ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การเลี้ยงลูกแปดคนตามแนวทางของพระยะโฮวาเป็นข้อท้าทายและให้ความสุข

การเลี้ยงลูกแปดคนตามแนวทางของพระยะโฮวาเป็นข้อท้าทายและให้ความสุข

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

การ​เลี้ยง​ลูก​แปด​คน​ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ข้อ​ท้าทาย​และ​ให้​ความ​สุข

เล่า​โดย​จัซลีน แวลันไทน์

ปี 1989 สามี​ฉัน​ไป​ทำ​งาน​ใน​ต่าง​ประเทศ. เขา​สัญญา​จะ​ส่ง​เงิน​ให้​ฉัน​ใช้​เลี้ยง​ดู​ลูก​แปด​คน. หลาย​สัปดาห์​ผ่าน​ไป แต่​ฉัน​ไม่​ได้​ข่าว​คราว​จาก​เขา​เลย. ล่วง​ไป​อีก​หลาย​เดือน​ก็​ยัง​ไม่​มี​การ​ติด​ต่อ​แต่​อย่าง​ใด​จาก​สามี. ฉัน​เฝ้า​แต่​บอก​ตัว​เอง​ว่า ‘เมื่อ​เขา​มี​ฐานะ​ทาง​การ​เงิน​มั่นคง​แล้ว เขา​คง​จะ​กลับ​มา.’

เมื่อ​ไม่​มี​เงิน​เลี้ยง​ลูก ฉัน​เลย​กลาย​เป็น​คน​สิ้น​หวัง. ใน​ช่วง​หลาย​คืน​ที่​นอน​ไม่​หลับ ฉัน​ถาม​ตัว​เอง​ด้วย​ความ​ไม่​อยาก​เชื่อ​เลย​ว่า ‘เขา​ทำ​แบบ​นี้​กับ​ครอบครัว​ได้​อย่าง​ไร?’ ใน​ที่​สุด ฉัน​ยอม​รับ​ความ​เป็น​จริง​อัน​ร้ายกาจ​ว่า​สามี​ได้​ทอดทิ้ง​ครอบครัว​ไป​เสีย​แล้ว. ตั้ง​แต่​เขา​ทิ้ง​พวก​เรา​จน​บัด​นี้​ก็​นาน​ถึง 16 ปี เขา​ยัง​ไม่​กลับ​บ้าน. ผล​คือ​ฉัน​ต้อง​เลี้ยง​ลูก​ตาม​ลำพัง​โดย​ไม่​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​จาก​สามี. นี่​เป็น​สภาพ​ที่​ยาก​ลำบาก​จริง ๆ แต่​การ​ได้​เห็น​ลูก ๆ รับ​เอา​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ฉัน​มี​ความ​ยินดี​มาก. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ก่อน​เล่า​ความ​หลัง​ให้​รู้​ว่า​เรา​จัด​การ​อย่าง​ไร​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​ครอบครัว ฉัน​ขอ​เล่า​เรื่อง​ที่​ตัว​เอง​ได้​รับ​การ​เลี้ยง​ดู​สมัย​เป็น​เด็ก.

แสวง​หา​การ​นำ​ทาง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล

ฉัน​เกิด​ปี 1938 ที่​เกาะ​จาเมกา แถบ​ทะเล​แคริบเบียน. แม้​พ่อ​ไม่​เป็น​สมาชิก​โบสถ์ แต่​ท่าน​ยอม​รับ​ว่า​ตัว​เอง​เคารพ​ยำเกรง​พระเจ้า. บ่อย​ครั้ง​ใน​ตอน​กลางคืน ท่าน​มัก​จะ​ขอ​ฉัน​อ่าน​พระ​ธรรม​บทเพลง​สรรเสริญ​ให้​ฟัง. มิ​ช้า​มิ​นาน ฉัน​สามารถ​ท่อง​จำ​เพลง​สรรเสริญ​ได้​หลาย​บท. แม่​เป็น​สมาชิก​โบสถ์​ใน​ท้องถิ่น และ​เคย​พา​ฉัน​เข้า​โบสถ์​ด้วย​เป็น​ครั้ง​คราว.

ณ การ​ประชุม​ของ​พวก​เขา เรา​ได้​ฟัง​เรื่อง​พระเจ้า​รับ​คน​ดี​ไป​สวรรค์ และ​ทรมาน​คน​ชั่ว​ตลอด​ไป​ใน​ไฟ​นรก. นอก​จาก​นั้น เขา​ยัง​สอน​ด้วย​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระเจ้า​และ​พระองค์​รัก​เด็ก ๆ. ฉัน​เริ่ม​รู้สึก​สับสน​และ​กลัว​พระเจ้า. ฉัน​สงสัย​ว่า ‘ใน​เมื่อ​พระเจ้า​ทรง​รัก​พวก​เรา พระองค์​จะ​ทรมาน​ผู้​คน​ด้วย​ไฟ​ได้​อย่าง​ไร?’

แนว​คิด​เรื่อง​ไฟ​นรก​ทำ​ให้​ฉัน​ฝัน​ร้าย. ต่อ​มา ฉัน​สมัคร​เรียน​พระ​คัมภีร์​ทาง​ไปรษณีย์ หลัก​สูตร​ที่​คริสตจักร​นิกาย​เซเวนท์เดย์ แอดเวนติสต์​จัด​ขึ้น. เขา​สอน​ว่า​คน​ชั่ว​จะ​ไม่​ถูก​ทรมาน​ตลอด​ไป แต่​จะ​ถูก​ไฟ​นรก​เผา​จน​มอด​เป็น​เถ้า​ถ่าน. จุด​นี้​ฟัง​ดู​มี​เหตุ​ผล​ดี​กว่า และ​ฉัน​จึง​เริ่ม​ไป​ร่วม​ประชุม​ทาง​ศาสนา​กับ​พวก​เขา. กระนั้น ฉัน​พบ​ว่า​หลัก​คำ​สอน​ของ​เขา​สับสน​เข้าใจ​ยาก และ​สิ่ง​ที่​เรียน​รู้​ก็​ไม่​ได้​แก้ไข​แง่​คิด​ผิด ๆ ของ​ฉัน​ใน​ด้าน​ศีลธรรม.

สมัย​นั้น คน​ทั่ว​ไป​ยอม​รับ​ว่า​การ​ประพฤติ​ผิด​ประเวณี​เป็น​สิ่ง​ชั่ว. แต่​ฉัน​และ​อีก​หลาย ๆ คน​เชื่อ​ว่า​เฉพาะ​พวก​ที่​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​หลาย​คน​นั่น​แหละ​คือ​คน​ผิด​ประเวณี. ดัง​นั้น เมื่อ​สอง​คน​ยัง​ไม่​แต่งงาน แต่​มี​เพศ​สัมพันธ์​เฉพาะ​คู่​ของ​ตน​จึง​ไม่​ถือ​ว่า​เป็น​การ​กระทำ​ผิด. (1 โกรินโธ 6:9, 10; เฮ็บราย 13:4) ความ​เชื่อ​แบบ​นั้น​มี​บทบาท​สำคัญ​ทำ​ให้​ฉัน​กลาย​เป็น​มารดา​ของ​ลูก​หก​คน​โดย​ไม่​ได้​แต่งงาน.

ทำ​ความ​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ

ปี 1965 วาสลีน กูดอิสัน​พร้อม​กับ​เอเทล แชมเบอส์​ได้​ย้าย​มา​อยู่​ใน​ชุมชน​บาธ​ซึ่ง​อยู่​ใกล้ ๆ. ทั้ง​สอง​เป็น​ไพโอเนียร์​หรือ​ผู้​ประกาศ​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​วัน​หนึ่ง​พวก​เธอ​ได้​มา​คุย​กับ​พ่อ​ของ​ฉัน. พ่อ​ตก​ลง​รับปาก​จะ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ที่​บ้าน. ถ้า​เขา​มา​เยี่ยม​วัน​ที่​ฉัน​อยู่​บ้าน เขา​ก็​จะ​คุย​กับ​ฉัน​ด้วย. ถึง​แม้​ฉัน​ยัง​คง​ระแวง​สงสัย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อยู่​มาก แต่​ก็​ตัดสิน​ใจ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​เขา​เพื่อ​หา​หลักฐาน​พิสูจน์​ว่า​พวก​เขา​เป็น​ฝ่าย​ผิด.

ระหว่าง​การ​ศึกษา ฉัน​มี​คำ​ถาม​มาก​มาย​หลาย​ข้อ และ​พยาน​ฯ ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​ตอบ​คำ​ถาม​ทุก​ข้อ. ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​เขา ฉัน​จึง​เรียน​รู้​ว่า​คน​ตาย​ไม่​รู้สึก​ตัว​และ​ไม่​ได้​ถูก​ทรมาน​ใน​นรก. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5, 10) นอก​จาก​นั้น ฉัน​ยัง​ได้​เรียน​เกี่ยว​กับ​ความ​หวัง​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก. (บทเพลง​สรรเสริญ 37:11, 29; วิวรณ์ 21:3, 4) ถึง​แม้​พ่อ​เลิก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​ฉัน​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ต่าง ๆ ที่​ประชาคม​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ท้องถิ่น. วิธี​ดำเนิน​การ​ประชุม​วาระ​ต่าง ๆ เป็น​ไป​อย่าง​สงบ​และ​มี​ระเบียบ​เปิด​โอกาส​ให้​ฉัน​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น. นอก​จาก​นั้น ฉัน​ยัง​ได้​เข้า​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​หมวด​และ​การ​ประชุม​ภาค​ด้วย ซึ่ง​เป็น​การ​ชุมนุม​ใหญ่​ที่​จัด​ขึ้น​โดย​เหล่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา. การ​ทราบ​เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เช่น​นี้​กระตุ้น​ให้​ฉัน​มี​ความ​ปรารถนา​อย่าง​แรง​กล้า​ที่​จะ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​ตาม​ที่​พระองค์​ทรง​ยอม​รับ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ยัง​มี​อุปสรรค​ขวาง​กั้น​อยู่.

ณ ตอน​นั้น ฉัน​อยู่​กิน​กับ​ชาย​ซึ่ง​เป็น​พ่อ​ของ​ลูก​สาม​คน​ใน​จำนวน​ลูก​หก​คน​ของ​ฉัน​โดย​ยัง​ไม่​ได้​จด​ทะเบียน​สมรส. ฉัน​เรียน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​พระเจ้า​ทรง​ตำหนิ​การ​มี​เพศ​สัมพันธ์​นอก​สาย​สมรส และ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​เริ่ม​รบกวน​ฉัน. (สุภาษิต 5:15-20; ฆะลาเตีย 5:19) ขณะ​ที่​ฉัน​มี​ความ​รัก​ลึกซึ้ง​มาก​ขึ้น​ใน​เรื่อง​ความ​จริง ฉัน​ก็​ยิ่ง​ต้องการ​จัดแจง​ชีวิต​ให้​ประสาน​กับ​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า. ใน​ที่​สุด ฉัน​ตัดสิน​ใจ. ฉัน​บอก​ผู้​ชาย​ที่​อยู่​กิน​ด้วย​กัน​ว่า​เรา​จะ​ต้อง​แต่งงาน​และ​จด​ทะเบียน​สมรส​ให้​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย ไม่​เช่น​นั้น​ก็​ต้อง​เลิก​กัน. แม้​ว่า​ชาย​ที่​ฉัน​อยู่​กิน​ด้วย​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​เช่น​เดียว​กัน​กับ​ฉัน แต่​เรา​ก็​ได้​แต่งงาน​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​เมื่อ​วัน​ที่ 15 สิงหาคม 1970 ห้า​ปี​ภาย​หลัง​พยาน​ฯ สอง​คน​นั้น​ได้​พูด​คุย​กับ​ฉัน​ครั้ง​แรก. เดือน​ธันวาคม 1970 ฉัน​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา.

ว่า​กัน​ถึง​เรื่อง​งาน​รับใช้ ฉัน​จะ​ไม่​มี​วัน​ลืม​วัน​นั้น​ซึ่ง​เป็น​วัน​แรก​ที่​ฉัน​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่. ฉัน​ประหม่า​มาก​และ​ไม่​รู้​วิธี​เริ่ม​สนทนา​เรื่อง​คัมภีร์​ไบเบิล. แท้​จริง ฉัน​โล่ง​ใจ​เมื่อ​เจ้าของ​บ้าน​หลัง​แรก​รวบรัด​การ​สนทนา​ให้​ยุติ​โดย​เร็ว. ใน​ไม่​ช้า ฉัน​ไม่​รู้สึก​ประหม่า​อีก​เลย. สิ้น​วัน​นั้น​ฉัน​มี​ความ​สุข​มาก เนื่อง​จาก​ฉัน​ได้​คุย​สั้น ๆ กับ​หลาย​คน​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล ทั้ง​ยัง​ให้​สิ่ง​พิมพ์​ที่​ยึด​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​เขา​ด้วย.

รักษา​ครอบครัว​ให้​เข้มแข็ง​ฝ่าย​วิญญาณ​เสมอ

พอ​มา​ใน​ปี 1977 ฉัน​มี​บุตร​เพิ่ม​อีก​สอง​คน. ฉัน​ตั้งใจ​แน่ว​แน่​จะ​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​สนับสนุน​ทุก​คน​ใน​ครัว​เรือน​ให้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. (ยะโฮซูอะ 24:15) ฉะนั้น ฉัน​พยายาม​อย่าง​จริงจัง​ที่​จะ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​ครอบครัว​เป็น​ประจำ. บาง​ครั้ง เนื่อง​จาก​อ่อน​เพลีย​มาก ฉัน​เผลอ​หลับ​ขณะ​ที่​ลูก​ยัง​อ่าน​ออก​เสียง​ข้อ​ความ​ตอน​หนึ่ง​อยู่ และ​ลูก ๆ ถึง​กับ​ต้อง​ปลุก​ฉัน​ให้​ตื่น. ทว่า การ​หมด​เรี่ยว​แรง​หา​ได้​เป็น​อุปสรรค​ขัด​ขวาง​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ประจำ​ครอบครัว​ของ​เรา​ไม่.

นอก​จาก​นั้น ฉัน​อธิษฐาน​ด้วย​กัน​กับ​ลูก ๆ บ่อย​ครั้ง. เมื่อ​เขา​โต​พอ​ที่​จะ​อธิษฐาน​เป็น ฉัน​ก็​สอน​เขา​ทูล​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​ตน​เอง. ฉัน​คอย​ดู​แล​แต่​ละ​คน​ให้​อธิษฐาน​ก่อน​เข้า​นอน​เสมอ. ฉัน​อธิษฐาน​กับ​ลูก​แต่​ละ​คน​ซึ่ง​ยัง​เล็ก​เกิน​กว่า​จะ​อธิษฐาน​เอง​ได้.

ที​แรก​สามี​ไม่​อยาก​ให้​ฉัน​พา​ลูก ๆ ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​ประชาคม. อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​คาด​หมาย​ที่​ว่า​เขา​เอง​ต้อง​เป็น​ฝ่าย​ดู​แล​ลูก​ระหว่าง​ฉัน​ไป​ร่วม​ประชุม ทำ​ให้​การ​ต่อ​ต้าน​ของ​เขา​เบา​บาง​ลง. ตอน​กลางคืน เขา​ชอบ​ออก​บ้าน​ไป​ขลุก​อยู่​กับ​เพื่อน​ฝูง แต่​การ​จะ​ไป​พร้อม​กับ​ลูก​แปด​คน​ไม่​ค่อย​ถูก​ใจ​เขา​สัก​เท่า​ไร! ใน​เวลา​ต่อ​มา เขา​ถึง​กับ​เริ่ม​ช่วย​ฉัน​เตรียม​ลูก ๆ ให้​พร้อม​ไป​หอ​ประชุม​เสีย​ด้วย​ซ้ำ.

ไม่​ช้า​ไม่​นาน ลูก​ทุก​คน​ก็​คุ้น​กับ​การ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ทุก​วาระ​ของ​ประชาคม และ​มี​ส่วน​ใน​งาน​เผยแพร่​แก่​สาธารณชน. ใน​ช่วง​โรง​เรียน​ปิด​ภาค​ฤดู​ร้อน ลูก ๆ จะ​ออก​ประกาศ​กับ​ไพโอเนียร์​หรือ​ผู้​เผยแพร่​ประเภท​เต็ม​เวลา​ใน​ประชาคม​บ่อย ๆ. นี่​แหละ​คือ​สิ่ง​ที่​ได้​ช่วย​ลูก​วัย​เยาว์​ของ​ฉัน​พัฒนา​ความ​รัก​ด้วย​ใจ​จริง​ต่อ​ประชาคม​และ​งาน​เผยแพร่.—มัดธาย 24:14.

ยาม​ที่​มี​การ​ทดสอบ

เพื่อ​เขยิบ​ฐานะ​ทาง​การ​เงิน​ของ​ครอบครัว สามี​ของ​ฉัน​เริ่ม​เดิน​ทาง​ไป​ทำ​งาน​นอก​ประเทศ. เขา​จาก​ครอบครัว​ครั้ง​ละ​นาน ๆ แต่​ก็​กลับ​บ้าน​เป็น​ระยะ ๆ สม่ำเสมอ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ปี 1989 เขา​ไป​แล้ว​ไม่​กลับ​มา​อีก​เลย. ดัง​ที่​เกริ่น​ไว้​ตอน​ต้น การ​ที่​สามี​ฉัน​หาย​สาบสูญ ทำ​ให้​ฉัน​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​ความ​รู้สึก​อ้างว้าง​ว่าง​เปล่า. ฉัน​นอน​ร้องไห้​หลาย​คืน และ​ด้วย​ศรัทธา​แรง​กล้า​ฉัน​เฝ้า​อธิษฐาน​ทูล​พระ​ยะโฮวา​ขอ​การ​ปลอบ​ประโลม​และ​ความ​อด​ทน และ​รู้สึก​ว่า​พระองค์​ทรง​สดับ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ฉัน. ข้อ​คัมภีร์​ต่าง ๆ เช่น ยะซายา 54:4 และ 1 โกรินโธ 7:15 ช่วย​ประโลม​ฉัน​ให้​สงบ​ใจ​และ​เติม​พละกำลัง​เพื่อ​สู้​ชีวิต​ต่อ​ไป. นอก​จาก​นี้ ใน​ประชาคม​คริสเตียน บรรดา​ญาติ​และ​เพื่อน ๆ ได้​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ฉัน​ทั้ง​ด้าน​อารมณ์​และ​วัตถุ​ปัจจัย. ฉัน​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​และ​ประชาชน​ของ​พระองค์​เป็น​อย่าง​มาก​สำหรับ​การ​สงเคราะห์​ของ​พวก​เขา.

เรา​ประสบ​การ​ทดลอง​หลาย​อย่าง. ครั้ง​หนึ่ง ลูก​สาว​คน​หนึ่ง​ถูก​ขับ​ออก​จาก​ประชาคม​เพราะ​ความ​ประพฤติ​ไม่​ถูก​ต้อง​ตาม​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล. ฉัน​รัก​ลูก​ทุก​คน​สุด​ชีวิต​ที​เดียว กระนั้น ความ​ซื่อ​สัตย์​ภักดี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ต้อง​มา​เป็น​อันดับ​แรก. ดัง​นั้น ใน​ช่วง​เวลา​ดัง​กล่าว ฉัน​กับ​ลูก​คน​อื่น ๆ จึง​ได้​ปฏิบัติ​ตาม​การ​ชี้​นำ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​เคร่งครัด​ว่า​ด้วย​แนว​ทาง​อัน​พึง​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​ที่​ถูก​ตัด​สัมพันธ์. (1 โกรินโธ 5:11, 13) ผู้​คน​ซึ่ง​ไม่​เข้าใจ​จุด​ยืน​ของ​เรา​ได้​วิพากษ์วิจารณ์​อย่าง​หนัก. อย่าง​ไร​ก็​ดี หลัง​จาก​ลูก​สาว​ถูก​รับ​กลับ​สู่​ฐานะ​เดิม​ใน​ประชาคม สามี​ของ​เธอ​บอก​ว่า​รู้สึก​ประทับใจ​ที่​พวก​เรา​ยึด​มั่น​กับ​หลักการ​ต่าง ๆ ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. เวลา​นี้ เขา​พร้อม​ทั้ง​ครอบครัว​รับใช้​พระ​ยะโฮวา.

เผชิญ​ปัญหา​ด้าน​การ​เงิน

ตอน​ที่​สามี​ทิ้ง​ฉัน​กับ​ลูก ๆ ไป​นั้น ฉัน​ไม่​มี​ราย​ได้​แน่นอน และ​ครอบครัว​ก็​ไม่​ได้​รับ​การ​เกื้อ​หนุน​ด้าน​การ​เงิน​จาก​เขา​อีก​เลย. สภาพการณ์​แบบ​นี้​สอน​พวก​เรา​ให้​พอ​ใจ​กับ​ชีวิต​เรียบ​ง่าย​และ​เห็น​คุณค่า​ความ​มั่งคั่ง​ฝ่าย​วิญญาณ​มาก​กว่า​การ​แสวง​หา​ทรัพย์​สิ่ง​ของ. ขณะ​ที่​ลูก​เรียน​รู้​ที่​จะ​รัก​กัน​และ​ช่วยเหลือ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน พวก​เขา​ผูก​พัน​ใกล้​ชิด​กัน​มาก​ขึ้น. เมื่อ​พวก​พี่​ที่​โต​แล้ว​เริ่ม​ทำ​งาน พวก​เขา​ให้​การ​สนับสนุน​น้อง ๆ ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ. มาร์เซรี ลูก​สาว​คน​โต​รับ​ภาระ​ช่วย​นิโคล​น้อง​คน​สุด​ท้อง​จน​เรียน​จบ​ชั้น​มัธยม​ต้น. นอก​จาก​นี้ ฉัน​สามารถ​เปิด​ร้าน​เล็ก ๆ ขาย​ของชำ. ราย​ได้​นิด ๆ หน่อย ๆ ได้​ช่วย​ฉัน​ให้​เอา​ใจ​ใส่​สิ่ง​จำเป็น​ของ​เรา​ด้าน​วัตถุ.

พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​ละ​ทิ้ง​พวก​เรา. คราว​หนึ่ง ฉัน​บอก​ซิสเตอร์​คริสเตียน​คน​หนึ่ง​ถึง​สถานะ​ของ​เรา​ด้าน​การ​เงิน​ที่​ขัดข้อง อัน​เป็น​เหตุ​ที่​เรา​คง​ไม่​สามารถ​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค. เธอ​ตอบ​ว่า “ซิสเตอร์​แว เมื่อ​คุณ​ได้​ยิน​ว่า​จะ​มี​การ​ประชุม​ภาค ให้​คุณ​เริ่ม​จัดแจง​เตรียม​การ​เดิน​ทาง​ไว้​ให้​พร้อม! พระ​ยะโฮวา​จะ​จัด​เตรียม​ให้​คุณ​ตาม​ความ​ประสงค์.” ฉัน​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​เธอ. พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​เตรียม​ให้​จริง และ​พระองค์​ทรง​ทำ​เช่น​นั้น​เรื่อย​มา. ครอบครัว​ของ​เรา​ไม่​เคย​พลาด​การ​ประชุม​หมวด​หรือ​การ​ประชุม​ภาค​เพราะ​เหตุ​ไม่​มี​เงิน​พอ.

ปี 1988 จาเมกา​ถูก​พายุ​เฮอร์ริเคน​กิลเบิร์ต​พัด​ถล่ม​เสียหาย​ยับเยิน พวก​เรา​ทิ้ง​บ้าน​ไป​อยู่​ใน​ที่​ที่​ปลอด​ภัย​กว่า. ระหว่าง​พายุ​สงบ ฉัน​กับ​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​พา​กัน​ออก​จาก​ที่​หลบ​ภัย เพื่อ​สำรวจ​บ้าน​ที่​ได้​รับ​ความ​เสียหาย. ขณะ​ค้น​หา​ของ​ใต้​ซาก​ปรัก​หัก​พัง ฉัน​ก็​พบ​สิ่ง​ที่​ฉัน​ต้องการ​จะ​เอา​ไป​ด้วย. ทันใด​นั้น​เอง เสียง​พายุ​ดัง​สนั่น​ครั่น​ครื้น​โหม​เข้า​มา​อีก แต่​ฉัน​ยัง​คง​หอบ​ของ​ชิ้น​นั้น​ไว้​ไม่​ยอม​ปล่อย. “แม่ ทิ้ง​โทรทัศน์​นั้น​เสีย​เถอะ. แม่​เป็น​ภรรยา​โลต​หรือ?” (ลูกา 17:31, 32) คำ​พูด​ของ​ลูก​ชาย​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​สติ. ฉัน​ทิ้ง​โทรทัศน์​โชก​น้ำ​ฝน​นั้น​ไว้​ที่​เดิม แล้ว​เรา​สอง​คน​พา​กัน​วิ่ง​เอา​ชีวิต​รอด.

ตอน​นี้​ฉัน​ตัว​สั่น​เมื่อ​หวน​นึก​ถึง​การ​เอา​ชีวิต​ไป​เสี่ยง​เพื่อ​โทรทัศน์​เครื่อง​นั้น. แต่​ครั้น​คิด​ถึง​คำ​พูด​ที่​บ่ง​บอก​ความ​ตื่น​ตัว​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ลูก​ชาย​ใน​โอกาส​นั้น ฉัน​เป็น​สุข​ใจ​เสีย​จริง ๆ. เนื่อง​จาก​ลูก​ได้​รับ​การ​ฝึก​สอน​เกี่ยว​กับ​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​จาก​ประชาคม​คริสเตียน เขา​สามารถ​ช่วย​ฉัน​เลี่ยง​อันตราย​ร้ายแรง​ทาง​กายภาพ และ​บาง​ที​อาจ​เป็น​อันตราย​ฝ่าย​วิญญาณ​ก็​ได้.

พายุ​เฮอร์ริเคน​ไม่​เพียง​ทำลาย​บ้าน​และ​สมบัติ​ทุก​ชิ้น​ของ​เรา​เท่า​นั้น มัน​ยัง​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​ท้อ​แท้​หมด​กำลังใจ​ด้วย. ครั้น​แล้ว​พี่​น้อง​คริสเตียน​ของ​เรา​ก็​มา​ถึง. พวก​เขา​สนับสนุน​เรา​ให้​ยอม​รับ​การ​สูญ​เสีย​โดย​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​และ​ทำ​งาน​ประกาศ​อย่าง​ขันแข็ง​ต่อ ๆ ไป และ​พวก​เขา​ได้​ช่วย​เรา​ปลูก​บ้าน​หลัง​ใหม่. เรา​ซาบซึ้ง​มาก​ใน​ผล​งาน​ที่​ทำ​ด้วย​ความ​รัก​และ​การ​เสีย​สละ​ของ​พยาน​ฯ อาสา​สมัคร​จาก​จาเมกา​และ​จาก​ต่าง​ประเทศ.

จัด​ให้​พระ​ยะโฮวา​มา​เป็น​อันดับ​แรก

ภาย​หลัง​เมเลน​ลูก​คน​ที่​สอง​เรียน​จบ​แล้ว เธอ​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์. ต่อ​จาก​นั้น เธอ​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ให้​ร่วม​งาน​ไพโอเนียร์​กับ​อีก​ประชาคม​หนึ่ง ทั้ง​นี้​หมาย​ถึง​การ​ต้อง​ออก​จาก​งาน. แม้​งาน​นั้น​เปิด​โอกาส​ให้​เธอ​ได้​จุนเจือ​ครอบครัว​ของ​เรา​มาก​ทาง​การ​เงิน เรา​เชื่อ​มั่น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​ดู​แล​ถ้า​พวก​เรา​แต่​ละ​คน​จัด​เอา​ราชอาณาจักร​ไว้​เป็น​อันดับ​แรก. (มัดธาย 6:33) ต่อ​มา ยู​อัน​ลูก​ชาย​ก็​ได้​รับ​การ​เชิญ​ให้​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​เช่น​กัน. เขา​ช่วยเหลือ​ครอบครัว​ด้าน​การ​เงิน แต่​เรา​สนับสนุน​เขา​ให้​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ครั้ง​นั้น​และ​ขอ​ให้​เขา​ได้​รับ​พระ​พร​ของ​พระ​ยะโฮวา. ฉัน​ไม่​เคย​ทัด​ทาน​หรือ​พูด​ให้​ลูก​ท้อ​ถอย​เมื่อ​เขา​ต้องการ​ขยาย​งาน​รับใช้​ราชอาณาจักร และ​ลูก ๆ ที่​ยัง​อยู่​ที่​บ้าน​ก็​ไม่​เคย​ขาด​แคลน​สิ่ง​จำเป็น​ใด ๆ. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น เรา​ประสบ​ความ​ชื่นชม​ยินดี​มาก​ขึ้น แถม​บาง​ครั้ง​ยัง​สามารถ​ช่วย​คน​อื่น​ที่​อัตคัด​ขัดสน​ได้.

เวลา​นี้ ฉัน​ปลื้ม​ปีติ​เสีย​จริง ๆ ที่​เห็น​ลูก ๆ “ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง.” (3 โยฮัน 4, .ม.) เม​เลน หนึ่ง​ใน​จำนวน​ลูก​สาว​ของ​ฉัน ปัจจุบัน​ได้​ร่วม​เดิน​ทาง​กับ​สามี​ซึ่ง​รับใช้​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​หมวด. แอนเดรีย​ลูก​สาว​ได้​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ​พร้อม​กับ​สามี​ของ​เธอ และ​ติด​ตาม​สามี​เมื่อ​เขา​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ ฐานะ​ผู้​ทำ​หน้า​ที่​แทน​ผู้​ดู​แล​หมวด. ยูอัน ลูก​ชาย​กับ​ภรรยา​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ และ​เขา​เป็น​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม. เอวา-เกย์ ลูก​สาว​อีก​คน​หนึ่ง​รับใช้​ร่วม​กับ​สามี​ของ​เธอ​ใน​สำนักงาน​สาขา​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ประเทศ​จาเมกา. เจนนิเฟอร์, เจนีฟ, และ​นิโคล​กับ​สามี​ของ​พวก​เธอ​และ​ลูก ๆ ต่าง​ก็​รับใช้​อย่าง​ขันแข็ง​ใน​ประชาคม​ของ​พวก​เขา​แต่​ละ​แห่ง. มาร์เซรี​ยัง​อาศัย​อยู่​กับ​ฉัน และ​เรา​สอง​คน​เข้า​ร่วม​ประชุม​กับ​ประชาคม​พอร์ต มอรันต์. นับ​ว่า​เป็น​พระ​พร​ประเสริฐ​เลิศ​ล้น​สำหรับ​ฉัน​ที่​ลูก​ทั้ง​แปด​คน​ยัง​คง​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​อยู่​เรื่อย​มา.

ขณะ​ที่​อายุ​มาก​ขึ้น ปัญหา​สุขภาพ​ก็​ตาม​มา. ตอน​นี้​ฉัน​ต้อง​ทน​อยู่​กับ​โรค​ข้อ​อักเสบ​รูมาทอยด์ แต่​ฉัน​ก็​ยัง​คง​ชื่น​ชอบ​งาน​ไพโอเนียร์. นาน​มา​แล้ว การ​เดิน​ใน​ชุมชน​ที่​ฉัน​อาศัย​อยู่​นั้น​ลำบาก​มาก เพราะ​พื้น​ที่​เป็น​เนิน​เขา. ที่​จะ​ออก​ไป​รับใช้​นั้น​ค่อนข้าง​ยาก. ฉัน​จึง​พยายาม​หัด​ขี่​จักรยาน​จน​เป็น และ​พบ​ว่า​การ​ทำ​งาน​คล่อง​ขึ้น​กว่า​เดิม. ดัง​นั้น ฉัน​หา​ซื้อ​จักรยาน​มือ​สอง​มา​ใช้. ตอน​แรก ลูก ๆ รู้สึก​เป็น​กังวล​เมื่อ​เห็น​แม่​ขี่​จักรยาน​ทั้ง​ที่​ป่วย​เป็น​โรค​ข้อ​อักเสบ. กระนั้น พวก​เขา​พึง​พอ​ใจ​ที่​เห็น​ฉัน​ออก​ไป​ประกาศ​ได้​สม​ดัง​ใจ​ปรารถนา.

ฉัน​ยินดี​มาก​เมื่อ​เห็น​คน​ที่​ฉัน​เคย​นำ​การ​ศึกษา​ตอบรับ​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. ฉัน​อธิษฐาน​เสมอ​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ต่อ​พระองค์​ตลอด​สมัย​สุด​ท้าย​นี้​และ​ต่อ​ไป​อีก​ชั่ว​กาล​นาน. ฉัน​ขอ​ถวาย​คำ​สรรเสริญ​และ​การ​ขอบพระคุณ​แด่​พระ​ยะโฮวา “ผู้​สดับ​คำ​อธิษฐาน” องค์​ใหญ่​ยิ่ง​ที่​ทรง​ค้ำจุน​ฉัน​ให้​สามารถ​รับมือ​ข้อ​ท้าทาย​ที่​ได้​เลี้ยง​ลูก​แปด​คน​ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระองค์.—บทเพลง​สรรเสริญ 65:2.

[ภาพ​หน้า 10]

ฉัน​กับ​ลูก ๆ รวม​ทั้ง​คู่​สมรส​ของ​เขา และ​หลาน ๆ

[ภาพ​หน้า 12]

เวลา​นี้​ฉัน​ใช้​จักรยาน​เมื่อ​ไป​ทำ​งาน​เผยแพร่