ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เครื่องโม่ที่ทำให้มีอาหารรับประทาน

เครื่องโม่ที่ทำให้มีอาหารรับประทาน

เครื่อง​โม่​ที่​ทำ​ให้​มี​อาหาร​รับประทาน

ใน​หลาย​ประเทศ มี​การ​กล่าว​ถึง​ขนมปัง​ว่า​เป็น “สิ่ง​ค้ำจุน​ชีวิต” หรือ “อาหาร​หลัก” รวม​ทั้ง “อาหาร​หลัก​และ​อาหาร​ค้ำจุน​ชีวิต​มนุษย์​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​มา​เป็น​เวลา​นาน​นับ​ไม่​ถ้วน.” ใช่​แล้ว ขนมปัง​เป็น​อาหาร​หลัก​ตั้ง​แต่​โบราณ​กาล​มา​แล้ว. ที่​จริง ความ​จำเป็น​อัน​เร่ง​ด่วน​ที่​สุด​อย่าง​หนึ่ง​ของ​มนุษย์​ก็​คือ การ​จัด​หา​อาหาร​ประจำ​วัน.

ส่วน​ผสม​หลัก​ของ​ขนมปัง​คือ​แป้ง​หรือ​ธัญชาติ ซึ่ง​ได้​มา​จาก​การ​โม่​เมล็ด​ธัญพืช. ดัง​นั้น การ​โม่​จึง​เป็น​ศิลปะ​อย่าง​หนึ่ง​ตั้ง​แต่​สมัย​โบราณ. หาก​ไม่​มี​เครื่องจักร​ที่​สะดวก​สบาย การ​โม่​ธัญพืช​ให้​เป็น​แป้ง​คง​ต้อง​เป็น​งาน​หนัก​สัก​เพียง​ไร! ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล เสียง​โม่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สภาพ​ปกติ​สุข​หรือ​สงบ และ​การ​ไม่​ได้​ยิน​เสียง​โม่​บ่ง​ชี้​ถึง​ความ​ร้าง​เปล่า.—ยิระมะยา 25:10, 11.

การ​โม่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​อะไร​ตลอด​ยุค​สมัย​ต่าง ๆ? มี​การ​ใช้​วิธี​และ​อุปกรณ์​อะไร​บ้าง​เพื่อ​ทำ​การ​โม่? และ​มี​การ​ใช้​เครื่อง​โม่​ชนิด​ใด​ที่​ทำ​ให้​คุณ​มี​อาหาร​รับประทาน​ใน​ทุก​วัน​นี้?

เหตุ​ใด​จึง​จำเป็น?

พระ​ยะโฮวา​ตรัส​กับ​อาดาม​และ​ฮาวา​มนุษย์​คู่​แรก​ว่า “นี่​แน่ะ, สารพัตร​ผัก​ที่​เกิด​เมล็ด​มี​อยู่​บน​พื้น​แผ่นดิน, และ​ต้น​ไม้​ทั้ง​ปวง​ที่​เกิด​ผล​มี​เมล็ด, เรา​ยก​ให้​เป็น​อาหาร​ของ​เจ้า​ทั้ง​หลาย.” (เยเนซิศ 1:29) ใน​บรรดา​อาหาร​ที่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ประทาน​ให้​แก่​มนุษยชาติ​นั้น​คือ​เมล็ด​ธัญพืช. แหล่ง​อาหาร​นี้​สำคัญ​ต่อ​การ​มี​ชีวิต​อยู่​ของ​มนุษย์ เนื่อง​จาก​ธัญพืช​ทั้ง​หมด ซึ่ง​มี​ข้าว​สาลี, ข้าว​บาร์เลย์, ข้าว​ไรย์, ข้าว​โอ๊ต, ข้าว​เจ้า, ข้าว​ฟ่าง, ลูก​เดือย, และ​ข้าว​โพด​รวม​อยู่​ด้วย มี​คาร์โบไฮเดรต​ที่​เป็น​แป้ง ซึ่ง​ร่าง​กาย​สามารถ​เปลี่ยน​ให้​เป็น​พลังงาน​หรือ​กลูโคส.

แต่​มนุษย์​ไม่​สามารถ​ย่อย​ธัญพืช​ดิบ​ได้. สำหรับ​มนุษย์​แล้ว ธัญพืช​ดิบ​จะ​รับประทาน​ได้​ง่าย​กว่า​เมื่อ​ทำ​เป็น​แป้ง​แล้ว​ทำ​ให้​สุก. วิธี​ที่​ง่าย​ที่​สุด​ใน​การ​ทำ​ให้​เมล็ด​พืช​กลาย​เป็น​แป้ง​ก็​คือ โดย​การ​ตำ​เมล็ด​พืช​ใน​ครก, บด​เมล็ด​พืช​โดย​ใช้​หิน​สอง​ก้อน, หรือ​ทั้ง​ตำ​ทั้ง​บด.

เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​แรง​ของ​มนุษย์

รูป​ปั้น​ขนาด​เล็ก​จาก​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​ของ​ชาว​อียิปต์​ใน​สมัย​โบราณ​เผย​ให้​เห็น​การ​ใช้​เครื่อง​โม่​เมล็ด​พืช​ชนิด​หนึ่ง​ใน​อดีต ซึ่ง​มี​รูป​ร่าง​คล้าย​กับ​อาน. เครื่อง​โม่​นี้​ประกอบ​ด้วย​หิน​สอง​ชั้น ชั้น​ล่าง​เว้า​และ​ลาด​เอียง​เล็ก​น้อย ส่วน​ชั้น​บน​จะ​เล็ก​กว่า. คน​โม่​ซึ่ง​ตาม​ปกติ​เป็น​ผู้​หญิง​จะ​คุกเข่า​ลง​ตรง​หน้า​อุปกรณ์​และ​มือ​ทั้ง​สอง​ข้าง​จะ​จับ​หิน​ชั้น​บน​ไว้. จาก​นั้น เธอ​ก็​ทิ้ง​น้ำหนัก​ตัว​ท่อน​บน​ทั้ง​หมด​ลง​ไป​แล้ว​ไถ​หิน​ชั้น​บน​ไป​มา​บน​หิน​ชั้น​ล่าง เพื่อ​บด​เมล็ด​พืช​ที่​อยู่​ระหว่าง​หิน​สอง​ชั้น​นั้น. ช่าง​เป็น​อุปกรณ์​ที่​ง่าย ทว่า​มี​ประสิทธิภาพ​จริง ๆ!

อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​คุกเข่า​เป็น​เวลา​หลาย​ชั่วโมง​มี​ผล​เสีย​ต่อ​ร่าง​กาย. การ​ไถ​หิน​ชั้น​บน​ไป​จน​สุด​แล้ว​ดึง​กลับ​มา​อีก​ทำ​ให้​คน​โม่​ปวด​หลัง, แขน, ต้น​ขา, เข่า, และ​ปลาย​เท้า​อยู่​เสมอ. การ​ศึกษา​วิจัย​เกี่ยว​กับ​โครง​กระดูก​ที่​ผิด​ปกติ​จากซีเรีย​ใน​สมัย​โบราณ ทำ​ให้​นัก​ชีววิทยา​ว่า​ด้วย​สิ่ง​มี​ชีวิต​สมัย​โบราณ​ลง​ความ​เห็น​ว่า การ​ใช้​เครื่อง​โม่​คล้าย​กัน​นี้​ทำ​ให้​พวก​หญิง​สาว​มี​อาการ​บาดเจ็บ​จาก​การ​ทำ​อะไร​ซ้ำ ๆ ทำ​ให้​สะบ้า​หัวเข่า​สึก, ก่อ​ความ​เสียหาย​แก่​กระดูก​สัน​หลัง​ปล้อง​ทรวง​อก, และ​เป็น​โรค​ข้อ​ต่อ​เสื่อม​อย่าง​รุนแรง​ที่​นิ้ว​หัวแม่เท้า. ใน​ประเทศ​อียิปต์​สมัย​โบราณ การ​ใช้​เครื่อง​โม่​ดู​เหมือน​จะ​เป็น​งาน​ของ​สาว​ใช้. (เอ็กโซโด 11:5) * ผู้​คง​แก่​เรียน​บาง​คน​เชื่อ​ว่า เมื่อ​ชาว​อิสราเอล​ออก​จาก​อียิปต์ พวก​เขา​ได้​เอา​เครื่อง​โม่​ซึ่ง​มี​รูป​ร่าง​คล้าย​กับ​อาน​ไป​ด้วย.

ต่อ​มา การ​ปรับ​ปรุง​อุปกรณ์​โม่​รวม​ถึง​การ​ทำ​ร่อง​บน​หิน​ทั้ง​สอง​ชั้น​เพื่อ​ปรับ​ปรุง​ให้​มี​ประสิทธิภาพ​ยิ่ง​ขึ้น. การ​ทำ​ให้​หิน​ชั้น​บน​มี​ช่อง​รูป​กรวย​ทำ​ให้​คน​โม่​สามารถ​ใส่​เมล็ด​พืช ซึ่ง​จะ​ไหล​ลง​ไป​ระหว่าง​หิน​ทั้ง​สอง​ชั้น​เอง. ใน​ศตวรรษ​ที่​สี่​หรือ​ห้า​ก่อน​สากล​ศักราช ประเทศ​กรีซ​ได้​ประดิษฐ์​เครื่อง​โม่​แบบ​ง่าย ๆ. ด้าม​จับ​หรือ​คัน​โยก​ที่​ขนาน​กับ​พื้น​ซึ่ง​มี​เดือย​อยู่​ตรง​ปลาย​ข้าง​หนึ่ง​นั้น​ติด​อยู่​กับ​หิน​ชั้น​บน. การ​จับ​ปลาย​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ของ​คัน​โยก​แล้ว​โยก​ไป​มา​ทำ​ให้​หิน​ชั้น​บน​ที่​มี​ช่อง​ใส่​เมล็ด​พืช​ถู​กับ​หิน​ชั้น​ล่าง.

เครื่อง​โม่​ทั้ง​หมด​ที่​กล่าว​ถึง​ข้าง​ต้น​นี้​มี​ข้อ​จำกัด​ที่​ยุ่งยาก. เครื่อง​โม่​เหล่า​นี้​ต้อง​ใช้​การ​โยก​ไป​โยก​มา ซึ่ง​ไม่​สามารถ​ฝึก​ให้​สัตว์​ทำ​ได้. ด้วย​เหตุ​นี้ เครื่อง​โม่​เหล่า​นี้​จึง​ต้อง​ใช้​แรง​ของ​มนุษย์. ต่อ​มา มี​การ​ประดิษฐ์​โดย​ใช้​เทคโนโลยี​ใหม่ ๆ นั่น​คือ​เครื่อง​โม่​แบบ​หมุน​รอบ​แกน. ตอน​นี้​จึง​สามารถ​ใช้​แรงงาน​สัตว์​ได้.

เครื่อง​โม่​แบบ​หมุน​รอบ​แกน​ทำ​ให้​งาน​ง่าย​ขึ้น

แม้​ว่า​มี​ความ​คิด​เห็น​ต่าง ๆ กัน เครื่อง​โม่​เมล็ด​พืช​แบบ​หมุน​รอบ​แกน​อาจ​ถูก​ประดิษฐ์​ขึ้น​ใน​แถบ​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน​ประมาณ​ศตวรรษ​ที่​สอง​ก่อน​สากล​ศักราช. พอ​ถึง​ศตวรรษ​แรก​แห่ง​สากล​ศักราช ชาว​ยิว​ใน​ปาเลสไตน์​รู้​จัก​คุ้น​เคย​กับ​เครื่อง​โม่​ดัง​กล่าว เพราะ​พระ​เยซู​ได้​ตรัส​ถึง “หิน​โม่​แป้ง​ก้อน​ใหญ่.”—มาระโก 9:42.

มี​การ​ใช้​เครื่อง​โม่​ด้วย​แรงงาน​สัตว์​ใน​โรม​และ​จักรวรรดิ​โรมัน​ส่วน​ใหญ่. เครื่อง​โม่​หลาย​อัน​ดัง​กล่าว​ยัง​มี​อยู่​ใน​ปอมเปอี. เครื่อง​โม่​เหล่า​นี้​ประกอบ​ด้วย​หิน​ด้าน​บน​ที่​เป็น​รูป​ทรง​นาฬิกา​ทราย ซึ่ง​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​กรวย​ใส่​เมล็ด​พืช และ​หิน​ด้าน​ล่าง​เป็น​รูป​ทรง​กรวย. เมื่อ​หิน​ด้าน​บน​หมุน​อยู่​บน​หิน​ด้าน​ล่าง เมล็ด​พืช​ก็​จะ​ตก​ลง​ไป​ระหว่าง​หิน​ทั้ง​สอง​และ​ถูก​บด. หิน​ด้าน​บน​ของ​เครื่อง​โม่​ชนิด​นี้​ที่​ยัง​มี​ให้​เห็น​อยู่​นั้น​มี​หลาย​ขนาด ตั้ง​แต่​เส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง​ประมาณ 45 ถึง 90 เซนติเมตร. เครื่อง​โม่​เหล่า​นี้​สูง​ราว ๆ 180 เซนติเมตร.

เครื่อง​โม่​แบบ​หมุน​รอบ​แกน​ที่​ใช้​มือ​หมุน​พัฒนา​มา​จาก​เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​แรงงาน​สัตว์ หรือ​ที่​ใช้​แรงงาน​สัตว์​พัฒนา​มา​จาก​ที่​ใช้​มือ​หมุน​นั้น​ยัง​ไม่​เป็น​ที่​แน่ชัด. ใน​กรณี​ใด​ก็​ตาม เครื่อง​โม่​แบบ​หมุน​รอบ​แกน​มี​ข้อ​ดี​ตรง​ที่​เคลื่อน​ย้าย​และ​ใช้​งาน​ได้​ง่าย. เครื่อง​โม่​นี้​ประกอบ​ด้วย​หิน​ทรง​กลม​สอง​ชั้น ซึ่ง​อาจ​มี​เส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง 30 ถึง 60 เซนติเมตร. ส่วน​บน​ของ​หิน​ชั้น​ล่าง​จะ​นูน​เล็ก​น้อย​และ​ส่วน​ล่าง​ของ​หิน​ชั้น​บน​จะ​เว้า​เล็ก​น้อย เพื่อ​จะ​เข้า​กัน​ได้​พอ​ดี​กับ​หิน​ชั้น​ล่าง​ที่​นูน​ขึ้น​มา. หิน​ชั้น​บน​วาง​ยึด​อยู่​กับ​เดือย​ตรง​กลาง​และ​มี​ด้าม​จับ​ที่​เป็น​ไม้​เพื่อ​ใช้​หมุน. ตาม​ปกติ​แล้ว ผู้​หญิง​สอง​คน​จะ​นั่ง​หัน​หน้า​เข้า​หา​กัน แต่​ละ​คน​ใช้​มือ​หนึ่ง​จับ​ที่​ด้าม​จับ​เพื่อ​หมุน​หิน​ชั้น​บน. (ลูกา 17:35) ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​จะ​ใช้​อีก​มือ​หนึ่ง​ที่​ว่าง​อยู่​ใส่​เมล็ด​พืช​ลง​ไป​เล็ก​น้อย​ใน​ช่อง​ของ​หิน​ชั้น​บน และ​ผู้​หญิง​อีก​คน​หนึ่ง​จะ​รวบ​รวม​แป้ง​ที่​ออก​มา​จาก​ขอบ​ของ​เครื่อง​โม่​ซึ่ง​ตก​ลง​ใน​ถาด​หรือ​ผ้า​ที่​รอง​ไว้​ใต้​เครื่อง​โม่. เครื่อง​โม่​ชนิด​นี้​สนอง​ความ​จำเป็น​แก่​พวก​ทหาร, ชาว​เรือ, หรือ​ครัว​เรือน​เล็ก ๆ ที่​อยู่​ไกล​จาก​โรง​โม่.

เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​พลัง​น้ำ​หรือ​แรง​ลม

ประมาณ​ปี 27 ก่อน ส.ศ. วิทรูเวียส วิศวกร​ชาว​โรมัน​ได้​พรรณนา​ถึง​เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​พลัง​น้ำ​ใน​สมัย​ของ​เขา. กระแส​น้ำ​จะ​ดัน​ใบ​พัด​ของ​วง​ล้อ​ที่​อยู่​ใน​แนว​ตั้ง​ซึ่ง​ติด​แน่น​อยู่​กับ​เพลา​ที่​อยู่​ใน​แนว​นอน จึง​ทำ​ให้​วง​ล้อ​หมุน. ล้อ​เฟือง​เปลี่ยน​การ​หมุน​นี้​ไป​ยัง​เพลา​ใน​แนว​ตั้ง. แล้ว​เพลา​ใน​แนว​ตั้ง​นี้​ก็​จะ​หมุน​หิน​โม่​ใหญ่​ชั้น​บน.

ปริมาณ​แป้ง​ที่​ได้​จาก​เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​พลัง​น้ำ​เป็น​เช่น​ไร​เมื่อ​เทียบ​กับ​ปริมาณ​ที่​ได้​จาก​เครื่อง​โม่​แบบ​อื่น? เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​มือ​กะ​ประมาณ​ว่า​สามารถ​โม่​เมล็ด​พืช​ได้​น้อย​กว่า 10 กิโลกรัม​ต่อ​ชั่วโมง และ​เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​แรงงาน​สัตว์​ที่​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ที่​สุด​สามารถ​โม่​ได้​ถึง 50 กิโลกรัม. แต่​เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​พลัง​น้ำ​ของ​วิทรูเวียส​นั้น​ดี​กว่า เพราะ​สามารถ​โม่​ได้​ราว ๆ 150 ถึง 200 กิโลกรัม​ต่อ​ชั่วโมง. โดย​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​และ​การ​ปรับ​ปรุง​นับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน พวก​คน​สร้าง​เครื่อง​โม่​ที่​มี​ความ​สามารถ​ได้​ใช้​หลัก​พื้น​ฐาน​ที่​วิทรูเวียส​พรรณนา​ไว้​นั้น​เรื่อย​มา​เป็น​เวลา​หลาย​ศตวรรษ​ให้​หลัง.

กระแส​น้ำ​ไม่​ได้​เป็น​แหล่ง​พลังงาน​ธรรมชาติ​เพียง​แหล่ง​เดียว​ที่​ใช้​กับ​หิน​โม่. หาก​เปลี่ยน​ล้อ​ทด​น้ำ​ไป​เป็น​ใบ​กังหัน​ลม ก็​จะ​บรรลุ​เป้าหมาย​เดียว​กัน​ได้. เป็น​ไป​ได้​ว่า มี​การ​ใช้​เครื่อง​โม่​ที่​อาศัย​กำลัง​ลม​ใน​ยุโรป​ช่วง​ศตวรรษ​ที่ 12 ส.ศ. และ​มี​การ​ใช้​เครื่อง​โม่​เหล่า​นี้​อย่าง​กว้างขวาง​เพื่อ​งาน​โม่​ใน​เบลเยียม, เยอรมนี, ฮอลแลนด์, และ​ที่​อื่น ๆ. มี​การ​ใช้​เครื่อง​โม่​เหล่า​นี้​จน​กระทั่ง​มี​เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​ไอ​น้ำ​และ​แหล่ง​พลังงาน​อื่น จึง​ทำ​ให้​ค่อย ๆ เลิก​ใช้​แหล่ง​พลังงาน​อย่าง​อื่น​ทั้ง​หมด.

“อาหาร​เลี้ยง​ข้าพเจ้า​ทั้ง​หลาย​ใน​กาล​วัน​นี้”

แม้​จะ​มี​ความ​ก้าว​หน้า แต่​วิธี​โม่​หลาย​วิธี​ใน​อดีต​ยัง​คง​มี​อยู่​ใน​บาง​ส่วน​ของ​โลก. สาก​กับ​ครก​ยัง​คง​มี​การ​ใช้​กัน​อยู่​ใน​บาง​ส่วน​ของ​แอฟริกา​และ​หมู่​เกาะ​ใน​มหาสมุทร​แปซิฟิก. ใน​เม็กซิโก​และ​อเมริกา​กลาง มี​การ​ใช้​เครื่อง​โม่​ซึ่ง​มี​รูป​ร่าง​คล้าย​กับ​อาน​ใน​การ​โม่​ข้าว​โพด​เพื่อ​นำ​ไป​ทำ​ตอร์ติยา. และ​ยัง​คง​มี​การ​ใช้​เครื่อง​โม่​จำนวน​มาก​ที่​ใช้​พลัง​น้ำ​และ​แรง​ลม​ใน​หลาย ๆ แห่ง.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​โลก​ยุค​ปัจจุบัน​ที่​พัฒนา​แล้ว แป้ง​ส่วน​ใหญ่​ที่​ใช้​ทำ​ขนมปัง​ผลิต​โดย​เครื่อง​โม่​แบบ​ลูก​กลิ้ง​อัตโนมัติ​แทบ​ทั้ง​หมด. เมล็ด​พืช​ค่อย ๆ กลาย​เป็น​แป้ง เมื่อ​ผ่าน​การ​โม่​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​ระหว่าง​ลูก​กลิ้ง​เหล็ก​ที่​ประกบ​กัน​เป็น​คู่ ๆ และ​มี​ผิว​เป็น​ร่อง ซึ่ง​หมุน​ใน​ระดับ​ความ​เร็ว​ที่​ต่าง​กัน. ระบบ​นี้​ทำ​ให้​มี​ความ​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​ผลิต​แป้ง​หลาก​หลาย​คุณภาพ​ใน​ราคา​ถูก.

ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​เลย​ว่า การ​หา​แป้ง​สำหรับ​ทำ​อาหาร​ไม่​ต้อง​เหนื่อย​ยาก​อีก​ต่อ​ไป​เหมือน​เมื่อ​ก่อน. กระนั้น เรา​สามารถ​ขอบพระคุณ​พระ​ผู้​สร้าง​ที่​ทรง​ประทาน​ทั้ง​เมล็ด​พืช​และ​ความ​ฉลาด​ให้​เรา เพื่อ​เปลี่ยน​เมล็ด​พืช​ให้​เป็น “อาหาร​เลี้ยง​ข้าพเจ้า​ทั้ง​หลาย​ใน​กาล​วัน​นี้.”—มัดธาย 6:11.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 10 ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล พวก​ศัตรู​ที่​ตก​เป็น​เชลย เช่น ซิมโซน​กับ​ชาว​อิสราเอล​คน​อื่น ๆ ถูก​ใช้​ให้​ทำ​งาน​โม่​แป้ง. (วินิจฉัย 16:21; บทเพลง​ร้อง​ทุกข์​ของ​ยิระมะยา 5:13) พวก​ผู้​หญิง​ที่​ไม่​ได้​เป็น​ทาส​ก็​โม่​เมล็ด​พืช​สำหรับ​ครัว​เรือน​ของ​ตน.—โยบ 31:10.

[ภาพ​หน้า 23]

เครื่อง​โม่​ของ​ชาว​อียิปต์​ซึ่ง​มี​รูป​ร่าง​คล้าย​กับ​อาน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Soprintendenza Archeologica per la Toscana, Firenze

[ภาพ​หน้า 23]

มะกอก​เทศ​ถูก​บีบ​ให้​เป็น​น้ำมัน​โดย​ใช้​เครื่อง​โม่​ที่​ใช้​แรงงาน​สัตว์

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 22]

From the Self-Pronouncing Edition of the Holy Bible, containing the King James and the Revised versions