ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

พระยะโฮวาทรงให้รางวัลอย่างอุดมสมความปรารถนาของฉันที่ต้องการเป็นมิชชันนารี

พระยะโฮวาทรงให้รางวัลอย่างอุดมสมความปรารถนาของฉันที่ต้องการเป็นมิชชันนารี

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​รางวัล​อย่าง​อุดม​สม​ความ​ปรารถนา​ของ​ฉัน​ที่​ต้องการ​เป็น​มิชชันนารี

เล่า​โดย ชีลา วินฟีลด์ ดา กอนเซซอง

ครั้ง​หนึ่ง​มิชชันนารี​จาก​แอฟริกา​ที่​มา​เยี่ยม​ได้​เล่า​ให้​เรา​ฟัง​ถึง​เรื่อง​งาน​ใน​เขต​มอบหมาย​ของ​เธอ​ว่า ทุก​คน​เชิญ​เข้า​ไป​นั่ง​ใน​บ้าน​และ​ฟัง​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ใจจดใจจ่อ. ‘ฉัน​อยาก​จะ​ไป​ทำ​งาน​ใน​เขต​แบบ​นั้น​เสีย​จริง ๆ!’ ฉัน​คิด. การ​สนทนา​ครั้ง​นั้น​ได้​เพาะ​ความ​ปรารถนา​จะ​เป็น​มิชชันนารี​ไว้​ใน​หัวใจ​ฉัน ซึ่ง​ตอน​นั้น​อายุ 13 ปี.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ครอบครัว​เรา​ได้​เริ่ม​เรียน​รู้​เรื่อง​พระ​ยะโฮวา​มา​นาน​ก่อน​หน้า​นั้น​แล้ว. เช้า​วัน​หนึ่ง​ใน​ปี 1939 ชาย​หนุ่ม​สอง​คน​แต่ง​กาย​เรียบร้อย​ได้​มา​เคาะ​ประตู​บ้าน​ของ​เรา​ที่​เมือง​เฮเมล เฮมป์สเตด อยู่​ติด​กับ​มหา​นคร​ลอนดอน​ประเทศ​อังกฤษ. ทั้ง​สอง​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. อายุ​ฉัน​เพิ่ง​ขวบ​เศษ ๆ จึง​ไม่​อาจ​จำ​การ​เยี่ยม​ครั้ง​นั้น​ได้. ความ​ที่​แม่​ไม่​อยาก​ต้อนรับ​จึง​บอก​เขา​ว่า​พ่อ​อาจ​สนใจ แต่​จะ​กลับ​บ้าน​หลัง​สาม​ทุ่ม. แม่​ประหลาด​ใจ​เพียง​ไร​เมื่อ​คน​ทั้ง​สอง​หวน​กลับ​มา​ใน​คืน​นั้น! หลัง​จาก​ไต่ถาม​ให้​แน่​ใจ​เกี่ยว​กับ​จุด​ยืน​ของ​พวก​เขา​ด้าน​การ​เมือง​และ​เรื่อง​ชาติ​นิยม​แล้ว เฮนรี วินฟิลด์ พ่อ​ของ​ฉัน​ก็​เชิญ​เขา​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​และ​ตก​ลง​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. พ่อ​ก้าว​หน้า​เร็ว​มาก​และ​มี​คุณสมบัติ​ตาม​ข้อ​เรียก​ร้อง​จน​ได้​รับ​บัพติสมา. หลาย​ปี​ต่อ​มา แคทลีน แม่​ของ​ฉัน​ก็​เริ่ม​ศึกษา​ด้วย และ​ได้​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1946.

ปี 1948 ฉัน​เริ่ม​เข้า​ส่วน​ร่วม​เป็น​ประจำ​ใน​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. ฉัน​คิด​อยาก​ได้​นาฬิกา​ข้อ​มือ​สัก​เรือน​หนึ่ง​เพื่อ​จะ​รู้​เวลา​ที่​ใช้​ไป​ใน​งาน​ประกาศ​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง. ถ้า​พวก​เรา​เด็ก ๆ ประพฤติ​เรียบร้อย ทุก​วัน​เสาร์​เรา​ก็​จะ​ได้​เงิน​ส่วน​ตัว​หก​เพนนี. ฉัน​เก็บ​ออม​เงิน​หก​เพนนี​นาน​เกือบ​สอง​ปี​เพื่อ​ซื้อ​นาฬิกา​ราคา​ถูก​ที่​สุด​เท่า​ที่​หา​ได้​สมัย​นั้น. อย่าง​ไร​ก็​ดี เรย์​น้อง​ชาย​ฉัน​มัก​จะ​ขอ​เหรียญ​สาม​เพนนี​สอง​เหรียญ​แทน​เหรียญ​หก​เพนนี​ทุก​ครั้ง. วัน​หนึ่ง​เขา​รบเร้า​จะ​เอา​สอง​เหรียญ​ให้​ได้​จน​พ่อ​โมโห. เรย์​เริ่ม​ร้องไห้​และ​บอก​ว่า​ที่​เขา​ต้องการ​เหรียญ​สาม​เพนนี​สอง​เหรียญ​นั้น​เป็น​ความ​ลับ​ระหว่าง​เขา​กับ​พระ​ยะโฮวา. ใน​ที่​สุด​เรย์​ไข​ความ​ให้​กระจ่าง​ว่า “ผม​จะ​หยอด​เหรียญ​สาม​เพนนี​อัน​หนึ่ง​ลง​กล่อง​บริจาค และ​อีก​เหรียญ​หนึ่ง​เป็น​ของ​ผม.” แม่​ร้องไห้​ด้วย​ความ​ตื้นตัน ส่วน​พ่อ​ก็​หา​สอง​เหรียญ​มา​เปลี่ยน​ให้​ทันที และ​ฉัน​ได้​เรียน​รู้​ความ​สำคัญ​ของ​การ​ใช้​เงิน​สนับสนุน​งาน​ราชอาณาจักร.

ประมาณ​ช่วง​นั้น พ่อ​จัดแจง​ย้าย​ไป​อยู่​ใน​เขต​ที่​มี​ความ​ต้องการ​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ราชอาณาจักร​มาก​กว่า. ใน​ปี 1949 พ่อ​จัด​การ​ขาย​ฟาร์ม​และ​บ่อ​กรวด​ทราย​แล้ว​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์ ผู้​รับใช้​ประเภท​เต็ม​เวลา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ฉัน​ได้​รับ​บัพติสมา​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​เมื่อ​วัน​ที่ 24 กันยายน ปี 1950. นับ​แต่​นั้น ฉัน​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์​พัก​งาน (เดี๋ยว​นี้​เรียก​ว่า​ไพโอเนียร์​สมทบ) ใน​ช่วง​ปิด​เทอม​ภาค​ฤดู​ร้อน สละ​เวลา​ออก​ทำ​งาน​เผยแพร่​เดือน​หนึ่ง 100 ชั่วโมง. แต่​นั่น​เป็น​เพียง​ขั้น​เริ่ม​ต้น. ไม่​นาน ความ​ปรารถนา​อัน​แรง​กล้า​ทวี​ขึ้น​ใน​หัวใจ​ทำ​ให้​ฉัน​อยาก​รับใช้​มาก​ยิ่ง​ขึ้น​เพื่อ​สนับสนุน​การ​นมัสการ​บริสุทธิ์.

ฉัน​ปรารถนา​จะ​เป็น​มิชชันนารี

ปี 1951 พ่อ​ถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​ที่​เมือง​บิเดอฟอร์ด นอร์ทเดวอน. หลัง​จาก​เรา​ไป​ถึง​ที่​นั่น​ได้​ไม่​นาน​ก็​มี​มิชชันนารี​ซึ่ง​รับใช้​ใน​แอฟริกา​มา​แวะ​เยี่ยม​ประชาคม​ของ​เรา ดัง​ที่​กล่าว​ตอน​ต้น. หลัง​จาก​นั้น ความ​ปรารถนา​จะ​เป็น​มิชชันนารี​นั้น​มี​ผล​กระทบ​การ​ตัดสิน​ใจ​ทุก ๆ เรื่อง​ของ​ฉัน. พวก​ครู​ที่​โรง​เรียน​ตระหนัก​ถึง​เป้าหมาย​ของ​ฉัน​และ​พยายาม​ปราม​ฉัน​ทุก​ทาง โดย​หวัง​ให้​ฉัน​มุ่ง​ไป​ด้าน​งาน​อาชีพ. แต่​พอ​ถึง​วัน​สุด​ท้าย เมื่อ​ฉัน​ไป​ที่​ห้อง​พัก​ครู​เพื่อ​อำลา​และ​ขอบคุณ​บรรดา​ครู ครู​คน​หนึ่ง​ได้​พูด​ว่า “ขอ​แสดง​ความ​ยินดี​กับ​เธอ​นะ​จ๊ะ! เธอ​เป็น​นัก​เรียน​คน​เดียว​เท่า​นั้น​ที่​มี​เป้าหมาย​ใน​ชีวิต. พวก​เรา​ขอ​ให้​เธอ​บรรลุ​เป้าหมาย​นั้น​จริง ๆ.”

ฉัน​ไม่​ยอม​เสีย​เวลา ฉัน​รีบ​หา​งาน​ที่​ไม่​ต้อง​ทำ​เต็ม​เวลา และ​วัน​ที่ 1 ธันวาคม 1955 ฉัน​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ. ต่อ​มา แม่​และ​น้อง​ชาย​ทั้ง​สอง​คน​ก็​เป็น​ไพโอเนียร์​เช่น​เดียว​กัน. ดัง​นั้น เป็น​เวลา​หลาย​ปี​ที​เดียว​ที่​ทุก​คน​ใน​ครอบครัว​ของ​เรา​อยู่​ใน​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา.

ไป​ไอร์แลนด์

ปี​ถัด​มา ฉัน​ได้​รับ​เชิญ​ไป​ทำ​งาน​รับใช้​ใน​ไอร์แลนด์. นี่​เป็น​ขั้น​ตอน​หนึ่ง​ที่​นำ​ไป​สู่​เป้าหมาย​การ​เป็น​มิชชันนารี. เดือน​กุมภาพันธ์ 1957 ฉัน​ก็​มา​ถึง​เมือง​คอร์ก ทาง​ใต้​ของ​ไอร์แลนด์​พร้อม​กับ​ไพโอเนียร์​สาว​อีก​สอง​คน จูน เนเปียร์​และ​เบอรีล บาร์เกอร์.

การ​ประกาศ​เผยแพร่​ใน​ไอร์แลนด์​เป็น​งาน​ท้าทาย​จริง ๆ. มี​การ​ต่อ​ต้าน​ขัด​ขวาง​มาก​จาก​คริสตจักร​โรมัน​คาทอลิก. เรา​เรียน​รู้​ที่​จะ​ตรวจ​สอบ​เพื่อ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​มี​ทาง​หลบ​หนี​ออก​จาก​อาคาร​ชุด​หรือ​หมู่​บ้าน​จัด​สรร​ได้ หาก​ต้อง​รีบ​ออก​ทันที. เรา​มัก​จะ​ซ่อน​จักรยาน​ไว้​ห่าง ๆ แต่​บ่อย​ครั้ง​มี​คน​ไป​พบ​แล้ว​ก็​กรีด​ยาง​รถ​หรือ​ไม่​ก็​ปล่อย​ลม​ยาง.

คราว​หนึ่ง ขณะ​ที่​ฉัน​กับ​เบอรีล​ได้​ไป​เยี่ยม​ชุมชน​ใน​หมู่​บ้าน​จัด​สรร​ซึ่ง​เป็น​บริเวณ​กว้าง มี​เด็ก​กลุ่ม​หนึ่ง​ได้​ตะโกน​ด่า​เรา​อย่าง​หยาบคาย​และ​เอา​ก้อน​หิน​ขว้าง​ปา. ดัง​นั้น เรา​จึง​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ที่​แบ่ง​ส่วน​หนึ่ง​ทำ​เป็น​ร้าน​ขาย​นม. เด็ก​กลุ่ม​นั้น​รวม​ตัว​กัน​อยู่​นอก​ร้าน. เนื่อง​จาก​เบอรีล​ชอบ​ดื่ม​นม เธอ​ดื่ม​สอง​สาม​แก้ว​ให้​หมด​ไป​อย่าง​ช้า ๆ โดย​หวัง​ว่า​เด็ก​เหล่า​นั้น​จะ​แยก​ย้าย​กัน​ไป. แต่​ไม่​เป็น​อย่าง​ที่​คิด. ครั้น​แล้ว​บาทหลวง​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้า​มา​ใน​ร้าน. เขา​นึก​ว่า​เรา​เป็น​นัก​ท่อง​เที่ยว เขา​บอก​ว่า​อยาก​พา​เรา​ไป​ดู​รอบ ๆ. แต่​ที​แรก เขา​พา​เรา​เข้า​ไป​อีก​ห้อง​หนึ่ง​ของ​บ้าน ขณะ​ที่​เรา​นั่ง​เงียบ เขา​ลง​มือ​ทำ​พิธี​ให้​ชาย​ชรา​ที่​กำลัง​จะ​ตาย. แล้ว​เรา​ก็​เดิน​ออก​จาก​บ้าน​พร้อม​กับ​บาทหลวง. เด็ก​พวก​นั้น​เมื่อ​เห็น​เรา​พูด​คุย​กับ​บาทหลวง​ก็​เลย​แยก​ย้าย​กัน​ไป.

ไป​กิเลียด

ปี 1958 การ​ประชุม​นานา​ชาติ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​ถูก​จัด​ขึ้น​ที่​นิวยอร์ก. พ่อ​จะ​เดิน​ทาง​ไป​ร่วม ส่วน​ฉัน​อยาก​ไป​เหมือน​กัน​แต่​ไม่​มี​เงิน. ครั้น​แล้ว​คุณ​ย่า​เสีย​ชีวิต​กะทันหัน ท่าน​ละ​มรดก​ไว้​ให้​ฉัน​เป็น​ตัว​เงิน​ประมาณ 10,000 บาท. ค่า​ตั๋ว​เดิน​ทาง​ไป​กลับ​อยู่​ใน​วง​เงิน 6,700 บาท ดัง​นั้น ฉัน​ไม่​รอ​ช้า รีบ​จอง​ตั๋ว​เครื่องบิน​ทันที.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ตัว​แทน​จาก​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บริเตน​ได้​มา​เยี่ยม​พวก​เรา​และ​เชิญ​ชวน​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ทุก​คน​ที่​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ครั้ง​นั้น​กรอก​ใบ​สมัคร​เข้า​รับ​การ​อบรม​หลัก​สูตร​มิชชันนารี​ของ​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด. ฉัน​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​เลย! ตัว​แทน​คน​นั้น​แจก​ใบ​สมัคร​ให้​ทุก​คน ยก​เว้น​ฉัน. อายุ​ฉัน​ไม่​ถึง​เกณฑ์​ที่​จะ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด. ฉัน​ขอร้อง​เขา​ให้​นับ​ฉัน​อยู่​ใน​กลุ่ม​ด้วย โดย​ชี้​แจง​ว่า​ฉัน​เอง​ได้​ละ​ประเทศ​บ้าน​เกิด​มา และ​ใน​ความ​เป็น​จริง ฉัน​เสมือน​อยู่​ใน​งาน​มอบหมาย​มิชชันนารี​แล้ว. เมื่อ​เห็น​ความ​มุ่ง​มั่น​ตั้งใจ​ของ​ฉัน​เขา​จึง​ยื่น​แบบ​ฟอร์ม​ให้​กรอก. ฉัน​พร่ำ​อธิษฐาน​มาก​เพียง​ใด​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​เข้า​เรียน! ใน​ที่​สุด​ก็​มี​คำ​ตอบ​กลับ​มา​อย่าง​รวด​เร็ว และ​ฉัน​ได้​รับ​เชิญ​ไป​เรียน​ที่​โรง​เรียน​กิเลียด.

ฉัน​ชื่นชม​ยินดี​เหลือ​ล้น​เมื่อ​ได้​เข้า​เรียน​ที่​กิเลียด​รุ่น​ที่ 33 ร่วม​กับ​ไพโอเนียร์​อีก 81 คน​จาก 14 ประเทศ. หลัก​สูตร​ห้า​เดือน​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว. พอ​ใกล้​จะ​จบ บราเดอร์​นาทาน เอช. นอรร์​ได้​บรรยาย​ให้​การ​กระตุ้น​หนุน​ใจ​พวก​เรา​นาน​สี่​ชั่วโมง. ท่าน​สนับสนุน​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ยัง​โสด​ให้​ครอง​ความ​เป็น​โสด​ต่อ​ไป. (1 โกรินโธ 7:37, 38) แต่​สำหรับ​พวก​เรา​ซึ่ง​สัก​วัน​หนึ่ง​ประสงค์​จะ​แต่งงาน ท่าน​แนะ​นำ​ว่า​เรา​ควร​ทำ​รายการ​ส่วน​ตัว​จด​ข้อ​กำหนด​คุณสมบัติ​ของ​คน​ที่​จะ​แต่งงาน​ด้วย. ครั้น​หาก​มี​คน​ที่​แสดง​ที​ท่า​จะ​มา​เป็น​คู่​ครอง เรา​ก็​สามารถ​พิจารณา​ตรวจ​สอบ​คุณสมบัติ​ของ​ผู้​นั้น​ตาม​ข้อ​กำหนด​ที่​เรา​ตั้ง​ไว้.

ฉัน​ตั้ง​ข้อ​กำหนด​ส่วน​ตัว​ของ​ฉัน​สำหรับ​ผู้​ที่​จะ​มา​เป็น​สามี​ดัง​ต่อ​ไป​นี้. เขา​ต้อง​เป็น​มิชชันนารี​และ​รัก​พระ​ยะโฮวา, ต้อง​มี​ความ​รู้​ลึกซึ้ง​ด้าน​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​กว่า​ฉัน, ยอม​ตัด​เรื่อง​การ​มี​บุตร​ก่อน​อาร์มาเก็ดดอน​ออก​ไป ทั้ง​นี้​ก็​เพื่อ​จะ​สามารถ​รับใช้​เต็ม​เวลา​ได้​อย่าง​ต่อ​เนื่อง, พูด​ภาษา​อังกฤษ​คล่อง, และ​อายุ​ต้อง​มาก​กว่า​ฉัน. รายการ​นี้​ช่วย​ได้​มาก​ที​เดียว ตอน​นั้น​ฉัน​อายุ 20 ปี​กำลัง​ได้​รับ​หน้า​ที่​มอบหมาย​ให้​ไป​ทำ​งาน​ใน​แดน​ไกล.

ไป​บราซิล

วัน​อาทิตย์​ที่ 2 สิงหาคม ปี 1959 เป็น​วัน​จบ​หลัก​สูตร​และ​พวก​เรา​ได้​รับ​แจ้ง​เรื่อง​เขต​มอบหมาย. เวียนุช ยาเซดเจียน, ซาราห์ เกรโก, เรย์​และ​อิงเกอร์ แฮตฟิลด์, ซอนยา สปริงเกต, ดอรีน ไฮนซ์, และ​ฉัน​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​บราซิล. เรา​ตื่นเต้น​ดีใจ​กัน​ยก​ใหญ่. ฉัน​นึก​ภาพ​ป่า​เขา, งู, สวน​ยาง​พารา, และ​ชาว​อินเดียน​แดง​เผ่า​พื้นเมือง. แต่​เมื่อ​ไป​ถึง​ที่​นั่น​ไม่​เป็น​ไป​อย่าง​ที่​คิด​ฝัน​ไว้​เลย! แทน​ที่​จะ​เห็น​ป่า​ดิบ​แอมะซอน สิ่ง​ที่​ฉัน​พบ​เห็น​คือ​รี​โอ​เด​จา​เนโร​เมือง​ใหญ่​ที่​มี​อากาศ​แจ่ม​ใส​และ​ทัน​สมัย เป็น​เมือง​หลวง​ของ​ประเทศ​สมัย​นั้น.

ทันที​ทันใด สิ่ง​ใหม่​และ​ยาก​สำหรับ​พวก​เรา​คือ​ต้อง​มุ่ง​มั่น​เรียน​ภาษา​โปรตุเกส. ใน​ช่วง​เดือน​แรก เรา​เรียน​วัน​ละ 11 ชั่วโมง​ทุก​วัน. หลัง​จาก​ทำ​งาน​ประกาศ​ใน​รี​โอ​เด​จา​เนโร​และ​พัก​อยู่​ที่​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ระยะ​หนึ่ง ฉัน​ถูก​ส่ง​ไป​ประจำ​ที่​บ้าน​มิชชันนารี​ใน​เมือง​ปิราซิกาบา ใน​รัฐ​เซาเปาลู ต่อ​มา​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​บ้าน​มิชชันนารี​ใน​เมือง​โปร์ตูอาเลเกร รัฐ​ริวกรังเดโดซูล.

ครั้น​แล้ว ต้น​ปี 1963 ฉัน​ได้​รับ​จดหมาย​เชิญ​ให้​เข้า​ไป​ทำ​งาน​ใน​แผนก​แปล​ที่​สำนักงาน​สาขา. ฟลอริอานู อิกเนส ดา กอนเซซอง คน​ที่​เคย​สอน​ภาษา​โปรตุเกส​เมื่อ​เรา​มา​ถึง​ตอน​แรก​นั้น​ได้​เป็น​ผู้​ดู​แล​แผนก​นี้. เขา​เรียน​ความ​จริง​เมื่อ​ปี 1944 ช่วง​นั้น​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ประมาณ 300 คน​ใน​บราซิล และ​เขา​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่ 22. สอง​สาม​เดือน​ผ่าน​ไป วัน​หนึ่ง บราเดอร์​กอนเซซอง​ขอ​ให้​ฉัน​รอ​อยู่​ที่​ห้อง​หลัง​จาก​เสียง​กริ่ง​แรก​บอก​เวลา​พัก​เที่ยง เพราะ​เขา​ต้องการ​บอก​อะไร​บาง​อย่าง. ที​แรก ฉัน​รู้สึก​กังวล​ว่า​ฉัน​ทำ​ผิด​อะไร​หรือ​เปล่า. ใน​ที่​สุด​เมื่อ​เสียง​กริ่ง​ที่​สอง​บอก​เวลา​รับประทาน​อาหาร​ดัง​ขึ้น ฉัน​ก็​ถาม​เขา​ว่า​ต้องการ​บอก​อะไร​ฉัน. เขา​ก็​เลย​ถาม​ฉัน​ว่า “คุณ​จะ​แต่งงาน​กับ​ผม​ไหม?” ฉัน​ตะลึง​พูด​ไม่​ออก. ฉัน​ตอบ​ว่า​ขอ​คิด​ดู​ก่อน แล้ว​ฉัน​ก็​ผละ​ไป​รับประทาน​อาหาร​กลางวัน.

ฟลอริอานู​ไม่​ใช่​ผู้​ชาย​คน​แรก​ที่​แสดง​ที​ท่า​ชอบ​พอ​ฉัน. อย่าง​ไร​ก็​ดี จน​ถึง​ขณะ​นั้น​ยัง​ไม่​มี​ใคร​บรรลุ​ข้อ​เรียก​ร้อง​ของ​ฉัน​ที่​จะ​มา​เป็น​คู่​ครอง​ที่​เหมาะ​สม. ฉัน​เชื่อ​ว่า​รายการ​ที่​ฉัน​ทำ​ไว้​นั้น​ช่วย​ป้องกัน​ฉัน​ไม่​ให้​ตัดสิน​ใจ​ผิด​พลาด. แต่​มา​ครั้ง​นี้​ต่าง​ออก​ไป. ฟลอริอานู​อยู่​ใน​เกณฑ์​ที่​กำหนด​ไว้​ทุก​อย่าง! ฉะนั้น เรา​แต่งงาน​กัน ณ วัน​ที่ 15 พฤษภาคม 1965.

เผชิญ​โรค​ร้าย

ชีวิต​สมรส​เป็น​ประสบการณ์​ที่​น่า​ยินดี​สำหรับ​ฉัน​และ​ฟลอริอานู ถึง​แม้​เรา​เอง​ก็​ได้​ประสบ​ปัญหา​หลาย​อย่าง. อย่าง​หนึ่ง​คือ​ปัญหา​สุขภาพ​ของ​ฟลอริอานู ซึ่ง​เริ่ม​ขึ้น​ไม่​นาน​ก่อน​การ​แต่งงาน​ของ​เรา. เมื่อ​หลาย​ปี​ก่อน ปอด​ข้าง​ซ้าย​ของ​เขา​แฟบ และ​ผล​ที่​ตาม​มา ใน​ตอน​นี้​เขา​เริ่ม​หายใจ​ไม่​สะดวก. ฉะนั้น เรา​ออก​จาก​เบเธล​และ​รับ​เอา​หน้า​ที่​มอบหมาย​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ไป​ทำ​งาน​ที่​เมือง​เทเรโซปูลิส อัน​เป็น​เขต​งาน​แถบ​เทือก​เขา​ของ​รัฐ​รีโอเดจาเนโร. เรา​หวัง​ว่า​ภูมิอากาศ​ที่​นั่น​คง​จะ​ช่วย​เขา​หาย​โรค.

นอก​จาก​นั้น ใน​เดือน​ธันวาคม 1965 ฉัน​ได้​รับ​ข่าว​ว่า​แม่​ป่วย​หนัก​เป็น​มะเร็ง. เรา​เขียน​จดหมาย​ติด​ต่อ​ถึง​กัน​เป็น​ประจำ แต่​ฉัน​ไม่​ได้​เห็น​หน้า​แม่​มา​นาน​ตั้ง​เจ็ด​ปี. ดัง​นั้น แม่​จึง​ได้​จ่าย​ค่า​ตั๋ว​เดิน​ทาง​ให้​เรา​ไป​เยี่ยม​แม่​ที่​อังกฤษ. แม่​เข้า​รับ​การ​ผ่าตัด แต่​พวก​แพทย์​ก็​ไม่​สามารถ​กำจัด​เนื้อ​ร้าย​ได้. แม้​ว่า​ท่าน​ป่วย​หนัก ลุก​ขึ้น​ไป​ไหน​ไม่​ได้ แม่​ก็​ยัง​มี​ความ​ปรารถนา​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ. แม่​มี​เครื่อง​พิมพ์ดีด​ไว้​ใน​ห้อง​นอน เพื่อ​จะ​มี​คน​พิมพ์​จดหมาย​ตาม​คำ​บอก​ของ​แม่. นอก​จาก​นั้น แม่​ยัง​ใช้​เวลา​สั้น ๆ ให้​คำ​พยาน​แก่​คน​ที่​มา​เยี่ยม. ท่าน​เสีย​ชีวิต​ใน​วัน​ที่ 27 พฤศจิกายน 1966. เดือน​นั้น​แม่​ลง​รายงาน​การ​ประกาศ​สิบ​ชั่วโมง! ส่วน​พ่อ​ยัง​คง​รับใช้​ประเภท​ไพโอเนียร์​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์​กระทั่ง​สิ้น​ชีวิต​ใน​ปี 1979.

หลัง​จาก​แม่​เสีย​แล้ว ฉัน​กับ​ฟลอริอานู​ก็​กลับ​ไป​บราซิล และ​เรา​รับใช้​ที่​รัฐ​รีโอเดจาเนโร​ตั้ง​แต่​นั้น​มา. เบื้อง​ต้น เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​งาน​หมวด​ใน​เมือง​หลวง ทว่า ความ​ชื่นชม​ยินดี​ใน​งาน​นี้​มี​เพียง​ระยะ​สั้น เพราะ​ฟลอริอานู​ล้ม​ป่วย​อีก. เมื่อ​เป็น​เช่น​นั้น เรา​จึง​กลับ​ไป​ที่​เทเรโซปูลิส​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ.

หลัง​จาก​รับ​การ​บำบัด​รักษา​ด้วย​วิธี​ที่​เจ็บ​ปวด​มา​หลาย​ปี ใน​ที่​สุด ปี 1974 แพทย์​ก็​ได้​ตัด​ปอด​ข้าง​ซ้าย​ของ​ฟลอริอานู​ทิ้ง​ไป. ช่วง​นั้น เขา​ไม่​สามารถ​ทำ​หน้า​ที่​ผู้​ดู​แล​ผู้​เป็น​ประธาน​หรือ​ไพโอเนียร์​พิเศษ แต่​เขา​สามารถ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ใน​ชั่วโมง​เยี่ยม​ผู้​ป่วย​ที่​โรง​พยาบาล คน​หนึ่ง​ที่​เขา​นำ​การ​ศึกษา​โดย​ใช้​ภาษา​อังกฤษ​คือ​บ็อบ ชาว​อเมริกัน​ที่​เกษียณ​อายุ​แล้ว. บ็อบ​ตอบรับ​ความ​จริง​และ​ได้​รับ​บัพติสมา​ใน​เวลา​ต่อ​มา. ครั้น​อาการ​ป่วย​ของ​ฟลอริอานู​ค่อย ๆ หาย​จน​เป็น​ปกติ เขา​ก็​ได้​รับใช้​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ประจำ​ตั้ง​แต่​นั้น​เรื่อย​มา.

พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​งาน​รับใช้​ของ​ฉัน

ตลอด​เวลา​หลาย​ปี ฉัน​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ​อย่าง​ต่อ​เนื่อง และ​พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​งาน​รับใช้​ของ​ฉัน. ที่​เมือง​เทเรโซปูลิส ฉัน​มี​สิทธิ​พิเศษ​อย่าง​น่า​พิศวง​ที่​ได้​ช่วย 60 กว่า​คน​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา. หนึ่ง​ใน​จำนวน​นี้​เป็น​ผู้​หญิง​ชื่อ​ชูปิรา เป็น​คน​ที่​ฉัน​สอน​หนังสือ​ให้. ต่อ​มา ฉัน​ได้​นำ​การ​ศึกษา​กับ​ลูก​ชาย​หญิง​แปด​คน​ของ​เธอ​ซึ่ง​ทุก​คน​เป็น​ผู้​ใหญ่​แล้ว. ผล​ที่​ตาม​มา เวลา​นี้​ชูปิรา​และ​สมาชิก​ครอบครัว​รวม​ทั้ง​ญาติ​มาก​กว่า 20 คน​กำลัง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง. คน​หนึ่ง​เป็น​ผู้​ปกครอง, สาม​คน​เป็น​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้, และ​สอง​คน​เป็น​ไพโอเนียร์.

ฉัน​ได้​เรียน​รู้​ที่​จะ​รักษา​ทัศนคติ​ใน​แง่​ดี​เสมอ​ว่า​มี​ความ​เป็น​ไป​ได้​ที่​ผู้​คน​จะ​เรียน​ความ​จริง. ณ โอกาส​หนึ่ง ขณะ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​หญิง​สาว​ชื่อ​อัลเซอมิรา อันโตนยู​สามี​ของ​เธอ​ขู่​จะ​ปล่อย​สุนัข​ตัว​ใหญ่​สอง​ตัว​ออก​มา​กัด ถ้า​ฉัน​ไม่​รีบ​ออก​ไป​จาก​บ้าน​ทันที. หลัง​จาก​นั้น โอกาส​จะ​ได้​พบ​ปะ​อัลเซอมิรา​ก็​เป็น​โดย​บังเอิญ​เท่า​นั้น กระทั่ง​เจ็ด​ปี​ต่อ​มา เมื่อ​อันโตนยู​อนุญาต​ให้​ฉัน​ศึกษา​กับ​เธอ​อีก. แต่​เขา​ก็​ยัง​คง​ห้าม​ฉัน​พูด​เรื่อง​พระ​คัมภีร์​กับ​เขา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม วัน​หนึ่ง​ฝน​ตก​หนัก ฉัน​ชวน​อันโตนยู​มา​นั่ง​ร่วม​ใน​การ​ศึกษา​ด้วย. ตอน​นั้น​ที​เดียว​ฉัน​ได้​มา​รู้​ปัญหา​ของ​เขา​คือ​เขา​ไม่​รู้​หนังสือ. นับ​แต่​ครั้ง​นั้น​ฟลอริอานู​และ​คน​อื่น​ได้​นำ​การ​ศึกษา​กับ​เขา​และ​สอน​เขา​ให้​อ่าน​ออก​เขียน​ได้. ปัจจุบัน ทั้ง​อัลเซอมิรา​และ​อันโตนยู​รับ​บัพติสมา​แล้ว. เขา​มี​ส่วน​ช่วย​ประชาคม​ได้​มาก โดย​ออก​ไป​กับ​เยาวชน​หลาย​คน​ใน​งาน​รับใช้.

ที่​กล่าว​มา​นี้​เป็น​ประสบการณ์​เพียง​ไม่​กี่​เรื่อง​ตลอด​ช่วง 20 กว่า​ปี​ที่​เรา​รับใช้​ใน​เมือง​เทเรโซปูลิส. ต้น​ปี 1988 เรา​ได้​รับ​เขต​มอบหมาย​ใหม่​ที่​เมือง​นีเตรอย เรา​รับใช้​ที่​นั่น​ห้า​ปี​ก่อน​ย้าย​ไป​ที่​ซานตู อะเลคโซ. หลัง​จาก​นั้น​เรา​ย้าย​ไป​ยัง​ประชาคม​เมือง​ชาปูอีบา ใน​ใจ​กลาง​ของ​รัฐ​รีโอเดจาเนโร และ​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​จัด​ตั้ง​ประชาคม​ริเบรา.

ชีวิต​เรียบ​ง่าย​แต่​น่า​พอ​ใจ

ตลอด​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา ฟลอริอานู​และ​ฉัน​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​ช่วยเหลือ​ผู้​คน​มาก​กว่า 300 คน​อุทิศ​ชีวิต​ของ​เขา​แด่​พระ​ยะโฮวา. ปัจจุบัน บาง​คน​รับใช้​อยู่​ที่​สำนักงาน​สาขา, บาง​คน​เป็น​ไพโอเนียร์, ผู้​ปกครอง, และ​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้. ฉัน​สำนึก​ใน​พระคุณ​ของ​พระเจ้า​มาก​เพียง​ใด พระองค์​ทรง​ใช้​พวก​เรา​โดย​ทาง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​เพื่อ​จะ​ช่วย​ประชาชน​มาก​มาย!—มาระโก 10:29, 30.

เป็น​ความ​จริง​ที่​ฟลอริอานู​ต้อง​รับมือ​กับ​ปัญหา​ร้ายแรง​ด้าน​สุขภาพ. แต่​ทั้ง ๆ ที่​อยู่​ใน​สภาพ​เช่น​นั้น เขา​ยัง​คง​ยืนหยัด​มั่นคง มี​ความ​ชื่นชม​และ​วางใจ​พระ​ยะโฮวา. เขา​พูด​บ่อย ๆ ว่า “ความ​สุข​ใน​ทุก​วัน​นี้​ใช่​ว่า​จะ​เกิด​จาก​การ​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​ที่​ปลอด​ปัญหา. ความ​สุข​มา​จาก​การ​มี​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เรา​จัด​การ​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ ต่าง​หาก.”—บทเพลง​สรรเสริญ 34:19.

ปี 2003 มี​การ​ตรวจ​พบ​ว่า​ฉัน​เป็น​มะเร็ง​ใน​ตา​ข้าง​ซ้าย. ฉัน​เข้า​รับ​การ​ผ่าตัด​แล้ว​ใส่​ตา​ปลอม​แทน ซึ่ง​ต้อง​ล้าง​ตา​ให้​สะอาด​วัน​ละ​หลาย​ครั้ง. กระนั้น​ก็​ตาม พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​ฉัน​โดย​ประทาน​พลัง​เพื่อ​จะ​ได้​รับใช้​พระองค์​ต่อ ๆ ไป​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ.

พูด​ถึง​สิ่ง​ฝ่าย​วัตถุ ฉัน​จัด​วิถี​ชีวิต​ให้​เรียบ​ง่าย. กระนั้น พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประทาน​รางวัล​แก่​ฉัน​ระหว่าง​ที่​อยู่​ใน​งาน​มอบหมาย​และ​ทรง​โปรด​ให้​ฉัน​มั่งคั่ง​ฝ่าย​วิญญาณ. ความ​เห็น​ของ​ซิสเตอร์​มิชชันนารี​คน​นั้น​ใน​เรื่อง​งาน​เผยแพร่​ที่​แอฟริกา​ปรากฏ​เป็น​จริง​ตรง​กับ​งาน​มอบหมาย​ของ​เรา​ใน​ประเทศ​บราซิล. จริง​ที​เดียว พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​รางวัล​อย่าง​อุดม​สม​ความ​ปรารถนา​ของ​ฉัน​ที่​ต้องการ​เป็น​มิชชันนารี!

[ภาพ​หน้า 9]

กับ​ครอบครัว​ของ​ฉัน​เมื่อ​ปี 1953

[ภาพ​หน้า 9]

การ​ให้​คำ​พยาน​ใน​ไอร์แลนด์ ปี 1957

[ภาพ​หน้า 10]

ที่​บราซิล ปี 1959 กับ​เพื่อน ๆ มิชชันนารี. จาก​ซ้าย​ไป​ขวา: ฉัน, อิงเกอร์ แฮตฟิลด์, ดอรีน ไฮนซ์, และ​ซอนยา สปริงเกต

[ภาพ​หน้า 10]

กับ​สามี