ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ครอบครัวของเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในที่สุด!

ครอบครัวของเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในที่สุด!

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ครอบครัว​ของ​เรา​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน​ใน​ที่​สุด!

เล่า​โดย ซูมิโกะ ฮิราโนะ

ฉัน​ประสบ​วิถี​ชีวิต​ที่​เยี่ยมยอด และ​อยาก​ให้​สามี​ของ​ฉัน​มี​ส่วน​ร่วม​ด้วย. สี่​สิบ​สอง​ปี​ผ่าน​ไป​กว่า​จะ​สม​ดัง​ปรารถนา.

เรา​แต่งงาน​ใน​ปี 1951 ตอน​นั้น​ฉัน​อายุ 21 ปี. ใน​ช่วง​สี่​ปี เรา​ได้​ลูก​ชาย​สอง​คน และ​ชีวิต​ฉัน​ดู​เหมือน​สุข​สบาย​ใน​ทุก​ทาง.

วัน​หนึ่ง​ใน​ปี 1957 พี่​สาว​บอก​ฉัน​ว่า​มิชชันนารี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​มา​เยี่ยม​เธอ. ทั้ง ๆ ที่​พี่​สาว​เป็น​ชาว​พุทธ แต่​เธอ​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​มิชชันนารี และ​สนับสนุน​ฉัน​ให้​ศึกษา​เช่น​กัน. ฉัน​ตอบ​ตก​ลง. ตอน​นั้น​ฉัน​ไป​โบสถ์​โปรเตสแตนต์​อยู่ และ​ฉัน​คิด​ว่า​ฉัน​สามารถ​จะ​ชี้​ข้อ​เชื่อ​หรือ​คำ​สอน​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้.

ไม่​นาน​ฉัน​ก็​ตระหนัก​ว่า​ตัว​เอง​แทบ​ไม่​รู้​เรื่อง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เลย. ฉัน​ต้อง​ถาม​มิชชันนารี​ว่า “พระ​ยะโฮวา​คือ​ใคร?” ฉัน​ไม่​เคย​ได้​ยิน​การ​ใช้​ชื่อ​นี้​ใน​โบสถ์. แดฟนี คุก (ที​หลัง​คือ​แดฟนี เพตทิตต์) ได้​ชี้​นำ​ฉัน​ให้​เปิด​ดู​ยะซายา 42:8 ที่​นั่น​กล่าว​ชัดเจน​ว่า​ยะโฮวา​เป็น​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​ผู้​ทรง​ฤทธานุภาพ​ทุก​ประการ. แดฟนี​ตอบ​ทุก​คำ​ถาม​ของ​ฉัน​ด้วย​การ​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล.

ฉัน​ถาม​นัก​เทศน์​ด้วย​คำ​ถาม​อย่าง​เดียว​กัน. เขา​บอก​ฉัน​ว่า “การ​ถาม​เป็น​บาป. เชื่อ​ตาม​ที่​ผม​สอน​คุณ​ก็​แล้ว​กัน.” แม้​ฉัน​ไม่​รู้สึก​ว่า​การ​ถาม​เป็น​บาป กระนั้น เป็น​เวลา​หก​เดือน​ฉัน​ยัง​คง​ไป​โบสถ์​ทุก​เช้า​วัน​อาทิตย์ และ​ตอน​บ่าย​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ผล​กระทบ​ต่อ​ชีวิต​สมรส​ของ​ฉัน

สิ่ง​ที่​ฉัน​เรียน​รู้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ก่อ​ความ​ตื่นเต้น​แก่​ฉัน แล้ว​ฉัน​ก็​เล่า​ให้​คาซูฮิโกะ สามี​ฉัน​ฟัง. หลัง​การ​ศึกษา​และ​การ​ประชุม​แต่​ละ​ครั้ง ฉัน​ได้​เล่า​สิ่ง​ที่​ฉัน​ได้​เรียน​รู้​ให้​เขา​ฟัง. ผล​คือ​เกิด​บรรยากาศ​ที่​เย็นชา​ระหว่าง​เรา. เขา​ไม่​ต้องการ​ให้​ฉัน​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. กระนั้น ฉัน​พอ​ใจ​กับ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อย่าง​ยิ่ง ด้วย​เหตุ​นั้น ฉัน​จึง​ศึกษา​ต่อ​ไป​และ​สมาคม​คบหา​กับ​เหล่า​พยาน​ฯ.

ก่อน​ออก​บ้าน​ไป​ร่วม​ประชุม​ตอน​กลางคืน ฉัน​มัก​เตรียม​อาหาร​จาน​โปรด​ไว้​สำหรับ​คาซูฮิโกะ แต่​เขา​เริ่ม​ออก​ไป​กิน​อาหาร​นอก​บ้าน. เมื่อ​ฉัน​กลับ​บ้าน​หลัง​เลิก​ประชุม เขา​มี​อารมณ์​ขุ่น​มัว​และ​ไม่​พูด​ไม่​จา. พอ​ผ่าน​ไป​สอง​สาม​วัน อารมณ์​เขา​ก็​จะ​ดี​ขึ้น แต่​แล้ว​ก็​ถึง​เวลา​สำหรับ​การ​ประชุม​ครั้ง​ต่อ​ไป.

ประมาณ​ช่วง​นั้น​ฉัน​ป่วย​เป็น​วัณโรค โรค​ร้าย​ที่​คร่า​ชีวิต​หลาย​คน​ใน​ครอบครัว​ของ​สามี​ฉัน. คาซูฮิโกะ​วิตก​กังวล​มาก​และ​บอก​ฉัน​ว่า​ถ้า​กระเตื้อง​ขึ้น​เมื่อ​ใด จะ​ทำ​อะไร​ก็​ได้​ตาม​ใจ​ชอบ. ฉัน​แค่​ขอ​ให้​เขา​กรุณา​อย่า​ได้​ขัด​ขวาง​ฉัน​ใน​การ​เข้า​ร่วม​ประชุม​ประจำ​สัปดาห์. เขา​ตก​ลง.

ฉัน​ต้อง​ใช้​เวลา​พักฟื้น​หก​เดือน และ​ระหว่าง​นั้น​ฉัน​หมกมุ่น​อยู่​กับ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อย่าง​คร่ำ​เคร่ง. ฉัน​ค้น​หา​ความ​ไม่​สอดคล้อง​กัน​ใน​หลัก​คำ​สอน​ของ​พวก​พยาน​ฯ และ​คิด​ว่า​ถ้า​พบ​ที่​ผิด​เพียง​ข้อ​เดียว​ฉัน​จะ​เลิก​ศึกษา. แต่​ก็​หา​ไม่​เจอ. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น ข้อ​ผิด​พลาด​ของ​คริสตจักร​โปรเตสแตนต์​กลับ​ปรากฏ​เด่น​ชัด. ฉัน​ได้​มา​รู้​จัก​ความ​รัก​และ​ความ​ยุติธรรม​ของ​พระ​ยะโฮวา และ​เห็น​ผล​ประโยชน์​ของ​การ​ดำเนิน​ชีวิต​สอดคล้อง​กับ​ข้อ​กฎหมาย​ต่าง ๆ ของ​พระองค์.

หลัง​จาก​หาย​ป่วย​แล้ว สามี​ฉัน​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สัญญา​ที่​ให้​ไว้ และ​ไม่​ขัด​ขวาง​การ​ที่​ฉัน​ไป​ร่วม​ประชุม. ฉัน​เติบโต​ฝ่าย​วิญญาณ​ขึ้น​เรื่อย ๆ และ​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เดือน​พฤษภาคม ปี 1958. ฉัน​ปรารถนา​จะ​เห็น​คน​ใน​ครอบครัว​มา​ร่วม​กัน​นมัสการ​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้.

การ​ช่วยเหลือ​ลูก ๆ ของ​ฉัน​ทาง​ด้าน​วิญญาณ

ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​คน​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​และ​ออก​ประกาศ​กับ​ฉัน​เสมอ แต่​บาง​อย่าง​ที่​เกิด​ขึ้น​ทำ​ให้​ฉัน​เห็น​ว่า​ลูก​กำลัง​เติบโต​ขึ้น​ใน​ความ​รู้​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล. วัน​หนึ่ง มาซาฮิโกะ ลูก​ชาย​วัย​หก​ขวบ​กำลัง​เล่น​อยู่​นอก​บ้าน. ฉัน​ได้​ยิน​เสียง​ดัง​แล้ว​มี​คน​ร้อง​เสียง​หลง. ผู้​หญิง​ข้าง​บ้าน​พรวด​พราด​เข้า​มา​และ​ร้อง​ตะโกน​ว่า​ลูก​ชาย​ของ​ฉัน​ถูก​รถ​ชน. เขา​ตาย​หรือ​เปล่า? ฉัน​ตั้ง​สติ​ควบคุม​ตัว​เอง​ขณะ​วิ่ง​ออก​ไป​ดู. ฉัน​ตัว​สั่น​รู้สึก​เย็น​วาบ​ไป​ทั้ง​ตัว​เมื่อ​เห็น​จักรยาน​พัง​ยับ ครั้น​แล้ว​ฉัน​ก็​เห็น​ลูก​ชาย​เดิน​มา​หา แต่​เขา​เจ็บ​ไม่​มาก. เขา​พูด​ขณะ​เกาะ​ฉัน​แน่น​ว่า “แม่​ครับ พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ผม​ใช่​ไหม?” การ​ที่​เห็น​เขา​รอด​ตาย​และ​ได้​ยิน​คำ​พูด​น่า​ฟัง​เช่น​นั้น ฉัน​ถึง​กับ​หลั่ง​น้ำตา.

อีก​วัน​หนึ่ง ขณะ​เผยแพร่​ตาม​บ้าน เรา​เจอ​ชาย​แก่​คน​หนึ่ง​ตะโกน​ลั่น​ว่า “คุณ​คิด​ยัง​ไง​ถึง​ได้​พา​ลูก​ตัว​กะ​เปี๊ยก​ตะลอน​ไป​ทั่ว? ผม​เวทนา​เขา.” ก่อน​ฉัน​จะ​เอ่ย​ปาก​ตอบ โตโมโยชิ​วัย​แปด​ขวบ​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า “คุณ​ตา​ครับ แม่​ไม่​ได้​บังคับ​ผม​ให้​มา​เดิน​เผยแพร่​นะ​ครับ. ผม​ทำ​งาน​นี้​เพราะ​ผม​ต้องการ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา.” ชาย​แก่​คน​นั้น​ได้​แต่​จ้อง​หน้า​และ​อึ้ง​ไป​เลย.

ว่า​กัน​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ ลูก​ชาย​ของ​ฉัน​กำพร้า​พ่อ. ฉะนั้น จึง​ขึ้น​อยู่​กับ​ฉัน​ที่​จะ​สอน​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​ลูก ทั้ง ๆ ที่​ฉัน​เอง​ยัง​ต้อง​เรียน​รู้​อีก​มาก​มาย. ฉัน​ได้​เพาะ​ความ​รัก, ความ​เชื่อ, และ​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​และ​พยายาม​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี. ฉัน​กล่าว​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ต่อ​หน้า​ลูก ๆ ทุก​วัน​เป็น​ประจำ. ฉัน​เล่า​ให้​ลูก​ฟัง​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​ได้​พบ​เห็น​ใน​งาน​รับใช้. การ​ทำ​เช่น​นี้​เป็น​กำลังใจ​ให้​พวก​เขา. ใน​เวลา​ต่อ​มา เมื่อ​มี​คน​ถาม​ถึง​เหตุ​ผล​ที่​พวก​เขา​ได้​มา​เป็น​ไพโอเนียร์​หรือ​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา เขา​ตอบ​ว่า “เรา​เห็น​ว่า​แม่​มี​ความ​สุข​ขณะ​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์ และ​เรา​เอง​ก็​อยาก​มี​ความ​สุข​อย่าง​นั้น​ด้วย.”

ฉัน​ระมัดระวัง​มาก​ที่​จะ​ไม่​พูด​ติเตียน​พ่อ​ของ​ลูก​หรือ​ติเตียน​ใคร ๆ ใน​ประชาคม. ฉัน​ตระหนัก​ว่า​การ​พูด​ที่​ไม่​เสริม​สร้าง​อาจ​ส่ง​ผล​กระทบ​ใน​ทาง​เสียหาย​แก่​ลูก​ของ​ฉัน. พวก​เขา​อาจ​เสื่อม​ความ​นับถือ​ไม่​เฉพาะ​คน​ที่​ถูก​ติเตียน แต่​จะ​หมด​ความ​นับถือ​ต่อ​ผู้​พูด​ด้วย.

เอา​ชนะ​อุปสรรค​ที่​ขวาง​กั้น​ความ​ก้าว​หน้า

ปี 1963 ธุรกิจ​ของ​สามี​ทำ​ให้​พวก​เรา​ต้อง​ย้าย​ไป​ไต้หวัน. เขา​บอก​ฉัน​ว่า​หาก​ฉัน​เผยแพร่​ใน​ชุมชน​ชาว​ญี่ปุ่น​ที่​นั่น ฉัน​จะ​เป็น​ต้น​เหตุ​ทำ​ให้​เกิด​ปัญหา. พวก​เรา​จะ​ถูก​ส่ง​กลับ​ประเทศ​ญี่ปุ่น แล้ว​นั่น​จะ​สร้าง​ปัญหา​ให้​แก่​บริษัท​ของ​เขา. เขา​ต้องการ​แยก​เรา​ให้​ห่าง​จาก​เหล่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ใน​ไต้หวัน วาระ​การ​ประชุม​ทุก​รายการ​ถูก​จัด​ขึ้น​เป็น​ภาษา​จีน พี่​น้อง​พยาน​ฯ ต้อนรับ​พวก​เรา​อย่าง​อบอุ่น. ฉัน​ตัดสิน​ใจ​เรียน​ภาษา​จีน​ก็​เพื่อ​ให้​คำ​พยาน​แก่​คน​ท้องถิ่น​ได้ แทน​ที่​จะ​ให้​คำ​พยาน​แก่​ชาว​ญี่ปุ่น. โดย​วิธี​นี้ ฉัน​สามารถ​เลี่ยง​ปัญหา​ที่​สามี​ยก​ขึ้น​มา​อ้าง.

มิตรภาพ​ระหว่าง​เรา​กับ​พวก​พยาน​ฯ ที่​ไต้หวัน​เสริม​กำลัง​พวก​เรา​ให้​เข้มแข็ง. ฮาร์วีย์​และ​แคที โลแกน มิชชันนารี​คู่​สามี​ภรรยา​ได้​ช่วยเหลือ​พวก​เรา​มาก​มาย. บราเดอร์​โลแกน​กลาย​เป็น​บิดา​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ลูก​ชาย​ฉัน. เขา​อธิบาย​ให้​ลูก​เข้าใจ​ว่า​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ใช่​ว่า​จะ​ขาด​ความ​ชื่นชม หรือ​มี​ชีวิต​ที่​ถือ​เคร่ง. ฉัน​เชื่อ​มั่น​ว่า​ช่วง​ที่​เรา​อยู่​ใน​ไต้หวัน​นี่​เอง ลูก​ชาย​ของ​เรา​ตัดสิน​ใจ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา.

โตโมโยชิ​และ​มาซาฮิโกะ​เรียน​ที่​โรง​เรียน​อเมริกัน เขา​เรียน​ควบ​ทั้ง​ภาษา​อังกฤษ​และ​ภาษา​จีน. การ​ศึกษา​แบบ​นี้​เตรียม​เขา​ไว้​พร้อม​สำหรับ​งาน​รับใช้​ใน​อนาคต ฐานะ​เป็น​ผู้​ปรนนิบัติ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้. ฉัน​ซาบซึ้ง​บุญคุณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​สำหรับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ซึ่ง​อาจ​เป็น​ช่วง​ยาก​ลำบาก​ให้​กลาย​เป็น​เวลา​ที่​เรา​ได้​รับ​พระ​พร​ยั่งยืน. ภาย​หลัง​สาม​ปี​ครึ่ง​ที่​น่า​จด​จำ​ใน​ไต้หวัน ครอบครัว​ของ​เรา​ได้​ย้าย​กลับ​มา​ที่​ประเทศ​ญี่ปุ่น.

ตอน​นี้​ลูก​ชาย​ของ​เรา​โต​เป็น​วัยรุ่น​แล้ว และ​เริ่ม​ไม่​อยาก​อยู่​ใน​บังคับ​ใคร. ฉัน​ได้​ใช้​เวลา​หลาย​ชั่วโมง​หา​เหตุ​ผล​กับ​เขา โดย​อาศัย​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วย​เขา​ผ่าน​ช่วง​ที่​ยาก​ลำบาก​นั้น. เมื่อ​เรียน​จบ​มัธยม​ปลาย โตโมโยชิ​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์. ระหว่าง​สอง​สาม​ปี​แรก​ที่​เขา​เป็น​ไพโอเนียร์ เขา​สามารถ​ช่วย​สี่​คน​ถึง​ขั้น​อุทิศ​ตัว​และ​รับ​บัพติสมา. มาซาฮิโกะ​ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​พี่​ชาย​และ​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​หลัง​จาก​จบ​ชั้น​มัธยม​ต้น. เขา​ได้​ช่วย​หนุ่ม​สาว​สี่​คน​เข้า​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ช่วง​สี่​ปี​แรก​ที่​เขา​เป็น​ไพโอเนียร์.

จาก​นั้น​พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​ลูก​มาก​ยิ่ง​ขึ้น. โตโมโยชิ​ได้​นำ​การ​ศึกษา​กับ​สามี​ของ​ผู้​หญิง​ที่​ฉัน​เคย​ช่วย​เธอ​เรียน​รู้​ความ​จริง. ลูก​สาว​สอง​คน​ของ​ครอบครัว​นี้​ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ เช่น​กัน. ต่อ​มา โตโมโยชิ​แต่งงาน​กับ​โนบุโกะ​พี่​สาว และ​มาซาฮิโกะ​แต่ง​กับ​มาซาโกะ​น้อง​สาว. เวลา​นี้​โตโมโยชิ​กับ​โนบุโกะ​รับใช้​ที่​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก. ส่วน​มาซาฮิโกะ​กับ​มาซาโกะ​รับใช้​ฐานะ​มิชชันนารี​ใน​ประเทศ​ปารากวัย.

การ​เปลี่ยน​แปลง​อย่าง​ค่อย​เป็น​ค่อย​ไป​ใน​ส่วน​ของ​สามี

เมื่อ​หลาย​ปี​ก่อน สามี​ฉัน​ดู​เหมือน​ไม่​ค่อย​สนใจ​ความ​เชื่อ​ของ​เรา แต่​พวก​เรา​เห็น​ที​ท่า​อาการ​ของ​เขา​กำลัง​เปลี่ยน. เมื่อ​บาง​คน​ต่อ​ต้าน​ฉัน เขา​แก้​ต่าง​ความ​เชื่อ​ของ​ฉัน อัน​ที่​จริง​เขา​สนับสนุน​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​โดย​ไม่​รู้​ตัว. เขา​มัก​จะ​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ด้าน​วัตถุ​แก่​พยาน​ฯ ใน​ยาม​ขัดสน. ใน​วัน​แต่งงาน​ของ​ลูก​ชาย เขา​กล่าว​ปราศรัย​สั้น ๆ ดัง​นี้: “การ​สอน​ผู้​คน​ให้​รู้​วิถี​ชีวิต​ที่​ถูก​ต้อง​เป็น​งาน​ที่​ดี​เยี่ยม และ​เป็น​งาน​ยาก​ที่​สุด. ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​ของ​ผม​และ​ภรรยา​ของ​เขา​ได้​เลือก​ทาง​เดิน​ที่​แสน​ยาก​ลำบาก​นี้​เป็น​งาน​ประจำ​ชีพ. โปรด​สนับสนุน​ลูก​ของ​ผม​ด้วย.” การ​กระทำ​ทั้ง​หมด​นี้​ทำ​ให้​ฉัน​คิด​ว่า​เขา​คง​จะ​สมทบ​พวก​เรา​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​แน่ ๆ.

ฉัน​จัดแจง​ให้​สามี​ได้​มี​โอกาส​คบหา​กับ​เพื่อน​พยาน​ฯ ใน​บ้าน​ของ​เรา. ฉัน​ชวน​คาซูฮิโกะ​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน​ประจำ​สัปดาห์, การ​ประชุม​ใหญ่, รวม​ทั้ง​การ​ประชุม​อนุสรณ์​ระลึก​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์​ด้วย. ถ้า​เขา​ไม่​ติด​งาน เขา​ก็​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ต่าง ๆ ดัง​กล่าว​แม้​ไม่​สู้​เต็ม​ใจ​นัก. หลาย​ครั้ง​ฉัน​คิด​ว่า​เขา​จะ​ตก​ลง​ใจ​ยอม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ ดัง​นั้น ฉัน​ได้​เชิญ​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​มา​ที่​บ้าน. แต่​เขา​ไม่​ยอม​ศึกษา. ฉัน​สงสัย​ว่า​มี​อะไร​ผิด​พลาด​ไป​หรือ​เปล่า.

ถ้อย​คำ​ของ​อัครสาวก​เปโตร​ผุด​ขึ้น​ใน​จิตใจ​ฉัน​ที่​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​ที่​เป็น​ภรรยา จง​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​สามี​ของ​ท่าน เพื่อ​ว่า ถ้า​คน​ใด​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระ​คำ แม้น​ไม่​เอ่ย​ปาก เขา​ก็​อาจ​ถูก​โน้ม​น้าว​โดย​การ​ประพฤติ​ของ​ภรรยา เนื่อง​จาก​ได้​เห็น​ประจักษ์​ถึง​การ​ประพฤติ​อัน​บริสุทธิ์​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​พร้อม​กับ​ความ​นับถือ​อัน​สุด​ซึ้ง.” (1 เปโตร 3:1, 2, ล.ม.) ฉัน​ตระหนัก​ว่า​ฉัน​ไม่​ได้​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​นี้​เสมอ​ไป. เพื่อ​จะ​ทำ​ให้​ได้​เต็ม​ที่​กับ​คำ​แนะ​นำ​นี้ ฉัน​จำเป็น​ต้อง​ปรับ​ปรุง​สภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตัว​เอง. ปี 1970 ฉัน​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​พร้อม​ด้วย​เป้าหมาย​จะ​เป็น​บุคคล​ที่​เลื่อมใส​พระเจ้า​มาก​ขึ้น.

ผ่าน​ไป​สิบ​ปี​ก็​แล้ว 20 ปี​ก็​แล้ว กระนั้น ฉัน​ยัง​ไม่​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​ฝ่าย​วิญญาณ​ใด ๆ ใน​ตัว​สามี. ครั้ง​หนึ่ง​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​คน​หนึ่ง​ถึง​กับ​พูด​ว่า “การ​ช่วย​คน​อื่น​คง​ต้อง​เป็น​งาน​หนัก​แน่ ๆ ใน​เมื่อ​คุณ​ไม่​สามารถ​ช่วย​สามี​ของ​คุณ​เอง​ได้.” คำ​พูด​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​รู้สึก​ท้อ​แท้ แต่​ฉัน​ไม่​ยอม​แพ้.

พอ​ถึง​ปลาย​ทศวรรษ 1980 พ่อ​แม่​ของ​เรา​ชรา​มาก​เปรียบ​เหมือน​ไม้​ใกล้​ฝั่ง. การ​ที่​ต้อง​ใส่​ใจ​ดู​แล​ท่าน​และ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​อื่น ๆ ให้​ครบ​ถ้วน​ทำ​ให้​ฉัน​อ่อน​เพลีย​และ​เครียด​จัด. นาน​นับ​ปี ท่าน​ได้​ขัด​ขวาง​ความ​เชื่อ​ของ​ฉัน​ใน​พระ​ยะโฮวา​มา​โดย​ตลอด แต่​ฉัน​พยายาม​ให้​ความ​รัก​แก่​ท่าน​มาก​เท่า​ที่​ทำ​ได้. ไม่​นาน​ก่อน​เสีย​ชีวิต ตอน​นั้น​แม่​อายุ 96 ปี ท่าน​พูด​กับ​ฉัน​ว่า “ซูมิโกะ ถ้า​แม่​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย แม่​จะ​เข้า​ร่วม​ศาสนา​ของ​ลูก​นะ.” ฉัน​รับ​รู้​ว่า​ความ​พยายาม​ของ​ฉัน​ไม่​ไร้​ผล​เสีย​ที​เดียว.

สามี​สังเกต​ทุก​สิ่ง​ที่​ฉัน​ทำ​ไป​เพื่อ​พ่อ​แม่​ของ​เรา. เพื่อ​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า เขา​จึง​เริ่ม​เข้า​ร่วม​ประชุม​สม่ำเสมอ. เขา​ทำ​อย่าง​นั้น​เป็น​เวลา​หลาย​ปี​แต่​ไม่​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ. ฉัน​พยายาม​เอา​อก​เอา​ใจ​เขา​มิ​ได้​ขาด. ฉัน​เชิญ​เพื่อน ๆ ของ​เขา อีก​ทั้ง​ผู้​ร่วม​ธุรกิจ​ชาว​ต่าง​ชาติ​ด้วย​ซ้ำ​มา​ร่วม​รับประทาน​อาหาร​ที่​บ้าน​ของ​เรา. ฉัน​สมทบ​กับ​เขา​เสมอ​ใน​ยาม​พักผ่อน​หย่อนใจ. เมื่อ​ข้อ​เรียก​ร้อง​ใน​เรื่อง​เวลา​ทำ​งาน​ของ​ไพโอเนียร์​ลด​ลง ฉัน​สามารถ​ใช้​เวลา​อยู่​กับ​เขา​มาก​ขึ้น.

การ​เกษียณ​อายุ​นำ​ไป​สู่​การ​เปลี่ยน​แปลง

สามี​ของ​ฉัน​เกษียณ​อายุ​ใน​ปี 1993. ถึง​ตอน​นั้น ฉัน​คิด​ว่า​ใน​ที่​สุด​เขา​จะ​มี​เวลา​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. แต่​เขา​กลับ​พูด​ว่า​การ​นมัสการ​พระเจ้า​เพราะ​มี​เวลา​ว่าง​คง​เป็น​การ​หมิ่น​ประมาท​ศาสนา. แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น เขา​พูด​ว่า​เขา​จะ​นมัสการ​พระเจ้า​ต่อ​เมื่อ​มี​แรง​บันดาล​ใจ​ให้​ปฏิบัติ ฉะนั้น ฉัน​ไม่​ควร​เร่งเร้า​เขา.

วัน​หนึ่ง คาซูฮิโกะ​ถาม​ฉัน​ว่า​จะ​ใช้​ชีวิต​ที่​เหลือ​อยู่​เพื่อ​เขา​ได้​ไหม. คำ​พูด​ทำนอง​นี้​เสียด​แทง​ใจ​นัก เพราะ​ฉัน​ทำ​ทุก​อย่าง​สุด​ความ​สามารถ​ก็​เพื่อ​เขา​นับ​ตั้ง​แต่​ที่​ฉัน​แต่งงาน​กับ​เขา. ฉัน​พยายาม​เต็ม​ที่​เพื่อ​ให้​เขา​มี​ความ​สุข แต่​เขา​กลับ​คิด​ว่า​ฉัน​ดำเนิน​ชีวิต​เพื่อ​พระ​ยะโฮวา​มาก​กว่า​ทำ​เพื่อ​เขา. หลัง​จาก​คิด​ใคร่ครวญ​อยู่​ระยะ​หนึ่ง ฉัน​จึง​บอก​เขา​ว่า​ฉัน​ไม่​อาจ​ทำ​เพื่อ​เขา​ได้​มาก​กว่า​นี้. แต่​หาก​เขา​จะ​ร่วม​มือ​ร่วม​ใจ​ทำ​สิ่ง​ที่​ฉัน​กำลัง​ทำ​อยู่ เรา​จะ​เริ่ม​ชีวิต​ใหม่​ที่​ดี​เยี่ยม​ด้วย​กัน ไม่​ใช่​เพียง​ไม่​กี่​ปี ทว่า ยั่งยืน​ตลอด​กาล. หลาย​วัน​ผ่าน​ไป ไม่​มี​คำ​ตอบ​จาก​สามี. ใน​ที่​สุด​เขา​ถาม​ว่า “เอา​ละ คุณ​จะ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​ผม​ไหม?” ฉัน​นึก​ถึง​คำ​พูด​เหล่า​นั้น​ที​ไร ใจ​ฉัน​เต้น​ด้วย​ความ​ปีติ.

ที​แรก ฉัน​จัด​เตรียม​ให้​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​คน​หนึ่ง​ศึกษา​กับ​สามี แต่​เขา​บอก​ฉัน​ว่า “ผม​จะ​ไม่​ศึกษา​กับ​ใคร​ทั้ง​นั้น​นอก​จาก​คุณ.” ดัง​นั้น เรา​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​เป็น​ประจำ​ทุก​วัน. เนื่อง​จาก​ฉัน​อยู่​ใน​ประชาคม​ภาษา​จีน และ​สามี​คล่อง​ภาษา​นั้น​อยู่​แล้ว เรา​จึง​ศึกษา​ด้วย​กัน​เป็น​ภาษา​จีน. นอก​จาก​นั้น​เรา​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย​กัน​และ​ไม่​ถึง​ปี​ก็​อ่าน​จบ​ทั้ง​เล่ม.

ระหว่าง​นั้น ผู้​ปกครอง​คน​หนึ่ง​ใน​ประชาคม​ภาษา​จีน​พร้อม​ด้วย​ภรรยา​ได้​ให้​ความ​เอา​ใจ​ใส่​เรา​ฐานะ​เป็น​คู่​สามี​ภรรยา. แม้​อายุ​ของ​คน​ทั้ง​สอง​อ่อน​กว่า​ลูก​ของ​เรา แต่​เขา​ได้​กลาย​เป็น​มิตร​แท้​ของ​เรา. พยาน​ฯ คน​อื่น ๆ มาก​มาย​ให้​ความ​สนใจ​เป็น​พิเศษ​ต่อ​สามี​ฉัน. พวก​เขา​แสดง​ความ​โอบอ้อม​อารี​ต่อ​เรา​และ​พูด​คุย​กับ​คาซูฮิโกะ​เสมือน​คุย​กับ​บิดา. นั่น​ทำ​ให้​เขา​มี​ความ​สุข​เสีย​จริง ๆ.

วัน​หนึ่ง มี​บัตร​เชิญ​ไป​งาน​แต่งงาน​ที่​ประชาคม​ส่ง​มา​ที่​บ้าน จ่า​หน้า​ซอง​ถึง​สามี​ฉัน. เขา​รู้สึก​ประทับใจ​ที่​ยอม​รับ​เขา​ฐานะ​ประมุข​ครอบครัว และ​จึง​ตัดสิน​ใจ​ไป​ร่วม. ใน​เวลา​ต่อ​มา เขา​เปิด​ใจ​แสดง​ความ​เป็น​มิตร​ต่อ​พยาน​ฯ และ​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง. การ​ที่​ได้​ศึกษา​พระ​คัมภีร์, เข้า​ร่วม​ประชุม, และ​มี​ความ​รัก​ต่อ​ประชาคม​ได้​ช่วย​เขา​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​อย่าง​ดี.

ครอบครัว​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน​ใน​ที่​สุด

เดือน​ธันวาคม ปี 2000 สามี​ฉัน​ได้​รับ​บัพติสมา แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา. ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​พร้อม​ด้วย​ภรรยา​ของ​เขา​ได้​เดิน​ทาง​จาก​แดน​ไกล​มา​ดู “การ​อัศจรรย์” สมัย​ใหม่. ต้อง​ใช้​เวลา​นาน​ถึง 42 ปี แต่​ใน​ที่​สุด​ครอบครัว​ของ​เรา​ก็​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน.

บัด​นี้ เรา​สอง​คน​พิจารณา​ข้อ​คัมภีร์​ประจำ​วัน​ทุก​เช้า​และ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย​กัน. ทุก​วัน เรา​ชื่นชม​กับ​การ​สนทนา​เรื่อง​ฝ่าย​วิญญาณ​และ​เข้า​ร่วม​ทำ​กิจกรรม​คริสเตียน. เวลา​นี้ สามี​ของ​ฉัน​เป็น​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้​ใน​ประชาคม และ​ไม่​นาน​มา​นี้​ได้​ให้​คำ​บรรยาย​สาธารณะ​เป็น​ภาษา​จีน. ฉัน​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ทรง​ชัก​นำ​พวก​เรา​มา​อยู่​ร่วม​กัน. พร้อม ๆ กัน​กับ​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ที่​ฉัน​รัก​และ​บรรดา​มิตร​สหาย ฉัน​ตั้ง​ตา​คอย​ที่​จะ​เชิดชู​พระ​นาม​และ​พระ​บรม​เดชานุภาพ​ของ​พระองค์​ตลอด​ไป.

[แผนที่​หน้า 13]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

จีน

สาธารณรัฐ​ประชาธิปไตย​ประชาชน​เกาหลี

สาธารณรัฐ​เกาหลี

ทะเล​ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

โตเกียว

ทะเล​จีน​ตะวัน​ออก

ไต้หวัน

ไทเป

[ภาพ​หน้า 12]

กับ​ครอบครัว​ของ​ฉัน​ใน​ปี 1958 ปี​ที่​ฉัน​รับ​บัพติสมา

[ภาพ​หน้า 13]

เรา​ได้​รับ​การ​เสริม​กำลัง​ฝ่าย​วิญญาณ​จาก​บรรดา​เพื่อน ๆ อย่าง​ฮาร์วีย์​และ​แคที โลแกน คราว​ที่​เรา​ย้าย​จาก​โตเกียว​ไป​ไทเป

[ภาพ​หน้า 15]

ปัจจุบัน ครอบครัว​ของ​ฉัน​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน​ใน​การ​นมัสการ​แท้