ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“คนฉลาดย่อมมองดูทางเดินของเขา”

“คนฉลาดย่อมมองดูทางเดินของเขา”

“คน​ฉลาด​ย่อม​มอง​ดู​ทาง​เดิน​ของ​เขา”

บุคคล​ที่​ฉลาด​รู้​จัก​ปฏิบัติ​และ​มี​ปัญญา​เฉียบ​แหลม, มี​วิจารณญาณ​ที่​ดี​และ​สามารถ​มอง​ออก​อย่าง​ชัดเจน, มี​เหตุ​ผล​และ​สุขุม, รู้​จัก​สังเกต​เข้าใจ. เขา​ไม่​เป็น​คน​หลอก​ลวง​หรือ​ใช้​เล่ห์​เหลี่ยม. สุภาษิต 13:16 กล่าว​ว่า “คน​ที่​เฉลียวฉลาด​ทุก​คน​ทำ​งาน​ด้วย​ใช้​ความ​รู้.” ใช่​แล้ว ความ​ฉลาด​หรือ​ความ​สุขุม​เป็น​ลักษณะ​นิสัย​ที่​น่า​ปรารถนา.

เรา​จะ​แสดง​ความ​ฉลาด​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​ได้​โดย​วิธี​ใด? คุณลักษณะ​นี้​ปรากฏ​ชัด​อย่าง​ไร​จาก​การ​เลือก​ของ​เรา, จาก​วิธี​ที่​เรา​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​อื่น, และ​วิธี​ที่​เรา​ตอบ​สนอง​ต่อ​สภาพการณ์​ต่าง ๆ? คน​สุขุม​ได้​รับ​บำเหน็จ​อะไร? เขา​หลีก​เลี่ยง​ความ​หายนะ​อะไร? กษัตริย์​ซะโลโม​แห่ง​ชาติ​อิสราเอล​โบราณ​ทรง​ให้​คำ​ตอบ​ที่​ใช้​ได้​จริง​สำหรับ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้ ดัง​ที่​เรา​อ่าน​ใน​สุภาษิต 14:12-25. *

เลือก​แนว​ทาง​ของ​คุณ​อย่าง​ฉลาด

แน่นอน​ว่า​การ​เลือก​อย่าง​ฉลาด​และ​การ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​ชีวิต​ต้อง​ใช้​ความ​สามารถ​ที่​จะ​แยก​ออก​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด. อย่าง​ไร​ก็​ดี คัมภีร์​ไบเบิล​เตือน​ว่า “มี​ทาง​หนึ่ง​ซึ่ง​ดู​เหมือน​บาง​คน​เห็น​ว่า​เป็น​ทาง​ถูก; แต่​ปลาย​ทาง​นั้น​เป็น​ทาง​แห่ง​ความ​ตาย.” (สุภาษิต 14:12) ดัง​นั้น เรา​ต้อง​เรียน​รู้​ที่​จะ​แยก​สิ่ง​ถูก​ต้อง​อย่าง​แท้​จริง​ออก​จาก​สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​ว่า​ถูก​ต้อง. ใน​ภาษา​เดิม​ถ้อย​คำ​ที่​ว่า “ทาง​แห่ง​ความ​ตาย” อยู่​ใน​รูป​พหูพจน์ จึง​บ่ง​ชี้​ว่า​ทาง​ที่​หลอก​ลวง​เช่น​นั้น​มี​อยู่​หลาย​ทาง. ขอ​พิจารณา​บาง​ขอบ​เขต​ที่​เรา​ควร​ทราบ​และ​ควร​หลีก​เลี่ยง.

โดย​ทั่ว​ไป​ถือ​กัน​ว่า​คน​รวย​และ​ผู้​มี​ชื่อเสียง​ของ​โลก​เป็น​คน​ที่​น่า​นับถือ​และ​ควร​ได้​รับ​ความ​นิยม​ชม​ชอบ. ความ​สำเร็จ​ของ​พวก​เขา​ทาง​ด้าน​สังคม​และ​ด้าน​การ​เงิน​อาจ​ทำ​ให้​ดู​เหมือน​ว่า​แนว​ทาง​ที่​เขา​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ นั้น​ถูก​ต้อง. แต่​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​วิธี​ที่​บุคคล​ดัง​กล่าว​หลาย​คน​ใช้​เพื่อ​ได้​รับ​ความ​มั่งคั่ง​หรือ​ชื่อเสียง? วิธี​ของ​พวก​เขา​ซื่อ​ตรง​และ​มี​ศีลธรรม​เสมอ​ไป​ไหม? นอก​จาก​นี้​ก็​มี​บาง​คน​ซึ่ง​แสดง​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​อย่าง​น่า​ชมเชย​ใน​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​ของ​เขา. แต่​ความ​จริง​ใจ​ของ​เขา​พิสูจน์​ว่า​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​ถูก​ต้อง​จริง ๆ ไหม?—โรม 10:2, 3.

นอก​จาก​นี้ ทาง​หนึ่ง​อาจ​ดู​เหมือน​ถูก​ต้อง​ซื่อ​ตรง​เนื่อง​จาก​การ​หลอก​ตัว​เอง. หาก​เรา​ตัดสิน​ใจ​โดย​อาศัย​สิ่ง​ที่​ตัว​เอง​รู้สึก​ว่า​ถูก​ต้อง ที่​จริง​แล้ว​เป็น​การ​อาศัย​หัวใจ​ที่​ทรยศ​ให้​ชี้​นำ​เรา. (ยิระมะยา 17:9) สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ไม่​มี​การ​เพิ่ม​เติม​ความ​รู้​และ​ไม่​ได้​รับ​การ​ฝึก​อาจ​ทำ​ให้​เรา​คิด​ว่า​ทาง​ผิด​เป็น​ทาง​ถูก. ถ้า​เช่น​นั้น อะไร​จะ​ช่วย​เรา​เลือก​แนว​ทาง​ที่​ถูก​ต้อง?

การ​ขยัน​ศึกษา​ส่วน​ตัว​เกี่ยว​กับ​ความ​จริง​ที่​ลึกซึ้ง​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​เรา​จะ​ได้ “ฝึกฝน​ความ​สามารถ​ใน​การ​สังเกต​เข้าใจ​เพื่อ​แยก​ออก​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด.” นอก​จาก​นี้ เรา​ต้อง​ฝึกฝน​ความ​สามารถ​นี้ “ด้วย​การ​ใช้” โดย​นำ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ใช้. (เฮ็บราย 5:14, ล.ม.) เรา​ต้อง​ระวัง​ที่​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้​ทาง​ที่​แค่​ดู​เหมือน​ว่า​ถูก​ต้อง​ทำ​ให้​เรา​หันเห​ไป​จาก “ทาง​แคบ​ซึ่ง​นำ​ไป​ถึง​ชีวิต.”—มัดธาย 7:13, 14.

เมื่อ ‘ใจ​ยัง​เจ็บ​ปวด’

เรา​จะ​มี​ความ​สุข​ได้​ไหม​เมื่อ​ไม่​มี​ความ​สงบ​ใจ? การ​หัวเราะ​และ​การ​สนุกสนาน​บรรเทา​ความ​เจ็บ​ปวด​ที่​ฝัง​ราก​ลึก​ไหม? เป็น​การ​ฉลาด​ไหม​ที่​จะ​ลอง​ใช้​เครื่อง​ดื่ม​ประเภท​แอลกอฮอล์​เพื่อ​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​ซึมเศร้า, หรือ​ใช้​ยา​เสพ​ติด, หรือ​พยายาม​ขจัด​ความ​รู้สึก​นั้น​ให้​หมด​ไป​โดย​การ​ใช้​ชีวิต​แบบ​ที่​สำส่อน? คำ​ตอบ​คือ​ไม่. กษัตริย์​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ตรัส​ว่า “แม้​ใน​ขณะ​ที่​แสดง​อาการ​เบิกบาน ใจ​ก็​ยัง​โศก​เศร้า [“เจ็บ​ปวด,” ล.ม.].”—สุภาษิต 14:13​ก.

การ​หัวเราะ​อาจ​ปก​ปิด​ความ​เจ็บ​ปวด​ไว้ แต่​ก็​ไม่​สามารถ​ขจัด​ความ​รู้สึก​นั้น​ออก​ไป​ได้. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “มี​วาระ​กำหนด​ไว้​สำหรับ​ทุก​สิ่ง.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:1) ที่​จริง มี “วาร​ร้องไห้​และ​วาร​หัวเราะ มี​วาร​ไว้​ทุกข์​และ​วาร​เต้น​รำ.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:4, ฉบับ​แปล​ใหม่) เมื่อ​ความ​ซึมเศร้า​มี​อยู่​ต่อ​ไป เรา​ต้อง​ลง​มือ​จัด​การ​เพื่อ​จะ​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​นั้น โดย​แสวง​หา “การ​นำ​ที่​ฉลาด” ใน​กรณี​ที่​จำเป็น. (สุภาษิต 24:6, ฉบับ​แปล​ใหม่) * การ​หัวเราะ​และ​ความ​สนุกสนาน​มี​ประโยชน์​อยู่​บ้าง แต่​ก็​ค่อนข้าง​น้อย. ซะโลโม​เตือน​ให้​ระวัง​ความ​สนุกสนาน​แบบ​ที่​ไม่​เหมาะ​สม​และ​ความ​บันเทิง​อย่าง​เลย​เถิด​ว่า “เมื่อ​จบ​การ​รื่นเริง​แล้ว​ก็​มี​ความ​หนัก​ใจ.สุภาษิต 14:13​ข.

คน​ขาด​ความ​เชื่อ​และ​คน​ดี—ได้​รับ​ผล​อย่าง​ไร?

กษัตริย์​แห่ง​ชาติ​อิสราเอล​ตรัส​ต่อ​ไป​ว่า “คน​ตลบตะแลง [“ขาด​ความ​เชื่อ,” ล.ม.] จะ​ได้​ผล​จาก​ทาง​ของ​เขา​จน​เต็ม​และ​คน​ดี​ก็​จะ​ได้​ผล​ดี​แห่ง​การ​กระทำ​ของ​เขา.” (สุภาษิต 14:14, ฉบับ​แปล​ใหม่) คน​ขาด​ความ​เชื่อ​และ​คน​ดี​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​จาก​การ​กระทำ​ของ​ตน​อย่าง​ไร?

คน​ขาด​ความ​เชื่อ​ไม่​ห่วง​เรื่อง​ที่​เขา​ต้อง​ให้​การ​ต่อ​พระเจ้า. ฉะนั้น การ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ใช่​เรื่อง​สำคัญ​สำหรับ​คน​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ. (1 เปโตร 4:3-5) คน​เช่น​นั้น​พอ​ใจ​กับ​ผล​จาก​รูป​แบบ​ชีวิต​ของ​ตน​ที่​ฝักใฝ่​ทาง​วัตถุ. (บทเพลง​สรรเสริญ 144:11-15​ก) ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง คน​ดี​สนใจ​ใน​การ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า. ใน​การ​กระทำ​ทุก​อย่าง เขา​ยึด​มั่น​กับ​มาตรฐาน​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระเจ้า. คน​เช่น​นั้น​พอ​ใจ​กับ​ผล​ที่​ได้​รับ เพราะ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ของ​เขา​และ​เขา​ได้​รับ​ความ​ยินดี​อัน​หา​ที่​เปรียบ​ไม่​ได้​จาก​การ​รับใช้​พระ​ผู้​สูง​สุด.—บทเพลง​สรรเสริญ 144:15​ข.

อย่า “เชื่อ​คำ​บอก​เล่า​ทุก​คำ”

โดย​เปรียบ​เทียบ​ทาง​ของ​คน​ที่​ขาด​ประสบการณ์​กับ​ทาง​ของ​คน​ฉลาด​สุขุม ซะโลโม​กล่าว​ว่า “คน​โง่ [“ขาด​ประสบการณ์,” ล.ม.] เชื่อ​คำ​บอก​เล่า​ทุก​คำ; แต่​คน​ฉลาด​ย่อม​มอง​ดู​ทาง​เดิน​ของ​เขา​ด้วย​ความ​ระวัง.” (สุภาษิต 14:15) คน​ฉลาด​ไม่​ใช่​คน​ที่​ถูก​หลอก​ได้​ง่าย. แทน​ที่​จะ​เชื่อ​ทุก​สิ่ง​ที่​ได้​ยิน​หรือ​ปล่อย​ให้​คน​อื่น​คิด​แทน​เขา เขา​พิจารณา​ก้าว​เท้า​ของ​ตน​อย่าง​ฉลาด. โดย​รวบ​รวม​ข้อ​เท็จ​จริง​ทั้ง​หมด​ที่​หา​ได้ เขา​จึง​ปฏิบัติ​ด้วย​ความ​รู้.

ขอ​ยก​ตัว​อย่าง​คำ​ถาม​ที่​ว่า “พระเจ้า​มี​จริง​ไหม?” คน​ที่​ขาด​ประสบการณ์​มี​แนว​โน้ม​จะ​คล้อย​ตาม​สิ่ง​ที่​คน​ทั่ว​ไป​นิยม​ชม​ชอบ​หรือ​สิ่ง​ที่​คน​มี​ชื่อเสียง​เชื่อ​กัน. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง คน​ฉลาด​ใช้​เวลา​ตรวจ​สอบ​ดู​ข้อ​เท็จ​จริง. เขา​ไตร่ตรอง​ดู​ข้อ​คัมภีร์ เช่น โรม 1:20 และ​เฮ็บราย 3:4. ใน​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​ศาสนา คน​ฉลาด​ไม่​เพียง​แค่​ยอม​รับ​ความ​คิด​เห็น​ของ​ผู้​นำ​ศาสนา. เขา ‘ตรวจ​ดู​ว่า​ถ้อย​คำ​ที่​กล่าว​โดย​การ​ดล​ใจ​นั้น​มา​จาก​พระเจ้า​หรือ​ไม่.’—1 โยฮัน 4:1, ล.ม.

นับ​ว่า​ฉลาด​สัก​เพียง​ไร​ที่​จะ​เอา​ใจ​ใส่​ฟัง​คำ​เตือน​ที่​ว่า อย่า “เชื่อ​คำ​บอก​เล่า​ทุก​คำ”! คน​เหล่า​นั้น​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใน​การ​ให้​คำ​แนะ​นำ​คน​อื่น​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ต้อง​เอา​ใจ​ใส่​คำ​แนะ​นำ​นี้​เป็น​พิเศษ. ผู้​ให้​คำ​แนะ​นำ​ต้อง​มี​ภาพ​รวม​ของ​เรื่อง​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น. เขา​ต้อง​ฟัง​อย่าง​ถี่ถ้วน​และ​รวบ​รวม​ข้อ​เท็จ​จริง​จาก​ทุก​ด้าน​เพื่อ​ที่​คำ​แนะ​นำ​ของ​เขา​จะ​ไม่​ผิด​พลาด​หรือ​อาศัย​ความ​คิด​เห็น​เพียง​ด้าน​เดียว.—สุภาษิต 18:13; 29:20.

“ชาย​ที่​รู้​จัก​คิด​ถูก​เกลียด​ชัง”

โดย​ชี้​ถึง​ความ​แตกต่าง​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ระหว่าง​คน​ฉลาด​กับ​คน​โง่ กษัตริย์​ชาติ​อิสราเอล​ตรัส​ว่า “คน​มี​ปัญญา​นั้น​กลัว​และ​หลีก​ออก​จาก​ความ​ชั่ว; แต่​คน​โฉด​เขลา​นั้น​ถือ​ทิฏฐิ​จองหอง​และ​ไว้​ใจ​ใน​ตัว​เอง. บุคคล​ผู้​โกรธ​เร็ว​ย่อม​ประพฤติ​ใน​สิ่ง​โฉด​เขลา; และ​คน​ที่​คิด​ทำ​การ​ชั่ว​ร้าย​ย่อม​เป็น​ที่​เกลียด​ชัง [“แต่​ชาย​ที่​รู้​จัก​คิด​ถูก​เกลียด​ชัง,” ล.ม.].”—สุภาษิต 14:16, 17.

คน​ฉลาด​กลัว​ผล​ที่​เกิด​จาก​การ​ดำเนิน​ตาม​แนว​ทาง​ที่​ผิด. เพราะ​ฉะนั้น เขา​ระมัดระวัง​และ​เห็น​คุณค่า​ของ​คำ​แนะ​นำ​ใด ๆ ที่​ช่วย​เขา​ให้​หลีก​เลี่ยง​ความ​ชั่ว​ร้าย. คน​โง่​ไม่​มี​ความ​กลัว​ดัง​กล่าว. เนื่อง​จาก​ไว้​ใจ​ใน​ตน​เอง เขา​จึง​ละเลย​คำ​แนะ​นำ​ของ​คน​อื่น​อย่าง​จองหอง. เพราะ​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​โกรธ​ง่าย คน​เช่น​นั้น​จึง​ปฏิบัติ​อย่าง​โง่​เขลา. แต่​ทำไม​คน​ที่​รู้​จัก​คิด​จึง​จะ​กลาย​เป็น​เป้า​ของ​ความ​เกลียด​ชัง?

ถ้อย​คำ​ภาษา​เดิม​ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “รู้​จัก​คิด” มี​ความ​หมาย​สอง​อย่าง. ตาม​ความ​หมาย​ใน​แง่​บวก คำ​นี้​อาจ​หมาย​ถึง​การ​สังเกต​เข้าใจ​หรือ​ความ​เฉียบ​แหลม. (สุภาษิต 1:4; 2:11; 3:21) หรือ​ใน​แง่​ลบ วลี​นี้​อาจ​หมาย​ถึง​ความ​คิด​ชั่ว​ร้าย​หรือ​การ​คิด​มุ่ง​ร้าย.—บทเพลง​สรรเสริญ 37:7; สุภาษิต 12:2; 24:8.

หาก​ถ้อย​คำ “ชาย​ที่​รู้​จัก​คิด” ใน​ภาษา​เดิม​หมาย​ถึง​คน​ที่​คิด​ทำ​การ​ชั่ว​ร้าย ก็​ไม่​ยาก​ที่​จะ​เข้าใจ​เหตุ​ผล​ที่​คน​เช่น​นั้น​ถูก​เกลียด​ชัง. แต่​ถ้า​ถ้อย​คำ​ใน​ภาษา​เดิม​มี​ความ​หมาย​ใน​แง่​ดี ทำไม​ชาย​ที่​รู้​จัก​คิด​จึง​กลาย​เป็น​คน​ที่​ถูก​เกลียด​ชัง? เอา​ละ เป็น​ความ​จริง​มิ​ใช่​หรือ​ที่​ชาย​ที่​รู้​จัก​คิด​อาจ​ได้​รับ​ความ​เกลียด​ชัง​จาก​คน​ที่​ไม่​มี​คุณลักษณะ​นี้? ตัว​อย่าง​เช่น คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ใช้​ความ​สามารถ​ด้าน​ความ​คิด​ของ​ตน​และ​ตัดสิน​ใจ​เลือก​ที่​จะ “ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก” ได้​รับ​ความ​เกลียด​ชัง​จาก​โลก. (โยฮัน 15:19, ล.ม.) หนุ่ม​สาว​คริสเตียน​ซึ่ง​ใช้​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด​ของ​ตน​และ​ต้านทาน​แรง​กดดัน​ที่​ไม่​ดี​จาก​คน​รุ่น​เดียว​กัน​เพื่อ​จะ​หลีก​เลี่ยง​ความ​ประพฤติ​ที่​ไม่​เหมาะ​สม​ถูก​เยาะเย้ย. ความ​เป็น​จริง​คือ​ว่า​โลก​ซึ่ง​อยู่​ใน​อำนาจ​ของ​ซาตาน​พญา​มาร​เกลียด​ชัง​ผู้​นมัสการ​แท้.—1 โยฮัน 5:19.

“คน​ชั่ว​นั้น​น้อม​คำนับ​ลง”

คน​สุขุม​หรือ​คน​ฉลาด​ยัง​ต่าง​จาก​คน​ขาด​ประสบการณ์​ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง. “คน​โง่ [“ขาด​ประสบการณ์,” ล.ม.] ได้​รับ​ความ​โฉด​เป็น​มรดก; แต่​ผู้​ฉลาด​ก็​ได้​รับ​ความ​รู้​สวม​เป็น​มงกุฎ.” (สุภาษิต 14:18) เนื่อง​จาก​ขาด​ความ​สังเกต​เข้าใจ คน​ที่​ขาด​ประสบการณ์​จึง​เลือก​สิ่ง​ที่​โง่​เขลา. สภาพการณ์​ใน​ชีวิต​ของ​เขา​เป็น​เช่น​นี้. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง ความ​รู้​เป็น​เครื่อง​ประดับ​ของ​คน​ฉลาด​ดุจ​ดัง​มงกุฎ​ทำ​ให้​กษัตริย์​มี​เกียรติยศ.

กษัตริย์​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ตรัส​ว่า “คน​ชั่ว​นั้น​น้อม​คำนับ​ลง​ต่อ​หน้า​คน​ดี; และ​คน​อธรรม​นั้น, น้อม​คำนับ​ลง​ที่​ประตู​บ้าน​ของ​ผู้​ชอบธรรม.” (สุภาษิต 14:19) กล่าว​อีก​นัย​หนึ่ง คน​ดี​จะ​มี​ชัย​เหนือ​คน​ชั่ว​ใน​ที่​สุด. ขอ​พิจารณา​การ​เพิ่ม​จำนวน​ของ​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​และ​แนว​ทาง​ชีวิต​ที่​ดี​กว่า​ซึ่ง​พวก​เขา​ประสบ​อยู่​ใน​ทุก​วัน​นี้. เมื่อ​เห็น​ว่า​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​พระ​พร​เหล่า​นี้ ผู้​ต่อ​ต้าน​บาง​คน​จะ​ต้อง​ฝืน​ใจ “น้อม​คำนับ” ผู้​หญิง​โดย​นัย​ทาง​ภาค​สวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา ซึ่ง​มี​ชน​ที่​เหลือ​ผู้​ถูก​เจิม​บน​แผ่นดิน​โลก​เป็น​ตัว​แทน. ถึง​แม้​พวก​เขา​ไม่​ยอม​รับ​เรื่อง​นี้​ก่อน​สงคราม​อาร์มาเก็ดดอน​ก็​ตาม บรรดา​ผู้​ต่อ​ต้าน​จะ​ถูก​บีบ​บังคับ​ให้​ยอม​รับ​ว่า​ส่วน​แห่ง​องค์การ​ของ​พระเจ้า​ทาง​แผ่นดิน​โลก​ทำ​หน้า​ที่​แทน​ส่วน​แห่ง​องค์การ​ทาง​ภาค​สวรรค์​อย่าง​แท้​จริง.—ยะซายา 60:1, 14; ฆะลาเตีย 6:16; วิวรณ์ 16:14, 16.

“มี​ใจ​เมตตา​คน​ยาก​จน”

โดย​ตั้ง​ข้อ​สังเกต​เกี่ยว​กับ​ลักษณะ​นิสัย​ของ​มนุษย์ ซะโลโม​กล่าว​ว่า “คน​จน​เป็น​ที่​เกลียด​ชัง​ถึง​แม้​ว่า​เป็น​เพื่อน​บ้าน​ของ​เขา​เอง; แต่​คน​มั่งคั่ง​มี​มิตร​สหาย​มาก​หลาย.” (สุภาษิต 14:20) เรื่อง​นี้​เป็น​ความ​จริง​สัก​เพียง​ไร​กับ​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์! เนื่อง​จาก​มี​แนว​โน้ม​ที่​เห็น​แก่​ตัว พวก​เขา​มัก​จะ​ชื่น​ชอบ​คน​รวย​มาก​กว่า​คน​จน. ขณะ​ที่​มิตร​สหาย​ของ​คน​รวย​มี​มาก​มาย คน​เหล่า​นั้น​ก็​มี​อยู่​ชั่ว​คราว​เหมือน​ความ​มั่งคั่ง​ของ​เขา. ดัง​นั้น เรา​ควร​หลีก​เลี่ยง​การ​หา​เพื่อน​โดย​ใช้​เงิน​หรือ​การ​ยกยอปอปั้น​มิ​ใช่​หรือ?

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​หาก​การ​ตรวจ​สอบ​ตัว​เอง​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​เผย​ให้​เห็น​ว่า​เรา​ประจบ​ประแจง​คน​รวย​และ​ดูถูก​คน​ที่​มี​ทรัพย์​สิน​น้อย? เรา​ต้อง​ตระหนัก​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​ตำหนิ​การ​แสดง​ความ​ลำเอียง​เช่น​นั้น. พระ​คัมภีร์​กล่าว​ว่า “บุคคล​ผู้​เหยียด​เพื่อน​บ้าน​ของ​ตน​ก็​ทำ​บาป​แล้ว; แต่​บุคคล​ผู้​มี​ใจ​เมตตา​คน​ยาก​จน, เขา​ก็​เกิด​มี​ความ​สุข.”สุภาษิต 14:21.

เรา​ควร​แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อยู่​ใน​สภาพ​ยาก​ลำบาก. (ยาโกโบ 1:27) เรา​จะ​ทำ​เช่น​นี้​ได้​โดย​วิธี​ใด? โดย​การ​ให้ “ทรัพย์​สมบัติ​ใน​โลก​นี้” ซึ่ง​อาจ​รวม​ถึง​เงิน, อาหาร, ที่​พักพิง, เครื่อง​นุ่ง​ห่ม, และ​ความ​เอา​ใจ​ใส่​เป็น​ส่วน​ตัว. (1 โยฮัน 3:17) ผู้​ที่​แสดง​ความ​เมตตา​แก่​คน​เช่น​นั้น​ก็​มี​ความ​สุข เนื่อง​จาก “การ​ให้​เป็น​เหตุ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​รับ.”—กิจการ 20:35.

จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​คน​ฉลาด​และ​คน​โง่?

หลักการ​ที่​ว่า “คน​ใด​หว่าน​พืช​อย่าง​ใด​ลง, ก็​จะ​เกี่ยว​เก็บ​ผล​อย่าง​นั้น” นำ​มา​ใช้​กับ​คน​ฉลาด​และ​คน​โง่​ด้วย. (ฆะลาเตีย 6:7) คน​ฉลาด​ทำ​สิ่ง​ที่​ดี คน​โง่​คิด​แผนการ​ร้าย. กษัตริย์​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ตรัส​ถาม​ว่า “คน​หล่า​นั้น​ที่​คิด​ทำ​การ​ชั่ว​ย่อม​เป็น​คน​หนึ่ง [“ร่อน​เร่​ไป​มา,” ล.ม.] มิ​ใช่​หรือ?” คำ​ตอบ​คือ ใช่​แล้ว พวก​เขา​ร่อน​เร่​ไป​มา​หรือ​ว่า​หลง​ทาง​ไป. “แต่​ความ​เมตตา​และ​ความ​จริง​คง​ได้​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​คิด​ทำ​การ​ดี.” (สุภาษิต 14:22) คน​เหล่า​นั้น​ที่​ทำ​ดี​ได้​รับ​ไมตรี​จิต​จาก​คน​อื่น​อีก​ทั้ง​ความ​กรุณา​รักใคร่​จาก​พระเจ้า.

โดย​เชื่อม​โยง​ความ​สำเร็จ​เข้า​กับ​การ​ทำ​งาน​อย่าง​ขยัน​และ​เชื่อม​โยง​ความ​ล้มเหลว​เข้า​กับ​การ​พูด​มาก​แต่​ไม่​ทำ​งาน ซะโลโม​กล่าว​ว่า “มี​กำไร​อยู่​ใน​งาน​ทุก​อย่าง การ​เพียง​แต่​พูด​นั้น​โน้ม​ไป​ทาง​ความ​ขาด​แคลน.” (สุภาษิต 14:23, ฉบับ​แปล​ใหม่) หลักการ​นี้​นำ​มา​ใช้​ได้​อย่าง​แน่นอน​กับ​ความ​พยายาม​ของ​เรา​ใน​งาน​รับใช้​พระเจ้า. เมื่อ​เรา​พยายาม​อย่าง​ขันแข็ง​ใน​งาน​เผยแพร่​คริสเตียน เรา​ได้​รับ​บำเหน็จ​ใน​การ​นำ​ความ​จริง​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ที่​ช่วย​ชีวิต​ให้​รอด​ไป​ให้​อีก​หลาย​คน. การ​ที่​เรา​ทำ​งาน​มอบหมาย​ใด ๆ อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ให้​พระเจ้า​และ​องค์การ​ของ​พระองค์​ย่อม​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​ยินดี​และ​ความ​พอ​ใจ.

สุภาษิต 14:24 กล่าว​ว่า “มงกุฎ​ของ​คน​มี​ปัญญา​ก็​คือ​ทรัพย์​ของ​เขา; แต่​ความ​โง่​ของ​คน​โฉด​ก็​คือ​ความ​โง่​นั้น​เอง.” นี่​อาจ​หมาย​ความ​ว่า​สติ​ปัญญา​ที่​คน​ฉลาด​พยายาม​จะ​ได้​มา​นั้น​คือ​ทรัพย์​อัน​มี​ค่า​ของ​เขา และ​นั่น​เป็น​เหมือน​มงกุฎ​ที่​ทำ​ให้​เขา​มี​เกียรติ​หรือ​เป็น​เครื่อง​ประดับ​ตัว​เขา. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง คน​โง่​ได้​รับ​เพียง​แค่​ความ​โง่​เท่า​นั้น. ตาม​ที่​หนังสือ​อ้างอิง​เล่ม​หนึ่ง​กล่าว​ไว้ สุภาษิต​ข้อ​นี้​อาจ​บ่ง​บอก​ด้วย​ว่า “ทรัพย์​สมบัติ​เป็น​เครื่อง​ประดับ​สำหรับ​คน​ที่​ใช้​ทรัพย์​นั้น​อย่าง​ฉลาด . . . [ใน​ขณะ​ที่] คน​โง่​ก็​มี​แต่​ความ​โง่​ของ​เขา​เท่า​นั้น.” ไม่​ว่า​เป็น​เช่น​ไร​ก็​ตาม คน​ฉลาด​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​ดี​กว่า​คน​โง่.

กษัตริย์​ชาติ​อิสราเอล​ตรัส​ว่า “พยาน​จริง​ย่อม​ช่วย​คน​ไว้; แต่​บุคคล​ผู้​กล่าว​เท็จ​เป็น​ต้น​เหตุ​แห่ง​การ​ล่อ​ลวง.” (สุภาษิต 14:25) ขณะ​ที่​เรื่อง​นี้​เป็น​ความ​จริง​อย่าง​แน่นอน​ใน​การ​พิจารณา​ตัดสิน​คดี ขอ​พิจารณา​การ​นำ​ข้อ​นี้​มา​ใช้​กับ​งาน​เผยแพร่​ของ​เรา. งาน​ประกาศ​ราชอาณาจักร​และ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ให้​คำ​พยาน​ถึง​ความ​จริง​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. การ​ให้​คำ​พยาน​เช่น​นั้น​ช่วย​คน​ที่​สุจริต​ใจ​ให้​ออก​จาก​ศาสนา​เท็จ​และ​ช่วย​ชีวิต​เขา​ให้​รอด. โดย​การ​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​เอง​และ​การ​สอน​ของ​เรา​เสมอ เรา​จะ​ช่วย​ทั้ง​ตัว​เรา​และ​คน​ที่​ฟัง​เรา​ให้​รอด. (1 ติโมเธียว 4:16) ขณะ​ที่​เรา​ทำ​เช่น​นี้​ต่อ ๆ ไป ขอ​ให้​เรา​ตื่น​ตัว​ใน​การ​สำแดง​ความ​ฉลาด​ใน​ทุก​ด้าน​ของ​ชีวิต.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 11 โปรด​ดู​ตื่นเถิด! (ภาษา​อังกฤษ) ฉบับ​วัน​ที่ 22 ตุลาคม 1987 หน้า 11-16.

[ภาพ​หน้า 18]

การ​ขยัน​ศึกษา​ความ​จริง​ที่​ลึกซึ้ง​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​เรา​จะ​แยก​ออก​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด

[ภาพ​หน้า 18]

รูป​แบบ​ชีวิต​ที่​ฝักใฝ่​ทาง​วัตถุ​ทำ​ให้​พอ​ใจ​อย่าง​แท้​จริง​ไหม?