ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“จงมีความรักใคร่อันอ่อนละมุนต่อกัน”

“จงมีความรักใคร่อันอ่อนละมุนต่อกัน”

“จง​มี​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ต่อ​กัน”

“ด้วย​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง จง​มี​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ต่อ​กัน.”—โรม 12:10, ล.ม.

1, 2. มิชชันนารี​คน​หนึ่ง​ใน​สมัย​ปัจจุบัน​และ​อัครสาวก​เปาโล​มี​สัมพันธภาพ​แบบ​ใด​กับ​พี่​น้อง​ของ​เขา?

ตลอด​เวลา 43 ปี​ที่​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี​ใน​ประเทศ​แถบ​ตะวัน​ออก​ไกล ดอน​เป็น​ที่​รู้​จัก​ว่า​มี​ความ​อบอุ่น​ต่อ​คน​ที่​เขา​รับใช้. เมื่อ​เขา​ต่อ​สู้​กับ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ใน​วาระ​สุด​ท้าย​ของ​ชีวิต บาง​คน​ที่​เคย​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​เขา​เดิน​ทาง​นับ​พัน​กิโลเมตร​มา​อยู่​ข้าง​เตียง​เขา​แล้ว​กล่าว​ว่า “คัม​ซา​ฮัม​นี​ดา คัม​ซา​ฮัม​นี​ดา!” แปล​ว่า “ขอบคุณ ขอบคุณ!” ใน​ภาษา​เกาหลี. ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ของ​ดอน​ซาบซึ้ง​ใจ​พวก​เขา.

2 ตัว​อย่าง​ของ​ดอน​นี้​ไม่​ใช่​กรณี​เดียว​ที่​เกิด​ขึ้น. ใน​ศตวรรษ​แรก อัครสาวก​เปาโล​แสดง​ความ​รักใคร่​อย่าง​สุด​ซึ้ง​ต่อ​คน​ที่​ท่าน​รับใช้. เปาโล​เสีย​สละ​ตัว​เอง​เพื่อ​ผู้​อื่น. แม้​ว่า​ท่าน​มี​ความ​เชื่อ​มั่น​สูง แต่​ท่าน​ก็​เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​ห่วงใย​ผู้​อื่น​ด้วย “เหมือน​แม่​ลูก​อ่อน​ทะนุถนอม​ลูก​ของ​ตน.” ท่าน​เขียน​ถึง​ประชาคม​ใน​เมือง​เทส​ซา​โล​นี​กา​ว่า “เนื่อง​จาก​มี​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ต่อ​ท่าน เรา​จึง​ยินดี​จะ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​เพียง​แต่​ข่าว​ดี​ของ​พระเจ้า​เท่า​นั้น แต่​ชีวิต​ของ​เรา​ด้วย เพราะ​ว่า​ท่าน​เป็น​ที่​รัก​ของ​เรา.” (1 เธซะโลนิเก 2:7, 8, ล.ม.) ต่อ​มา เมื่อ​เปาโล​บอก​พี่​น้อง​ของ​ท่าน​ใน​เมือง​เอเฟโซส์​ว่า​พวก​เขา​จะ​ไม่​ได้​เห็น​หน้า​ท่าน​อีก “เขา​ทั้ง​หลาย​จึง​ร้องไห้​มาก​มาย, และ​ก้ม​หน้า​ลง​ที่​คอ​ของ​เปาโล, แล้ว​จุบท่าน.” (กิจการ 20:25, 37) เห็น​ได้​ชัด สัมพันธภาพ​ระหว่าง​เปาโล​กับ​พี่​น้อง​ของ​ท่าน​มี​ความ​ลึกซึ้ง​มาก​กว่า​เพียง​การ​มี​ความ​เชื่อ​อย่าง​เดียว​กัน. พวก​เขา​มี​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ต่อ​กัน.

ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​กับ​ความ​รัก

3. คำ​ว่า​ความ​รักใคร่​กับ​ความ​รัก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​ความ​สัมพันธ์​กัน​อย่าง​ไร?

3 ใน​พระ​คัมภีร์ ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน, ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ, และ​ความ​เมตตา​สงสาร​ล้วน​เกี่ยว​ข้อง​ใกล้​ชิด​กับ​คุณลักษณะ​คริสเตียน​ที่​งดงาม​ที่​สุด นั่น​คือ​ความ​รัก. (1 เธซะโลนิเก 2:8; 2 เปโตร 1:7) เช่น​เดียว​กับ​เหลี่ยม​ต่าง ๆ ของ​เพชร​ที่​งาม​จรัส คุณลักษณะ​เยี่ยง​พระเจ้า​เหล่า​นี้​ล้วน​เป็น​แง่​มุม​ต่าง ๆ ที่​ประกอบ​กัน​ได้​อย่าง​สมดุล ก่อ​เกิด​เป็น​ผล​ที่​งดงาม. คุณลักษณะ​เหล่า​นี้​ไม่​เพียง​นำ​คริสเตียน​เข้า​มา​ใกล้​ชิด​กัน​มาก​ขึ้น แต่​ยัง​นำ​เขา​เข้า​ไป​ใกล้​พระ​บิดา​ของ​พวก​เขา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​มาก​ขึ้น​ด้วย. ด้วย​เหตุ​นี้ อัครสาวก​เปาโล​จึง​กระตุ้น​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​ดัง​นี้: “ขอ​ให้​ความ​รัก​ของ​พวก​ท่าน​มา​จาก​ใจ​จริง. . . . ด้วย​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง จง​มี​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ต่อ​กัน.”—โรม 12:9, 10, ล.ม.

4. อะไร​คือ​ความหมาย​ของ​คำ​ว่า “ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน”?

4 คำ​ภาษา​กรีก​ที่​เปาโล​ใช้​สำหรับ “ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน” มี​สอง​ส่วน​ประกอบ​กัน ส่วน​หนึ่ง​หมาย​ถึง​ความ​ผูก​พัน​อย่าง​ที่​เพื่อน​มี​ต่อ​กัน อีก​ส่วน​หนึ่ง​หมาย​ถึง​ความ​รักใคร่​ภาย​ใน​ครอบครัว. ตาม​ที่​ผู้​คง​แก่​เรียน​คน​หนึ่ง​อธิบาย นี่​หมายความ​ว่า​คริสเตียน “ต้อง​ถูก​ระบุ​ตัว​ด้วย​ความ​ผูก​พัน​ที่​เป็น​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​ครอบครัว​ที่​มี​ความ​รัก​ต่อ​กัน ที่​สนิทสนม​กลมเกลียว​กัน และ​ช่วยเหลือ​เกื้อกูล​กัน.” นั่น​เป็น​ความ​รู้สึก​ที่​คุณ​มี​ต่อ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ของ​คุณ​ไหม? บรรยากาศ​อัน​อบอุ่น หรือ​ความ​รู้สึก​เหมือน​เป็น​คน​ใน​ครอบครัว​เดียว​กัน ควร​แผ่​ซ่าน​ภาย​ใน​ประชาคม​คริสเตียน. (ฆะลาเตีย 6:10) ด้วย​เหตุ​นี้ พันธสัญญา​ใหม่​ใน​ภาษา​อังกฤษ​สมัย​ปัจจุบัน โดย เจ. บี. ฟิลลิปส์ จึง​แปล​โรม 12:10 ว่า “จง​ให้​เรา​มี​ความ​รักใคร่​อัน​อบอุ่น​ต่อ​กัน​อย่าง​แท้​จริง​เหมือน​ที่​พี่​น้อง​มี​ต่อ​กัน.” และ​คำ​แปล​ใน​เดอะ เจรูซาเลม ไบเบิล อ่าน​ว่า “จง​รัก​กัน​และ​กัน​อย่าง​ที่​พี่​น้อง​ควร​รัก​กัน.” ถูก​แล้ว ความ​รัก​ท่ามกลาง​คริสเตียน​ไม่​ควร​เป็น​เพียง​สิ่ง​ที่​ควร​สำแดง​ต่อ​กัน​หรือ​เป็น​พันธะ​หน้า​ที่​เท่า​นั้น. ด้วย “ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​จาก​ใจ​จริง” เรา​ควร “รัก​กัน​และ​กัน​อย่าง​แรง​กล้า​จาก​หัวใจ.”—1 เปโตร 1:22, ล.ม.

“รับ​คำ​สอน​จาก​พระเจ้า . . . ให้​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน”

5, 6. (ก) พระ​ยะโฮวา​ใช้​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​อย่าง​ไร​เพื่อ​สอน​ประชาชน​ของ​พระองค์​ใน​เรื่อง​ความ​รักใคร่​แบบ​คริสเตียน? (ข) ความ​ผูก​พัน​ระหว่าง​พี่​น้อง​จะ​แน่นแฟ้น​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป?

5 แม้​ว่า​ใน​โลก​นี้ “ความ​รัก​ของ​คน​เป็น​อัน​มาก” จะ​เยือกเย็น​ลง แต่​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​สอน​ประชาชน​ของ​พระองค์​ใน​สมัย​ปัจจุบัน “ให้​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน.” (มัดธาย 24:12; 1 เธซะโลนิเก 4:9) การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​โอกาส​อัน​โดด​เด่น​ที่​ให้​การ​สอน​ดัง​กล่าว. ใน​การ​ประชุม​ใหญ่​เหล่า​นี้ พยาน​ฯ ที่​เป็น​เจ้าภาพ​ได้​พบ​ปะ​กับ​พี่​น้อง​จาก​แดน​ไกล และ​หลาย​คน​ให้​ตัว​แทน​จาก​ต่าง​ประเทศ​ที่​มา​ร่วม​ประชุม​เข้า​พัก​ใน​บ้าน​ของ​ตน. ณ การ​ประชุม​นานา​ชาติ​แห่ง​หนึ่ง​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้ บาง​คน​มา​จาก​ประเทศ​ที่​ผู้​คน​ไม่​นิยม​แสดง​ความ​รู้สึก​ของ​ตน​ออก​มา. คริสเตียน​คน​หนึ่ง​ที่​ช่วย​ดู​แล​เรื่อง​ที่​พัก​เล่า​ว่า “ใน​ตอน​แรก​เมื่อ​ตัว​แทน​เหล่า​นี้มา​ถึง พวก​เขา​ประหม่า​และ​ขวยเขิน. แต่​เพียง​หก​วัน​ต่อ​มา​เมื่อ​กล่าว​คำ​อำลา พวก​เขา​กับ​พี่​น้อง​ใน​ประเทศ​เจ้าภาพ​สวมกอด​กัน​และ​ร้องไห้. ทั้ง​สอง​ฝ่าย​ชื่นชม​กับ​บรรยากาศ​ที่​อบ​อวล​ไป​ด้วย​ความ​รัก​แบบ​คริสเตียน​ที่​พวก​เขา​จะ​ไม่​มี​วัน​ลืม.” การ​แสดง​น้ำใจ​ต้อนรับ​พี่​น้อง​ของ​เรา ไม่​ว่า​พวก​เขา​จะ​มี​ภูมิหลัง​อย่าง​ไร ทำ​ให้​ผู้​มา​เยือน​และ​เจ้าภาพ​มี​โอกาส​ได้​แสดง​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ออก​มา​อย่าง​เต็ม​ที่.—โรม 12:13.

6 ขณะ​ที่​ประสบการณ์​จาก​การ​ประชุม​ใหญ่​เหล่า​นี้​น่า​ตื่นเต้น แต่​สัมพันธภาพ​ระหว่าง​คริสเตียน​จะ​แน่นแฟ้น​ยิ่ง​ขึ้น​เมื่อ​พวก​เขา​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ร่วม​กัน​ระยะ​หนึ่ง. เมื่อ​เรา​รู้​จัก​พี่​น้อง​ของ​เรา​เป็น​อย่าง​ดี เรา​จะ​ชื่นชม​คุณลักษณะ​ที่​ชวน​ให้​รักใคร่​ของ​เขา​มาก​ยิ่ง​ขึ้น เช่น การ​พูด​ความ​จริง, ความ​น่า​ไว้​วางใจ, ความ​ภักดี, ความ​กรุณา, ความ​เอื้อเฟื้อ, การ​คำนึง​ถึง​ผู้​อื่น, ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ, และ​ความ​ไม่​เห็น​แก่​ตัว. (บทเพลง​สรรเสริญ 15:3-5; สุภาษิต 19:22) มาร์ก​ซึ่ง​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี​ใน​แอฟริกา​ตะวัน​ออก​กล่าว​ว่า “การ​รับใช้​เคียง​บ่า​เคียง​ไหล่​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา​สร้าง​ความ​ผูก​พัน​ที่​เหนียวแน่น.”

7. เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ชื่นชม​กับ​ความ​รักใคร่​แบบ​คริสเตียน​ใน​ประชาคม?

7 เพื่อ​จะ​สร้าง​ความ​ผูก​พัน​เช่น​นั้น​ใน​ประชาคม​และ​รักษา​ไว้​ได้ สมาชิก​ของ​ประชาคม​ต้อง​เข้า​มา​ใกล้​ชิด​กัน. โดย​การ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน​เป็น​ประจำ เรา​เสริม​ความ​ผูก​พัน​ที่​เรา​มี​ต่อ​พี่​น้อง​ของ​เรา​ให้​แน่นแฟ้น​ขึ้น. โดย​การ​อยู่ ณ การ​ประชุม, พูด​คุย​กับ​พี่​น้อง​ก่อน​และ​หลัง​การ​ประชุม, เข้า​ส่วน​ร่วม​ระหว่าง​การ​ประชุม เรา​ชู​ใจ​และ​เร้า​ใจ​กัน “ให้​บังเกิด​ใจ​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน และ​กระทำ​การ​ดี.” (เฮ็บราย 10:24, 25) ผู้​ปกครอง​คน​หนึ่ง​ใน​สหรัฐ​เล่า​ว่า “ผม​มี​ความ​สุข​เมื่อ​นึก​ถึง​ตอน​ที่​ผม​เป็น​เด็ก ครอบครัว​ของ​เรา​จะ​ออก​จาก​หอ​ประชุม​เป็น​กลุ่ม​ท้าย ๆ เสมอ เพื่อ​จะ​ได้​ชื่นชม​กับ​การ​สนทนา​แบบ​ฉัน​มิตร​และ​เสริม​สร้าง​กัน​ให้​นาน​ที่​สุด​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้.”

คุณ​จำเป็น​ต้อง “ตี​แผ่​ใจ” ไหม?

8. (ก) เปาโล​หมายความ​อย่าง​ไร​เมื่อ​ท่าน​กระตุ้น​คริสเตียน​ใน​โครินท์​ให้ “ตี​แผ่​ใจ”? (ข) เรา​จะ​ทำ​อะไร​ได้​เพื่อ​ส่ง​เสริม​ความ​รักใคร่​ภาย​ใน​ประชาคม?

8 เพื่อ​จะ​แสดง​ความ​รักใคร่​เช่น​นั้น​อย่าง​เต็ม​ที่ เรา​อาจ​ต้อง “ตี​แผ่​ใจ” ของ​เรา. อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ถึง​ประชาคม​ใน​โครินท์​ว่า “หัวใจ​เรา​เปิด​กว้าง​แล้ว ท่าน​ไม่​คับ​ที่​ภาย​ใน​เรา.” เปาโล​กระตุ้น​พวก​เขา​ให้ “ตี​แผ่​ใจ” เช่น​กัน. (2 โกรินโธ 6:11-13, ล.ม.) คุณ​จะ “ตี​แผ่” ความ​รักใคร่​ของ​คุณ​ด้วย​ได้​ไหม? คุณ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​คอย​ให้​คน​อื่น​เป็น​ฝ่าย​เริ่ม​ก่อน. ใน​จดหมาย​ถึง​คริสเตียน​ใน​กรุง​โรม เปาโล​เชื่อม​โยง​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​มี​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​เข้า​กับ​คำ​แนะ​นำ​ที่​ว่า “ใน​การ​ให้​เกียรติ​กัน จง​นำ​หน้า.” (โรม 12:10, ล.ม.) เพื่อ​ให้​เกียรติ​คน​อื่น คุณ​สามารถ​เป็น​ฝ่าย​ริเริ่ม​ทักทาย​พวก​เขา ณ การ​ประชุม. นอก​จาก​นั้น คุณ​อาจ​ชวน​เขา​ไป​ด้วย​ใน​งาน​เผยแพร่ หรือ​เตรียม​ตัว​สำหรับ​การ​ประชุม​ด้วย​กัน. การ​ทำ​เช่น​นั้น​ช่วย​ให้​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​มี​มาก​ขึ้น.

9. บาง​คน​ได้​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​สนิท​กับ​เพื่อน​คริสเตียน​มาก​ขึ้น? (รวม​ถึง​ตัว​อย่าง​ใน​ท้องถิ่น.)

9 แต่​ละ​ครอบครัว​และ​แต่​ละ​คน​ใน​ประชาคม “ตี​แผ่​ใจ” ได้​โดย​การ​ไป​มา​หา​สู่​กัน อาจ​รับประทาน​อาหาร​ง่าย ๆ ด้วย​กัน และ​ร่วม​ทำ​กิจกรรม​ที่​ดี​งาม​ด้วย​กัน. (ลูกา 10:42; 14:12-14) ฮากอป​จัด​ปิกนิก​กลุ่ม​เล็ก ๆ เป็น​ครั้ง​คราว. เขา​เล่า​ว่า “มี​คน​ทุก​วัย​เข้า​ร่วม รวม​ถึง​บิดา​มารดา​ไร้​คู่. ทุก​คน​กลับ​บ้าน​ด้วย​ความ​ทรง​จำ​ที่​เปี่ยม​สุข และ​พวก​เขา​รู้สึก​ใกล้​ชิด​กัน​ยิ่ง​ขึ้น.” ฐานะ​คริสเตียน เรา​ควร​พยายาม​เป็น​ไม่​ใช่​แค่​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​เท่า​นั้น แต่​เป็น​เพื่อน​แท้​ของ​กัน​และ​กัน​ด้วย.—3 โยฮัน 14.

10. เรา​จะ​ทำ​อะไร​ได้​เมื่อ​เรา​มี​ปัญหา​กัน​กับ​พี่​น้อง?

10 อย่าง​ไร​ก็​ตาม บาง​ครั้ง​ความ​ไม่​สมบูรณ์​ก็​อาจ​ขัด​ขวาง​การ​พัฒนา​มิตรภาพ​และ​ความ​รักใคร่. เรา​จะ​ทำ​อะไร​ได้? ก่อน​อื่น เรา​สามารถ​อธิษฐาน​ขอ​ให้​เรา​มี​ความ​สัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา. พระเจ้า​ประสงค์​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เข้า​กัน​ได้​ดี และ​พระองค์​จะ​ทรง​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ที่​ทูลขอ​จาก​ใจ​จริง​เช่น​นั้น. (1 โยฮัน 4:20, 21; 5:14, 15) เรา​ควร​ประพฤติ​สอดคล้อง​กับ​คำ​ทูล​อธิษฐาน​ของ​เรา​ด้วย. ริก ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​คน​หนึ่ง​ใน​แอฟริกา​ตะวัน​ออก เล่า​เกี่ยว​กับ​พี่​น้อง​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​คน​ค่อนข้าง​ก้าวร้าว ซึ่ง​ทำ​ให้​ยาก​ที่​จะ​เข้า​กัน​ได้​กับ​เขา. ริก​อธิบาย​ว่า “แทน​ที่​จะ​หลีก​ห่าง​จาก​พี่​น้อง​คน​นั้น ผม​ตั้งใจ​จะ​รู้​จัก​เขา​ให้​ดี​ขึ้น จึง​ทำ​ให้​รู้​ว่า​พ่อ​ของ​เขา​เป็น​คน​ที่​เข้มงวด​มาก. พอ​ผม​ได้​มา​เข้าใจ​ว่า​เขา​พยายาม​อย่าง​หนัก​ที่​จะ​เอา​ชนะ​บุคลิกภาพ​ที่​เป็น​ผล​จาก​การ​เลี้ยง​ดู​นี้ และ​เขา​ก้าว​หน้า​ใน​เรื่อง​นี้​ไป​มาก​แล้ว ผม​ก็​รู้สึก​ชื่นชม​ใน​ตัว​เขา และ​เรา​กลาย​เป็น​เพื่อน​ที่​ดี​ต่อ​กัน.”—1 เปโตร 4:8.

เปิด​เผย​ความ​รู้สึก​ของ​คุณ!

11. (ก) อะไร​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​สำหรับ​การ​พัฒนา​ความ​รักใคร่​ใน​ประชาคม? (ข) เหตุ​ใด​การ​ห่าง​เหิน​จาก​คน​อื่น​อาจ​ก่อ​ความ​เสียหาย​ฝ่าย​วิญญาณ​ได้?

11 ใน​ทุก​วัน​นี้ มี​หลาย​คน​ที่​ใน​ชีวิต​ไม่​เคย​สร้าง​มิตรภาพ​ที่​ใกล้​ชิด​สนิทสนม​กับ​ใคร ๆ เลย. ช่าง​น่า​เศร้า​จริง ๆ! แต่​นี่​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เกิด​ขึ้น​ใน​ประชาคม​คริสเตียน และ​ไม่​ควร​จะ​เกิด​ขึ้น​ด้วย. ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​ที่​แท้​จริง​ไม่​ใช่​แค่​การ​สนทนา​กัน​อย่าง​สุภาพ​และ​การ​แสดง​มารยาท​ที่​ดี อีก​ทั้ง​ไม่​ใช่​การ​แสดง​อารมณ์​ความ​รู้สึก​อย่าง​มาก​มาย​ต่อ​กัน. สิ่ง​ที่​สำคัญ​กว่า​ก็​คือ เรา​ควร​พร้อม​จะ​เปิด​ใจ​ของ​เรา เหมือน​กับ​ที่​เปาโล​เปิด​ใจ​อย่าง​เต็ม​ที่​ต่อ​พี่​น้อง​ใน​เมือง​โครินท์ และ​เรา​แสดง​ให้​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​เห็น​ว่า​เรา​ห่วงใย​สวัสดิภาพ​ของ​เขา​จริง ๆ. แม้​ว่า​ไม่​ใช่​ทุก​คน​ที่​โดย​ธรรมชาติ​จะ​เป็น​คน​ชอบ​พบ​ปะ​ผู้​คน​หรือ​ชอบ​พูด​คุย แต่​การ​เป็น​คน​เก็บ​ตัว​มาก​เกิน​ไป​ก็​อาจ​ก่อ​ผล​เสีย​ได้. คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​ว่า “คน​ที่​ปลีก​ตัว​ออก​ไป​จาก​ผู้​อื่น​จงใจ​จะ​ทำ​ตาม​ตน​เอง, และ​ค้าน​คติ​แห่ง​ปัญญา​อัน​ถูก​ต้อง​ทั้ง​หลาย.”—สุภาษิต 18:1.

12. เหตุ​ใด​การ​สนทนา​ที่​ดี​จำเป็น​ต่อ​การ​สร้าง​สัมพันธภาพ​ที่​ใกล้​ชิด​ภาย​ใน​ประชาคม?

12 การ​สนทนา​แบบ​ไม่​มี​อะไร​ปิด​บัง​เป็น​พื้น​ฐาน​ของ​มิตรภาพ​แท้. (โยฮัน 15:15) เรา​ทุก​คน​จำเป็น​ต้อง​มี​เพื่อน​ที่​เรา​สามารถ​เผย​ความ​รู้สึก​นึก​คิด​ใน​ส่วน​ลึก​ได้. นอก​จาก​นี้ ยิ่ง​เรา​รู้​จัก​กัน​ดี​มาก​เท่า​ใด เรา​ก็​ยิ่ง​ง่าย​ที่​จะ​สนอง​ความ​จำเป็น​ของ​กัน​และ​กัน​มาก​เท่า​นั้น. เมื่อ​เรา​แต่​ละ​คน​แสดง​ความ​ห่วงใย​สวัสดิภาพ​ของ​กัน​และ​กัน​ด้วย​วิธี​นี้ เรา​ช่วย​ให้​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​พัฒนา​ขึ้น และ​เรา​จะ​ประสบ​ความ​เป็น​จริง​แห่ง​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “การ​ให้​เป็น​เหตุ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​รับ.”—กิจการ 20:35; ฟิลิปปอย 2:1-4.

13. เรา​จะ​ทำ​อะไร​ได้​เพื่อ​แสดง​ว่า​เรา​มี​ความ​รักใคร่​แท้​ต่อ​พี่​น้อง​ของ​เรา?

13 เพื่อ​ให้​ความ​รักใคร่​ของ​เรา​ก่อ​ผล​สูง​สุด เรา​ต้อง​แสดง​ออก​มา. (สุภาษิต 27:5) เมื่อ​ความ​รักใคร่​ของ​เรา​มา​จาก​ใจ​จริง สี​หน้า​แวว​ตา​ของ​เรา​คง​จะ​เผย​ให้​เห็น และ​นั่น​อาจ​กระตุ้น​หัวใจ​คน​อื่น​ให้​ตอบ​สนอง. สุภาษิต​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ความ​สว่าง​แห่ง​ดวง​ตา​ย่อม​ทำ​ให้​ใจ​โสมนัส.” (สุภาษิต 15:30) การ​กระทำ​ที่​คิด​อย่าง​รอบคอบ​ก็​ช่วย​ส่ง​เสริม​ความรักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​เช่น​กัน. แม้​ว่า​ไม่​มี​ใคร​ซื้อ​ความ​รักใคร่​แท้​ได้ แต่​ของ​ขวัญ​ที่​ให้​จาก​ใจ​ก็​อาจ​มี​ความหมาย​มาก. การ์ด, จดหมาย, และ “คำ​พูด​ที่​เหมาะ​กับ​กาลเทศะ” ล้วน​สามารถ​บ่ง​บอก​ถึง​ความ​รักใคร่​จาก​ใจ​จริง. (สุภาษิต 25:11; 27:9) เมื่อ​เรา​ได้​สร้าง​มิตรภาพ​กับ​คน​อื่น​แล้ว เรา​ต้อง​ทะนุถนอม​ไว้​ด้วย​การ​แสดง​ความ​รักใคร่​อย่าง​ใจ​กว้าง​ต่อ ๆ ไป. โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ยาม​ที่​จำเป็น เรา​ย่อม​ปรารถนา​จะ​ช่วยเหลือ​เพื่อน​ของ​เรา. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “มิตร​แท้​ย่อม​รัก​อยู่​ทุก​เวลา และ​เป็น​พี่​น้อง​ซึ่ง​เกิด​มา​เพื่อ​ยาม​ที่​มี​ความ​ทุกข์​ยาก.”—สุภาษิต 17:17, ล.ม.

14. เรา​จะ​ทำ​อะไร​ได้​หาก​มี​บาง​คน​ดู​เหมือน​ไม่​ตอบ​สนอง​การ​แสดง​ความ​รักใคร่​ของ​เรา?

14 ตาม​ความ​เป็น​จริง เรา​ไม่​อาจ​คาด​หมาย​ได้​ว่า​จะ​สนิท​กับ​ทุก​คน​ใน​ประชาคม. เป็น​ธรรมดา​ที่​จะ​มี​ใคร​บาง​คน​ที่​เรา​รู้สึก​สนิท​มาก​กว่า​คน​อื่น. ฉะนั้น ถ้า​หาก​มี​ใคร​ที่​ดู​เหมือน​ไม่​สนิท​กับ​คุณ​อย่าง​ที่​อยาก​ให้​เป็น ก็​อย่า​ด่วน​สรุป​ว่า​มี​อะไร​ผิด​ไป​ใน​ตัว​คุณ​หรือ​ตัว​เขา. และ​อย่า​พยายาม​รุก​เร้า​เขา​ให้​มา​สนิท​กับ​คุณ​ให้​ได้. หาก​คุณ​เพียง​แต่​แสดง​ความ​เป็น​มิตร​กับ​บุคคล​นั้น​เท่า​ที่​เขา​เปิด​โอกาส​ให้ คุณ​ก็​ได้​เปิด​ประตู​ไว้​แล้ว​สำหรับ​การ​สร้าง​มิตรภาพ​ที่​ใกล้​ชิด​ต่อ​กัน​มาก​ขึ้น​ใน​อนาคต.

“เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​มาก”

15. การ​ให้​หรือ​ไม่​ให้​การ​ชมเชย​ก่อ​ผล​เช่น​ไร​ต่อ​คน​อื่น?

15 พระ​เยซู​คง​รู้สึก​เบิกบาน​พระทัย​สัก​เพียง​ไร​เมื่อ​ได้​ยิน​พระ​สุรเสียง​จาก​ฟ้า​ใน​คราว​ที่​พระองค์​รับ​บัพติสมา​ว่า “เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​มาก”! (มาระโก 1:11) คำ​ตรัส​ที่​แสดง​ถึง​ความ​พอ​พระทัย​นี้​คง​เสริม​ความ​มั่น​ใจ​แก่​พระ​เยซู​ว่า พระองค์​เป็น​ที่​รักใคร่​ของ​พระ​บิดา. (โยฮัน 5:20) น่า​เศร้า บาง​คน​ไม่​เคย​ได้​ยิน​การ​ชมเชย​เช่น​นั้น​จาก​คน​ที่​เขา​รัก​และ​เคารพ​เลย. แอนน์​ให้​ความ​เห็น​ว่า “มี​เด็ก​หลาย​คน​เหมือน​หนู​ที่​ไม่​มี​ใคร​ใน​ครอบครัว​เป็น​คริสเตียน เมื่อ​อยู่​ที่​บ้าน​เรา​ได้​ยิน​แต่​คำ​ตำหนิ​ติเตียน ซึ่ง​ทำ​ให้​เรา​เสียใจ​มาก.” แต่​พอ​เยาวชน​เหล่า​นี้​เข้า​มา​เป็น​ส่วน​ของ​ประชาคม พวก​เขา​รู้สึก​ถึง​ความ​อบอุ่น​จาก​ครอบครัว​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​คอย​ห่วงใย​และ​ให้​การ​เกื้อ​หนุน ซึ่ง​ก็​ได้​แก่​พ่อ​แม่​พี่​น้อง​ใน​ความ​เชื่อ.—มาระโก 10:29, 30; ฆะลาเตีย 6:10.

16. เหตุ​ใด​การ​แสดง​เจตคติ​แบบ​ที่​ตำหนิ​วิจารณ์​คน​อื่น​จึง​ไม่​ก่อ​ประโยชน์?

16 ใน​บาง​วัฒนธรรม พ่อ​แม่, ผู้​ใหญ่, ครูบาอาจารย์ ไม่​ค่อย​แสดง​ความ​ชื่นชม​เด็ก ๆ อย่าง​สุด​หัวใจ​เท่า​ไร​นัก โดย​คิด​ว่า​การ​ให้​คำ​ชมเชย​อย่าง​นั้น​อาจ​ทำ​ให้​เด็ก​เหลิง​หรือ​หลง​ตัว​เอง. ความ​คิด​เช่น​นั้น​อาจ​มี​อยู่​ใน​ครอบครัว​และ​ประชาคม​คริสเตียน​ด้วย​ซ้ำ. เมื่อ​ให้​ความ​เห็น​เกี่ยว​กับ​ส่วน​มอบหมาย​ที่​ทำ​บน​เวที​หรือ​ความ​พยายาม​ใน​เรื่อง​อื่น ๆ คน​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​อาจ​พูด​ว่า “เธอ​ทำ​ได้​ดี แต่​เธอ​ทำ​ให้​ดี​กว่า​นี้​ได้!” หรือ​ใน​วิธี​อื่น​อีก​ที่​ผู้​ใหญ่​อาจ​กระทั่ง​แสดง​ออก​มา​ว่า​เด็ก ๆ ยัง​ไม่​เป็น​ที่​น่า​พอ​ใจ. ด้วย​การ​ทำ​เช่น​นั้น หลาย​คน​เชื่อ​ว่า​ตน​กำลัง​กระตุ้น​ให้​เด็ก ๆ ดึง​เอา​ศักยภาพ​ของ​เขา​ออก​มา​เต็ม​ที่. แต่​บ่อย​ครั้ง​ที่​วิธี​นี้​ก่อ​ผล​ใน​ทาง​ตรง​ข้าม เนื่อง​จาก​เด็ก​อาจ​ท้อ​ถอย หรือ​รู้สึก​ว่า​ตน​เอง​ไม่​สามารถ​จะ​ทำ​ได้​ดี​พอ.

17. ทำไม​เรา​ควร​หา​โอกาส​ที่​จะ​ชมเชย​ผู้​อื่น?

17 อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​ควร​กล่าว​คำ​ชม​เพียง​เพื่อ​เป็น​วิธี​กรุย​ทาง​ไป​สู่​การ​ให้​คำ​แนะ​นำ. การ​ให้​คำ​ชมเชย​จาก​ใจ​จริง​ส่ง​เสริม​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ภาย​ใน​ครอบครัว​และ​ประชาคม และ​โดย​วิธี​นี้​เป็น​การ​กระตุ้น​ให้​เยาวชน​แสวง​หาคำ​แนะ​นำ​จาก​พี่​น้อง​ที่​มี​ประสบการณ์. ดัง​นั้น แทน​ที่​จะ​ให้​วัฒนธรรม​เป็น​ตัว​กำหนด​ว่า​เรา​ควร​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​อื่น​อย่าง​ไร ขอ​ให้​เรา “สวม​บุคลิกภาพ​ใหม่​ซึ่ง​ได้​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​ใน​ความ​ชอบธรรม​และ​ความ​ภักดี​ที่​แท้​จริง.” จง​ชมเชย​เหมือน​อย่าง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทำ.—เอเฟโซ 4:24, ล.ม.

18. (ก) เยาวชน​ควร​มอง​คำ​แนะ​นำ​ที่​ได้​รับ​จาก​ผู้​ใหญ่​อย่าง​ไร? (ข) ทำไม​ผู้​ใหญ่​คิด​อย่าง​รอบคอบ​ว่า​จะ​ให้​คำ​แนะ​นำ​อย่าง​ไร?

18 ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง เยาวชน​ไม่​ควร​คิด​ว่า​ถ้า​ผู้​ใหญ่​ให้​คำ​แนะ​นำ​แก้ไข นั่น​แสดง​ว่า​เขา​ไม่​ชอบ​คุณ. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 7:9) ตรง​กัน​ข้าม​เลย! ที่​พวก​เขา​ทำ​เช่น​นั้น​ก็​คง​เพราะ​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​จาก​ความ​ห่วงใย​และ​ความ​รักใคร่​ที่​มี​ต่อ​คุณ​อย่าง​ลึกซึ้ง. ไม่​อย่าง​นั้น​แล้ว พวก​เขา​จะ​ใช้​ความ​พยายาม​เพื่อ​พูด​กับ​คุณ​ใน​เรื่อง​นั้น​ทำไม​กัน? เนื่อง​จาก​ตระหนัก​ว่า​คำ​พูด​สามารถ​ก่อ​ผล​กระทบ ผู้​ใหญ่​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม บ่อย​ครั้ง​จึง​ใช้​เวลา​มาก​ใน​การ​คิด​และ​อธิษฐาน​ก่อน​จะ​ให้​คำ​แนะ​นำ​ใด ๆ เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ต้องการ​ให้​เกิด​ผล​แต่​ใน​ทาง​ที่​ดี.—1 เปโตร 5:5.

“พระ​ยะโฮวา​ทรง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน”

19. ทำไม​ผู้​ที่​ประสบ​ความ​ผิด​หวัง​จึง​สามารถ​หมาย​พึ่ง​การ​เกื้อ​หนุน​จาก​พระ​ยะโฮวา?

19 การ​ไม่​ได้​รับ​การ​ตอบ​สนอง​ที่​ดี​อาจ​ทำ​ให้​บาง​คน​รู้สึก​ว่า​การ​แสดง​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​คง​มี​แต่​จะ​ทำ​ให้​ผิด​หวัง​อีก. พวก​เขา​จำ​ต้อง​ไม่​หวั่น​กลัว​และ​มี​ความ​เชื่อ​มั่น​หนักแน่น​เพื่อ​ว่า​จะ​เปิด​ใจ​ของ​ตน​ต่อ​ผู้​อื่น​อีก​ครั้ง. แต่​พวก​เขา​ไม่​ควร​ลืม​ว่า​พระ​ยะโฮวา “มิ​ทรง​อยู่​ห่าง​ไกล​จาก​เรา​ทุก​คน.” พระองค์​ทรง​เชิญ​เรา​ให้​เข้า​ใกล้​พระองค์. (กิจการ 17:27; ยาโกโบ 4:8) นอก​จาก​นี้ พระองค์​ทรง​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​เรา​ที่​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​ทำ​ให้​ช้ำ​ใจ และ​ทรง​สัญญา​ว่า​จะ​เกื้อ​หนุน​และ​ช่วยเหลือ​เรา. ดาวิด​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ให้​คำ​รับรอง​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ทรง​อยู่​ใกล้​คน​ที่​หัวใจ​สลาย; และ​คน​ที่​จิตใจ​ชอก​ช้ำ​พระองค์​ทรง​ช่วย​ให้​รอด.”—บทเพลง​สรรเสริญ 34:18, ล.ม.

20, 21. (ก) เรา​ทราบ​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​สามารถ​มี​สัมพันธภาพ​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา? (ข) อะไร​เป็น​ข้อ​เรียก​ร้อง​สำหรับ​การ​มี​สัมพันธภาพ​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา?

20 มิตรภาพ​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​สาย​สัมพันธ์​อัน​สำคัญ​ที่​สุด​ที่​เรา​จะ​พัฒนา​ได้. แต่​การ​มี​ความ​ผูก​พัน​แบบ​นั้น​จะ​เป็น​ไป​ได้​จริง ๆ หรือ? ใช่​แล้ว. คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​ทราบ​เกี่ยว​กับ​ชาย​หญิง​ผู้​ชอบธรรม​ที่​รู้สึก​ผูก​พัน​ใกล้​ชิด​กัน​มาก​กับ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์. คำ​พรรณนา​ที่​แสดง​ความ​รู้สึก​อบอุ่น​ของ​พวก​เขา​มี​บันทึก​ไว้​เพื่อ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ว่า เรา​ก็​สามารถ​เข้า​ใกล้​พระ​ยะโฮวา​ได้​เช่น​กัน.—บทเพลง​สรรเสริญ 23, 34, 139; โยฮัน 16:27; โรม 15:4.

21 ข้อ​เรียก​ร้อง​ของ​พระ​ยะโฮวา​สำหรับ​การ​มี​สัมพันธภาพ​ใกล้​ชิด​กับ​พระองค์​นั้น​ทุก​คน​สามารถ​ทำ​ตาม​ได้. ดาวิด​ถาม​ว่า “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, ผู้​ใด​จะ​พัก​อยู่​ใน​พลับพลา​ของ​พระองค์?” และ​ท่าน​ตอบ​ว่า “คือ​คน​ที่​ประพฤติ​เที่ยง​ตรง, ที่​กระทำ​การ​ยุติธรรม, และ​พูด​แต่​คำ​จริง​จาก​ใจ​ของ​ตน.” (บทเพลง​สรรเสริญ 15:1, 2; 25:14) เมื่อ​เรา​เห็น​ว่า​การ​รับใช้​พระเจ้า​ก่อ​ผล​ดี​แก่​เรา ทำ​ให้​เรา​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​และ​การ​ปก​ป้อง​จาก​พระองค์ เรา​ก็​จะ​ได้​มา​รู้​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ทรง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน.”—ยาโกโบ 5:11, ล.ม.

22. พระ​ยะโฮวา​ปรารถนา​ให้​ประชาชน​ของ​พระองค์​มี​สัมพันธภาพ​แบบ​ใด?

22 การ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ปรารถนา​จะ​มี​สัมพันธภาพ​เป็น​ส่วน​ตัว​กับ​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​นั้น​ช่าง​เป็น​พระ​พร​สำหรับ​เรา​เสีย​จริง ๆ! ด้วย​เหตุ​นี้ เรา​ควร​จะ​แสดง​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ต่อ​กัน​มิ​ใช่​หรือ? ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา เรา​แต่​ละ​คน​สามารถ​ให้​และ​รับ​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ที่​เป็น​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​สังคม​พี่​น้อง​คริสเตียน​ของ​เรา. ภาย​ใต้​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า ทุก​คน​บน​แผ่นดิน​โลก​จะ​รู้สึก​ถึง​ความ​รักใคร่​เช่น​นี้​ไป​ตลอด​กาล.

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม?

• บรรยากาศ​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ควร​เป็น​แบบ​ใด?

• เรา​แต่​ละ​คน​จะ​ทำ​อะไร​ได้​เพื่อ​ส่ง​เสริม​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ใน​ประชาคม?

• คำ​ชมเชย​จาก​ใจ​จริง​ส่ง​เสริม​ความ​รักใคร่​แบบ​คริสเตียน​อย่าง​ไร?

• ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​ของ​พระ​ยะโฮวา​เกื้อ​หนุน​และ​ค้ำจุน​เรา​อย่าง​ไร?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 15]

การ​แสดง​ความ​รัก​ท่ามกลาง​คริสเตียน​ไม่​ใช่​เป็น​เพียง​พันธะ​หน้า​ที่

[ภาพ​หน้า 16, 17]

คุณ​จะ “ตี​แผ่” ความ​รักใคร่​ของ​คุณ​ได้​ไหม?

[ภาพ​หน้า 18]

คุณ​วิจารณ์​หรือ​ให้​กำลังใจ?