ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

พวกเมนโนไนต์แสวงหาความจริงจากคัมภีร์ไบเบิล

พวกเมนโนไนต์แสวงหาความจริงจากคัมภีร์ไบเบิล

พวก​เมนโนไนต์​แสวง​หา​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล

เช้า​วัน​หนึ่ง​ใน​เดือน​พฤศจิกายน​ปี 2000 มิชชันนารี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​บาง​คน​ใน​โบลิเวีย​มอง​ออก​ไป​นอก​หน้าต่าง​บ้าน​พัก​หลัง​เล็ก ๆ และ​เห็น​ชาย​หญิง​ที่​แต่ง​กาย​เรียบ ๆ กลุ่ม​หนึ่ง​ยืน​รอ​หน้า​ประตู​บ้าน​อย่าง​กล้า ๆ กลัว ๆ. เมื่อ​มิชชันนารี​เปิด​ประตู คำ​แรก​ที่​เหล่า​ผู้​มา​เยือน​กล่าว​ก็​คือ “เรา​ต้องการ​พบ​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล.” แขก​ที่​มา​เยือน​เป็น​พวก​เมนโนไนต์. ผู้​ชาย​สวม​กางเกง​ชุด​เอี๊ยม ส่วน​ผู้​หญิง​สวม​ผ้า​กัน​เปื้อน​สี​ทึม ๆ และ​พวก​เขา​พูด​คุย​กัน​ด้วย​ภาษา​ถิ่น​เยอรมัน. แวว​ตา​ของ​พวก​เขา​มี​แต่​ความ​หวาด​กลัว. พวก​เขา​คอย​ดู​ตลอด​เวลา​ว่า​จะ​มี​คน​ตาม​มา​หรือ​ไม่. กระนั้น แม้​แต่​ใน​ขณะ​ที่​ก้าว​เข้า​มา​ใน​บ้าน ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ก็​กล่าว​ว่า “ผม​ต้องการ​รู้​จัก​กลุ่ม​ที่​ใช้​พระ​นาม​พระเจ้า.”

เมื่อ​อยู่​ใน​บ้าน กลุ่ม​ผู้​มา​เยือน​รู้สึก​ผ่อน​คลาย​ขึ้น​หลัง​จาก​ได้​ดื่ม​เครื่อง​ดื่ม. พวก​เขา​มา​จาก​นิคม​เกษตรกรรม​โดด​เดี่ยว​ที่​อยู่​ห่าง​ไกล. พวก​เขา​เคย​รับ​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ทาง​ไปรษณีย์​นาน​หก​ปี. พวก​เขา​ถาม​ว่า “เรา​ได้​อ่าน​เรื่อง​ที่​ว่า​แผ่นดิน​โลก​จะ​เป็น​อุทยาน. นั่น​เป็น​ความ​จริง​ไหม?” พยาน​ฯ ให้​พวก​เขา​ดู​คำ​ตอบ​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล. (ยะซายา 11:9; ลูกา 23:43; 2 เปโตร 3:7, 13; วิวรณ์ 21:3, 4) ชาว​นา​คน​หนึ่ง​พูด​กับ​คน​อื่น ๆ ใน​กลุ่ม​ว่า “เห็น​ไหม​ว่า​นี่​เป็น เรื่อง​จริง. จะ มี​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก​จริง ๆ.” ส่วน​คน​อื่น​พูด​ว่า “ฉัน​คิด​ว่า​เรา​พบ​ความ​จริง​แล้ว.”

พวก​เมนโนไนต์​เป็น​ใคร? พวก​เขา​เชื่อ​อะไร? เพื่อ​จะ​ได้​คำ​ตอบ​ของ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้ เรา​ต้อง​ย้อน​กลับ​ไป​ใน​ศตวรรษ​ที่ 16.

พวก​เมนโนไนต์​เป็น​ใคร?

ใน​ศตวรรษ​ที่ 16 มี​การ​แปล​และ​พิมพ์​คัมภีร์​ไบเบิล​เพิ่ม​ขึ้น​อย่าง​รวด​เร็ว​ใน​ภาษา​ที่​ชาว​ยุโรป​ทั่ว​ไป​สามารถ​อ่าน​ได้ ซึ่ง​เป็น​การ​จุด​ประกาย​ให้​ผู้​คน​เกิด​ความ​สนใจ​ที่​จะ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​อีก​ครั้ง. มาร์ติน ลูเทอร์​และ​นัก​ปฏิรูป​คน​อื่น ๆ ปฏิเสธ​คำ​สอน​ของ​คริสตจักร​คาทอลิก​หลาย​อย่าง. กระนั้น คริสตจักร​โปรเตสแตนต์​ที่​ตั้ง​ขึ้น​ใหม่​ก็​ยัง​คง​มี​กิจ​ปฏิบัติ​หลาย​อย่าง​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์. ตัว​อย่าง​เช่น คน​ส่วน​ใหญ่​ต้องการ​ให้​เด็ก​ทารก​เกิด​ใหม่​ทุก​คน​รับ​บัพติสมา​ใน​โบสถ์. อย่าง​ไร​ก็​ตาม บาง​คน​ที่​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​เพื่อ​จะ​แสวง​หา​ความ​จริง​ได้​มา​เข้าใจ​ว่า คน​ที่​จะ​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​ต้อง​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ​โดย​อาศัย​ความ​รู้ ก่อน ที่​จะ​รับ​บัพติสมา. (มัดธาย 28:19, 20) ผู้​เผยแพร่​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า​ซึ่ง​เชื่อ​ใน​เรื่อง​นี้​เริ่ม​ตระเวน​ไป​ทั่ว​เมือง​และ​หมู่​บ้าน​ต่าง ๆ เพื่อ​จะ​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​ให้​บัพติสมา​แก่​ผู้​ใหญ่. ด้วย​เหตุ​นั้น พวก​เขา​จึง​ถูก​เรียก​ว่า แอนา​แบพติสต์ ซึ่ง​มี​ความ​หมาย​ว่า “ผู้​ให้​บัพติสมา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง.”

บุคคล​หนึ่ง​ที่​หมาย​พึ่ง​พวก​แอนา​แบพติสต์​ใน​การ​แสวง​หา​ความ​จริง​คือ เมน​โน ไซมอนส์ บาทหลวง​คาทอลิก​แห่ง​หมู่​บ้าน​วิทมาร์ซัม​ทาง​ภาค​เหนือ​ของ​เนเธอร์แลนด์. ใน​ปี 1536 เขา​ตัด​ความ​สัมพันธ์​ทุก​อย่าง​กับ​คริสตจักร​และ​จึง​ถูก​ตาม​ล่า. ใน​ปี 1542 จักรพรรดิ​ชาลส์​ที่ 5 แห่ง​จักรวรรดิ​โรมัน​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ถึง​กับ​สัญญา​ว่า หาก​ใคร​จับ​เมน​โน​ได้​จะ​ให้​เงิน​รางวัล​ถึง 100 กิลเดอร์. กระนั้น เมน​โน​ก็​รวบ​รวม​สมัคร​พรรค​พวก​ที่​เป็น​แอนา​แบพติสต์​ตั้ง​เป็น​กลุ่ม​ขึ้น​มา. ไม่​นาน เมน​โน​และ​ผู้​ติด​ตาม​ก็​ถูก​เรียก​ว่า เมนโนไนต์.

พวก​เมนโนไนต์​ใน​ปัจจุบัน

เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป พวก​เมนโนไนต์​หลาย​พัน​คน​ถูก​ข่มเหง​จน​ต้อง​หนี​จาก​ยุโรป​ตะวัน​ตก​ไป​อยู่​ที่​อเมริกา​เหนือ. ที่​นั่น​เอง พวก​เขา​มี​โอกาส​แสวง​หา​ความ​จริง​ต่อ​ไป​และ​เผยแพร่​ข่าวสาร​แก่​คน​อื่น ๆ. แต่​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​ใน​การ​ศึกษา​หา​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​การ​เผยแพร่​ความ​เชื่อ​แก่​สาธารณชน​ก็​หมด​ไป. คน​ส่วน​ใหญ่​ยึด​ติด​กับ​คำ​สอน​บาง​อย่าง​ที่​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์ เช่น ตรีเอกานุภาพ, จิตวิญญาณ​อมตะ, และ​ไฟ​นรก. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5; ยะเอศเคล 18:4; มาระโก 12:29) ทุก​วัน​นี้ มิชชันนารี​ของ​พวก​เมนโนไนต์​พยายาม​มุ่ง​เน้น​ที่​งาน​บริการ​สาธารณสุข​และ​ชุมชน​มาก​กว่า​จะ​เน้น​ที่​การ​เผยแพร่​ศาสนา.

ประมาณ​กัน​ว่า ปัจจุบัน​นี้​มี​เมนโนไนต์​ราว ๆ 1,300,000 คน​ใน 65 ประเทศ. แต่​พวก​เมนโนไนต์​ใน​ทุก​วัน​นี้​โอด​ครวญ​เรื่อง​ความ​ไม่​เป็น​เอกภาพ​เช่น​เดียว​กับ​ที่​เมน​โน ไซมอนส์​เคย​รู้สึก​เช่น​นั้น​เมื่อ​หลาย​ร้อย​ปี​มา​แล้ว. ระหว่าง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1 ความ​คิด​เห็น​ที่​ไม่​ลง​รอย​กัน​เกี่ยว​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​ใน​โลก​เป็น​เหตุ​ให้​เกิด​การ​แบ่ง​แยก​เป็น​กลุ่ม​ใหญ่ ๆ. เมนโนไนต์​หลาย​คน​ใน​อเมริกา​เหนือ​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร​เพราะ​ต้องการ​ปฏิบัติ​ตาม​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. แต่​หนังสือ​แนะ​นำ​ความ​เป็น​มา​ของ​พวก​เมนโนไนต์ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “ใน​ปี 1914 คริสตจักร​เมนโนไนต์​ใน​ยุโรป​ตะวัน​ตก​ส่วน​ใหญ่​ถือ​ว่า การ​ยืน​ยัน​ที่​จะ​ไม่​เป็น​ทหาร​เป็น​เรื่อง​ของ​อดีต.” ทุก​วัน​นี้ เมนโนไนต์​บาง​กลุ่ม​รับ​เอา​วิถี​ชีวิต​สมัย​ใหม่​เข้า​มา​ไม่​มาก​ก็​น้อย. ส่วน​กลุ่ม​อื่น ๆ ยัง​คง​ใช้​ตะขอ​ติด​เสื้อ​แทน​ที่​จะ​ใช้​กระดุม และ​เชื่อ​ว่า​ผู้​ชาย​ไม่​ควร​โกน​หนวด.

พวก​เมนโนไนต์​บาง​กลุ่ม​ตั้งใจ​แยก​ตัว​ต่าง​หาก​จาก​โลก​สมัย​ใหม่​โดย​ย้าย​ชุมชน​ไป​อยู่​ใน​พื้น​ที่​ที่​รัฐบาล​อนุญาต​ให้​ตั้ง​รกราก​ได้​โดย​ปราศจาก​การ​รบกวน. ตัว​อย่าง​เช่น มี​เมนโนไนต์​ราว ๆ 38,000 คน​ที่​อาศัย​ใน​เขต​ห่าง​ไกล​ของ​โบลิเวีย โดย​แต่​ละ​กลุ่ม​จะ​มี​กฎ​ข้อ​บังคับ​ต่าง​กัน​ไป. บาง​กลุ่ม​ห้าม​ใช้​พาหนะ​ที่​ใช้​เครื่อง​ยนต์​ทุก​ชนิด ให้​ใช้​เฉพาะ​ม้า​และ​รถ​เทียม​ม้า. บาง​กลุ่ม​ถือ​ว่า​วิทยุ, โทรทัศน์, และ​ดนตรี​เป็น​สิ่ง​ต้อง​ห้าม. บาง​กลุ่ม​ถึง​กับ​ห้าม​เรียน​ภาษา​ของ​ประเทศ​ที่​พวก​เขา​อาศัย​อยู่. สมาชิก​ของ​ชุมชน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “เพื่อ​ที่​พวก​เขา​จะ​ควบคุม​เรา​ได้​ต่อ​ไป พวก​ผู้​เผยแพร่​ไม่​ยอม​ให้​เรา​เรียน​ภาษา​สเปน.” หลาย​คน​รู้สึก​ถูก​กดดัน​และ​มี​ชีวิต​อยู่​อย่าง​หวาด​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​ไล่​ออก​จาก​หมู่​บ้าน ซึ่ง​เป็น​เรื่อง​ที่​เลว​ร้าย​มาก​สำหรับ​คน​ที่​ไม่​เคย​ใช้​ชีวิต​ใน​โลก​ภาย​นอก.

วิธี​ที่​เมล็ด​แห่ง​ความ​จริง​ถูก​หว่าน​ลง​ไป

นั่น​เป็น​สภาพการณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​ตอน​ที่​ชาว​นา​เมนโนไนต์​คน​หนึ่ง​ชื่อ​โยฮันน์​ได้​เห็น​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ที่​บ้าน​ของ​เพื่อน​บ้าน. ครอบครัว​ของ​โยฮันน์​อพยพ​จาก​แคนาดา​ไป​ยัง​เม็กซิโก​และ​สุด​ท้าย​ก็​โบลิเวีย. แต่​โยฮันน์​ยัง​คง​แสวง​หา​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​เสมอ. เขา​จึง​ขอ​ยืม​วารสาร​จาก​เพื่อน​บ้าน.

ต่อ​มา ขณะ​ที่​โยฮันน์​เข้า​ไป​ใน​เมือง​เพื่อ​ขาย​ผล​ผลิต​ทาง​การ​เกษตร เขา​เดิน​เข้า​ไป​หา​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ที่​กำลัง​เสนอ​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ใน​ตลาด. พยาน​ฯ คน​ดัง​กล่าว​ได้​พา​โยฮันน์​ไป​หา​มิชชันนารี​ที่​พูด​ภาษา​เยอรมัน​ได้ และ​ใน​ไม่​ช้า โยฮันน์​ก็​ได้​รับ​หอสังเกตการณ์ ทาง​ไปรษณีย์​เป็น​ภาษา​เยอรมัน. จะ​มี​การ​ศึกษา​วารสาร​แต่​ละ​ฉบับ​อย่าง​ถี่ถ้วน​และ​ส่ง​ต่อ​จาก​ครอบครัว​หนึ่ง​ไป​ยัง​อีก​ครอบครัว​หนึ่ง​ทั่ว​นิคม​จน​กระทั่ง​วารสาร​ขาด​หลุด​ลุ่ย. บาง​ครั้ง หลาย​ครอบครัว​จะ​มา​รวม​ตัว​กัน​เพื่อ​ศึกษา​วารสาร​หอสังเกตการณ์ จน​ถึง​เที่ยง​คืน​และ​อ่าน​ข้อ​พระ​คัมภีร์​ที่​มี​การ​อ้าง​ถึง. โยฮันน์​เชื่อ​ว่า พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​อย่าง​เป็น​เอกภาพ​ตลอด​ทั่ว​โลก. ก่อน​ที่​โยฮันน์​จะ​เสีย​ชีวิต เขา​บอก​กับ​ภรรยา​และ​ลูก ๆ ว่า “ขอ​ให้​อ่าน​หอสังเกตการณ์ เป็น​ประจำ​เพราะ​จะ​ช่วย​ให้​เข้าใจ​คัมภีร์​ไบเบิล.”

บาง​คน​ใน​ครอบครัว​ของ​โยฮันน์​เริ่ม​พูด​คุย​กับ​เพื่อน​บ้าน​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​เรียน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล. พวก​เขา​บอก​กับ​คน​อื่น ๆ ว่า “แผ่นดิน​โลก​จะ​ไม่​ถูก​ทำลาย. แต่​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​แผ่นดิน​โลก​เป็น​อุทยาน. และ​พระเจ้า​ไม่​ทรมาน​คน​ใน​นรก.” ไม่​นาน​คำ​พูด​เหล่า​นี้​ก็​เข้า​หู​ผู้​เผยแพร่​ประจำ​โบสถ์ เขา​จึง​ข่มขู่​คน​ใน​ครอบครัว​โยฮันน์​ว่า ถ้า​ไม่​หยุด​พูด​เรื่อง​นี้​จะ​ถูก​ไล่​ออก​จาก​ชุมชน. ต่อ​มา ระหว่าง​ที่​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​คุย​กัน​ถึง​เรื่อง​ที่​ผู้​นำ​กลุ่ม​เมนโนไนต์​กดดัน​พวก​เขา ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า “ผม​ไม่​รู้​ว่า​ทำไม​เรา​ต้อง​กลัว​หัวหน้า​โบสถ์​ด้วย. เรา​ทุก​คน​รู้​แล้ว​ศาสนา​ไหน​คือ​ศาสนา​แท้ และ​เรา​จะ​ไม่​ทำ​อะไร​เลย​หรือ.” คำ​พูด​นี้​กระทบ​ใจ​บิดา​ของ​ชาย​หนุ่ม​คน​ดัง​กล่าว​อย่าง​มาก. ใน​ไม่​ช้า สิบ​คน​ใน​ครอบครัว​ก็​แอบ​เดิน​ทาง​เพื่อ​เสาะ​หา​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​การ​เดิน​ทาง​ก็​มา​สิ้น​สุด​ลง​ที่​บ้าน​มิชชันนารี​ที่​กล่าว​ถึง​ใน​ตอน​ต้น.

วัน​ถัด​มา มิชชันนารี​สี่​คน​เดิน​ทาง​ไป​เยี่ยม​เพื่อน​ใหม่​ที่​นิคม​เมนโนไนต์. รถ​ของ​มิชชันนารี​เป็น​พาหนะ​ที่​มี​เครื่อง​ยนต์​เพียง​คัน​เดียว​บน​ถนน​สาย​นั้น. เมื่อ​พวก​เขา​ขับ​ช้า ๆ ผ่าน​รถ​เทียม​ม้า ทั้ง​มิชชันนารี​และ​ชาว​บ้าน​ต่าง​ก็​มอง​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ด้วย​ความ​สนใจ. ไม่​ช้า พวก​มิชชันนารี​และ​เมนโนไนต์​สิบ​คน ซึ่ง​มา​จาก​สอง​ครอบครัว ก็​เข้า​มา​นั่ง​ล้อม​วง​กัน​ที่​โต๊ะ.

ใน​วัน​นั้น การ​ศึกษา​หนังสือ​ความ​รู้​ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ชีวิต​นิรันดร์ * บท​ที่ 1 ต้อง​ใช้​เวลา​ถึง​สี่​ชั่วโมง. พวก​เขา​จะ​อ่าน​ข้อ​พระ​คัมภีร์​เพิ่ม​เติม​สำหรับ​แต่​ละ​วรรค​และ​ต้องการ​จะ​รู้​ว่า​พวก​เขา​ใช้​ข้อ​คัมภีร์​เหล่า​นั้น​อย่าง​ถูก​ต้อง​หรือ​ไม่. เมื่อ​มิชชันนารี​ถาม​คำ​ถาม​แต่​ละ​ข้อ พวก​เขา​ก็​จะ​ปรึกษา​กัน​สัก​ครู่​หนึ่ง​โดย​ใช้​ภาษา​ถิ่น​เยอรมัน และ​จะ​มี​ตัว​แทน​คน​หนึ่ง​ตอบ​เป็น​ภาษา​สเปน. นั่น​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​น่า​จด​จำ​อย่าง​ยิ่ง แต่​ปัญหา​หนัก​ก็​กำลัง​ก่อ​ตัว​ขึ้น. พวก​เขา​กำลัง​จะ​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำบาก​มาก​มาย เช่น​เดียว​กับ​ที่​เมน​โน ไซมอนส์​เคย​เผชิญ​ตอน​ที่​เขา​เริ่ม​แสวง​หา​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​เมื่อ​เกือบ​ห้า​ศตวรรษ​ที่​แล้ว.

การ​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำบาก​เพื่อ​ความ​จริง

ไม่​กี่​วัน​ต่อ​มา หัวหน้า​โบสถ์​ก็​มา​ที่​บ้าน​ของ​ครอบครัว​โยฮันน์​เพื่อ​ข่มขู่ เขา​บอก​ว่า “เรา​ได้​ยิน​ว่า​พวก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มา​ที่​บ้าน​ของ​คุณ. อย่า​ให้​เขา​มา​อีก และ​ถ้า​ไม่​เอา​หนังสือ​ของ​พวก​พยาน​ฯ ไป​เผา​ละ​ก็ พวก​คุณ​จะ​ถูก​ไล่​ออก​จาก​ชุมชน.” ที่​จริง พวก​เขา​เพิ่ง​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​พยาน​ฯ เพียง​ครั้ง​เดียว​เท่า​นั้น ดัง​นั้น​นี่​จึง​เป็น​การ​ทดลอง​ที่​น่า​หนัก​ใจ​ที​เดียว.

หนึ่ง​ใน​หัวหน้า​ครอบครัว​ตอบ​ว่า “เรา​ไม่​อาจ​ทำ​ตาม​ที่​ท่าน​ขอ​ได้. คน​เหล่า​นั้น​มา​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เรา.” หัวหน้า​โบสถ์​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร? หัวหน้า​โบสถ์​ไล่​พวก​เขา​ออก​จาก​ชุมชน​เนื่อง​จาก​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล! นั่น​เป็น​การ​กระทำ​ที่​ร้ายกาจ​จริง ๆ. เกวียน​ของ​โรง​งาน​ทำ​เนย​แข็ง​ใน​หมู่​บ้าน​ขับ​ผ่าน​บ้าน​ของ​ครอบครัว​หนึ่ง​ไป​โดย​ไม่​ยอม​รับ​นม​ของ​พวก​เขา ซึ่ง​ที่​จริง​แล้ว นี่​เป็น​ราย​ได้​เพียง​แหล่ง​เดียว​ของ​ครอบครัว. หัวหน้า​ครอบครัว​หนึ่ง​ถูก​ไล่​ออก​จาก​งาน. ร้าน​ค้า​ของ​หมู่​บ้าน​ไม่​ยอม​ขาย​ของ​ให้​อีก​ครอบครัว​หนึ่ง และ​ลูก​สาว​วัย​สิบ​ขวบ​ก็​ถูก​ไล่​ออก​จาก​โรง​เรียน. เพื่อน​บ้าน​เข้า​มา​ล้อม​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​เพื่อ​จะ​เอา​ตัว​ภรรยา​ของ​ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ไป โดย​ยืน​ยัน​ว่า​เธอ​ไม่​ควร​อยู่​กับ​สามี​ที่​ถูก​ไล่​ออก​จาก​หมู่​บ้าน. แม้​จะ​เผชิญ​กับ​สภาพการณ์​ที่​ยาก​ลำบาก​ทั้ง​หมด​นี้ แต่​ครอบครัว​ที่​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​เหล่า​นี้​ก็​ไม่​เลิก​แสวง​หา​ความ​จริง.

ทุก​สัปดาห์ มิชชันนารี​จะ​ขับ​รถ​เป็น​ระยะ​ทาง​ไกล​เพื่อ​มา​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. ช่าง​เป็น​การ​เสริม​กำลัง​จริง ๆ สำหรับ​ครอบครัว​เหล่า​นั้น​ที่​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล! บาง​ครอบครัว​นั่ง​รถ​เทียม​ม้า​นาน​ถึง​สอง​ชั่วโมง​เพื่อ​จะ​ได้​มา​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. นับ​ว่า​เป็น​โอกาส​ที่​น่า​ประทับใจ​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​พวก​เขา​เชิญ​มิชชันนารี​คน​หนึ่ง​ให้​อธิษฐาน​กับ​พวก​เขา​เป็น​ครั้ง​แรก. พวก​เมนโนไนต์​ใน​นิคม​นี้​ไม่​เคย​อธิษฐาน​ออก​เสียง ดัง​นั้น พวก​เขา​จึง​ไม่​เคย​ได้​ยิน​ใคร​อธิษฐาน​เพื่อ​พวก​เขา. พวก​ผู้​ชาย​ถึง​กับ​น้ำตา​ซึม. และ​คุณ​คง​นึก​ภาพ​ออก​ว่า​พวก​เขา​จะ​ตื่นเต้น​แค่​ไหน​เมื่อ​มิชชันนารี​นำ​เทป​บันทึก​เสียง​มา​ด้วย. ใน​นิคม​นี้​ดนตรี​เป็น​สิ่ง​ต้อง​ห้าม​เสมอ​มา. ดัง​นั้น​เมื่อ​ได้​ฟัง​เพลง​ราชอาณาจักร อัน​แสน​ไพเราะ พวก​เขา​รู้สึก​ชอบ​มาก​ถึง​กับ​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ร้อง​เพลง​ราชอาณาจักร​หลัง​จบ​การ​ศึกษา​ทุก​ครั้ง! แต่​ก็​ยัง​มี​ปัญหา​อยู่​ว่า พวก​เขา​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​ต่อ​ไป​อย่าง​ไร​ใน​สภาพการณ์​ใหม่?

พบ​สังคม​พี่​น้อง​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก

เนื่อง​จาก​ถูก​ตัด​ขาด​จาก​คน​ใน​ชุมชน ครอบครัว​เหล่า​นั้น​จึง​เริ่ม​ทำ​เนย​แข็ง​เอง. มิชชันนารี​ช่วย​หา​ผู้​ซื้อ. ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​พยาน​ฯ มา​นาน​หลาย​ปี​ใน​อเมริกา​เหนือ ซึ่ง​เขา​เอง​ก็​เคย​เติบโต​มา​ใน​หมู่​บ้าน​เมนโนไนต์​ที่​อเมริกา​ใต้ มี​โอกาส​รับ​รู้​ถึง​ปัญหา​ที่​ครอบครัว​เหล่า​นั้น​ต้อง​เผชิญ. เขา​ปรารถนา​จะ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​อย่าง​มาก. ใน​สัปดาห์​นั้น​เอง เขา​บิน​ไป​ที่​โบลิเวีย​เพื่อ​พบ​กับ​ครอบครัว​เหล่า​นั้น. นอก​จาก​จะ​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​แล้ว เขา​ยัง​ช่วย​ซื้อ​รถ​ปิกอัพ​ให้​กับ​ครอบครัว​เหล่า​นั้น​เพื่อ​จะ​เข้า​ร่วม​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​และ​ขน​ผล​ผลิต​ไป​ขาย​ที่​ตลาด.

สมาชิก​ครอบครัว​คน​หนึ่ง​เล่า​ให้​ฟัง​ว่า “หลัง​จาก​ถูก​ไล่​ออก​จาก​หมู่​บ้าน เรา​รู้สึก​ลำบาก​มาก. เรา​ไป​หอ​ประชุม​ด้วย​ใบ​หน้า​ที่​เศร้า​สร้อย แต่​เรา​กลับ​บ้าน​ด้วย​ความ​ยินดี.” ที่​จริง พยาน​ฯ ท้องถิ่น​เสนอ​ตัว​ให้​ความ​ช่วยเหลือ. พยาน​ฯ บาง​คน​เรียน​ภาษา​เยอรมัน และ​บาง​คน​ที่​พูด​ภาษา​เยอรมัน​เดิน​ทาง​จาก​ยุโรป​มา​ที่​โบลิเวีย​เพื่อ​ช่วย​นำ​การ​ประชุม​ใน​ภาษา​เยอรมัน. ไม่​นาน​ก็​มี 14 คน​ใน​หมู่​บ้าน​เมนโนไนต์​เข้า​ส่วน​ใน​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​แก่​คน​อื่น ๆ.

วัน​ที่ 12 ตุลาคม 2001 ซึ่ง​เป็น​เวลา​ไม่​ถึง​หนึ่ง​ปี​หลัง​จาก​ที่​เมนโนไนต์​สิบ​คน​ได้​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​บ้าน​มิชชันนารี​เป็น​ครั้ง​แรก อดีต​แอนา​แบพติสต์ 11 คน​ได้​รับ​บัพติสมา​อีก​ครั้ง คราว​นี้​เป็น​สัญลักษณ์​ที่​แสดง​ถึง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา. นับ​แต่​นั้น​มา เมนโนไนต์​หลาย​คน​ก็​เจริญ​รอย​ตาม. คน​หนึ่ง​เล่า​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ว่า “การ​เรียน​รู้​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​เหมือน​ทาส​ที่​ถูก​ปล่อย​ตัว​ให้​เป็น​อิสระ.” อีก​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “เมนโนไนต์​หลาย​คน​บ่น​เรื่อง​ที่​คน​ใน​ชุมชน​ไม่​มี​ความ​รักใคร่​ปรองดอง​กัน. แต่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เอา​ใจ​ใส่​ซึ่ง​กัน​และ​กัน. ผม​รู้สึก​ปลอด​ภัย​เมื่อ​อยู่​กับ​พวก​เขา.” หาก​คุณ​ต้องการ​เข้าใจ​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​ขึ้น คุณ​ก็​อาจ​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำบาก​ด้วย. แต่​ถ้า​คุณ​แสวง​หา​การ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา แสดง​ความ​เชื่อ​และ​ความ​กล้า​หาญ​เหมือน​ครอบครัว​เหล่า​นี้ คุณ​ก็​จะ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​และ​พบ​ความ​สุข​ได้​เช่น​กัน.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 17 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

[ภาพ​หน้า 25]

รับ​หนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ภาษา​เยอรมัน​ด้วย​ความ​ยินดี

[ภาพ​หน้า 26]

แม้​ดนตรี​เป็น​สิ่ง​ต้อง​ห้าม​เสมอ​มา แต่​ตอน​นี้​พวก​เขา​ร้อง​เพลง​หลัง​จบ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ทุก​ครั้ง