ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ได้รับประโยชน์จากความภักดีของผู้เป็นที่รัก

ได้รับประโยชน์จากความภักดีของผู้เป็นที่รัก

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​ความ​ภักดี​ของ​ผู้​เป็น​ที่​รัก

เล่า​โดย แคทลีน คุก

ระหว่าง​การ​เยี่ยม​ญาติ​ใน​เมือง​กลาสโกว์ สกอตแลนด์ เมื่อ​ปี 1911 คุณ​ยาย​ของ​ฉัน แมรี เอลเลน ทอมป์สัน​ได้​เข้า​ฟัง​ปาฐกถา​ของ​ชาลส์ เทซ รัสเซลล์ สมาชิก​คน​สำคัญ​ใน​คณะ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ ภาย​หลัง​เป็น​ที่​รู้​จัก​ด้วย​ชื่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. คุณ​ยาย​ประทับใจ​ใน​สิ่ง​ที่​ท่าน​ได้​ฟัง. เมื่อ​กลับ​ไป​แอฟริกา​ใต้ ท่าน​ได้​ติด​ต่อ​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ใน​ประเทศ​นั้น. เดือน​เมษายน ปี 1914 ท่าน​เป็น​หนึ่ง​ใน 16 คน​ที่​รับ​บัพติสมา ณ การ​ประชุม​ใหญ่​ซึ่ง​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​จัด​ขึ้น​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​แอฟริกา​ใต้. อีดิท ลูก​สาว​คุณ​ยาย ตอน​นั้น​อายุ​หก​ขวบ ใน​เวลา​ต่อ​มา ท่าน​กลาย​เป็น​มารดา​ของ​ฉัน.

ภาย​หลัง​การ​ตาย​ของ​บราเดอร์​รัสเซลล์​ใน​ปี 1916 เกิด​มี​ความ​ขัด​แย้ง​กัน​ท่ามกลาง​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ใน​หลาย​ประเทศ​ทั่ว​โลก. ผู้​ซื่อ​สัตย์​ใน​เดอร์บัน​ลด​จำนวน​จาก 60 เหลือ​ประมาณ 12 คน. คุณ​ย่า​อิงเงอบอร์ก มือร์ดัล และ​เฮนรี​ลูก​ชาย​วัยรุ่น​ที่​เพิ่ง​รับ​บัพติสมา​ได้​ยืนหยัด​อยู่​ฝ่าย​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ภักดี. ปี 1924 เฮนรี​กลาย​เป็น​คอลพอร์เทอร์ ชื่อ​เรียก​ผู้​เผยแพร่​ข่าว​ดี​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สมัย​นั้น. หลัง​จาก​นั้น​เขา​เดิน​ทาง​เผยแพร่​ไป​ใน​หลาย​ภูมิภาค​ทาง​ใต้​ของ​ทวีป​แอฟริกา​ตลอด​เวลา​ห้า​ปี. ปี 1930 เฮนรี​แต่งงาน​กับ​อีดิท และ​ฉัน​ถือ​กำเนิด​หลัง​จาก​นั้น​สาม​ปี.

ครอบครัว​ขยาย

พวก​เรา​อาศัย​อยู่​ใน​ประเทศ​โมซัมบิก​ระยะ​หนึ่ง แต่​ใน​ปี 1939 พวก​เรา​ย้าย​ไป​อยู่​กับ​คุณ​ตา​คุณ​ยาย​ที่​โจฮันเนสเบิร์ก. คุณ​ตา​ไม่​สนใจ​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​บาง​ครั้ง​ก็​ต่อ​ต้าน​ขัด​ขวาง​คุณ​ยาย แต่​ถึง​อย่าง​ไร​คุณ​ตา​ก็​เป็น​คน​ใจ​กว้าง เอื้อเฟื้อ​เผื่อแผ่. เทลมา น้อง​สาว​เกิด​ปี 1940 ฉัน​กับ​น้อง​สาว​ได้​เรียน​รู้​การ​เอา​ใจ​ใส่​ความ​จำเป็น​ของ​ผู้​สูง​อายุ. บ่อย​ครั้ง​เวลา​รับประทาน​อาหาร​มื้อ​ค่ำ เรา​จะ​นั่ง​คุย​กัน​ยาว​เกี่ยว​กับ​เหตุ​การณ์​ประจำ​วัน หรือ​เรื่อง​เล็ก ๆ น้อย ๆ ใน​อดีต​ที่​ยัง​จำ​กัน​ได้.

ครอบครัว​ของ​เรา​ชอบ​การ​คบหา​กับ​พวก​พยาน​ฯ ที่​แวะ​มา​เยี่ยม โดย​เฉพาะ​ผู้​ที่​รับใช้​เต็ม​เวลา. พวก​เขา​มัก​ร่วม​วง​สนทนา​กับ​เรา​เวลา​รับประทาน​อาหาร​มื้อ​ค่ำ​ด้วย​กัน และ​การ​สนทนา​ปราศรัย​ของ​พวก​เขา​ได้​เพิ่ม​พูน​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​มรดก​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​เรา​มี​อยู่​แล้ว. ทั้ง​นี้​เป็น​การ​เสริม​ความ​ปรารถนา​ของ​ฉัน​และ​ของ​เทลมา​ให้​อยาก​เป็น​ไพโอเนียร์​เหมือน​พวก​เขา.

ตั้ง​แต่​เป็น​เด็ก เรา​ถูก​สอน​ให้​ชอบ​การ​อ่าน. ไม่​ว่า​ยาย, แม่, หรือ​พ่อ​ต่าง​ก็​อ่าน​หนังสือ​นิทาน​ดี ๆ หรือ​อ่าน​โดย​ตรง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เรา​ฟัง. วาระ​การ​ประชุม​คริสเตียน​และ​งาน​รับใช้​เป็น​ส่วน​สำคัญ​ใน​ชีวิต​พวก​เรา​เหมือน​การ​หายใจ​เลย​ที​เดียว. พ่อ​เป็น​ผู้​รับใช้​หมู่​คณะ​ของ​ประชาคม​โจฮันเนสเบิร์ก (ปัจจุบัน​เรียก​ว่า​ผู้​ดู​แล​ผู้​เป็น​ประธาน) ฉะนั้น พวก​เรา​ต้อง​อยู่ ณ การ​ประชุม​ก่อน​เวลา. เมื่อ​เรา​มี​การ​ประชุม​ใหญ่ พ่อ​เป็น​ธุระ​เอา​ใจ​ใส่​งาน​ด้าน​บริหาร ส่วน​แม่​ช่วย​จัด​เตรียม​ที่​พัก​สำหรับ​ตัว​แทน​ที่​เดิน​ทาง​มา​ร่วม​ประชุม.

การ​ประชุม​ใหญ่​ครั้ง​พิเศษ​สำหรับ​พวก​เรา

การ​ประชุม​ใหญ่​ปี 1948 ใน​โจฮันเนสเบิร์ก​ถือ​เป็น​ครั้ง​พิเศษ. เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​มี​สมาชิก​คณะ​ทำ​งาน​ประจำ​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก​เข้า​ร่วม​ประชุม​ด้วย. พ่อ​ได้​รับ​มอบ​หน้า​ที่​ให้​ขับ​รถ​รับ​ส่ง​นาทาน นอรร์​และ​มิลตัน เฮนเชล​ระหว่าง​ช่วง​ที่​พวก​เขา​พัก​อยู่​ใน​เมือง. ฉัน​รับ​บัพติสมา ณ การ​ประชุม​ใหญ่​ครั้ง​นั้น.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน พ่อ​ถึง​กับ​สะดุ้ง​เมื่อ​ปู่​บอก​ว่า​ปู่​เสียใจ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​การ​ที่​ปู่​ยอม​อยู่​ใต้​อิทธิพล​ของ​พวก​ออก​หาก​ซึ่ง​แยก​ตัว​จาก​กลุ่ม​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​หลัง​การ​ตาย​ของ​บราเดอร์​รัสเซลล์. ต่อ​จาก​นั้น​เพียง​ไม่​กี่​เดือน​ปู่​ก็​เสีย​ชีวิต. ใน​ทาง​กลับ​กัน คุณ​ย่า​มือร์ดัล​เป็น​พยาน​ฯ ที่​ซื่อ​สัตย์​ภักดี​จน​กระทั่ง​เสร็จ​สิ้น​ภารกิจ​ทาง​แผ่นดิน​โลก​ใน​ปี 1955.

เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ซึ่ง​มี​ผล​กระทบ​มา​ถึง​ชีวิต​ฉัน

ฉัน​เริ่ม​งาน​เผยแพร่​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ประจำ​เมื่อ​วัน​ที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 1949. ไม่​นาน ความ​ตื่นเต้น​ดีใจ​เริ่ม​ทวี​มาก​ขึ้น​เมื่อ​มี​การ​แจ้ง​ให้​ทราบ​ว่า​ปี​ถัด​ไป​จะ​มี​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ใน​นคร​นิวยอร์ก. พวก​เรา​อยาก​ไป ทว่า​กำลัง​ทรัพย์​ของ​เรา​มี​ไม่​พอ. ครั้น​แล้ว คุณ​ตา​ทอมป์สัน​เสีย​ชีวิต​เดือน​กุมภาพันธ์ ปี 1950 และ​คุณ​ยาย​ได้​ใช้​เงิน​มรดก​เป็น​ค่า​เดิน​ทาง​ของ​พวก​เรา​ทั้ง​ห้า​คน.

เพียง​ไม่​กี่​สัปดาห์​ก่อน​ออก​เดิน​ทาง มี​จดหมาย​มา​จาก​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก. มัน​เป็น​จดหมาย​เชิญ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่ 16 เป็น​หลัก​สูตร​อบรม​มิชชันนารี. ฉัน​ตื่นเต้น​ดีใจ​เสีย​นี่​กระไร เพราะ​ตอน​นั้น​อายุ​ฉัน​ยัง​ไม่​ถึง 17 ปี! พอ​ถึง​เวลา​เปิด​เรียน ฉัน​เป็น​หนึ่ง​ใน​จำนวน​นัก​เรียน​สิบ​คน​จาก​แอฟริกา​ใต้​ที่​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ยิ่ง​ใหญ่​นั้น.

หลัง​จาก​จบ​หลัก​สูตร​ใน​เดือน​กุมภาพันธ์ 1951 พวก​เรา​แปด​คน​กลับ​ไป​เป็น​มิชชันนารี​ใน​แอฟริกา​ใต้. ใน​ช่วง​สอง​สาม​ปี​ต่อ​มา ส่วน​ใหญ่​ฉัน​กับ​เพื่อน​ร่วม​งาน​ได้​ประกาศ​เผยแพร่​ใน​เมือง​เล็ก ๆ ซึ่ง​พูด​ภาษา​อาฟริกานส์. ตอน​แรก ๆ ฉัน​ไม่​คุ้น​ภาษา​นี้ และ​จำ​ได้​ว่า​วัน​หนึ่ง​ระหว่าง​ขี่​จักรยาน​กลับ​บ้าน ฉัน​ร้องไห้​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​สัมฤทธิ์​ผล​ใน​งาน​เผยแพร่. แต่​ใน​ที่​สุด ฉัน​ปรับ​ปรุง​ดี​ขึ้น และ​พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​ความ​พยายาม​ของ​ฉัน.

การ​สมรส​และ​งาน​เดิน​ทาง

ปี 1955 ฉัน​มา​รู้​จัก​กับ​จอห์น คุก. เขา​เคย​ช่วย​เปิด​ทาง​ให้​งาน​ประกาศ​แผ่​เข้า​ไป​ใน​ประเทศ​ฝรั่งเศส, โปรตุเกส, และ​สเปน ทั้ง​ก่อน​และ​หลัง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 และ​ใน​ปี​ที่​ฉัน​พบ​เขา​นั้น เขา​ทำ​งาน​ฐานะ​มิชชันนารี​ใน​แอฟริกา. ต่อ​มา​เขา​บันทึก​ไว้​ว่า “ภาย​ใน​หนึ่ง​อาทิตย์​ผม​มี​เรื่อง​ให้​ตกตะลึง​ถึง​สาม​ครั้ง . . . บราเดอร์​ใจ​กว้าง​คน​หนึ่ง​มอบ​ของ​ขวัญ​ให้​ผม​เป็น​รถยนต์​คัน​เล็ก; ผม​ถูก​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​รับใช้​ภาค; และ​ผม​ตก​หลุม​รัก.” * เรา​แต่งงาน​ใน​เดือน​ธันวาคม ปี 1957.

ช่วง​ที่​เรา​ติด​ต่อ​ฝาก​รัก​กัน จอห์น​รับรอง​กับ​ฉัน​เพื่อ​ให้​มั่น​ใจ​ว่า​การ​ร่วม​ชีวิต​กับ​เขา​จะ​ไม่​มี​แม้​เพียง​ชั่ว​ขณะ​หนึ่ง​ที่​น่า​เบื่อ และ​เขา​พูด​ถูก. เรา​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ ทั่ว​แอฟริกา​ใต้ ส่วน​ใหญ่​เป็น​พื้น​ที่​ของ​คน​ผิว​ดำ​อยู่​อาศัย. อุปสรรค​ที่​เรา​เจอ​สัปดาห์​ละ​ครั้ง คือ​ต้อง​ได้​รับ​อนุญาต​ก่อน​เข้า​ไป​ใน​พื้น​ที่​เหล่า​นั้น เรื่อง​พัก​ค้าง​คืน​ยัง​ไม่​ต้อง​พูด​ถึง. บาง​ครั้ง เรา​นอน​บน​พื้น​ห้อง​ใน​ร้าน​ที่​ไม่​มี​คน​อาศัย ใน​บริเวณ​ที่​อยู่​ของ​คน​ผิว​ขาว เรา​พยายาม​ซ่อน​ตัว​หลบ​ไม่​ให้​คน​ผ่าน​ไป​มา​เห็น. ปกติ​แล้ว เรา​ต้อง​พัก​อยู่​กับ​พยาน​ฯ ผิว​ขาว​ที่​อยู่​ใกล้​ที่​สุด​ซึ่ง​มัก​จะ​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​หลาย​กิโลเมตร.

นอก​จาก​นี้ เรา​เผชิญ​ข้อ​ท้าทาย​ใน​เรื่อง​การ​ปลูก​สร้าง​สถาน​ที่​สำหรับ​การ​ประชุม​ใหญ่​อย่าง​ง่าย ๆ ใน​ป่า. เรา​จัด​ฉาย​ภาพยนตร์​ที่​จัด​ทำ​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​ช่วย​ผู้​คน​ให้​เข้าใจ​ภราดรภาพ​ของ​เรา​ที่​มี​อยู่​ทั่ว​โลก. เรา​นำ​เอา​เครื่อง​ปั่น​ไฟ​ไป​เอง เนื่อง​จาก​บริเวณ​พื้น​ที่​เหล่า​นั้น​มัก​จะ​ไม่​มี​ไฟฟ้า​ใช้. อนึ่ง เรา​ต้อง​รับมือ​ความ​ยุ่งยาก​ใน​ดินแดน​ที่​อังกฤษ​ปกครอง​เพราะ​ที่​นั่น​สรรพหนังสือ​ของ​เรา​ถูก​สั่ง​ห้าม อีก​ทั้ง​ข้อ​ท้าทาย​ใน​การ​เรียน​ภาษา​ซูลู. กระนั้น เรา​ยินดี​ที่​สามารถ​รับใช้​พี่​น้อง​ของ​เรา.

เดือน​สิงหาคม 1961 จอห์น​เป็น​ผู้​สอน​คน​แรก​ของ​โรง​เรียน​พระ​ราชกิจ​หลัก​สูตร​สี่​สัปดาห์​ใน​แอฟริกา​ใต้ ซึ่ง​มุ่ง​หมาย​ให้​การ​ช่วยเหลือ​บรรดา​ผู้​ดู​แล​ประชาคม. จอห์น​ช่ำชอง​ด้าน​ศิลปะ​การ​สอน​และ​เข้า​ถึง​หัวใจ​ด้วย​เหตุ​ผล​ง่าย ๆ และ​อุทาหรณ์​ที่​ชัดเจน. เป็น​เวลา​ประมาณ​ปี​ครึ่ง​เรา​เดิน​ทาง​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​ไป​ยัง​สถาน​ที่​ซึ่ง​จัด​เป็น​ชั้น​เรียน​สำหรับ​แต่​ละ​รุ่น​ที่​พูด​ภาษา​อังกฤษ. ระหว่าง​ที่​จอห์น​ทำ​การ​สอน ฉัน​ก็​ออก​ไป​ร่วม​งาน​ประกาศ​กับ​พยาน​ฯ ใน​ท้องถิ่น. ครั้น​แล้ว โดย​ไม่​คาด​คิด เรา​ได้​รับ​จดหมาย​เชิญ​ให้​เข้า​ไป​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา​แอฟริกา​ใต้ ใกล้​โจฮันเนสเบิร์ก​เริ่ม​วัน​ที่ 1 กรกฎาคม 1964.

แต่​ตอน​นั้น เรา​ชัก​ไม่​แน่​ใจ​ใน​ด้าน​สุขภาพ​ของ​จอห์น. ใน​ปี 1948 เขา​ป่วย​เป็น​วัณโรค​อยู่​พัก​หนึ่ง หลัง​จาก​นั้น​เขา​มัก​จะ​แสดง​อาการ​ให้​รู้​ว่า​ไม่​มี​เรี่ยว​มี​แรง. เขา​เคย​ป่วย​ด้วย​อาการ​คล้าย ๆ ไข้หวัด​และ​ต้อง​นอน​พัก​นาน​หลาย​วัน—ไม่​สามารถ​ทำ​งาน​และ​พบ​ปะ​ผู้​คน. ไม่​นาน​ก่อน​เรา​ถูก​เรียก​ตัว​เข้า​ทำ​งาน​ที่​สำนักงาน​สาขา แพทย์​ที่​เรา​ปรึกษา​ได้​วินิจฉัย​ว่า​จอห์น​ป่วย​ด้วย​โรค​ซึมเศร้า.

เป็น​เรื่อง​ที่​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ว่า​เรา​จะ​เปลี่ยน​จังหวะ​ชีวิต​โดย​ทำ​งาน​ให้​น้อย​ลง​ตาม​ที่​หมอ​แนะ​นำ. ที่​สาขา จอห์น​ได้​รับ​มอบหมาย​ใน​แผนก​การ​รับใช้ ส่วน​ฉัน​ทำ​ด้าน​พิสูจน์​อักษร. และ​เป็น​พระ​พร​เหลือ​หลาย​ที่​เรา​มี​ห้อง​พัก​เป็น​ของ​ตัว​เอง! จอห์น​เคย​รับใช้​ใน​เขต​อัน​เป็น​ถิ่น​ที่​อยู่​ของ​ชาว​โปรตุเกส​ก่อน​เรา​แต่งงาน ดัง​นั้น ใน​ปี 1967 เรา​ถูก​มอบหมาย​ให้​ช่วย​สนับสนุน​ครอบครัว​พยาน​ฯ ชาว​โปรตุเกส​เพียง​ครอบครัว​เดียว​เท่า​นั้น​ใน​ท้องถิ่น​ให้​ประกาศ​เผยแพร่​ใน​ชุมชน​ใหญ่​ซึ่ง​มี​ชาว​โปรตุเกส​อยู่​กัน​มาก ทั้ง​ใน​นคร​โจฮันเนสเบิร์ก​และ​พื้น​ที่​โดย​รอบ. นั่น​หมาย​ความ​ว่า​ฉัน​ยัง​จะ​ต้อง​พากเพียร​เรียน​อีก​ภาษา​หนึ่ง.

ด้วย​เหตุ​ที่​ชุมชน​โปรตุเกส​อยู่​กระจาย​เป็น​บริเวณ​กว้าง เรา​จึง​ได้​เดิน​ทาง​ไป​หลาย​แห่ง บาง​ครั้ง​เรา​เดิน​ทาง​ระยะ​ไกล​ถึง 300 กิโลเมตร​เพื่อ​จะ​พบ​ผู้​คน​ที่​เรา​ควร​เยี่ยม. ถึง​ตอน​นั้น เหล่า​พยาน​ฯ ที่​พูด​ภาษา​โปรตุเกส​จาก​โมซัมบิก​เริ่ม​มา​เยี่ยม​พวก​เรา​เมื่อ​มี​การ​ประชุม​ใหญ่ ถือ​ได้​ว่า​เป็น​ส่วน​ช่วย​คน​ใหม่ ๆ ได้​มาก. ช่วง 11 ปี​ของ​เรา​กับ​ชาว​โปรตุเกส เรา​ได้​เห็น​กลุ่ม​เล็ก ๆ จาก​ประมาณ 30 คน​เจริญ​งอกงาม​เป็น​สี่​ประชาคม.

การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​บ้าน

ระหว่าง​นี้ เกิด​การ​เปลี่ยน​แปลง​หลาย​อย่าง​ภาย​ใน​บ้าน​พ่อ​แม่. ปี 1960 เทลมา น้อง​สาว​แต่งงาน​กับ​จอห์น เออร์บัน ไพโอเนียร์​จาก​สหรัฐ. ปี 1965 เขา​ทั้ง​สอง​เข้า​เรียน​ใน​รุ่น​ที่ 40 ของ​โรง​เรียน​กิเลียด แล้ว​ไป​ปฏิบัติ​งาน​ฐานะ​มิชชันนารี​อย่าง​ภักดี​ใน​ประเทศ​บราซิล 25 ปี. ปี 1990 ทั้ง​สอง​กลับ​คืน​สู่​รัฐ​โอไฮโอ​มา​ดู​แล​พ่อ​แม่​ของ​จอห์น​ที่​เจ็บ​ป่วย. ถึง​แม้​จะ​เครียด​เนื่อง​จาก​การ​ปรนนิบัติ​ผู้​ป่วย แต่​พวก​เขา​ยัง​คง​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​กระทั่ง​ทุก​วัน​นี้.

คุณ​ยาย​ทอมป์สัน​เสร็จ​สิ้น​ภารกิจ​ทาง​แผ่นดิน​โลก​ใน​ปี 1965 ท่าน​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​พระเจ้า​กระทั่ง​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​อายุ 98 ปี. ปี​เดียว​กัน​นั้น​เอง พ่อ​ก็​เกษียณ​อายุ​พัก​จาก​งาน​อาชีพ. ดัง​นั้น เมื่อ​มี​การ​ขอ​ให้​ฉัน​กับ​จอห์น​ช่วย​งาน​ประกาศ​ใน​เขต​งาน​ของ​ผู้​คน​ที่​พูด​ภาษา​โปรตุเกส พ่อ​กับ​แม่​ได้​อาสา​มา​สมทบ​กับ​เรา. ท่าน​ทั้ง​สอง​เป็น​พลัง​ผลัก​ดัน​ที่​เข้มแข็ง​ของ​กลุ่ม และ​เพียง​ไม่​กี่​เดือน​ก็​มี​การ​ตั้ง​ประชาคม​แรก​ขึ้น​มา. จาก​นั้น​ไม่​นาน แม่​เริ่ม​รู้สึก​ถึง​ผล​กระทบ​ของ​โรค​มะเร็ง อัน​เป็น​เหตุ​ให้​แม่​เสีย​ชีวิต​ใน​ปี 1971. ส่วน​พ่อ​ก็​เสีย​ชีวิต​หลัง​จาก​นั้น​เจ็ด​ปี.

รับมือ​กับ​ความ​ป่วย​ไข้​ของ​จอห์น

พอ​มา​ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1970 เห็น​ได้​ชัด​ว่า​สุขภาพ​ของ​จอห์น​ไม่​ดี​ขึ้น. งาน​รับใช้​ที่​เขา​เคย​ทะนุถนอม​มา​โดย​ตลอด ก็​เลย​ต้อง​สละ​สิทธิ​พิเศษ​บาง​อย่าง​ออก​ไป​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย รวม​ถึง​การ​เป็น​ผู้​นำ​การ​ศึกษา​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ประจำ​สัปดาห์​และ​การ​พิจารณา​พระ​คัมภีร์​ตอน​เช้า​กับ​ครอบครัว​ที่​สาขา. งาน​มอบหมาย​ของ​เขา​เปลี่ยน​จาก​แผนก​การ​รับใช้​ไป​อยู่​แผนก​จัด​ส่ง​จดหมาย แล้ว​เปลี่ยน​ไป​ทำ​งาน​ใน​สวน.

ความ​ที่​จอห์น​มี​ใจ​สู้​จึง​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​เขา​จะ​ยอม​รับ​การ​เปลี่ยน​แปลง. ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า เมื่อ​ฉัน​พยายาม​จะ​ให้​เขา​ผ่อน​คลาย​บ้าง เขา​ก็​ล้อ​ว่า​ฉัน​เป็น​ตุ้ม​ถ่วง​โซ่​ล่าม​เขา​ไว้—แล้ว​ก็​จะ​โอบ​กอด​ฉัน​ด้วย​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า. ใน​ที่​สุด เรา​เห็น​ว่า​สม​ควร​ละ​เขต​งาน​โปรตุเกส​แล้ว​ไป​รับใช้​ร่วม​กับ​ประชาคม​ซึ่ง​มี​หอ​ประชุม​อยู่​ใน​สาขา.

ขณะ​ที่​สุขภาพ​ของ​จอห์น​ทรุด​ลง​เรื่อย ๆ แต่​ก็​รู้สึก​ซาบซึ้ง​เมื่อ​สังเกต​เห็น​สัมพันธภาพ​ใกล้​ชิด​ของ​เขา​กับ​พระ​ยะโฮวา. เมื่อ​จอห์น​ตื่น​ขึ้น​มา​กลาง​ดึก​ใน​ภาวะ​ซึมเศร้า​อย่าง​หนัก เรา​คุย​กัน​จน​จิตใจ​เขา​ค่อย​สงบ​ลง​และ​สามารถ​จะ​อธิษฐาน​ทูล​พระ​ยะโฮวา​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ. ใน​ที่​สุด เขา​สามารถ​รับมือ​กับ​ช่วง​ที่​เกิด​อาการ​ซึมเศร้า​ได้​ด้วย​ตัว​เอง​โดย​บังคับ​ตัว​กล่าว​ถ้อย​คำ​ใน​ฟิลิปปอย 4:6, 7 อย่าง​ช้า ๆ และ​ซ้ำ​หลาย​ครั้ง​ที่​ว่า “อย่า​กระวนกระวาย​ด้วย​สิ่ง​ใด​เลย . . . ” ครั้น​แล้ว​เขา​สงบ​อารมณ์​ได้​และ​จะ​เริ่ม​อธิษฐาน. บ่อย​ครั้ง​ฉัน​ตื่น​ขึ้น​มา​และ​เฝ้า​ดู​เขา​ทำ​ปาก​ขมุบขมิบ​ขณะ​ตั้งใจ​ทูล​อ้อน​วอน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา.

เนื่อง​จาก​ตอน​นั้น​อาคาร​สำนักงาน​สาขา​คับแคบ​ไป​มาก จึง​มี​การ​เริ่ม​ก่อ​สร้าง​อาคาร​สำนักงาน​ใหม่​และ​ใหญ่​กว่า​เดิม​นอก​เมือง​โจฮันเนสเบิร์ก. ฉัน​กับ​จอห์น​แวะ​ไป​ชม​บริเวณ​ก่อ​สร้าง​แห่ง​นี้​บ่อย ๆ บรรยากาศ​สงบ ปลอด​เสียง​อึกทึก​และ​มลภาวะ​ของ​เมือง​ใหญ่. เรา​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ย้าย​เข้า​ไป​อยู่​ที่​นั่น​ชั่ว​คราว​จน​กว่า​การ​ก่อ​สร้าง​สาขา​แห่ง​ใหม่​จะ​แล้ว​เสร็จ ซึ่ง​ช่วย​จอห์น​ได้​มาก​ที​เดียว.

เผชิญ​ข้อ​ท้าทาย​ใหม่ ๆ

เนื่อง​จาก​ศักยภาพ​ของ​จอห์น​ใน​การ​คิด​และ​การ​หา​เหตุ​ผล​เริ่ม​เสื่อม​ลง​เรื่อย ๆ การ​จะ​ทำ​งาน​มอบหมาย​ต่าง ๆ ให้​ลุ​ล่วง​ก็​ยาก​ขึ้น. ฉัน​ซาบซึ้ง​จริง ๆ ที่​หลาย​คน​ได้​สนับสนุน​ความ​มุ่ง​มั่น​พยายาม​ของ​จอห์น. ยก​ตัว​อย่าง เมื่อ​บราเดอร์​คน​หนึ่ง​ไป​ที่​ห้อง​สมุด​ประชาชน​เพื่อ​การ​ค้นคว้า เขา​จะ​พา​จอห์น​ไป​ด้วย. กระเป๋า​ของ​จอห์น​มัก​จะ​อัด​แน่น​ด้วย​แผ่น​พับ​และ​วารสาร​สำหรับ​แจก​จ่าย​ใน​วัน​ที่​ออก​ไป​ข้าง​นอก. ทั้ง​นี้​ทำ​ให้​จอห์น​รู้สึก​ว่า​ตน​บรรลุ​ความ​สำเร็จ​และ​ยัง​มี​ค่า.

ใน​ที่​สุด โรค​อัลไซเมอร์​ก็​ทำ​ให้​จอห์น​ไม่​สามารถ​เข้าใจ​ลายลักษณ์​อักษร​ใด ๆ ทั้ง​สิ้น. เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​มี​เทป​บันทึก​เรื่อง​ต่าง ๆ จาก​สรรพหนังสือ​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​เพลง​ราชอาณาจักร. เรา​เปิด​ฟัง​เทป​เหล่า​นี้​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก. จอห์น​มัก​จะ​มี​อาการ​หงุดหงิด​ถ้า​ฉัน​ไม่​นั่ง​ฟัง​ด้วย ดัง​นั้น ฉัน​ไม่​ยอม​อยู่​ว่าง ๆ ใน​ช่วง​หลาย​ชั่วโมง​เหล่า​นั้น แต่​หา​งาน​เย็บ​ปัก​ถัก​ร้อย​มา​ทำ​ไป​เรื่อย ๆ เรา​ก็​เลย​มี​เสื้อ​ไหมพรม​และ​ผ้า​ห่ม​ใช้​เหลือ​เฟือ!

แล้ว​ใน​ที่​สุด อาการ​ป่วย​ของ​จอห์น​ทำ​ให้​ฉัน​ต้อง​เฝ้า​ปรนนิบัติ​ดู​แล​มาก​ขึ้น. ถึง​แม้​บ่อย​ครั้ง​ฉัน​รู้สึก​เหนื่อย​ล้า​เกิน​ไป​ที่​จะ​อ่าน​หรือ​ศึกษา กระนั้น ฉัน​ถือ​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​ดู​แล​เขา​ถึง​ที่​สุด. วัน​สุด​ท้าย​มา​ถึง​ใน​ปี 1998 จอห์น​ใน​วัย​เพิ่ง​ผ่าน 85 ปี​ก็​สิ้น​ใจ​อย่าง​สงบ​ใน​อ้อม​กอด​ของ​ฉัน​อย่าง​คน​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ตลอด​ชีวิต. ฉัน​ตั้ง​ตา​คอย​พบ​เขา​เมื่อ​จะ​มี​การ​ปลุก​ขึ้น​จาก​ตาย เวลา​นั้น​สุขภาพ​และ​ความ​คิด​จิตใจ​ของ​เขา​จะ​คืน​สู่​สภาพ​ดี​ดัง​เดิม!

ได้​รับ​ความ​สดชื่น

หลัง​จาก​จอห์น​สิ้น​ชีวิต​แล้ว ไม่​ง่าย​ที่​ฉัน​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​ด้วย​ตัว​เอง. ดัง​นั้น ใน​เดือน​พฤษภาคม 1999 ฉัน​ได้​ไป​เยี่ยม​เทลมา​น้อง​สาว​และ​สามี​ของ​เธอ​ที่​ประเทศ​สหรัฐ. เป็น​ที่​น่า​ปลื้ม​ปีติ​และ​ได้​รับ​ความ​สดชื่น​เสีย​นี่​กระไร​เมื่อ​พบ​ปะ​เพื่อน​รัก​ที่​ซื่อ​สัตย์​หลาย​สิบ​คน โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง ใน​ช่วง​ที่​เรา​ไป​เยือน​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ใน​นคร​นิวยอร์ก! มัน​เป็น​การ​เติม​พลัง​ฝ่าย​วิญญาณ​ตาม​ที่​ฉัน​ต้องการ​อยู่​ที​เดียว.

การ​รำลึก​ถึง​ชีวิต​ของ​บรรดา​ผู้​ที่​ฉัน​รัก​ซึ่ง​เป็น​คน​ภักดี นั้น​เตือน​ให้​นึก​ถึง​เรื่อง​ราว​มาก​มาย​แต่​หน​หลัง​ซึ่ง​เป็น​คุณประโยชน์​สำหรับ​ฉัน. การ​ที่​คน​เหล่า​นั้น​ให้​คำ​แนะ​นำ, เป็น​ตัว​อย่าง, และ​ให้​การ​ช่วยเหลือ ฉัน​จึง​ได้​เรียน​รู้​ที่​จะ​ตี​แผ่​ความ​รัก​ให้​แก่​ผู้​คน​ต่าง​เชื้อชาติ​ต่าง​เผ่า​พันธุ์. ฉัน​ได้​เรียน​รู้​ความ​พากเพียร, ความ​อด​ทน​อด​กลั้น, การ​รู้​จัก​ปรับ​ตัว. สำคัญ​ที่​สุด ตัว​ฉัน​เอง​ได้​ประสบ​พระ​กรุณาคุณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ผู้​สดับ​คำ​อธิษฐาน. ฉัน​สะท้อน​ความ​รู้สึก​ของ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ที่​เขียน​ไว้​ว่า “ความ​สุข​ย่อม​มี​แก่​คน​นั้น​ที่​พระองค์​ทรง​เลือก​และ​ให้​เขา​เข้า​มา​หา​พระองค์ เพื่อ​เขา​จะ​ได้​อาศัย​อยู่​ภาย​ใน​ลาน​ของ​พระองค์. พวก​ข้าพเจ้า​ย่อม​ได้​รับ​ความ​พอ​ใจ​ด้วย​ความ​ดี​งาม​แห่ง​ราชสำนัก​ของ​พระองค์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 65:4, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 18 โปรด​ดู​วารสาร​เดอะ ว็อชเทาเวอร์ ฉบับ 1 สิงหาคม 1959 (ภาษา​อังกฤษ) หน้า 468-472.

[ภาพ​หน้า 8]

คุณ​ยาย​กับ​ลูก​สาว

[ภาพ​หน้า 9]

กับ​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​เมื่อ​ฉัน​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1948

[ภาพ​หน้า 10]

กับ​อัลเบิร์ต ชโรเดอร์ นาย​ทะเบียน​แห่ง​โรง​เรียน​กิเลียด และ​นัก​เรียน​อีก​เก้า​คน​จาก​แอฟริกา​ใต้

[ภาพ​หน้า 10]

กับ​จอห์น​ใน​ปี 1984