ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

รอคอยราชอาณาจักรที่ “มิได้เป็นส่วนของโลกนี้”

รอคอยราชอาณาจักรที่ “มิได้เป็นส่วนของโลกนี้”

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

รอ​คอย​ราชอาณาจักร​ที่ “มิ​ได้​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้”

เล่า​โดย นีโคไล กุทซุลยัค

เป็น​เวลา 41 วัน​เต็ม ๆ แล้ว​ที่​ผม​ติด​อยู่​ใน​เหตุ​จลาจล​ที่​เรือน​จำ​แห่ง​หนึ่ง. ทันใด​นั้น ผม​สะดุ้ง​ตื่น​ขึ้น​มา​ด้วย​เสียง​ปืน​ใหญ่. รถ​ถัง​และ​กอง​ทหาร​บุก​เข้า​มา​ใน​ค่าย​เรือน​จำ จู่​โจม​พวก​ผู้​ต้อง​ขัง. ชีวิต​ของ​ผม​แขวน​อยู่​บน​เส้น​ด้าย.

ผม​เข้า​ไป​อยู่​ใน​สถานการณ์​นั้น​ได้​อย่าง​ไร? ผม​จะ​เล่า​เรื่อง​นี้​ให้​ฟัง. เหตุ​การณ์​ครั้ง​นั้น​เกิด​ขึ้น​ใน​ปี 1954. ตอน​นั้น​ผม​มี​อายุ 30 ปี. เช่น​เดียว​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​หลาย​คน​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​สหภาพ​โซเวียต ผม​ถูก​จำ​คุก​เนื่อง​จาก​วาง​ตัว​เป็น​กลาง​ใน​เรื่อง​การ​เมือง​และ​เนื่อง​จาก​ได้​ประกาศ​ข่าว​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ให้​คน​อื่น ๆ ฟัง. กลุ่ม​ของ​พวก​เรา​ที่​เป็น​พยาน​ฯ ใน​เรือน​จำ​นั้น​มี​ผู้​ชาย 46 คน​และ​ผู้​หญิง 34 คน. เรา​ถูก​จำ​อยู่​ใน​ค่าย​แรงงาน​ใกล้​กับ​หมู่​บ้าน​เคงกีร์ ใน​ตอน​กลาง​ของ​คาซัคสถาน. เรา​อยู่​ที่​นั่น​ท่ามกลาง​ผู้​ต้อง​ขัง​อีก​นับ​หมื่น​คน.

โจเซฟ สตาลิน ผู้​นำ​ของ​สหภาพ​โซเวียต​ได้​เสีย​ชีวิต​ไป​หนึ่ง​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น. ผู้​ต้อง​ขัง​หลาย​คน​หวัง​ว่า​รัฐบาล​ใหม่​ใน​กรุง​มอสโก​จะ​รับ​ฟัง​คำ​ร้อง​เรียน​ของ​พวก​เขา​เกี่ยว​กับ​สภาพ​ความ​เป็น​อยู่​ที่​เลว​ร้าย​ใน​เรือน​จำ. ใน​ที่​สุด​ความ​ไม่​พอ​ใจ​ของ​พวก​ผู้​ต้อง​ขัง​ก็​ลุก​ลาม​ขึ้น​จน​กลาย​เป็น​การ​จลาจล​อย่าง​รุนแรง. ใน​ช่วง​ที่​มี​การ​เผชิญ​หน้า​กัน​ต่อ​จาก​นั้น พวก​เรา​ที่​เป็น​พยาน​ฯ ต้อง​ชี้​แจง​จุด​ยืน​ของ​พวก​เรา​ให้​ชัดเจน​แก่​พวก​ผู้​ก่อ​การ​ที่​หัวเสีย​และ​ยัง​ต้อง​อธิบาย​จุด​ยืน​ของ​เรา​ต่อ​นาย​ทหาร​ผู้​คุม​ด้วย. เพื่อ​เรา​จะ​เป็น​กลาง​อย่าง​นั้น​จำเป็น​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า.

จลาจล!

ใน​วัน​ที่ 16 พฤษภาคม เกิด​การ​จลาจล​ขึ้น​ใน​เรือน​จำ. สอง​วัน​ต่อ​มา ผู้​ต้อง​ขัง​มาก​กว่า 3,200 คน​ไม่​ยอม​ไป​ทำ​งาน เรียก​ร้อง​ให้​มี​สภาพ​ความ​เป็น​อยู่​ที่​ดี​ขึ้น​และ​เรียก​ร้อง​สิทธิ​บาง​อย่าง​สำหรับ​นัก​โทษ​การ​เมือง. เหตุ​การณ์​เกิด​ขึ้น​อย่าง​รวด​เร็ว. ตอน​แรก​พวก​ผู้​ก่อ​การ​บังคับ​ให้​ผู้​คุม​ออก​ไป​จาก​ค่าย. จาก​นั้น พวก​เขา​เจาะ​ช่อง​ทาง​เข้า​ออก​ที่​รั้ว​ซึ่ง​ล้อม​รอบ​ค่าย. ต่อ​มา​พวก​เขา​พัง​กำแพง​ที่​แยก​ระหว่าง​แดน​ชาย​กับ​แดน​หญิง ทำ​ให้​เกิด​มี​เรือน​พัก​ที่​เรียก​กัน​ว่า เรือน​พัก​ครอบครัว. ใน​ช่วง​ที่​ทุก​คน​กำลัง​ตื่นเต้น​ไม่​กี่​วัน​หลัง​จาก​นั้น ผู้​ต้อง​ขัง​บาง​คน​ถึง​กับ​แต่งงาน​กัน โดย​มี​บาทหลวง​ที่​ติด​คุก​อยู่​ด้วย​เป็น​ผู้​ทำ​พิธี​แต่งงาน​ให้. ใน​ค่าย​แรงงาน​ทั้ง​สาม​แดน​ที่​มี​การ​จลาจล​เกิด​ขึ้น ผู้​ต้อง​ขัง​ส่วน​ใหญ่​จาก​จำนวน 14,000 คน​เข้า​ร่วม​ใน​การ​จลาจล.

พวก​ผู้​ก่อ​การ​จัด​ตั้ง​คณะ​กรรมการ​ค่าย​เพื่อ​เจรจา​ต่อ​รอง​กับ​กองทัพ. แต่​ไม่​นาน​นัก การ​โต้​เถียง​กัน​ก็​เกิด​ขึ้น​ท่ามกลาง​สมาชิก​ใน​กรรมการ​ค่าย และ​อำนาจ​ควบคุม​ใน​ค่าย​ก็​ตก​ไป​อยู่​ใน​มือ​ของ​กลุ่ม​ที่​เป็น​พวก​หัวรุนแรง​ที่​สุด. บรรยากาศ​ยิ่ง​มี​ความ​รุนแรง​มาก​ขึ้น. พวก​ผู้​นำ​ใน​การ​ก่อ​การ​ได้​จัด​ตั้ง​ฝ่าย​รักษา​ความ​ปลอด​ภัย, ฝ่าย​กอง​กำลัง, และ​ฝ่าย​โฆษณา​ชวน​เชื่อ​เพื่อ​รักษา “ความ​สงบ” ไว้​ใน​ค่าย. พวก​ผู้​นำ​ใช้​ลำโพง​ซึ่ง​ติด​อยู่​บน​เสา​รอบ​ค่าย​เพื่อ​ออก​แถลง​การณ์​ด้วย​ความ​เผ็ด​ร้อน และ​โหม​กระพือ​อารมณ์​แห่ง​การ​ต่อ​ต้าน​ให้​ลุก​โชน​ขึ้น​อย่าง​ต่อ​เนื่อง. พวก​ผู้​ก่อ​การ​ห้าม​ไม่​ให้​คน​อื่น​หลบ​หนี, ลง​โทษ​คน​ที่​ต่อ​ต้าน​พวก​เขา, และ​ประกาศ​ว่า​พร้อม​จะ​ฆ่า​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ไม่​ยอม​ทำ​ตาม​ความ​ต้องการ​ของ​พวก​เขา. มี​ข่าว​ลือ​ว่า​ผู้​ต้อง​ขัง​บาง​คน​ถูก​ฆ่า​ไป​แล้ว.

เนื่อง​จาก​พวก​ผู้​ก่อ​การ​คาด​หมาย​ว่า​กองทัพ​จะ​บุก​เข้า​มา​โจมตี พวก​เขา​จึง​เตรียม​การ​อย่าง​ดี​เพื่อ​ป้องกัน​ตัว. เพื่อ​จะ​มั่น​ใจ​ว่า​ผู้​ต้อง​ขัง​จำนวน​มาก​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​มาก​ได้​พร้อม​ป้องกัน​ค่าย พวก​ผู้​นำ​จึง​สั่ง​ให้​ผู้​ต้อง​ขัง​ทุก​คน​พก​อาวุธ. เพื่อ​จะ​ทำ​เช่น​นั้น ผู้​ต้อง​ขัง​จึง​ถอด​ลูก​กรง​เหล็ก​จาก​หน้าต่าง​และ​ตี​ให้​เป็น​มีด​และ​อาวุธ​เหล็ก​อื่น ๆ. พวก​เขา​ถึง​กับ​ได้​ปืน​และ​ระเบิด​ด้วย.

ถูก​กดดัน​ให้​เข้า​ร่วม

ใน​ตอน​นั้น ฝ่าย​ก่อ​การ​สอง​คน​เข้า​มา​หา​ผม. คน​หนึ่ง​ยื่น​มีด​ที่​ลับ​มา​ใหม่ ๆ ให้​ผม. “เอา​ไป​ซะ!” เขา​สั่ง. “แก​จะ​ต้อง​ใช้​มัน​เพื่อ​ป้องกัน​ตัว.” ผม​อธิษฐาน​เงียบ ๆ ขอ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​ผม​สงบ​ใจ. ผม​ตอบ​ว่า “ผม​เป็น​คริสเตียน เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ผม​กับ​พยาน​ฯ คน​อื่น ๆ ติด​คุก​ที่​นี่​เพราะ​เรา​ไม่​ยอม​ต่อ​สู้​กับ​มนุษย์​คน​อื่น ๆ แต่​เรา​กำลัง​ต่อ​สู้​กับ​กอง​กำลัง​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​มอง​ไม่​เห็น. อาวุธ​ของ​เรา​ที่​ใช้​ต่อ​สู้​พวก​มัน​คือ​ความ​เชื่อ​และ​ความ​หวัง​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.”—เอเฟโซ 6:12.

ผม​แปลก​ใจ​ที่​ชาย​คน​นั้น​พยัก​หน้า​ว่า​เขา​เข้าใจ. แต่​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง​ต่อย​ผม​อย่าง​แรง. แล้ว​ทั้ง​สอง​คน​ก็​เดิน​จาก​ไป. ฝ่าย​กบฏ​เข้า​ไป​ใน​โรง​เรือน​ทุก​หลัง​และ​พยายาม​บังคับ​ให้​พยาน​ฯ เข้า​ร่วม​ใน​การ​ต่อ​สู้. แต่​พี่​น้อง​ทั้ง​ชาย​และ​หญิง​ของ​เรา​ทุก​คน​ไม่​ยอม​ร่วม​ด้วย.

ความ​เป็น​กลาง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ถูก​นำ​ไป​ปรึกษา​กัน​ใน​การ​ประชุม​ของ​คณะ​กรรมการ​ฝ่าย​ก่อ​การ. พวก​เขา​กล่าว​ว่า “สมาชิก​ของ​ศาสนา​ทุก​ศาสนา ทั้ง​เพนเทคอสต์, แอดเวนติสต์, แบพติสต์, และ​คน​อื่น​ทุก​คน​เข้า​ร่วม​ใน​การ​ต่อ​ต้าน. มี​เพียง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เท่า​นั้น​ที่​ไม่​ยอม เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​กับ​พวก​เขา​ดี?” มี​คน​เสนอ​ให้​จับ​ตัว​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​โยน​ลง​ไป​ใน​เตา​เผา​ของ​เรือน​จำ​เพื่อ​ขู่​ให้​เรา​กลัว. แต่​อดีต​นาย​ทหาร​คน​หนึ่ง ซึ่ง​เป็น​ผู้​ต้อง​ขัง​ที่​คน​อื่น ๆ ให้​ความ​เคารพ ยืน​ขึ้น​และ​พูด​ว่า “ทำ​อย่าง​นั้น​ไม่​ฉลาด​เลย. เรา​น่า​จะ​จับ​พวก​เขา​ทุก​คน​ใส่​ไว้​ใน​ห้อง​ขัง​ห้อง​เดียว​กัน​ซึ่ง​อยู่​ริม​ค่าย ติด​กับ​ประตู​ใหญ่. พอ​ทำ​อย่าง​นี้ ถ้า​ทหาร​เข้า​มา​โจมตี​เรา​ด้วย​รถ​ถัง พวก​พยาน​ฯ จะ​เป็น​พวก​แรก​ที่​ถูก​ฆ่า. แล้ว​เรา​ก็​ไม่​มี​ความ​ผิด​ข้อ​หา​ฆ่า​พวก​เขา.” คน​อื่น ๆ ยอม​รับ​ข้อ​เสนอ​ของ​เขา.

ถูก​นำ​ตัว​ไป​อยู่​ใน​วิถี​อันตราย

ไม่​นาน มี​ผู้​ต้อง​ขัง​กลุ่ม​หนึ่ง​เดิน​ไป​รอบ​ค่าย​และ​ตะโกน​ว่า “พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทุก​คน ให้​ออก​มา​ข้าง​นอก!” แล้ว​พวก​เขา​ก็​ต้อน​พวก​เรา​ทั้ง​หมด 80 คน​เข้า​ไป​ใน​ห้อง​ขัง​ห้อง​หนึ่ง​ที่​อยู่​ริม​ค่าย. พวก​เขา​เอา​เตียง​นอน​ออก​ไป​จาก​ห้อง​เพื่อ​ให้​มี​ที่​ว่าง​มาก​ขึ้น​และ​สั่ง​ให้​เรา​เข้า​ไป​ข้าง​ใน. สำหรับ​เรา​แล้ว ห้อง​นั้น​กลาย​เป็น​เรือน​จำ​ภาย​ใน​เรือน​จำ​อีก​ที.

เพื่อ​จะ​มี​ความ​เป็น​ส่วน​ตัว​บ้าง พี่​น้อง​หญิง​คริสเตียน​ใน​กลุ่ม​ของ​เรา​เย็บ​ผ้า​ปู​ที่​นอน​เข้า​ด้วย​กัน และ​เรา​ขึง​ผ้า​นั้น​เพื่อ​แบ่ง​ห้อง​เป็น​สอง​ส่วน ส่วน​หนึ่ง​สำหรับ​ผู้​ชาย​และ​ส่วน​หนึ่ง​สำหรับ​ผู้​หญิง. (ต่อ​มา พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ใน​รัสเซีย​วาด​รูป​ห้อง​ขัง​นี้ ซึ่ง​ปรากฏ​ด้าน​ล่าง.) ขณะ​ที่​เรา​อยู่​ใน​ห้อง​แคบ ๆ นั้น เรา​มัก​จะ​อธิษฐาน​ด้วย​กัน ทูล​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​ให้​พระองค์​ประทาน​สติ​ปัญญา​และ “กำลัง​ที่​มาก​กว่า​ปกติ” ให้​เรา.—2 โกรินโธ 4:7, ล.ม.

ตลอด​เวลา​นั้น เรา​ต้อง​อยู่​กึ่งกลาง​ระหว่าง​ฝ่าย​ก่อ​การ​กับ​ฝ่าย​กองทัพ​โซเวียต ซึ่ง​เป็น​อันตราย​มาก. ไม่​มี​ใคร​ใน​พวก​เรา​ที่​รู้​ว่า​แต่​ละ​ฝ่าย​จะ​ทำ​อะไร​ต่อ​ไป. พี่​น้อง​ชาย​สูง​อายุ​ที่​ซื่อ​สัตย์​คน​หนึ่ง​เตือน​ว่า “อย่า​พยายาม​คาด​เดา​กัน​ไป​เอง​เลย. พระ​ยะโฮวา​ไม่​ทิ้ง​เรา​แน่.”

พวก​พี่​น้อง​หญิง​ที่​รัก​ของ​เรา ทั้ง​ที่​ยัง​อายุ​น้อย​และ​สูง​อายุ แสดง​ความ​อด​ทน​อย่าง​น่า​ทึ่ง. คน​หนึ่ง​มี​อายุ​ราว ๆ 80 ปี​แล้ว​และ​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​เป็น​พิเศษ. ส่วน​บาง​คน​ก็​เจ็บ​ป่วย​และ​ต้องการ​การ​รักษา​พยาบาล. ตลอด​ช่วง​เวลา​นั้น ประตู​ของ​ห้อง​ขัง​ถูก​เปิด​อยู่​เสมอ​เพื่อ​ฝ่าย​ก่อ​การ​จะ​จับตา​ดู​เรา​ได้​ตลอด​เวลา. ตอน​กลางคืน ผู้​ต้อง​ขัง​ที่​พก​อาวุธ​จะ​เข้า​มา​ใน​ห้อง. บาง​ครั้ง มี​คน​ได้​ยิน​พวก​เขา​บอก​ว่า “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​คง​หลับ​ไป​แล้ว​ล่ะ.” ตอน​กลางวัน เมื่อ​พวก​เขา​อนุญาต​ให้​เรา​ไป​ที่​ห้อง​อาหาร​ใน​ค่าย เรา​จะ​อยู่​รวม​กัน​ตลอด​เวลา​และ​อธิษฐาน​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ปก​ป้อง​เรา​จาก​พวก​ผู้​ชาย​หัวรุนแรง.

ใน​ห้อง​ขัง เรา​พยายาม​หนุน​กำลังใจ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. ตัว​อย่าง​เช่น หลาย​ครั้ง พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​จะ​เล่า​เรื่อง​ราว​ตอน​หนึ่ง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล ด้วย​เสียง​ดัง​พอ​ให้​เรา​ได้​ยิน. แล้ว​เขา​ก็​จะ​ปรับ​เรื่อง​นั้น​ให้​เข้า​กับ​สภาพการณ์​ของ​เรา. พี่​น้อง​ชาย​สูง​อายุ​คน​หนึ่ง​ชอบ​เล่า​เรื่อง​กองทัพ​ของ​ฆิดโอน​เป็น​พิเศษ. เขา​เตือน​ใจ​เรา​ว่า “ด้วย​พระ​นาม​ของ​พระ​ยะโฮวา คน 300 คน​ที่​ถือ​เครื่อง​ดนตรี​ออก​ไป​สู้​กับ​ทหาร​ติด​อาวุธ 135,000 คน. ทั้ง 300 คน​กลับ​มา​โดย​ไม่​ได้​รับ​อันตราย​อะไร​เลย.” (วินิจฉัย 7:16, 22; 8:10) ตัว​อย่าง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เรื่อง​นี้​และ​เรื่อง​อื่น ๆ ทำ​ให้​เรา​มี​กำลัง​เข้มแข็ง​ฝ่าย​วิญญาณ. ตอน​นั้น​ผม​เพิ่ง​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ ไม่​นาน แต่​การ​ได้​เห็น​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง​ของ​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ที่​มี​ประสบการณ์​มาก​กว่า​ทำ​ให้​ผม​ได้​รับ​กำลังใจ​อย่าง​มาก. ผม​รู้สึก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยู่​กับ​เรา​จริง ๆ.

การ​ต่อ​สู้​เริ่ม​ขึ้น

สอง​สาม​สัปดาห์​ผ่าน​ไป และ​ความ​ตึงเครียด​ใน​ค่าย​ก็​เพิ่ม​สูง​ขึ้น. การ​เจรจา​ระหว่าง​ฝ่าย​ก่อ​การ​กับ​ฝ่าย​เจ้าหน้าที่​ก็​เคร่ง​เครียด​มาก​ขึ้น​ด้วย. ผู้​นำ​ใน​การ​ก่อ​การ​ยืน​ยัน​ให้​รัฐบาล​กลาง​ใน​กรุง​มอสโก​ส่ง​ตัว​แทน​มา​เจรจา​กับ​พวก​เขา. พวก​เจ้าหน้าที่​เรียก​ร้อง​ให้​ฝ่าย​ก่อ​การ​ยอม​จำนน, วาง​อาวุธ, แล้ว​กลับ​ไป​ทำ​งาน. แต่​ละ​ฝ่าย​ไม่​ยอม​อ่อนข้อ​ให้​กัน​เลย. พอ​ถึง​ตอน​นั้น ทหาร​ก็​มา​ล้อม​ค่าย พร้อม​จะ​บุก​เข้า​มา​เมื่อ​ได้​รับ​คำ​สั่ง​เพียง​คำ​เดียว. ฝ่าย​ก่อ​การ​ก็​พร้อม​จะ​สู้​เช่น​กัน โดย​ได้​ตั้ง​เครื่อง​กีด​ขวาง​และ​สะสม​อาวุธ. ทุก​คน​คาด​หมาย​ว่า​ใน​ที่​สุด​จะ​ต้อง​มี​การ​ต่อ​สู้​ครั้ง​ใหญ่​ระหว่าง​กองทัพ​กับ​ฝ่าย​ผู้​ต้อง​ขัง.

ใน​วัน​ที่ 26 มิถุนายน เรา​ตื่น​ขึ้น​ด้วย​เสียง​ปืน​ใหญ่​ที่​ดัง​แสบ​แก้ว​หู. รถ​ถัง​บุก​ตะลุย​ฝ่า​รั้ว​เข้า​มา​ใน​ค่าย. ถัด​จาก​รถ​ถัง​ก็​มี​กอง​ทหาร​หน่วย​จู่​โจม​ที่​ยิง​ปืน​กล. ผู้​ต้อง​ขัง​ทั้ง​ชาย​และ​หญิง​รีบ​วิ่ง​เข้า​ไป​หา​รถ​ถัง​ที่​บุก​เข้า​มา​และ​ร้อง​ตะโกน​ว่า “ฮู​ร่า!” แล้ว​ก็​ขว้าง​ก้อน​หิน, ระเบิด​ที่​ทำ​ขึ้น​มา​เอง, และ​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​จะ​หยิบ​คว้า​มา​ได้​ใส่​ทหาร. การ​ต่อ​สู้​ที่​รุนแรง​ติด​ตาม​มา และ​พวก​เรา​พยาน​ฯ ก็​ติด​อยู่​ระหว่าง​กลาง. พระ​ยะโฮวา​ทรง​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​เรา​อย่าง​ไร?

ทันใด​นั้น ทหาร​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​รีบ​เข้า​มา​ใน​ห้อง​ขัง​ของ​เรา. พวก​เขา​ตะโกน​ว่า “พวก​ที่​เคร่ง​ศาสนา รีบ​ออก​มา! เร็ว​เข้า รีบ​ออก​ไป​ให้​พ้น​รั้ว!” พวก​เจ้าหน้าที่​ที่​ดู​แล​สั่ง​ไม่​ให้​ทหาร​ยิง​พวก​เรา​แต่​ให้​อยู่​กับ​เรา​และ​คุ้ม​กัน​พวก​เรา. ขณะ​ที่​การ​ต่อ​สู้​ยิ่ง​ทวี​ความ​รุนแรง เรา​นั่ง​บน​เนิน​เขา​ที่​มี​ทุ่ง​หญ้า​ปก​คลุม​พ้น​จาก​แนว​เขต​ของ​ค่าย. เป็น​เวลา​ถึง​สี่​ชั่วโมง​ที่​เรา​ได้​ยิน​เสียง​ระเบิด, เสียง​ปืน, เสียง​กรีด​ร้อง, และ​เสียง​โหยหวน​จาก​ค่าย. จาก​นั้น ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ก็​เงียบ​สนิท. ต่อ​มา​ใน​ตอน​เช้า​เมื่อ​แสง​อาทิตย์​เริ่ม​สาด​ส่อง เรา​เห็น​พวก​ทหาร​หิ้ว​ร่าง​ของ​คน​ที่​ตาย​แล้ว​ออก​มา​จาก​ค่าย. เรา​ได้​มา​รู้​ว่า​มี​หลาย​ร้อย​คน​บาดเจ็บ​และ​เสีย​ชีวิต.

ต่อ​มา​ใน​วัน​นั้น เจ้าหน้าที่​คน​หนึ่ง​ที่​ผม​รู้​จัก​เข้า​มา​หา​เรา. เขา​ถาม​ผม​ด้วย​ความ​ภูมิ​ใจ​ว่า “เป็น​ไง​ล่ะ​นีโคไล ใคร​กัน​แน่​ที่​ช่วย​พวก​คุณ? พวก​เรา​หรือ​พระ​ยะโฮวา?” เรา​ขอบคุณ​เขา​อย่าง​จริง​ใจ​ที่​ช่วย​ชีวิต​เรา แต่​ก็​เสริม​ว่า “เรา​เชื่อ​ว่า​พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​องค์​ทรง​ฤทธานุภาพ​ทุก​ประการ​ของ​เรา กระตุ้น​คุณ​ให้​ไว้​ชีวิต​เรา เหมือน​กับ​ที่​พระองค์​กระตุ้น​คน​อื่น ๆ ให้​ช่วย​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​รอด.”—เอษรา 1:1, 2.

เจ้าหน้าที่​คน​เดียว​กัน​นั้น​อธิบาย​ให้​เรา​ทราบ​อีก​ว่า ฝ่าย​ทหาร​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​เป็น​ใคร​และ​เรา​อยู่​ที่​ไหน. เขา​บอก​ว่า​ระหว่าง​การ​เจรจา​ครั้ง​หนึ่ง​ระหว่าง​ฝ่าย​ทหาร​กับ​ฝ่าย​ก่อ​การ ฝ่าย​ทหาร​กล่าวหา​ฝ่าย​ก่อ​การ​ว่า​ได้​ฆ่า​ผู้​ต้อง​ขัง​ที่​ไม่​สนับสนุน​พวก​เขา. เพื่อ​แก้​ข้อ​กล่าวหา​นี้ ฝ่าย​ก่อ​การ​ตอบ​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​เข้า​ร่วม​ใน​การ​ต่อ​ต้าน​แต่​ก็​ไม่​ได้​ถูก​ฆ่า. แต่​เพื่อ​เป็น​การ​ลง​โทษ พวก​พยาน​ฯ ทั้ง​หมด​จึง​ถูก​ขัง​รวม​กัน​ไว้​ใน​ห้อง​เดียว. พวก​นาย​ทหาร​ก็​จำ​คำ​พูด​นี้​ไว้.

เรา​ยืนหยัด​มั่นคง​เพื่อ​ราชอาณาจักร

ใน​หนังสือ​ชื่อ​หมู่​เกาะ​กู​ลัก นัก​เขียน​ชาว​รัสเซีย​ที่​มี​ชื่อเสียง​ชื่อ​อะเลคซันเดอร์ โซลเจนิตซิน กล่าว​ถึง​เหตุ​การณ์​จลาจล​ใน​เรือน​จำ​ครั้ง​นี้​ที่​เรา​ประสบ. เกี่ยว​กับ​เหตุ​การณ์​นี้ เขา​เขียน​ว่า​การ​จลาจล​เริ่ม​ขึ้น​เพราะ “แน่นอน เรา​ต้องการ​เสรีภาพ . . . แต่​ใคร​จะ​ให้​เสรีภาพ​เรา​ได้?” ใน​ฐานะ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​อยู่​ใน​ค่าย​เดียว​กัน​นั้น เรา​ก็​ปรารถนา​เสรีภาพ​เช่น​กัน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​ใช่​เพียง​เสรีภาพ​จาก​เรือน​จำ​เท่า​นั้น แต่​เป็น​เสรีภาพ​ที่​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เท่า​นั้น​ที่​จะ​ให้​ได้. ขณะ​ที่​เรา​อยู่​ใน​เรือน​จำ เรา​รู้​ว่า​เรา​ต้องการ​กำลัง​จาก​พระเจ้า​เพื่อ​จะ​ยืนหยัด​มั่นคง​อยู่​ฝ่าย​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์. และ​พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​เตรียม​ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​จำเป็น​ต้อง​มี. พระองค์​ประทาน​ชัย​ชนะ​แก่​เรา​โดย​ไม่​ต้อง​ใช้​มีด​หรือ​ระเบิด​มือ.—2 โกรินโธ 10:3.

พระ​เยซู​คริสต์​ตรัส​แก่​ปีลาต​ว่า “ราชอาณาจักร​ของ​เรา​มิ​ได้​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้. ถ้า​ราชอาณาจักร​ของ​เรา​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้ บริวาร​ของ​เรา​คง​ได้​ต่อ​สู้.” (โยฮัน 18:36, ล.ม.) ดัง​นั้น ใน​ฐานะ​สาวก​ของ​พระ​คริสต์ เรา​ไม่​เข้า​ร่วม​ใน​การ​ต่อ​สู้​ใด ๆ ทาง​การ​เมือง. เรา​มี​ความ​สุข​ที่​ว่า ระหว่าง​และ​หลัง​จาก​การ​จลาจล ความ​ภักดี​ของ​เรา​ต่อ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​ที่​คน​อื่น​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน. โซลเจนิตซิน​กล่าว​ถึง​ความ​ประพฤติ​ของ​พวก​เรา​ใน​เวลา​นั้น​ว่า “พยาน​พระ​ยะโฮวา​พร้อม​จะ​ทำ​ตาม​กฎเกณฑ์​ของ​ศาสนา​ของ​ตน​เอง​อย่าง​เคร่งครัด และ​ไม่​ยอม​สร้าง​เครื่อง​กีด​ขวาง​หรือ​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ยาม.”

เหตุ​การณ์​รุนแรง​ครั้ง​นั้น​ผ่าน​ไป​มาก​กว่า 50 ปี​แล้ว. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​มัก​จะ​มอง​ย้อน​กลับ​ไป​ถึง​ช่วง​นั้น​ด้วย​ความ​ขอบคุณ เพราะ​ผม​ได้​เรียน​รู้​บทเรียน​ที่​คงทน​ถาวร เช่น การ​รอ​คอย​พระ​ยะโฮวา​และ​วางใจ​ใน​อำนาจ​อัน​ทรง​พลัง​ของ​พระองค์​อย่าง​เต็ม​ที่. ใช่​แล้ว เช่น​เดียว​กับ​พยาน​ฯ ที่​รัก​คน​อื่น ๆ อีก​หลาย​คน​ใน​อดีต​สหภาพ​โซเวียต ผม​ได้​ประสบ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ประทาน​เสรีภาพ, การ​ปก​ป้อง, และ​การ​ช่วย​ให้​รอด​แก่​คน​ที่​รอ​คอย​ราชอาณาจักร​ที่ “มิ​ได้​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้.”

[ภาพ​หน้า 9]

ค่าย​แรงงาน​ใน​คาซัคสถาน​ที่​ซึ่ง​เรา​เคย​ถูก​จำจอง

[ภาพ​หน้า 10]

ภาพ​วาด​ของ​ห้อง​ขัง​ของ​พยาน​ฯ ใน​ส่วน​ของ​ผู้​หญิง

[ภาพ​หน้า 11]

กับ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ตอน​ที่​ถูก​ปล่อย​ตัว