คุณมีทัศนะเหมือนพระยะโฮวาในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหม?
คุณมีทัศนะเหมือนพระยะโฮวาในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหม?
“จงระวังให้ดี . . . เพื่อจะไม่มีคนผิดประเวณี หรือคนใดที่ไม่หยั่งรู้คุณค่าของสิ่งศักดิ์สิทธิ์.”—เฮ็บราย 12:15, 16, ล.ม.
1. ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาไม่มีทัศนะเช่นไรแบบผู้คนทั่วไปในปัจจุบัน?
ผู้คนทั่วไปในโลกสนใจในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์น้อยลงเรื่อย ๆ. เอดการ์ มอแรง นักสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศสกล่าวไว้ดังนี้: “รากฐานทั้งสิ้นของศีลธรรมจรรยาทั้งหลาย—ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้า, ธรรมชาติ, มาตุภูมิ, ประวัติศาสตร์, เหตุผล—ได้สูญเสียลักษณะตามธรรมดาที่เมื่อก่อนไม่เคยถูกตั้งข้อสงสัย. . . . ผู้คนเลือกค่านิยมที่ตนอยากจะยึด.” ความเป็นไปดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเกี่ยวกับ “วิญญาณของโลก” หรือ “วิญญาณที่ทำกิจอยู่ในพวกคนที่ไม่เชื่อฟังในเวลานี้.” (1 โกรินโธ 2:12; เอเฟโซ 2:2, ฉบับแปล 2002) น้ำใจที่ไม่แสดงความนับถือแบบนั้นไม่มีอยู่ในคนที่ได้อุทิศตัวแด่พระยะโฮวาและเต็มใจยอมอยู่ใต้อำนาจพระบรมเดชานุภาพอันชอบธรรมของพระองค์. (โรม 12:1, 2) แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ผู้รับใช้พระเจ้าตระหนักถึงความสำคัญของความศักดิ์สิทธิ์ หรือความบริสุทธิ์ ที่มีอยู่ในการนมัสการที่เขาถวายแด่พระยะโฮวา. มีอะไรบ้างในชีวิตเราที่ควรถือว่าศักดิ์สิทธิ์? บทความนี้จะพิจารณาห้าประการซึ่งเป็นสิ่งที่นับว่าศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้รับใช้ของพระเจ้าทุกคน. บทความถัดไปจะเน้นในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของการประชุมคริสเตียน. แต่คำ “บริสุทธิ์” หมายความเช่นไรจริง ๆ?
2, 3. (ก) พระคัมภีร์เน้นในเรื่องความบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาอย่างไร? (ข) เราควรถือว่าพระนามยะโฮวาเป็นสิ่งหนึ่งที่บริสุทธิ์อย่างไร?
2 ในภาษาฮีบรูที่ใช้ในคัมภีร์ไบเบิล คำ “บริสุทธิ์” สื่อแนวคิดเกี่ยวกับการแยกไว้ต่างหาก. ในการนมัสการ คำ “บริสุทธิ์” ใช้กับสิ่งที่ถูกแยกไว้ต่างหากจากการใช้ตามธรรมดา หรือสิ่งที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์. พระยะโฮวาทรงบริสุทธิ์ในความหมายที่ครบถ้วนสมบูรณ์. มีการกล่าวถึงพระองค์ว่าเป็น “องค์บริสุทธิ์ [“ที่สุด,” ล.ม.]” (สุภาษิต 9:10; 30:3) ในชาติอิสราเอลโบราณ มหาปุโรหิตสวมผ้าโพกศีรษะที่มีแผ่นทองคำติดไว้ ซึ่งมีคำจารึกไว้บนแผ่นทองคำนั้นว่า “ความบริสุทธิ์เป็นของพระยะโฮวา.” (เอ็กโซโด 28:36, 37, ล.ม.) พระคัมภีร์พรรณนาว่าเครูบและเซราฟซึ่งอยู่ในสวรรค์และประจำการอยู่รอบพระที่นั่งของพระยะโฮวาได้ร้องประกาศว่า “พระยะโฮวา . . . เป็นบริสุทธิ์, เป็นบริสุทธิ์, เป็นบริสุทธิ์.” (ยะซายา 6:2, 3; วิวรณ์ 4:6-8) การกล่าวซ้ำอย่างนี้เน้นว่าพระยะโฮวาทรงบริสุทธิ์, สะอาด, และไร้มลทินในระดับสูงสุด. ที่จริง พระองค์ทรงเป็นแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ทั้งปวง.
3 พระนามยะโฮวานั้นศักดิ์สิทธิ์ หรือบริสุทธิ์. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญกล่าวด้วยความรู้สึกอันแรงกล้าว่า “ให้คนทั้งปวงสรรเสริญพระนามอันใหญ่ยิ่งและน่าเกรงกลัวของพระองค์. พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์ [“พระนามของพระองค์ใหญ่ยิ่งและน่าเกรงขาม เป็นบริสุทธิ์,” ล.ม.].” (บทเพลงสรรเสริญ 99:3) พระเยซูทรงสอนเราให้อธิษฐานดังนี้: “โอพระบิดาแห่งข้าพเจ้าทั้งหลายผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์.” (มัดธาย 6:9) มาเรีย มารดาของพระเยซูขณะที่ทรงอยู่บนแผ่นดินโลก ประกาศดังนี้: “จิตต์ของข้าพเจ้าก็สรรเสริญพระเจ้า . . . ผู้ทรงฤทธิ์ได้ทรงกระทำการใหญ่แก่ข้าพเจ้า และพระนามของพระองค์ก็บริสุทธิ์.” (ลูกา 1:46, 49) ในฐานะผู้รับใช้ของพระยะโฮวา เราถือว่าพระนามของพระองค์เป็นสิ่งหนึ่งที่บริสุทธิ์และหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจนำความเสื่อมเสียมาสู่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์. นอกจากนั้น เรามีทัศนะแบบเดียวกับพระยะโฮวาในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ กล่าวคือ สิ่งใดที่พระองค์ทรงถือว่าศักดิ์สิทธิ์เราถือว่าสิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์.—อาโมศ 5:14, 15.
เหตุที่เรานับถือพระเยซูอย่างสุดซึ้ง
4. เหตุใดคัมภีร์ไบเบิลพรรณนาพระเยซูว่าเป็น “ผู้บริสุทธิ์”?
4 ในฐานะ “พระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียว” ของพระยะโฮวาพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ พระเยซูทรงถูกสร้างให้บริสุทธิ์. โยฮัน 1:14, ล.ม.; โกโลซาย 1:15; เฮ็บราย 1:1-3) ด้วยเหตุนั้น จึงมีการเรียกพระองค์ว่า “ผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า.” (โยฮัน 6:69) พระองค์ยังคงบริสุทธิ์อยู่เมื่อชีวิตพระองค์ถูกโยกย้ายจากสวรรค์มายังแผ่นดินโลก เพราะมาเรียให้กำเนิดพระเยซูโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์. ทูตสวรรค์องค์หนึ่งบอกเธอว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมาบนเธอ . . . องค์บริสุทธิ์ที่จะบังเกิดนั้นจะได้นามว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า.” (ลูกา 1:35) ในคำอธิษฐานถึงพระยะโฮวา คริสเตียนในเยรูซาเลมกล่าวถึงพระบุตรของพระเจ้าสองครั้งว่า “พระเยซูผู้รับใช้บริสุทธิ์ของพระองค์.”—กิจการ 4:27, 30, ฉบับแปลใหม่.
(5. ภารกิจศักดิ์สิทธิ์อะไรที่พระเยซูได้ปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วงบนแผ่นดินโลก และเหตุใดพระโลหิตของพระองค์จึงมีค่ายิ่ง?
5 พระเยซูทรงมีภารกิจศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องปฏิบัติให้ลุล่วงขณะที่ทรงอยู่บนแผ่นดินโลก. ในวันที่ทรงรับบัพติสมาในปีสากลศักราช 29 พระเยซูทรงถูกเจิมให้เป็นมหาปุโรหิตแห่งพระวิหารฝ่ายวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา. (ลูกา 3:21, 22; เฮ็บราย 7:26; 8:1, 2) นอกจากนั้น พระองค์ยังต้องสิ้นพระชนม์เพื่อเป็นเครื่องบูชา. พระโลหิตที่หลั่งออกของพระองค์จะเป็นค่าไถ่ที่สามารถช่วยมนุษย์ผู้ผิดบาปให้รอด. (มัดธาย 20:28; เฮ็บราย 9:14) ด้วยเหตุนั้น เราถือว่าพระโลหิตของพระเยซูเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ “มีค่ามาก.”—1 เปโตร 1:19, ล.ม.
6. เจตคติของเราต่อพระคริสต์เยซูเป็นเช่นไร และเพราะเหตุใด?
6 อัครสาวกเปาโลเขียนเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามีความนับถืออย่างลึกซึ้งต่อพระคริสต์เยซู พระมหากษัตริย์และมหาปุโรหิตของเรา ดังนี้: “พระเจ้าจึงได้ทรงยก [พระบุตร] ขึ้นให้ดำรงตำแหน่งสูง และทรงโปรดประทานพระนามซึ่งเหนือนามอื่นทั้งหมดให้แก่พระองค์ เพื่อทุกหัวเข่าในสวรรค์ก็ดี ที่แผ่นดินโลกก็ดีและใต้พื้นแผ่นดินก็ดีจะได้กราบลงในพระนามของพระเยซู และลิ้นทุกลิ้นจะรับอย่างเปิดเผยว่าพระเยซูคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อถวายเกียรติยศแด่พระเจ้าพระบิดา.” (ฟิลิปปอย 2:9-11, ล.ม.) เราแสดงว่าเรามีทัศนะแบบเดียวกับพระยะโฮวาในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยยินดียอมอยู่ใต้อำนาจพระคริสต์เยซู ผู้นำและมหากษัตริย์ของเราที่กำลังครองราชย์อยู่ ผู้เป็นประมุขของประชาคมคริสเตียน.—มัดธาย 23:10; โกโลซาย 1:18.
7. เราแสดงให้เห็นว่าเรายอมอยู่ใต้อำนาจของพระคริสต์โดยวิธีใด?
7 การยอมอยู่ใต้อำนาจของพระคริสต์ยังหมายรวมถึงการที่เราแสดงความนับถืออย่างถูกต้องต่อคนที่พระองค์ทรงใช้ให้นำหน้าในงานที่พระองค์กำลังชี้นำอยู่ในเวลานี้. บทบาทของชนผู้ถูกเจิมด้วยพระวิญญาณซึ่งประกอบกันเป็นคณะกรรมการปกครองและบรรดาผู้ดูแลที่พวกเขาแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ในสำนักงานสาขา, ภาค, หมวด, และประชาคมต่าง ๆ ควรได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นหน้าที่รับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์. ด้วยเหตุนั้น เราต้องให้ความนับถืออย่างสุดซึ้งและยอมอยู่ใต้อำนาจการจัดเตรียมนี้.—เฮ็บราย 13:7, 17.
ประชาชนบริสุทธิ์
8, 9. (ก) ชาวอิสราเอลเป็นประชาชนบริสุทธิ์ในทางใด? (ข) พระยะโฮวาทรงเน้นกับชาวอิสราเอลอย่างไรเกี่ยวกับหลักการในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์?
8 พระยะโฮวาทรงทำสัญญากับชาติอิสราเอล. สายสัมพันธ์นี้ทำให้ชาติใหม่ชาตินี้มีสถานภาพพิเศษ. พวกเขาได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ หรือถูกแยกไว้ต่างหาก. พระยะโฮวาเองทรงบอกพวกเขาว่า “เจ้าทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ต่อเรา; เพราะเรายะโฮวาเป็นผู้บริสุทธิ์, และเราได้แยกเจ้าออกจากชนประเทศอื่นให้เป็นพลเมืองของเรา.”—เลวีติโก 19:2; 20:26.
เอ็กโซโด 19:12, 23) ตำแหน่งปุโรหิต, พลับพลา, และเครื่องใช้ทั้งหลายของพลับพลาก็ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์. (เอ็กโซโด 30:26-30) สถานการณ์ในประชาคมคริสเตียนเป็นเช่นไร?
9 ในตอนที่ทรงตั้งชาติอิสราเอลนั้นเอง พระยะโฮวาทรงเน้นกับชาวอิสราเอลเกี่ยวกับหลักการในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์. โดยคาดโทษไว้ถึงตาย พระองค์ทรงมีพระบัญชาว่าพวกเขาต้องไม่แตะต้องแม้กระทั่งภูเขาที่เป็นสถานที่ซึ่งพระองค์ประทานพระบัญญัติสิบประการ. ในแง่หนึ่ง จึงถือว่าภูเขาไซนายในตอนนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์. (10, 11. เหตุใดจึงกล่าวได้ว่าประชาคมคริสเตียนแห่งชนผู้ถูกเจิมนั้นศักดิ์สิทธิ์ และเรื่องนี้มีผลเช่นไรต่อ “แกะอื่น”?
10 ประชาคมคริสเตียนแห่งชนผู้ถูกเจิมถือว่าศักดิ์สิทธิ์ในสายพระเนตรพระยะโฮวา. (1 โกรินโธ 1:2) ที่จริง คริสเตียนผู้ถูกเจิมทั้งกลุ่มที่อยู่บนแผ่นดินโลก ณ เวลาใดเวลาหนึ่งถูกเปรียบกับพระวิหารบริสุทธิ์ แม้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นพระวิหารฝ่ายวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา. พระยะโฮวาทรงประทับที่พระวิหารนั้นโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์. อัครสาวกเปาโลเขียนดังนี้: “ใน [พระคริสต์เยซู] นั้นทุกส่วนของโครงสร้างถูกเชื่อมต่อกันและเจริญขึ้นเป็นวิหารอันบริสุทธิ์ [สำหรับพระยะโฮวา]. และในพระองค์นั้น พวกท่านก็กำลังถูกก่อร่างสร้างขึ้นด้วยกันให้เป็นที่สถิตของพระเจ้าโดยพระวิญญาณ.”—เอเฟโซ 2:21, 22, ฉบับแปล 2002; 1 เปโตร 2:5, 9.
11 เปาโลเขียนต่อไปถึงคริสเตียนผู้ถูกเจิมว่า “ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าตัวท่านเป็นวิหารของพระเจ้า, และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในตัวท่าน? . . . วิหารของพระเจ้าเป็นที่บริสุทธิ์, และท่านทั้งหลายเป็นวิหารนั้น.” (1 โกรินโธ 3:16, 17) โดยทางพระวิญญาณ พระยะโฮวา “สถิต” อยู่ท่ามกลางเหล่าผู้ถูกเจิมและ “ดำเนินท่ามกลางเขา.” (2 โกรินโธ 6:16) พระองค์ทรงชี้นำ “ทาส” สัตย์ซื่อของพระองค์อยู่เรื่อยมา. (มัดธาย 24:45-47, ล.ม.) “แกะอื่น” เห็นค่าและรักษาสิทธิพิเศษของตนไว้ในการคบหากับชนชั้นพระวิหาร.—โยฮัน 10:16; มัดธาย 25:37-40.
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของเราฐานะคริสเตียน
12. มีอะไรบ้างที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของเรา และเพราะเหตุใด?
12 ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะกล่าวว่า หลายสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของสมาชิกที่เป็นผู้ถูกเจิมของประชาคมคริสเตียนและบรรดาสหายของพวกเขาถือว่าศักดิ์สิทธิ์. ความสัมพันธ์ของเรากับพระยะโฮวา เป็นสิ่งหนึ่งที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์. (1 โครนิกา 28:9; บทเพลงสรรเสริญ 36:7) นั่นเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งถึงขนาดที่เราไม่ยอมให้สิ่งใดหรือใครก็ตามมาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระยะโฮวาพระเจ้าอ่อนลง. (2 โครนิกา 15:2; ยาโกโบ 4:7, 8) การอธิษฐาน เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในการรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ ชิดระหว่างเรากับพระยะโฮวา. การอธิษฐานถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับผู้พยากรณ์ดานิเอลถึงขนาดที่ท่านยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อรักษากิจวัตรของท่านในการอธิษฐานถึงพระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์. (ดานิเอล 6:7-11) “คำอธิษฐานของสิทธชนทั้งปวง” ซึ่งก็หมายถึงคริสเตียนผู้ถูกเจิม ถูกเปรียบว่าเหมือนกับเครื่องหอมที่ใช้ในการนมัสการที่พระวิหาร. (วิวรณ์ 5:8; 8:3, 4; เลวีติโก 16:12, 13) สัญลักษณ์ดังกล่าวเน้นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของการอธิษฐาน. ช่างเป็นสิทธิพิเศษสักเพียงไรที่จะสามารถสื่อความกับองค์บรมมหิศรแห่งเอกภพ! ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยว่าการอธิษฐานถือว่าศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของเรา!
13. พลังอะไรที่บริสุทธิ์ และเราควรยอมให้พลังนี้ดำเนินกิจอย่างไรในชีวิตเรา?
13 มีพลังอย่างหนึ่งในชีวิตของคริสเตียนผู้ถูกเจิมและสหายที่พวกเขาถือว่าศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน นั่นคือ พระวิญญาณบริสุทธิ์. พระวิญญาณนี้เป็นพลังปฏิบัติการของพระยะโฮวา และเนื่องจากพลังนี้กระทำกิจสอดคล้องกับพระทัยประสงค์ของพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ จึงเหมาะจะเรียกว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์” หรือ “พระวิญญาณแห่งความบริสุทธิ์.” (โยฮัน 14:26; โรม 1:4) โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระยะโฮวาประทานกำลังแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ให้ประกาศข่าวดี. (กิจการ 1:8; 4:31) พระยะโฮวาประทานพระวิญญาณแก่ “คนเหล่านั้นที่เชื่อฟังพระองค์ในฐานะเป็นผู้ปกครอง” และแก่คนที่ “ดำเนินตามพระวิญญาณ” ไม่ใช่ตามความปรารถนาของเนื้อหนัง. (กิจการ 5:32, ล.ม.; ฆะลาเตีย 5:16, 25; โรม 8:5-8) พลังอันเปี่ยมด้วยฤทธิ์อำนาจนี้ทำให้คริสเตียนสามารถแสดง “ผลของพระวิญญาณ”—คุณลักษณะต่าง ๆ ที่ดี—และ “การประพฤติอันบริสุทธิ์ และการกระทำด้วยความเลื่อมใสในพระเจ้า.” (ฆะลาเตีย 5:22, 23; 2 เปโตร 3:11, ล.ม.) หากพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสิ่งหนึ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเรา เราจะหลีกเลี่ยงการทำสิ่งใดก็ตามที่อาจทำให้พระวิญญาณเสียพระทัย หรือขัดขวางการดำเนินกิจของพระวิญญาณในชีวิตเรา.—เอเฟโซ 4:30.
14. ชนผู้ถูกเจิมถือว่าสิทธิพิเศษอะไรเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และแกะอื่นมีส่วนร่วมในสิทธิพิเศษนี้อย่างไร?
14 สิทธิพิเศษที่เรามีในการถูกเรียกตามพระนามของพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ พระยะโฮวา และการเป็นพยานของพระองค์เป็นสิ่งที่เราถือว่าศักดิ์สิทธิ์. (ยะซายา 43:10-12, 15) พระยะโฮวาทรงทำให้คริสเตียนผู้ถูกเจิมมีคุณวุฒิเป็น “ผู้รับใช้แห่งสัญญาใหม่.” (2 โกรินโธ 3:5, 6, ล.ม.) เช่นนั้นแหละ พวกเขาได้รับมอบหมายให้ประกาศ “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรนี้” และ “ทำให้คนจากทุกชาติเป็นสาวก.” (มัดธาย 24:14, ล.ม.; 28:19, 20, ล.ม.) พวกเขาทำหน้าที่มอบหมายนี้ให้สำเร็จอย่างซื่อสัตย์ และผู้คนที่มีนิสัยเยี่ยงแกะหลายล้านคนกำลังตอบรับ ซึ่งอาจกล่าวโดยนัยได้ว่าพวกเขาพูดกับชนผู้ถูกเจิมว่า “เราจะไปด้วยท่าน, เพราะเราได้ยินว่าพระเจ้าอยู่กับท่านแล้ว.” (ซะคาระยา 8:23) คนเหล่านี้รับใช้ด้วยความยินดีในฐานะ “คนไถนา” และ “คนแต่งเถาองุ่น” ในความหมายฝ่ายวิญญาณสำหรับ “ผู้ปรนนิบัติของพระเจ้าของเรา” ที่เป็นผู้ถูกเจิม. โดยวิธีนั้น แกะอื่นให้ความช่วยเหลืออย่างมากแก่เหล่าผู้ถูกเจิมในการทำงานรับใช้ของเขาให้สำเร็จในขอบเขตกว้างขวางทั่วโลก.—ยะซายา 61:5, 6, ฉบับแปลใหม่.
15. อัครสาวกเปาโลถือว่ากิจกรรมอะไรเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเหตุใดเราจึงมีทัศนะแบบเดียวกัน?
15 ยกตัวอย่างเช่น อัครสาวกเปาโลถือว่างานเผยแพร่แก่สาธารณชน ที่ท่านทำนั้นศักดิ์สิทธิ์ หรือบริสุทธิ์. ท่านกล่าวถึงตัวท่านเองว่าเป็น “ผู้รับใช้สาธารณชนของพระคริสต์เยซูไปถึงนานาชาติ ทำงานบริสุทธิ์แห่งข่าวดีของพระเจ้า.” (โรม 15:16, ล.ม.) ในจดหมายถึงคริสเตียน ในเมืองโครินท์ เปาโลกล่าวถึงงานรับใช้ของท่านว่าเป็น “ทรัพย์.” (2 โกรินโธ 4:1, 7) โดยทางงานเผยแพร่แก่สาธารณชน เราประกาศให้คนอื่นทราบ “คำแถลงอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า.” (1 เปโตร 4:11, ล.ม.) ด้วยเหตุนั้น ไม่ว่าจะเป็นชนผู้ถูกเจิมหรือแกะอื่น เราถือว่าเป็นสิทธิพิเศษอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ร่วมในงานให้คำพยาน.
“ทำความบริสุทธิ์ให้สมบูรณ์ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า”
16. อะไรจะช่วยเราหลีกเลี่ยงการกลายเป็นคนที่ “ไม่หยั่งรู้คุณค่าของสิ่งศักดิ์สิทธิ์”?
16 อัครสาวกเปาโลเตือนเพื่อนคริสเตียนให้ระวังอย่าได้กลายเป็นคน “ประมาท [“ไม่หยั่งรู้คุณค่าของสิ่งศักดิ์สิทธิ์,” ล.ม.].” แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ท่านแนะนำพวกเขาให้ ‘แสวงหาใจบริสุทธิ์’ “ระวังให้ดี . . . เกรงว่าจะมีรากขมขื่นแซมขึ้นมาทำให้เกิดความยุ่งยาก . . . และเป็นเหตุให้คนเป็นอันมากมลทินไป.” (เฮ็บราย 12:14-16) คำ “รากขมขื่น” ในที่นี้หมายถึงคนไม่กี่คนในประชาคมคริสเตียนที่อาจชอบจับผิดการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ. ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจไม่เห็นด้วยกับทัศนะของพระยะโฮวาในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของการสมรสหรือความจำเป็นต้องรักษาความสะอาดด้านศีลธรรม. (1 เธซะโลนิเก 4:3-7; เฮ็บราย 13:4) หรือพวกเขาอาจร่วมวงสนทนาที่แพร่ความคิดแบบออกหาก “ถ้อยคำนอกคอกนอกทาง [“การพูดไร้สาระซึ่งละเมิดสิ่งบริสุทธิ์,” ล.ม.]” ซึ่งเสนอโดยพวกที่ “หลงจากความจริง.”—2 ติโมเธียว 2:16-18.
17. เหตุใดชนผู้ถูกเจิมจึงต้องพยายามอยู่เสมอเพื่อสะท้อนทัศนะของพระยะโฮวาในเรื่องความบริสุทธิ์?
17 เปาโลเขียนถึงพี่น้องที่เป็นผู้ถูกเจิมด้วยกันว่า “ท่านที่รักทั้งหลาย ให้เราชำระตัวเราจากมลทินทุกอย่างแห่งเนื้อหนังและวิญญาณ ทำความบริสุทธิ์ให้สมบูรณ์ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า.” (2 โกรินโธ 7:1, ล.ม.) คำกล่าวนี้แสดงว่าคริสเตียนผู้ถูกเจิม “ผู้เข้าส่วนด้วยกันในการทรงเรียกซึ่งมาจากสวรรค์” ต้องพยายามอยู่เสมอเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาสะท้อนทัศนะของพระยะโฮวาในเรื่องความบริสุทธิ์ในทุกแง่มุมของชีวิตตน. (เฮ็บราย 3:1) คล้ายกัน อัครสาวกเปโตรกระตุ้นเตือนพี่น้องที่บังเกิดฝ่ายวิญญาณด้วยกันกับท่านว่า “ดุจดังเป็นบุตรที่เชื่อฟัง, และไม่ประพฤติตามลำพังใจปรารถนาเช่นแต่ก่อนเมื่อท่านทั้งหลายยังเป็นคนโง่อยู่ แต่พระองค์ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายนั้นบริสุทธิ์ฉันใด ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ในบรรดาการประพฤติทุกอย่างด้วยฉันนั้น.”—1 เปโตร 1:14, 15.
18, 19. (ก) สมาชิกของ “ชนฝูงใหญ่” แสดงอย่างไรว่าพวกเขามีทัศนะแบบเดียวกับพระยะโฮวาในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์? (ข) มีอะไรอีกที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของคริสเตียนซึ่งจะพิจารณากันในบทความถัดไป?
18 จะว่าอย่างไรสำหรับสมาชิก “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งจะรอดผ่าน “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่”? พวกเขาก็เช่นกันต้องพิสูจน์ว่ามีทัศนะแบบเดียวกับพระยะโฮวาในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์. พระธรรมวิวรณ์พรรณนาถึงพวกเขาว่ากำลังถวาย “งานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์” แด่พระยะโฮวา ณ ลานบนแผ่นดินโลกของพระวิหารฝ่ายวิญญาณ. พวกเขาได้แสดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระคริสต์ ซึ่งมีคำพรรณนาโดยนัยไว้ว่าพวกเขา “ซักเสื้อคลุมของตนและทำให้ขาวด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก.” (วิวรณ์ 7:9, 14, 15, ล.ม.) นี่ทำให้พวกเขามีฐานะที่สะอาดเฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวาและทำให้พวกเขาอยู่ภายใต้เงื่อนไขต้อง “ชำระตัว [พวกเขา] จากมลทินทุกอย่างแห่งเนื้อหนังและวิญญาณ ทำความบริสุทธิ์ให้สมบูรณ์ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า.”
19 ส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของคริสเตียนผู้ถูกเจิมและสหายคือการประชุมเป็นประจำเพื่อนมัสการพระยะโฮวาและศึกษาพระคำของพระองค์. พระยะโฮวาทรงถือว่าการประชุมของประชาชนของพระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์. บทความถัดไปจะพิจารณาว่าเราควรมีทัศนะแบบเดียวกับพระยะโฮวาเกี่ยวกับแง่มุมนี้ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยวิธีใดและเพราะเหตุใด.
เพื่อทบทวน
• ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาไม่มีทัศนะเช่นไรแบบโลก?
• เหตุใดพระยะโฮวาทรงเป็นแหล่งที่มาของทุกสิ่งที่บริสุทธิ์?
• เราแสดงโดยวิธีใดว่าเรานับถือความบริสุทธิ์ของพระคริสต์?
• เราควรถือว่าอะไรศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตเรา?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 23]
ในอิสราเอลโบราณ ตำแหน่งปุโรหิต, พลับพลา, และเครื่องตกแต่งต่าง ๆ ของพลับพลาถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
[ภาพหน้า 24]
คริสเตียนผู้ถูกเจิมบนแผ่นดินโลกประกอบกันเป็นพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์
[ภาพหน้า 25]
คำอธิษฐานและงานเผยแพร่แก่สาธารณชนของเราเป็นสิทธิพิเศษอันศักดิ์สิทธิ์