ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เมื่อสามีภรรยามีเรื่องขัดแย้งกัน

เมื่อสามีภรรยามีเรื่องขัดแย้งกัน

เมื่อ​สามี​ภรรยา​มี​เรื่อง​ขัด​แย้ง​กัน

คง​ไม่​มี​สามี​หรือ​ภรรยา​ที่​มี​สุขภาพ​จิต​ดี​คน​ใด​อยาก​ให้​ชีวิต​สมรส​มี​แต่​การ​ทะเลาะ​เบาะ​แว้ง แต่​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​แพร่​หลาย​ไป​ทั่ว. ส่วน​ใหญ่​แล้ว ฝ่าย​หนึ่ง​จะ​พูด​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​ขุ่นเคือง. ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ขึ้น​เสียง​และ​ระเบิด​อารมณ์​ใส่​กัน​ซึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​การ​ทะเลาะ​กัน​อย่าง​รุนแรง​โดย​ใช้​คำ​พูด​ประชดประชัน. ต่อ​มา ทั้ง​สอง​ฝ่าย​ต่าง​แสดง​ความ​เย็นชา​และ​ถือ​ทิฐิ​ไม่​ยอม​พูด​จา​กัน. เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป ทั้ง​คู่​ก็​หาย​โกรธ​และ​กล่าว​คำ​ขอ​โทษ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน. ความ​สงบ​สุข​กลับ​คืน​มา​อีก—อย่าง​น้อย​ก็​จน​กว่า​จะ​มี​เรื่อง​ขัด​แย้ง​กัน​ครั้ง​ถัด​ไป.

ความ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​สามี​ภรรยา​ถูก​นำ​มา​ทำ​เป็น​เรื่อง​ขำ​ขัน​และ​ละคร​โทรทัศน์​อย่าง​ไม่​ขาด​สาย แต่​ใน​ความ​เป็น​จริง​แล้ว เรื่อง​นี้​ไม่​ตลก​เลย. ที่​จริง สุภาษิต​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “คำ​พูด​พล่อย ๆ ของ​คน​บาง​จำพวก​เหมือน​การ​แทง​ของ​กระบี่.” (สุภาษิต 12:18) ถูก​แล้ว คำ​พูด​เจ็บ​แสบ​อาจ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​บอบช้ำ​ทาง​อารมณ์​ที่​ฝัง​ลึก ซึ่ง​อาจ​ติด​อยู่​ใน​ใจ​ไป​อีก​นาน​หลัง​จาก​ทะเลาะ​กัน​แล้ว. การ​ทะเลาะ​เบาะ​แว้ง​อาจ​ทำ​ให้​ถึง​ขั้น​ลง​ไม้​ลง​มือ​กัน​ด้วย​ซ้ำ.—เอ็กโซโด 21:18.

แน่นอน​ว่า ความ​ไม่​สมบูรณ์​ของ​มนุษย์​อาจ​ทำ​ให้​เกิด​ปัญหา​ใน​ชีวิต​สมรส​เป็น​บาง​ครั้ง​ซึ่ง​ไม่​อาจ​หลีก​เลี่ยง​ได้. (เยเนซิศ 3:16; 1 โกรินโธ 7:28) กระนั้น ไม่​ควร​ถือ​ว่า​การ​ทะเลาะ​กัน​อย่าง​รุนแรง​บ่อย ๆ เป็น​เรื่อง​ธรรมดา. ผู้​เชี่ยวชาญ​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า สามี​ภรรยา​ที่​ทะเลาะ​กัน​เป็น​ประจำ​มี​โอกาส​มาก​ขึ้น​ที่​จะ​ลงเอย​ด้วย​การ​หย่าร้าง. ฉะนั้น นับ​ว่า​สำคัญ​ที่​คุณ​และ​คู่​สมรส​จะ​เรียน​รู้​วิธี​จัด​การ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ด้วย​สันติ​วิธี.

การ​วิเคราะห์​สถานการณ์

ถ้า​ชีวิต​สมรส​ของ​คุณ​มี​แต่​การ​ทะเลาะ​เบาะ​แว้ง จง​พยายาม​สังเกต​ว่า​อะไร​เป็น​สาเหตุ​ที่​ทำ​ให้​คุณ​ต้อง​ทะเลาะ​กัน​บ่อย ๆ. ตาม​ปกติ​แล้ว เกิด​อะไร​ขึ้น​เมื่อ​คุณ​และ​คู่​สมรส​ไม่​เห็น​พ้อง​กัน​ใน​เรื่อง​หนึ่ง? เรื่อง​นั้น​ลุก​ลาม​ใหญ่​โต​และ​เลว​ร้าย​ลง​ถึง​ขั้น​ใช้​คำ​พูด​ดูถูก​เหยียด​หยาม​และ​กล่าวหา​กัน​และ​กัน​ไหม? ถ้า​เป็น​เช่น​นั้น คุณ​จะ​ทำ​อะไร​ได้?

ประการ​แรก​คือ จง​สำรวจ​ตัว​เอง​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ว่า คุณ​อาจ​มี​ส่วน​ทำ​ให้​เกิด​ปัญหา​ขึ้น​โดย​วิธี​ใด. คุณ​เป็น​คน​โมโห​ง่าย​ไหม? คุณ​เป็น​คน​ชอบ​โต้​เถียง​ไหม? คู่​สมรส​คิด​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​นิสัย​ใน​ด้าน​นี้​ของ​คุณ? คำ​ถาม​สุด​ท้าย​เป็น​คำ​ถาม​สำคัญ​ที่​ต้อง​คิด​ให้​ดี เพราะ​คุณ​และ​คู่​สมรส​อาจ​มี​ความ​คิด​เห็น​ไม่​ตรง​กัน​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า แบบ​ไหน​ถึง​จะ​เรียก​ว่า​เป็น​คน​ชอบ​โต้​เถียง.

ตัว​อย่าง​เช่น สมมุติ​ว่า​คู่​สมรส​ของ​คุณ​เป็น​คน​ที่​ค่อนข้าง​เก็บ​ความ​รู้สึก แต่​คุณ​เป็น​คน​ตรง​ไป​ตรง​มา​และ​ชอบ​แสดง​อารมณ์​ออก​มา​อย่าง​เต็ม​ที่. คุณ​อาจ​พูด​ว่า “ใน​ครอบครัว​ที่​ฉัน​เติบโต​ขึ้น​มา ทุก​คน ก็​คุย​กัน​แบบ​นี้​แหละ. นี่​ไม่​ใช่​การ​ทะเลาะ​กัน​สัก​หน่อย!” และ​บาง​ที​คุณ​อาจ​เป็น​ฝ่าย​เดียว​ที่​คิด​ว่า​ไม่​ใช่. สิ่ง​ที่​คุณ​เห็น​ว่า​เป็น​การ​คุย​กัน​แบบ​ตรง​ไป​ตรง​มา แต่​เป็น​ไป​ได้​ที่​คู่​สมรส​ของ​คุณ​อาจ​เข้าใจ​ว่า​นี่​เป็น​การ​ทะเลาะ​กัน​ที่​ทำ​ให้​รู้สึก​เจ็บ​ปวด. การ​ตระหนัก​ว่า​คุณ​และ​คู่​สมรส​มี​วิธี​สื่อ​ความ​ที่​ต่าง​กัน​อาจ​ช่วย​ป้องกัน​ความ​เข้าใจ​ผิด​ได้.

จำ​ไว้​เช่น​กัน​ว่า การ​ทะเลาะ​กัน​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​จะ​ต้อง​ตะโกน​ใส่​กัน​เสมอ​ไป. เปาโล​เขียน​ไป​ถึง​คริสเตียน​ว่า ‘จง​ให้​การ​ตวาด​และ​คำ​พูด​หยาบ​หยาม​อยู่​ห่าง​จาก​ท่าน​ทั้ง​หลาย.’ (เอเฟโซ 4:31, ล.ม.) การ​ทะเลาะ​กัน​ไม่​ใช่​แค่​การ​ใช้​เสียง​ดัง​เท่า​นั้น​แต่​ยัง​รวม​ถึง​การ​ใช้​คำ​พูด​หยาบ​หยาม​ด้วย. เมื่อ​คำนึง​ถึง​เรื่อง​นี้ แม้​จะ​พูด​กระซิบ​แต่​ก็​ถือ​ว่า​เป็น​การ​ทะเลาะ​กัน​ถ้า​คำ​พูด​นั้น​ทำ​ให้​รู้สึก​ขุ่นเคือง​หรือ​เป็น​การ​เหยียด​หยาม.

เมื่อ​คำนึง​ถึง​สิ่ง​ที่​กล่าว​ไป ให้​สำรวจ​ตัว​คุณ​เอง​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ว่า​คุณ​กับ​คู่​สมรส​จัด​การ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​ที่​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร. คุณ​เป็น​คน​ชอบ​โต้​เถียง​ไหม? ดัง​ที่​เรา​เห็น​แล้ว คำ​ตอบ​ที่​แท้​จริง​ส่วน​ใหญ่​ขึ้น​อยู่​กับ​มุม​มอง​ของ​คู่​สมรส​ของ​คุณ. แทน​ที่​จะ​มอง​ว่า​คู่​สมรส​ของ​คุณ​มี​ความ​รู้สึก​ไว​เกิน​ไป พยายาม​มอง​ตัว​เอง​อย่าง​ที่​คู่​สมรส​มอง และ​ทำ​การ​ปรับ​เปลี่ยน​ตาม​ที่​จำเป็น. เปาโล​เขียน​ว่า “อย่า​ให้​ผู้​ใด​กระทำ​อะไร​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ตน​เอง​เท่า​นั้น แต่​ให้​คิด​ถึง​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​ด้วย.”—1 โกรินโธ 10:24.

“จง​เอา​ใจ​ใส่​ว่า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ฟัง​อย่าง​ไร”

อีก​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ช่วย​รับมือ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​พบ​ได้​ใน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “จง​เอา​ใจ​ใส่​ว่า ท่าน​ทั้ง​หลาย​ฟัง​อย่าง​ไร.” (ลูกา 8:18, ล.ม.) จริง​อยู่ พระ​เยซู​ไม่​ได้​พูด​ถึง​การ​ติด​ต่อ​สื่อ​ความ​ใน​ชีวิต​สมรส. กระนั้น หลักการ​นี้​ก็​ใช้​ได้. คุณ​ตั้งใจ​ฟัง​แค่​ไหน​เมื่อ​คู่​ของ​คุณ​พูด? คุณ​ฟัง​เรื่อง​ราว​ทั้ง​หมด​ไหม? หรือ​คุณ​รีบ​เสนอ​วิธี​แก้​ปัญหา​แบบ​ผิว​เผิน​โดย​ที่​ยัง​ไม่​ได้​เข้าใจ​เรื่อง​อย่าง​ถ่องแท้​เสีย​ก่อน​ไหม? คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ผู้​ที่​ให้​คำ​ตอบ​ก่อน​ได้​ยิน​เรื่อง, ก็​เป็น​การ​โฉด​เขลา​และ​เป็น​ความ​น่า​อาย​แก่​ตน.” (สุภาษิต 18:13) เมื่อ​เกิด​ความ​ขัด​แย้ง​ขึ้น คุณ​และ​คู่​สมรส​ต้อง​คุย​กัน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น​และ​ตั้งใจ​ฟัง​กัน​และ​กัน​จริง ๆ.

แทน​ที่​จะ​มอง​ว่า ความ​คิด​เห็น​ของ​คู่​สมรส​ไม่​สำคัญ จง​พยายาม​แสดง “ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ.” (1 เปโตร 3:8, ล.ม.) ใน​ภาษา​กรีก​เดิม รากศัพท์​ของ​คำ​นี้​หมาย​ถึง​การ​ทน​ทุกข์​ด้วย​กัน​กับ​อีก​คน​หนึ่ง. ถ้า​คู่​สมรส​ของ​คุณ​รู้สึก​ทุกข์​ใจ​เกี่ยว​กับ​บาง​สิ่ง คุณ​ก็​ควร​จะ​ร่วม​ความ​รู้สึก​กับ​เขา. จง​พยายาม​มอง​เรื่อง​ราว​ใน​มุม​มอง​ของ​เขา.

เห็น​ได้​ชัด​ว่า ยิศฮาค​บุรุษ​ผู้​เลื่อมใส​พระเจ้า​ทำ​เช่น​นั้น. คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ว่า ริบะคา​ภรรยา​ของ​ท่าน​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ​อย่าง​มาก​เนื่อง​จาก​ปัญหา​ที่​เกี่ยว​กับ​ยาโคบ​บุตร​ชาย. นาง​กล่าว​กับ​ยิศฮาค​ว่า “ฉัน​เบื่อ​หน่าย​ด้วย​บุตร​สาว​ชาติ​เฮธ​นั้น. ถ้า​แม้น​ยาโคบ​จะ​รับ​บุตร​สาว​ชาติ​เฮธ​คือ​หญิง​ชาว​เมือง​นี้​เป็น​ภรรยา​แล้ว, ฉัน​จะ​มี​ชีวิต​ต่อ​ไป​เป็น​ประโยชน์​อะไร​เล่า?”—เยเนซิศ 27:46.

จริง​อยู่ ดู​เหมือน​ว่า​ริบะคา​กังวล​มาก​เกิน​ไป. แต่​จริง ๆ แล้ว นาง​เบื่อ​ชีวิต​ตัว​เอง​ไหม? นาง​อยาก​ตาย​จริง ๆ อย่าง​ที่​พูด​ไหม​ถ้า​บุตร​ชาย​แต่งงาน​กับ​บุตร​สาว​ชาติ​เฮธ? คง​จะ​ไม่. กระนั้น ยิศฮาค​ก็​ไม่​ได้​ถือ​ว่า​ความ​รู้สึก​ของ​ริบะคา​เป็น​เรื่อง​ไม่​สำคัญ. แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น ยิศฮาค​ตระหนัก​ว่า​ความ​ห่วงใย​ของ​ริบะคา​เป็น​เรื่อง​ที่​มี​เหตุ​ผล และ​ท่าน​จึง​ลง​มือ​ดำเนิน​การ​ตาม​ที่​ควร​ทำ. (เยเนซิศ 28:1) คุณ​ก็​ควร​ทำ​แบบ​เดียว​กัน​ถ้า​คู่​สมรส​รู้สึก​กังวล​ใจ​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​หนึ่ง. แทน​ที่​จะ​ถือ​ว่า​นี่​เป็น​เรื่อง​ไม่​สำคัญ จง​ฟัง คู่​สมรส​ของ​คุณ, เคารพ ทัศนะ​ของ​เขา, และ​ตอบรับ ใน​วิธี​ที่​กรุณา.

การ​ฟัง​และ​การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ

ภาษิต​ข้อ​หนึ่ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “คน​ที่​เข้าใจ​เรื่อง​ราว​อย่าง​ลึก​ซึ้ง​ย่อม​ไม่​โกรธ​เร็ว.” (สุภาษิต 19:11, ล.ม.) เมื่อ​เกิด​การ​ขัด​แย้ง​กัน​อย่าง​รุนแรง ก็​เป็น​เรื่อง​ง่าย​จริง ๆ ที่​คู่​สมรส​ของ​คุณ​จะ​โพล่ง​คำ​พูด​ที่​เจ็บ​แสบ​ออก​มา. จะ​ว่า​ไป​แล้ว คำ​พูด​เช่น​นี้​มี​แต่​จะ​ทำ​ให้​ทะเลาะ​กัน​หนัก​ขึ้น​ไป​อีก. ด้วย​เหตุ​นี้ เมื่อ​คุณ​ฟัง​คู่​สมรส จง​ฟัง​ไม่​เพียง​คำ​พูด​ของ​เขา แต่​ให้​ฟัง​ความ​รู้สึก​ที่​แฝง​อยู่​เบื้อง​หลัง​คำ​พูด​นั้น. การ​ทำ​เช่น​นี้​จะ​ช่วย​ให้​คุณ​มอง​ลึก​ยิ่ง​ไป​กว่า​คำ​พูด​ที่​ทำ​ให้​คุณ​รู้สึก​ขุ่นเคือง​และ​เข้าใจ​ต้นตอ​ของ​ปัญหา.

ตัว​อย่าง​เช่น สมมุติ​ว่า​ภรรยา​ของ​คุณ​บอก​ว่า “คุณ​ไม่​เคย​ให้​เวลา​ฉัน​บ้าง​เลย!” คุณ​อาจ​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​รู้สึก​ขุ่นเคือง​และ​ปฏิเสธ​คำ​กล่าวหา​อย่าง​เย็นชา. คุณ​อาจ​ตอบ​ว่า “เมื่อ​เดือน​ที่​แล้ว​ผม​ให้​เวลา​คุณ​วัน​หนึ่ง​เต็ม ๆ เลย​นะ!” แต่​เมื่อ​คุณ​ฟัง​ดี ๆ คุณ​อาจ​พบ​ว่า จริง ๆ แล้ว​ภรรยา​ของ​คุณ​ไม่​ได้​เรียก​ร้อง​เวลา​จาก​คุณ​มาก​ขึ้น. ที่​แท้​แล้ว เธอ​ต้องการ​ความ​มั่น​ใจ เธอ​อาจ​กำลัง​บอก​คุณ​ว่า​เธอ​รู้สึก​ถูก​ทอดทิ้ง​และ​รู้สึก​ว่า​คุณ​ไม่​รัก​เธอ.

สมมุติ​ว่า​คุณ​เป็น​ภรรยา และ​สามี​ของ​คุณ​บ่น​เรื่อง​ของ​ราคา​แพง​ที่​คุณ​ซื้อ​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้. เขา​ถาม​ด้วย​ความ​ไม่​อยาก​เชื่อ​ว่า “คุณ​ใช้​จ่าย​เงิน​ไป​มาก​ขนาด​นั้น​ได้​อย่าง​ไร?” คุณ​อาจ​ปก​ป้อง​ตัว​เอง​ใน​ทันที​โดย​อ้าง​เรื่อง​ค่า​ใช้​จ่าย​ใน​ครอบครัว​หรือ​เปรียบ​เทียบ​ของ​ที่​คุณ​ซื้อ​มา​กับ​ของ​ที่​เขา​ซื้อ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​จะ​ช่วย​ให้​คุณ​รู้​ว่า สามี​ของ​คุณ​ไม่​ได้​พูด​ถึง​เรื่อง​เงิน. แต่​เขา​อาจ​ไม่​พอ​ใจ​ที่​คุณ​ไม่​ได้​ปรึกษา​เขา​ก่อน​จะ​ตัดสิน​ใจ​ซื้อ​ของ​ราคา​แพง.

แน่นอน คู่​สมรส​แต่​ละ​คู่​อาจ​ตก​ลง​กัน​เอง​ว่า​เขา​จะ​ให้​เวลา​แก่​กัน​มาก​น้อย​แค่​ไหน​และ​การ​ตัดสิน​ใจ​เรื่อง​การ​ซื้อ​ของ. จุด​สำคัญ​ก็​คือ​ว่า การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​จะ​ช่วย​ให้​คุณ​โกรธ​ช้า​ลง​เมื่อ​ถึง​เรื่อง​ที่​เกิด​ความ​ขัด​แย้ง​และ​ช่วย​ให้​คุณ​เข้าใจ​ประเด็น​ที่​แท้​จริง. แทน​ที่​จะ​ตอบ​โต้​ทันที จง​ติด​ตาม​คำ​เตือน​ของ​ยาโกโบ​ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​กล่าว​ว่า “จง​ให้​ทุก​คน​ว่องไว​ใน​การ​ฟัง, ช้า​ใน​การ​พูด, ช้า​ใน​การ​โกรธ.”—ยาโกโบ 1:19.

เมื่อ​คุณ​จะ​พูด จง​จำ​ไว้​ว่า​วิธี​ที่​คุณ​พูด​กับ​คู่​สมรส​เป็น​เรื่อง​สำคัญ. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ลิ้น​ของ​คน​มี​ปัญญา​ย่อม​รักษา​แผล​ให้​หาย.” (สุภาษิต 12:18) เมื่อ​คุณ​และ​คู่​สมรส​มี​ปาก​เสียง​กัน คำ​พูด​ของ​คุณ​สร้าง​บาดแผล​ที่​เจ็บ​ปวด​ไหม​หรือ​เป็น​ยา​สมาน​แผล? คำ​พูด​ของ​คุณ​ก่อ​ให้​เกิด​อุปสรรค​ขัด​ขวาง​หรือ​ช่วย​ปู​ทาง​สำหรับ​การ​คืน​ดี​ไหม? ดัง​ที่​เรา​เห็น​กัน​อยู่​แล้ว การ​โมโห​หรือ​การ​ตอบ​โต้​ทัน​ควัน​มี​แต่​จะ​ยั่ว​ยุ​ให้​เกิด​การ​ทะเลาะ​เบาะ​แว้ง.—สุภาษิต 29:22.

ถ้า​ความ​ขัด​แย้ง​ลุก​ลาม​จน​ทำ​ให้​ทะเลาะ​กัน​ใหญ่​โต จง​พยายาม​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​พูด​ให้​ตรง​ประเด็น​มาก​ขึ้น. จง​เพ่งเล็ง​ที่​สาเหตุ ไม่​ใช่​ตัว​บุคคล. จง​สนใจ​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า อะไร เป็น​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​มาก​กว่า​สนใจ​ว่า​ใคร เป็น​ฝ่าย​ถูก. จง​ระวัง​ที่​จะ​ไม่​ใช้​คำ​พูด​ที่​ยั่ว​ยุ​ให้​เกิด​ความ​ขัด​แย้ง​มาก​ขึ้น. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “คำ​ขม​เผ็ด​ร้อน​กระทำ​ให้​โทโส​พลุ่ง​ขึ้น.” (สุภาษิต 15:1) ถูก​แล้ว คุณ​จะ​ได้​รับ​ความ​ร่วม​มือ​จาก​คู่​สมรส​หรือ​ไม่​นั้น​ขึ้น​อยู่​กับ​คำ​พูด​และ​วิธี​พูด​ของ​คุณ.

ตั้งใจ​แก้​ปัญหา ไม่​ใช่​เอา​ชนะ

เป้าหมาย​ใน​การ​จัด​การ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​คือ​การ​แก้​ปัญหา ไม่​ใช่​การ​เอา​ชนะ​กัน. คุณ​จะ​แก้​ปัญหา​ได้​อย่าง​ไร? วิธี​ที่​ได้​ผล​ที่​สุด​คือ จง​แสวง​หา​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​นำ​ไป​ใช้ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​สามี​ควร​เป็น​ฝ่าย​ริเริ่ม​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น. แทน​ที่​จะ​รีบ​แสดง​จุด​ยืน​ด้วย​ท่าที​ที่​แข็ง​กร้าว​ใน​ประเด็น​หรือ​ปัญหา​ที่​เกิด​ขึ้น ทำไม​ไม่​มอง​ปัญหา​หรือ​เรื่อง​ราว​ใน​มุม​มอง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ล่ะ? จง​อธิษฐาน​ถึง​พระองค์ และ​แสวง​หา​สันติ​สุข​จาก​พระเจ้า​ซึ่ง​จะ​ป้องกัน​หัวใจ​และ​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด​ของ​คุณ. (เอเฟโซ 6:18; ฟิลิปปอย 4:6, 7) จง​พยายาม​อย่าง​จริงจัง​ที่​จะ​ไม่​เห็น​แก่​ประโยชน์​ของ​คุณ​เอง​เท่า​นั้น แต่​เห็น​แก่​ประโยชน์​ของ​คู่​สมรส​ด้วย.—ฟิลิปปอย 2:4.

การ​ยอม​ให้​ความ​รู้สึก​ที่​เจ็บ​ปวด​และ​อารมณ์​ที่​ขาด​การ​ควบคุม​มี​อิทธิพล​เหนือ​ความ​คิด​และ​การ​กระทำ​ของ​คุณ มัก​จะ​ทำ​ให้​สถานการณ์​แย่​ลง. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง การ​เต็ม​ใจ​ปรับ​เปลี่ยน​โดย​อาศัย​คำ​แนะ​นำ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​เกิด​สันติ​สุข, ความ​ปรองดอง, และ​นำ​มา​ซึ่ง​พระ​พร​จาก​พระ​ยะโฮวา. (2 โกรินโธ 13:11) ด้วย​เหตุ​นี้ จง​รับ​เอา​การ​ชี้​นำ​จาก ‘สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน,’ แสดง​คุณลักษณะ​อย่าง​พระเจ้า, และ​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​การ​เป็น ‘คน​ที่​กระทำ​ให้​เกิด​สันติ​สุข.’—ยาโกโบ 3:17, 18.

จริง ๆ แล้ว ทุก​คน​ควร​เรียน​รู้​ที่​จะ​จัด​การ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​อย่าง​สันติ แม้​ว่า​นั่น​อาจ​หมาย​ความ​ว่า​เรา​ต้อง​ยอม​สละ​ความ​ชอบ​ส่วน​ตัว. (1 โกรินโธ 6:7) จริง​ที​เดียว จง​นำ​คำ​เตือน​ของ​เปาโล​ไป​ใช้ นั่น​คือ​ให้​ยับยั้ง “การ​โกรธ​แค้น, การ​มี​โทโส, การ​ชั่ว, การ​พูด​หยาบ​ช้า, และ​การ​พูด​โลน​ลามก​จาก​ปาก​ของ​ท่าน. . . . จง​ถอด​ทิ้ง​บุคลิกภาพ​เก่า​กับ​กิจ​ปฏิบัติ​ต่าง ๆ ของ​มัน​เสีย​และ​สวม​บุคลิกภาพ​ใหม่.”—โกโลซาย 3:8-10, ล.ม.

แน่นอน​ว่า บาง​ครั้ง​คุณ​อาจ​พูด​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​รู้สึก​เสียใจ​ภาย​หลัง. (ยาโกโบ 3:8) เมื่อ​เหตุ​การณ์​เช่น​นี้​เกิด​ขึ้น จง​ขอ​โทษ​คู่​สมรส​ของ​คุณ. จง​บากบั่น​พยายาม​ต่อ ๆ ไป. ใน​ที่​สุด คุณ​และ​คู่​สมรส​ก็​คง​จะ​เห็น​ว่า​คุณ​รับมือ​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​ได้​ดี​ขึ้น​จริง ๆ.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 22]

สาม​ขั้น​ตอน​ที่​ช่วย​ลด​ความ​ขัด​แย้ง

• จง​ฟัง​คู่​สมรส​ของ​คุณ. สุภาษิต 10:19

• จง​เคารพ​ทัศนะ​ของ​เขา. ฟิลิปปอย 2:4

• จง​ตอบรับ​ด้วย​ท่าที​ที่​แสดง​ความ​รัก. 1 โกรินโธ 13:4-7

[กรอบ/ภาพ​หน้า 23]

สิ่ง​ที่​คุณ​ทำ​ได้​ตอน​นี้

จง​ถาม​คู่​สมรส​ด้วย​คำ​ถาม​ดัง​ต่อ​ไป​นี้ และ​ฟัง​คำ​ตอบ​อย่าง​ตั้งใจ​โดย​ไม่​พูด​แทรก. แล้ว​ให้​คู่​สมรส​ถาม​คุณ​แบบ​เดียว​กัน.

• ฉัน​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​ชอบ​โต้​เถียง​ไหม?

• ฉัน​ตั้งใจ​ฟัง​คุณ​พูด​จริง ๆ ไหม หรือ​ฉัน​พูด​แทรก​ขึ้น​มา​ทันที​ขณะ​ที่​คุณ​ยัง​พูด​ไม่​จบ?

• คำ​พูด​ที่​ฉัน​ใช้​กับ​คุณ​แสดง​ถึง​ความ​ไม่​สนใจ​ไยดี​หรือ​โกรธ​ไหม?

• เรา​สอง​คน​จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​เพื่อ​ปรับ​ปรุง​วิธี​สื่อ​ความ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​เรา​มี​ความ​คิด​เห็น​ที่​ไม่​ตรง​กัน?

[ภาพ​หน้า 21]

คุณ​ตั้งใจ​ฟัง​ไหม?

[ภาพ​หน้า 22]

“ฉัน​รู้สึก​ถูก​ทอดทิ้ง​และ​รู้สึก​ว่า​คุณ​ไม่​รัก​ฉัน”

[ภาพ​หน้า 22]

“คุณ​ไม่​เคย​ให้​เวลา​ฉัน​บ้าง​เลย!”

[ภาพ​หน้า 22]

“เมื่อ​เดือน​ที่​แล้ว​ผม​ให้​เวลา​คุณ​วัน​หนึ่ง​เต็ม ๆ เลย​นะ!”