จงรักษาทัศนะที่สมดุลในเรื่องเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
จงรักษาทัศนะที่สมดุลในเรื่องเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
“เหล้าองุ่นให้เกิดการเยาะเย้ย และสุราก็ให้เกิดเป็นพาลเกเร ผู้ใดยอมให้มันพาเจิ่นไปก็ไม่เป็นคนฉลาด.”—สุภาษิต 20:1, ฉบับแปลใหม่.
1. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญแสดงความขอบพระคุณอย่างไรต่อของประทานอันดีบางอย่างจากพระยะโฮวา?
“ของประทานอันดีทุกอย่าง และของประทานอันเลิศทุกอย่างย่อมมาแต่เบื้องบน, และลงมาจากพระบิดาผู้ทรงบันดาลให้มีดวงสว่าง” สาวกยาโกโบเขียนไว้เช่นนั้น. (ยาโกโบ 1:17) ด้วยแรงกระตุ้นจากความรู้สึกขอบพระคุณต่อของประทานอันดีมากมายจากพระเจ้า ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญร้องเพลงว่า “พระองค์ทรงให้หญ้างอกมาเพื่อสัตว์เลี้ยง และผักให้มนุษย์ได้ดูแล เพื่อเขาจะทำให้เกิดอาหารจากแผ่นดิน และเหล้าองุ่นซึ่งให้ ใจมนุษย์ยินดี น้ำมันเพื่อทำให้หน้าของเขาทอแสง และขนมปังซึ่งเสริมกำลังใจมนุษย์.” (บทเพลงสรรเสริญ 104:14, 15, ฉบับแปลใหม่) เช่นเดียวกับผัก, ขนมปัง, และน้ำมัน เหล้าองุ่นกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทอื่น ๆ ก็เป็นของประทานอันดีจากพระเจ้า. เราควรใช้ของประทานเหล่านี้อย่างไร?
2. เราจะพิจารณาคำถามอะไรบ้างเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์?
2 ของประทานที่ทำให้ใจยินดีจะส่งผลดีก็ต่อเมื่อมีการใช้อย่างเหมาะสม. ตัวอย่างเช่น น้ำผึ้ง “เป็นของดี” แต่ว่าการ “กินน้ำผึ้งมากเกินไปนั้นก็ไม่ดี.” (สุภาษิต 24:13; 25:27) ขณะที่การดื่ม “เหล้าองุ่นบ้างเล็กน้อย” อาจเป็นประโยชน์ แต่การดื่มแอลกอฮอล์เกินควรจะก่อผลเสียหาย. (1 ติโมเธียว 5:23) คัมภีร์ไบเบิลเตือนว่า “เหล้าองุ่นให้เกิดการเยาะเย้ย และสุราก็ให้เกิดเป็นพาลเกเร ผู้ใดยอมให้มันพาเจิ่นไปก็ไม่เป็นคนฉลาด.” (สุภาษิต 20:1, ฉบับแปลใหม่) แต่ที่ว่าเจิ่นไปเพราะแอลกอฮอล์นั้นคืออย่างไร? * แค่ไหนที่ถือว่าดื่มมากไป? อะไรคือทัศนะที่สมดุลในเรื่องนี้?
แอลกอฮอล์ “พาเจิ่นไป”—อย่างไร?
3, 4. (ก) อะไรแสดงว่าคัมภีร์ไบเบิลตำหนิการดื่มจนเมา? (ข) คนเมาจะมีอาการอย่างไรบ้าง?
3 ในอิสราเอลโบราณ บุตรชายที่กินเติบและขี้เมาซึ่งไม่กลับใจจะถูกหินขว้างตาย. (พระบัญญัติ 21:18-21) อัครสาวกเปาโลเตือนคริสเตียนดังนี้: “ถ้าผู้ใดที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องแล้ว, แต่ยังเป็นคนผิดประเวณี, เป็นคนโลภ, เป็นคนไหว้รูปเคารพ, เป็นคนปากร้าย, เป็นคนขี้เมา, หรือเป็นคนฉ้อโกง, อย่าคบให้สนิทกับคนอย่างนั้น แม้จะกินด้วยกันก็อย่าเลย.” เห็นได้ชัดว่าพระคัมภีร์ตำหนิการดื่มจนเมา.—1 โกรินโธ 5:11; 6:9, 10.
4 เมื่อพรรณนาถึงอาการเมา คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “อย่ามองดูเหล้าองุ่นนั้นที่มีสีแดง, และที่ฉายแสงอยู่ในถ้วย; มันเลื่อนไหลลงไปอย่างคล่องคอ; แต่ที่สุดปลายมันจะกัดเหมือนงู, และจะปล่อยพิษเหมือนงูเห่า. ตาของเจ้าจะมองเห็นของวิปริตไป, และใจของเจ้าจะทำให้เจ้าพูดคำเลอะเทอะไป.” (สุภาษิต 23:31-33) การดื่มเกินควรเปรียบได้กับถูกงูพิษกัด ทำให้คลื่นเหียน, มึนงง, หรือกระทั่งหมดสติ. คนเมาอาจเห็นภาพ “วิปริตไป” ในแง่ที่ว่าเขาอาจเกิดอาการประสาทหลอนหรือเห็นอะไรผิดจากความเป็นจริง. เขายังอาจยับยั้งตัวได้น้อยลง พูดอะไรเลอะเทอะที่แสดงถึงความคิดและความต้องการที่ไม่เหมาะสมออกมาซึ่งปกติจะยับยั้งไว้.
5. การดื่มแอลกอฮอล์เกินควรก่อผลเสียหายในทางใด?
5 จะเสียหายอะไรไหมหากคนเราดื่มแอลกอฮอล์ แต่ระวังที่จะไม่ดื่มจนเห็นได้ว่าเมา? บางคนแทบไม่มีอาการเมาให้เห็น แม้หลังจากดื่มไปมากแล้ว. อย่างไรก็ตาม การคิดว่าการดื่มแบบนั้นไม่ก่อผลเสียหายที่แท้แล้วก็หลอกตัวเอง. (ยิระมะยา 17:9) ทีละเล็กทีละน้อย อย่างค่อยเป็นค่อยไป คนเราอาจติดแอลกอฮอล์ และตกเป็น “ทาสของเหล้าองุ่น.” (ติโต 2:3, ล.ม.) นักเขียนชื่อแคโรไลน์ แน็ป กล่าวเกี่ยวกับกระบวนการที่นำไปสู่การเป็นคนติดสุราว่า “เป็นการเปลี่ยนแปลง อย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป ยากจะสังเกตเห็นผลร้ายที่ตามมา.” การดื่มแอลกอฮอล์เกินควรเป็นกับดักร้ายกาจเสียจริง ๆ!
6. ทำไมคนเราควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมากเกินไป ไม่ว่าแอลกอฮอล์หรืออาหาร?
6 ขอให้พิจารณาคำเตือนของพระเยซูด้วยที่ว่า “จงระวังลูกา 21:34, 35) การดื่มไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเมาเสียก่อนจึงจะทำให้คนเราเซื่องซึมและเกียจคร้าน—ทั้งทางกายและฝ่ายวิญญาณ. จะเกิดอะไรขึ้นหากวันของพระยะโฮวามาถึงขณะคนเราอยู่ในสภาพนั้น?
ตัวให้ดี, เกลือกว่าใจของท่านจะล้นไปด้วยอาการดื่มเหล้าองุ่นมากและด้วยการเมา, และด้วยคิดกังวลถึงชีวิตนี้, แล้วเวลานั้นจะมาถึงท่านดุจบ่วงแร้วเมื่อท่านไม่ทันคิด เพราะว่าวันนั้นจะมาถึงคนทั้งปวงที่อยู่ทั่วแผ่นดินโลก.” (ผลของการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
7. เหตุใดการดื่มแอลกอฮอล์เกินควรจึงขัดกับคำแนะนำที่กล่าวไว้ที่ 2 โกรินโธ 7:1?
7 การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินควรก่อผลเสียหายหลายอย่างทั้งต่อร่างกายและฝ่ายวิญญาณ. โรคบางอย่างที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปก็มีตับแข็ง, ตับอักเสบ, และอาการทางจิตประสาท เช่น กระสับกระส่าย, ตัวสั่น, และประสาทหลอน ซึ่งเกิดจากการติดสุราแล้วไม่ได้เสพ. การดื่มจัดต่อเนื่องกันเป็นเวลานานยังทำให้เกิดโรคมะเร็ง, โรคเบาหวาน, และโรคบางอย่างที่เกิดกับหัวใจและกระเพาะอาหาร. การดื่มแอลกอฮอล์เกินควรไม่สอดคล้องกับคำแนะนำในพระคัมภีร์อย่างเห็นได้ชัดที่ว่า “ให้เราชำระตัวเราจากมลทินทุกอย่างแห่งเนื้อหนังและวิญญาณ ทำความบริสุทธิ์ให้สมบูรณ์ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า.”—2 โกรินโธ 7:1, ล.ม.
8. การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจก่อผลเช่นไร ตามที่กล่าวในสุภาษิต 23:20, 21?
8 การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปยังอาจหมายถึงการสูญเสียเงินทอง หรือแม้กระทั่งงานอาชีพ. กษัตริย์ซะโลโมแห่งอิสราเอลโบราณเตือนดังนี้: “อย่ามั่วสุมกับนักเสพเหล้าองุ่น; หรือกับคนกินเนื้อเติบ.” เพราะเหตุใด? ท่านชี้แจงว่า “ด้วยว่าคนขี้เมาและคนกินเติบคงจะมาถึงการยากจน; และการเซื่องซึมนั้นจะเป็นเหตุให้ตัวนุ่งห่มผ้าขี้ริ้ว.”—สุภาษิต 23:20, 21.
9. เหตุใดจึงเป็นการฉลาดสุขุมที่คนเราจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลยหากจะต้องขับขี่ยานพาหนะ?
9 สารานุกรมว่าด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง (ภาษาอังกฤษ) ชี้ถึงผลเสียหายอีกอย่างหนึ่งดังนี้: “การศึกษาวิจัยรายงานว่า แอลกอฮอล์ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง ซึ่งรวมถึงปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง, การประสานงานของร่างกายบกพร่อง, สมาธิลดลง, การมองเห็นและการตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย.” ผลจากการขับขี่ขณะมึนเมานั้นร้ายแรง. เฉพาะในประเทศไทย มีกว่าหกพันคนเสียชีวิตและอีกกว่าสี่แสนคนบาดเจ็บในแต่ละปีด้วยอุบัติเหตุจากการขับขี่ขณะเมาสุรา. เยาวชนประสบอันตรายนี้ง่ายเป็นพิเศษเนื่องจากขาดประสบการณ์ในการขับขี่และการดื่ม. เป็นไปได้หรือที่ใคร ๆ ที่ขับขี่ยานพาหนะหลังจากดื่มแอลกอฮอล์หลายแก้วและขณะเดียวกันก็อ้างว่าตนนับถือชีวิตที่เป็นของประทานจากพระยะโฮวาเจ้า? (บทเพลงสรรเสริญ 36:9) เมื่อคำนึงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต นับว่าดีที่สุดที่จะไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยเมื่อจะต้องขับขี่.
10. แอลกอฮอล์สามารถส่งผลเช่นไรต่อความคิดจิตใจของเรา และเหตุใดจึงนับว่าเป็นอันตราย?
10 การดื่มแอลกอฮอล์เกินควรไม่เพียงก่อผลเสียต่อร่างกายเท่านั้น แต่ต่อฝ่ายวิญญาณด้วย. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “เหล้าองุ่นและเหล้าองุ่นใหม่ย่อมปลิดเอาสติไปเสีย.” (โฮเซอา 4:11) แอลกอฮอล์ส่งผลต่อความคิดจิตใจ. เอกสารเผยแพร่ของสถาบันวิจัยด้านการใช้ยาเสพติดแห่งชาติของสหรัฐอธิบายว่า “เมื่อคนเราดื่มสุราเข้าไป แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมผ่านระบบย่อยอาหารเข้าสู่กระแสโลหิตผ่านไปถึงสมองอย่างรวดเร็ว. แอลกอฮอล์จะทำให้สมองส่วนที่ควบคุม ความคิดและอารมณ์ทำงานช้าลง ทำให้ความรู้สึกยับยั้งชั่งใจของผู้นั้นลดลง.” เมื่ออยู่ในสภาพเช่นนั้น มีทางเป็นไปได้มากที่เราจะ “เจิ่นไป,” ล่วงเกินผู้อื่น, และตกเข้าสู่การล่อใจหลายอย่าง.—สุภาษิต 20:1, ฉบับแปลใหม่.
11, 12. ผลเสียหายฝ่ายวิญญาณที่อาจเกิดจากการดื่มมากเกินไปคืออะไร?
11 นอกจากนี้ คัมภีร์ไบเบิลสั่งว่า “ท่านทั้งหลายจะกินจะดื่มก็ดี, หรือจะทำประการใดก็ดี, จงกระทำทุกสิ่งให้เป็นที่ถวายเกียรติยศแก่พระเจ้า.” (1 โกรินโธ 10:31) มีครั้งใดไหมที่การบริโภคแอลกอฮอล์ปริมาณมากจะนำคำสรรเสริญมาสู่พระเจ้า? คริสเตียนคนใด ๆ คงไม่ต้องการขึ้นชื่อว่าเป็นคนดื่มจัด. ชื่อเสียงอย่างนั้นคงจะนำคำตำหนิ ไม่ใช่คำสรรเสริญ มาสู่พระนามของพระยะโฮวา.
12 ถ้าคริสเตียนคนหนึ่งไม่รู้จักประมาณตนในการดื่ม และเป็นเหตุให้เพื่อนร่วมความเชื่อของเขาสะดุดล่ะ บางทีอาจเป็นสาวกใหม่? (โรม 14:21) พระเยซูเตือนว่า “ผู้ใดจะนำผู้เล็กน้อยเหล่านี้คนหนึ่งที่เชื่อในเราให้หลงผิด, ถ้าได้เอาหินโม่ก้อนใหญ่ผูกคอผู้นั้นถ่วงเสียที่ทะเลลึกก็ดีกว่า.” (มัดธาย 18:6) การดื่มเกินควรอาจทำให้ผู้นั้นสูญเสียสิทธิพิเศษในประชาคมด้วย. (1 ติโมเธียว 3:1-3, 8) นอกจากนั้น การดื่มจัดยังอาจก่อให้เกิดปัญหาในครอบครัว.
หลีกเลี่ยงผลเสียหาย—ทำอย่างไร?
13. อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้หลีกเลี่ยงการดื่มเกินควร?
13 หลักสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียหายอันเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์นั้นไม่ใช่แค่รู้ว่าเส้นแบ่งระหว่างการดื่มมากไปกับการเมาอยู่ตรงไหน แต่รู้ว่าเส้นแบ่งระหว่างการดื่มพอเหมาะกับการดื่มมากเกินไปอยู่ตรงไหน. ใครจะบอกได้ว่าเส้นแบ่งนี้อยู่ตรงไหนสำหรับตัวคุณ? เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวข้องอยู่ด้วย จึงไม่สามารถวางกฎตายตัวได้ว่าดื่มกี่แก้วจึงจะถือว่ามากไป. แต่ละคนต้องรู้ขีดจำกัดของตนและไม่ล้ำขีดนั้นไป. อะไรจะช่วยคุณกำหนดได้ว่าดื่มแค่ไหนที่ถือว่ามากไปสำหรับคุณ? มีหลักการที่ชี้นำในเรื่องนี้ไหม?
14. หลักการอะไรที่จะช่วยคุณกำหนดเส้นแบ่งระหว่างการดื่มพอเหมาะกับการดื่มมากเกินไป?
14 คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “จงรักษาสติปัญญาที่ใช้ได้จริงและความสามารถในการคิด และสิ่งเหล่านี้จะเป็นชีวิตแก่ตัวเจ้าและเป็นเครื่องประดับที่ลำคอของเจ้า.” (สุภาษิต 3:21, 22, ล.ม.) ฉะนั้น หลักการที่ชี้นำก็คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณแค่ไหนก็ตามที่ทำให้ความสามารถในการคิดช้าลงและการวินิจฉัยของคุณบกพร่อง นั่นก็มากไปแล้วสำหรับคุณ. แต่คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเองที่จะตระหนักว่าขีดจำกัดของตนอยู่ตรงไหน!
15. เมื่อไรที่แม้แต่หนึ่งแก้วก็ยังอาจถือว่ามากเกินไป?
15 ในบางสถานการณ์ แม้แต่หนึ่งแก้วก็ยังอาจถือว่ามากเกินไป. เมื่อคิดถึงผลเสียต่อบุตรในครรภ์ สตรีมีครรภ์อาจตัดสินใจว่าจะไม่ดื่มเลย. และคงจะเป็นความกรุณามิใช่หรือที่จะงดดื่มเมื่ออยู่กับคนที่เคยมีปัญหาเรื่องการติดสุราหรือกับคนที่สติรู้สึกผิดชอบของเขาไม่เห็นชอบกับการดื่ม? พระยะโฮวาทรงสั่งผู้ทำหน้าที่ปุโรหิต ณ พลับพลาว่า “เจ้าอย่าได้กินน้ำองุ่น [“เหล้าองุ่น,” ล.ม.] หรือของที่ให้เมา . . . เมื่อจะเข้าในพลับพลาประชุม กลัวเกลือกว่าจะตายเสีย.” (เลวีติโก 10:8, 9) ด้วยเหตุนี้ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนจะเข้าร่วมการประชุมคริสเตียน, เมื่อเข้าร่วมในงานรับใช้, และเมื่อเอาใจใส่หน้าที่รับผิดชอบอื่น ๆ ทางฝ่ายวิญญาณ. นอกจากนี้ ในหลายประเทศมีการห้ามดื่มแอลกอฮอล์หรือมีการกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ดื่ม คริสเตียนต้องเชื่อฟังกฎหมายบ้านเมืองนั้น.—โรม 13:1.
16. คุณควรตัดสินใจอย่างไรเมื่อมีการจัดเตรียมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คุณ?
16 เมื่อมีคนยื่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้หรือว่ามีการจัดไว้ให้คุณ ให้ถามตัวเองก่อนว่า ‘ฉันควรดื่มไหม?’ หากคุณตัดสินใจว่าจะดื่ม จงคิดถึงขีดจำกัดของคุณอยู่เสมอ และอย่าดื่มเกินขีดนั้นไป. อย่าใจอ่อนเมื่อเจ้าภาพใจดีคะยั้นคะยอให้ดื่ม. และจงระวังเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีเสิร์ฟอย่างไม่อั้นตามงานสังสรรค์ต่าง ๆ เช่น งานเลี้ยงสมรส. ในหลายแห่ง ไม่มีกฎหมายห้ามเด็กดื่มแอลกอฮอล์. บิดามารดามีหน้าที่รับผิดชอบสั่งสอนบุตรเกี่ยวกับการใช้เครื่องดื่มประเภทนี้ และคอยดูแลพวกเขาในเรื่องดังกล่าว.—คุณจัดการกับปัญหาเรื่องการดื่มได้
17. อะไรจะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณมีปัญหาเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์เกินควรหรือไม่?
17 คุณมีปัญหาเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์เกินควรไหม? แน่ใจได้เลยว่าหากการดื่มเกินควรกลายเป็นความผิดที่คุณกระทำอย่างลับ ๆ ไม่ช้าก็เร็วมันจะส่งผลกระทบต่อคุณ. ฉะนั้น จงใช้เวลาตรวจสอบตัวเองอย่างซื่อสัตย์. ถามตัวเองอย่างถี่ถ้วนด้วยคำถามอย่างเช่น ‘ฉันดื่มบ่อยครั้งขึ้นกว่าแต่ก่อนไหม? ฉันเพิ่มดีกรีให้แรงขึ้นไหม? ฉันพึ่งแอลกอฮอล์เพื่อหนีปัญหาหรือลืมความวิตกกังวลต่าง ๆ ไหม? สมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนแสดงความเป็นห่วงเรื่องการดื่มของฉันไหม? การดื่มของฉันก่อปัญหาภายในครอบครัวไหม? ฉันรู้สึกว่าการงดดื่มให้ได้สักหนึ่งสัปดาห์, หนึ่งเดือน, หรือหลาย ๆ เดือนเป็นเรื่องยากไหม? ฉันซ่อนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ไม่ให้ใครรู้เห็นไหม?’ แล้วถ้าคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้คือใช่ในบางข้อล่ะ? ก็ขออย่าเป็นเหมือนคนที่ ‘ดูหน้าตัวเองในกระจก และประเดี๋ยวก็ลืมว่าตัวเป็นอย่างไร.’ (ยาโกโบ 1:22-24) จงลงมือจัดการแก้ไขเรื่องนั้น. คุณจะทำอะไรได้บ้าง?
18, 19. คุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์เกินควรอีกต่อไป?
18 อัครสาวกเปาโลกระตุ้นเตือนคริสเตียนว่า “อย่าเมาเหล้าองุ่นอันเป็นเหตุให้เสียคนไป, แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ.” (เอเฟโซ 5:18) จงวินิจฉัยดูว่าปริมาณการดื่มแค่ไหนที่มากเกินไปสำหรับคุณ และกำหนดปริมาณที่เหมาะสมไว้. ตั้งใจมุ่งมั่นว่าจะไม่ดื่มเกินกว่านั้นอย่างเด็ดขาด; จงแสดงการรู้จักบังคับตน. (ฆะลาเตีย 5:22, 23) คุณมีเพื่อนฝูงที่คะยั้นคะยอให้คุณดื่มมาก ๆ ไหม? จงคอยระวัง. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “บุคคลที่ดำเนินกับคนมีปัญญาก็จะเป็นคนมีปัญญา แต่คนที่คบกับคนโฉดเขลาย่อมจะรับความเสียหาย.”—สุภาษิต 13:20, ล.ม.
19 หากคุณกำลังพึ่งแอลกอฮอล์เพื่อหนีปัญหาบางอย่าง จงเผชิญหน้ากับปัญหานั้นตรง ๆ. ปัญหาต่าง ๆ สามารถจัดการได้โดยใช้คำแนะนำจากพระคำของพระเจ้า. (บทเพลงสรรเสริญ 119:105) อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคริสเตียนผู้ปกครองที่วางใจได้. ใช้ประโยชน์เต็มที่จากการจัดเตรียมต่าง ๆ ของพระยะโฮวาเพื่อเสริมสร้างคุณทางฝ่ายวิญญาณ. จงเสริมสัมพันธภาพระหว่างคุณกับพระยะโฮวาให้แน่นแฟ้นขึ้น. จงหมั่นทูลอธิษฐานถึงพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องข้ออ่อนแอของคุณ. ทูลขอให้พระเจ้า ‘กลั่นกรองไตและหัวใจของคุณ.’ (บทเพลงสรรเสริญ 26:2, ล.ม.) ดังที่พิจารณาไปในบทความก่อน จงพยายามสุดกำลังเพื่อจะดำเนินในทางแห่งความซื่อสัตย์มั่นคง.
20. คุณอาจต้องใช้มาตรการอะไรเพื่อจัดการกับปัญหาเรื่องการดื่มมากไปที่แก้ไม่หาย?
20 แล้วถ้าคุณยังคงมีปัญหาเรื่องการดื่มมากไปอยู่ล่ะ ทั้งมาระโก 9:43) ทางแก้ก็คือ เลิกดื่มอย่างเด็ดขาด. นี่เป็นสิ่งที่สตรีผู้หนึ่งตั้งใจมุ่งมั่นจะทำ. เธอเล่าว่า “หลังจากไม่แตะต้องแอลกอฮอล์ได้เกือบสองปีครึ่ง ฉันเริ่มคิดว่าดื่มสักแก้วหนึ่งคงจะไม่เป็นไร ก็แค่อยากจะลองดูว่าพอจะดื่มได้แค่ไหน. แต่ทันทีที่ฉันรู้สึกเช่นนั้น ฉันก็รีบทูลเรื่องนั้นกับพระยะโฮวาในคำอธิษฐาน. ฉันตั้งใจว่าจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์อีกเลยจนกว่าระบบใหม่จะมา หรืออาจถึงกับตลอดไปด้วยซ้ำ.” การเลิกดื่มอย่างสิ้นเชิงเป็นการเสียสละที่ไม่มากเกินไปแต่อย่างใดเพื่อแลกกับชีวิตในโลกใหม่อันชอบธรรมของพระเจ้า.—2 เปโตร 3:13.
ที่พยายามแก้ไขแล้ว? ถ้าอย่างนั้น คุณคงต้องทำตามคำแนะนำของพระเยซูที่ว่า “ถ้ามือของท่านทำให้หลงผิด จงตัดทิ้งเสีย ที่จะเข้าในชีวิตมือด้วนดีกว่ามีมือสองมือและต้องถูกทิ้งในนรกในไฟที่ไม่รู้ดับ [“เกเฮนนา,” ล.ม.].” (“จงวิ่งอย่างที่จะได้รางวัลนั้น”
21, 22. อะไรอาจกีดขวางเราไม่ให้ไปถึงเส้นชัยในการวิ่งแข่งบนเส้นทางสู่ชีวิต และเราจะเลี่ยงสิ่งกีดขวางนั้นได้อย่างไร?
21 โดยเปรียบแนวทางชีวิตคริสเตียนกับการวิ่งแข่ง หรือการแข่งขันเอารางวัล อัครสาวกเปาโลกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายรู้มิใช่หรือว่าในการวิ่งแข่งนั้น นักวิ่งต่างก็วิ่งกันทุกคน แต่มีเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัล? จงวิ่งอย่างที่จะได้รางวัลนั้น. ยิ่งกว่านั้น ทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันก็ควบคุมตนเองในทุกสิ่ง. แน่นอน พวกเขาทำเช่นนั้นเพื่อจะได้มงกุฎที่ร่วงโรย แต่เราจะได้มงกุฎที่ไม่ร่วงโรย. ฉะนั้น การวิ่งของข้าพเจ้าไม่ใช่ไร้จุดหมาย การชกของข้าพเจ้าไม่ใช่เพื่อชกลม แต่ข้าพเจ้าทุบตีร่างกายของข้าพเจ้า และจูงมันเยี่ยงทาส เพื่อว่าหลังจากข้าพเจ้าได้ประกาศแก่คนอื่นแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองจะไม่กลายเป็นคนที่ไม่เป็นที่พอพระทัยในทางใดทางหนึ่ง.”—1 โกรินโธ 9:24-27, ล.ม.
22 รางวัลจะมอบแก่นักวิ่งที่ถึงเส้นชัยเท่านั้น. ในการวิ่งบนเส้นทางสู่ชีวิต การดื่มแอลกอฮอล์เกินควรอาจทำให้เราวิ่งไปไม่ถึงเส้นชัย. เราจำต้องควบคุมตนเอง. เพื่อให้การวิ่งไม่ไร้จุดหมาย เราต้องไม่ “ดื่มเหล้าองุ่นมากเกินไป.” (1 เปโตร 4:3, ล.ม.) ตรงกันข้าม เราต้องควบคุมตนเองในทุกสิ่ง. ในเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นับว่าเป็นแนวทางแห่งสติปัญญาที่เราจะ “ละทิ้งความอธรรมและความปรารถนาทางโลกและให้ดำเนินชีวิตโดยมีสุขภาพจิตดี มีความชอบธรรมและความเลื่อมใสในพระเจ้าในระบบปัจจุบันนี้.”—ติโต 2:12, ล.ม.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 2 “แอลกอฮอล์” ที่กล่าวถึงในบทความนี้ หมายรวมถึงเบียร์, ไวน์, และเหล้ากลั่นประเภทต่าง ๆ.
คุณจำได้ไหม?
• การดื่มแอลกอฮอล์เกินควรนั้นคืออย่างไร?
• มีผลเสียหายอะไรบ้างที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป?
• คุณจะหลีกเลี่ยงผลเสียหายจากการดื่มแอลกอฮอล์เกินควรได้อย่างไร?
• คนเราจะจัดการกับปัญหาเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์เกินควรได้อย่างไร?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 19]
เหล้าองุ่น ‘ทำให้ใจมนุษย์ยินดี’
[ภาพหน้า 20]
เราต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเองและไม่ล้ำขีดนั้นไป
[ภาพหน้า 21]
กำหนดปริมาณที่พอเหมาะไว้ล่วงหน้า
[ภาพหน้า 22]
หมั่นอธิษฐานถึงพระยะโฮวาในเรื่องข้ออ่อนแอของคุณ
[ภาพหน้า 23]
บิดามารดามีหน้าที่รับผิดชอบสั่งสอนบุตรเกี่ยวกับการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์