ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ผู้รับใช้ที่มีความสุขของพระยะโฮวา

ผู้รับใช้ที่มีความสุขของพระยะโฮวา

ผู้​รับใช้​ที่​มี​ความ​สุข​ของ​พระ​ยะโฮวา

“ความ​สุข​มี​แก่​ผู้​ที่​รู้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน.”—มัดธาย 5:3, ล.ม.

1. ความ​สุข​แท้​คือ​อะไร และ​สะท้อน​ถึง​อะไร?

ประชาชน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ถือ​ว่า​ความ​สุข​ที่​พวก​เขา​มี​อยู่​นั้น​มี​ค่า​ยิ่ง. ดาวิด​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​กล่าว​ว่า “ชน​ประเทศ [“ประชาชน,” ล.ม.] ที่​นับถือ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ของ​ตน​ก็​เป็น​ผาสุก.” (บทเพลง​สรรเสริญ 144:15) ความ​สุข​คือ​ความ​รู้สึก​ที่​เกิด​จาก​ความ​อิ่มเอิบ​ใจ. ความ​สุข​ที่​ลึก​ล้ำ​ที่​สุด​นั้น​เกิด​จาก​การ​รู้​ว่า​เรา​เป็น​ที่​พอ​พระทัย​พระ​ยะโฮวา. (สุภาษิต 10:22) ความ​สุข​เช่น​นั้น​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เรา​มี​สัมพันธภาพ​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​และ​รู้​ว่า​เรา​กำลัง​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์. (บทเพลง​สรรเสริญ 112:1; 119:1, 2) น่า​สนใจ​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​เหตุ​ผล​เก้า​ประการ​ที่​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข. การ​พิจารณา​เหตุ​ผล​สำหรับ​ความ​สุข​ใน​บทความ​นี้​และ​บทความ​ถัด​ไป​จะ​ช่วย​เรา​ตระหนัก​ว่า​เรา​สามารถ​มี​ความ​สุข​สัก​เพียง​ไร​หาก​เรา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา “พระเจ้า​ผู้​ประกอบ​ด้วย​ความ​สุข” ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์.—1 ติโมเธียว 1:11.

การ​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา

2. ใน​โอกาส​ใด​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​เกี่ยว​กับ​ความ​สุข และ​อะไร​คือ​คำ​ตรัส​เริ่ม​ต้น​ของ​พระองค์?

2 ใน​ปี ส.ศ. 31 พระ​เยซู​กล่าว​คำ​บรรยาย​ที่​นับ​เป็น​หนึ่ง​ใน​คำ​บรรยาย​อัน​เลื่อง​ชื่อ​ที่​สุด​ใน​ประวัติศาสตร์. คำ​บรรยาย​นั้น​ถูก​เรียก​ว่า​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​ประทาน​คำ​เทศน์​ดัง​กล่าว​บน​ไหล่​เขา​ที่​มอง​ลง​ไป​เห็น​ทะเล​แกลิลี. กิตติคุณ​ที่​เขียน​โดย​มัดธาย​กล่าว​ว่า “เมื่อ​พระ​เยซู​ทอด​พระ​เนตร​เห็น​ฝูง​ชน​จึง​เสด็จ​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา และ​เมื่อ​ประทับ​นั่ง​แล้ว เหล่า​สาวก​ก็​มา​เฝ้า​พระองค์ และ​พระองค์​เริ่ม​ตรัส​สอน​พวก​เขา​ว่า ‘ความ​สุข​มี​แก่​ผู้​ที่​รู้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน เพราะ​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​เป็นของ​เขา.’ ” (มัดธาย 5:1-3, ล.ม.) เมื่อ​แปล​ตาม​ตัว​อักษร คำ​ตรัส​เริ่ม​ต้น​ของ​พระ​เยซู​อ่าน​ว่า “ความ​สุข​มี​แก่​ผู้​ขัดสน​ใน​ด้าน​วิญญาณ” หรือ “ความ​สุข​มี​แก่​ขอ​ทาน​เพื่อ​วิญญาณ.” (มัดธาย 5:1-3; ฉบับ​แปล​คิงดอม อินเตอร์ลิเนียร์; เชิงอรรถ) คัมภีร์​ไบเบิล​ภาษา​ไทย​ฉบับ​แปล​เก่า​อ่าน​ว่า “บุคคล​ผู้​ใด​รู้สึก​บกพร่อง​ฝ่าย​วิญญาณ​ก็​เป็น​สุข.”

3. การ​เป็น​คน​ถ่อม​ใจ​ช่วย​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​ได้​อย่าง​ไร?

3 ใน​คำ​เทศน์​บน​ไหล่​เขา​นั้น พระ​เยซู​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​คน​เรา​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​กว่า​หาก​เขา​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ. คริสเตียน​ที่​ถ่อม​ใจ ผู้​สำนึก​ว่า​ตน​เป็น​คน​บาป ทูล​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ให้​อภัย​เขา​โดย​อาศัย​เครื่อง​บูชา​ไถ่​ของ​พระ​คริสต์. (1 โยฮัน 1:9) โดย​วิธี​นี้ พวก​เขา​จึง​มี​สันติ​สุข​ใน​ใจ​และ​ประสบ​ความ​สุข​แท้. “ความ​สุข​ย่อม​มี​แก่​ผู้​ซึ่ง​พระเจ้า​ได้​ทรง​โปรด​ยก​การ​ล่วง​ละเมิด, และ​ได้​ทรง​กลบเกลื่อน​ความ​บาป​ของ​เขา​ไว้​แล้ว.”—บทเพลง​สรรเสริญ 32:1; 119:165.

4. (ก) เรา​จะ​แสดง​ความ​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตัว​เรา​เอง​และ​ของ​คน​อื่น​ใน​ทาง​ใด​ได้​บ้าง? (ข) อะไร​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​ขึ้น​ไป​อีก​เมื่อ​เรา​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา?

4 การ​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​กระตุ้น​เรา​ให้​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทุก​วัน, รับ​ประโยชน์​เต็ม​ที่​จาก​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่ “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” แจก​จ่าย​ให้ “ใน​เวลา​อัน​เหมาะ,” และ​เข้า​ร่วม​ประชุม​คริสเตียน​เป็น​ประจำ. (มัดธาย 24:45, ล.ม.; บทเพลง​สรรเสริญ 1:1, 2; 119:111; เฮ็บราย 10:25) ความ​รัก​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​ทำ​ให้​เรา​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​คน​อื่น และ​กระตุ้น​ให้​เรา​กระตือรือร้น​ใน​การ​ประกาศ​และ​การ​สอน​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร. (มาระโก 13:10; โรม 1:14-16) การ​แบ่ง​ปัน​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​คน​อื่น​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข. (กิจการ 20:20, 35) เรา​ยิ่ง​มี​ความ​สุข​มาก​ขึ้น​เมื่อ​ตรึกตรอง​ถึง​ความ​หวัง​อัน​ยอด​เยี่ยม​เรื่อง​ราชอาณาจักร​และ​พระ​พร​ต่าง ๆ ที่​ราชอาณาจักร​นั้น​จะ​นำ​มา​ให้. ความ​หวัง​เรื่อง​ราชอาณาจักร​สำหรับ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ซึ่ง​เป็น “แกะ​ฝูง​เล็ก” คือ​การ​ได้​รับ​อมตชีพ​ใน​สวรรค์​ฐานะ​ผู้​ร่วม​ปกครอง​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระ​คริสต์. (ลูกา 12:32, ล.ม.; 1 โกรินโธ 15:50, 54) ความ​หวัง​สำหรับ “แกะ​อื่น” คือ​การ​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์​บน​แผ่นดิน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​แห่ง​ราชอาณาจักร​ดัง​กล่าว.—โยฮัน 10:16; บทเพลง​สรรเสริญ 37:11; มัดธาย 25:34, 46.

ผู้​โศก​เศร้า​จะ​เป็น​สุข​ได้​อย่าง​ไร?

5. (ก) อะไร​คือ​ความหมาย​ของ​คำ​ว่า ‘บุคคล​ผู้​โศก​เศร้า’? (ข) คน​ที่​โศก​เศร้า​เช่น​นั้น​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน​อย่าง​ไร?

5 เหตุ​ผล​สำหรับ​ความ​สุข​ประการ​ถัด​มา​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​นั้น​ดู​เหมือน​จะ​ขัด​แย้ง​กัน. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “บุคคล​ผู้​ใด​โศก​เศร้า​ก็​เป็น​สุข, เพราะ​ว่า​เขา​จะ​ได้​รับ​ความ​บรรเทา​ทุกข์​นั้น.” (มัดธาย 5:4) คน​เรา​จะ​โศก​เศร้า​และ​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​มี​ความ​สุข​ได้​อย่าง​ไร? เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​คำ​ตรัส​นี้​ของ​พระ​เยซู เรา​ต้อง​พิจารณา​ว่า​พระ​เยซู​กำลัง​กล่าว​ถึง​ความ​โศก​เศร้า​ชนิด​ใด. สาวก​ยาโกโบ​อธิบาย​ว่า​การ​เป็น​คน​บาป​ควร​เป็น​เหตุ​ให้​เรา​โศก​เศร้า. ท่าน​เขียน​ว่า “คน​บาป​ทั้ง​หลาย, จง​ชำระ​มือ​ของ​ตน​เสีย และ​คน​สอง​ใจ, จง​กระทำ​ใจ​ของ​ตน​ให้​บริสุทธิ์. จง​เป็น​ทุกข์​โศก​เศร้า​และ​ร้องไห้ จง​ให้​การ​หัวเราะ​ของ​ตน​กลับ​กลาย​เป็น​การ​โศก​เศร้า, และ​ความ​ยินดี​ของ​ตน​จง​ให้​กลับ​กลาย​เป็น​ความ​เศร้า​หมอง. ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ถ่อม​ใจ​ลง​จำเพาะ​พระ​เนตร​พระเจ้า, และ​พระองค์​จะ​ทรง​โปรด​ยก​ชู​ท่าน​ขึ้น.” (ยาโกโบ 4:8-10) คน​ที่​เศร้า​โศก​เสียใจ​จริง ๆ ต่อ​การ​ที่​ตน​เป็น​คน​บาป​ได้​รับ​ความ​บรรเทา​ทุกข์​หรือ​การ​ปลอบโยน เมื่อ​เรียน​รู้​ว่า​ตน​สามารถ​ได้​รับ​การ​อภัย​บาป หาก​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​เครื่อง​บูชา​ไถ่​ของ​พระ​คริสต์​และ​สำแดง​การ​กลับ​ใจ​อย่าง​แท้​จริง ด้วย​การ​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา. (โยฮัน 3:16; 2 โกรินโธ 7:9, 10) โดย​วิธี​นี้ พวก​เขา​จึง​สามารถ​มี​สัมพันธภาพ​อัน​ล้ำ​ค่า​กับ​พระ​ยะโฮวา และ​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​เพื่อ​รับใช้​และ​สรรเสริญ​พระองค์. นี่​ทำ​ให้​พวก​เขา​มี​ความ​สุข​ลึก​ล้ำ​ใน​ใจ.—โรม 4:7, 8.

6. บาง​คน​โศก​เศร้า​ใน​แง่​ใด และ​พวก​เขา​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน​อย่าง​ไร?

6 คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ยัง​รวม​ไป​ถึง​คน​ที่​โศก​เศร้า​เนื่องจาก​เห็น​สภาพการณ์​ที่​ชั่ว​ลามก​หรือ​น่า​รังเกียจ​ซึ่ง​แพร่​หลาย​ใน​โลก. พระ​เยซู​ใช้​คำ​พยากรณ์​ใน​ยะซายา 61:1, 2 (ล.ม.) กับ​พระองค์​เอง​ที่​กล่าว​ว่า “พระ​วิญญาณ​แห่ง​พระ​ยะโฮวา​เจ้า​องค์​บรม​มหิศร​อยู่​บน​ข้าพเจ้า เพราะ​เหตุ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ได้​เจิม​ข้าพเจ้า​ให้​ประกาศ​ข่าว​ดี​แก่​คน​ถ่อม. พระองค์​ได้​ทรง​ใช้​ข้าพเจ้า​ให้​สมาน​หัวใจ​ที่​ชอก​ช้ำ . . . ให้​ปลอบโยน​บรรดา​ผู้​เศร้า​โศก.” งาน​นี้​มอบหมาย​แก่​เหล่า​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​ยัง​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​เช่น​กัน ซึ่ง​ทำ​งาน​นี้​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก “แกะ​อื่น” สหาย​ของ​พวก​เขา. คน​เหล่า​นี้​ทุก​คน​เข้า​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ทำ​เครื่องหมาย​โดย​นัย​ที่​หน้าผาก​ของ “คน​ทั้ง​ปวง​ที่​ร้อง​คราง​เพราะ​ความ​ชั่ว​ลามก​ทั้ง​ปวง​ที่​กระทำ​อยู่​ใน​ท่ามกลาง​เมือง​นั้น [เยรูซาเลม​ที่​ออก​หาก ซึ่ง​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​คริสต์​ศาสนจักร].” (ยะเอศเคล 9:4) คน​เศร้า​โศก​เช่น​นั้น​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน​จาก “ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร.” (มัดธาย 24:14, ล.ม.) พวก​เขา​มี​ความ​สุข​เมื่อ​รู้​ว่า​ใน​อีก​ไม่​ช้า​ระบบ​ชั่ว​ของ​ซาตาน​จะ​ถูก​แทน​ที่​ด้วย​โลก​ใหม่​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระ​ยะโฮวา.

บุคคล​ผู้​ใด​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ​ก็​เป็น​สุข

7. คำ​ว่า “ใจ​อ่อน​สุภาพ” ไม่​ได้​หมายความ​เช่น​ไร?

7 พระ​เยซู​ตรัส​ต่อ​ไป​ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​ว่า “บุคคล​ผู้​ใด​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ​ก็​เป็น​สุข, เพราะ​ว่า​เขา​จะ​ได้​รับ​ความ​ยืนยง​ใน​แผ่นดิน​โลก​เป็น​มฤดก.” (มัดธาย 5:5) บาง​คน​คิด​ว่า​ใจ​อ่อน​สุภาพ​บ่ง​ชี้​ถึง​ความ​อ่อนแอ แต่​นั่น​ไม่​เป็น​ความ​จริง. เมื่อ​อธิบาย​ถึง​ความหมาย​ของ​คำ​ภาษา​กรีก​ที่​มี​การ​แปล​ว่า “ใจ​อ่อน​สุภาพ” ผู้​คง​แก่​เรียน​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​เขียน​ว่า “คุณลักษณะ​อัน​ยอด​เยี่ยม​ที่​สุด​ของ​ผู้​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ​ก็​คือ​เขาเป็น​คน​ที่​บังคับ​ตน​ได้​อย่าง​ดี​ยิ่ง. ใจ​อ่อน​สุภาพ​ไม่​ใช่​ความ​สุภาพ​อ่อนโยน​ที่​เกิด​จาก​จิตใจ​อ่อนไหว, เพราะ​ถูก​อารมณ์​ชัก​นำ, หรือ​เนื่อง​จาก​ไม่​อยาก​หา​เรื่อง​ใส่​ตัว. ใจ​อ่อน​สุภาพ​เป็น​ความ​เข้มแข็ง​ที่​มี​การ​ควบคุม.” พระ​เยซู​กล่าว​ถึง​พระองค์​เอง​ว่า “ใจ​เรา​อ่อน​สุภาพ.” (มัดธาย 11:29) กระนั้น พระ​เยซู​ไม่​หวั่น​เกรง​เมื่อ​ปก​ป้อง​หลักการ​อัน​ชอบธรรม.—มัดธาย 21:12, 13; 23:13-33.

8. ความ​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ​เกี่ยว​ข้อง​ใกล้​ชิด​กับ​อะไร และ​เหตุ​ใด​เรา​ต้อง​มี​คุณลักษณะ​นี้​ใน​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​เรา​กับ​คน​อื่น?

8 ฉะนั้น ความ​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ​จึง​เกี่ยว​ข้อง​ใกล้​ชิด​กับ​การ​บังคับ​ตน. ที่​จริง​แล้ว อัครสาวก​เปาโล​จัด​ความ​อ่อน​สุภาพ​ไว้​ด้วย​กัน​กับ​การ​รู้​จัก​บังคับ​ตน​เมื่อ​ท่าน​แจก​แจง​รายการ “ผล​ของ​พระ​วิญญาณ.” (ฆะลาเตีย 5:22, 23) การ​ปลูกฝัง​ความ​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ​ต้อง​พึ่ง​อาศัย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. ใจ​อ่อน​สุภาพ​เป็น​คุณลักษณะ​แบบ​คริสเตียน​ที่​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข​กับ​คน​ที่​อยู่​นอก​และ​ใน​ประชาคม​คริสเตียน. เปาโล​เขียน​ว่า “จง​สวม​ใจ​เมตตา, ใจ​ปรานี, ใจ​ถ่อม, ใจ​อ่อน​สุภาพ, ใจ​อด​ทน​ไว้​นาน . . . จง​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​ซึ่ง​กัน​และ​กัน.”—โกโลซาย 3:12, 13.

9. (ก) เหตุ​ใด​ใจ​อ่อน​สุภาพ​ไม่​ได้​มี​แค่​ใน​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​เรา​กับ​คน​อื่น​เท่า​นั้น? (ข) บรรดา​ผู้​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ ‘ได้​รับ​แผ่นดิน​โลก​เป็น​มรดก’ อย่าง​ไร?

9 อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใจ​อ่อน​สุภาพ​ไม่​ใช่​มี​แค่​ใน​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​มนุษย์​ด้วย​กัน​เท่า​นั้น. โดย​การ​เต็ม​ใจ​อ่อนน้อม​อยู่​ใต้​อำนาจ​การ​ปกครอง​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​แสดง​ว่า​เรา​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ. ตัว​อย่าง​อัน​ยอด​เยี่ยม​ใน​เรื่อง​นี้​คือ​พระ​เยซู​คริสต์ ผู้​ซึ่ง​ขณะ​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​ได้​แสดง​ความ​มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ​และ​อ่อนน้อม​กระทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​บิดา​ทุก​ประการ. (โยฮัน 5:19, 30) พระ​เยซู​เป็น​บุคคล​แรก​และ​สำคัญ​ที่​สุด​ผู้​ได้​รับ​แผ่นดิน​โลก​เป็น​มรดก เนื่อง​จาก​พระองค์​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ปกครอง​แผ่นดิน​โลก. (บทเพลง​สรรเสริญ 2:6-8; ดานิเอล 7:13, 14) พระองค์​ได้​ส่วน​ใน​มรดก​นี้​ร่วม​กับ “ทายาท​ร่วม” จำนวน 144,000 คน ที่​ถูก​เลือก​จาก “ท่ามกลาง​มนุษย์” ให้ “ปกครอง​เป็น​กษัตริย์​เหนือ​แผ่นดิน​โลก.” (โรม 8:17, ล.ม.; วิวรณ์ 5:9, 10, ล.ม.; 14:1, 3, 4; ดานิเอล 7:27) พระ​คริสต์​กับ​เหล่า​ผู้​ร่วม​ปกครอง​ของ​พระองค์​จะ​ปกครอง​ชาย​หญิง​เยี่ยง​แกะ​จำนวน​หลาย​ล้าน​คน​ที่​จะ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ที่​น่า​ยินดี​ของ​คำ​พยากรณ์​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ​ที่​ว่า “คน​ทั้ง​หลาย​ที่​มี​ใจ​ถ่อม​ลง [ใจ​อ่อน​สุภาพ] จะ​ได้​แผ่นดิน​เป็น​มฤดก, และ​เขา​จะ​ชื่นชม​ยินดี​ด้วย​ความ​สงบ​สุข​อัน​บริบูรณ์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 37:11; มัดธาย 25:33, 34, 46.

บุคคล​ผู้​ใด​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​ก็​เป็น​สุข

10. วิธี​หนึ่ง​ที่​บุคคล​ผู้ “หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม” จะ​ได้​อิ่ม​บริบูรณ์​คือ​อะไร?

10 เหตุ​ผล​สำหรับ​ความ​สุข​ประการ​ถัด​มา​ที่​พระ​เยซู​กล่าว​บน​ไหล่​เขา​ใน​แกลิลี​นั้น​คือ “บุคคล​ผู้​ใด​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​ก็​เป็น​สุข, เพราะ​ว่า​เขา​จะ​ได้​อิ่ม​บริบูรณ์.” (มัดธาย 5:6) สำหรับ​คริสเตียน พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​กำหนด​มาตรฐาน​ความ​ชอบธรรม. ฉะนั้น ผู้​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​จึง​ประหนึ่ง​กระหาย​การ​ชี้​นำ​จาก​พระเจ้า. คน​เช่น​นั้น​สำนึก​อย่าง​ยิ่ง​ว่า​ตน​เป็น​คน​บาป​และ​ไม่​สมบูรณ์ และ​ปรารถนา​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​อยู่​ใน​ฐานะ​อัน​เป็น​ที่​พอ​พระทัย​พระ​ยะโฮวา. พวก​เขา​ช่าง​มี​ความ​สุข​สัก​เพียง​ไร​เมื่อ​เรียน​รู้​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ว่า หาก​กลับ​ใจ​และ​แสวง​หา​การ​อภัย​บาป​โดย​อาศัย​เครื่อง​บูชา​ไถ่​ของ​พระ​คริสต์​แล้ว พวก​เขา​จะ​มี​ฐานะ​ชอบธรรม​จำเพาะ​พระเจ้า!—กิจการ 2:38; 10:43; 13:38, 39; โรม 5:19.

11, 12. (ก) คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ได้​ฐานะ​ชอบธรรม​อย่าง​ไร? (ข) สหาย​ของ​เหล่า​ผู้​ถูก​เจิม​ทำ​ให้​ความ​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​ของ​ตน​ได้​รับ​การ​สนอง​โดย​วิธี​ใด?

11 พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​คน​เช่น​นั้น​จะ​มี​ความ​สุข​เพราะ “จะ​ได้​อิ่ม​บริบูรณ์” หรือ​ได้​รับ​การ​สนอง​จน​อิ่ม. (มัดธาย 5:6) บรรดา​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ซึ่ง​ถูก​เรียก​ให้ “ปกครอง​เป็น​กษัตริย์” ใน​สวรรค์​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์​นั้น​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ว่า “เป็น​คน​ชอบธรรม​เพื่อ​จะ​ได้​ชีวิต.” (โรม 5:1, 9, 16-18, ล.ม.) พระ​ยะโฮวา​รับ​พวก​เขา​เป็น​บุตร​ฝ่าย​วิญญาณ. พวก​เขา​กลาย​มา​เป็น​ทายาท​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์ ที่​ถูก​เรียก​เป็น​กษัตริย์​และ​ปุโรหิต​ใน​รัฐบาล​แห่ง​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​ของ​พระองค์.—โยฮัน 3:3; 1 เปโตร 2:9.

12 บรรดา​สหาย​ของ​เหล่า​ผู้​ถูก​เจิม​ยัง​ไม่​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ว่า​เป็น​คน​ชอบธรรม​เพื่อ​จะ​ได้​ชีวิต. แต่​พระ​ยะโฮวา​นับ​พวก​เขา​เป็น​คน​ชอบธรรม​ใน​ระดับ​หนึ่ง​เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ได้​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​โลหิต​ที่​หลั่ง​ออก​ของ​พระ​คริสต์. (ยาโกโบ 2:22-25; วิวรณ์ 7:9, 10) พวก​เขา​ถูก​ถือ​ว่า​เป็น​ผู้​ชอบธรรม​ฐานะ​มิตร​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​ได้​รับ​ความ​รอด​ใน​คราว “ความ​ทุกข์​ลำบาก​ครั้ง​ใหญ่.” (วิวรณ์ 7:14, ล.ม.) ความ​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​ของ​คน​เหล่า​นี้​จะ​ได้​รับ​การ​สนอง​ยิ่ง​ขึ้น​ไป​อีก เมื่อ​พวก​เขา​กลาย​เป็น​ส่วน​ของ​แผ่นดิน​โลก​ใหม่​ภาย​ใต้ “ท้องฟ้า​อากาศ​ใหม่” ที่​ซึ่ง “ความ​ชอบธรรม​จะ​ดำรง​อยู่.”—2 เปโตร 3:13; บทเพลง​สรรเสริญ 37:29.

บุคคล​ผู้​ใด​มี​ใจ​เมตตา​ปรานี​ก็​เป็น​สุข

13, 14. ใน​ทาง​ใด​บ้าง​ที่​เรา​ควร​แสดง​ความ​เมตตา​ออก​มา​ใน​ภาค​ปฏิบัติ และ​นั่น​จะ​ก่อ​ผล​ดี​แก่​เรา​อย่าง​ไร?

13 พระ​เยซู​ตรัส​ต่อ​ไป​ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​ว่า “บุคคล​ผู้​ใด​มี​ใจ​เมตตา​ปรานี​ก็​เป็น​สุข, เพราะ​ว่า​เขา​จะ​ได้​รับ​ความ​เมตตา​ปรานี​เหมือน​กัน.” (มัดธาย 5:7) ใน​แง่​กฎหมาย ความ​เมตตา​เป็น​ที่​เข้าใจ​กัน​ว่า​พาด​พิง​ถึง​การ​ลด​หย่อน​ผ่อน​โทษ​ที่​กระทำ​โดย​ผู้​พิพากษา เพื่อ​ผู้​กระทำ​ผิด​จะ​ไม่​ต้อง​รับ​โทษ​สูง​สุด​ตาม​ที่​กฎหมาย​กำหนด​ไว้​สำหรับ​ความ​ผิด​นั้น. แต่​ส่วน​ใหญ่​ตาม​ที่​ใช้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล คำ​ใน​ภาษา​เดิม​ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “เมตตา” เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​แสดง​ความ​ห่วงใย​อย่าง​กรุณา​หรือ​ความ​สงสาร​ที่​ให้​การ​ช่วยเหลือ​แก่​ผู้​อยู่​ใน​ฐานะ​เสีย​เปรียบ. ฉะนั้น คน​มี​ใจ​เมตตา​คือ​ผู้​ที่​สำแดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ออก​มา​โดย​การ​กระทำ. อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ของ​ผู้​ที่ ‘ปฏิบัติ​ด้วย​ความ​เมตตา’ ต่อ​คน​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ.—ลูกา 10:29-37, ล.ม.

14 เพื่อ​จะ​ประสบ​ความ​สุข​จาก​การ​มี​ความ​เมตตา เรา​ต้อง​แสดง​ความ​กรุณา​ด้วย​การ​ลง​มือ​กระทำ​สิ่ง​ที่​จะ​เป็น​ประโยชน์​แก่​คน​ที่​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ. (ฆะลาเตีย 6:10) พระ​เยซู​สงสาร​ประชาชน​ที่​พระองค์​พบ​เห็น. “พระองค์​ก็​ทรง​พระ​กรุณา​แก่​เขา, เพราะ​ว่า​เขา​เป็น​เหมือน​ฝูง​แกะ​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง พระองค์​จึง​สั่ง​สอน​เขา​เป็น​หลาย​ข้อ​หลาย​ประการ.” (มาระโก 6:34) พระ​เยซู​ตระหนัก​ว่า​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​มนุษย์​มี​ความ​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​ความ​จำเป็น​อย่าง​อื่น. เรา​ก็​สามารถ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ได้​เช่น​กัน​ด้วย​การ​แบ่ง​ปัน​สิ่ง​ที่​คน​อื่น ๆ จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​มาก​ที่​สุด นั่น​คือ “ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร.” (มัดธาย 24:14, ล.ม.) นอก​จาก​นี้ เรา​ยัง​สามารถ​เสนอ​ความ​ช่วยเหลือ​ที่​เป็น​ประโยชน์​แก่​เพื่อน​คริสเตียน​สูง​วัย, หญิง​ม่าย, ลูก​กำพร้า และ “หนุน​น้ำใจ​ผู้​ที่​ท้อ​ใจ.” (1 เธซะโลนิเก 5:14; สุภาษิต 12:25; ยาโกโบ 1:27) การ​ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​เพียง​แต่​จะ​นำ​ความ​สุข​มา​ให้ แต่​ยัง​ทำ​ให้​เรา​ได้​รับ​ความ​เมตตา​จาก​พระ​ยะโฮวา​ด้วย.—กิจการ 20:35; ยาโกโบ 2:13.

มี​หัวใจ​บริสุทธิ์​และ​สร้าง​สันติ

15. เรา​จะ​มี​หัวใจ​บริสุทธิ์​และ​สร้าง​สันติ​ได้​โดย​วิธี​ใด?

15 พระ​เยซู​กล่าว​ถึง​ความ​สุข​ประการ​ที่​หก​และ​เจ็ด​ดัง​นี้: “บุคคล​ผู้​ใด​มี​ใจ​บริสุทธิ์​ก็​เป็น​สุข, เพราะ​ว่า​เขา​จะ​ได้​เห็น​พระเจ้า. บุคคล​ผู้​ใด​ระงับ​การ​แตก​แยก​กัน​ก็​เป็น​สุข, เพราะ​ว่า​เขา​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า.” (มัดธาย 5:8, 9) หัวใจ​ที่​บริสุทธิ์​ไม่​เพียง​แต่​สะอาด​ด้าน​ศีลธรรม​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ปราศจาก​มลทิน​ด้าน​วิญญาณ​และ​เป็น​หนึ่ง​เดียว​ใน​การ​ถวาย​ความ​เลื่อมใส​แด่​พระ​ยะโฮวา. (1 โครนิกา 28:9; บทเพลง​สรรเสริญ 86:11, ล.ม.) ใน​ภาษา​เดิม คำ​ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “ระงับ​การ​แตก​แยก” มี​ความหมาย​ตาม​ตัว​อักษร​ว่า “ผู้​สร้าง​สันติ.” คน​ที่​สร้าง​สันติ​จะ​อยู่​อย่าง​สงบ​สุข​กับ​พี่​น้อง​คริสเตียน และ​กับ​เพื่อน​บ้าน​ของ​เขา​ตราบ​เท่า​ที่​เขา​สามารถ​ทำ​ได้. (โรม 12:17-21) พวก​เขา “แสวง​หา​สันติ​สุข​และ​ติด​ตาม​สันติ​สุข.”—1 เปโตร 3:11.

16, 17. (ก) เหตุ​ใด​ผู้​ถูก​เจิม​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น “บุตร​ของ​พระเจ้า” และ​พวก​เขา “เห็น​พระเจ้า” โดย​ทาง​ใด? (ข) “แกะ​อื่น” “เห็น​พระเจ้า” ใน​แง่​ใด? (ค) เมื่อ​ไร​และ​โดย​วิธี​ใด​ที่ “แกะ​อื่น” จะ​เป็น “บุตร​ของ​พระเจ้า” ใน​ความหมาย​ครบ​ถ้วน​สมบูรณ์?

16 คำ​สัญญา​สำหรับ​ผู้​สร้าง​สันติ​ที่​มี​หัวใจ​บริสุทธิ์​คือ เขา “จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า” และ “จะ​ได้​เห็น​พระเจ้า.” คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​บังเกิด​ฝ่าย​วิญญาณ​และ​ถูก​รับ​เป็น “บุตร” ของ​พระ​ยะโฮวา​ขณะ​ที่​ยัง​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​นี้. (โรม 8:14-17) เมื่อ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ไป​อยู่​กับ​พระ​คริสต์​ใน​สวรรค์​แล้ว พวก​เขา​รับใช้​จำเพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยะโฮวา​และ​ได้​เห็น​พระองค์​จริง ๆ.—1 โยฮัน 3:1, 2; วิวรณ์ 4:9-11.

17 ผู้​สร้าง​สันติ​ที่​เป็น “แกะ​อื่น” รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ของ​พระ​คริสต์​เยซู​ผู้​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี ผู้​กลาย​มา​เป็น “พระ​บิดา​องค์​ถาวร” ของ​พวก​เขา. (โยฮัน 10:14, 16; ยะซายา 9:6) คน​ที่​ผ่าน​การ​ทดสอบ​ครั้ง​สุด​ท้าย​หลัง​จาก​รัชสมัย​พัน​ปี​ของ​พระ​คริสต์​สิ้น​สุด​ลง​จะ​ถูก​รับ​เป็น​บุตร​ทาง​ภาค​แผ่นดิน​โลก​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ “เข้า​ใน​สง่า​ราศี​แห่ง​บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​พระเจ้า.” (โรม 8:21; วิวรณ์ 20:7, 9) ระหว่าง​คอย​ท่า​สิ่ง​นั้น พวก​เขา​กล่าว​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า​เป็น​พระ​บิดา​ของ​เขา เนื่อง​จาก​ได้​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระองค์​และ​ยอม​รับ​ว่า​พระองค์​เป็น​ผู้​ประสาท​ชีวิต​ให้​พวก​เขา. (ยะซายา 64:8) เช่น​เดียว​กับ​โยบ​และ​โมเซ​ใน​สมัย​โบราณ พวก​เขา​สามารถ “เห็น​พระเจ้า” ด้วย​ตา​แห่ง​ความ​เชื่อ. (โยบ 42:5; เฮ็บราย 11:27) ด้วย “ตา​แห่ง​หัวใจ” และ​โดย​ทาง​ความ​รู้​ถ่องแท้​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า พวก​เขา​มอง​เห็น​คุณลักษณะ​ล้ำ​เลิศ​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​พยายาม​เลียน​แบบ​พระองค์​โดย​กระทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์.—เอเฟโซ 1:18, ล.ม.; โรม 1:19, 20; 3 โยฮัน 11.

18. ตาม​ที่​พระ​เยซู​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ความ​สุข​เจ็ด​ประการ​แรก​นั้น ใคร​ที่​ประสบ​ความ​สุข​แท้​ใน​ทุก​วัน​นี้?

18 เรา​ได้​เห็น​แล้ว​ว่า​ผู้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ, โศก​เศร้า, มี​ใจ​อ่อน​สุภาพ, หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม, มี​ใจ​เมตตา​ปรานี, มี​หัวใจ​บริสุทธิ์, และ​สร้าง​สันติ​สุข ประสบ​ความ​สุข​แท้​จาก​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. ถึง​กระนั้น คน​เช่น​นั้น​เผชิญ​การ​ต่อ​ต้าน​หรือ​แม้​กระทั่ง​การ​ข่มเหง​อยู่​ร่ำ​ไป. สิ่ง​นี้​ทำลาย​ความ​สุข​ของ​พวก​เขา​ไหม? จะ​มี​การ​พิจารณา​คำ​ถาม​นี้​ใน​บทความ​ถัด​ไป.

เพื่อ​เป็น​การ​ทบทวน

• ความ​สุข​อะไร​มี​แก่​ผู้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน?

• ผู้​โศก​เศร้า​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน​ใน​ทาง​ใด​บ้าง?

• โดย​วิธี​ใด​ที่​เรา​สำแดง​ใจ​อ่อน​สุภาพ?

• เหตุ​ใด​เรา​ควร​มี​ความ​เมตตา, มี​หัวใจ​บริสุทธิ์, และ​สร้าง​สันติ?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 10]

“ความ​สุข​มี​แก่​ผู้​ที่​รู้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน”

[ภาพ​หน้า 10]

“บุคคล​ผู้​ใด​มี​ใจ​เมตตา​ปรานี​ก็​เป็น​สุข”

[ภาพ​หน้า 10]

“บุคคล​ผู้​ใด​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​ก็​เป็น​สุข”