ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ตั้งใจแน่วแน่จะรับใช้พระยะโฮวา

ตั้งใจแน่วแน่จะรับใช้พระยะโฮวา

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา

เล่า​โดย​ไรโม โกกาเนน

ปี 1939 เกิด​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 ใน​ยุโรป และ​สหภาพ​โซเวียต​บุก​โจมตี​ฟินแลนด์​ประเทศ​บ้าน​เกิด​ของ​ผม. พ่อ​จาก​บ้าน​ไป​ร่วม​รบ​ใน​กองทัพ​ฟินแลนด์. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น เครื่องบิน​รบ​ของ​รัสเซีย​ได้​ทิ้ง​ระเบิด​ใน​เมือง​ที่​พวก​เรา​อยู่ และ​แม่​ส่ง​ผม​ไป​อยู่​กับ​ยาย​ใน​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​ปลอด​ภัย​กว่า.

ใน​ปี 1971 ผม​ทำ​งาน​รับใช้​ฐานะ​มิชชันนารี​ใน​ประเทศ​ยูกันดา แอฟริกา​ตะวัน​ออก. วัน​หนึ่ง ขณะ​ที่​ผม​กำลัง​ประกาศ​ตาม​บ้าน ผู้​คน​วิ่ง​ผ่าน​ผม​ไป​ด้วย​ความ​ตื่น​ตระหนก. ผม​ได้​ยิน​เสียง​ปืน​จึง​วิ่ง​แน่ว​กลับ​บ้าน. เนื่อง​จาก​เสียง​ปืน​ใกล้​ตัว​เข้า​มา​ทุก​ที ผม​จึง​กระโดด​ลง​ไป​หลบ​อยู่​ใน​คู​ข้าง​ถนน. ขณะ​ที่​ลูก​ปืน​เฉียด​ข้าม​หัว​ผม​ไป ผม​คลาน​กลับ​บ้าน.

ผม​ไม่​สามารถ​หลีก​เลี่ยง​ผล​กระทบ​ของ​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 ได้ แต่​ด้วย​เหตุ​ผล​อะไร​ที่​ผม​กับ​ภรรยา​สมัคร​ใจ​ยอม​เสี่ยง​ชีวิต​มา​เผชิญ​กับ​ความ​ไม่​สงบ​ใน​แอฟริกา​ตะวัน​ออก? คำ​ตอบ​เกี่ยว​ข้อง​อย่าง​มาก​กับ​ความ​ตั้งใจ​แน่วแน่​ของ​เรา​ที่​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา.

ความ​ตั้งใจ​แน่วแน่​ถูก​เพาะ​ไว้

ผม​เกิด​ปี 1934 ที่​กรุง​เฮลซิงกิ ประเทศ​ฟินแลนด์. พ่อ​ผม​เป็น​ช่าง​ทาสี วัน​หนึ่ง พ่อ​ต้อง​ไป​ทาสี​อาคาร​สำนักงาน​สาขา​ฟินแลนด์​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. พยาน​ฯ คุย​กับ​พ่อ​เรื่อง​การ​ประชุม​ต่าง ๆ ของ​ประชาคม. เมื่อ​พ่อ​กลับ​มา​บ้าน พ่อ​ได้​บอก​แม่​เกี่ยว​กับ​การ​ประชุม​เหล่า​นั้น. ตอน​นั้น​แม่​ยัง​ไม่​ไป​ร่วม​ประชุม แต่​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ท่าน​เริ่ม​พิจารณา​เรื่อง​ต่าง ๆ ใน​พระ​คัมภีร์​กับ​เพื่อน​ร่วม​งาน​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​พยาน​ฯ. ไม่​ช้า​แม่​ก็​เอา​จริง​เอา​จัง​กับ​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้ และ​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ปี 1940.

พอ​ดี​ก่อน​หน้า​นั้น ยาย​ได้​รับ​ผม​ไป​อยู่​ด้วย​ที่​บ้าน​นอก​ตลอด​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2. แม่​อยู่​ที่​กรุง​เฮลซิงกิ​เริ่ม​เขียน​จดหมาย​บอก​ยาย​กับ​น้า​สาว​ถึง​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ศรัทธา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ทั้ง​สอง​คน​แสดง​ความ​สนใจ​และ​เล่า​สิ่ง​ที่​เรียน​รู้​มา​ให้​ผม​ฟัง​อีก​ทอด​หนึ่ง. ผู้​แทน​เดิน​ทาง​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​มา​เยี่ยม​ที่​บ้าน​ยาย​และ​สนับสนุน​พวก​เรา แต่​ผม​ยัง​ไม่​ตัดสิน​ใจ​จะ​รับใช้​พระเจ้า.

การ​อบรม​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ได้​ช่วย​ผม

เมื่อ​สงคราม​ยุติ​ใน​ปี 1945 ผม​กลับ​ไป​ที่​กรุง​เฮลซิงกิ และ​แม่​เริ่ม​พา​ผม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ต่าง ๆ ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. บาง​ครั้ง​ผม​ไป​ดู​ภาพยนตร์ แทน​ที่​จะ​ไป​ประชุม. แต่​แม่​มัก​จะ​พูด​เรื่อง​ที่​แม่​ได้​ฟัง​จาก​คำ​บรรยาย ณ การ​ประชุม และ​ย้ำ​จุด​หนึ่ง​อยู่​เสมอ​ว่า​อาร์มาเก็ดดอน​มา​ใกล้​แล้ว. ผม​เชื่อ​เรื่อง​นี้ และ​จึง​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ทุก​รายการ. ขณะ​ที่​การ​หยั่ง​เห็น​คุณค่า​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เพิ่ม​ทวี ผม​ก็​ยิ่ง​ปรารถนา​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​กิจกรรม​ทุก​อย่าง​ของ​ประชาคม.

ผม​ชอบ​เป็น​พิเศษ​เมื่อ​ได้​ไป​ยัง​การ​ประชุม​หมวด​และ​การ​ประชุม​ภาค. ปี 1948 ผม​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ใกล้​บ้าน​ยาย ตอน​นั้น​เป็น​ช่วง​ปิด​ภาค​เรียน​และ​ผม​ไป​พักผ่อน​ตากอากาศ​ที่​นั่น. เพื่อน​ผม​คน​หนึ่ง​กำลัง​จะ​รับ​บัพติสมา ณ การ​ประชุม​ภาค​ครั้ง​นั้น และ​เขา​ชวน​ผม​ให้​รับ​บัพติสมา​ด้วย. ผม​บอก​เขา​ว่า​ไม่​ได้​นำ​ชุด​ว่าย​น้ำ​มา​ด้วย แต่​เขา​เสนอ​ให้​ผม​ใช้​ชุด​ของ​เขา​หลัง​จาก​เขา​รับ​บัพติสมา​เสร็จ​แล้ว. ผม​รับ​คำ​และ​จึง​ได้​รับ​บัพติสมา ณ วัน​ที่ 27 มิถุนายน 1948 เมื่อ​อายุ 13 ปี.

ภาย​หลัง​การ​ประชุม​ภาค เพื่อน​ของ​แม่​บาง​คน​บอก​แม่​ว่า​ผม​รับ​บัพติสมา​แล้ว. ใน​เวลา​ต่อ​มา เมื่อ​ผม​กลับ​มา​อยู่​กับ​แม่ แม่​อยาก​รู้​เหตุ​ผล​ที่​ผม​ตัดสิน​ใจ​ทำ​ขั้น​ตอน​สำคัญ​เช่น​นั้น​โดย​ไม่​มี​การ​หารือ​กัน​ก่อน. ผม​ชี้​แจง​ว่า​ผม​เข้าใจ​คำ​สอน​พื้น​ฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ตระหนัก​ถึง​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​สำหรับ​การ​กระทำ​ของ​ผม.

มี​ความ​ตั้งใจ​แน่วแน่​มาก​ขึ้น

พวก​พี่​น้อง​ใน​ประชาคม​สนับสนุน​ความ​ตั้งใจ​ของ​ผม​ให้​เข้มแข็ง​มาก​ขึ้น​เพื่อ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. พวก​เขา​ไป​กับ​ผม​เมื่อ​เรา​ออก​ประกาศ​ตาม​บ้าน และ​มอบหมาย​ส่วน​การ​ประชุม​ให้​ผม​แทบ​ทุก​สัปดาห์. (กิจการ 20:20) เมื่อ​ผม​อายุ 16 ปี​ผม​ได้​ขึ้น​บรรยาย​สาธารณะ​ครั้ง​แรก. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน​ผม​ถูก​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​รับใช้​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ประชาคม​ของ​เรา. กิจกรรม​ทุก​อย่าง​ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เสริม​ให้​ผม​บรรลุ​วุฒิ​ภาวะ กระนั้น ผม​ยัง​ต้อง​เอา​ชนะ​การ​กลัว​หน้า​มนุษย์.

สมัย​นั้น เมื่อ​จัด​ประชุม​ภาค​เรา​โฆษณา​ปาฐกถา​ด้วย​แผ่น​ป้าย​ขนาด​ใหญ่. แผ่น​ป้าย​แต่​ละ​ชุด​ประกอบ​ด้วย​ป้าย​สอง​แผ่น​ผูก​เชื่อม​กัน​ด้วย​เชือก​สอง​เส้น​แขวน​ประกบ​ตัว​ทั้ง​ด้าน​หน้า​และ​หลัง. ดัง​นั้น บาง​คน​เรียก​พวก​เรา​ว่า​แซนด์วิชแมน.

ครั้ง​หนึ่ง ผม​ยืน​อยู่​ที่​มุม​ถนน​อัน​เงียบ​สงัด ป้าย​โฆษณา​ยัง​คง​ทาบ​ตัว​อยู่ ผม​แล​เห็น​นัก​เรียน​ร่วม​ชั้น​กลุ่ม​หนึ่ง​มุ่ง​หน้า​มา​ทาง​ผม. ขณะ​ที่​พวก​เขา​เดิน​ผ่าน​ไป สายตา​ของ​เขา​ทำ​ให้​ผม​หวาด​กลัว. ผม​ทูล​อธิษฐาน​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ประทาน​ความ​กล้า​หาญ​และ​ผม​ยืน​นิ่ง​พร้อม​กับ​มี​แผ่น​ป้าย​ประกบ​อยู่. การ​เอา​ชนะ​ความ​กลัว​หน้า​มนุษย์​คราว​นั้น​เป็น​การ​เตรียม​ผม​ไว้​พร้อม​สำหรับ​การ​ทดลอง​ที่​สาหัส​กว่า เกี่ยว​เนื่อง​กับ​การ​รักษา​ตัว​เป็น​กลาง​แบบ​คริสเตียน.

ใน​เวลา​ต่อ​มา รัฐบาล​ออก​คำ​สั่ง​ให้​ผม​และ​พยาน​ฯ หนุ่ม ๆ จำนวน​หนึ่ง​ไป​รายงาน​ตัว​เป็น​ทหาร. พวก​เรา​ไป​ถึง​ที่​ตั้ง​กอง​ทหาร​ตาม​คำ​สั่ง แต่​ด้วย​ท่าที​ที่​แสดง​ความ​นับถือ พวก​เรา​ปฏิเสธ​การ​สวม​เครื่อง​แบบ. พวก​เรา​ถูก​เจ้าหน้าที่​กัก​ตัว​ไว้​ใน​ค่าย​ทหาร และ​หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ศาล​ตัดสิน​จำ​คุก​พวก​เรา​เป็น​เวลา​หก​เดือน. อนึ่ง เรา​ยัง​ต้อง​ติด​คุก​อีก​แปด​เดือน เท่า​กับ​เวลา​ที่​ต้อง​เข้า​ประจำการ. ฉะนั้น เรา​ติด​คุก​รวม 14 เดือน​เพราะ​การ​ยืนหยัด​เป็น​กลาง​ของ​พวก​เรา.

ใน​โรง​นอน​ของ​เรือน​จำ พวก​เรา​ร่วม​ประชุม​พิจารณา​พระ​คัมภีร์​ด้วย​กัน​ทุก​วัน. ตลอด​หลาย​เดือน หลาย​คน​ใน​พวก​เรา​ได้​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​จบ​เล่ม​ถึง​สอง​รอบ. เมื่อ​ครบ​กำหนดการ​ต้อง​โทษ พวก​เรา​ที่​ออก​จาก​คุก​ส่วน​ใหญ่​มุ่ง​มั่น​ตั้งใจ​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ให้​มาก​ยิ่ง​ขึ้น. พยาน​ฯ หนุ่ม ๆ หลาย​คน​ใน​กลุ่ม​นี้​ยัง​คง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ตราบ​ทุก​วัน​นี้.

หลัง​จาก​พ้น​เรือน​จำ​ออก​มา​แล้ว ผม​กลับ​ไป​อยู่​กับ​พ่อ​แม่. ต่อ​มา​ไม่​นาน ผม​ก็​เริ่ม​รู้​จัก​คุ้น​เคย​กับ​วีรา พยาน​ฯ ที่​กระตือรือร้น​ซึ่ง​เพิ่ง​รับ​บัพติสมา. เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​ปี 1957.

เหตุ​การณ์​ใน​เย็น​วัน​หนึ่ง​ได้​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​เรา

เย็น​วัน​หนึ่ง ขณะ​ไป​เยี่ยม​กับ​พี่​น้อง​ผู้​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​จาก​สำนักงาน​สาขา พี่​น้อง​คน​หนึ่ง​ถาม​เรา​ว่า​อยาก​เข้า​สู่​งาน​หมวด​หรือ​เปล่า. ภาย​หลัง​การ​ทูล​อธิษฐาน​ตลอด​คืน ผม​จึง​แจ้ง​สาขา​ว่า​เรา​ตอบรับ​คำ​เชิญ. การ​จะ​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา จำเป็น​ต้อง​ลา​ออก​จาก​งาน​ที่​มี​ราย​ได้​ดี ทว่า​เรา​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​จัด​ให้​ราชอาณาจักร​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​อันดับ​แรก​ใน​ชีวิต. อายุ​ผม 23 ปี และ​อายุ​วีรา 19 ปี เมื่อ​เรา​เริ่ม​งาน​เยี่ยม​หมวด​เดือน​ธันวาคม 1957. เรา​เพลิดเพลิน​กับ​การ​เยี่ยม​และ​สนับสนุน​ประชาคม​พยาน​พระ​ยะโฮวา​หลาย​แห่ง​ใน​ฟินแลนด์​เป็น​เวลา​สาม​ปี.

ช่วง​ปลาย​ปี 1960 ผม​ได้​รับ​จดหมาย​เชิญ​เข้า​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก. มี​สาม​คน​จาก​ฟินแลนด์​เข้า​รับ​การ​อบรม​หลัก​สูตร​พิเศษ​สิบ​เดือน​เกี่ยว​กับ​การ​ดำเนิน​งาน​ของ​สาขา. ภรรยา​ของ​พวก​เรา​ไม่​ได้​เข้า​อบรม​ด้วย แต่​พวก​เธอ​ทำ​งาน​ที่​สำนักงาน​สาขา​ฟินแลนด์.

ไม่​นาน​ก่อน​เรียน​จบ​หลัก​สูตร ผม​ถูก​เรียก​ไป​รายงาน​ตัว​ที่​ห้อง​ทำ​งาน​ของ​นาทาน เอช. นอรร์ สมัย​นั้น​ท่าน​ดู​แล​กิจการ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทั่ว​โลก. บราเดอร์​นอรร์​เสนอ​ให้​ผม​กับ​ภรรยา​ไป​ทำ​งาน​มิชชันนารี​ใน​สาธารณรัฐ​มาลากาซี ปัจจุบัน​คือ​เกาะ​มาดากัสการ์. ผม​ส่ง​ข่าว​ถึง​วีรา​และ​ถาม​เธอ​ว่า​คิด​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​งาน​มอบหมาย​ครั้ง​นี้ เธอ​ตอบ​จดหมาย​ทันที​ว่า “ตก​ลง.” เมื่อ​ผม​กลับ​ไป​ถึง​ฟินแลนด์ เรา​ก็​เร่ง​รีบ​เตรียม​ตัว​ให้​พร้อม​สำหรับ​ชีวิต​ใน​มาดากัสการ์.

ความ​ยินดี​และ​ความ​ผิด​หวัง

เดือน​มกราคม 1962 เรา​บิน​ไป​อันตานานาริโว เมือง​หลวง​ของ​ประเทศ เรา​สวม​หมวก​ขน​สัตว์​และ​เสื้อ​คลุม​ตัว​โคร่ง​และ​หนัก เนื่อง​จาก​เรา​ไป​จาก​ฟินแลนด์​ใน​ช่วง​ฤดู​หนาว. เมื่อ​เจอ​สภาพ​อากาศ​ร้อน​ใน​ประเทศ​มาดากัสการ์ เรา​จึง​ต้อง​เปลี่ยน​รูป​แบบ​เสื้อ​ผ้า​เสีย​ใหม่​โดย​เร็ว. บ้าน​มิชชันนารี​หลัง​แรก​ของ​เรา​เป็น​บ้าน​หลัง​เล็ก​มี​หนึ่ง​ห้อง​นอน. มิชชันนารี​คู่​สมรส​มา​อยู่​ก่อน​แล้ว ดัง​นั้น ผม​กับ​วีรา​จึง​นอน​ที่​ระเบียง.

เรา​เริ่ม​เรียน​ภาษา​ฝรั่งเศส ภาษา​ทาง​การ​ภาษา​หนึ่ง​ของ​มาดากัสการ์. นี่​เป็น​การ​เรียน​ที่​ค่อนข้าง​ยาก เพราะ​เรา​สอง​คน​ไม่​ได้​พูด​ภาษา​เดียว​กัน​กับ​ซิสเตอร์​การ์บอโน​ซึ่ง​เป็น​ผู้​สอน. เธอ​ใช้​ภาษา​อังกฤษ​เมื่อ​สอน​เรา​ภาษา​ฝรั่งเศส แต่​วีรา​ไม่​ได้​พูด​ภาษา​อังกฤษ. ฉะนั้น ผม​ต้อง​แปล​การ​สอน​ของ​ซิสเตอร์​การ์บอโน​เป็น​ภาษา​ฟินแลนด์​ให้​วีรา. ต่อ​มา​เรา​รับ​รู้​ว่า​วีรา​เข้าใจ​คำ​ศัพท์​ภาษา​สวีเดน​ได้​ดี​กว่า ผม​ก็​เลย​ต้อง​อธิบาย​ไวยากรณ์​ภาษา​ฝรั่งเศส​เป็น​ภาษา​สวีเดน. ไม่​นาน เรา​ก็​ก้าว​หน้า​ด้าน​การ​พูด​ภาษา​ฝรั่งเศส​ได้​เป็น​อย่าง​ดี แล้ว​เรา​จึง​เริ่ม​เรียน​มาลา​กา​ซี ภาษา​ท้องถิ่น.

ผม​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ราย​แรก​ใน​มาดากัสการ์​กับ​ผู้​ชาย​ซึ่ง​พูด​ได้​เพียง​ภาษา​มาลา​กา​ซี. ผม​ค้น​หา​ข้อ​คัมภีร์​จาก​ฉบับ​ภาษา​ฟินแลนด์​ก่อน แล้ว​จึง​ค้น​หา​ข้อ​ต่าง ๆ ใน​คัมภีร์​ภาษา​มาลา​กา​ซี​ของ​เขา. ผม​แทบ​ไม่​ได้​อธิบาย​ข้อ​คัมภีร์​เหล่า​นั้น แต่​ใน​ไม่​ช้า​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​งอกงาม​ใน​หัวใจ​ของ​ชาย​คน​นี้ และ​เขา​ก้าว​หน้า​ถึง​ขั้น​รับ​บัพติสมา.

ปี 1963 มิลตัน เฮนเชล​จาก​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​บรุกลิน​ได้​ไป​เยี่ยม​ประเทศ​มาดากัสการ์. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน มี​การ​จัด​ตั้ง​สำนักงาน​สาขา​ใน​ประเทศ​มาดากัสการ์ และ​ผม​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​สาขา นอก​เหนือ​จาก​ทำ​หน้า​ที่​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​หมวด​และ​ผู้​ดู​แล​ภาค. ตลอด​ระยะ​เวลา​ช่วง​นี้ พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​พวก​เรา​อย่าง​อุดม​บริบูรณ์. จาก​ปี 1962 ถึง​ปี 1970 จำนวน​ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ใน​มาดากัสการ์​เพิ่ม​จาก 85 เป็น 469 คน.

วัน​หนึ่ง ใน​ปี 1970 เมื่อ​กลับ​ถึง​บ้าน​หลัง​จาก​ออก​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ประชาชน ที่​ประตู​บ้าน​เรา​เห็น​แจ้ง​ความ​บน​แผ่น​กระดาษ​สั่ง​ให้​มิชชันนารี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทุก​คน​ไป​รายงาน​ตัว​ที่​กระทรวง​มหาดไทย. ณ ที่​นั่น​เจ้าหน้าที่​บอก​เรา​ว่า​รัฐบาล​มี​คำ​สั่ง​ให้​เรา​ออก​นอก​ประเทศ​ทันที. ครั้น​ถาม​ว่า​ผม​กระทำ​ความ​ผิด​ทาง​อาญา​สถาน​ใด​ถึง​ได้​เนรเทศ​กัน​แบบ​นี้ เจ้าหน้าที่​พูด​ว่า “คุณ​โกกาเนน คุณ​ไม่​ได้​กระทำ​ความ​ผิด​อะไร​เลย.”

ผม​บอก​เขา​ว่า “พวก​เรา​เข้า​มา​อยู่​ใน​ประเทศ​นี้​แปด​ปี​แล้ว. ที่​นี่​เป็น​บ้าน​ของ​เรา. พวก​เรา​ไม่​อาจ​จาก​ที่​นี่​ไป​ทันที​ทันใด​และ​โดย​ปราศจาก​เหตุ​ผล.” ทั้ง ๆ ที่​เรา​พยายาม​ทุก​วิถี​ทาง แต่​มิชชันนารี​ทุก​คน​ต้อง​ออก​จาก​ประเทศ​ภาย​ใน​หนึ่ง​สัปดาห์. รัฐบาล​สั่ง​ปิด​สำนักงาน​สาขา และ​พยาน​ฯ ใน​ท้องถิ่น​ก็​เริ่ม​ดู​แล​งาน​ประกาศ​เอง. ก่อน​ออก​เดิน​ทาง​จาก​พี่​น้อง​ที่​รัก​ของ​เรา​ใน​มาดากัสการ์ เรา​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​แห่ง​ใหม่​คือ​ประเทศ​ยูกันดา.

เริ่ม​งาน​มอบหมาย​ใหม่

ภาย​หลัง​เดิน​ทาง​จาก​มาดากัสการ์​เพียง​ไม่​กี่​วัน เรา​ก็​มา​ถึง​กรุง​กัมปาลา เมือง​หลวง​ประเทศ​ยูกันดา. เรา​เริ่ม​เรียน​ภาษา​ลู​แกน​ดา​ทันที ภาษา​นี้​มี​ความ​ไพเราะ​เหมือน​ทำนอง​เพลง ทว่า​เรียน​ยาก​มาก. เพื่อน​มิชชันนารี​ต่าง​ก็​ช่วย​วีรา​ให้​เรียน​ภาษา​อังกฤษ​เสีย​ก่อน และ​พวก​เรา​ก็​สามารถ​ใช้​ภาษา​อังกฤษ​ใน​งาน​ประกาศ​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ.

สภาพ​ภูมิอากาศ​ใน​กัมปาลา​นั้น​ร้อน​อบอ้าว​และ​ชื้น​ซึ่ง​เป็น​อันตราย​ต่อ​สุขภาพ​ของ​วีรา. ดัง​นั้น เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​ทำ​งาน​ที่​เมือง​อึมบารารา เมือง​เล็ก ๆ ใน​ยูกันดา​ซึ่ง​อากาศ​สบาย​กว่า. เรา​เป็น​พยาน​ฯ รุ่น​แรก​ที่​นั่น และ​วัน​แรก​ที่​ออก​ไป​ทำ​งาน​รับใช้ เรา​มี​ประสบการณ์​ที่​น่า​ยินดี. ผม​กำลัง​คุย​กับ​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ใน​บ้าน​เมื่อ​ภรรยา​ของ​เขา​ออก​มา​จาก​ห้อง​ครัว. เธอ​ชื่อ​มาร์กาเรต เธอ​ได้​ฟัง​ผม​ให้​คำ​พยาน. วีรา​เริ่ม​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​มาร์กาเรต และ​เธอ​ก้าว​หน้า​เป็น​อย่าง​ดี​ใน​การ​เรียน​รู้​เรื่อง​พระเจ้า. เธอ​ได้​รับ​บัพติสมา​และ​เข้า​มา​เป็น​ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ที่​กระตือรือร้น.

การ​สู้​รบ​บน​ถนน

เมื่อ​ปี 1971 สงคราม​กลาง​เมือง​ได้​ทำลาย​ความ​สงบ​ใน​ยูกันดา. วัน​หนึ่ง​การ​สู้​รบ​เกิด​ขึ้น​ใน​บริเวณ​รอบ ๆ บ้าน​มิชชันนารี​ของ​เรา​ใน​เมือง​อึมบารารา. ผม​ได้​พรรณนา​เหตุ​การณ์​ที่​ประสบ​ครั้ง​นั้น​แล้ว ณ ตอน​เริ่ม​เรื่อง.

วีรา​อยู่​ใน​บ้าน​แล้ว​ตอน​ที่​ผม​กลับ​เข้า​บ้าน​หลัง​จาก​ค่อย ๆ คลาน​ศอก​คลาน​เข่า​เลียบ​คู​เป็น​ระยะ​ทาง​ไกล เพื่อ​เลี่ยง​ไม่​ให้​ทหาร​มอง​เห็น. เรา​เอา​ฟูก​และ​เครื่อง​เรือน​สุม​รวม​กัน​ที่​มุม​หนึ่ง​ของ​ห้อง​สร้าง​เป็น​ที่ “กำบัง.” นาน​หนึ่ง​สัปดาห์​ที​เดียว​ที่​เรา​อยู่​แต่​ใน​บ้าน ติด​ตาม​ฟัง​ข่าว​จาก​วิทยุ. บาง​ครั้ง​ลูก​ปืน​แฉลบ​ผนัง​บ้าน​ไป​ขณะ​ที่​เรา​หมอบ​ราบ​อยู่​ใน​ที่​กำบัง. ตก​กลางคืน​เรา​ก็​ไม่​เปิด​ไฟ​เพื่อ​ไม่​ให้​เห็น​ว่า​มี​คน​อยู่​ใน​บ้าน. มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง ทหาร​มา​ที่​หน้า​บ้าน​และ​ตะโกน​เรียก​เสียง​ดัง. พวก​เรา​ไม่​กระดุกกระดิก แต่​ได้​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​เงียบ ๆ. ภาย​หลัง​การ​สู้​รบ​ยุติ​ลง​แล้ว เพื่อน​บ้าน​พา​กัน​มา​ขอบคุณ​พวก​เรา​ที่​ทำ​ให้​เขา​อยู่​รอด​ปลอด​ภัย. พวก​เขา​เชื่อ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​คุ้มครอง​พวก​เรา​ทุก​คน​ถ้วน​หน้า และ​เรา​เอง​ก็​เห็น​พ้อง​กับ​คน​เหล่า​นั้น.

สถานการณ์​ยัง​คง​สงบ​อยู่ จน​กระทั่ง​เช้า​วัน​หนึ่ง​เรา​ฟัง​ข่าว​ทาง​วิทยุ​ว่า​รัฐบาล​ยูกันดา​สั่ง​ห้าม​กิจกรรม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. โฆษก​ประกาศ​ว่า​ทุก​คน​ที่​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ควร​กลับ​ไป​ถือ​ศาสนา​เดิม​ของ​ตน. ผม​พยายาม​พูด​ขอร้อง​เจ้าหน้าที่​รัฐ​แต่​ไม่​สำเร็จ. ครั้น​แล้ว​ผม​ได้​ไป​ที่​ทำเนียบ​รัฐบาล เพื่อ​ขอ​เวลา​นัด​พบ​ประธานาธิบดี นาย​พล​อี​ดี อา​มิน. เจ้าหน้าที่​ต้อนรับ​บอก​ผม​ว่า​ประธานาธิบดี​ไม่​ว่าง. ผม​กลับ​ไป​อีก​หลาย​ครั้ง แต่​ไม่​มี​โอกาส​เจรจา​กับ​ประธานาธิบดี​แม้​แต่​ครั้ง​เดียว. ใน​ที่​สุด พอ​ถึง​เดือน​กรกฎาคม ปี 1973 พวก​เรา​จึง​ต้อง​ออก​จาก​ยูกันดา.

หนึ่ง​ปี​ยืด​เป็น​สิบ​ปี

ความ​รู้สึก​เศร้า​ใจ​ใน​คราว​ที่​ถูก​เนรเทศ​ออก​จาก​ประเทศ​มาดากัสการ์​ได้​เกิด​ขึ้น​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​เมื่อ​เรา​ต้อง​จาก​พี่​น้อง​ชาว​ยูกันดา​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ของ​เรา. ก่อน​ไป​ยัง​เขต​งาน​มอบหมาย​แห่ง​ใหม่​ใน​เซเนกัล เรา​เดิน​ทาง​กลับ​ฟินแลนด์. เมื่อ​อยู่​ที่​ฟินแลนด์​งาน​มอบหมาย​ใน​แอฟริกา​ของ​เรา​จึง​เป็น​อัน​ยก​เลิก และ​เรา​ได้​รับ​แจ้ง​ให้​อยู่​ใน​ฟินแลนด์. งาน​ของ​เรา​ใน​ฐานะ​มิชชันนารี​ดู​เหมือน​จบ​สิ้น​ลง. ที่​ฟินแลนด์ เรา​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ​และ​ต่อ​มา​ก็​เข้า​สู่​งาน​หมวด​อีก.

ปี 1990 การ​ขัด​ขวาง​งาน​ประกาศ​ที่​ประเทศ​มาดากัสการ์​ลด​น้อย​ลง และ​เรา​แปลก​ใจ​เมื่อ​สำนักงาน​ใหญ่​ที่​บรุกลิน​ถาม​เรา​อยาก​กลับ​ไป​อยู่​มาดากัสการ์​อีก​สัก​หนึ่ง​ปี​ไหม. เรา​อยาก​ไป แต่​เรา​กำลัง​เผชิญ​ข้อ​ท้าทาย​หนัก​สอง​อย่าง. พ่อ​ของ​ผม​อายุ​มาก​แล้ว​จำเป็น​ต้อง​มี​คน​ดู​แล และ​วีรา​ยัง​คง​เจ็บ​ออด​แอด​อยู่​เรื่อย​มา. ตอน​ที่​พ่อ​เสีย​ชีวิต​ใน​เดือน​พฤศจิกายน 1990 ผม​เศร้า​เสียใจ แต่​สุขภาพ​ของ​วีรา​ดี​ขึ้น​จึง​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​หวัง​จะ​กลับ​ไป​ทำ​งาน​มิชชันนารี​อีก. เรา​กลับ​ไป​ยัง​มาดากัสการ์​ใน​เดือน​กันยายน 1991.

เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ทำ​งาน​ที่​มาดากัสการ์​หนึ่ง​ปี แต่​กลับ​ยืด​นาน​เป็น​สิบ​ปี. ระหว่าง​นั้น​จำนวน​ผู้​ประกาศ​เพิ่ม​จาก 4,000 เป็น 11,600 คน. ผม​ชื่นชม​ยินดี​เป็น​อย่าง​มาก​ที่​ได้​รับใช้​ฐานะ​มิชชันนารี. กระนั้น บาง​ครั้ง​ก็​รู้สึก​ท้อ คิด​สงสัย​ว่า​ตัว​เอง​อาจ​ละเลย​ไม่​เอา​ใจ​ใส่​ภรรยา​ที่​รัก​ใน​ด้าน​ความ​ต้องการ​ทาง​กายภาพ​และ​ด้าน​อารมณ์. พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประทาน​พละกำลัง​ให้​เรา​ทั้ง​สอง​ได้​รับใช้​ต่อ​ไป. ใน​ที่​สุด ปี 2001 เรา​กลับ​สู่​ประเทศ​ฟินแลนด์ และ​ทำ​งาน​ที่​สำนักงาน​สาขา​ตั้ง​แต่​นั้น​เรื่อย​มา. เรา​ยัง​มี​ความ​กระตือรือร้น​ที่​จะ​สนับสนุน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า และ​ยัง​ถือ​ว่า​ความ​ทรง​จำ​เกี่ยว​กับ​แอฟริกา​มี​ค่า​ล้ำ​สำหรับ​เรา​เสมอ. เรา​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา ไม่​ว่า​ที่​ไหน ๆ ที่​พระองค์​ทรง​มอบหมาย​ให้​เรา​ทำ.—ยะซายา 6:8.

[แผนที่​หน้า 12]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

ฟินแลนด์

ยุโรป

[แผนที่​หน้า 14]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

แอฟริกา

มาดากัสการ์

[แผนที่​หน้า 15]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

แอฟริกา

ยูกันดา

[ภาพ​หน้า 14]

วัน​สมรส​ของ​เรา

[ภาพ​หน้า 14, 15]

จาก​งาน​หมวด​ใน​ฟินแลนด์ ปี 1960 . . .

. . . ไป​ยัง​งาน​มิชชันนารี​ใน​มาดากัสการ์ ปี 1962

[ภาพ​หน้า 16]

กับ​วีรา​ใน​ปัจจุบัน