แข่ง​ขับ​รถ​ม้า​เป็น​การ​แข่งขัน​ที่​มี​ชื่อเสียง​ที่​สุด​ใน​การ​แข่งขัน​ใน​สมัย​โบราณ

[ภาพ​หน้า 30]

จิตรกร​ใน​สมัย​โบราณ​จินตนาการ​นีเค เทพ​ธิดา​แห่ง​ชัย​ชนะ​ที่​มี​ปีก สวม​มงกุฎ​ให้​แก่​ผู้​ชนะ