ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เราเรียนรู้ที่จะไว้วางใจพระยะโฮวาเต็มที่

เราเรียนรู้ที่จะไว้วางใจพระยะโฮวาเต็มที่

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

เรา​เรียน​รู้​ที่​จะ​ไว้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา​เต็ม​ที่

เล่า​โดย​นาทาลี ฮอลทอร์ฟ

วัน​หนึ่ง​ใน​เดือน​มิถุนายน 1945 ชาย​หน้า​ตา​ซีด​เซียว​ได้​ปรากฏ​ตัว​ที่​บ้าน​ของ​เรา​และ​ทน​ยืน​รอ​อยู่​ที่​ประตู​หน้า​บ้าน. ด้วย​ความ​ตระหนก รูท​ลูก​สาว​คน​เล็ก​ตะโกน​เรียก “แม่​จ๋า ใคร​ก็​ไม่​รู้​ยืน​อยู่​ที่​ประตู​แน่ะ!” เธอ​ไม่​รู้​หรอก​ว่า​ชาย​แปลก​หน้า ที่​แท้​ก็​คือ​พ่อ​ของ​เธอ​นั่น​เองเฟอร์ดินันด์​สามี​ที่​รัก​ของ​ฉัน. สอง​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น หลัง​รูท​เกิด​เพียง​สาม​วัน เฟอร์ดินันด์​ออก​จาก​บ้าน​ไป​แล้ว​ถูก​จับ สุด​ท้าย​ถูก​คุม​ขัง​ใน​ค่าย​กัก​กัน​ของ​นาซี. แต่​ใน​ที่​สุด ตอน​นี้​รูท​ก็​ได้​เห็น​หน้า​พ่อ และ​เรา​มา​อยู่​ร่วม​กัน​เป็น​ครอบครัว​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. ฉัน​กับ​เฟอร์ดินันด์​ต่าง​ก็​มี​เรื่อง​มาก​มาย​ที่​จะ​คุย​กัน!

เฟอร์ดินันด์​เกิด​ปี 1909 ที่​เมือง​คีล ประเทศ​เยอรมนี ส่วน​ฉัน​เกิด​ปี 1907 ที่​เมือง​เดรสเดิน​ใน​เยอรมนี​เช่น​กัน. ตอน​อายุ 12 ปี ครอบครัว​ของ​เรา​มา​รู้​จัก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ครั้ง​แรก สมัย​นั้น​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. พอ​อายุ 19 ปี ฉัน​ก็​ถอน​ตัว​จาก​คริสตจักร​อิแวนเจลิคัล​และ​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระ​ยะโฮวา.

ใน​ระหว่าง​นั้น เฟอร์ดินันด์​จบ​โรง​เรียน​การ​เดิน​เรือ​แล้ว​ไป​เป็น​กะลาสี. ระหว่าง​การ​เดิน​เรือ เขา​ครุ่น​คิด​หนัก​ใน​เรื่อง​ความ​เป็น​อยู่​ของ​พระ​ผู้​สร้าง. ครั้น​กลับ​ขึ้น​ฝั่ง​แล้ว เฟอร์ดินันด์​แวะ​เยี่ยม​พี่​ชาย ซึ่ง​เป็น​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. การ​เยี่ยม​ครั้ง​นั้น​ก็​เพียง​พอ​แล้ว​ที่​จะ​ช่วย​เขา​มอง​เห็น​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ตอบ​คำ​ถาม​ต่าง ๆ ซึ่ง​รบกวน​ใจ​เขา. เขา​ลา​ออก​จาก​คริสตจักร​ลูเทอรัน และ​ตัดสิน​ใจ​ไม่​ทำ​งาน​เป็น​ลูกเรือ​อีก​ต่อ​ไป. หลัง​จาก​ออก​ไป​ประกาศ​เผยแพร่​วัน​แรก เขา​รู้​ตัว​ว่า​เขา​ปรารถนา​อย่าง​แรง​กล้า​จะ​ทำ​งาน​นี้​ตราบ​เท่า​วัน​ตาย. คืน​นั้น​เอง เฟอร์ดินันด์​ได้​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา. เขา​รับ​บัพติสมา​เดือน​สิงหาคม ปี 1931.

เป็น​ทั้ง​นาย​เรือ​และ​ผู้​เผยแพร่

เดือน​พฤศจิกายน 1931 เฟอร์ดินันด์​ขึ้น​รถไฟ​ไป​ช่วย​งาน​เผยแพร่​ที่​ประเทศ​เนเธอร์แลนด์. เมื่อ​เฟอร์ดินันด์​ได้​แจ้ง​แก่​บราเดอร์​ผู้​จัด​ระเบียบ​งาน​ประกาศ​ใน​ประเทศ​ว่า​เขา​เป็น​ลูกเรือ​มา​ก่อน บราเดอร์​คน​นั้น​ร้อง​ขึ้น​ว่า “คุณ​เป็น​คน​ที่​เรา​ต้องการ​อยู่​พอ​ดี!” พวก​พี่​น้อง​ได้​เช่า​เรือ​ลำ​หนึ่ง​สำหรับ​กลุ่ม​ไพโอเนียร์ (ผู้​เผยแพร่​ประเภท​เต็ม​เวลา) ใช้​ใน​งาน​ประกาศ​แก่​ผู้​คน​ที่​อาศัย​บน​ฝั่ง​แม่น้ำ​ทาง​ตอน​เหนือ​ของ​ประเทศ. มี​ลูกเรือ​รวม​ห้า​คน แต่​ไม่​มี​สัก​คน​ขับ​เรือ​ได้. ดัง​นั้น เฟอร์ดินันด์​จึง​กลาย​มา​เป็น​กัปตัน​เรือ​ลำ​เล็ก ๆ.

หก​เดือน​ต่อ​มา เฟอร์ดินันด์​ได้​รับ​การ​เชิญ​ชวน​ให้​รับใช้​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ที่​เมือง​ทิลเบิร์ก เนเธอร์แลนด์​ทาง​ใต้. ประมาณ​ช่วง​นั้น ฉัน​ก็​มา​ถึง​ทิลเบิร์ก​เพื่อ​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​เช่น​เดียว​กัน และ​ได้​พบ​เฟอร์ดินันด์. แต่​เรา​ได้​รับ​แจ้ง​ทันที​ให้​ย้าย​ไป​เมือง​โกรนิงเกน ทาง​เหนือ​ของ​ประเทศ. เรา​แต่งงาน​กัน​ที่​นั่น​ใน​เดือน​ตุลาคม 1932 และ​เรา​ดื่ม​น้ำ​ผึ้ง​พระ​จันทร์​ใน​บ้าน​ซึ่ง​ไพโอเนียร์​หลาย​คน​พัก​อาศัย​อยู่ เวลา​เดียว​กัน​ก็​ทำ​งาน​ไพโอเนียร์​ไป​ด้วย!

ปี 1935 เรา​ได้​ลูก​สาว​ชื่อ​เอสเทอร์. ถึง​แม้​ราย​ได้​ของ​เรา​น้อย แต่​เรา​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​เป็น​ไพโอเนียร์​ต่อ​ไป. เรา​ย้าย​ไป​อยู่​ใน​ชนบท อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​เล็ก ๆ. ขณะ​ฉัน​อยู่​บ้าน​เลี้ยง​ลูก สามี​ออก​ไป​ใน​งาน​เผยแพร่​ทั้ง​วัน. วัน​ถัด​ไป เรา​สลับ​กัน ฉัน​ออก​ไป​ทำ​งาน สามี​อยู่​บ้าน​เลี้ยง​ลูก​แทน. เป็น​อย่าง​นี้​จน​กระทั่ง​เอสเทอร์​โต​พอ​จะ​ออก​ไป​ใน​งาน​ประกาศ​กับ​เรา​ได้.

จาก​นั้น​ไม่​นาน สถานการณ์​ทาง​การ​เมือง​ใน​ยุโรป​เริ่ม​ส่อ​เค้า​น่า​กลัว. เรา​รู้​มา​ว่า​เหล่า​พยาน​ฯ ใน​ประเทศ​เยอรมนี​ถูก​กดขี่​ข่มเหง และ​ตระหนัก​ดี​ว่า​ไม่​นาน​เรา​ก็​คง​ต้อง​เผชิญ​แบบ​เดียว​กัน. เรา​สงสัย​เหมือน​กัน​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ถ้า​เกิด​การ​ข่มเหง​อย่าง​รุนแรง. ปี 1938 เจ้าหน้าที่​ฝ่าย​ปกครอง​ใน​เนเธอร์แลนด์​ได้​บัญญัติ​กฎหมาย​ห้าม​คน​ต่าง​ด้าว​ประกาศ​เผยแพร่​หรือ​แจก​สิ่ง​พิมพ์​ทาง​ศาสนา. เพื่อ​สนับสนุน​เรา​ให้​รับใช้​ต่อ​ไป เหล่า​พยาน​ฯ ชาว​ดัตช์​ได้​มอบ​ราย​ชื่อ​บุคคล​ที่​แสดง​ความ​สนใจ​งาน​ของ​เรา. ดัง​นั้น เรา​จึง​สามารถ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​บาง​คน​ได้.

ประมาณ​เวลา​นั้น มี​การ​กำหนดการ​ประชุม​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. แม้​เรา​ไม่​มี​เงิน​ซื้อ​ตั๋ว​รถไฟ แต่​ปรารถนา​จะ​ไป​ที่​นั่น​ให้​ได้. ดัง​นั้น เรา​เริ่ม​เดิน​ทาง​ระยะ​สาม​วัน​ด้วย​การ​ถีบ​รถ​จักรยาน เอสเทอร์​ตัว​น้อย​นั่ง​เบาะ​หน้า​ที่​ยึด​ติด​กับ​มือ​จับ. ตก​ค่ำ เรา​แวะ​พัก​ใน​บ้าน​พยาน​ฯ ซึ่ง​อยู่​ตาม​ราย​ทาง. เรา​ปีติ​ยินดี​เพียง​ใด​เมื่อ​ได้​มา​อยู่ ณ การ​ประชุม​ใหญ่​ระดับ​ชาติ​เป็น​ครั้ง​แรก! ระเบียบ​วาระ​การ​ประชุม​เสริม​กำลัง​เรา​สำหรับ​การ​ทดลอง​ใน​วัน​ข้าง​หน้า. ยิ่ง​กว่า​อะไร​ทั้ง​สิ้น เรา​ได้​รับ​การ​เตือน​ให้​ไว้​วางใจ​พระเจ้า. ถ้อย​คำ​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ 31:6 ที่​ว่า “ส่วน​ข้าพเจ้า​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา” จึง​กลาย​เป็น​คติ​ประจำ​ใจ​ของ​เรา.

พวก​นาซี​ตาม​ล่า

เดือน​พฤษภาคม 1940 พวก​นาซี​รุก​เข้า​ไป​ใน​ประเทศ​เนเธอร์แลนด์. ต่อ​จาก​นั้น​ไม่​นาน หน่วย​เกสตาโป​หรือ​ตำรวจ​ลับ​มา​ที่​บ้าน​เรา​โดย​ไม่​ทัน​รู้​ตัว ขณะ​ที่​เรา​กำลัง​แยก​คัด​สิ่ง​พิมพ์​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล. เฟอร์ดินันด์​ถูก​รวบ​ตัว​ส่ง​ให้​กอง​บัญชา​การ​เกสตาโป. ฉัน​กับ​เอสเทอร์​ไป​เยี่ยม​เขา​สม่ำเสมอ และ​บาง​ครั้ง​เขา​ถูก​สอบ​ปากคำ​และ​ถูก​ตี​ต่อ​หน้า​เรา. เดือน​ธันวาคม จู่ ๆ เขา​ก็​ปล่อย​ตัว​เฟอร์ดินันด์ แต่​เขา​ได้​อิสรภาพ​เพียง​ช่วง​สั้น ๆ. เย็น​วัน​หนึ่ง​ขณะ​เดิน​กลับ​บ้าน เรา​เหลือบ​ไป​เห็น​รถ​ตำรวจ​ลับ​จอด​ใกล้​บ้าน. เฟอร์ดินันด์​หลบ​หนี​ไป​ได้​ระหว่าง​ที่​ฉัน​กับ​เอสเทอร์​เดิน​เข้า​บ้าน. ตำรวจ​ลับ​คอย​ดัก​เรา​อยู่. เขา​ต้องการ​ตัว​เฟอร์ดินันด์. คืน​นั้น​หลัง​จาก​พวก​เกสตาโป​กลับ​กัน​หมด​แล้ว ตำรวจ​ดัตช์​เข้า​มา​คุม​ตัว​ฉัน​ไป​ซัก​ถาม. วัน​รุ่ง​ขึ้น ฉัน​พา​เอสเทอร์​เข้า​ไป​หลบ​ซ่อน​ใน​บ้าน​ของ​ครอบครัว​นอร์​เดอร์ สอง​สามี​ภรรยา​พยาน​ฯ ซึ่ง​เพิ่ง​รับ​บัพติสมา​ได้​ไม่​นาน พวก​เขา​จัด​เตรียม​ที่​พัก​ให้​เป็น​ที่​หลบ​ภัย.

ปลาย​เดือน​มกราคม 1941 สามี​ภรรยา​ไพโอเนียร์​คู่​หนึ่ง​ถูก​จับ​ใน​เรือ​ซึ่ง​ดัด​แปลง​เป็น​บ้าน. วัน​รุ่ง​ขึ้น ผู้​ดู​แล​หมวด (ผู้​รับใช้​ที่​เดิน​ทาง​เยี่ยม) และ​สามี​ของ​ฉัน​ขึ้น​ไป​บน​เรือ​เพื่อ​เก็บ​สิ่ง​ของ​เครื่อง​ใช้​บาง​อย่าง​ของ​คน​ทั้ง​สอง แต่​ผู้​ร่วม​มือ​กับ​ตำรวจ​ลับ​เข้า​ตะครุบ​ตัว​พวก​เขา. เฟอร์ดินันด์​หลุด​ไป​ได้​แล้ว​ปั่น​รถ​จักรยาน​หนี​การ​จับ​กุม. ส่วน​ผู้​ดู​แล​หมวด​ถูก​จับ​เข้า​ห้อง​ขัง.

พี่​น้อง​ชาย​ที่​รับผิดชอบ​ดู​แล​งาน​ได้​ขอ​ให้​เฟอร์ดินันด์​ทำ​หน้า​ที่​แทน​ผู้​ดู​แล​หมวด. นั่น​หมาย​ความ​ว่า​ใน​เดือน​หนึ่ง ๆ เขา​กลับ​บ้าน​ได้​ไม่​เกิน​สาม​วัน. นี่​เป็น​ความ​ยาก​ลำบาก​ครั้ง​ใหม่​สำหรับ​เรา แต่​ฉัน​ยัง​คง​ทำ​งาน​เป็น​ไพโอเนียร์​อยู่​ต่อ​ไป. การ​ค้น​หา​ของ​พวก​ตำรวจ​ลับ​เพื่อ​จับ​กุม​เหล่า​พยาน​ฯ ยิ่ง​หนัก​ข้อ​มาก​ขึ้น จน​เรา​ต้อง​ย้าย​ที่​อยู่​บ่อย ๆ. ปี 1942 เรา​ย้าย​บ้าน​ถึง​สาม​ครั้ง. ใน​ที่​สุด เรา​ย้าย​มา​ที่​เมือง​รอตเทอร์ดัม ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ไกล​จาก​พื้น​ที่​ที่​เฟอร์ดินันด์​ทำ​งาน​รับใช้​อย่าง​ลับ ๆ. ตอน​นั้น ฉัน​ตั้ง​ครรภ์​ลูก​คน​ที่​สอง. ครอบครัว​แคมป์ ซึ่ง​ลูก​ชาย​สอง​คน​ของ​เขา​เพิ่ง​ถูก​จับ​ส่ง​ค่าย​กัก​กัน ได้​แสดง​ความ​กรุณา​ต้อนรับ​เรา​ให้​พักพิง​ใน​บ้าน​ของ​เขา.

เกสตาโป​สะกด​รอย​ตาม​อย่าง​ไม่​ละลด

รูท ลูก​คน​ที่​สอง​ของ​เรา​เกิด​เดือน​กรกฎาคม 1943. หลัง​จาก​รูท​เกิด เฟอร์ดินันด์​มี​โอกาส​อยู่​กับ​เรา​เพียง​สาม​วัน แต่​แล้ว​ก็​ต้อง​จาก​ไป และ​นั่น​เป็น​ครั้ง​สุด​ท้าย​ที่​เรา​อยู่​ด้วย​กัน​นาน. ประมาณ​สาม​สัปดาห์​ต่อ​มา เฟอร์ดินันด์​ถูก​จับ​ใน​กรุง​อัมสเตอร์ดัม. เขา​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ยัง​สถานี​ตำรวจ​ลับ ซึ่ง​มี​การ​พิสูจน์​หลักฐาน​ว่า​เขา​เป็น​ใคร. เกสตาโป​ขู่เข็ญ​เขา​อย่าง​ดุเดือด​โดย​การ​ซักไซ้​ไล่เลียง​หวัง​จะ​ได้​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​กิจกรรม​การ​ประกาศ​ของ​เรา. แต่​สิ่ง​เดียว​ที่​เฟอร์ดินันด์​เปิด​เผย​ก็​คือ​เขา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​และ​ไม่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​กิจกรรม​ด้าน​การ​เมือง. เจ้า​พนักงาน​ตำรวจ​ลับ​โกรธ​มาก​ที่​เฟอร์ดินันด์​ถือ​สัญชาติ​เยอรมัน แต่​ไม่​ได้​รายงาน​ตัว​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​ใน​กองทัพ และ​พวก​เขา​ขู่​จะ​สำเร็จ​โทษ​ฐาน​เป็น​คน​ทรยศ​ชาติ.

เฟอร์ดินันด์​ติด​คุก​อยู่​นาน​ห้า​เดือน เขา​อด​ทน​การ​ข่มขู่​ที่​ว่า​เขา​จะ​ถูก​ยิง​เป้า. กระนั้น ความ​ภักดี​ของ​เขา​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​สั่น​คลอน. สิ่ง​ที่​ช่วย​เขา​เข้มแข็ง​มั่นคง​ฝ่าย​วิญญาณ​คือ​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. แน่​ละ เนื่อง​จาก​เฟอร์ดินันด์​เป็น​พยาน​ฯ จึง​ไม่​อนุญาต​ให้​เขา​มี​พระ​คัมภีร์. อย่าง​ไร​ก็​ดี นัก​โทษ​คน​อื่น​อาจ​ขอ​ได้​เล่ม​หนึ่ง. ดัง​นั้น เฟอร์ดินันด์​จึง​ขอร้อง​นัก​โทษ​ร่วม​ห้อง​ขัง​ติด​ต่อ​ครอบครัว​ของ​เขา​ส่ง​พระ​คัมภีร์​มา​ให้ ชาย​คน​นั้น​ทำ​ตาม​คำ​ขอร้อง. หลาย​ปี​ต่อ​มา เฟอร์ดินันด์​พูด​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ที​ไร ตา​ของ​เขา​เป็น​ประกาย​และ​พูด​ด้วย​ความ​รู้สึก​ว่า “พระ​คัมภีร์​เล่ม​นั้น​ให้​การ​ปลอบ​ประโลม​ผม​เสีย​จริง ๆ!”

ช่วง​ต้น​เดือน​มกราคม ปี 1944 จู่ ๆ ก็​มี​การ​พา​ตัว​เฟอร์ดินันด์​ไป​ที่​ค่าย​กัก​กัน​วึคท์​ใน​ประเทศ​เนเธอร์แลนด์. การ​ย้าย​ครั้ง​นี้​เป็น​พระ​พร​สำหรับ​เขา​อย่าง​ไม่​คาด​ฝัน เพราะ​ที่​นั่น เขา​ได้​พบ​ปะ​พยาน​ฯ ถึง 46 คน. เมื่อ​ฉัน​รู้​ที่​อยู่​ใหม่​ของ​เขา ฉัน​ดีใจ​มาก​ที่​รู้​ว่า​เขา​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่!

ประกาศ​ใน​ค่าย​กัก​กัน​โดย​ไม่​ย่อหย่อน

ชีวิต​ภาย​ใน​ค่าย​กัก​กัน​นั้น​แสน​ลำเค็ญ. เกิด​ภาวะ​ทุโภชนาการ​อย่าง​รุนแรง, การ​ขาด​แคลน​เครื่อง​นุ่ง​ห่ม​กัน​หนาว, และ​อากาศ​หนาว​จัด​เป็น​สิ่ง​ปกติ. เฟอร์ดินันด์​ถึง​กับ​ป่วย​เป็น​โรค​ต่อม​ทอนซิล​อักเสบ. ภาย​หลัง​การ​เข้า​แถว​เรียก​ชื่อ​ซึ่ง​ใช้​เวลา​นาน​มาก​ท่ามกลาง​อากาศ​หนาว​จัด เขา​ได้​ไป​สถาน​พยาบาล. ผู้​ป่วย​ไข้​สูง 40 องศา​หรือ​สูง​กว่า​นั้น​ถึง​จะ​อนุญาต​ให้​พัก​รักษา​ตัว. แต่​ไม่​อนุญาต​เฟอร์ดินันด์ เพราะ​อุณหภูมิ​ร่าง​กาย​เขา​อยู่​ใน​ระดับ 39 องศา​เซลเซียส! เขา​จึง​ต้อง​กลับ​ไป​ทำ​งาน​ตาม​คำ​สั่ง. แต่​เพื่อน​นัก​โทษ​ที่​เห็น​อก​เห็น​ใจ​ให้​การ​ช่วยเหลือ​โดย​ให้​เขา​แอบ​เข้า​อยู่​ใน​ที่​กำบัง​อัน​อบอุ่น​เป็น​ช่วง ๆ. อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ช่วย​บรรเทา​ได้​ก็​คือ​อากาศ​อบอุ่น​ขึ้น. นอก​จาก​นั้น เมื่อ​พี่​น้อง​บาง​คน​ได้​รับ​กล่อง​อาหาร​ที่​ส่ง​มา​ให้ พวก​เขา​ก็​ได้​เอา​มา​แบ่ง​กัน นั่น​ช่วย​ให้​เฟอร์ดินันด์​ค่อย​มี​เรี่ยว​แรง​ขึ้น​มา​บ้าง.

ก่อน​สามี​ฉัน​ถูก​กัก​ขัง งาน​ประกาศ​เผยแพร่​เป็น​แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​เขา และ​เมื่อ​อยู่​ใน​ค่าย​เขา​ยัง​คง​บอก​เล่า​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​แก่​คน​อื่น. เจ้าหน้าที่​ประจำ​ค่าย​มัก​จะ​พูด​เยาะเย้ย​เขา​ที่​ติด​เครื่องหมาย​สาม​เหลี่ยม​สี​ม่วง​ระบุ​ตัว​นัก​โทษ​ที่​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. แต่​เฟอร์ดินันด์​ถือ​เอา​คำ​เยาะ​เป็น​โอกาส​เริ่ม​การ​สนทนา​กับ​พวก​เขา. ตอน​แรก เขต​งาน​ประกาศ​ของ​พวก​พี่​น้อง​ถูก​จำกัด​อยู่​ใน​เพิง​พัก ซึ่ง​ส่วน​ใหญ่​ใช้​เป็น​ที่​อาศัย​สำหรับ​เหล่า​พยาน​ฯ. พวก​พี่​น้อง​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘เรา​จะ​ไป​ประกาศ​แก่​พวก​นัก​โทษ​ให้​มาก​กว่า​นี้​ได้​อย่าง​ไร?’ ฝ่าย​บริหาร​ค่าย​แก้​ปัญหา​นี้​ให้​โดย​ไม่​ได้​ตั้งใจ. โดย​วิธี​ใด?

พี่​น้อง​ใน​ค่าย​มี​หนังสือ​เกี่ยว​กับ​พระ​คัมภีร์​อยู่​บ้าง​ที่​แอบ​ซ่อน​ไว้ แถม​ยัง​มี​พระ​คัมภีร์​อีก 12 เล่ม. อยู่​มา​วัน​หนึ่ง ยาม​รักษา​การณ์​ได้​ค้น​พบ​หนังสือ​บาง​เล่ม แต่​ไม่​รู้​ว่า​เป็น​ของ​ผู้​ใด. ดัง​นั้น เจ้าหน้าที่​ค่าย​จึง​ตัดสิน​ใจ​จะ​ทำลาย​ความ​เป็น​ปึก​แผ่น​ของ​พยาน​ฯ. ด้วย​เหตุ​นี้ จึง​ได้​ลง​โทษ​พี่​น้อง​ทั้ง​หมด​โดย​ให้​ย้าย​ไป​อยู่​ตาม​เพิง​พัก​ต่าง ๆ ที่​ไม่​มี​นัก​โทษ​พยาน​ฯ เลย. ยิ่ง​กว่า​นั้น เวลา​รับประทาน​อาหาร เขา​จัด​ให้​พี่​น้อง​นั่ง​ติด​กับ​คน​ที่​ไม่​ใช่​พยาน​ฯ. วิธี​การ​นี้​ปรากฏ​ว่า​เป็น​คุณประโยชน์. ถึง​ตอน​นี้ พวก​พี่​น้อง​สามารถ​ทำ​สิ่ง​ที่​ตน​อยาก​ทำ​ตั้ง​แต่​แรก คือ​ให้​คำ​พยาน​แก่​นัก​โทษ​หลาย​คน​ให้​มาก​เท่า​ที่​ทำ​ได้.

ตัว​คน​เดียว​เลี้ยง​ลูก​สาว​สอง​คน

ระหว่าง​นั้น ฉัน​กับ​ลูก​สาว​สอง​คน​ยัง​อยู่​ใน​เมือง​รอตเทอร์ดัม. ฤดู​หนาว​ของ​ปี 1943/1944 นั้น​หนาว​ทารุณ​ผิด​ธรรมดา. หลัง​บ้าน​เป็น​กอง​ทหาร​ปืน​ใหญ่​ต่อ​สู้​อากาศยาน​ของ​ทหาร​เยอรมัน. มอง​ไป​ข้าง​หน้า​คือ​ท่า​เรือ​ปาก​แม่น้ำ​วาล เป็น​เป้า​สำคัญ​ที่​ฝ่าย​พันธมิตร​จะ​ทิ้ง​ระเบิด. ที่​นี่​จึง​ไม่​ใช่​แหล่ง​หลบ​ซ่อน​ที่​ปลอด​ภัย​ที่​สุด. ยิ่ง​กว่า​นั้น ยัง​ขาด​แคลน​อาหาร​อีก​ด้วย. ไม่​เคย​มี​ครั้ง​ใด​ที่​เรา​ได้​เรียน​รู้​การ​ไว้​วางใจ​พระเจ้า​ด้วย​สิ้น​สุด​หัวใจ​มาก​เท่า​คราว​นี้.—สุภาษิต 3:5, 6.

เอสเทอร์​วัย​แปด​ขวบ​ได้​ช่วย​ครอบครัว​เล็ก ๆ ของ​เรา​โดย​ไป​ยืน​เข้า​คิว​ที่​โรง​ให้​ทาน​ข้าว​ต้ม. แต่​หลาย​ครั้ง​เมื่อ​ถึง​คิว​ของ​เธอ​ก็​ปรากฏ​ว่า​อาหาร​หมด​เสีย​แล้ว. มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง​ระหว่าง​ทาง​ไป​รับ​อาหาร เป็น​เวลา​ที่​เกิด​การ​โจมตี​ทาง​อากาศ. ฉัน​ตกใจ​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​เมื่อ​ได้​ยิน​เสียง​ระเบิด แต่​ไม่​นาน ความ​วิตก​กังวล​ของ​ฉัน​ก็​กลับ​กลาย​เป็น​ดีใจ​จน​น้ำตา​ไหล​เมื่อ​ลูก​กลับ​บ้าน​โดย​ไม่​ได้​รับ​อันตราย แถม​ยัง​ได้​หัว​ผักกาด​ติด​มือ​มา​บ้าง. คำ​พูด​แรก​ที่​ออก​จาก​ปาก​ฉัน “เกิด​อะไร​ขึ้น​ลูก?” เธอ​ตอบ​เรียบ ๆ ว่า “เมื่อ​เครื่องบิน​ทิ้ง​ระเบิด​ลง​มา หนู​ทำ​อย่าง​ที่​พ่อ​สั่ง​ไว้​ว่า ‘ล้ม​ลง​นอน​ราบ​กับ​ดิน อยู่​ใน​ท่า​นั้น​และ​อธิษฐาน.’ และ​ได้​ผล​ที​เดียว!”

เนื่อง​จาก​ฉัน​ยัง​พูด​สำเนียง​เยอรมัน การ​ให้​เอสเทอร์​ไป​ซื้อ​ของ​เล็ก ๆ น้อย ๆ ดู​จะ​ปลอด​ภัย​กว่า. ทั้ง​นี้​ไม่​ได้​พ้น​สายตา​ทหาร​เยอรมัน​ที่​คอย​จ้อง​จับ เขา​เริ่ม​ซัก​ถาม​เอสเทอร์. แต่​เธอ​ไม่​ยอม​เผย​ความ​ลับ. ที่​บ้าน ฉัน​สอน​เอสเทอร์​ให้​เรียน​รู้​คัมภีร์​ไบเบิล และ​เนื่อง​จาก​เธอ​เข้า​โรง​เรียน​ไม่​ได้ ฉัน​จึง​สอน​เธอ​อ่าน, เขียน, และ​ฝึก​ทักษะ​อื่น ๆ อีก​หลาย​ด้าน.

เอสเทอร์​ยัง​ได้​ช่วย​ฉัน​ใน​งาน​รับใช้​ด้วย. ก่อน​ฉัน​ออก​บ้าน​ไป​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​บาง​คน เอสเทอร์​จะ​ล่วง​หน้า​ไป​ก่อน​เพื่อ​ดู​ว่า​มี​ใคร​เฝ้า​สังเกต​เรา​อยู่​หรือ​ไม่. แล้ว​เธอ​ก็​จะ​กลับ​มา​ยืน​ยัน​ถ้า​เห็น​สัญญาณ​ตาม​ที่​ฉัน​ตก​ลง​ไว้​กับ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. ตัว​อย่าง​เช่น คน​ที่​ฉัน​ไป​นำ​การ​ศึกษา​จะ​ตั้ง​กระถาง​ต้น​ไม้​ไว้​ตรง​หน้าต่าง​เพื่อ​ให้​รู้​ว่า​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ได้. ระหว่าง​ที่​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ดำเนิน​อยู่ เอสเทอร์​ก็​อยู่​ข้าง​นอก​คอย​สังเกต​สัญญาณ​อันตราย ขณะ​เดียว​กัน​ก็​ไส​รถ​เข็น​ที่​รูท​น้อง​คน​เล็ก​นั่ง​ไป​มา​ริม​ถนน.

ส่ง​เข้า​ค่าย​ซัคเซนเฮาเซน

เฟอร์ดินันด์​มี​สภาพ​ความ​เป็น​อยู่​อย่าง​ไร? ใน​เดือน​กันยายน 1944 เขา​พร้อม​กับ​หลาย​คน​ถูก​บังคับ​ให้​ไป​ที่​สถานี​รถไฟ ที่​นั่น​หมู่​นัก​โทษ​ราว 80 คน​เบียด​เสียด​กัน​อยู่​ใน​ตู้​รถ​สินค้า. แต่​ละ​ตู้​มี​ถัง​ใบ​หนึ่ง​ใช้​เป็น​ที่​ขับ​ถ่าย และ​อีก​ใบ​หนึ่ง​สำหรับ​น้ำ​ดื่ม. ระยะ​การ​เดิน​ทาง​สาม​วัน​สาม​คืน แถม​คน​อัด​กัน​แน่น​จน​ต้อง​ยืน​ตลอด​ทาง! แทบ​ไม่​มี​การ​ถ่าย​เท​อากาศ. ตู้​รถไฟ​ปิด​ทึบ มี​เพียง​ไม่​กี่​รู​พอ​ให้​สายตา​มอง​ลอด​ออก​ไป​เท่า​นั้น. พวก​เขา​ต้อง​ทน​ความ​ร้อน​อบอ้าว, ทน​หิว, กระหาย​น้ำ, และ​กลิ่น​เหม็น​คลุ้ง​อีก สุด​พรรณนา.

รถไฟ​ค่อย ๆ ผ่อน​ฝี​จักร แล้ว​จอด​นิ่ง​ที่​ค่าย​กัก​กัน​ซัคเซนเฮาเซน​ซึ่ง​ฉาวโฉ่​ใน​เรื่อง​ความ​โหด​ร้าย​ทารุณ. ข้าวของ​ที่​นัก​โทษ​มี​ติด​ตัว​ก็​ถูก​ยึด​ไว้​หมด ยก​เว้น​พระ​คัมภีร์​เล็ก ๆ 12 เล่ม​ที่​พยาน​ฯ นำ​ติด​ตัว​มา​ด้วย!

เฟอร์ดินันด์​และ​พี่​น้อง​อีก​แปด​คน​ถูก​ส่ง​ไป​ยัง​ค่าย​บริวาร​ใน​เมือง​ราทีนอว์ ให้​ทำ​งาน​ผลิต​เครื่อง​มือ​สำหรับ​ใช้​ใน​สงคราม. ถึง​แม้​พวก​เขา​ถูก​ข่มขู่​บ่อย ๆ ว่า​จะ​ต้อง​โทษ​ถึง​ขั้น​ประหาร พี่​น้อง​เหล่า​นั้น​ก็​ยัง​คง​ปฏิเสธ​จะ​ทำ​งาน​ประเภท​นั้น. เพื่อ​ชู​กำลัง​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ให้​ยืนหยัด​มั่นคง ใน​ตอน​เช้า​พวก​เขา​จะ​ยก​ข้อ​คัมภีร์ เช่น บทเพลง​สรรเสริญ 18:2 ขึ้น​มา​พูด เพื่อ​ว่า​จะ​คิด​รำพึง​ข้อ​นั้น​ตลอด​ทั้ง​วัน. การ​ทำ​เช่น​นี้​ช่วย​เขา​คิด​รำพึง​เรื่อง​ฝ่าย​วิญญาณ.

ใน​ที่​สุด เสียง​ปืน​กระหึ่ม​ก้อง​จาก​กอง​ทหาร​ปืน​ใหญ่​บ่ง​บอก​ว่า​ฝ่าย​กองทัพ​พันธมิตร​และ​กองทัพ​รัสเซีย​รุก​ใกล้​เข้า​มา. ฝ่าย​รัสเซีย​เป็น​พวก​แรก​ที่​มา​ถึง​ค่าย​ที่​เฟอร์ดินันด์​อยู่​กับ​กลุ่ม​เพื่อน. พวก​ทหาร​แจก​อาหาร​บาง​ส่วน​แก่​นัก​โทษ​และ​สั่ง​ให้​ออก​จาก​ค่าย. พอ​สิ้น​เดือน​เมษายน 1945 กองทัพ​รัสเซีย​ก็​ปล่อย​พวก​นัก​โทษ​กลับ​บ้าน.

ใน​ที่​สุด​ได้​อยู่​ร่วม​กัน​เป็น​ครอบครัว

วัน​ที่ 15 มิถุนายน เฟอร์ดินันด์​กลับ​มา​ถึง​เนเธอร์แลนด์. พวก​พี่​น้อง​ใน​เมือง​โกรนิงเกน​ต้อนรับ​เขา​อย่าง​อบอุ่น. จาก​นั้น​ไม่​นาน​เขา​รู้​ข่าว​ว่า​เรา​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ แต่​อยู่​ที่​ไหน​สัก​แห่ง​ใน​ประเทศ​นี้ แล้ว​เรา​ก็​ได้​ข่าว​การ​กลับ​มา​ของ​เขา. การ​รอ​คอย​เขา​กลับ​บ้าน​ดู​เหมือน​เนิ่นนาน​เหลือ​เกิน. แต่​ใน​ที่​สุด วัน​หนึ่ง​ที่​ลูก​คน​เล็ก​ตะโกน​เรียก “แม่​จ๋า ใคร​ก็​ไม่​รู้​ยืน​อยู่​ที่​ประตู​แน่ะ!” นั่น​คือ​สามี​และ​พ่อ​สุด​ที่​รัก​ของ​เรา!

ก่อน​ที่​เรา​สามารถ​ดำเนิน​ชีวิต​ครอบครัว​เป็น​ปกติ​ได้ ก็​ต้อง​แก้​ปัญหา​และ​อุปสรรค​หลาย​ขั้น​ตอน. เรา​ไม่​มี​บ้าน​อยู่​อาศัย และ​ปัญหา​ใหญ่​คือ​เรา​ต้อง​ได้​สถานภาพ​กลับ​คืน​เพื่อ​จะ​มี​ถิ่น​ที่​อยู่​ถาวร​ใน​เนเธอร์แลนด์. เนื่อง​จาก​เรา​เป็น​คน​เยอรมัน เจ้าหน้าที่​ฝ่าย​ปกครอง​ได้​ปฏิบัติ​ต่อ​เรา​ประหนึ่ง​ผู้​ถูก​ขับ​ออก​จาก​ชุมชน​เป็น​เวลา​หลาย​ปี. แต่​ใน​ที่​สุด เรา​ก็​สามารถ​ตั้ง​หลัก​ปัก​ฐาน​และ​เริ่ม​เข้า​สู่​แนว​ทาง​ตาม​ที่​เรา​ใฝ่​หา​มา​นาน​แล้ว นั่น​คือ​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ร่วม​กัน​เป็น​ครอบครัว.

“ข้าพเจ้า​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา”

ระยะ​หลัง​นี้ เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​ฉัน​กับ​เฟอร์ดินันด์​มี​โอกาส​อยู่​ร่วม​กับ​เพื่อน ๆ บาง​คน​ผู้​ซึ่ง​เคย​ผ่าน​ความ​ลำบาก​ยาก​เข็ญ​สมัย​นั้น​เช่น​กัน เรา​ทบทวน​ความ​หลัง​ใน​เรื่อง​การ​นำ​ทาง​อัน​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​จาก​พระ​ยะโฮวา​ใน​ยาม​ทุกข์​ยาก​เดือดร้อน. (บทเพลง​สรรเสริญ 7:​1) เรา​ปลื้ม​ปีติ​ที่​ตลอด​หลาย​ปี​นั้น​พระ​ยะโฮวา​โปรด​ให้​เรา​มี​ส่วน​ส่ง​เสริม​ผล​ประโยชน์​แห่ง​ราชอาณาจักร. นอก​จาก​นั้น เรา​พูด​อยู่​เนือง ๆ ว่า​เรา​มี​ความ​สุข​มาก​เพียง​ใด​ที่​ได้​ใช้​พลัง​ใน​วัย​หนุ่ม​สาว​ทำ​งาน​รับใช้​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา.—ท่าน​ผู้​ประกาศ 12:1.

หลัง​จาก​หมด​ยุค​นาซี​ข่มเหง​แล้ว ฉัน​กับ​เฟอร์ดินันด์​ได้​ร่วม​กัน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อีก​กว่า 50 ปี ก่อน​เฟอร์ดินันด์​เสร็จ​สิ้น​งาน​ทาง​แผ่นดิน​โลก​เมื่อ​วัน​ที่ 20 ธันวาคม 1995. อีก​ไม่​นาน ฉัน​ก็​จะ​มี​อายุ 98 ปี. ทุก ๆ วัน​ฉัน​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ลูก​ได้​อุดหนุน​ค้ำจุน​เรา​ใน​ช่วง​เวลา​อัน​ยาก​ลำบาก และ​ฉัน​ยัง​สามารถ​ทำ​งาน​รับใช้​เท่า​ที่​ทำ​ได้ เพื่อ​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระ​นาม​ของ​พระองค์. ฉัน​รู้สึก​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​สำหรับ​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทำ​เพื่อ​ฉัน และ​ความ​ปรารถนา​อย่าง​จริง​ใจ​ของ​ฉัน​คือ​การ​ดำเนิน​ชีวิต​ให้​สม​กับ​คติ​ประจำ​ใจ​ที่​ว่า “ส่วน​ข้าพเจ้า​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา.”—บทเพลง​สรรเสริญ 31:6.

[ภาพ​หน้า 19]

กับ​เฟอร์ดินันด์ ใน​เดือน​ตุลาคม 1932

[ภาพ​หน้า 19]

เรือ​เผยแพร่​ข่าว​ดี “อัลมีนา” พร้อม​ด้วย​ลูกเรือ

[ภาพ​หน้า 22]

กับ​เฟอร์ดินันด์​และ​ลูก ๆ