ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ลูกกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งได้พบบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก

ลูกกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งได้พบบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ลูก​กำพร้า​ที่​ถูก​ทอดทิ้ง​ได้​พบ​บิดา​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก

เล่า​โดย​ดิมิทริส ซิดิโรพูลอส

“ไป​สิ เอา​ปืน​นี้​ไป แล้ว​ยิง​เลย” นาย​ทหาร​ตวาด​พร้อม​กับ​ยื่น​ปืน​ไรเฟิล​มา​ให้​ผม. ผม​นิ่ง​เฉย​ไม่​ยอม​รับ. พวก​ทหาร​ต่าง​ก็​ตกใจ​เมื่อ​ปืน​ใน​มือ​นาย​ทหาร​ลั่น​เปรี้ยง กระสุน​เฉียด​หัว​ไหล่​ผม​ไป. ผม​หวิด​ตาย. น่า​ยินดี ผม​รอด​ชีวิต​มา​ได้. แต่​นี่​ไม่​ใช่​ครั้ง​แรก​ที่​ชีวิต​ของ​ผม​ตก​อยู่​ใน​อันตราย.

พ่อ​แม่​ผม​เป็น​คน​กรีก อาศัย​อยู่​ใกล้​เคเซรี ใน​มณฑล​กัปปะโดเกีย ประเทศ​ตุรกี. ดู​เหมือน​ว่า​บาง​คน​จาก​ดินแดน​แถบ​นี้​ได้​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก. (กิจการ 2:9) อย่าง​ไร​ก็​ดี พอ​มา​ถึง​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 20 สิ่ง​ต่าง ๆ ได้​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง.

จาก​ผู้​ลี้​ภัย​กลาย​มา​เป็น​เด็ก​กำพร้า

เพียง​สอง​สาม​เดือน​หลัง​จาก​ผม​เกิด​เมื่อ​ปี 1922 มี​การ​สู้​รบ​ระหว่าง​ชาติ​พันธุ์​เป็น​เหตุ​ให้​ครอบครัว​ของ​เรา​กลาย​เป็น​ผู้​ลี้​ภัย​ไป​อยู่​ใน​ประเทศ​กรีซ. ด้วย​ความ​ตกใจ​กลัว​จน​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก พ่อ​แม่​ผม​ทิ้ง​บ้าน​ช่อง ไม่​เอา​อะไร​ไป​ด้วย​นอก​จาก​ลูก​น้อย​อายุ​ไม่​กี่​เดือน​คือ​ตัว​ผม​นี้​แหละ. หลัง​จาก​ฟันฝ่า​ความ​ทุกข์​ยาก​แสน​สาหัส ทั้ง​สอง​ใน​สภาพ​น่า​สงสาร​ก็​มา​ถึง​หมู่​บ้าน​คีเรีย​ใกล้​เมือง​ดรามา ภาค​เหนือ​ของ​กรีซ.

พอ​ผม​อายุ​สี่​ขวบ และ​หลัง​จาก​น้อง​ชาย​ผม​เกิด พ่อ​ก็​มา​ด่วน​จาก​ไป. พ่อ​อายุ​แค่ 27 ปี แต่​เนื่อง​จาก​ความ​ทุกข์​ยาก​ใน​ช่วง​ที่​ลำบาก​มาก สุขภาพ​ของ​พ่อ​จึง​ทรุดโทรม. แม่​อยู่​อย่าง​อัตคัด​ขัดสน และ​ไม่​นาน​ต่อ​มา​แม่​ก็​ตาย​ด้วย. ท่าน​ไม่​มี​วัตถุ​ปัจจัย​ที่​จำเป็น​เหลือ​ไว้​ให้​ผม​และ​น้อง​ชาย​เลย. เรา​สอง​คน​ถูก​ส่ง​ไป​อยู่​ใน​โรง​เลี้ยง​เด็ก​กำพร้า​แห่ง​แล้ว​แห่ง​เล่า แล้ว​ลงเอย​ที่​โรง​เลี้ยง​เด็ก​กำพร้า​ใน​เมือง​เทสซาโลนิเก​เมื่อ​ผม​อายุ 12 ปี ที่​นั่น​ผม​เป็น​ลูก​มือ​ฝึก​หัด​งาน​เป็น​ช่าง​เครื่อง.

ขณะ​ที่​ผม​เติบโต​อยู่​แต่​ใน​โรง​เลี้ยง​เด็ก​กำพร้า​ซึ่ง​ไม่​มี​น้ำใจ​ให้​กัน ผม​สงสัย​ว่า​ทำไม​บาง​คน​ประสบ​ความ​ทุกข์​และ​ความ​อยุติธรรม​มาก​เหลือ​เกิน. ผม​ถาม​ตัว​เอง ไฉน​หนอ​พระเจ้า​ยอม​ให้​สภาพ​น่า​สลด​ใจ​เช่น​นี้​มี​อยู่. ใน​ชั่วโมง​วิชา​ศีลธรรม เขา​สอน​เรา​ว่า​พระเจ้า​ทรง​มหิทธิฤทธิ์​ทุก​ประการ แต่​ไม่​มี​การ​อธิบาย​ด้วย​เหตุ​ด้วย​ผล​ว่า​ทำไม​ความ​ชั่ว​จึง​มี​อยู่​อย่าง​แพร่​หลาย. บทเพลง​สวด​อัน​เป็น​ที่​นิยม​กัน​มี​ถ้อย​คำ​ที่​ว่า​คริสตจักร​กรีก​ออร์โทด็อกซ์​เป็น​ศาสนา​ที่​ดี​เยี่ยม. เมื่อ​ผม​ถาม​ว่า “ถ้า​นิกาย​ออร์โทด็อกซ์​ดี​ที่​สุด ไฉน​ผู้​คน​ไม่​เข้า​เป็น​ออร์โทด็อกซ์​กัน​ทุก​คน​ล่ะ?” ผม​ไม่​ได้​รับ​คำ​ตอบ​ที่​น่า​พอ​ใจ.

กระนั้น ครู​ของ​เรา​นับถือ​พระ​คัมภีร์​อย่าง​ลึกซึ้ง ทั้ง​ตอก​ย้ำ​ให้​เรา​รู้​ว่า​ไบเบิล​เป็น​หนังสือ​ศักดิ์สิทธิ์. ผู้​อำนวย​การ​สถาน​เลี้ยง​เด็ก​กำพร้า​ก็​มี​ทัศนะ​อย่าง​เดียว​กัน แต่​โดย​เหตุ​ผล​ไม่​แน่ชัด​บาง​อย่าง เขา​ละ​เว้น​การ​ร่วม​ชุมนุม​นมัสการ​ทาง​ศาสนา. เมื่อ​ผม​สอบ​ถาม​ก็​ได้​คำ​ตอบ​ว่า​ครั้ง​หนึ่ง​เขา​เคย​ศึกษา​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ซึ่ง​เป็น​ศาสนา​ที่​ผม​ไม่​รู้​จัก.

ผม​จบ​การ​ศึกษา​จาก​สถาน​เลี้ยง​เด็ก​กำพร้า​ที่​เทสซาโลนิเก​เมื่อ​อายุ 17 ปี. สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 ได้​เริ่ม​ขึ้น และ​ประเทศ​กรีซ​ตก​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ครอบครอง​ของ​นาซี. ประชาชน​อดอยาก​ล้ม​ตาย​บน​ท้องถนน. เพื่อ​จะ​รอด​ชีวิต ผม​หลบ​ไป​อยู่​บ้าน​นอก ทำ​งาน​รับ​ค่า​จ้าง​เล็ก ๆ น้อย ๆ.

คัมภีร์​ไบเบิล​มี​คำ​ตอบ​ให้​ผม

เมื่อ​ผม​กลับ​มา​ที่​เมือง​เทสซาโลนิเก​ใน​เดือน​เมษายน 1945 พี่​สาว​เพื่อน​ของ​ผม​สมัย​เด็ก​ที่​เคย​อยู่​ด้วย​กัน​ใน​สถาน​เลี้ยง​เด็ก​กำพร้า​หลาย​แห่ง​ได้​แวะ​มา​เยี่ยม​ผม. พาชาลีอา​เล่า​ว่า​น้อง​ชาย​ของ​เธอ​หาย​สาบสูญ และ​ถาม​ผม​ว่า​รู้​ข่าว​คราว​เขา​บ้าง​ไหม. ระหว่าง​พูด​คุย​กัน เธอ​บอก​ว่า​เธอ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​ยัง​ได้​พูด​เรื่อง​ความ​สน​พระทัย​ที่​พระเจ้า​มี​ต่อ​มนุษย์.

ด้วย​ความ​ขัด​เคือง ผม​ยก​ข้อ​อ้าง​มาก​มาย​ขึ้น​มา​ค้าน. ทำไม​ผม​ถึง​ได้​ทน​ทุกข์​ลำบาก​มา​ตั้ง​แต่​วัย​เด็ก? ทำไม​ผม​ถูก​ทิ้ง​ให้​เป็น​ลูก​กำพร้า? พระเจ้า​อยู่​ที่​ไหน​เมื่อ​เรา​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระองค์​มาก​ที่​สุด? เธอ​ตอบ​ว่า “คุณ​แน่​ใจ​หรือ​ว่า​พระเจ้า​ควร​ถูก​ตำหนิ​เพราะ​สถานการณ์​เหล่า​นี้?” เธอ​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​และ​ชี้​แจง​ว่า​พระเจ้า​ไม่​ได้​เป็น​ต้น​เหตุ​ทำ​ให้​มนุษย์​ทน​ทุกข์. เธอ​ช่วย​ผม​ให้​มอง​เห็น​ว่า​พระ​ผู้​สร้าง​ทรง​รัก​มนุษย์​และ​ใน​ไม่​ช้า​จะ​ทรง​ปรับ​ปรุง​ส่ง​เสริม​สิ่ง​ต่าง ๆ ให้​ดี​ขึ้น. เธอ​ใช้​ข้อ​คัมภีร์​ต่าง ๆ เช่น ยะซายา 35:5-7 และ วิวรณ์ 21:3, 4 และ​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​อีก​ไม่​นาน สงคราม, การ​ต่อ​สู้​กัน, การ​เจ็บ​ไข้, และ​ความ​ตาย​จะ​ไม่​มี​อีก​เลย และ​ปวง​ประชา​ที่​ซื่อ​สัตย์​จะ​อยู่​อาศัย​ตลอด​ไป​บน​แผ่นดิน​โลก.

ผม​ได้​พบ​ครอบครัว​อุปถัมภ์

ผม​ได้​มา​รู้​ว่า​น้อง​ชาย​ของ​พาชาลีอา​เสีย​ชีวิต​ระหว่าง​การ​สู้​รบ​ของ​ฝ่าย​กองโจร. ผม​ไป​เยี่ยม​ครอบครัว​ของ​เธอ​เพื่อ​ให้​การ​ปลอบ​ประโลม แต่​พวก​เขา​ต่าง​หาก​ได้​ปลอบโยน​ผม​โดย​การ​ใช้​ข้อ​คัมภีร์​ต่าง ๆ. แล้ว​ผม​ก็​กลับ​ไป​ที่​บ้าน​นั้น​อีก​เพื่อ​รับ​ความ​คิด​ที่​ให้​การ​ปลอบ​ประโลม​มาก​ขึ้น​จาก​พระ​คัมภีร์ และ​ใน​ไม่​ช้า​ผม​ก็​ได้​มา​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​กลุ่ม​เล็ก ๆ ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​ร่วม​ประชุม​ศึกษา​และ​นมัสการ​ด้วย​กัน​อย่าง​ลับ ๆ. แม้​เหล่า​พยาน​ฯ จะ​ถูก​ชิง​ชัง​รังเกียจ ผม​ได้​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​สมาคม​คบหา​กับ​พวก​เขา​ต่อ​ไป.

ใน​กลุ่ม​คริสเตียน​ที่​มี​ใจ​ถ่อม​นั้น ผม​ได้​พบ​บรรยากาศ​ที่​อบอุ่น​และ​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​แบบ​ครอบครัว ซึ่ง​ผม​รู้สึก​ว่า​ขาด​ไป. พวก​เขา​เกื้อ​หนุน​และ​ช่วยเหลือ​ผม​ด้าน​วิญญาณ​ซึ่ง​ผม​ต้องการ​เหลือ​เกิน. ผม​พบ​ว่า​พวก​เขา​เป็น​มิตร ไม่​เห็น​แก่​ตัว​และ​เอื้อ​อาทร พร้อม​ช่วยเหลือ​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ​และ​คอย​ปลอบโยน​ผม. (2 โกรินโธ 7:5-7) สำคัญ​กว่า​นั้น พวก​เขา​ช่วย​ผม​ให้​เข้า​ใกล้​พระ​ยะโฮวา ซึ่ง​ตอน​นั้น​ผม​ถือ​ว่า​เป็น​บิดา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​องค์​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก. ผม​รู้สึก​ประทับใจ​คุณลักษณะ​ของ​พระองค์​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​ความ​รัก, ความ​เมตตา​สงสาร, และ​ความ​ห่วงใย​อย่าง​ล้ำ​ลึก. (บทเพลง​สรรเสริญ 23:1-6) ใน​ที่​สุด ผม​ก็​ได้​พบ​ครอบครัว​ฝ่าย​วิญญาณ​และ​บิดา​ที่​มี​ความ​รัก! ผม​ซาบซึ้ง​ตรึง​ใจ​เสีย​จริง ๆ. ต่อ​มา​ไม่​นาน ผม​เกิด​แรง​บันดาล​ใจ​จะ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา และ​จึง​ได้​รับ​บัพติสมา​เดือน​กันยายน ปี 1945.

การ​ที่​ผม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน​ไม่​ใช่​เพียง​แต่​เพิ่ม​เติม​ความ​รู้ แต่​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​ผม​ลึกซึ้ง​ยิ่ง​ขึ้น. เนื่อง​จาก​ไม่​มี​พาหนะ​รับ​ส่ง​ผู้​โดยสาร พวก​เรา​หลาย​คน​มัก​จะ​เดิน​เท้า​ระยะ​ทาง​ห้า​กิโลเมตร​จาก​หมู่​บ้าน​ที่​เรา​อยู่​ถึง​ที่​ประชุม ระหว่าง​การ​เดิน​ทาง​ก็​ได้​สนทนา​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ต่าง ๆ ฝ่าย​วิญญาณ​ซึ่ง​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​ไม่​อาจ​ลืม​เสีย​ได้. ช่วง​ปลาย​ปี 1945 เมื่อ​ผม​รู้​ว่า​มี​โอกาส​จะ​ร่วม​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา ผม​จึง​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์. ความ​สัมพันธ์​แน่นแฟ้น​กับ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​สิ่ง​สำคัญ เพราะ​ไม่​ช้า​ความ​เชื่อ​และ​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ของ​ผม​จะ​ถูก​ทดสอบ​อย่าง​หนัก​หน่วง.

การ​ขัด​ขวาง​ก่อ​ผล​ตรง​กัน​ข้าม

บ่อย​ครั้ง​ตำรวจ​เอา​ปืน​จี้​พวก​เรา​ขณะ​บุก​เข้า​ตรวจ​ค้น​สถาน​ประชุม. ประเทศ​อยู่​ภาย​ใต้​กฎ​อัยการ​ศึก​เนื่อง​จาก​เกิด​สงคราม​กลาง​เมือง​ใน​กรีซ. กลุ่ม​ต่าง ๆ ที่​เป็น​ปฏิปักษ์​กัน​ต่อ​สู้​กัน​เนื่อง​ด้วย​ความ​เกลียด​ชัง. นัก​เทศน์​นัก​บวช​พา​กัน​ฉวย​โอกาส​จาก​สถานการณ์​ยุยง​เจ้าหน้าที่​ให้​ปักใจ​เชื่อ​ว่า​พวก​เรา​พยาน​ฯ เป็น​คอมมิวนิสต์​และ​มุ่ง​ร้าย​จะ​ข่มเหง​พวก​เรา.

ใน​ช่วง​สอง​ปี เรา​ถูก​จับ​หลาย​ครั้ง และ​มี​หก​ครั้ง​ที่​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​นาน​ถึง​สี่​เดือน. อย่าง​ไร​ก็​ดี มี​นัก​โทษ​การ​เมือง​ติด​คุก​อยู่​แน่น​เรือน​จำ ดัง​นั้น เขา​จึง​ได้​ปล่อย​พวก​เรา​เป็น​อิสระ. เรา​ใช้​อิสรภาพ​ที่​ได้​มา​โดย​ไม่​คาด​หมาย​นี้​ทำ​งาน​ประกาศ​ต่อ​ไป แต่​ยัง​ไม่​ทัน​ไร​ก็​ถูก​จับ​อีก—สาม​ครั้ง​ใน​สัปดาห์​เดียว. เรา​รู้​ข่าว​พี่​น้อง​หลาย​คน​ถูก​เนรเทศ​ไป​ยัง​หมู่​เกาะ​ทุรกันดาร. ความ​เชื่อ​ของ​ผม​จะ​มั่นคง​พอ​ไหม​เมื่อ​ต้อง​เผชิญ​การ​ทดสอบ​เช่น​นั้น?

สถานการณ์​ย่ำแย่​มาก​เมื่อ​ผม​ต้อง​ไป​รายงาน​ตัว​ที่​สถานี​ตำรวจ​ทุก​วัน​จน​กว่า​พ้น​กำหนดการ​วาง​โทษ. เพราะ​ผม​จะ​ต้อง​อยู่​ใน​สายตา​ของ​ตำรวจ เจ้าหน้าที่​จึง​ส่ง​ผม​ไป​ที่​หมู่​บ้าน​เอฟออสมอส ใกล้ ๆ เมือง​เทสซาโลนิเก ซึ่ง​ที่​นั่น​มี​สถานี​ตำรวจ. ผม​เช่า​ห้อง​อยู่​ไม่​ไกล และ​เริ่ม​ทำ​งาน​หา​เลี้ยง​ชีพ​ด้วย​การ​ทำ​งาน​ที่​ใช้​ฝีมือ จาก​ที่​หนึ่ง​ไป​อีก​ที่​หนึ่ง โดย​รับ​ขัด​หม้อ​และ​กระทะ​ทองแดง. ขณะ​เป็น​ไพโอเนียร์​ทำ​งาน​ใน​หมู่​บ้าน​ที่​อยู่​รอบ ๆ อาชีพ​นี้​ช่วย​ผม​เข้า​ถึง​หลาย​บ้าน​ใน​พื้น​ที่​ได้​ง่าย โดย​ไม่​เป็น​ที่​ระแวง​สงสัย​ของ​ตำรวจ. ผล​คือ หลาย​คน​ได้​ฟัง​ข่าว​ดี​แล้ว​ตอบรับ​อย่าง​ดี. ใน​ที่​สุด มี​ชาย​หญิง​สิบ​กว่า​คน​ใน​พื้น​ที่​นั้น​ได้​เข้า​มา​เป็น​ผู้​นมัสการ​ที่​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา.

สิบ​ปี​เข้า​เรือน​จำ​แปด​แห่ง

ผม​ยัง​คง​อยู่​ภาย​ใต้​การ​เฝ้า​ดู​ของ​ตำรวจ​กระทั่ง​ปลาย​ปี 1949 ครั้น​แล้ว​ผม​ได้​กลับ​มา​เทสซาโลนิเก มุ่ง​มั่น​จะ​รับใช้​เต็ม​เวลา​ต่อ​ไป. ใน​ปี 1950 ณ ตอน​นั้น​ที​เดียว​ที่​ผม​กำลัง​คิด​ว่า​ความ​เหนื่อย​ยาก​ลำบาก​ของ​ผม​ผ่าน​ไป​แล้ว แต่​แล้ว​จู่ ๆ ก็​มี​คำ​สั่ง​มา​ถึง​ผม​ให้​ไป​เป็น​ทหาร. เนื่อง​จาก​ผม​ต้องการ​รักษา​ความ​เป็น​กลาง​ใน​ฐานะ​คริสเตียน ผม​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​ไม่ “ศึกษา​ยุทธศาสตร์.” (ยะซายา 2:4) ด้วย​เหตุ​นี้ จึง​เป็น​การ​เริ่ม​ต้น​บน​เส้น​ทาง​ที่​ยาว​ไกล​และ​ทุกข์​ทรมาน​ของ​การ​เป็น​นัก​โทษ ซึ่ง​ทำ​ให้​ผม​เข้า​คุก​บาง​แห่ง​ที่​อื้อฉาว​ที่​สุด​ใน​ประเทศ​กรีซ.

ทุก​อย่าง​เริ่ม​ขึ้น​ที่​เมือง​ดรามา. ใน​ช่วง​การ​ติด​คุก​สัปดาห์​แรก​ที่​นั่น เขา​ให้​ทหาร​เกณฑ์​ใหม่​เริ่ม​ฝึก​ซ้อม​ยิง​ปืน. วัน​หนึ่ง ผม​ถูก​พา​ตัว​ไป​ที่​สนาม​ยิง​เป้า. นาย​ทหาร​คน​หนึ่ง​ยื่น​ปืน​ไรเฟิล​มา​ให้​ผม​แล้ว​สั่ง​ให้​ยิง. ครั้น​ผม​ไม่​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง เขา​ก็​เริ่ม​ยิง​ผม. เมื่อ​นาย​ทหาร​บาง​คน​เห็น​ผม​ไม่​ยอม​อะลุ่มอล่วย พวก​เขา​ลง​มือ​ต่อย​ผม​อย่าง​โหด​ร้าย. เขา​จุด​บุหรี่​แล้ว​บี้​บุหรี่​บน​ฝ่า​มือ​ทั้ง​สอง​ข้าง​ของ​ผม. หลัง​จาก​นั้น ผม​ถูก​ขัง​เดี่ยว​สาม​วัน. ความ​ปวด​แสบ​จาก​การ​ถูก​ไฟ​บุหรี่​จี้​นั้น​แสน​ทรมาน รอย​แผล​เป็น​บน​ฝ่า​มือ​ยัง​มี​ให้​เห็น​นาน​หลาย​ปี.

ก่อน​ที่​ผม​จะ​ถูก​ส่ง​ขึ้น​ศาล​ทหาร เขา​ย้าย​ผม​ไป​ไว้​ใน​ค่าย​ทหาร​ที่​อิราคลีโอน บน​เกาะ​ครีต. ที่​นั่น ด้วย​ความ​พยายาม​จะ​ทำลาย​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ของ​ผม พวก​เขา​เฆี่ยน​ผม​อย่าง​สาหัส. เนื่อง​จาก​คิด​วิตก​ไป​ว่า​ตัว​เอง​อาจ​ยอม​อะลุ่มอล่วย ผม​จึง​ทูล​อธิษฐาน​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า ขอ​พระ​บิดา​ทาง​ภาค​สวรรค์​ประทาน​พลัง​เข้มแข็ง​แก่​ผม. ผม​นึก​ถึง​ถ้อย​คำ​ใน​ยิระมะยา 1:19 ที่​ว่า “เขา​เหล่า​นั้น​จะ​รบ​ต่อ​สู้​เจ้า, แต่​เขา​จะ​ไม่​ชนะ​แก่​เจ้า, เพราะ​เรา​อยู่​ด้วย​เจ้า​เพื่อ​จะ​ให้​เจ้า​รอด, พระ​ยะโฮวา​ได้​ตรัส.” “สันติ​สุข​แห่ง​พระเจ้า” ซึ่ง​ยัง​ใจ​ให้​สงบ​ทำ​ให้​ผม​สงบ​และ​สบาย​ใจ​จริง ๆ. ผม​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​สติ​ปัญญา​อยู่​ที่​การ​วางใจ​เต็ม​ที่​ใน​พระ​ยะโฮวา.—ฟิลิปปอย 4:6, 7; สุภาษิต 3:5.

ณ การ​พิจารณา​คดี​ครั้ง​ต่อ​มา ผม​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​ตลอด​ชีวิต. ทาง​การ​ถือ​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น “ศัตรู​ของ​รัฐ.” การ​ตัดสิน​จำ​คุก​ตลอด​ชีวิต​เริ่ม​ที่​อิทซีดิน เรือน​จำ​สำหรับ​อาชญากร อยู่​นอก​เมือง​ท่า​คาเนีย ผม​ถูก​ขัง​เดี่ยว​ที่​นั่น. อิทซีดิน​เป็น​ปราสาท​เก่า​แก่ ห้อง​ขัง​ที่​ผม​อยู่​นั้น​มี​หนู​วิ่ง​พลุกพล่าน​ไป​ทั่ว. ผม​เอา​ผ้า​ห่ม​เก่า​ขาด ๆ คลุม​ตั้ง​แต่​ศีรษะ​จรด​เท้า ป้องกัน​หนู​ที่​ไต่​ไป​มา​บน​ร่าง​จะ​ได้​ไม่​แทะ​เนื้อ​ผม. ผม​ป่วย​หนัก​ด้วย​โรค​ปอด​อักเสบ. แพทย์​บอก​ว่า​ผม​จะ​ต้อง​นั่ง​ตาก​แดด และ​ด้วย​เหตุ​นี้ ผม​จึง​มี​โอกาส​พูด​คุย​กับ​นัก​โทษ​หลาย​คน​ตาม​ลาน​คุก. อย่าง​ไร​ก็​ตาม สภาพ​ร่าง​กาย​ผม​ย่ำแย่​ลง​เรื่อย ๆ และ​ภาย​หลัง​มี​อาการ​เลือด​ออก​ใน​ปอด​อย่าง​รุนแรง ผม​ถูก​ย้าย​เข้า​โรง​พยาบาล​อิราคลีโอน.

อีก​ครั้ง​หนึ่ง บรรดา​เพื่อน​คริสเตียน​ใน​ครอบครัว​ฝ่าย​วิญญาณ​อยู่​พร้อม​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ใน​ยาม​ที่​ผม​ต้องการ​พวก​เขา. (โกโลซาย 4:11) พี่​น้อง​ใน​เมือง​อิราคลีโอน​ได้​เยี่ยม​ผม​เป็น​ประจำ ปลอบโยน​และ​ให้​กำลังใจ. ผม​บอก​เขา​ว่า​ผม​ต้องการ​สรรพหนังสือ​เพื่อ​ใช้​ใน​การ​ให้​คำ​พยาน​แก่​คน​สนใจ. เขา​นำ​กระเป๋า​เสื้อ​ผ้า​มา​ให้ แต่​ก้น​กระเป๋า​ด้าน​ใน​นั้น​ถูก​ทำ​เป็น​หลืบ​ซ้อน​กัน​เพื่อ​ซุก​ซ่อน​หนังสือ​ไว้​มิดชิด. ผม​สุข​ใจ​เพียง​ใด​ที่​ได้​ช่วย​นัก​โทษ​ร่วม​คุก​อย่าง​น้อย​หก​คน​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​แท้ ใน​ช่วง​ที่​ผม​ย้าย​เรือน​จำ​หลาย​แห่ง!

ใน​ระหว่าง​นั้น สงคราม​กลาง​เมือง​ได้​ยุติ​ลง และ​เวลา​ที่​ผม​ต้อง​โทษ​ลด​เหลือ​สิบ​ปี. ช่วง​ที่​เหลือ​นั้น​ผม​ถูก​คุม​ขัง​ใน​เรือน​จำ​เรทีมโน, เกนเทคูเล, และ​คะซันดรา. หลัง​การ​ใช้​เวลา​เกือบ​สิบ​ปี​ใน​เรือน​จำ​แปด​แห่ง ผม​ก็​ได้​รับ​อิสรภาพ และ​กลับ​มา​เมือง​เทสซาโลนิเก ที่​นั่น พี่​น้อง​คริสเตียน​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ของ​ผม​ได้​ให้​การ​ต้อนรับ​อย่าง​อบอุ่น.

รุ่งเรือง​ฝ่าย​วิญญาณ​ด้วย​การ​ช่วยเหลือ​ของ​พี่​น้อง​คริสเตียน

ใน​เวลา​นั้น​ที่​ผม​ได้​รับ​การ​ปล่อย​ตัว พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​กรีซ​ค่อนข้าง​มี​เสรีภาพ​พอ​สม​ควร​ใน​การ​นมัสการ. ผม​ฉวย​โอกาส​ทันที​และ​กลับ​ไป​รับใช้​เต็ม​เวลา​ดัง​เดิม. หลัง​จาก​นั้น มี​พระ​พร​เพิ่ม​ขึ้น​อีก​ประการ​หนึ่ง เมื่อ​ผม​ได้​มา​รู้​จัก​ซิสเตอร์​คาทีนา คริสเตียน​ที่​ซื่อ​สัตย์​ภักดี เธอ​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​ขยัน​ขันแข็ง​ทำ​งาน​ประกาศ. เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​ตุลาคม 1959. การ​ที่​เรา​ได้​ลูก​สาว​ชื่อ​อะกาเป และ​การ​มี​ครอบครัว​แบบ​คริสเตียน​จึง​เป็น​ส่วน​ช่วย​รักษา​บาดแผล​ใน​ใจ​ผม​ที่​เคย​เป็น​เด็ก​กำพร้า. สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง ครอบครัว​ของ​เรา​อิ่ม​ใจ​ที่​ได้​ทำ​งาน​รับใช้​ภาย​ใต้​ความ​อารักขา​ของ​พระ​ยะโฮวา พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​องค์​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก.—บทเพลง​สรรเสริญ 5:11.

เนื่อง​จาก​สภาพ​ทาง​การ​เงิน​ฝืดเคือง ผม​จำ​ใจ​ต้อง​ยุติ​งาน​ไพโอเนียร์ แต่​ก็​ได้​สนับสนุน​ภรรยา​ใน​ขณะ​ที่​เธอ​ยัง​คง​รับใช้​เต็ม​เวลา. ชีวิต​คริสเตียน​ของ​ผม​มี​เหตุ​การณ์​สำคัญ​ใน​ปี 1969 เมื่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​จัด​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ที่​เมือง​นือเรมแบร์ก ประเทศ​เยอรมนี. ระหว่าง​เตรียม​ตัว​เดิน​ทาง​ไป​ที่​นั่น ผม​ได้​ยื่น​คำ​ร้อง​ขอ​ทำ​หนังสือ​เดิน​ทาง. เมื่อ​ภรรยา​ผม​ไป​ที่​สถานี​ตำรวจ​เพื่อ​ถาม​ถึง​สาเหตุ​ที่​ผม​ยัง​ไม่​ได้​หนังสือ​เดิน​ทาง ทั้ง ๆ ที่​เวลา​ผ่าน​ไป​ตั้ง​สอง​เดือน​แล้ว เจ้าหน้าที่​ดึง​แฟ้ม​เอกสาร​หนา​ปึก​จาก​ลิ้น​ชัก​และ​พูด​ว่า “คุณ​มา​ขอ​หนังสือ​เดิน​ทาง​ให้​บุคคล​ผู้​นี้​เพื่อ​เขา​จะ​ไป​ทำ​ให้​คน​ใน​เยอรมนี​เปลี่ยน​ศาสนา​หรือ? ไม่​มี​ทาง! เขา​เป็น​บุคคล​อันตราย.”

ด้วย​การ​สงเคราะห์​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พี่​น้อง​บาง​คน ผม​ถูก​นับ​รวม​อยู่​ใน​กลุ่ม​ที่​ขอ​หนังสือ​เดิน​ทาง​เป็น​หมู่​คณะ และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​ผม​จึง​สามารถ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​น่า​ตื่นเต้น​ครั้ง​นั้น. ยอด​จำนวน​ผู้​ร่วม​ประชุม​มี​มาก​กว่า 150,000 คน และ​ผม​เห็น​ชัด​แจ้ง​ว่า​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ชี้​นำ​และ​รวม​ครอบครัว​ฝ่าย​วิญญาณ​นานา​ชาติ​เข้า​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน. ใน​ช่วง​ชีวิต​ต่อ​มา ผม​ยิ่ง​รู้สึก​หยั่ง​รู้​ค่า​ภราดรภาพ​ของ​คริสเตียน​มาก​ขึ้น.

ปี 1977 ผม​สูญ​เสีย​ภรรยา​สุด​ที่​รัก อีก​ทั้ง​เป็น​เพื่อน​ที่​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง. ผม​พยายาม​เลี้ยง​ลูก​สาว​สุด​ความ​สามารถ​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล กระนั้น ก็​ใช่​ว่า​ผม​ถูก​ละ​ให้​อยู่​ตาม​ลำพัง. อีก​ครั้ง​หนึ่ง ครอบครัว​ฝ่าย​วิญญาณ​ได้​เข้า​มา​ให้​ความ​ช่วยเหลือ. ผม​สำนึก​บุญคุณ​พวก​พี่​น้อง​อยู่​เสมอ​ใน​การ​ค้ำ​ชู​อุดหนุน​ผม​ใน​ยาม​ตก​ระกำ​ลำบาก. บาง​คน​ถึง​กับ​ย้าย​มา​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​เรา​ชั่ว​คราว​เพื่อ​ช่วย​เลี้ยง​ลูก​สาว. ผม​จะ​ไม่​มี​วัน​ลืม​ความ​รัก​อย่าง​เสีย​สละ​ของ​เขา.—โยฮัน 13:34, 35.

เมื่อ​อะกาเป​โต​เป็น​ผู้​ใหญ่​แล้ว​ก็​แต่งงาน​กับ​บราเดอร์​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อีเลียส. เขา​มี​ลูก​ชาย​สี่​คน ทุก​คน​อยู่​ใน​ความ​จริง. มา​ใน​ปี​หลัง ๆ นี้ ผม​เป็น​ลม​หลาย​ครั้ง​เนื่อง​จาก​เส้น​โลหิต​ใน​สมอง​แตก และ​สุขภาพ​ทรุดโทรม​ลง​เรื่อย ๆ. ลูก​สาว​และ​ครอบครัว​ของ​เธอ​เอา​ใจ​ใส่​ผม​เป็น​อย่าง​ดี. แม้​ร่าง​กาย​ไม่​แข็งแรง ผม​ยัง​คง​มี​เหตุ​ผล​มาก​มาย​ที่​จะ​ชื่นชม. ผม​นึก​ถึง​สมัย​ที่​มี​พี่​น้อง​ราว ๆ หนึ่ง​ร้อย​คน​เท่า​นั้น​ใน​เทสซาโลนิเก​แอบ​ประชุม​กัน​อย่าง​ลับ ๆ ใน​บ้าน​ของ​พี่​น้อง. ตอน​นี้​มี​พยาน​ฯ ที่​ทำ​งาน​อย่าง​ขันแข็ง​ประมาณ​ห้า​พัน​คน​ใน​พื้น​ที่​นั้น. (ยะซายา 60:22) ณ คราว​การ​ประชุม​ใหญ่ พี่​น้อง​ชาย​วัย​หนุ่ม​เข้า​มา​ทักทาย​ถาม​ผม​ว่า “บราเดอร์​จำ​ได้​ไหม​ที่​คุณ​เคย​นำ​วารสาร​ไป​ส่ง​ให้​เรา​ที่​บ้าน?” ถึง​แม้​พ่อ​แม่​อาจ​ไม่​ได้​อ่าน​วารสาร​เหล่า​นั้น แต่​ลูก ๆ ของ​เขา​อ่าน และ​พวก​เขา​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ!

ขณะ​ที่​ผม​เฝ้า​สังเกต​ความ​เจริญ​เติบโต​ใน​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา ผม​รู้สึก​ว่า​คุ้มค่า​จริง ๆ เมื่อ​เทียบ​กับ​ความ​ยาก​ลำบาก​ทั้ง​สิ้น​ที่​ผม​สู้​ทน​เอา. ผม​บอก​บรรดา​ลูก​หลาน​ของ​ผม​และ​หนุ่ม​สาว​บาง​คน​เสมอ​ว่า​ใน​วัย​หนุ่ม​สาว​นั้น​จง​ระลึก​ถึง​พระ​บิดา​ของ​เขา​ที่​สถิต​ใน​สวรรค์ และ​พระองค์​จะ​ไม่​ละ​ทิ้ง​เขา. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 12:1) พระ​ยะโฮวา​ทรง​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​พระองค์​ทำ​ตาม​คำ​ตรัส โดย​ทรง​เป็น “พระ​บิดา​ของ​ลูก​กำพร้า” อย่าง​ผม. (บทเพลง​สรรเสริญ 68:5) แม้​เคย​เป็น​ลูก​กำพร้า​ถูก​ทอดทิ้ง​ตั้ง​แต่​อายุ​ยัง​น้อย ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​ได้​พบ​บิดา​ที่​ใฝ่​ใจ​ดู​แล!

[ภาพ​หน้า 22]

ผม​เป็น​พ่อ​ครัว​ทำ​กับ​ข้าว​ใน​เรือน​จำ​ดรามา

[ภาพ​หน้า 23]

กับ​คาทีนา​ใน​วัน​สมรส​ของ​เรา ปี 1959

[ภาพ​หน้า 23]

การ​ประชุม​ใน​ป่า​ใกล้​เมือง​เทสซาโลนิเก ช่วง​ปลาย​ทศวรรษ 1960

[ภาพ​หน้า 24]

กับ​ลูก​สาว​ของ​เรา ปี 1967