ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ทำไมจึงพูดความจริง?

ทำไมจึงพูดความจริง?

ทำไม​จึง​พูด​ความ​จริง?

เมื่อ​อายุ 18 ปี มันเฟรด​เคย​ฝึก​งาน​ใน​สำนักงาน​แห่ง​หนึ่ง. * บริษัท​ที่​เขา​ฝึก​งาน​ด้วย​ส่ง​เขา​กับ​เด็ก​ฝึก​งาน​คน​อื่น ๆ หลาย​คน​ไป​เรียน​ที่​วิทยาลัย​อา​ชีวะ​สัปดาห์​ละ​สอง​วัน. วัน​หนึ่ง​ครู​ให้​เลิก​เรียน​เร็ว​กว่า​ปกติ. ตาม​กฎ​ของ​บริษัท ผู้​ที่​ฝึก​งาน​จะ​ต้อง​กลับ​ไป​ทำ​งาน​ต่อ​จน​หมด​วัน. แต่​ทุก​คน​พา​กัน​ไป​เที่ยว ยก​เว้น​มันเฟรด​ที่​กลับ​ไป​ทำ​งาน. วัน​นั้น​ผู้​บริหาร​ของ​บริษัท​ซึ่ง​รับผิดชอบ​ดู​แล​เด็ก​ฝึก​งาน​เผอิญ​แวะ​มา. เมื่อ​เห็น​มันเฟรด​เขา​ก็​ถาม​ว่า “ทำไม​วัน​นี้​คุณ​ไม่​ไป​เรียน? แล้ว​คน​อื่น ๆ ล่ะ?” มันเฟรด​ควร​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

สถานการณ์​ยุ่งยาก​ที่​มันเฟรด​เผชิญ​นั้น​เป็น​เรื่อง​ปกติ. เขา​ควร​บอก​ความ​จริง​ไหม หรือ​เขา​ควร​ปก​ปิด​ความ​จริง​เพื่อ​ปก​ป้อง​เพื่อน​ร่วม​ชั้น? หาก​เขา​พูด​ความ​จริง เขา​ก็​จะ​ทำ​ให้​คน​อื่น​เดือดร้อน​และ​พวก​นั้น​จะ​ไม่​ชอบ​หน้า​เขา. การ​โกหก​ใน​สภาพการณ์​เช่น​นี้​เป็น​เรื่อง​ที่​ยอม​รับ​ได้​ไหม? ถ้า​เป็น​คุณ คุณ​จะ​ทำ​อย่าง​ไร? เรา​จะ​กลับ​มา​พูด​ถึง​มันเฟรด​กัน​ที​หลัง แต่​ก่อน​อื่น​ให้​เรา​ดู​ว่า​มี​อะไร​เกี่ยว​ข้อง​อยู่​ด้วย​เมื่อ​เรา​จำเป็น​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​พูด​ความ​จริง​หรือ​ไม่.

ความ​จริง​และ​ความ​เท็จ—ความ​เป็น​ปฏิปักษ์​แต่​ดั้งเดิม

ใน​ตอน​เริ่ม​ต้น​ประวัติศาสตร์​ของ​มนุษย์ ทุก​สิ่ง​ตั้ง​อยู่​บน​ความ​จริง. ไม่​มี​การ​บิดเบือน​ข้อ​เท็จ​จริง ไม่​มี​การ​พลิกแพลง​ความ​จริง​หรือ​ให้​ข้อ​เท็จ​จริง​แบบ​ผิด ๆ. พระ​ยะโฮวา พระ​ผู้​สร้าง​ทรง​เป็น “พระเจ้า​แห่ง​ความ​สัตย์​จริง.” พระ​คำ​ของ​พระองค์​เป็น​ความ​จริง, พระองค์​ตรัส​มุสา​ไม่​ได้, และ​พระองค์​ทรง​ตำหนิ​การ​โกหก​และ​คน​โกหก.—บทเพลง​สรรเสริญ 31:5; โยฮัน 17:17; ติโต 1:2.

เมื่อ​เป็น​เช่น​นั้น ความ​เท็จ​มา​จาก​ไหน? พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​ให้​คำ​ตอบ​ที่​เชื่อถือ​ได้​เมื่อ​พระองค์​ตรัส​กับ​ผู้​ต่อ​ต้าน​ทาง​ศาสนา​ที่​พยายาม​หา​ทาง​จะ​ฆ่า​พระองค์​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​มา​จาก​มาร​ซึ่ง​เป็น​พ่อ​ของ​ท่าน, และ​ท่าน​ใคร่​จะ​ทำ​ตาม​ความ​ปรารถนา​ของ​พ่อ​ของ​ท่าน. มัน​เป็น​ผู้​ฆ่า​คน​ตั้ง​แต่​เดิม​มา, และ​มิ​ได้​ตั้ง​อยู่​ใน​ความ​จริง, เพราะ​ความ​จริง​มิ​ได้​อยู่​ใน​มัน. เมื่อ​มัน​พูด​มุสา​มัน​ก็​พูด​แต่​ตัว​มัน​เอง ด้วย​ว่า​มัน​เป็น​ช่าง​มุสา, และ​เป็น​พ่อ​ของ​การ​มุสา​นั้น.” (โยฮัน 8:44) ใช่​แล้ว พระ​เยซู​กำลัง​ตรัส​ถึง​เหตุ​การณ์​ใน​สวน​เอเดน​ตอน​ที่​ซาตาน​ชักจูง​มนุษย์​คู่​แรก​ไม่​ให้​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า​และ​จึง​ตก​เป็น​เหยื่อ​ของ​บาป​และ​ความ​ตาย.—เยเนซิศ 3:1-5; โรม 5:12.

คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ระบุ​ชัด​ว่า ซาตาน​เป็น “พ่อ​ของ​การ​มุสา” คือ​เป็น​ผู้​ริเริ่ม​การ​โกหก​และ​การ​พูด​เท็จ. ทุก​วัน​นี้ ซาตาน​ยัง​คง​เป็น​ผู้​สนับสนุน​หลัก​ของ​การ​พูด​เท็จ และ​แท้​จริง​แล้ว มัน​กำลัง “ลวง​มนุษย์​โลก​ทั้ง​ปวง.” มัน​คือ​ผู้​ที่​ต้อง​รับผิดชอบ​เกือบ​ทั้ง​หมด​สำหรับ​ความ​เสียหาย​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​มนุษย์​ใน​ทุก​วัน​นี้​เนื่อง​จาก​การ​พูด​เท็จ​ที่​แพร่​ไป​ทั่ว.—วิวรณ์ 12:9.

ความ​เป็น​ปฏิปักษ์​แต่​ดั้งเดิม​ระหว่าง​ความ​จริง​กับ​ความ​เท็จ​ซึ่ง​เริ่ม​ขึ้น​โดย​ซาตาน​พญา​มาร​ยัง​คง​แพร่​หลาย​จน​ทุก​วัน​นี้. ความ​เป็น​ปฏิปักษ์​นี้​มี​อยู่​ใน​สังคม​มนุษย์​ทุก​ระดับ​ชั้น และ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ทุก​คน. วิธี​ที่​คน​เรา​ใช้​ชีวิต​ทำ​ให้​เรา​ตก​อยู่​ฝ่าย​ใด​ก็​ได้. คน​ที่​อยู่​ฝ่าย​พระเจ้า​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​โดย​อาศัย​ความ​จริง​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า คือ​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก. ใคร​ก็​ตาม​ที่​ไม่​ได้​ดำเนิน​ใน​แนว​ทาง​ของ​ความ​จริง​ก็​ตก​อยู่​ใน​กำ​มือ​ของ​ซาตาน ไม่​ว่า​เขา​จะ​รู้​ตัว​หรือ​ไม่​ก็​ตาม เพราะ “โลก​ทั้ง​สิ้น​อยู่​ใน​อำนาจ​ตัว​ชั่ว​ร้าย.”—1 โยฮัน 5:19, ล.ม.; มัดธาย 7:13, 14.

ทำไม​จึง​มี​แนว​โน้ม​จะ​โกหก?

ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า “โลก​ทั้ง​สิ้น” อยู่​ใน​อำนาจ​ซาตาน​ทำ​ให้​เรา​รู้​ว่า​ทำไม​คน​มาก​มาย​จึง​พูด​โกหก. แต่​เรา​อาจ​ถาม​ว่า ‘ทำไม​ซาตาน “พ่อ​ของ​การ​มุสา” จึง​ทำ​เช่น​นั้น?’ ซาตาน​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​มี​สิทธิ์​โดย​ชอบธรรม​ที่​จะ​ปกครอง​เหนือ​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​ได้​ทรง​สร้าง รวม​ทั้ง​มนุษย์​คู่​แรก. ถึง​กระนั้น ซาตาน​ก็​ยัง​ปรารถนา​จะ​ได้​ตำแหน่ง​อัน​สูง​ส่ง​นี้​มา​เป็น​ของ​ตน​ทั้ง​ที่​ไม่​มี​สิทธิ์. ด้วย​ความ​ละโมบ​และ​ความ​ทะเยอทะยาน​อัน​เห็น​แก่​ตัว มัน​วาง​แผน​เพื่อ​จะ​แย่ง​ตำแหน่ง​ของ​พระ​ยะโฮวา. เพื่อ​ที่​แผนการ​ของ​มัน​จะ​สำเร็จ ซาตาน​จึง​ใช้​การ​โกหก​และ​การ​หลอก​ลวง.—1 ติโมเธียว 3:6.

ทุก​วัน​นี้​ล่ะ​เป็น​อย่าง​ไร? คุณ​ไม่​เห็น​ด้วย​หรอก​หรือ​ว่า​ความ​โลภ​และ​ความ​ทะเยอทะยาน​อัน​เห็น​แก่​ตัว​ยัง​คง​เป็น​แรง​กระตุ้น​สำคัญ​ที่​ทำ​ให้​คน​จำนวน​มาก​โกหก? ธุรกิจ​การ​ค้า​ที่​ละโมบ, การ​เมือง​ที่​ทุจริต, และ​ศาสนา​เท็จ​ล้วน​เต็ม​ไป​ด้วย​การ​หลอก​ลวง, ความ​เท็จ, การ​พลิกแพลง, การ​ฉ้อ​ฉล. เพราะ​เหตุ​ใด? เป็น​เพราะ​บ่อย​ครั้ง​ผู้​คน​ถูก​กระตุ้น​โดย​ความ​โลภ​และ​ความ​ทะเยอทะยาน​ที่​จะ​เอา​ชนะ​ผู้​อื่น​หรือ​แสวง​หา​ความ​ร่ำรวย, อิทธิพล, หรือ​ฐานะ​ตำแหน่ง​ซึ่ง​ตัว​เขา​เอง​ไม่​มี​สิทธิ์​มิ​ใช่​หรือ? กษัตริย์​ซะโลโม​ผู้​ปกครอง​ที่​ฉลาด​สุขุม​แห่ง​อิสราเอล​โบราณ​เตือน​เอา​ไว้​ว่า “คน​ที่​รีบ​จะ​เป็น​คน​มั่งมี​จะ​พ้น​โทษ​ก็​หา​มิ​ได้.” (สุภาษิต 28:20) และ​อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “การ​รัก​เงิน​ทอง​นั้น​ก็​เป็น​ราก​แห่ง​ความ​ชั่ว​ทุก​อย่าง.” (1 ติโมเธียว 6:10) แน่นอน​ว่า​อาจ​พูด​ได้​อย่าง​เดียว​กัน​นี้​ใน​เรื่อง​ความ​ปรารถนา​อัน​เกิน​สม​ควร​เพื่อ​จะ​ได้​มา​ซึ่ง​อำนาจ​หรือ​ตำแหน่ง​หน้า​ที่.

อีก​ปัจจัย​หนึ่ง​ที่​อยู่​เบื้อง​หลัง​การ​โกหก​คือ​ความ​กลัว คือ​กลัว​ผล​ที่​จะ​ตาม​มา​หรือ​กลัว​ว่า​คน​อื่น​จะ​คิด​อย่าง​ไร​หาก​บอก​ความ​จริง. เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​ผู้​คน​ปรารถนา​จะ​เป็น​ที่​ชื่น​ชอบ​หรือ​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ของ​คน​อื่น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ความ​ปรารถนา​นี้​สามารถ​กระตุ้น​พวก​เขา​ให้​บิดเบือน​ความ​จริง แม้​จะ​เพียง​เล็ก​น้อย​ก็​ตาม เพื่อ​จะ​ปก​ปิด​ข้อ​บกพร่อง​ต่าง ๆ, เพื่อ​จะ​ปิด​ซ่อน​ข้อ​ปลีกย่อย​ที่​ไม่​ดี, หรือ​เพียง​เพื่อ​สร้าง​ความ​ประทับใจ. ซะโลโม​เขียน​ไว้​เหมาะ​กับ​เรื่อง​นี้​ที​เดียว​ว่า “การ​กลัว​คน​นั้น​นำ​ไป​ถึง​บ่วง​แร้ว; แต่​ผู้​ที่​ยำเกรง​พระ​ยะโฮวา​จะ​ปลอด​ภัย.”—สุภาษิต 29:25.

ความ​ภักดี​ต่อ​พระเจ้า​แห่ง​ความ​จริง

มันเฟรด​พูด​อย่าง​ไร​เมื่อ​ผู้​บริหาร​ของ​บริษัท​บอก​ให้​เขา​อธิบาย​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น? มันเฟรด​พูด​ไป​ตาม​จริง. เขา​บอก​ว่า “อาจารย์​ปล่อย​เรา​เร็ว​กว่า​ปกติ ผม​จึง​กลับ​มา​ทำ​งาน. แต่​สำหรับ​คน​อื่น ผม​ไม่​สามารถ​จะ​พูด​แทน​พวก​เขา​ได้. คุณ​ถาม​พวก​เขา​เอง​ดี​กว่า​นะ​ครับ.”

มันเฟรด​อาจ​ให้​คำ​ตอบ​ที่​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​เพื่อ​ทำ​ให้​เข้าใจ​เป็น​อย่าง​อื่น​ก็​ได้ ซึ่ง​ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​เขา​ก็​จะ​ได้​รับ​ความ​นิยม​ชม​ชอบ​จาก​เด็ก​ฝึก​งาน​คน​อื่น ๆ. แต่​เขา​มี​เหตุ​ผล​ที่​ดี​ที่​จะ​ยึด​มั่น​กับ​ความ​จริง​อย่าง​ภักดี. มันเฟรด​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ความ​ซื่อ​สัตย์​ช่วย​รักษา​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด​ของ​เขา​เอา​ไว้ และ​ยัง​ทำ​ให้​เขา​ได้​รับ​ความ​ไว้​วางใจ​จาก​นาย​จ้าง​อีก​ด้วย. ใน​ช่วง​ที่​ฝึก​งาน มันเฟรด​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ทำ​งาน​ใน​แผนก​อัญมณี​และ​เครื่อง​ประดับ ซึ่ง​ปกติ​แล้ว​ไม่​อนุญาต​ให้​เด็ก​ฝึก​งาน​ทำ​งาน​ที่​นั่น. ประมาณ 15 ปี​ต่อ​มา เมื่อ​มันเฟรด​ได้​รับ​การ​เลื่อน​ตำแหน่ง​ให้​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​สูง​ใน​บริษัท ผู้​บริหาร​คน​เดิม​ได้​โทรศัพท์​มา​แสดง​ความ​ยินดี​และ​พูด​ถึง​เหตุ​การณ์​นั้น​ที่​เขา​ได้​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​ความ​จริง.

เนื่อง​จาก​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​แห่ง​ความ​จริง ใคร​ก็​ตาม​ที่​ปรารถนา​จะ​มี​ความ​สัมพันธ์​ใกล้​ชิด​กับ​พระองค์​จะ​ต้อง “เลิก​การ​พูด​มุสา​เสีย” และ “พูด​ตาม​ความ​จริง.” ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ควร​รัก​ความ​จริง. ชาย​ผู้​ฉลาด​สุขุม​กล่าว​ว่า “พยาน​ที่​สัตย์​ซื่อ​จะ​ไม่​มุสา.” แต่​การ​มุสา​หรือ​การ​โกหก​คือ​อะไร?—เอเฟโซ 4:25; สุภาษิต 14:5.

การ​โกหก​คือ​อะไร?

การ​โกหก​ทุก​อย่าง​เป็น​การ​พูด​ไม่​จริง แต่​ไม่​ใช่​การ​พูด​ไม่​จริง​ทุก​อย่าง​เป็น​การ​โกหก. ทำไม​จึง​เป็น​เช่น​นั้น? พจนานุกรม​ฉบับ​หนึ่ง​นิยาม​คำ การ​โกหก ว่า​เป็น “การ​กล่าว​อ้าง​ใน​สิ่ง​ที่​ผู้​พูด​รู้​หรือ​เชื่อ​อยู่​ว่า​ไม่​เป็น​ความ​จริง​โดย​มี​เจตนา​จะ​หลอก​ลวง.” ใช่​แล้ว การ​โกหก​รวม​เอา​เจตนา​ที่​จะ​หลอก​คน​อื่น​ไว้​ด้วย. ดัง​นั้น การ​พูด​ไม่​จริง​โดย​ไม่​ได้​เจตนา เช่น ให้​ข้อ​เท็จ​จริง​หรือ​ตัว​เลข​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​แก่​คน​อื่น​โดย​ไม่​ได้​ตั้งใจ​ไม่​ถือ​เป็น​การ​พูด​โกหก.

นอก​จาก​นั้น เรา​ต้อง​พิจารณา​ด้วย​ว่า​คน​ที่​ถาม​ข้อมูล​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​ทราบ​คำ​ตอบ​ทั้ง​หมด​หรือ​ไม่. ตัว​อย่าง​เช่น สมมุติ​ว่า​มันเฟรด​ถูก​ถาม​ด้วย​คำ​ถาม​เดียว​กัน โดย​ผู้​ถาม​เป็น​ผู้​บริหาร​ของ​บริษัท​อื่น. มันเฟรด​จะ​ต้อง​บอก​เขา​ทุก​อย่าง​ไหม? คง​จะ​ไม่. เนื่อง​จาก​ผู้​บริหาร​คน​นี้​ไม่​มี​สิทธิ์​จะ​ทราบ​ข้อมูล​นั้น มันเฟรด​คง​ไม่​จำเป็น​ต้อง​บอก​เขา. ทว่า​แม้​แต่​ใน​กรณี​นี้ เป็น​การ​ไม่​ถูก​ต้อง​อย่าง​แน่นอน​หาก​มันเฟรด​จะ​โกหก.

พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​อะไร​ใน​เรื่อง​นี้? ใน​โอกาส​หนึ่ง พระ​เยซู​ทรง​สนทนา​กับ​คน​ที่​ไม่​ใช่​สาวก​ของ​พระองค์​แต่​ได้​แสดง​ความ​สนใจ​ใน​แผนการ​เดิน​ทาง​ของ​พระองค์. พวก​เขา​แนะ​นำ​พระองค์​ว่า “จง​ออก​จาก​ที่​นี่​ไป​ยัง​มณฑล​ยูดาย.” พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​อย่าง​ไร? “ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ขึ้น​ไป​ที่​การ​เลี้ยง [ใน​กรุง​เยรูซาเลม] เถิด เรา​ยัง​ไม่​ขึ้น​ไป​ที่​การ​เลี้ยง​นี้, เพราะ​ว่า​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​กำหนด​ของ​เรา.” แต่​ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น พระองค์​ก็​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​เยรูซาเลม​เพื่อ​ร่วม​ใน​เทศกาล​นั้น. ทำไม​พระองค์​จึง​ตอบ​ไป​อย่าง​นั้น? ก็​เพราะ​พวก​เขา​ไม่​มี​สิทธิ์​จะ​รู้​ราย​ละเอียด​ทุก​อย่าง​ว่า​พระองค์​จะ​ไป​ที่​ไหน. ดัง​นั้น แม้​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ได้​พูด​โกหก แต่​พระองค์​ก็​ไม่​ได้​ให้​คำ​ตอบ​ที่​ครบ​ถ้วน​แก่​พวก​เขา ทั้ง​นี้​ก็​เพื่อ​จำกัด​โอกาส​ที่​พวก​เขา​จะ​ทำ​อันตราย​แก่​พระองค์​หรือ​ผู้​ที่​ติด​ตาม​พระองค์. นี่​ไม่​ใช่​การ​โกหก เพราะ​อัครสาวก​เปโตร​เขียน​เกี่ยว​กับ​พระ​คริสต์​ว่า “พระองค์​ไม่​ได้​ทรง​กระทำ​บาป​ประการ​ใด, และ​อุบาย​ใน​พระ​โอษฐ์​ของ​พระองค์​ก็​ไม่​มี.”—โยฮัน 7:1-13; 1 เปโตร 2:22.

แล้ว​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​เปโตร​เอง? ใน​คืน​ที่​พระ​เยซู​ถูก​จับ เปโตร​โกหก​สาม​ครั้ง​และ​ปฏิเสธ​ว่า​ไม่​รู้​จัก​พระ​เยซู​ไม่​ใช่​หรือ? ถูก​แล้ว เปโตร​พ่าย​แพ้​ต่อ​ความ​กลัว​มนุษย์​และ​ได้​โกหก. แต่​แล้ว​ใน​ทันที เปโตร ‘ร้อง​เป็น​ทุกข์​ยิ่ง​นัก’ และ​กลับ​ใจ และ​บาป​ของ​ท่าน​ก็​ได้​รับ​การ​อภัย. ยิ่ง​กว่า​นั้น ท่าน​เรียน​รู้​จาก​ความ​ผิด​พลาด​ของ​ท่าน. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น เปโตร​ได้​พูด​ต่อ​หน้า​สาธารณชน​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​และ​ไม่​ยอม​หยุด​พูด​เมื่อ​ถูก​ข่มขู่​จาก​ผู้​มี​ตำแหน่ง​สูง​ชาว​ยิว​ใน​กรุง​เยรูซาเลม. แน่​ที​เดียว ความ​พลาด​พลั้ง​เพียง​ชั่ว​ครู่​ของ​เปโตร​และ​การ​ฟื้น​ตัว​อย่าง​รวด​เร็ว​ควร​ให้​กำลังใจ​แก่​เรา​ทุก​คน​ซึ่ง​อาจ​ยอม​พ่าย​แพ้​แก่​ความ​อ่อนแอ​อย่าง​ง่าย​ดาย​ไป​ชั่ว​ขณะ​หนึ่ง​และ​พลาด​พลั้ง​ใน​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ.—มัดธาย 26:69-75; กิจการ 4:18-20; 5:27-32; ยาโกโบ 3:2.

ความ​จริง​จะ​ตั้ง​มั่นคง​ถาวร

สุภาษิต 12:19 อธิบาย​ว่า “ริมฝีปาก​ที่​กล่าว​คำ​จริง​จะ​ตั้ง​มั่นคง​ถาวร, แต่​ลิ้น​มุสา​จะ​คง​อยู่​ได้​แต่​ประเดี๋ยว​เดียว​เท่า​นั้น.” ใช่​แล้ว คำ​พูด​ที่​จริง​มี​ลักษณะ​สำคัญ​คือ​ความ​คงทน​ถาวร. และ​ความ​สัมพันธ์​ที่​มนุษย์​มี​ต่อ​กัน​จะ​มั่นคง​และ​น่า​พึง​พอ​ใจ​ยิ่ง​ขึ้น​เมื่อ​ทุก​คน​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​พูด​ความ​จริง​และ​ปฏิบัติ​อย่าง​ที่​สอดคล้อง​กับ​ความ​จริง. อัน​ที่​จริง ความ​จริง​นำ​มา​ซึ่ง​ผล​ตอบ​แทน​ใน​ทันที. ผล​ตอบ​แทน​เหล่า​นี้​รวม​ถึง​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด, ชื่อเสียง​ที่​ดี, และ​ความ​สัมพันธ์​ที่​แน่นแฟ้น​ใน​สาย​สมรส, ใน​ครอบครัว, ใน​หมู่​เพื่อน, และ​แม้​แต่​ใน​แวดวง​ธุรกิจ.

ตรง​กัน​ข้าม การ​โกหก​ไม่​อาจ​คง​อยู่​ได้​ตลอด​ไป. ลิ้น​ที่​พูด​เท็จ​อาจ​หลอก​ได้​ใน​ระยะ​หนึ่ง แต่​ความ​เท็จ​จะ​ไม่​ได้​รับ​ชัย​ชนะ​ใน​ระยะ​ยาว. ยิ่ง​กว่า​นั้น พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​แห่ง​ความ​จริง ได้​ทรง​กำหนด​เวลา​ไว้​แล้ว​ว่า​จะ​ทรง​ทน​กับ​ความ​เท็จ​และ​คน​ที่​สนับสนุน​การ​โกหก​ไป​อีก​นาน​แค่​ไหน. คัมภีร์​ไบเบิล​สัญญา​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​กำจัด​อิทธิพล​ของ​ซาตาน​พญา​มาร พ่อ​ของ​การ​มุสา​ผู้​ชัก​นำ​มนุษย์​ทั้ง​โลก​ให้​หลง. ใน​ไม่​ช้า พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ให้​การ​โกหก​และ​คน​ที่​โกหก​ทั้ง​หมด​ถึง​จุด​จบ.—วิวรณ์ 21:8.

เรา​คง​จะ​โล่ง​ใจ​จริง ๆ เมื่อ​ใน​ที่​สุด “ริมฝีปาก​ที่​กล่าว​คำ​จริง” จะ​ตั้ง​มั่นคง​ถาวร!

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 2 นาม​สมมุติ.

[คำ​โปรย​หน้า 5]

ความ​โลภ​และ​ความ​ทะเยอทะยาน​ที่​เห็น​แก่​ตัว​เป็น​สิ่ง​กระตุ้น​ให้​ผู้​คน​มาก​มาย​โกหก

[คำ​โปรย​หน้า 6]

การ​โกหก​ทุก​อย่าง​เป็น​การ​พูด​ไม่​จริง แต่​ไม่​ใช่​การ​พูด​ไม่​จริง​ทุก​อย่าง​เป็น​การ​โกหก

[ภาพ​หน้า 6]

เรา​เรียน​อะไร​จาก​การ​ที่​เปโตร​ปฏิเสธ​พระ​คริสต์?

[ภาพ​หน้า 7]

การ​พูด​ความ​จริง​ทำ​ให้​มี​สัมพันธภาพ​ที่​มั่นคง​และ​น่า​พึง​พอ​ใจ