ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ความจริงกำลังเกิดผลในคนที่คุณสอนไหม?

ความจริงกำลังเกิดผลในคนที่คุณสอนไหม?

ความ​จริง​กำลัง​เกิด​ผล​ใน​คน​ที่​คุณ​สอน​ไหม?

เมื่อ​เด็ก​หนุ่ม​เอริก​ประกาศ​ว่า​เขา​ไม่​ต้องการ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อีก​ต่อ​ไป บิดา​มารดา​ของ​เขา​แทบ​หัวใจ​สลาย. พวก​เขา​ไม่​เคย​สังเกต​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใน​ตัว​เอริก​เลย. เมื่อ​ตอน​เป็น​เด็ก เอริก​เข้า​ร่วม​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​ครอบครัว, เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน, และ​ออก​ประกาศ​กับ​พี่​น้อง​ใน​ประชาคม. จะ​ว่า​ไป​แล้ว เขา​ดู​เหมือน​อยู่​ใน​ความ​จริง. แต่​ตอน​นี้​เขา​ออก​จาก​บ้าน​ไป​แล้ว บิดา​มารดา​จึง​ได้​ตระหนัก​ว่า​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​อยู่​ใน​ตัว​เขา​เลย. การ​ตระหนัก​ถึง​เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​บิดา​มารดา​ของ​เอริก​รู้สึก​ตกใจ​และ​ผิด​หวัง.

ส่วน​คน​อื่น ๆ ก็​ประสบ​ความ​ผิด​หวัง​คล้าย​กัน​เมื่อ​นัก​ศึกษา​เลิก​ศึกษา​โดย​ไม่​คาด​ฝัน. ใน​สภาพการณ์​เช่น​นั้น​คน​เรา​มัก​จะ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ทำไม​ฉัน​ไม่​เห็น​ที​ท่า​ว่า​เขา​จะ​เลิก​ศึกษา?’ เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​จะ​รู้​ว่า ความ​จริง​กำลัง​เกิด​ผล​ใน​คน​ที่​เรา​สอน​หรือ​ไม่ ก่อน​ที่​ความ​เสียหาย​ฝ่าย​วิญญาณ​จะ​เกิด​ขึ้น? ที่​จริง เรา​จะ​แน่​ใจ​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​ความ​จริง​กำลัง​เกิด​ผล​ใน​ตัว​เรา​เช่น​เดียว​กับ​คน​ที่​เรา​สอน? ใน​อุปมา​เรื่อง​ผู้​หว่าน​ที่​เรา​คุ้น​เคย พระ​เยซู​ให้​แนว​ชี้​แนะ​เพื่อ​ช่วย​ให้​พบ​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้.

ความ​จริง​ต้อง​เข้า​ถึง​หัวใจ

พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “พืช​นั้น​ได้​แก่​พระ​วจนะ​ของ​พระเจ้า. ซึ่ง​ตก​ที่​ดิน​ดี​นั้น​ได้​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ได้​ยิน​พระ​วจนะ​ด้วย​ใจ​เลื่อมใส​ศรัทธา, แล้ว​ก็​จด​จำ​ไว้, จึง​เกิด​ผล​โดย​ความ​เพียร.” (ลูกา 8:11, 15) ดัง​นั้น ก่อน​ที่​ความ​จริง​เรื่อง​ราชอาณาจักร​จะ​เกิด​ผล​ใด ๆ ใน​ตัว​นัก​ศึกษา ความ​จริง​นั้น​ต้อง​หยั่ง​ราก​ใน​หัวใจ​โดย​นัย​ของ​เขา​เสีย​ก่อน. พระ​เยซู​รับรอง​กับ​เรา​ว่า เมื่อ​ความ​จริง​ของ​พระเจ้า​เข้า​ถึง​หัวใจ​ที่​ดี ก็​จะ​งอก​ราก​และ​เจริญ​เติบโต​ทันที​และ​เกิด​ผล​เหมือน​กับ​เมล็ด​ดี​ที่​ปลูก​ใน​ดิน​ดี. เรา​ควร​คาด​หวัง​อะไร?

เรา​ต้อง​สังเกต​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​เขา ไม่​ใช่​สิ่ง​ที่​เห็น​แต่​ภาย​นอก. เพียง​แค่​การ​รักษา​กิจวัตร​ใน​การ​นมัสการ​ก็​ไม่​ได้​เผย​ให้​เห็น​เสมอ​ไป​ว่า​หัวใจ​ของ​เขา​จริง ๆ แล้ว​เป็น​อย่าง​ไร. (ยิระมะยา 17:9, 10; มัดธาย 15:7-9) เรา​ต้อง​มอง​ลึก​ลง​ไป. เรา​ควร​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​ชัดเจน​ใน​เรื่อง​ความ​ปรารถนา, แรง​กระตุ้น, และ​สิ่ง​ที่​เขา​ให้​ความ​สนใจ​เป็น​อันดับ​แรก ๆ. เขา​ควร​พัฒนา​บุคลิกภาพ​ใหม่​ซึ่ง​สอดคล้อง​กับ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า. (เอเฟโซ 4:20-24) เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง: เมื่อ​ชาว​เมือง​เทสซาโลนิเก​ได้​ฟัง​ข่าว​ดี เปาโล​กล่าว​ว่า​พวก​เขา​ยอม​รับ​ทันที​ว่า​นั่น​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. แต่​ความ​อด​ทน, ความ​ซื่อ​สัตย์, และ​ความ​รัก​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ภาย​หลัง​ต่าง​หาก​ที่​ยืน​ยัน​ว่า​ความ​จริง “กระทำ​กิจ​อยู่​ภาย​ใน [พวก​เขา].”—1 เธซะโลนิเก 2:13, 14; 3:6.

แน่นอน ไม่​ว่า​จะ​ช้า​หรือ​เร็ว สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​นัก​ศึกษา​ก็​จะ​เผย​ออก​มา​ทาง​พฤติกรรม​ของ​เขา ดัง​เห็น​ได้​จาก​ตัว​อย่าง​ของ​เอริก. (มาระโก 7:21, 22; ยาโกโบ 1:14, 15) น่า​เสียดาย กว่า​จะ​เห็น​นิสัย​ไม่​ดี​บาง​อย่าง​ที่​ปรากฏ​ชัด​ใน​พฤติกรรม​ของ​คน​เรา​ก็​อาจ​สาย​เกิน​ไป. ดัง​นั้น ข้อ​ท้าทาย​ก็​คือ​การ​พยายาม​สังเกต​ว่า​มี​ข้อ​อ่อนแอ​อะไร​บ้าง​ก่อน​ที่​ข้อ​อ่อนแอ​เหล่า​นั้น​จะ​ทำ​ให้​ความ​ก้าว​หน้า​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​หยุด​ชะงัก. เรา​ต้อง​มี​วิธี​มอง​เข้า​ไป​ใน​หัวใจ​โดย​นัย. เรา​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร?

จง​เรียน​จาก​พระ​เยซู

แน่นอน​ว่า พระ​เยซู​สามารถ​อ่าน​หัวใจ​คน​เรา​ได้​อย่าง​ไม่​ผิด​พลาด. (มัดธาย 12:25) พวก​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​ได้. กระนั้น พระองค์​แสดง​ให้​เห็น​ว่า เรา​ก็​สามารถ​หยั่ง​เห็น​ความ​ปรารถนา, แรง​กระตุ้น, และ​สิ่ง​ที่​คน​อื่น​สนใจ​เป็น​อันดับ​แรก​ได้​เช่น​กัน. เช่น​เดียว​กับ​นาย​แพทย์​ที่​มี​ความ​สามารถ​ใช้​เทคนิค​ต่าง ๆ ใน​การ​วินิจฉัย​โรค​เพื่อ​จะ​รู้​ถึง​ความ​ผิด​ปกติ​ใน​หัวใจ​ของ​ผู้​ป่วย พระ​เยซู​ก็​ทรง​ใช้​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เพื่อ “ยก” และ​เผย “ความ​คิด​และ​ความ​มุ่ง​หมาย​ใน​ใจ” ทั้ง ๆ ที่​จาก​การ​สังเกต​โดย​ทั่ว ๆ ไป​จะ​ยัง​มอง​ไม่​เห็น​ก็​ตาม.—สุภาษิต 20:5; เฮ็บราย 4:12.

ตัว​อย่าง​เช่น ใน​โอกาส​หนึ่ง​พระ​เยซู​ช่วย​เปโตร​ให้​ตระหนัก​ถึง​ความ​อ่อนแอ​ซึ่ง​ต่อ​มา​กลาย​เป็น​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เขา​สะดุด. พระ​เยซู​ทราบ​ว่า​เปโตร​รัก​พระองค์. ที่​จริง พระ​เยซู​เพิ่ง​มอบ “ลูก​กุญแจ​แห่ง​ราชอาณาจักร” แก่​เปโตร. (มัดธาย 16:13-19, ล.ม.) อย่าง​ไร​ก็​ตาม พระ​เยซู​ทรง​ทราบ​ด้วย​ว่า​เหล่า​อัครสาวก​กำลัง​ตก​เป็น​เป้า​ของ​ซาตาน. ใน​อนาคต พวก​เขา​จะ​ถูก​กดดัน​อย่าง​หนัก​ให้​ยอม​ประนีประนอม. เห็น​ได้​ชัด​ว่า​พระ​เยซู​มอง​ออก​ว่า​สาวก​บาง​คน​ไม่​เข้มแข็ง​ใน​ความ​เชื่อ. ดัง​นั้น พระองค์​จึง​ไม่​ลังเล​ที่​จะ​ชี้​ให้​พวก​เขา​เห็น​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ต้อง​ทำ. ขอ​สังเกต​วิธี​ที่​พระองค์​นำ​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​พิจารณา.

มัดธาย 16:21 (ล.ม.) กล่าว​ว่า “ตั้ง​แต่​เวลา​นั้น​เป็น​ต้น​ไป พระ​เยซู​คริสต์​เริ่ม​ต้น​ชี้​แจง​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​ทราบ​ว่า พระองค์​จะ​ต้อง . . . ทน​ทุกข์ . . . และ​จะ​ถูก​ประหาร.” ขอ​สังเกต​ว่า​พระ​เยซู​ชี้​แจง ไม่​ใช่​แค่​บอก​พวก​เขา​ถึง​สิ่ง​ที่​จะ​เกิด​ขึ้น​กับ​พระองค์. เป็น​ไป​ได้​มาก​ที่​พระองค์​ใช้​ข้อ​คัมภีร์​ต่าง ๆ อย่าง​เช่น บทเพลง​สรรเสริญ 22:14-18 หรือ ยะซายา 53:10-12 ซึ่ง​บ่ง​ชี้​ว่า​มาซีฮา​จะ​ต้อง​ทน​ทุกข์​และ​สิ้น​พระ​ชนม์. ไม่​ว่า​จะ​โดย​การ​อ่าน​หรือ​ยก​ข้อ​ความ​จาก​พระ​คัมภีร์​โดย​ตรง พระ​เยซู​ให้​โอกาส​เปโตร​และ​คน​อื่น ๆ พูด​ออก​มา​จาก​หัวใจ. พวก​เขา​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ต่อ​การ​ข่มเหง​ที่​คาด​หมาย​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น?

น่า​ประหลาด​ใจ ทั้ง ๆ ที่​เปโตร​ซึ่ง​เป็น​คน​กล้า​หาญ​และ​มี​ใจ​แรง​กล้า แต่​ความ​หุนหันพลันแล่น​ที่​เขา​แสดง​ออก​ใน​ตอน​นั้น​เผย​ให้​เห็น​ว่า​ความ​คิด​ของ​เขา​มี​ข้อ​บกพร่อง​ร้ายแรง. เขา​พูด​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า, ให้​เหตุ​การณ์​นั้น​อยู่​ห่าง​ไกล​จาก​พระองค์​เถิด อย่า​ให้​เป็น​อย่าง​นั้น​แก่​พระองค์​เลย.” เห็น​ได้​ชัด​ว่า​วิธี​คิด​ของ​เปโตร​ไม่​ถูก​ต้อง ดัง​เห็น​ได้​จาก​ที่​พระ​เยซู​ชี้​ว่า เปโตร “มิ​ได้​คิด​ตาม​พระ​ดำริ​ของ​พระเจ้า​แต่​ตาม​ความ​คิด​ของ​มนุษย์” ซึ่ง​เป็น​ข้อ​บกพร่อง​ร้ายแรง​ที่​อาจ​นำ​ไป​สู่​ผล​เสียหาย​อัน​ใหญ่​หลวง. แล้ว​ต่อ​มา​พระ​เยซู​ได้​ทำ​อะไร? หลัง​จาก​ตำหนิ​เปโตร​แล้ว พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เขา​และ​เหล่า​สาวก​ที่​เหลือ​ว่า “ถ้า​ผู้​ใด​จะ​ใคร่​ตาม​เรา​มา ให้​ผู้​นั้น​เอา​ชนะ​ตัว​เอง​และ​รับ​กางเขน [“เสา​ทรมาน,” ล.ม.] ของ​ตน​แบก​ตาม​เรา​มา.” โดย​อาศัย​สิ่ง​ที่​บอก​ไว้​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ 49:8 และ 62:12 พระองค์​เตือน​อย่าง​กรุณา​ว่า พวก​เขา​ไม่​สามารถ​ฝาก​ความ​หวัง​ชั่วนิรันดร์​ไว้​กับ​มนุษย์​ซึ่ง​ไม่​อาจ​ช่วย​ให้​รอด​ได้ แต่​ให้​ฝาก​ไว้​กับ​พระเจ้า.—มัดธาย 16:22-28.

แม้​ว่า​ต่อ​มา​เปโตร​ยอม​จำนน​ต่อ​ความ​กลัว​ไป​ชั่ว​ขณะ​และ​ปฏิเสธ​พระ​เยซู​ถึง​สาม​ครั้ง แต่​ไม่​สงสัย​เลย​ว่า​การ​สนทนา​กับ​พระ​เยซู​ใน​คราว​นั้น​และ​คราว​อื่น ๆ ได้​ช่วย​เตรียม​ท่าน​ให้​ฟื้น​ตัว​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​รวด​เร็ว. (โยฮัน 21:15-19) เพียง 50 วัน​ต่อ​มา เปโตร​ยืน​ขึ้น​อย่าง​กล้า​หาญ​ต่อ​หน้า​ฝูง​ชน​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​เพื่อ​ยืน​ยัน​เรื่อง​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู. ใน​อีก​หลาย​สัปดาห์, หลาย​เดือน, และ​หลาย​ปี​ต่อ​มา​ท่าน​ก็​เผชิญ​หน้า​อย่าง​กล้า​หาญ​เมื่อ​ถูก​จับ​กุม, ถูก​โบย​ตี, และ​ถูก​จำ​คุก​หลาย​ครั้ง เป็น​แบบ​อย่าง​อัน​โดด​เด่น​ใน​เรื่อง​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ที่​ปราศจาก​ความ​กลัว.—กิจการ 2:14-36; 4:18-21; 5:29-32, 40-42; 12:3-5.

เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​เรื่อง​นี้? คุณ​เห็น​วิธี​ที่​พระ​เยซู​ดึง​และ​เผย​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​ใจ​ของ​เปโตร​ออก​มา​ไหม? ตอน​แรก พระองค์​เลือก​ข้อ​พระ​คัมภีร์​ที่​เหมาะ​สม​เพื่อ​จับ​ความ​สนใจ​ใน​เรื่อง​ที่​เขา​เป็น​ห่วง. ต่อ​มา พระองค์​ให้​โอกาส​เปโตร​พูด​ออก​มา​จาก​หัวใจ. ใน​ที่​สุด พระองค์​ให้​ข้อ​พระ​คัมภีร์​ชี้​แนะ​เพิ่ม​เติม​เพื่อ​ช่วย​เปโตร​ปรับ​ความ​คิด​และ​ความ​รู้สึก. คุณ​อาจ​รู้สึก​ว่า​การ​สอน​ระดับ​นี้​เกิน​ความ​สามารถ​ของ​คุณ แต่​ขอ​เรา​พิจารณา​ประสบการณ์​สอง​ตัว​อย่าง​ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​เตรียม​ตัว​และ​การ​วางใจ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ช่วย​เรา​ทุก​คน​ทำ​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​ได้.

จง​ดึง​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ออก​มา

เมื่อ​บิดา​ที่​เป็น​คริสเตียน​รู้​ว่า​ลูก​ชาย​สอง​คน​ซึ่ง​มี​อายุ 6 และ 7 ขวบ​หยิบ​ลูก​กวาด​มา​จาก​โต๊ะ​คุณ​ครู เขา​จึง​นั่ง​ลง​และ​หา​เหตุ​ผล​กับ​ลูก ๆ. แทน​ที่​จะ​มอง​ข้าม​ว่า​นี่​เป็น​การ​เล่น​ตาม​ประสา​เด็ก ๆ ซึ่ง​ไม่​มี​พิษ​มี​ภัย เขา​เล่า​ว่า “ผม​พยายาม​ดึง​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​ใจ​ของ​เขา​ออก​มา​เพื่อ​จะ​รู้​ว่า​อะไร​กระตุ้น​เขา​ให้​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​ดี​เช่น​นี้.”

บิดา​บอก​ให้​ลูก​ชาย​นึก​ถึง​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​อาคาน​ดัง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​ยะโฮซูอะ​บท 7. เด็ก ๆ เข้าใจ​ทันที​และ​ยอม​รับ​ผิด. สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​รบกวน​เขา​อยู่​แล้ว. ดัง​นั้น บิดา​จึง​ให้​ลูก​ชาย​อ่าน​เอเฟโซ 4:28 ซึ่ง​กล่าว​ว่า “ฝ่าย​คน​ที่​เคย​ลัก​ขโมย​ก็​อย่า​ให้​ลัก​ขโมย​อีก​ต่อ​ไป แต่​ให้​ใช้​มือ​กระทำ​การ​งาน​ที่​ดี​ดี​กว่า, เพื่อ​จะ​ได้​มี​อะไร ๆ แจก​ให้​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ขัดสน.” การ​ที่​บิดา​ให้​ลูก​ชาย​ซื้อ​ลูก​กวาด​และ​นำ​ไป​ให้​ครู​เพื่อ​ชด​ใช้​คืน​นั้น​เพิ่ม​น้ำหนัก​แก่​คำ​แนะ​นำ​ใน​พระ​คัมภีร์.

บิดา​กล่าว​ว่า “เรา​พยายาม​ขจัด​แรง​กระตุ้น​ที่​ไม่​ดี​ทันที​ที่​สังเกต​เห็น​และ​แทน​ที่​ด้วย​แรง​กระตุ้น​ที่​ดี​และ​บริสุทธิ์​โดย​การ​หา​เหตุ​ผล​กับ​เด็ก ๆ.” โดย​การ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​เมื่อ​พระองค์​สอน​เด็ก ๆ บิดา​มารดา​จะ​ได้​รับ​ผล​ที่​ดี​อย่าง​แน่นอน​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป. ใน​ที่​สุด ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​คน​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เป็น​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​ที่​สำนักงาน​ใหญ่​ใน​บรุกลิน ซึ่ง​คน​หนึ่ง​ยัง​คง​รับใช้​หลัง​จาก​นั้น​อีก 25 ปี.

ขอ​พิจารณา​วิธี​ที่​คริสเตียน​อีก​คน​หนึ่ง​ได้​ช่วย​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. นัก​ศึกษา​คน​นี้​กำลัง​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​และ​ออก​ประกาศ​อีก​ทั้ง​แสดง​ความ​ประสงค์​ที่​จะ​รับ​บัพติสมา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ดู​เหมือน​ว่า​เธอ​หมาย​พึ่ง​ตัว​เอง​มาก​เกิน​ไป​แทน​ที่​จะ​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา. พยาน​ฯ เล่า​ว่า “เนื่อง​จาก​เธอ​เป็น​คน​โสด เธอ​จึง​พึ่ง​ตัว​เอง​มาก​กว่า​ที่​คิด. ดิฉัน​กลัว​ว่า​เธอ​จะ​เป็น​โรค​ประสาท​หรือ​ไม่​ก็​ล้มเหลว​ฝ่าย​วิญญาณ.”

ดัง​นั้น พยาน​ฯ จึง​เริ่ม​หา​เหตุ​ผล​กับ​นัก​ศึกษา​โดย​ใช้​มัดธาย 6:33 สนับสนุน​เธอ​ให้​จัด​ลำดับ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​กว่า ให้​เอา​ราชอาณาจักร​มา​เป็น​อันดับ​แรก และ​วางใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ให้​สิ่ง​ต่าง ๆ ออก​มา​ดี​ที่​สุด. พยาน​ฯ ถาม​นัก​ศึกษา​ตรง ๆ ว่า “การ​มี​ชีวิต​อยู่​ด้วย​ตัว​เอง​ทำ​ให้​คุณ​ไม่​อาจ​ไว้​ใจ​ใคร ๆ ได้​รวม​ทั้ง​พระ​ยะโฮวา​หรือ?” นัก​ศึกษา​ยอม​รับ​ว่า​เกือบ​จะ​เลิก​อธิษฐาน​แล้ว. ครั้น​แล้ว​ผู้​ประกาศ​ได้​สนับสนุน​นัก​ศึกษา​ให้​ติด​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ที่​พบ​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ 55:​22 และ​ให้​มอบ​ภาระ​ไว้​กับ​พระ​ยะโฮวา เพราะ​ที่ 1 เปโตร 5:7 (ฉบับ​แปล​ใหม่) รับรอง​กับ​เรา​ว่า “พระองค์​ทรง​ห่วงใย​ท่าน​ทั้ง​หลาย.” ถ้อย​คำ​นี้​ประทับใจ​เธอ​มาก. พยาน​ฯ กล่าว​ว่า “นั่น​เป็น​หนึ่ง​ใน​ไม่​กี่​ครั้ง​ที่​ดิฉัน​เห็น​เธอ​ร้องไห้.”

จง​ให้​ความ​จริง​เกิด​ผล​ใน​ตัว​คุณ

การ​เห็น​คน​ที่​เรา​สอน​ตอบรับ​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​ยินดี​อย่าง​ยิ่ง. แต่​เพื่อ​จะ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​ช่วย​คน​อื่น ๆ เรา​ต้อง​วาง​แบบ​อย่าง​ที่​ดี. (ยูดา 22, 23) เรา​ทุก​คน​ต้อง “อุสส่าห์​ประพฤติ​ให้​ความ​รอด​ของ​ตน​บริบูรณ์​ด้วย​ความ​เกรง​กลัว​ตัว​สั่น.” (ฟิลิปปอย 2:12) นั่น​รวม​ถึง​การ​ทำ​ให้​แสง​แห่ง​พระ​คัมภีร์​ส่อง​เข้า​ไป​ใน​หัวใจ​เรา​เป็น​ประจำ เสาะ​หา​สิ่ง​ที่​เรา​อาจ​จำเป็น​ต้อง​แก้ไข​ใน​เรื่อง​เจตคติ, ความ​ปรารถนา, และ​อารมณ์.—2 เปโตร 1:19.

ตัว​อย่าง​เช่น หลัง ๆ มา​นี้​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ที่​จะ​ทำ​กิจกรรม​ต่าง ๆ ฝ่าย​คริสเตียน​ของ​คุณ​ลด​ลง​ไหม? ถ้า​ใช่ เป็น​เพราะ​เหตุ​ใด? เหตุ​ผล​หนึ่ง​อาจ​เป็น​เพราะ​คุณ​หมาย​พึ่ง​ตัว​เอง​มาก​เกิน​ไป. คุณ​จะ​บอก​ได้​ไหม​ว่า​เหตุ​ใด​จึง​เป็น​เช่น​นี้? จง​อ่าน​ฮาฆี 1:2-11 และ​ใคร่ครวญ​อย่าง​จริง​ใจ​ถึง​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​หา​เหตุ​ผล​กับ​ชาว​ยิว​ที่​กลับ​คืน​สู่​ภูมิลำเนา. แล้ว​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ฉัน​เป็น​ห่วง​มาก​เกิน​ไป​ไหม​ใน​เรื่อง​ความ​มั่นคง​ด้าน​การ​เงิน​และ​ความ​สะดวก​สบาย​ใน​สิ่ง​ฝ่าย​วัตถุ? ฉัน​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ ไหม​ว่า​พระองค์​จะ​ดู​แล​ครอบครัว​ถ้า​ฉัน​จัด​ให้​สิ่ง​ฝ่าย​วิญญาณ​มา​เป็น​อันดับ​แรก? หรือ​ฉัน​รู้สึก​ว่า​ต้อง​เป็น​ห่วง​ตัว​เอง​ก่อน?’ หาก​จำเป็น​ต้อง​ปรับ​ความ​คิด​หรือ​ความ​รู้สึก​ของ​คุณ​เอง อย่า​รีรอ​ชักช้า. คำ​แนะ​นำ​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์ เช่น​ที่​พบ​ใน​มัดธาย 6:25-33, ลูกา 12:13-21, และ 1 ติโมเธียว 6:6-12 ให้​พื้น​ฐาน​เพื่อ​จะ​มี​ทัศนะ​ที่​สมดุล​เกี่ยว​กับ​ความ​จำเป็น​ด้าน​วัตถุ​และ​ทรัพย์​สมบัติ ซึ่ง​คำ​แนะ​นำ​นี้​รับประกัน​ว่า​เรา​จะ​ได้​รับ​พระ​พร​จาก​พระ​ยะโฮวา​ต่อ ๆ ไป.—มาลาคี 3:10.

การ​ตรวจ​สอบ​ตัว​เอง​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​เช่น​นี้​อาจ​ช่วย​ให้​เรา​รู้สึก​ตัว. เมื่อ​มี​การ​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​เรา​มี​ข้อ​อ่อนแอ​อย่าง​ใด​อย่าง​หนึ่ง​และ​เรา​ต้อง​ยอม​รับ​ใน​เรื่อง​นั้น​อาจ​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ. กระนั้น การ​ริเริ่ม​ด้วย​ความ​รัก​เพื่อ​ช่วย​บุตร​ของ​คุณ, นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์, หรือ​แม้​แต่​ตัว​คุณ​เอง—ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เรื่อง​ส่วน​ตัว​หรือ​เรื่อง​ที่​ละเอียดอ่อน​เพียง​ใด​ก็​ตาม—คุณ​คง​ยินดี​ทำ​ขั้น​ตอน​แรก​นี้​เพื่อ​ช่วย​ชีวิต​พวก​เขา​หรือ​ตัว​คุณ​เอง​อย่าง​แน่นอน.—ฆะลาเตีย 6:1.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ถ้า​ความ​พยายาม​ของ​คุณ​ดู​เหมือน​ไม่​ได้​ผล? อย่า​ยอม​แพ้​ง่าย ๆ. การ​ปรับ​เปลี่ยน​หัวใจ​ที่​ไม่​สมบูรณ์​อาจ​เป็น​เรื่อง​ที่​ละเอียดอ่อน, ต้อง​ใช้​เวลา, และ​บาง​ครั้ง​ทำ​ให้​รู้สึก​ข้องขัดใจ. แต่​การ​ทำ​เช่น​นี้​ก็​จะ​ทำ​ให้​เรา​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​ด้วย​เช่น​กัน.

ใน​ที่​สุด เด็ก​หนุ่ม​ที่​ชื่อ​เอริก​ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ใน​ตอน​ต้น​ก็​สำนึก​ตัว​และ​เริ่ม​กลับ​มา “ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง” อีก​ครั้ง. (2 โยฮัน 4, ล.ม.) เขา​กล่าว​ว่า “ผม​ไม่​ได้​สำนึก​เลย​จน​กระทั่ง​มา​รู้​ตัว​ว่า​ผม​สูญ​เสีย​อะไร​ไป​บ้าง ผม​จึง​กลับ​มา​หา​พระ​ยะโฮวา.” ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​บิดา​มารดา​ของ​เขา ทุก​วัน​นี้​เอริก​กำลัง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ซื่อ​สัตย์. แม้​ครั้ง​หนึ่ง​เขา​โกรธ​บิดา​มารดา​ที่​พยายาม​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​เพื่อ​ให้​เขา​ตรวจ​สอบ​หัวใจ​ตน​เอง ตอน​นี้​เขา​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​ลึกซึ้ง​ใน​สิ่ง​ที่​บิดา​มารดา​ได้​ทำ. เขา​กล่าว​ว่า “พวก​ท่าน​เป็น​พ่อ​แม่​ที่​ยอด​เยี่ยม. ท่าน​ไม่​เคย​เลิก​รัก​ผม​เลย.”

การ​ฉาย​แสง​แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เพื่อ​ให้​เข้า​ถึง​หัวใจ​ของ​คน​ที่​เรา​สอน​เป็น​การ​แสดง​ความ​กรุณา​รักใคร่. (บทเพลง​สรรเสริญ 141:5) จง​ตรวจ​สอบ​หัวใจ​ของ​บุตร​และ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ของ​คุณ​ต่อ ๆ ไป​เพื่อ​จะ​เห็น​ข้อ​พิสูจน์​ที่​ว่า​บุคลิกภาพ​ใหม่​แบบ​คริสเตียน​ฝัง​แน่น​อยู่​ใน​ตัว​เขา​จริง ๆ. จง​ให้​ความ​จริง​เกิด​ผล​ใน​คน​อื่น​และ​ใน​ตัว​คุณ​เอง​โดย “เป็น​คน​ที่​ซื่อ​ตรง​ใน​การ​ที่​ใช้​คำ​แห่ง​ความ​จริง​นั้น.”—2 ติโมเธียว 2:15.

[ภาพ​หน้า 29]

ถ้อย​คำ​ของ​พระ​เยซู​เผย​ให้​เห็น​ความ​อ่อนแอ​ใน​ตัว​เปโตร

[ภาพ​หน้า 31]

จง​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​ดึง​เอา​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ออก​มา